คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ` n e r d ♡ - 01
n
e r d ♡ - 01
“ห๊ะ ! อะไรนะ ฮัลโล่ ฮะ.. ย๊า !!!!!!!!!”
เสียงดังไปแปดบ้าน เก้าบ้าน สิบบ้าน ...ใครจะสน
ข้างบ้านคว้าปืนมายิง ...ใครจะสน
เพราะตอนนี้ เขากำลังอารมณ์เสีย เนื่องจากเพื่อนรักโทร.มาบอกให้เจอกันตรงป้ายรถเมล์ที่สวนสาธารณะ ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า ไม่รู้หรือไงว่ามันจะมีหนังฉายรีรันหน่ะ มันประหยัดเงินค่าเช่าหนังนะเหว่ย(จะได้เอาไปทุ่มเทกับเกมส์) (๑ १д१)
ก๊อก ก๊อก
‘แบมจะตะโกนทำไม !’
เอ่อะ.. ถึงข้างบ้านจะทำอะไร แบมก็ไม่สนหรอก ถึงจะเขวี้ยงระเบิดมาก็ไม่สนอยู่ดีนั่นแหละ แต่ให้ขุ่นม๊ามายืนเคาะประตูห้องแบบนี้ บอกเลย.. ไม่สู้ ไม่คุ้มค่าเงินจริงๆ
“ป่าวม๊า แบมไม่ได้ตะโกน ม๊าหูฝาดไปแล้ว” ได้แต่ภาวนาว่าคนฟังจะเชื่อคำหลอกเด็กนี่
‘อื้อ แล้วไป’
หลังจากที่ได้ยินเสียงฝีเท้าออกไปไกลแล้ว ผมจึงเดินไปทำธุระส่วนตัวต่างๆ เพื่อที่จะไปเจอเพื่อนรัก
โอ่ย.. กระดากปาก(〠_ლ)
“ม๊า แบมไปข้างนอกนะ” ผมที่เดินผ่านห้องนั่งเล่น พูดกับบุพการีที่กำลังนั่งกรี๊ดพระเอกซีรี่ส์อยู่อย่างออกรส แม้บางวันจะถึงขั้นเพ้อจัด วิญญาณนางเอกเข้าสิงเงี้ยะ ลำบากใครเป็นพระเอกหละ *เหล่มอง*
แต่เอาเถอะ ได้ค่าขนมเพิ่มก็ยินดีจะเล่นด้วย
“อื้อ.. เดี๋ยวแบม” ผมที่กำลังจะก้าวผ่านห้องนั่งเล่นไป หยุดตามที่เสียงคุณนายเรียก ที่ตอนนี้ลุกขึ้นมาหยิบฝาหม้อให้
“หื้อ ?” ผมรับมาอย่าง งงๆ จนคุณนายทนในความดูดีไม่ได้จึงชี้แจงออกมา
“คืนคุณคิมข้างบ้านด้วย เขาปามาตอนแกกรีดร้อง” กะ.. กรีดร้อง? ดูใช้คำ ก็ไม่ได้โหยหวนขนาดนั้นป่ะ(วะ) แล้วเอออะไร นี่คุณม๊าไม่เชื่อที่โกหกไปจริงๆหรอ ว้า.. เสียใจจังโลย “ไปได้แล้วไป เดี๋ยวเพื่อนรอนาน”
“งั้นแบมไปแล้วนะ” ผมบอกกับคุณม๊าอีกที ก่อนที่จะได้รับคำตอบเป็นการโบกมือไล่ให้ไปอย่างลวกๆ จากนั้นจึงเดินออกมาพร้อมกับฝาหม้อ - - เพื่อที่จะไปคืนคุณป้าข้างบ้าน
ปามาเองทำไมไม่มาเก็บเอง(วะ) ลำบากคนอื่น
รอ..
รอแล้ว..
รอเล่า...
และยังรอต่อไป...
รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด เธอจะมาเธอจะมาเมื่อไหร่ นัดฉันไว้ทำไมไม่มา ~
ไอ่ยักษ์ไร้คออยู่ไหนว่ะ นี่เลยเวลานัดมา 32.7689 วินาทีละ - - ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะส่งข้อความหาคนที่นัดไว้ แต่ยังไม่ทันพิมพ์อะไร อีกฝ่ายก็โทรมาก่อน
“ฮัลหล่ะ..”
‘พี่แบมครับ พี่มึงอยู่ไหนครับ หื่มม ?’
“ก็อยู่ตรงที่นัดกันนั่นแหละ” ก็เนี่ยนั่งรออยู่ป้ายรถเมล์ จะรวมร่างกับเก้าอี้แล้วด้วย
‘อย่ามาตลก นี่เพื่อนมี่กับเพื่อนแจนรอที่ร้านเค้กมานานละ - -’
“ตลกแล้วครับ นัดพี่แบมที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนสาธารณะเถอะครับ”
‘อ่ะ.. อ่าวหรอ เอ่อ.. งั้นพี่แบมนั่งรอก่อนเลยครับ เดี๋ยวน้องยูคกับน้องแจนจะรีบไป’ หลังจากนั่น โทรศัพท์ก็ถูกตัดไปโดยทันที
ไม่คิดว่านี่อยากจะกินน้ำอะไรหน่อยหรอสังคม หือ..
“เชี่ย.. เหนื่อย” ไม่นานนักหลังจากที่ผมเล่นเกมส์ตายไปสามตา ก็มีเสียงหอบเหนื่อยจากใครบางคนตรงหน้า พร้อมกับบุคคลอีกคนที่ทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆผม ก่อนจะทิ้งน้ำหนังลงมาอย่างกับคิดว่าตัวเองเบา
“พักก่อน” ผมพูดพร้อมกับตีเบาๆที่ที่นั่งอีกด้านที่ว่าง ซึ่งเจ้าตัวยักษ์ หรือ คิม ยูคยอมก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งลงมา โชคดีที่มันไม่พิงผมหรือน้ำหนักลงมาอย่างเต็มสตรีมเหมือน ชเว ยองแจ ที่สภาพเหมือนผ่านศึกมา อยากจะถามว่าจะรีบกันทำไม สายขนาดนี้ละ ยังจะแคร์อะไร แต่เงียบไว้ดีกว่า
สุดท้ายผมก็รอให้ทั้งสองคนหายเหนื่อย ก่อนที่คนทั้งคู่จะลากผมขึ้นรถเมล์ไปทันที
“เห้ย เดี๋ยวๆ นี่เราจะไปไหนกัน” ผมเอ่ยถามขึ้น ทันทีที่เรานั่งกันเสร็จแล้วร้อย พวกเราทั้งสามคนเลือกนั่งแถวหลังกัน พร้อมทั้งนั่งกันตรงกลาง โดยที่ผมนั่งคั่นระหว่างยูคยอมกับยองแจราวกับจะไม่แบ่งให้ใครนั่ง ก็คนมันยังไม่เยอะ ถ้าพวกผมจะนั่งอย่างนี้ คงไม่ผิดเป็นไรหรอก
“ตอบสิครับ” ผมพูดกดดันทั้งสองคนอีกครั้ง ก็แหม คุณเพื่อนที่รักมองตากันไปมา ข้ามหัวผม
ฮัลโหล.. นี่ก็ไม่ได้เตี้ยนะ จะมองข้ามอะไรให้เกียรติส่วนสูงด้วย ยู้หู้ววว ~
“เอ่อ.. ไป ไป” เพื่อนรักนัมเบอร์วันตอบอย่างกระตุกกระตัก สายตามองกรอกไปกรอกมา พร้อมกับมองหน้าอีกคน ราวกับขอความช่วยเหลือ
“ไป.. ไปห้องแห่งความลับ” ยองแจตอบขึ้นมา โดยมียูคยอมที่นั่งพูดกระตุกเมื่อกี้ช่วยเสริม ว่าแต่..
ไปห้องแห่งความลับ.. ไปทำเชี่ยระ ดมตดงูหรอ ( •᷄ὤ•᷅)?
“ให้โอกาสตอบอีกที”
“เอ่อ..” คราวนี้เป็นยองแจที่พูดไม่ออกแทน
“เห่ยๆ ถึงละ” ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรก็โดนยูคยอมที่เป็นคนบอกว่าถึงที่หมาย ลากลงมาจากรถ และลากให้เดินต่อไปอีกระยะหนึ่ง คือนี่ต้องพรากจากหนังมาให้พวกมันลากเนี่ยนะ ให้ตายเถอะ ความคุ้มค่าอยู่ที่ไหน
“ถึงละ” ผมที่หอบเล็กๆจนตัวโยน เนื่องจากตามความเร็วขาของคนที่ลากมาไม่ทัน(ขาพันกันแล้วมันยังไม่หยุดลากเลยจ้า)เงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาจิกกัดให้กับสองแฝดต่างไซต์ ที่ความจังไรไม่ต่างกัน ถึงคบกันได้ยังไงหละทุกคน
หลังจากที่ผมส่งสายตาค้อนไปให้กับยองแจและยูคยอมแล้ว จึงหันไปดูว่าที่นี่คือที่ไหน หื้อ ? ซอ..อุล..โท..ซอ..กวาน อ่า...โซลทอกวาน เอาใหม่ๆ อ่านอีกรอบ ซอ..อุล..โท..ซอ..กวาน เป๊ะละ ! ห้องสมุดแห่งชาติ คือไรรรรรร
ห้องสมุด = หนังสือ เมื่อเติมคำว่าแห่งชาติต่อท้ายห้องสมุด จะได้ หนังสือมากกว่า 270,000 เล่ม นั่นแปลว่าต้องมีหนังสือเยอะ พอหนังสือเยอะคนก็จะมาอ่านเยอะ = คนที่อ่านจะได้ความรู้ แล้วเมื่ออ่านเยอะก็จะรู้เยอะ ที่รู้เยอะเพราะวันๆอ่านแต่หนังสือ = หนอนหนังสือ = เด็กเนิร์ด !
พี่แบมไม่ชอบเด็กเนิร์ดครับ ไม่มีอะไรฝั่งใจหรอก แค่หมันไส้..
“ชเว ยองแจ”
“คะ.. ครับ”
“คิม ยูคยอม”
“ห้ะ.. หือ ครับ..”
“กล้าดียังไงพาพี่แบมมาที่แบบนี้” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ประตูทางเข้า “เคยบอกไปแล้วใช่ป่ะว่าอย่าพามาที่แบบนี้ ที่แบบนี้มีแต่พวกแก่เรียน คร่ำเครียด มันจะพาให้แบมหมองหม่น ดำมะ..”
“หนวกหู”
“ห๊ะ !?” ผมมองหน้ายองแจกับยูคยอมอย่าหาเรื่อง เพราะอยากจะรู้ว่าใครบอกว่าหนวกหูผม แต่ผลลัพธ์คือทั้งคู่ส่ายหน้าอย่างแรง เน้น อย่างแรงมาให้ผม ก่อนจะชี้ไปที่ประตูทางเขา ซึ่ง.. ไม่มีใครยืนอยู่ พวกมันหลอกผมป่ะ
“เอาเถอะน่า คือพวกเราก็ไม่ได้อยากพามานะเว่ย แต่คือรายงานที่จารย์จองสั่งอะ ในเน็ตมันข้อมูลไม่เพียงพอ ต้องมาหาที่หอสมุดเนี่ย เพราะงั้น พวกเราเข้าไปเลยแล้วกันนะ” ว่าจบยองแจก็จับข้อมือผมพร้อมกับลากเข้าไปในหอสมุดทันที.. หมดละความบริสุทธิ์ผุดผ่อง จากนี้ต้องไปเผชิญหน้ากับความจริง ( ´•̥̥̥ω•̥̥̥` )
ไม่ไหวละ รู้สึกอยากทิ้งร่างลงชักโครกไหลไปตามท่อน้ำเหลือเกิน มีแต่หนังสือ หนังสือ แล้วก็หนังสือ มันไม่ใช่เว่ย คือแค่เห็นก็ปวดหัว ก็ง่วงแล้ว *สลบแปบ*
“อ๊ากกกกกกกกกกก” ผมที่(เผลอ)ส่งเสียงขึ้นมาอย่างดังหลังจากสุดจะทนกับหนังสือกว่า สามตั้งตรงหน้า ทั้งยังมีที่วางกางไว้ มันเริ่มแล้วสินะชีวิตอับเฉา เงยหน้าก็เจอแต่หนังสือ หันซ้ายก็เจอผู้ชายใส่แว่นผมเรียบราวกับใช้เจลมาครึ่งกระปุก หันขวาก็เจอกับตู้หนังสือที่วางเรียงกันอย่างหนาแน่ะ มองไปด้านหลังก็มีผู้หญิงที่ก้มหน้าอ่านหนังสือ มือหนึ่งก็ขยับแว่น ถ้ามองไปจะเห็นกระโปรงที่ยาวปิดตาตุ่มเลยหล่ะ
“เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ”
“แบม.. ชู่ว”ยูคยอมทำมือให้ผมเงียบลงเล็กน้อยก็จะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพื่อเอามาทำงานของอาจารย์จองอย่างขะมักเขม้น
“เบื่อแล้วนะยองแจ แบมเบื่อแล้ว กลับบ้านกัน อา.. ยูคยอมอา ~ คยอมมี่ ยังไม่พออีกหรอ เนื้อหาหน่ะ งื้ออออออ ยองแจ สนใจพี่แบมหน่อยซะ..”
“ที่นี่ห้องหอสมุด ต้องการความสงบ เงียบๆด้วย” ผมหันไปมองตามคนที่พูด ซึ่งเขายืนอยู่ที่หัวโต๊ะ มองมาที่ผมด้วยสายตาที่.. เดาไม่ออก “นายหน่ะ.. ถ้าส่งเสียงดังอีกรอบหล่ะก็ ฉันจะจับนายโยนลงถังขยะแน่” ผู้ชายคนนั้นพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินไปหาที่นั่งเพื่ออ่านหนังสืออีกรอบ.. ที่นั่งที่ไกลจากผมกว่าเดิม
เห้อะ.. หมอนั่นคิดว่าตัวเองเป็นใคร ใหญ่โตขนาดไหนถึงมาพูดแบบนั้นกับคนพี่เพิ่งเคยเจอหน้ากัน
“คิดว่าตัวเองคือใครกันวะ” ผมบ่นพึมพำออกมาคนเดียวไม่วายขยับปากเป็นปรพโยคก่อนหน้าล้อเลียนกับตัวเองเดียวอีกที แต่ดูเหมือนจะมีคนสองคนที่เข้ามาได้ยินที่ผมพึมพำ
“มาร์คฮยอง” ยูคยอมเอ่ยชื่อใครบางคนออกมา แต่มันไม่ได้ทำให้ผมหายสงสัยเลย.. มาร์ค ใครว่ะ (ʘ言ʘ) “คนเมื่อกี้หน่ะ มาร์คฮยอง”
“หื่อ.. แล้วทำไมไปรู้จักได้วะ”
“ไม่เชิงว่ารู้จักเป็นการส่วนตัว โปรไฟล์พี่เขาดี พวกการเรียนคือท็อป5 ของมหาลัยเครือเดียวกับโรงเรียน”
“อ่อ.. มหาลัยที่อยู่ตรงข้ามกันใช่ม้ะ”
“อ่าฮ่ะ แต่ถึงจะพูดว่าท็อป5ก็เถอะ จริงๆพี่เขาหนะ การเรียนคือที่1เลย คนบ้าอะไรฉลาดชะมัด” ยูคยอมเสริม นั่นทำให้ผมหันไปด้านหลัง ทางที่เขาเดินไปเมื่อกี้ พบว่า เขากำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ เส้นผมที่ถูกย้อม จมูกที่โด่งได้รูป ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อบ่งบอกได้ถึงสุขภาพที่ดีของเจ้าของ ก่อนที่คนโดนมองจะแลบลิ้นออกมาเพื่อเลียปากตอนที่ใช้ความคิด ทำเอาคนมองหันกลับแทบไม่ทัน..
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
เชี่ย.. ใจเต้นเลยอะ
“พี่เขาชื่ออะไรนะ”
“หื้อ? มาร์ค ต้วน อ่า.. ชื่อจริง รู้สึกจะชื่อ..”
“อี้เอิน ต้วน อี้เอิน ว่าแต่.. ถามทำไม”
“บางทีพวกเด็กเนิร์ดก็น่าสนใจนะ ♡”
มาร์ค ต้วน.. คือบุคคลที่ทำให้แบมไม่ชอบพวกเนิร์ดมากกว่าเดิม
อาฮ้า.. ค่อยคุ้มค่าหน่อย *แสยะยิ้ม*
“คยอม.. แบมมันเป็นไรป่าววะ จู่ๆก็แสยะยิ้ม” ยองแจหันไปกระซิบกับเพื่อนสนิทตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างกันอย่างสงสัย เช่นเดียวกับที่ยูคยอมมองเพื่อนตัวเล็กอย่างใช้ความคิด
มันคงไม่เป็นไรหรอก.. มั้ง
(;¬_¬)
ความคิดเห็น