คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ❥ 좋아해 : 10
i like you – 10
“หื้อพี่มาร์ค.. ทำไมห้องรกงี้อ่ะ พึ่งมาอยู่ไม่ใช่ไง”เสียงใสของแบมแบมทักขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในคอนโดหรูของอีกฝ่าย กองหนังสือที่ถูกว่างไว้ทั่วทุกทิศ สิ่งของว่างกะเกะแทบทั่วทุกมุมห้อง หนักสุดคงจะเป็นเสื้อผ้าที่เจ้าของห้องดันโรคจิตติสแตกไม่เข้าไปถอดดีๆในห้องนอน
เห็นแล้วแบมแบมอยากจิคราย รู้งี้นอนอยู่บ้านตามที่บีไอบอกดีกว่า =[]=
“งั้นแบมมาเป็นแม่บ้านให้ทีสิ” เจ้าของห้องที่เดินตามเข้ามาซ้อนหลังอีกคนพูดขึ้น มาร์คผลิกตัวของคนตรงหน้าให้หันมามองตน ใบหน้าน่ารักของอีกฝ่ายยิ่งมองยิ่งทำให้รู้สึกดี นั่นนั่น แบมแบมแอคแทคอีกละ-..- “สัญญาเลยครับ ว่าพี่มาร์คจะทำหน้าที่พ่อบ้านที่ดี”
“เอ่อ..” ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพูดไม่ออก ยิ่งทำให้รู้สึกดี คิดว่าอีกคนต้องเขินกับประโยคที่พูดไปบ้างหล่ะ “..ก่อนที่จะเป็นพ่อบ้านที่ดี พี่มาร์คช่วยเก็บอีกองชั้นในหน้าทีวีนั่นก่อนได้มั้ย- -” นิ้วเรียวชี้ตรงไปยังกองผ้าขนาดไม่ใหญ่มากหน้าโทรทัศน์ ดวงตาคู่คมจากคนเป็นพี่มองตามอีกฝ่ายไปอย่างห้ามไม่ได้ “พี่มาร์ค ไปเก็บเดี๋ยวนี้ !”
สั่งพี่มาร์คหรอครับแบมแบม -3- พี่มาร์คไม่กลัวแบมหรอกนะ พูดเลย “..ครับ TTT^TTT” สุดท้ายก็ได้แต่เดินคอตกไปยังกองชั้นในแล้วจัดการเก็บให้เรียบร้อย แค่กางเกงบ๊อกเซอร์เอง แบมแบมไม่เห็นต้องซีเรียสอะไรเลย ปู้วววว ~
หลังจากที่เก็บกองชั้นในgสร็จ ก็ได้รับคำสั่งต่อไปทันที ต่างคนก็ช่วยกันทำความสะอาดไป ใช้เวลานานพอสมควรกว่าการทำความสะอาดจะจบลง นั่งพักกันได้ไม่นานเสียงท้องร้องก็ดังขึ้น จนแบมแบมเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปทำอาหาร เจ้าของห้องอย่างมาร์คมองนาฬิกาเล็กน้อยก็ตัดสินใจที่จะคุยกับครอบครัวที่อยู่อีกซีกโลกผ่านเฟสไทม์เหมือนอย่างทุกวัน ถ้าที่นี่สิบโมงเช้า ที่นู้นก็น่าจะราวๆ ห้าโมงเย็น
“Bee ~”
‘Hey kids! Why you looks tired?’
“เมื่อกี้ไอทำความสะอาดห้องหน่ะ เหนื่อยมากเลย ตอนนี้ก็หิว”
‘ฮาๆ อะไรดลใจให้ยูทำความสะอาดห้องกัน’
“พี่มาร์ค อาหารเสร็จแล้ว”
‘เฮ ไปอยู่นู้นไม่กี่วันก็พาคนอื่นเข้าห้องซะแล้ว ไวนักนะ ว่าแต่นั่นใครหล่ะ’
“ไอไม่บอกหรอก แต่ไอบอกได้แค่ว่ามันจะเซอร์ไพร์สมาก”
‘Really ?’
“ฮื้อ พี่มาร์คคุยกับใครอ่ะ ?” หลังจากที่เรียกอีกฝ่ายแล้วพบว่าอีกคนไม่ตอบอะไรจึงตั้งใจว่าจะเดินมาตาม แต่ก็เห็นอีกฝ่ายดูเหมือนกำลังเฟสไทม์กับใครบางคนอยู่ หรืออาจจะเป็นกิ๊กตอนที่อยู่เมืองนอกกัน -^-
ปล่อยให้แบมแบมมโนไปได้ไม่นาน มาร์คก็กวักมือให้เข้าไปหา แต่ดูเหมือนว่าคนโดนเรียกจะเดินช้าไปจนเขาเกิดขัดใจ ดึงลงมานั่งบนตักเลยแล้วกัน “Do you remember him?” มาร์คเอ่ยถามคู่สนทนาเมื่อกี้ แต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทันตอบอะไร คนบนตักก็ถลาเข้าหาจอทันที แทบลืมไปเลยว่าอยู่บนตักของอีกคน
“Bee ! Say Hi”
‘??’
“You forget me, right ?” แบมแบมทำปากยู่ใส่คนในจออย่าน่ารัก ก็ดูอีกคนสิ เหมือนจะลืมเขาไปซะแล้ว น่าน้อยใจชะมัด ป๊ะป๊าใจร้าย ~
‘Haha baby Bambam ,I remember you ma cute little kid!!!!’
“Yeah ~ I miss you”
‘Me too,…’ และหลังจากนั้น คนทั้งสองคนก็ลืมสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มาร์ค ต้วน โดยทันที.. อาเมน
“จองกุกอยู่บนห้องหน่ะ เพิ่งขึ้นไปเมื่อกี้เอง” ผมส่งยิ้มให้กับพี่จิน พี่ชายของจองกุกหลังจากที่ยืนกดออดอยู่ไม่นาน พี่เขาก็เดินมาเปิดประตูให้ เราคุยกันเล็กน้อย หลังจากที่เขารู้ว่าจองกุกเอาขนมที่ทำมาให้ผม พี่เขาก็เล่าว่าตอนจองกุกอ้อนให้สอนทำมันเหมือนกับเด็กขนาดไหน แล้วยังขอบคุณผมอีกที่ทำให้เขาได้เห็นน้องชายของเขาอ้อนแบบนี้ หลังจากที่ไม่ได้เห็นมานาน
ตอนแรกผมนึกว่าพี่เขารู้ว่าจองกุกทำขนมไปให้ผม แต่พี่เขาบอกว่าจองกุกไม่ปริปากบอกอะไรเลยนอกจากบอกว่าจะเอาไปง้อใครบางคนที่มีอิทธิพลต่อเขา.. ใครบางคนที่หมายถึงผม โห่ยยย น้องบวีค่อดฟินอ่ะแกรรรร T[]T
“อ่อ.. งั้นผมขออนุญาตขึ้นไปด้านบนนะ” ผมบอกกับอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มมาให้ ก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือถึงเห็นว่ามันเป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่า เกือบจะบ่ายสามแล้ว รู้สึกผิดชะมัดที่มาช้าอ่ะ ผมเคาะประตูสอง สามทีก็ได้ยินจากข้างในว่าให้เข้าไปได้ ผมเปิดประตูเข้าไปอย่างเบา เห็นจองกุกนั่งขัดสมาธิบนเตียงพร้อมกับเล่นกีต้าร์ตัวที่ไปเอามากับผมเมื่อไม่นานมานี้ เหมือนเขาจะยังไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นผม..
บ๊อก บ๊อกก ..แต่เหมือนเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆจองกุกจะรู้ว่าเป็นผม มันก็กระโดดลงจากเตียงแล้วกระโจนใส่ผมทันที คิดถึงพี่วีก็บอก อุคริอุคริ
“อ่าว พี่ฮะ มาแล้วหรอ” จองกุกหันมาถามทันทีที่รู้ว่าคนที่มาใหม่เป็นผมไม่ใช่พี่ชายของตัวเอง ผมส่งยิ้มตอบกลับไปให้อีกฝ่ายที่ยิ้มมาพร้อมกับประโยคคำถามนั่น “มาช้าจังเลยนะฮะ..” ผมอุ้มเจ้าพุลโกกิที่ดู..ตัวหนักขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยขึ้นแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่เข้าคู่กับโต๊ะหนังสือข้างเตียง
“พอดีไปคุยเรื่องงานโรงเรียนมาหน่ะ เลยมาช้าไปหน่อย” จองกุกส่งยิ้มมาให้ผมอีกครั้งก่อนจะวางกีต้าร์ลงบนเตียงแล้วหันมาคุยกับผม
“เหนื่อยแย่เลยนะครับ”
“ฮืออ เหนื่อยมากเลยหล่ะ แถมวันนี้ยังมากันไม่ครบด้วย” ไม่ขอเม้าท์หรอกนะว่าขาดอิมาร์คไปคนเดียว -~-
“แต่พี่ก็ยังมาตามที่ผมขออีก รู้สึกผิดชะมัดเลย” จองกุกส่งยิ้มที่รู้สึกผิดมาให้ผม ผมได้แต่ส่ายหน้าตอบกลับไปทั้งที่ยังคงเล่นกับพุลโกกิที่นั่งอยู่บนตัก.. งับมือซะจะพรุนเลยอิหนู = =;;
“ไม่เป็นไร” ถึงแม้ผมจะพูดไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ยังทำหน้าหงอยราวกับเด็กน้อยไม่เลิก “ไม่เป็นไรน่า จองกุกอา อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างจับแก้มของอีกฝ่ายขึ้นมา นุ่นมากเลอออ-..- “ยิ้มสิยิ้มม ~” หลังจากที่จองกุกมองมาแล้วทำหน้าสงสัย ผมก็ส่งยิ้มไปให้อีกฝ่าย จองกุกเม้มปากอยู่นานแต่ก็ยอมยิ้มออกมาให้ผม
รอยยิ้มราวกับเด็กของเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เป็นผมที่อยากจะละสายตาจากเขาก่อน แต่กลับทำไม่ได้ ดวงตาที่ดูราวกับเด็กนั่นกำลังทำให้ผมต้องมนต์ จองกุกใช้มือของเขาจับมือของผมที่ประคองใบหน้าของเขาลงมา มือของผมถูกกุมด้วยมือทั้งสองข้างของเขา ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมายิ่งทำให้รู้สึกใจเต้นเร็วมากยิ่งขึ้น
ผมหันหน้าหนีสายตาของเขาทันที สายตาที่ราวกับเด็ก แต่กลับเต็มไปด้วยความขี้เล่น.. ของสัตว์ป่า เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นที่ผมสังเกตเห็นได้ มือของจองกุกประคองเข้าที่ใบหน้าของผมให้หันกลับไปมองที่เขา เหมือนที่ผมเคยทำก่อนหน้า..
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างที่เคยมองเห็นกลับเปลี่ยนไป กลายเป็นคนตรงหน้าไปซะทุกอย่าง
รู้เพียงแค่ถ้านี่เป็นความฝัน ผมพร้อมที่จะหลับฝันไปตลอดกาล ใบหน้าที่ห่างกันเพียงไม่กี่คืบ ดวงตาที่ปิดลงเองโดยไม่ต้องสั่ง ราวกับเตรียมพร้อมที่จะรับสัมผัส..
“อ๊ะะะ !”
ผมสะดุ้งลืมตาทันที จองกุกที่อยู่ตรงหน้าผมก็ไม่ต่างกัน ผมก้มลงไปมองบนตักถึงได้นึกคิดได้ว่ามีพุลโกกิงับเล่นที่มืออยู่ แต่คราวนี้เหมือนฟันของเจ้าตัวเล็กนี่จะคมเกินไปแล้วหล่ะ..
“ผมขอดูแผลหน่อยสิ” จองกุกอุ้มพุลโกกิไปวางไว้ใบเตียงพร้อมกับวางลูกบอลยัดนุ่นให้พุลโกกิเล่น ก่อนที่จะหันมาหาผม “เลือดออกเลย พี่รอแปบนึงนะฮะ” จองกุกพูดแล้วดินออกไปจากห้อง ผมก้มลงไปมองที่แผลของตัวเอง แผลเล็กนิดเดียวเอง.. จองกุกดูจะตกใจเกินไปแล้ว
“อ่า.. มาบ้านผมทีไรมีแต่เรื่องต้องทำให้พี่เจ็บตัว ขอโทษจริงๆนะฮะ” จองกุกพูดหลังจากที่ทำแผลให้ผมเสร็จ ผมได้แต่ยิ้มให้พร้อมกับส่ายหน้าไปเบาเบา ก่อนที่จะเดินไปเล่นกับพุลโกกิ
ยิ่งเห็นหน้าจองกุก ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้าก็ยิ่งปรากฏให้เห็น เขินนะ.. แต่เสียดายมากกว่า -3-
ด้วยความอ่อนล้ามาทั้งวัน เมื่อถึงตอนเย็นผมจึงขอตัวมาอาบน้ำก่อน อาบมันตั้งแต่หนึ่งทุ่มนี่แหละแล้วค่อยไปเล่นต่อ จริงๆผมก็เกรงใจนะกะว่าอาบน้ำแล้วจะนอนตีพุงซักแปบแล้วหลับไปเลยที่ห้องของพี่ก้า แต่แบบพี่จินบอกว่าจะทำข้าวเย็นในกินไง ผมเลยมาเล่นต่อ
น้องวีไม่เห็นแก่กิน ทุกคนรู้ใช่มั้ย อิอิ-..-
“ย๊า ~” ผมสะบัดริบบิ้นขึ้นเมื่อพุลโกกิที่นั่งอยู่บนตักพยายามใช้สองมือตะปบเข้าที่ริบบิ้นสีฟ้าอ่อน ช่างเป็นหมาที่มีการตอบสนองได้เหมือแมวซะจริง ลาออกจากการเป็นหมาม่ะ -3-
“พี่ฮะ.. พี่ชักจะเล่นกับพุลโกกิเยอะไปแล้วนะ” เสียงคลอเบาเบาจากกีต้าร์หยุดลงก่อนที่จะมีเสียงพูดขึ้นมา ผมกับพุลโกกิเลิกสนใจริบบิ้นแล้วหันไปมองที่คนพูด
“ก็ให้มาเล่นกับพุลโกกิไม่ใช่หรอ”
“พี่อย่าประชดผมสิ” อะไรอ่ะ นี่ผมพูดตามความจริงเลยนะ “อ่า.. ช่างเถอะ ผมมีเพลงจะให้พี่ฟังด้วยหล่ะ มานี่สิ” ผมพยักหน้าก่อนที่จะลุกไปตามที่อีกคนเรียก ผมนั่งบนเตียง ในขณะที่จองกุกนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ผมนั่งเมื่อช่วงบ่าย จองกุกหันมายิ้มให้ผมก่อนที่จะเริ่มขยับนิ้วไปมาเพื่อให้เกิดเสียงดนตรี
นิ้วเรียวขยับไปตามทุกตัวโน้ต ทุกคอร์ดของบทเพลง จนเกิดมาเป็นเสียงคลอเบาๆของกีต้าร์ ประกอบกับเสียงนุ่นๆที่ส่งออกมายิ่งฟังยิ่งทำให้เคลิ้ม อาจจะเป็นเพราะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ แสงที่ส่องสว่างจากดวงจันทร์ด้านนอกยิ่งทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง รู้สึกเหมือนถูกโอบอุ้มไปด้วยมวลเบาๆที่อบอวลไปทั่วทั้งห้อง
ขอโทษนะจองกุกอา.. ดูเหมือนว่าจะอยู่จนฟังเพลงไม่จบแล้วหล่ะ..
“หื้อ หลับซะแล้ว ?” จองกุกมองร่างของใครบางคนที่หลับอยู่บนเตียงของเขา พร้อมกับเจ้าลูกสุนัขตัวน้อยที่นอนขดอยู่ข้างๆกัน กีต้าร์ตัวโปรดถูกเก็บใส่กระเป๋าอย่างดีแล้ววางมันให้เข้าที่ ผ้าห่มสีเข้มถูกดึงขึ้นมาห่มให้ร่างของคนที่หลับพริ้มบนเตียง พยายามไม่ให้โดนเจ้าตัวน้อยที่นอนอยู่ พุลโกกิเป็นเจ้าหมาอ้วนขี้ร้อน
อ่า.. ดูเหมือนว่าวันนี้เขาคนต้องระเห็จตัวเองมานอนที่พื้นซะแล้วล่ะ
นิ้วเรียวปัดปลายผมที่ลงมาปรกหน้าของอีกฝ่ายออก ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ใบหน้ายามหลับใหลของคนที่อยู่บนเตียงยิ่งมองยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนเด็กน้อยเข้าไปทุกที
“ขออนุญาตนะครับ” ริมฝีปากกดสัมผัสเบาเบาที่หน้าผากของคนที่หลับสนิท ก่อนที่สัมผัสจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นการลูบเข้าที่กลุ่มผมนิ่มอย่างทะนุถนอม ประตูห้องถูกเปิดขึ้นเห็นเป็นร่างของพี่ชายตัวเองและพี่ชายข้างบ้านยืนอยู่ข้างกัน ก็คิดได้ว่าคงจะมาตามเพื่อนสนิทกลับบ้านไป แต่ดูท่าจะมาช้าไปซะหน่อย
“น้องวีหลับไปแล้วหรอ ?”
“ครับ หลับไปแล้ว”
“อ่า.. งั้นฝากไว้คืนนึงแล้วกันนะ” บทสนทนามีไม่มากนักก่อนที่ประตูจะปิดลงไปพร้อมๆกับรอยยิ้มของพี่ชายทั้งสอง
ดวงตามองไปยังพี่ชายคนสนิทที่นอนหลับสบาย จนเหมือนไม่ห่วงความปลอดภัยใดใดเลย นี่ถ้าไม่ใช่ห้องของเขาก็ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นยังไงเหมือนกัน
หรือมันผิดที่เป็นห้องของเขากันแน่ บางทีห้องของเขาอาจจะอันตรายที่สุดก็ได้
“พี่ไม่รู้หรือไง ว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างให้พี่มาหาผมนะ”
“ผมแค่อยากเจอพี่.. ทุกวัน”
to be continued.
น้องจ๋อนคนบร้าาาา ฮวื้อออ ทำไมไม่พูดตอนที่พี่วีตื่นเล้า กรี้ดดดด ! ใครขอฉากจูบ.. อดกันต่อไปแล้วกันนะ เอาไปแค่กู้ดไนท์คิสเป็นพอ ก้ากกกก ♥ พี่วีน้องกุกมันควรจะค่อยเป็นค่อยไป ใสใสไร้สติ ออบซออิอิ-..-
ขอบคุณที่คนที่อ่านแล้วคอมเม้นท์มากมาก อุ้ยต๊ายยย ว๊ายว๊าย คนที่ติดแท๊ก #ฟิคพี่แทคนแมน ด้วย คนที่โหวต ค่อดรวักซ์พวกเธอเอ้าะะ ! ซารางเฮโย้ว
กำลังคิดว่าควรจะมีดราม่าไหม.. ถ้าดราม่าคงต้องเป็นมาร์คแบม << สัญญสไว้แล้วว่าน้องกุกพี่วีจะไม่มีดราม่า ไม่น่าเลยโถ้วว ~ แต่คือพี่บวีกับน้องแบร๋มก็สนิทกัน ดังนั้นเมื่อใครคนนึงดราม่าอีกคนก็จะม่าตามด้วยไง.. ไม่เคยเป็นหรอแบบเพื่อนดราม่าเราจะลั่ลล้าก็ไม่ใช่ป่ะแกร -..-
นึกขึ้นได้ว่าลืมเปลี่ยนเป็นรูปสี โออออ้เย้ -__________________-
ความคิดเห็น