ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❥littlekid 。 – minoat ☁

    ลำดับตอนที่ #4 : ❥littlespecial 。 – 01½

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 58







    ( cr. LOVESICK SS2 ep.11 )
     
     
     
     
     
    littlespecial  – 01½

    ถ้าฉันจะถามเธอยังโสดอยู่ไหม และถ้าหากฉันจะคุยต่อได้ไหม ?
    เคยรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมั้ยครับ 
    ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นแหละ J — min
     

     

     

     

     

     

              บางทีผมก็ไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองที่เป็นคนตอบรับเร็วเลยจริงๆ จนกระทั่งวันนี้ วันที่ผมตั้งใจว่าจะนั่งรถไปเป็นเพื่อนเขาเมื่อตอนเย็น แต่ตัวเองกลับน็อคกลางอากาศแบบนั้น อ่า.. แบบนี้มันไม่ดีเลยแฮะ ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นภาระของเขาเลย ._______. 

     

     


             ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอร้อนปะทะเข้ากับแก้มของตัวเอง ยอมรับเลยว่าตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆว่าไอร้อนนั้นมาจากอะไร ผมถึงเลือกขยับตัวหนีมัน จนรู้สึกว่าจมูกของผมมันกำลังเฉียดอะไรบางอย่างไป บางอย่างที่ปล่อยไอร้อนนั้นออกมา บางอย่างบนใบหน้าของเขาที่มันแดงขึ้นมาตอนที่เขาปลุกผม

     

     


             จมูกของเขามันแดงจางๆ มันทำให้ผมรู้สึก.. ทำให้ใบหน้าของผมรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาไม่ต่างกัน เขาจะน่ารักไปแล้วนะ ให้ตายเหอะ ผมเริ่มจะไม่อยากละสายตาจากเขาซักวินาทีเลยจริงๆ

     

     


             ใช้เวลาเดินทางต่อหลังจากลงจากรถไฟฟ้าระยะหนึ่งไม่นานก็ถึงบ้าน ผมพูดทักทายสมาชิกในบ้านก่อนที่จะรีบตรงขึ้นไปยังห้องตัวเอง ทันทีที่ถึงห้องผมก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมามอง หัวใจรู้สึกพองโตอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคิดถึงตอนที่เขาขอโทรศัพท์ของผมไป เมื่อเห็นว่าผมพูดไม่ออก

     

     

     

             หน้าจอแสดงโปรแกรมแชทสีเขียวที่ตอนนี้ขึ้นตัวแดงเป็นสัญญาณว่ามีการเพิ่มเพื่อน กับชื่อของเขาที่ถูกเพิ่มเข้ามา.. แค่เพื่อนที่ถูกเพิ่มมาใหม่เป็นเขา ทำไมผมถึงยิ้มไม่หุบแบบนี้หละ นี่มันจะมากไปแล้วนะ เขาทำให้ผมยิ้มมากเกินไปแล้ว

     

     


             เสียงของเขา ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดออกมาดังก้องขึ้น ผมจะขอคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าเขาเป็นห่วงผมเหมือนกัน ถึงบ้านแล้วบอกเราด้วยนะ จะโทรมาหรือไลน์ก็ได้

     

     


             แค่คิดว่าผมจะบอกเขายังไงดีผมยังมือสั่นขนาดนี้เลยให้ตายเหอะ ว่าแต่ผมควรจบอกกับเขาไปยังไงดีหละ บอกห้วนๆว่าถึงบ้านแล้วดีไหม หรือควรเกริ่นอะไรก่อน แล้วเวลานี้เขาจะนอนหรือยังนะ ถ้าผมส่งข้อความไปแล้วทำให้เขาตื่นหละ ไม่ดีแน่ แต่ถ้าเขายังไม่นอน รอให้ผมบอกก่อนหละ ผมควรจะทำยังไงด

     

     

     

             ครืน ครืน 

     


             อาจจะเป็นเพราะเมื่อกี้ผมเกิดอาการตกอยู่ในภวังค์ ถึงได้ทำโทรศัพท์ที่ถืออยู่หลุดจากมือ(เกือบตกใส่หน้าแหนะ)เมื่อตัวเครื่องสั่นมีการแจ้งเตือนข้อความเข้าสองข้อความ ข้อความจากเขา..




             มิน
             ถึงบ้านหรือยัง



             ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าผมจะอ่านตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัวนั่นเฉียดร้อยรอบพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้น นิ้วของผมก็ดูจะไม่ทำตามคำสั่งเท่าไหร่ เมื่อผมตั้งใจจะพิมพ์ตอบกลับเขาไป แต่มันก็พิมพ์ไม่ถูกอย่างที่ใจต้องการซะที 




             แค่เพียงหางตาเหลือบไปเห็นข้อความจากเขา ผมก็ต้องกลับมาพิมพ์ข้อความใหม่อีกครั้ง...




             ........




             หือ ?




             เสียงอู้อี้ดังขึ้นมาเป็นระยะ ทำให้ผมต้องหันมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะพบว่าที่มาของเสียงมันมาจากโทรศัพท์ในมือของผมเอง รูปภาพวงกลม ใต้ภาพมีอักษรภาษาอังกฤษสะกดเป็นชื่อของเขา ถัดลงมาเป็นตัวเลขที่กำลังขยับทุกๆวินาที.. 




             ตัวเลขที่กำลังขยับทุกวินาที
    !!?




             ชัดเลย.. 




             ผมยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาแนบที่หูอย่างช้าๆ เสียงอู้อี้ที่ได้ยินในตอนแรกเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงน้ำเสียงที่ทำให้ผมใจเต้นแบบแปลกๆที่มันกำลังดังผ่านโทรศัพท์ออกมา
    มิน ได้ยินเราป่าวเนี่ย?




             “อะ..” อื้อ.. ได้ยิน ใจจริงก็อยากจะพูดตอบออกไปแบบนั้น แต่ทำไมปากถึงขยับยากกว่าทุกที 




             ถ้าไม่ได้ยินเราจะวางแล้วน..




             “อย่- อย่าเพิ่งวางนะ” แค่รับรู้ว่าจะได้ยินเสียงเขาแค่ครู่เดียว เสียงของผมมันก็ดังขึ้นมาเองอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างกับก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง “คือเรา.. เราได้ยินแล้ว อย่าเพิ่งวางเลยนะ”




             อือ.. เราจะยังไม่วางหรอกเขาตอบกลับผมมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย(หลังจากที่ตัวเองดันเกร็งใส่โทรศัพท์ไป) แค่เพียงเขาบอกว่าจะยังไม่วาง ทำไมผมถึงรู้สึกดีขนาดนี้กัน ก็เรายังไม่รู้เลยหนิว่ามินกลับบ้านปลอดภัยหรือปล่าว




             ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก




             อีกแล้ว.. ดูเหมือนว่าเสียงของผมจะหายไปอีกแล้ว จะมีก็เพียงแต่รอยยิ้มที่มันมากขึ้น มากขึ้น ผมใช้เวลาอยู่พอสมควรในการเรียกเสียงตัวเองคืนมา โชคดีหน่อยที่ดูเหมือนเขาจะไม่กดวางไปซะก่อน “เรา.. ถึงบ้านแล้วนะ ไม่ต้องห่วง”




             เฮ้อ.. ค่อยโล่งใจหน่อย เรากลัวว่ามินจะลำบาก




             ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว มันคงจะไม่ผิดมากหรอกนะ ที่ผมจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาก็เป็นห่วงผมไม่ต่างกัน.. “ไม่หรอก ก็เราเลือกที่จะนั่งไปด้วยเองอยู่แล้ว อีกอย่างเป็นเราซะอีกที่ทำให้โอ๊ตลำบาก”



             ลำบาก ?




             “อื้อ ก็ทั้งๆที่เราบอกจะไปด้วย แต่ว่าเราดัน..”  




             ไม่.. ไม่เลยเขาพูดปฏิเสธขึ้นมาแทบจะทันทีที่ผมพูดจบ ก็วันนี้มินตามใจเรามาหลายอย่างเลย ขอบคุณนะ 




             “อื้อ แล้วนี่โอ๊ตใกล้จะนอนหรือยังอะ เรากวนหรือปล่าว ?”




             ไม่กวนหรอก ก็เรากำลังรอมินอยู่หนิ’ 




             “แบบนี้ถ้าเราไม่ตอบไป โอ๊ตก็จะไม่นอนหรอ”




             ไม่หรอก.. จริงๆเมื่อกี้เราก็เผลอหลับไปตื่นหนึ่งด้วย ผมยิ้มกับตัวเองอีกครั้ง เมื่อผมฟังเรื่องราวจากปากของเขา ถ้าให้ผมเดาท่าทางในตอนนี้ เขาคงกำลังเบะปากตัวเองอยู่แน่




             ก็ผมมองเขาอยู่ตลอด ทำไมผมจะไม่รู้กันหละ..




             “ถ้างั้นไปนอนเถอะนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่นเอา”




             อะ.. อือ แล้วค่ารถมันเท่าไหร่อะ




             “เรา.. ลืมไปแล้ว ช่างมันเถอะเนอะ”




             เห่ย ไม่เอาแบบนี้สิ ตีราคามาคร่าวๆก็ได้ มินนั่งรถอ้อมไปมา เราเกรงใจ




             “ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ กับโอ๊ตแล้ว..” ผมชั่งใจอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไป พร้อมกับเปล่งเสียงออกมา




             “เราเต็มใจทำ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

             .


             ผมวางสายจากเขาไปได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว และผมก็กำลังนอนยิ้มกับโทรศัพท์มาเกือบครึ่งชั่วโมงด้วยเช่นกัน น้ำเสียงของเขายังคงดังอยู่ในความรู้สึกของผม น้ำเสียงที่ดูร้อนรนก่อนวางสายไป ‘อ อือ ระ..เรา–  ฝันดีนะมิน ! บ๊ายบาย’ หลังจากนั้นสัญญาณก็หายไป




             ผมคงรู้สึกแย่ที่เขาตัดสายผมทิ้งโดยที่ยังไม่ทันฟังผมตอบอะไรกลับไป ถ้าน้ำเสียงของเขามันไม่ใช่น้ำเสียงแบบเดียวกันกับผม ตอนที่ผมรู้สึกเขิน.. เขา




             ..ก๊อก ก๊อก




             เสียงเคาะประตูดังขึ้น เหมือนเสียงที่ฉุดผมออกมาจากภวังค์ของตัวเอง แขนทั้งสองข้างยันตัวเองขึ้นจากเตียงก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูห้อง 




             “แม่เคาะตั้งนานแหนะ ทำอะไรอยู่ หืมม ?”




             “เอ่อ...”




             “หน้าตาดูมีความสุข ตาเป็นประกายเชียว จะมีแฟนหรือยังไง” อ่า.. เจอคำถามแบบนี้ผมไปไม่เป็นเลยจริงๆแฮะ ผมก้มหน้ากัดปากตัวเองไม่ตอบอะไรออกไป โชคดีหน่อยที่แม่ของผม ท่านเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีที่เห็นว่าผมยังไม่อาบน้ำ “แล้วนี่น้ำก็ยังไม่อาบอีกนะเรา เดี๋ยวก็เผลอหลับ อะ เอาไปของที่ฝากซื้อ” หนังสือเล่มหนาถูกยื่นมาให้ผม 




             ผมรับหนังสือเล่มนั้นมาจากท่านและไม่ลืมที่จะบอกขอบคุณ “ครับ ขอบคุณนะครับ”




             “อือ แล้วอย่าลืมไปอาบน้ำหละ”




             “ครับ ฝันดีนะครับ” ผมปิดประตูลงเมื่อเห็นว่าแม่ของผมเดินออกไปแล้ว วางหนังสือลงบนเตียงแล้วตัดสินใจไปอาบน้ำก่อนที่จะเผลอหลับไปจริงๆซะก่อน 




             หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาสำรวจ เปิดดูภายในเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนไปหยิบการบ้านที่ต้องส่งขึ้นมาทำ เวลาร่วงเลยไปจนเกือบตีสอง ความง่วงก็เริ่มเข้ามาครอบงำ การบ้านก็ไม่เสร็จ (เพราะมัวแต่เล่นเกมส์) สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม คือรีบไปลอกตอนเช้า -_____-




             ผมเดินไปปิดไฟห้องนอน แล้วค่อยๆเดินไปที่เตียงของตัวเอง ทิ้งตัวลงบนเตียงเป็นสัญญาณว่าจะไม่ขยับไปไหนอีกแล้ว 




             ครืน ครืน




             เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่วางไว้บนหัวเตียงดังขึ้นสองครั้ง ผมเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดู เป็นแบงค์ที่ส่งข้อความเขาไปในแชทห้อง เป็นรูปภาพหนึ่งภาพพร้อมกับข้อความอีกหนึ่งข้อความ ผมสไลด์เข้าไปดูทันทีที่อ่านข้อความจบ เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตงิดใจแปลกๆ




             ตาขวานี่กระตุกถี่ยิบเลย - -


             .
             .


             ภาพข้างหลังของเด็กผู้ชายสองคนที่ผมคุ้นเคยปรากฏขึ้นทันทีที่ภาพใหญ่โหลดเสร็จ ชุดนักเรียนชายที่ดูชินตานั้น ภาพของคนตัวเล็กกว่าที่กำลังดึงแขนของคนตัวสูงกว่าออกจากบีทูเอส ภาพมันเบลอไปบ้างแต่ถ้าตั้งใจดูจริงๆ มันก็ไม่ยากเลยที่จะรู้ว่าเป็นใคร




             เป็นภาพของผมกับเขา ที่แบงค์มัน(แอบ)ถ่ายแล้วส่งมา พร้อมกับข้อความกวนๆตามนิสัยของเจ้าตัว ‘พบเห็นเพื่อนสนิทหนีไปเดท 1 อัตรานะครับผม’




             และดูเหมือนว่าสมาชิกในห้องของผมคืนนี้จะนอนนึกกันเป็นพิเศษ ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวหน้าห้อง เรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งหนังที่ไลน์ห้องมีการโต้ตอบสูงผิดปกติ ส่วนมาก็พูดคล้ายๆจะดูออกว่าเป็นใครแต่ก็ยังไม่มั่นไม่ใจ ในขณะที่บางส่วนก็ดูสงสัยไม่น้อย ลักษณะคล้ายกับจะเก็บข้อมูลแล้วเอาไปแซวในเช้าที่ใกล้จะมาถึงนี่




             ‘เอ้า ผิดแชทวะมิน กูขอโทษนะ J




             ไอ่.... สัดแบงค์  




             olo












    littlekid 










             ผมเปิดประตูห้องเข้าไปเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ เห็นตัวการกำลังนั่งบนโต๊ะหันหลังให้ผมพอดี ไม่รอช้าผมก็เดินเข้าไปตบหัวมันด้วยความรักใคร่




             “ใครวะ
    ! อ่าว.. เพื่อนมินเองหรอ แหมแหม..” แบงค์ยิ้มกริ่มมาให้ผม พร้อมกับทำสายตาล้อเลียนมาให้ เอาแขนข้างหนึ่งมากอดคอผมไว้แน่น




             “พูดมากนะมึง เอาการบ้านมาลอกดิ” ผมสะลัดตัวเองออกจากแขนของแบงค์ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง หยิบเอางานที่ต้องส่งออกมาขากกระเป๋า แล้วขู่กรรโชกเอางานจากแบงค์ที่คาดว่าลอกเสร็จแล้วมา มันยื่นสมุดมาให้ผมทันที ระหว่างที่ผมกำลังมีสมาธิกับการทำงานของตัวเอง เพื่อนบางคนก็พูดแซวผม(ร่วมกับแบงค์มัน) 




             “เอ่อ.. มินมาถึงยังอะ” 




             ประโยคคำถามดังขึ้นพร้อมกับเสียงในห้องที่เงียบลง สายตาจับจ้องไปที่คนมาใหม่ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเป็นเขาที่ยืนอยู่ที่ประตูหน้าห้องเรียนของผม ผมรีบลุกไปหาเขาทันที




             “เราเอานี่มาให้ ถือว่าแทนค่ารถแล้วกันนะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นน้ำปั่นจากหน้าโรงเรียนมาให้ผม ทันทีที่ผมไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา คนตัวเล็กกว่าช้อนสายตามองมาราวกับว่าถ้าผมไม่รับเขาคงจะรู้สึกเสียใจมาก




             และถ้าผมไม่รับ ผมคงเสียสมดุลมากเช่นกัน 




             “เอ่อ.. ขอบคุณนะ” ผมพูดพร้อมกับรับแก้วน้ำในมือของเขามา สายตาที่ทำให้ผมคลายจะเสียสมดุลหมดไป แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ใจผมเต้นสั่นไหวนั่นเข้ามาแทนที่ ดูเหมือนว่า เขาจะทำให้ผมผิดปกติมากเกินไปแล้วนะ




             “อือ เราไปแล้วนะ” เขาพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างมาอีกครั้ง ก่อนที่จะโบกมือลาผมไป




             “โอ๊ต.. “ เขาหันกลับมามองตามเสียงเรียก ไม่วายส่งสายตาสงสัยมาให้ผม “คือ.. ตั้งใจเรียนนะ”




             “อะ.. อื้อ มินด้วยหละ” 




             เขาเดินกลับไปที่ห้องของเขาแล้ว เหลือแค่ผมกับแก้วน้ำในมือ ผมก้มลงมองมันพร้อมกับยิ้มเล็กๆ 




             “วี้ดดวิ้ว มาหากันแต่เช้าเลยอะ มึงดูดิฟ่า ‘เราเอานี่มาให้..’ ” ผมหันกลับไปมองตามเสียงที่ดังมา เป็นไอ่ตัวแสบนั่นแหละครับที่ทำท่าล้อเลียนสถานการณ์ก่อนหน้า แต่คราวนี้ดันมีคนบ้านจี้ไปเล่นกับมันด้วย




             “มึงเห็นหน้ามันป่าว เคลิ้มชิบหายตอนมองเด็กน้องแปดอ่ะ” ฟีฟ่าพูดแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกันกับแบงค์ นั่นทำให้ผมรู้สึกหมันไส้พวกมันไม่น้อย 




             “ ก ร ะ แ ด ะ ” ผมขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงพร้อมกับชูนิ้วส่งไปให้พวกมัน ที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งยังหัวเราะดังกว่าเดิม โอเค.. ยอม อะไรที่สบายใจก็ทำเลยเพื่อน..




             เอาที่สบายใจเลยนะ สั— :-)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    - 10000000000000 % -
    รีบปั่นแรงมาก ก่อนกลับหอ55555555555
    รักนะคะ อิอิ ♥♥♥♥♥♥♥♥
    11 ตค ใครไปงานมินโอ๊ต เจอกันเน้อววววว ฮิฮิ (รีบมาก55555)






     

     

    theme cr. – TF:)






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×