ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic Vanguard} Statice (Kai x Aichi)

    ลำดับตอนที่ #14 : (SF) อนาคตที่เชื่อมั่น

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 60


    Title:  อนาคตที่เชื่อมั่น

    Genre: BL

    Rating:  NC-18

    Pairing: Kai x Aichi

     
     

    มีอยู่หลายครั้งที่เขานึกอยากจะหนีออกไปจาสถานที่แห่งนี้ มีหลายครั้งที่เขานึกอยากจะลืมมันไปทุกๆ สิ่ง จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดใจอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทว่าต่อให้เขาคิดแบบนั้นจริง และเคยหนีโดยการหลับใหลไม่ได้สติมาแล้วก็ตาม แต่ทว่า... เขาก็ไม่อาจหลักหนีความจริงได้พ้น

    เพราะทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้นมา เหล่าผู้คนที่รายล้อมเขาอยู่ แม้จะมีคนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนอยู่หนึ่งคนก็ตาม แต่นอกเหนือไปจากนี้ สำหรับเขาแล้วมันก็เป็นเพียงคนอื่นไกลที่ไม่รู้จักดีอะไรด้วยเลย จะเรียกว่าเป็นคนแปลกหน้าก็ว่าได้ แม้จะมีอยู่หนึ่งคนในเหล่าบรรดาคนพวกนั้นที่ค่อนข้างจะให้ความสนิทสนมกับเขาเป็นพิเศษ แต่ในรูปแบบเจ้านายกับลูกน้องมากกว่าเพื่อนไม่ก็มากกว่านั้น แต่ไม่ใช่เพื่อนอย่างแน่นอน...

    “ท่านไอจิ ผมน่ะ จะเป็นคนปกป้องท่านเอง”

    นี่คือสิ่งที่เขามักจะได้ยินยามอยู่ในสภาพหลับใหลเป็นประจำ เด็กหนุ่มผู้มีสีผมสีเขียวอมฟ้า เป็นคนที่ดูจริงจังและไม่รู้เพราะอะไร ถึงได้ดูเคารพรักเขาเสียเหลือเกิน ทั้งที่เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

    “จะไม่ให้ใครมาแตะต้องท่านเป็นอันขาด ผมจะปกป้องท่านเอง”

    ได้ยินเสียงจากที่ไกลๆ เช่นเคย ไอจิรับรู้ได้ว่าจะไม่มีใครเข้ามาใกล้เขา หากยังเลือกนั่งอยู่ตรงนี้และอยู่ในสภาพหลับใหลต่อไป ทว่าวันนี้กลับต่างออกไปจากที่เคย ในพื้นที่เป็นส่วนน้ำ ที่ไม่เคยมีใครคิดเหยียบย่างเข้ามาใกล้ รับได้รู้ได้จากเสียงฝีเท้าที่กระทบกับพื้นน้ำที่ดังขึ้นอยู่ไม่ไกลนี้ ใกล้เข้ามาอีกหนึ่งก้าว สองก้าวและ...มาหยุดอยู่เบื้องหลังเขา

    กึก!

    “ฉันคิดว่าสิ่งนี้จำเป็นสำหรับนาย แต่จะไม่สนใจมันก็ได้นะ” เสียงที่มักจะฟังดูเต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่เสมอมาบัดนี้ กลับแฝงไปด้วยความเศร้าลึกๆ แม้ฟังดูโดยรวมจะยังคงเยือกเย็น ไอจิยังคงหลับตาต่อไป ไม่คิดลืมตาขึ้นมองสิ่งใด หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น ที่เขาได้พบเจอกับทุกคนอีกครั้งและได้เอ่ยบอกลา...

    มันถึงทำให้เขารู้สึกอยากจะหลับลึกลงไป หลับไปแบบไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกตลอดกาลก็คงจะดี เพราะต่อจากนี้ไปเขาคงจะกลับมาอยู่เพียงลำพังอีกครั้ง แล้วในขณะที่เผลอคิดไปถึงเรื่องนั้น ความมืดที่รายล้อมได้แปรเปลี่ยนไป กลายเป็นสถานที่ซึ่งเขาหลับตาลงเพื่อหนีจากมัน...

    “ที่นี่...”

    เสาสีขาวมากมายหลายต้น สถานที่ซึ่งดูราวอยู่กับในวิหารอะไรสักอย่าง เบื้องหน้าเขามีเด็คการ์ดที่ต่อให้ไม่ต้องมองก็รู้ได้ว่าเป็นเด็คอะไรวางอยู่ และเบื้องหน้าก็มีการ์ดใบหนึ่งวางไว้ ส่วนมือที่คาดว่าไม่ได้ถือสิ่งใดกลับถือการ์ดเอาไว้อยู่

    สภาพเขาในตอนนี้ อยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมที่จะเล่นสิ่งที่เขาคิดว่ามันสนุกมากที่สุดในชีวิตและเป็นสิ่งที่ช่วยมอบความแข็งแกร่งให้กับเขาทุกครั้งที่ได้แตะต้องมัน... สิ่งนั่นที่เขาคนนั้นได้หยิบยื่นมาให้ มันก็คือแวดการ์ด...

    “ไรท์....” ไม่ได้ข้ามขั้นตอน แต่เบื้องหน้าการ์ดที่วางอยู่มันคือเกรดหนึ่งอยู่แล้ว เช่นนั้นเขาจึงไรท์เป็นเกรดสองต่อได้ แน่นอนว่าการ์ดที่เขาเรียกออกมาจะต้องเป็น...

    “ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะ บาสเตอร์เบส” เกิดประกายแสงขึ้นทางด้านหลังและปรากฏรูปร่างของใครบางคนขึ้น ไอจิทักทายออกไปโดยไม่แม้แต่จะต้องหันไปมองด้วยซ้ำ เพราะรู้ดีว่าใครที่ยืนอยู่เบื้องหลังและใครที่เขาได้ไรท์มันออกมา

    ...คิดถึงจริงๆ นะ...

    แต่กลับมีภาพซ้อนของใครอีกคนขึ้นมาแทนที่ เขาผู้ซึ่งได้มอบการ์ดใบนี้มาให้กับเขา คิดแล้วก็ได้แต่เผยรอยยิ้มจางๆ แสนเศร้าขึ้นบนใบหน้าพร้อมหันกลับไปมอง เห็นร่างสูงของชายผู้สวมใส่ชุดเกราะสีขาวยืนอยู่ตรงนั้น เป็นไปตามที่คาด เขารู้ดีว่าใครยืนอยู่ตรงนั้น

    แต่แล้วนัยน์ตาสีฟ้าครามถึงกับขึ้นกว้างด้วยความตกใจ เมื่ออัศวินชุดขาวได้เปลี่ยนไปเป็นคนอื่นแทน คนอื่นที่ไม่ใช่คนอื่นไกลตัว แต่เป็นคนที่เขาพึ่งจะเอ่ยบอกลากันไป

    “ไคคุง...” ต่อให้เห็นแค่เบื้องหลังแต่ก็ยังจดจำได้ขึ้นใจ เพราะมันคือแผ่นหลังที่เขาพยายามไล่ตามมาโดยตลอด สองมือยื่นออกไปอยากจะคว้ามันเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ลดมือลงจนกลับมาวางไว้ข้างตัวเช่นเดิม รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นใบหน้าแล้วเอ่ยกล่าวออกไป

    “ทุกสิ่งที่ทำให้กับผม ขอบคุณนะ... ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ไคคุง” แล้วเพียงพริบตาที่เอ่ยกล่าวถ้อยคำนี้ออกไป เขาก็หันกลับมามองด้วยสีหน้าแสดงความตกใจก่อนแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม ริมฝีปากเรียวได้รูปคู่นั้นกำลังกล่าวถ้อยคำบางอย่าง ทว่าไอจิก็เลือกที่จะกล่าวดักไว้เสียก่อน

    “แล้วก็ลาก่อนนะ” ถ้อยคำอำลาที่กล่าวออกไปอย่างไม่เต็มใจอีกครั้งพร้อมกับหันหลังกลับ ทว่าเขากลับถูกอีกฝ่ายคว้าตัวเอาไว้ก่อนจะได้ทันวิ่งหนีไป

    หมับ!

    ...ทำไม...

     เพียงพริบตาที่นึกสงสัยก่อนนึกขึ้นได้ว่านี้คือความฝันของเขา แล้วบางทีการกระทำของไคอาจจะมาจากสิ่งที่เขานึกจิตนาการไปเองก็เป็นได้ ไอจิเพียงหลับตาลงแล้วพยายามเอ่ยบอกกับตัวเองว่ามันไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงความฝัน...

    ...เป็นตัวผมเองที่ไม่อยากจากเขาไป...

    “อย่าไป” หากเป็นเพียงแค่ภาพความฝัน มันก็คงจะสมจริงมากเกินไป ทั้งสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือที่ส่งตรงมา ทั้งน้ำเสียงที่ช่างเหมือนกับช่วงเวลาครั้งล่าสุดที่ได้พบเจอกัน ทุกสิ่งที่ได้รับรู้และสัมผัส มันอยากทำให้เขาหนีออกไปจากที่ตรงนี้และลืมตาตื่นขึ้นซะ

    “ไอจิ ทำไมนายถึงไม่อยากเจอฉัน!” พอทำท่าจะดึงมือออกไปแล้ววิ่งหนีหายไป แรงมือที่ข้อมือรู้สึกเพิ่มมากขึ้นไปอีกจนเจ็บ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคิดจากไปโดยไม่พูดอะไร พยายามดึงมือตัวเองให้หลุดออกจากการจับกุมของอีกฝ่าย ทว่าด้วยแรงที่แตกต่าง มันจึงกลายเป็นการขัดขืนที่ไร้ประโยชน์ไป

    “ไอจิ... พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง”

    กึก!

    น้ำเสียงที่อ่อนลงและถ้อยคำที่ถูกกล่าวบอกออกมา ทำให้ทุกการกระทำหยุดชะงักไป ไอจิค่อยๆ หันกลับไปมองคนทางด้านหลังก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องตรงมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว ด้วยสายตาเจ็บปวดและเงียบเหงา เป็นสายตาที่เขาไม่อยากเห็นมันจากคนคนนี้เลย

    “ผมต้องกลับไปแล้ว” จากความเงียบที่ดำเนินมาอยู่ครู่ใหญ่ ไอจิตัดสินใจเอ่ยบอกคำนี้ออกไป แม้จะนึกสงสัยว่าทำไมถึงได้พูดแบบนั้น ทั้งที่มันคือความฝัน... เป็นความฝันจริงๆ น่ะหรือ?

    “กลับไปหาเจ้าหมอนั่นสินะ” ชักเริ่มไม่แน่ใจว่ามันยังคงจะเป็นความฝันอยู่หรือไม่ เขาเคยคิดว่าไคน่ากลัวก็จริงแต่ในยามนี้ ความน่ากลัวเหล่านั้นกลับแตกต่างออกไป ความน่ากลัวที่เคยรู้สึกมันคือความเย็นชาต่อทุกสิ่ง แต่บัดนี้สิ่งที่เขาสัมผัสได้ มันต่างออกไป...

    “หมอนั่น...” กำลังนึกถามว่าใครกันที่พูดถึง เพราะสิ่งที่เขากลับไปหาและพบเจอคือความว่างเปล่าต่างหาก แต่นี่กลับหมายถึงไปคนอื่น ไอจิอดนึกสงสัยไม่ได้จึงคิดเอ่ยถามออกไป ทว่าไคกลับว่าสวนออกมาก่อนที่เขาจะได้ทันถามจนจบประโยค

    “อัศวินของนายยังไงล่ะ” นาทีแรกเขานึกไปถึงการ์ดใบสำคัญที่อีกฝ่ายเป็นคนมอบมาให้ แต่ดูจากท่าทางแล้วอัศวินที่พูดถึงคงจะไม่ใช่บาสเตอร์เบสอย่างแน่นอน สีหน้าเผยแววฉงนอย่างเห็นได้ชัด ในใจก็ได้แต่คิดหนักว่านี่จะยังใช่ความฝันอยู่จริงหรือเปล่า เพราะถ้าใช่จริง ทำไมไคในความฝันเขาถึงได้ถามอะไรแปลกๆ แบบนี้ล่ะ

    “ใช่จริงๆ ด้วย คิดกลับไปหาไกยาร์ลสินะ” ฟังแล้วนึกอยากค้านออกไปว่าทำไมเขาต้องกลังไปหาผู้ชายคนนั้นด้วย เพราะถ้าจะให้กลับไปหาจริง ให้เขากลับไปหาโควรินยังจะฟังดูเข้าท่ากว่าอีก

    “ไคคุง...”

    “ฉันไม่ให้นายไปหรอกนะ”

    ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามให้เข้าใจหรือพยายามพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน ริมฝีปากของเขากลับถูกช่วงชิงไป ถ้อยคำที่เตรียมเอ่ยกล่าวกลับกลืนหายไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้ ไอจิได้แต่เบิกนัยน์ตาขึ้นกว้างอย่างทำอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงยืนแข็งอยู่กับที่

    ปล่อยให้ริมฝีปากร้อนประทับลงที่ริมฝีปากบางของเขาอย่างเอาแต่ใจไปได้สักพัก ครั้งนี้เขาแทบลืมหายไปเมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังมีอะไรบางอย่างรุกล้ำเข้ามาภายในโพรงปากเขา

    ...เดี๋ยวสิ!...

    นึกแย้งอยู่ภายในใจ สองมือเตรียมผลักร่างตรงหน้าออกแต่ด้วยพละกำลังที่แตกต่าง มันจึงกลายเป็นว่าเขาแทบไม่สามารถทำให้คนตรงหน้าถอยห่างออกไปได้เลย แล้วในขณะที่เขากำลังหมดลมหายใจจอเผลอเผยริมฝีปากขึ้นเพียงนิดเดียว

    ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้ามาภายใน กวาดหาเอาความหวานภายในอย่างคนเอาแต่ใจ ตอนแรกไอจิได้แต่ยืนตัวแข็งอย่างทำอะไรไม่ถูก ความตกใจมันมีมากกว่าจนไม่ได้ตอบสนองหรือเคลิ้มไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้แม้แต่น้อย จนผู้กระทำรู้สึกขัดใจ

    “ถ้าเป็นเจ้านั้น นายคงจะตอบสนองได้ดีกว่านี้สินะ” เพียงชั่วขณะที่ผละริมฝีปากออกไป ไคก็ได้ว่าออกมาแบบนั้นโดยที่เขายังอึ้งตกใจจนเกือบตีความหมายที่อีกฝ่ายพูดออกมาไม่ได้ แต่แล้วสติที่เหมือนจะกระเจิงไปตั้งแต่จูบครั้งแรกก็ได้คืนกลับมาเพราะจูบครั้งที่สอง

    ริมฝีปากร้อนไล่งับริมฝีปากล่างเขาอย่างเอาแต่ใจก่อนสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากเขาอีกครั้ง ไล่กวาดเอาความหวานภายในอย่างไม่ไม่มีที่สิ้นสุดจนไอจิชักเริ่มจะรู้สึกหายใจไม่ออก สองมือทุบอกคนตรงหน้าเพื่อให้เขาได้พักหายใจกันบ้าง เพราะหากอีกฝ่ายยังไม่คิดผละออกไป เขาคงได้ขาดอากาศหายใจตายก่อนแน่

    แล้วเหมือนไคจะรับรู้ความคิดนี้ของเขาได้ จึงยอมผละออกห่างเพียงไปแล้วเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ไล่จูบเบาๆ ไปตามแก้ม คาง ไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงต้นคอ สองมือก็ไม่ได้อยู่เฉยแต่เริ่มขยับไปมาอย่างอยู่ไม่สุขบนตัวเขาจนเริ่มเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นภายใน

    “ไคคุง เจ็บ...” จะเอ่ยปากห้ามก็กลายเป็นร้องบอกเสียงแผ่วเบา บริเวณต้นคอรู้สึกเจ็บแต่ไม่ได้มากมายอะไร ไม่ช้ามันก็หายไปเอง ก่อนความรู้สึกแบบเดิมจะก่อขึ้นอีกแต่กลับถูกลบไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เริ่มเพิ่มมากขึ้นอยู่ภายใน มือที่อยู่ไม่สุขเริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อ

    “ไคคุงจะทำอะไรน่ะ” ร้องถามเสียงหลงแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ ในเมื่ออีกฝ่ายยังวุ่นวายอยู่ที่ต้นคอเขาในขณะที่มือเริ่มสอดลึกเข้ามาข้างในและเริ่มลูบไล่ไปตามร่างกายที่ไม่มีกล้าเนื้ออะไรของเขาอย่างเบามือ แต่กลับรู้สึกร้อนไปทุกส่วนที่อีกฝ่ายสัมผัส

    “ไคคุง อื้อ...” เผลอหลุดเสียงแปลกๆ ออกไปจนแทบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หยุดมือ ในทางกลับยิ่งพยายามทำทุกทางเพื่อให้เขาร้องเสียงที่น่าอายเหล่านั้นออกมามากขึ้นไปอีก จนไอจิเริ่มทนไม่ไหว มืออีกข้างที่ว่างอยู่คว้าหมับเข้าที่มือของอีกฝ่ายเอาไว้มั่น

    “ไคคุงหยุดนะ คิดจะทำอะไรน่ะ” ใบหน้าแดงกล่ำและมีอาการหอบอยู่น้อยๆ นัยน์ตาที่จ้องตรงมาดูยั่วยวนกว่าทุกครา ไคเพียงมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งแล้วสะบัดมือข้างที่ถูกจับเอาไว้มั่นออก ส่วนมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจับเอาไว้เริ่มทำการปลดเสื้อผ้าอีกฝ่ายออก

                                                   Cut



     “จะเชื่อนะ... เพื่อให้ได้อนาคตที่จะอยู่ร่วมกับทุกคนคืนกลับมาอีกครั้ง” ร่างในอ้อมกอดผละออกห่างพร้อมส่งรอยยิ้มแลดูเศร้าสร้อยมาให้ แล้วเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับสู่ความมืดมิด ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย... จะบอกเช่นนั้นก็ไม่ได้ เพราะความอบอุ่นและสัมผัสเหล่านั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในตัว

    “ไม่เป็นไรหรอกนะ ครั้งนี้ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” ไอจิหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ภาพทิวทัศน์แสนสงบแต่เป็นสิ่งที่เขาแสนเกลียด เพราะนั่นหมายถึงเขาต้องอยู่ห่างไกลจากทุกคน หูแว่วได้ยินเสียงของเหล่ากลุ่มคนที่คาดว่าคงจะกลับมาแล้วอยู่ทางเบื้องหลัง

    ถ้าเป็นตามปกติเขาคงคิดที่จะหลับตาลงเพื่อหลบหนีจากทุกคน ทว่าครั้งนี้เขาเลือกที่จะไม่หนีอีกแล้ว เพราะเขาเชื่อว่าอนาคตที่จะได้อยู่ร่วมกันทุกคนอีกครั้งต้องมาถึงอย่างแน่นอน ทันใดนั้นรู้สึกได้ถึงประกายแสงที่อบอุ่นส่องสว่างขึ้นมาจากด้านบน

    ไอจิเงยหน้าขึ้นมองเพียงเล็กน้อยเห็นการ์ดใบหนึ่งลอยลงมาตรงหน้าเขา มือข้างหนึ่งยื่นออกไปรับมันมาถือไว้แล้วจ้องมองการ์ดใบนั่น นัยน์ตาสั่นไหวครู่หนึ่งก่อนจะกลับมามั่นคงอีกครั้ง พร้อมกับเอามันมาแนบหน้าอกเอาไว้แน่น รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากการ์ดใบนั้น

    “จะต้องมาถึงแน่นอน...”

    วันที่พวกเราทุกคนจะได้กลับมาพบเจออีกครั้ง

    “ผมน่ะ... จะพยายามนะ จะพยายามกลับไปหาทุกคน”

    เมื่อหลับตาลง ครั้งนี้ภาพที่เขาเห็นไม่ใช่ภาพความฝันในอดีตอีกต่อไป แต่มันคือภาพในอนาคตที่พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ได้หัวเราะ ได้เล่นแวดการ์ดกันอีกครั้ง และเมื่อมาถึงตอนนั้น เขาจะยิ้มและหัวเราะมันอย่างเต็มที่ให้กับช่วงเวลาแสนสุขเหล่านั้น รวมไปถึง...

    “จะอยู่เคียงข้างเขาคนนั้น... ไม่แยกจากอีกแล้ว...”

     

    “ไคคุง”

    ราวกับได้ยินเสียงเอ่ยเรียกของใครบางคนที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้พบเจออีกครั้ง ร่างสูงโปร่งที่เตรียมก้าวเดินออกไปกลับหยุดลงอยู่กับที่แล้วหันไปมอง เห็นประกายแสงสีฟ้าอ่อน มือยื่นออกไปสัมผัสมันด้วยความรู้สึกว่าหากเขาไม่ยื่นมือเข้าไปหา เขาจะต้องพลาดบางสิ่งที่สำคัญไปอย่างแน่นอน

    ทว่า...

    ต่อให้ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น สติของเขาถึงได้เหมือนสูญสายไปชั่วขณะแบบนี้ แต่หัวใจรู้สึกอบอุ่น ความรู้สึกว่าอีกฝ่ายเองก็กำลังพยายามอยู่นั่นก่อขึ้นในหัวใจ รอยยิ้มบางประดับขึ้นที่มุมปาก แล้วหันหลังให้กับสถานที่ซึ่งพวกเขาได้พบกันเป็นครั้งแรกพร้อมก้าวเดินออกไป

    “ไม่เป็นไร”

    เขารู้สึกเช่นนั้น ไม่แน่ใจว่ากำลังพูดกับตัวเองหรือว่าใครกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้หัวใจเขารู้สึกเช่นนั้นจริง ดังนั้นต่อจากนี้ไป ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรก็ตามแต่ เขาจะพยายามให้ถึงที่สุด จะต้องเอาชนะพวกอัศวินจอมปลอมพวกนั้นและเอาตัวไอจิคืนกลับมาให้ได้

    “รอก่อนนะ ไม่สิ แล้วพบกัน... ต้องพูดแบบนี้มากกว่าสินะไอจิ” เพราะอีกฝ่ายเองก็กำลังพยายามอยู่ ไม่ได้รอให้เขาเข้าไปช่วยเพียงฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน เขารู้สึกเช่นนั้น สายตาเงยขึ้นมองท้องฟ้ากว้างที่วันนี้ดูสดใสกว่าเคย รอยยิ้มที่ไม่ได้จางหายไปกลับแย้มขึ้นกว้าง

    “แล้วเจอกัน... ไอจิ”

    ส่งผ่านถ้อยคำนี้ผ่านฟากฟ้าไปถึงคนที่อยู่ห่างไกลกัน เขาหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แม้อีกใจจะรู้สึกไร้สาระก็ตาม ทว่านาทีนี้เขาขอเชื่อมั่น... ว่าคำพูดของเขาจะต้องส่งผ่านไปถึงยังคนที่อยู่แสนไกล...

     
     

    มุมน้ำชา

    เอาล่ะ! ใครอยากอ่านNC กรุณาทิ้งชื่อ ที่อยู่และเบอร์โทรไว้นะคะ แล้วทางเราจะติดต่อกลับไป... มะใช่แหละ ล้อเล่นค่ะ แค่ทิ้งเมลไว้ก็พอ แล้วทุกๆ วันอาทิตย์เขาจะส่งไปให้นะคะ

    หมายเหตุ

    -             เรทครั้งแรกในชีวิตของเขาเลย อาจแต่งได้ออกมาไม่ค่อยดี

    -            เขาไม่เอาไปลงบล็อกนะคะ เพราะขี้เกียจไปลองเล่นค่ะ ฮ่าๆ

    -            อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ เพราะดูจากตอนที่แล้ว ไม่มีคนเม้นเลย (หรือเป็นเพราะมันไม่มีคนตามอ่านแล้วจิงๆ?)

    -            ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องหลักแต่อย่างใด เกิดจากนโมของเขาเองล้วนๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×