ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love wars : สงครามร้าย หัวใจรัก [SNSD fic. TaeNy ft. YulSic]

    ลำดับตอนที่ #7 : chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 54


    Chapter 6




    "แทแท.. เป็นอะไรรึเปล่า" ทิฟฟานี่เลิกคิ้วมองคนตัวเล็กที่ดูกระฟัดกระเฟียดเสียเหลือเกิน ตั้งแต่ที่เหลือกันแค่สองคนในโต๊ะแทยอนก็ยังไม่ยอมปริปากพูดกับเธอสักคำ

    "ทีหลังมิยองอยากได้อะไรก็บอกฉันสิ ทำไมต้องให้พี่ยูลตักนู่นตักนี่ให้ตลอดเวลาด้วยล่ะ!" ประโยคที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจมาพร้อมกับใบหน้าบูดบึ้งเหมือนเด็กเล็กๆยามถูกขัดใจ



    ก็ไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ.. แต่เธอกำลังทำเหมือนเธอหวงฉันนะแทยอน..



    "ปกติพี่ยูลเค้าก็เป็นแบบนี้ แทไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนี่"

    "ก็.." อยากจะพูด แต่อยู่ๆคำพูดมันก็ถูกกลืนหายลงคอไปซะหมด



    ก็เมื่อก่อนฉันยังไม่รู้นี่ว่าพี่ยูลคิดยังไงกับเธอ ฉันจะอธิบายเธอยังไงว่าฉันไม่ชอบให้เธอสนใจคนอื่นมากกว่าฉันน่ะ มิยอง


    แทยอนพ่นลมหายใจอย่างแรง รู้สึกสับสน.. เธอไม่รู้จักความรักในแบบคนรัก เธอไม่เคยมีคนรัก และไม่เคยสนิทสนมกับใครเท่าผู้หญิงคนนี้มาก่อน เธอไม่รู้ว่าอาการหวงทิฟฟานี่ของเธอมันยังอยู่ในระดับปกติที่เพื่อนสนิทพึงมีให้กันรึเปล่า

    ไม่รู้.. และไม่เคยคิดจะอยากรู้.. แต่เหมือนกับว่ายิ่งผ่านไปนานเข้า นานเข้า ความรู้สึกที่เธอมีให้ทิฟฟานี่มันยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกวัน.. มากจนเธอชักไม่ไว้ใจตัวเองว่าจะทนภาวะแบบนี้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน!



    "ก็?" ทิฟฟานี่ทวนคำเมื่อเห็นว่าแทยอนเงียบและกำลังจมหายเข้าไปอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอีกครั้ง

    "ก็...  อ้อ.. ก็ฉันกลัวเธอจะอ้วนไปกว่านี้ไง ดูสิ! พี่ยูลตักให้เต็มจานแบบนี้ ต่อไปมิยองต้องกลายเป็นหมีจริงๆแน่ๆ ทีหลังให้ฉันตักให้มิยองคนเดียวก็พอแล้ว" แทยอนเฉไฉไปอีกเรื่องทันที เธอคิดว่าพูดไปแบบนี้ก็ได้บอกความต้องการของเธอไปเช่นกัน ถึงเหตุผลมันจะคนละเรื่องแต่ผลลัพธ์ก็คงเหมือนๆกัน



    แต่แทยอนคิดผิดถนัด เพราะนอกจากผลลัพธ์จะไม่ใกล้เคียงกับที่เธอคิดไว้แล้ว เธอยังได้รับค้อนวงใหญ่จากเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้ไปเต็มๆ


    ก็คำว่า อ้วน มันเป็นคำต้องห้ามของผู้หญิงเชียวนะ! นี่ถ้ายุนอายังนั่งอยู่ด้วยกัน เธออาจจะโดนยุนอาเขกกระบาลเพราะทนไม่ไหวในความงี่เง่าของเธอไปแล้วก็เป็นได้



    แทยอนฉลาดทุกเรื่อง.. ยกเว้นเรื่องหัวใจ..



    "แทยอนา!" ทิฟฟานี่สะบัดหน้าหนี ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีเพื่อนรักอย่างงอนๆ


    "โอ๊ะ เดี๋ยวสิ! มิยอง ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ!" และแล้วเมื่อไอ้หมาซึนสำนึกได้ว่าเพิ่งทำความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เธอก็รีบกุลีกุจอตามไปคว้าหมับเข้าที่ข้อมือทิฟฟานี่ทันที


    "ฉัน.. หมายถึง.. อ่า. เอิ่ม.. ที่ฉันตั้งใจจะบอกมิยองน่ะ.. คือ.." แทยอนพูดตะกุกตะกัก เหมือนอยู่ๆก็เกิดอาการติดอ่างขึ้นมาซะอย่างนั้น ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้เธอเขินได้ก็คงมีแต่การยืนต่อหน้าทิฟฟานี่ในตอนนี้นี่แหละ



    เออะ.. นี่ฉันเขินมิยองหรอเนี่ย!!!!



    "คืออะไร!" อาการเกี่ยงงอนเมื่อครู่หายไป แต่กลับกลายเป็นว่าทิฟฟานี่เริ่มรู้สึกขัดใจกับท่าทีอมพะนำอ้ำๆอึ้งๆของคนตรงหน้าเสียแทน แทยอนแสดงอาการแบบนี้ไม่บ่อย แต่ทุกครั้งมันก็ทำให้เธอรู้สึกปวดหัวเล็กๆอยู่เหมือนกัน



    มันยากนักรึไงนะ กับการที่จะพูดอะไรอย่างที่ใจคิดนะ มันยากนักรึไงแทยอน!



    "คือฉันไม่ชอบให้ใครอยู่ใกล้เธอไงมิยอง! ฉันไม่ชอบเวลาเธอยิ้มแบบนั้นให้คนอื่น ฉันไม่ชอบเวลาที่เธอทิ้งฉันไว้ข้างหลัง ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นบ้าอะไร แต่ฉันอยากให้เธอสนใจฉันแค่คนเดียว และที่สำคัญฉันก็... หวงเธอ.." แทยอนพูดรัวราวสาดกระสุนปืน เป็นครั้งแรกที่เธอยอมเผยความในใจขนาดนี้ คงเป็นเพราะเธอเองก็รู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกมากมายแบบนี้เต็มทน แต่พอเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไปเท่านั้นแหละ จากเสียงดังๆที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นก็แผ่วเบาลงทันทีในประโยคสุดท้าย



    แต่เธอก็ยังเลือกที่จะพูดออกไปอยู่ดี..



    ทิฟฟานี่รู้สึกเหมือนตัวเองถูกใครดูดความนึกคิดไปเสียหมด เหมือนอยู่ๆสมองมันก็เบลอไปซะอย่างนั้น ตอนนี้ในหัวมันรันแต่ประโยคของผู้หญิงตรงหน้าซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเครื่องเล่นเอ็มพีสามที่ถูกกดปุ่ม shuffle ไว้ให้เล่นแค่เพลงๆเดียว



    หวงงั้นหรอ.. แบบไหนกันแทยอน เธอหวงฉันแบบไหน? ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดก็อย่าทำหน้าแบบนั้นแทยอน.. อย่าทำเหมือนเธอก็กำลังเขินฉันอยู่เหมือนกันได้มั้ย!



    "มิยอง.." แทยอนรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าเธอมันร้อนผะผ่าวราวกับจะระเบิดออกมา เธอไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงต่อไปเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่แล้วอยู่ๆสัมผัสบางเบาที่ริมฝีปากก็หยุดทุกอย่างลงในทันที


    ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทิฟฟานี่โน้มใบหน้าลงประทับจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง เพียงเสี้ยววินาทีที่รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนไปซะเฉยๆ ทุกเสียง ทุกการเคลื่อนไหวหยุดนิ่งลง มีเพียงก้อนเนื้อขณะเท่ากำปั้นของเจ้าของทั้งสองคนเท่านั้นที่กำลังเต้นระรัวอย่างหนักหน่วง


    แทยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว จะมีก็แค่เสียงของหัวใจที่ดังโครมครามอยู่ภายในทรวงอกด้านซ้ายที่บ่งบอกว่าเธอยังมีความรู้สึกอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าแค่ริมฝีปากแตะกันเบาๆจะทำให้เธอรู้สึกราวกับกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างนั้นแหละ




    นี่มิยองมีอิทธิพลต่อหัวใจของฉันมากมายขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย..




    ทิฟฟานี่เลื่อนใบหน้าออกมาอย่างเร็ว การกระทำที่คล้ายถูกสั่งการจากหัวใจแทนที่จะเป็นสมอง แม้เพียงชั่วครู่แต่ก็สร้างความปั่นป่วนให้เธอไม่น้อย


    แทยอนกระพริบตาปริบๆมองใบหน้าสวยหวานที่ขึ้นสีแดงเข้ม หัวใจดวงเล็กๆยังไม่กลับสู่จังหวะปกติ สมองที่ว่างเปล่าถูกเติมด้วยความรู้สึกแรกที่แว๊บเข้ามาทันทีที่ริมฝีปากบางกลับเป็นอิสระ



    เสียดาย...



    "เอ่อ.. คือ.." ทิฟฟานี่กลายเป็นฝ่ายอึกอักเสียแทน ใบหน้าขาวนวลถูกแต้มด้วยสีแดงสด ความขวยเขินพวยพุ่งยิ่งราวกับกาต้มน้ำที่กำลังเดือดเต็มที่



    ให้ตายสิ! นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ยยยยย!!!



    "แท.. อุ๊บ!" ไม่ทันทีทิฟฟานี่จะได้คิดหาคำอธิบายที่เหมาะสม แทยอนก็รั้งใบหน้าสวยลงมาแนบริมฝีปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่คนอย่างคิม แทยอนปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล


    จูบเพราะอยากจูบ.. ไม่มีเหตุผล.. มีแต่ความรู้สึกล้วนๆ.. ชอบ.. จังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คงมีแค่อย่างเดียวในโลกที่แม้มันจะไม่อยู่ในการควบคุมของเธอ แต่เธอก็รู้สึกรักมัน..



    เพราะจังหวะการเต้นของหัวใจแบบนี้มันทำให้เธอมีความสุข..



    .
    .
    .



    แทยอนกดน้ำหนักเบาๆลงที่ริมฝีปากอิ่ม ปล่อยให้ความรู้สึกเป็นเครื่องนำทางให้ทุกๆอย่างค่อยๆดำเนินไปในทิศทางของมัน เปลือกตาของหญิงสาวตรงหน้าปิดลงช้าๆ นุ่มนวลและอ่อนโยน แต่ก็สามารถสร้างความเคลิบเคลิ้มได้มากมาย นั่นคือสิ่งที่ทิฟฟานี่สัมผัสได้


    หลง.. แทยอนกำลังทำให้เธอหลงใหลรสจูบที่อ่อนหวานแบบนี้.. ถ้าไม่นับสัมผัสเบาๆเมื่อกี้ที่เธอเป็นคนเริ่ม ครั้งนี้.. ถือเป็นจูบแรกของเธอ และแน่นอนว่าสำหรับคนไม่เคยรักใครอย่างคิม แทยอน เธอก็เป็นคนแรกเหมือนกัน



    ไม่ใช่แทยอนไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร.. เธอรู้.. เธอรู้ดี เพียงแต่เลือกที่จะมองข้ามเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล เพื่อเก็บเกี่ยวทุกรสสัมผัสตรงหน้าอย่างที่ใจต้องการ


    แทยอนขยับใบหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรั้งร่างทิฟฟานี่เข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้นจนแนบสนิทกับลำตัว ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกราวกับจะหลอมละลาย ราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งตัดจากขั้วหัวใจแพร่กระจายออกไปจนทั่วทุกบริเวณ ความรู้สึกร้อนแปลกประหลาดพุ่งพล่านทั่วร่าง ทั้งๆที่อากาศหนาว แต่กลับรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายมันร้อนราวกับจะระเบิดเสียให้ได้


    ทิฟฟานี่แทบจะยันตัวไว้ไม่อยู่ เมื่อแทยอนส่งลิ้นอุ่นๆเข้ามาทักทายกัน ก่อนจะถือวิสาสะเกี่ยวกระหวัดรับเอาความหอมหวานภายในนั้นราวกับคนโหยกระหาย หัวใจเต้นถี่ระรัวขึ้นทุกทีจนกลัวว่ามันจะทนไม่ไหวต้องหยุดเต้นและขาดใจไปเสียก่อน จากสัมผัสที่อ่อนนุ่มเริ่มเร้าร้อนขึ้นทุกทีจนเธอเผลอส่งเสียงครางเบาๆในลำคออย่างห้ามไม่อยู่  



    ไม่เป็นไรหรอก.. ถ้าเป็นแทยอน.. ถ้าเป็นเธอ.. ถ้าเธอต้องการ.. มากกว่านี้ฉันก็ให้เธอได้..



    มือเล็กคว้าร่างของคนตรงหน้าที่กำลังจะทรุดลงไปกับพื้นโดยที่ไม่ได้ขยับส่วนใดของร่างกายออกห่างไปไหน ทิฟฟานี่กำลังทำให้เธอคลั่ง มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนในชีวิต ความรู้สึกเหมือนเลือดลมไหลกลับทิศ ความรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องแบบนี้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอต้องเป็นบ้าแน่ๆถ้าต้องหยุดมันไว้แค่นี้


    แทยอนดันตัวคนในอ้อมกอดจนแผ่นหลังชนกับผนังเย็บเฉียบ ก่อนจะลากมืออุ่นร้อนของตัวเองผ่านเอวคอดนั้นอย่างหลงใหล สร้างความรู้สึกวาบหวิวให้คนตรงหน้าจนต้องใช้สองมือเหนี่ยวลำตัวเธอไว้แน่นไม่ให้แข้งขาที่อ่อนแรงนั้นทรุดฮวบลงไปอีกครั้ง


    ตอนนี้เธอไม่ต้องการรับรู้อะไรอีกแล้ว ขอแค่มีทิฟฟานี่อยู่ตรงนี้ ขอแค่เราได้มีกันและกันแค่สองคนในช่วงเวลานี้ก็เพียงพอ..


    แม้ลมหายใจจะเริ่มติดขัด แต่ริมฝีปากบางและลิ้นอุ่นยังคงทำหน้าที่บอกทุกความรู้สึกของหัวใจ.. ถ้าฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ฉันจะให้สัมผัสแบบนี้พูดแทนได้รึเปล่า.. มิยอง.. เธอรับรู้ได้มั้ยว่าฉันรู้สึกยังไง..



    .
    .
    .



    "ตุบ!" เสียงของหนักกระทบพื้นห้องอย่างแรง ทิฟฟานี่เบิกตากว้างก่อนจะดันตัวแทยอนออกห่าง ความรู้สึกวาบหวามมากมายถูกดับลงทันที ใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วยิ่งเข้มขึ้นอีกเมื่อเห็นสีหน้าผู้มาใหม่ชัดเต็มๆสองตา



    ยุนอาอ้าปากค้างมองสองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกอึ้งแบบสุดขีด นี่มันเหนือความคาดหมายของเธออย่างสุดขั้ว.. เธอค่อยๆก้มเก็บกระเป๋าที่เผลอทำหลุดมือเพราะความตกตะลึงในภาพเมื่อครู่ ก่อนจะขยับปากเปล่งเสียงที่ยังฟังดูไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก

    "เออะ.. ห่ะๆ.. โทษที.. พอดีจำได้ว่าร้านนั้นแกมีบัตรลด ไม่อยากเสียตังค์เยอะ เลยปล่อยให้พี่ยูลกับน้องซออยู่ที่ร้านก่อน แล้วว่าจะกลับมาขอ.. ไม่คิดว่า.." ยุนอาพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเรื่องแบบนี้มันจะสุดแสนธรรมดาสำหรับคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าคนอย่างแทยอนจะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ นั่นเป็นเหตุผลให้เธอยังไม่สามารถเรียกสติกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์แม้จะผ่านไปเป็นนาทีแล้วก็ตาม



    ฉันแค่หวังว่าแกจะได้กุ๊กกิ๊กกับฟานี่พอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจแค่นิดหน่อย แต่นี่ผ่านไปยังจะไม่พ้นครึ่งชั่วโมง แกจัดเต็มขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ไอ้แท!!!!!


    พระเจ้าช่วย! อะไรมันจะสปาร์คกันเร็วขนาดนั้น!!!!!!!!



    แทยอนมองหน้ายุนอาด้วยความรู้สึกมากมาย เขินก็เขิน เคืองก็เคืองอยู่เหมือนกัน นี่มันบ้านแกรึไง เข้ามาหน้าตาเฉย ทำไมไม่รู้จักกดออด หรือเคาะประตู!


    แต่ความจริงถ้ายุนอาไม่เข้ามาขัดจังหวะกันเสียก่อน เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ระหว่างเธอกับทิฟฟานี่มันจะจบลงที่ตรงไหน


    เพราะการกระทำที่เกิดขึ้นโดยอารมณ์ซึ่งอยู่เหนือเหตุผลมันคาดเดาไม่ได้แบบนี้ มันถึงได้อันตรายสำหรับคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อการชำระแค้นอย่างเธอ


    "เอาๆไปให้หมดเลยล่ะกัน!" แทยอนพูดเร็วๆพลางยื่นทั้งกระเป๋าให้เพื่อนตัวสูง ยุนอากระตุกยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเรียกคืนสติได้ครบถ้วนและเห็นว่าเพื่อนจอมซึนของเธอกำลังมีท่าทีขัดๆเขินๆแบบนั้น



    คนสูงกว่าดึงร่างคนตัวเล็กออกห่างจากบริเวณที่ยืนอยู่เล็กน้อยให้พอเป็นส่วนตัว ก่อนจะระบายยิ้มกริ่มมองหน้าเพื่อนรักด้วยความรู้สึกภูมิใจ ราวกับแทยอนเป็นลูกน้อยที่เธอขุนจนได้ดิบได้ดีประสบความสำเร็จเป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่วงศ์ตระกูลอะไรอย่างนั้น


    "ร้ายนะแก..." นี่คือประโยคแรกที่ถูกหยิบยื่นให้เพื่อนตัวเล็กทันทีเมื่อยุนอาคนเดิมกลับมาสิงร่าง



    แหม.. หรือฉันต้องเปลี่ยนความคิดใหม่.. ไอ้หมาแทมันไม่ได้อ่อนหัดเรื่องอย่างว่าเหมือนที่คิดไว้นะเนี่ย! ไวไฟใช้ได้ทีเดียว.. หึหึ..



    "ร้ายบ้าอะไร!" แทยอนตอบปัดทันที แค่เห็นหน้าเพื่อนก็รู้ไปถึงไหนต่อไหน ไม่ต้องพูดให้ชัดเจนไปมากกว่านี้เธอก็รู้ว่ายุนอากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่

    "ไม่ต้องมาทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็งเลยไอ้แท.. ถึงฉันจะเพิ่งมา แต่ก็เห็นนะว่าเมื่อกี้แกน่ะแทบจะกลืนกินร่างฟานี่เข้าอยู่แล้ว"

    "ก็.." ถึงจะคิดว่าสิ่งที่ยุนอาพูดมันออกจะโอเว่อร์เกินจริงไปหน่อย แต่ก็ปฏิเสธได้ไม่เต็มปาก




    "นี่แทยอน.. แกอยากได้อีกสักชั่วโมงนึง? สองชั่วโมง? หรือว่าทั้งคืนดีวะ!"

    "ไอ้ยุน!!!!"


    "โอเคๆ ไม่ก็ไม่ ฮ่าๆ งั้นฉันไม่กวนและ …" ยุนอาระเบิดเสียงหัวเราะดังเมื่อเห็นใบหน้าขาวใสขึ้นสีเลือด แดงแปร๊ดราวกับถูกใครละเลงสีใส่อย่างนั้นแหละ



    สำหรับเพื่อนอย่างเธอคงทำได้แค่เป็นกำลังใจให้คู่นี้อยู่ห่างๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าแทยอนจะปฏิเสธหัวใจตัวเองไปได้อีกนานเท่าไหร่ ทั้งๆที่มันออกจะชัดเจนขนาดนั้น คิดแล้วก็สงสารทิฟฟานี่อยู่เหมือนกัน รักใครไม่รัก ดันมาหลงรักไอ้หมาซึนตัวนี้ซะได้



    ยุนอาหยิบกระเป๋าจากมือแทยอนมาถือไว้ โค้งตัวและส่งยิ้มให้ทิฟฟานี่ที่ยังมีอาการขัดเขินแบบปิดไม่มิดเพื่อเป็นการสื่อว่ากำลังจะไป ก่อนจะหรี่ตามองหน้าเพื่อนตัวเล็ก พร้อมก้มลงกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู



    "ถ้าคืนนี้อยากให้พี่ยูลไปนอนบ้านฉันก่อนก็บอกได้นะ.."


    "จะไปซื้ออะไรก็รีบไปเลยไอ้เพื่อนบ้า!!"

    แทยอนพูดเสียงดัง ก่อนจะดันตัวยุนอาที่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีจนเลยเขตบริเวณบ้าน พร้อมปิดประตูไล่เสร็จสรรพ แต่ก็ไม่วายเห็นเจ้าเพื่อนสุดเกรียนทำไม้ทำมือเป็นรูปหัวใจ หยักคิ้วหลิ่วตาใส่กันผ่านกระจกใสบนบานประตู แถมยังห่อปากส่งจูบได้กวนประสาทกันแบบสุดๆ จนเธออดไม่ได้ที่จะตะโกนไล่จนยุนอาต้องหัวเราะก๊ากอีกทีก่อนจะยอมถอยทัพจากไปอย่างผู้มีชัย



    เมื่อเห็นยุนอาเดินจากไปจนลับสายตา ก็ถอนหายใจยาวๆหนึ่งที ไอ้บ้า! นี่ต้องคิดว่าคนอื่นจะหื่นเหมือนแกทุกคนเลยรึไง!!



    ฉันก็แค่.. จูบ..



    นึกมาถึงตอนนี้ใบหน้าก็พลันร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง จูบ.. ใช่แล้ว ฉันเพิ่งจูบมิยอง.. แบบลึกซึ้งซะด้วย!!


    หรือความจริงแล้วฉันจะเป็นประเภทเดียวกับไอ้ยุน?! เฮ้ย! ไม่ๆ เป็นไปไม่ได้! ถ้าไม่ใช่มิยองฉันก็ไม่ทำแบบนี้หรอกน่า!




    ถ้าไม่ใช่มิยอง.. ต้องเป็นมิยองแค่คนเดียวงั้นหรอ..?




    แทยอนครุ่นคิดอย่างหนัก ความรู้สึกแบบนี้มันน่ากลัวเกินไปที่คนแบบเธอจะมีอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอแสร้งทำเป็นละเลยมันไปไม่ได้เหมือนกัน เธอขมวดคิ้วเป็นปมแน่น ก่อนจะหันกลับมาในตัวบ้านอีกครั้ง


    ภาพทิฟฟานี่ที่จ้องมองมาก่อนจะหลบสายตากันอย่างขัดเขินทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่า นี่ต่างหากคือสิ่งที่เธอต้องกังวลมากกว่าในตอนนี้



    โอ้! จูบเค้าไปแล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย!!



    "เอ่อ.. มิยองา" แทยอนเดินเข้าไปใกล้ๆทิฟฟานี่อีกครั้ง แม้จะรู้สึกเขินจนนึกอยากจะมุดกำแพงหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอคิดว่าเธอควรจะรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ของเธอบ้าง อย่างน้อยๆก็ต้องอธิบาย..



    เอิ่ม.. แล้วจะอธิบายอะไรดีล่ะ ในเมื่อฉันก็ไม่มีเหตุผลในการจูบเธอด้วยซ้ำ..



    เป็นเพราะเธอจูบฉันก่อน แล้วก็ทิ้งให้ฉันอารมณ์ค้างไปซะเฉยๆ ฉันเลยต้องดึงเธอมาจูบอีกที เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง... เออะ.. ทำไมมันดูหื่นพิกลวะ....


    แทยอนส่ายหน้าไปมากับความคิดของตัวเอง คล้ายไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าเธอจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ




    "ไม่เป็นไรหรอกแทแท" ทิฟฟานี่ส่งยิ้มอ่อนๆ พลางยื่นมือไปสัมผัสที่หลังมือของแทยอนเบาๆ เธอไม่รู้ว่าแทยอนคิดยังไง บางทีอาจจะแค่เผลอไป หรืออะไรก็แล้วแต่ เธออยู่กับความสับสนแบบนี้มานานพอจนเลิกที่จะคาดหวัง ถึงมันจะเจ็บปวดแต่เธอก็ไม่ต้องการให้แทยอนรับผิดชอบอะไรกับจูบเมื่อกี้ หากไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายอย่างที่เธอรู้สึก


    เพื่อนกันเค้าไม่ทำแบบนี้.. สำหรับประโยคนี้ เธอก็เคยตัดพ้อกับตัวเองหลายครั้งหลายคราจนเหนื่อยที่จะคิดอะไรให้มันไกลไปกว่าที่เป็นอยู่ ถึงครั้งนี้มันจะเลยเถิดไปมากมายกว่าทุกๆครั้ง แต่มันก็ไม่ใช่นิสัยของเธอที่จะต้องไปกดดันให้แทยอนยอมรับอะไรที่เค้าไม่ต้องการ


    แทยอนที่ไม่เคยชัดเจนกับฉันสักครั้ง.. บางที.. ฉันอาจจะรับสภาพแบบนี้แล้วก็ได้ล่ะมั้ง



    แต่จูบแรกที่วิเศษที่สุดที่เธอมอบให้ฉันน่ะ.. ถ้าเธอรู้สึกเหมือนกัน.. เมื่อไหร่ที่เธอมั่นใจว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ถึงเวลานั้นเธอค่อยบอกให้ฉันรับรู้ก็ได้..



    ฉันรอเธอได้แทยอน ไม่ว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง.. ฉันรอเธอได้ทั้งชีวิต..





    "มิยองเป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญที่สุดของฉันนะ" แทยอนกระชับมือทิฟฟานี่ไว้แน่น ทุกประโยคที่เธอพูดมันกลั่นออกมาจากหัวใจของเธอทั้งหมด



    ทิฟฟานี่เป็นคนพิเศษสำหรับเธอ.. ไม่ว่าจะไหนสถานะอะไรก็ตาม..



    "แทแทก็เป็นคนพิเศษที่สุดของฉันเหมือนกัน" ทิฟฟานี่ระบายยิ้มให้แทยอนอีกครั้ง




    บางที ความสัมพันธ์ที่ไม่มีคำจำกัดความแบบนี้มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวดเสียทีเดียว.. ในเมื่อถ้อยคำที่แสดงถึงความสำคัญมากมายที่แทยอนใช้กับเธอมันก็ยังสามารถหล่อเลี้ยงให้หัวใจของเธอยังเต้นต่อไปได้ในทุกๆวัน..





    ฉันรักเธอแทยอน.. ฉันรักเธอมากจริงๆ..




    ............







    เป็นบทที่มีแต่แทนี่ อ่อ.. มี ft. ยุนอาเล็กน้อย

    อิพี่แททำกับเค้าขนาดนั้นแล้วก็บอกๆไปเถอะ 55


    เป็นหมีก็หน่วงได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×