คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [OSHO ตอนปัญญาญาณ] ==> การรู้... ที่อยู่นอกเหนือเหตุผล
ชื่อ: OSHO ตอนปัญญาญาณ
ประเภท: จิตวิทยา
ผู้แต่ง: OSHO(ถอดความจากสื่ออื่น)
แปลและเรียบเรียง: ดร.ประพันธ์ ผาสุขยืด
สนพ: Free M.I.N.D
พิมพ์: ครั้งที่ 2548, ครั้งที่ 7 2555
OSHO คือ ชายคนหนึ่ง เกิดวันที่ เกิดที่เมือง เกิดเวลา อายุ ครอบครัว บลาๆๆ ถ้าจะให้เล่าประวัติก็อีกยาว ดังนั้น ในฐานะที่เป็นบทความอวยหนังสือ เราจึงขอตอบคำถามนี้ผ่านเนื้อหาในเล่มก็แล้วกัน แต่ถ้าใครอยากรู้ประวัติเพิ่มเติมเราก็ได้แปะ link ไว้ด้านล่างสุดให้เป็นที่เรียบร้อย
OSHO คือคนที่บอกว่า ความรักคือภาพลวงตา ใครที่เลิกโดนมันลวงแล้วก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วมันก็ sex ดีๆนี่เอง
คือคนที่บอกว่า ความรู้ได้แบ่งแยกสิ่งต่างๆอย่างที่ไม่สามารถนำมาเชื่อมต่อกันได้อีก
คือคนที่บอกว่า หญิงชายนั้นแตกต่างกันจะเปรียบเทียบไปเพื่ออะไร เหมือนเอายางลบกับดินสอมาวางคู่กันแล้วถามว่า อันไหนมีประโยชน์กว่า เห็นไหมล่ะ ว่าเป็นคำถามที่โง่มาก
คือคนที่บอกว่า ประวัติศาสตร์คือขยะ
คือคนที่บอกว่า นักบุญมากมายพูดคุยกับพระเจ้าในจินตนาการของพวกเขาเอง
นี่แค่ส่วนหนึ่งของประเด็นทางสังคมนะ เรื่อง abstract กว่านี้ยังมีอีกเป็นตับ ซึ่งเราก็อธิบายไม่เป็นเหมือนกันเพราะเราไม่มี แต่ไม่ใช่เพราะไม่เข้าใจ ก็ OSHO น่ะ เขียนหนังสือเข้าใจง่ายจะตาย อ่านได้ไม่มีเบื่อ แต่สำหรับเรื่องปัญญาญาณ ใครไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ ลัทธิเต๋าบอกว่าปัญญาญาณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ จะว่าไป OSHO ตอนนี้คล้ายลัทธิเต๋ามาก คล้ายยังไงจะเอามาเขียนในตอนต่อๆไป ติดตามได้นะ
เรื่องที่ OSHO พูดแล้วโดนใจวัยรุ่นลุ้นรักแถมไม่มักเรียนอย่างเราก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการศึกษา
OSHO บอกว่า
“เชาวน์ปัญญาจะถูกกำจัดไปโดยปริยายหากท่านทำตามผู้อื่น เมื่อใดก็ตามที่ท่านเริ่มคิดจะเป็นเหมือนคนอื่นท่านจะสูญเสียเชาน์ปัญญาที่ท่านมีอยู่ไป ท่านเริ่มจะโง่เขลานับตั้งแต่วินาทีที่ท่านเริ่มเปรียบเทียบตัวท่านกับคนอื่น”
“เชาวน์ปัญญาคือความสามารถในการเห็นที่มีมาแต่กำเนิด เด็กทุกคนเกิดมาพร้อมเชาวน์ปัญญาที่แหลมคมแต่สังคมได้ทำให้มันทื่อลงเรื่อยๆจนในที่สุดเด็กทุกคนก็สำเร็จการศึกษาออกมาเป็นคนโง่โดยสมบูรณ์”
“เพราะว่าการศึกษาไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติของคนแต่ละคน ไม่ได้ให้ความเคารพในสิ่งที่แต่ละคนมี แถมยังควบคุมบังคับให้ทุกคนเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด”
“คนโง่มักรู้สึกเบื่อ พวกเขาเบื่อเพราะว่าคำตอบที่รวบรวมได้จากคนอื่นนั้นมันมักจะซ้ำซาก พวกเขาเบื่อเพราะมีความรู้อยู่เต็มไปหมดมาคอยบดบังพวกเขาไม่ให้มองเห็นสิ่งต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น ถึงพวกเขาจะรู้มากมายแต่มันก็ไม่ใช่การรู้จริง เมื่อเขาเห็นดอกกุหลาบดอกหนึ่ง เขาไม่ได้เห็นดอกกุหลาบดอกนั้น แต่มันเป็นดอกกุหลาบต่างๆที่เขาเคยอ่านและผ่านตา มันคือดอกกุหลาบตามบทกวี คือดอกกุหลาบที่ถูกวาดไว้ คือดอกกุหลาบในคำบรรยายของนักปรัชญา ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบจากที่ไหนก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้ว กุหลาบที่เขาเห็นจะไม่ใช่ดอกที่อยู่ตรงหน้าเขา”
จึ้ก! โดนเต็มๆ คาดว่ากว่า 90% ของคนที่คลิกเข้ามาอ่านยังไปรร.กันอยู่และอีก 9.99% เลิกไปรร.แล้วแต่ก็เคยผ่านระบบการศึกษามาก่อนคงรู้สึกไม่ต่างกัน “นั่นมันกูชัดๆ” เพราะฉะนั้นถ้าใครมาชวนทะเลาะเรื่องเรียนไปทำไม เราก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่โยนเล่มนี้ให้มันอ่าน (เอาตรงกลางกะบาลมันไปเลย) แล้วมันจะพูดไม่ออก เงียบกึ้บ!
สิ่งที่เราชอบในตัว OSHO คือ มุมมองที่แตกต่างอย่างโคตรจะมีสไตล์ คำพูดที่คมคายแต่ไม่ทำร้ายใคร และภาษาที่ทำให้เรื่องวุ่นวายกลายเป็นเรื่องสบายๆอยู่เสมอ
ท้ายที่สุดแล้วการอ่านก็เป็นเพียงวิธีหนึ่งที่จะเข้าถึงปัญญาญาณ ถึงจะอ่านมากแค่ไหนแต่คุณก็จะไม่มีวันเข้าถึงมันได้เลย หากไม่ได้ค้นพบด้วยตัวคุณเอง
_________________________________________________________________________________________________________________
osho.com
เราเคยดูใน รายการพื้นที่ชีวิตอ่ะแต่หาไม่เจอ T^T ลองไปหาดูนะ รายการตอนนี้เกี่ยวกับ OSHO มีสาระและสนุกมาก
ความคิดเห็น