คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แก้วจรัสแสง ตอน วังวนแห่งรัก
บทที่ 4
“สวัสดีค่ะ พ่อ”
เสียงหวานของจีน่าดังขึ้น ในขณะที่เดินเข้ามาในบ้าน
“อืม สวัสดีจ๊ะ...นั่งก่อนซิลูก” จักกฤษณ์พูดขึ้นในขณะที่จีน่าเดินเข้ามา
“ขอบคุณค่ะพ่อ” เป็นเวลาเดียวกันที่พิจิตราเดินลงมาพอดี
“สวัสดีค่ะ คุณแม่” จีน่ายกมือไหว้หญิงสูงอายุกว่าที่เดินลงมาด้วยชุดสวย ก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะห้องรับแขกใหญ่ภายในบ้าน
“วันนี้มีนัดกับพี่พจน์หรือลูก” พิจิตราเอ่ยถามขึ้น หากแต่จีน่าอายหน้าแดงขึ้นมาทันที ก่อนพูดว่า
“เปล่าค่ะ..พอดีเป็นวันหยุดของจีน่าค่ะเลยแวะเข้ามา” จีน่าพูดด้วยรอยยิ้ม
“อืม..เดี๋ยวพี่พจน์เขาคงกลับเข้าบ้านแล้วหละ” พูดพลางก้มลงมองดูนาฬิกา
“อ๋อ..ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ..พี่พจน์เขาไม่ว่างหรอกค่ะ” จีน่าพูดเหมือนรู้ดี ก่อนจะหันมายิ้มให้ผู้เป็นแม่ที่มองอย่างไม่ไม่เข้าใจคู่รักคู่นี้มากนัก
“อืม..นั่นไง พูดถึง ก็มาพอดีเลย” พิจิตราพูดขึ้นทันทีที่พจน์เดินเข้ามาในชุดสูทภูมิฐานพร้อมกระเป๋าดำดูดี
“สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่” พจน์ยกมือไหว้ ก่อนหันมามองจีน่าด้วยสีหน้า ยิ้ม
“อ้าว จีน่า..ไม่เห็นบอกล่วงหน้าเลย ดีนะที่วันนี้กลับเร็วหน่อย” พจน์พูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามานั่ง
“เป็นไงบ้างลูกงานตอนนี้” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามเมื่อพจน์นั่งลง
“ก็ดีครับพ่อ..ทุกอย่างเรียบร้อย แต่ว่า ตำแหน่งเลขายังขาดอยู่นะครับ” พจน์พูดขึ้นก่อนที่จักกฤษณ์จะหันมาถามด้วยความห่วง
“อ้าว แล้วเลขาคนก่อนละลูก” พจน์ยิ้มก่อนพูดว่า
“สัปดาห์หน้า คุณอรขอลาพักครับพ่อ ซึ่งผมก็คิดว่าอยากให้เขาพักผ่อนบ้างนะพ่อ เพราะคุณอรไม่เคยหยุดลาเลยครับ” พจน์พูดเหมือนรู้นิสัยของผู้ร่วมงานดี จีน่านั่งยิ้มด้วยความภูมิใจ ที่พจน์คือนักบริหารที่เอาใจใส่ทุกคนเป็นอย่างดี
“อืม..ก็เอาน้องสร้อยไปทำแทนก็ได้นี่ พ่อคิดว่าดีนะ..” จักกฤษพูดขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงเมื่อ
“ไม่ค่ะ พ่อ..สร้อยไม่ว่างค่ะ”
สร้อยในชุดรัดรูปแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเดินเข้ามา ก่อนยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ คุณ พ่อคุณแม่ พี่พจน์” ก่อนจะหันมามองจีน่าที่ส่งยิ้มหวานแห่งมิตร หากแต่สร้อยเพียงยกมือ
“สวัสดีค่ะ” แล้วเดินมานั่งใกล้ผู้เป็นแม่ พลางพูดต่อไปว่า
“แม่ ไม่ได้บอกพ่อหรือคะ” สร้อยพูดขึ้นในขณะที่หันมามองผู้เป็นแม่ที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก จักกฤษหันมามองพิจิตราที่ยังคงมีสีหน้าของความสับสน
“มีอะไรหรือพิจิตรา..”จักกฤษพูดขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสร้อยมีท่าทางอึดอัด
“ คือว่า...ลูกสร้อยกำลังถ่ายแบบอยู่ค่ะ” พิจิตราพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนักก่อนหันมามองผู้เป็นลูกสาวที่นั่งยิ้มตาโตด้วยความภูมิใจ พลางชำเลืองมามองจีน่าซึ่งนั่งยิ้มแสดงความดีใจ
“ดีจังนะคะ..จีน่าก็ว่าเหมาะสมดีค่ะที่คุณสร้อยเป็นนางบบ” จีน่าพูดชมอย่างตรงไปตรงมา หากแต่สร้อยสะบัดหน้าไม่สนคำชม ก่อนหันมามองผู้เป็นพ่อที่ยังคงนั่งนิ่งเงียบไป
“อืม..แล้วบริษัทไหนมาติดต่อน้องสร้อยล่ะ” พจน์เอ่ยถามขึ้นก่อนที่สร้อยจะ เปลี่ยนสีหน้าทันที
“บริษัทระดับโลกค่ะ และหนังสือที่สร้อยถ่ายก็เออ..นางแบบระดับอินเตอร์ทั้งนั้น” สร้อยพูดยิ้มๆด้วยความโอ้อวด จีน่ายังคงยิ้มและคงเข้าใจในสายตาอันอวดเก่งของสร้อยดี
“พี่พจน์เองก็ได้รับการทาบทามให้ประกวดด้วยนะคะคุณพ่อ หากแต่พี่พจน์ไม่รับค่ะ” จีน่าเอ่ยขึ้นให้ผู้เป็นพ่อฟัง ก่อนที่จักกฤษถึงกับตาโตด้วยความนึกไม่ถึง
“ลูกพูดว่าไงนะ พจน์นี่นะ มีคนมาทาบทาม” จักกฤษพูดพลางยิ้มหันมามองพจน์ที่นังมองจีน่าด้วยสายตาเขินอาย
“ค่ะ พ่อ แต่พี่พจน์ห่วงตัวเอง ยิ่งกว่าสาวๆอีกนะคะ” จีน่าพูดก่อนจะส่งยิ้มให้พจน์ซึ่งพจนเองก็นั่งขำอดีตวันวาน
“แล้วทำไมไม่รับละลูก หรือว่าให้ถ่ายชุดว่ายน้ำ” จักกฤษพูดพลางนึกขำ
“จีน่า พูดอะไรก็ไม่รู้” พจน์พูดอายๆก่อนจะหันไปมองจีน่า
“ใช่ค่ะพ่อ..เพราะตอนที่เขามาพูดนะจีน่าอยู่ด้วยค่ะ และพูดถึงชุดโชว์สัดส่วนแค่นั้นแหละพี่พจน์ไล่เขาออกไปเลย” จีน่าพูดก่อนที่ทุกคนพากันหัวเราะ ยกเว้นสร้อย ที่รู้สึกว่างานที่ตัวเองทำเป็นสิ่งตลกไปทันที
“อืม พ่อคะหนูขอตัวก่อนนะคะ” พูดพลางรีบเดินขึ้นห้องทันที จีน่ามองสร้อยด้วยความเข้าใจและรู้สึกสงสารเด็กคนนี้เหลือเกิน
“อืม..ว่าแต่ว่าลูกสร้อยไปถ่ายแบบให้บริษัทไหนกันนะคุณดูบริษัทก่อนหรือเปล่า” จักกฤษถามพิจิตราในขณะที่พิจิตรายังคงนั่งนิ่งเหมือนไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย
“ผมไม่ได้ปรักปรำคุณนะ แต่ผมแค่เป็นห่วงประวัติและชื่อเสียงของลูกเอง” จักกฤษพูดจบก่อนหันมามองจีน่าที่เข้าใจในความรู้สึกของผู้เป็นพ่อดี
......................................
“พี่พจน์คะ..จีน่ามีเรื่องถามพี่หน่อยได้หรือเปล่าคะ”
จีน่าเอ่ยขึ้นในขณะที่นั่งเล่นอยู่ริมสระน้ำ พจน์ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆหันมามอง ก่อนเม้มปากเห็นรอยยิ้มนิดหนึ่ง
“ได้ซิครับ จีน่ามีจะถามอะไรผมหรือครับ” จีน่าหันมายิ้มก่อนเดินเข้ามาหาและนั่งใกล้ๆ พจน์ พลางสบตา
“อย่าปิดบังจีน่านะ”
พจน์หันมามองเจ้าของเสียงก่อนที่ทั้งสองจะนั่งสบตากันด้วยความสงสัยทั้งคู่ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันที่แก้วเดินผ่านมา แล้วหยุดลงทั้นทีเมื่อเห็นภาพที่ทั้งสองนั่งจ้องตากันอยู่อย่างหวานซึ้ง แก้วถึงกับยืนนิ่ง
ความรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้ามาในความรู้สึก มือที่ถือแก้วน้ำเกิดอาการสั่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ก่อนที่จะตกถึงพื้นอย่างไม่รู้สึกตัว
“เพล้ง”
เสียงแก้วแตกทำให้จีน่าและพจน์หันมาพร้อมกัน
“แก้ว”
พจน์ร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นเดินมาทันที
“แก้ว..เป็นอะไรไหม” พจน์รีบเดินเข้ามาหาก่อนนั่งลงเก็บเศษแก้วทันที แก้วหันมามองหน้าแล้วยิ้ม ไม่มีเสียงพูด ก่อนจะสั่นศีรษะไปมา แล้วรีบเก็บเศษแก้วทันที จีน่าเดินเข้ามา
“พี่พจน์ น้องแก้วเป็นไงบ้างคะ”
เสียงหวานดังขึ้น แก้วหยุดเก็บเศษแก้วทันที ก่อนเงยหน้ามามองจีน่าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ พลางยกมือขึ้น
“สวัสดีค่ะ พี่จีน่า” เสียงหวานใสดังมาจากแก้ว จีน่ามองเด็กคนนี้ด้วยความเอ็นดูก่อนเข้ามานั่งใกล้ๆ
“เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บให้นะคะ” จีน่าพูดขึ้นก่อนจะนั่งลง
“เออ..ไม่ต้องหรอกค่ะพี่จีน่า..แก้วซุ่มซ่ามเองค่ะ” แก้วพูดพลางส่งยิ้มบริสุทธิ์ให้จีน่า
“ไม่เป็นไร ” จีน่าพูด แก้วหันมายิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” แก้วขอบคุณก่อนที่จะหันมามองพจน์ที่นั่งยิ้มให้แก้วอยู่ข้างๆ
......................
“นี่แหละค่ะ ที่จีน่าอยากถาม”
พจน์ถึงกับนิ่งเงียบ ก่อนหันไปทางแก้วที่ยังคงนั่งนิ่ง
“พี่พจน์ว่าไงคะ เงียบไปเลยนะ” จีน่าร้องถามเมื่อเห็นเงียบไป แก้วหันมายิ้มก่อนพูดว่า
“พี่จีน่า..สวยนะคะ” จีน่าถึงกับอึ้งในคำชมที่เธอไม่ได้ตั้งคำถาม ก่อนที่พจน์หันมามองจีน่าด้วยรอยยิ้ม
“จริงๆค่ะ..แก้วเห็นครั้งแรกก็นึกชมพี่ สวยค่ะ” แก้วพูดต่อไปด้วยความช่างพูด พจน์ยิ้มออกด้วยอารมณ์ดี
“เดี๋ยวแก้วตอบให้ก็ได้ค่ะ”
พจน์หันมามองแก้วรอยยิ้มหมดไปจากใบหน้าทันที แก้วยังคงนิ่งหันมามองพจน์ พร้อมกับหันไปส่งยิ้มให้จีน่า
“ แก้วไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่พจน์ค่ะ..ชีวิตแก้วอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบ้านนอก”
และแล้วความเป็นมาของชีวิตแก้วถูกเปิดโปงขึ้นมาอย่างไม่อายความจริง แก้วพูดพร้อมๆกับน้ำตาร่าง และเช่นเดียวกันจีน่า ถึงกับร้องโฮ ออกมาด้วยความสงสารสาวน้อยคนนี้เหลือเกิน พจน์นั่งนิ่งแม้บางครั้งถึงกับต้องผละสายตามองท้องฟ้าบ้างบางที
“ทั้งหมดคือชีวิตแก้วค่ะ พี่จีน่า..และทุกวันนี้แก้วอยู่ด้วยพระคุณของพ่อแม่และ...”
แก้วพูดก่อนหันมายังพจน์ที่นั่งตาแดงกำด้วยความสงสารแก้วจับใจ
“และ พี่พจน์ค่ะ”
เสียงแก้วพูดสั่นๆและจบลงก่อนจะยิ้มให้กับพจน์ที่มองอยู่ด้วยความตื่นตันและรักยิ่งนัก จีน่ายื่นมือมาจับมือแก้ว
“แก้ว..พี่ดีใจที่ได้รู้จักแก้ว ครั้งแรกที่พี่เจอแก้วและคุณหนูสร้อย ประสาทสัมผัสของพี่รู้เลยว่า แก้วไม่ใช่น้องของสร้อย” พูดพลางหันมามองพจน์ที่นั่งตั้งใจฟังอยู่ ก่อนพูดต่ออีกว่า
“และเช่นกันพี่เข้าใจว่า แก้วคือน้องแท้ๆของพี่พจน์” ก่อนจะหันมามองพจน์ที่นั่งนิ่งเงียบ
“อืม..ตอนนี้พี่เข้าใจแล้ว..”จีน่าพูดก่อนจะหันมามองพจน์และพูดว่า
“จีน่าไม่แปลกใจค่ะพี่พจน์..” จีน่าพูดก่อนหยุดไปชั่วครู พลางมองมายังพจน์และแก้ว ก่อนพูดว่า
“แก้วรู้ไหม...พี่ได้คุยกับแก้วแล้วทำให้พี่หายสงสัยเลยว่า ทำไมพี่พจน์ถึงห่วงแก้ว และรักแก้วมาก มากกว่า....”
จีน่าพูดแล้วหยุดไปก่อนหันมามองแก้ว แก้วซึ่งนั่งจ้องมองหน้าจีน่าด้วยความไม่เข้าใจในจุดประสงค์ที่จีน่าพูดนัก ก่อนหันมามองพจน์ที่นั่งนิ่งเหมือนไม่อยากให้จีน่าพูดอะไรไปกว่านี้
.....................................................
“พี่เคยเห็นและรู้จักแก้วมานานแล้วค่ะ” จีน่าพูดขึ้นหากแก้วยิ่งสงสัยยิ่งนัก ในเมื่อแก้วไม่เคยรู้ว่าจีน่าเป็นใครและเหตุใดจีน่าถึงรู้จักแก้ว “พี่จีน่า รู้จักแก้วทีไหนคะ” แก้วถามด้วยความสงสัย ก่อนจะหันไปมองพจน์ที่นังก้มหน้านิ่งเงียบ ก่อนจะขยับมือมาจับแขนจีน่าไว้ หากแต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อจีน่า พูดว่า “พี่รู้จักแก้วในกระเป๋าสตางค์ ของพี่พจน์”
เรื่องราวเมื่อบ่ายวันนี้ผุดขึ้นมาในขณะที่แก้วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพียงลำพังในช่วยดึกคืนนี้ น้ำตาแก้วไหลอาบแก้มด้วยความดีใจ เมื่อได้รับรู้ความห่วงใยที่พจน์มีให้กับตนมาตลอดถึงแม้ช่วงหนึ่งทั้งสองห่างไกลกัน และไม่เคยนึกมาก่อนว่าพจน์จะเก็บรูปของตัวเองติดตัวไปตลอดเวลา แก้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา นึกถึงวันที่ทั้งสองเคยสนุกกันเมื่อสมัยเด็กๆภาพวันวานลอยเด่นอยู่ในโสตประสาทของสาวน้อยอย่างมีความสุข
ความรัก ความอาทร และห่วงหา
บางครั้งไม่ใช่ แค่เพียงลมปากเท่านั้น
ความคิดเห็น