ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love wars : สงครามร้าย หัวใจรัก [SNSD fic. TaeNy ft. YulSic]

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 54


    Chapter 3




    "ฟานี่.. อาหารไม่อร่อยหรอ" ยูริมองหญิงสาวตรงหน้าที่นั่งนัยตาเหม่อลอย จับช้อนเขี่ยอาหารที่เธอตักไว้ให้จนพูนจานโดยไม่คิดจะเอาเข้าปาก



    เธอไม่แปลกใจเลยถ้าทิฟฟานี่จะหลงรักแทยอน เพราะน้องสาวต่างสายเลือดของเธอคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์ ถึงจะบ้าๆบอๆไม่สนใจใครไปบ้าง แต่ความฉลาดและหน้าตาที่ดึงดูดสายตาผู้พบเห็นของแทยอนก็ทำให้ใครหลายต่อหลายคนพากันหลงใหลปลาบปลื้มมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว

    และเธอก็ไม่แปลกใจอีกเหมือนกันถ้าแทยอนจะไม่สนใจทิฟฟานี่ ในความเป็นจริงต้องบอกว่าเจ้าน้องสาวตัวดีของเธอมันไม่สนใจความรักเลยมากกว่า ขนาดที่ว่าเพื่อนของเธอที่เคยเฝ้าตามจีบอยู่หลายปีต้องล่าถอยไปและให้เหตุผลกับเธอว่า น้องสาวเธอใช้เป็นแต่สมอง ไม่เคยใช้หัวใจ..


    แทยอนที่ภายนอกดูร่าเริงแจ่มใสเหมือนเด็กๆ แต่เธอรู้ดีว่าน้องสาวคนนี้มีโลกส่วนตัวสูงกว่าใคร.. โลกส่วนตัวที่เธอเองก็ไม่สามารถจะเข้าถึงได้..


    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การที่แทยอนมันจะไม่หวั่นไหวกับทิฟฟานี่เลยมันก็ออกจะดูแปลกไปหน่อย เพราะขนาดเธอเองที่ไม่ได้เจอกับทิฟฟานี่บ่อยๆยังหลงเสน่ห์ความอ่อนหวานของผู้หญิงคนนี้ไปเต็มๆ


    ไอ้แทมันโง่จริงๆที่มองข้ามผู้หญิงดีๆแบบนี้ไปได้.. และถ้าแกเกิดสนใจยัยสวยโหดนั่นจริงๆฉันว่าแกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแทยอน..


    "คะ?" ทิฟฟานี่เอียงคอถามยูริ มันชัดเจนอยู่แล้วที่ว่าเธอไม่ได้ฟังในสิ่งที่เค้าพูดเมื่อกี้เลย

    "ไม่หิวหรอ" ยูริระบายยิ้มบางๆ ความอ่อนโยนที่เธอมักแสดงต่อผู้หญิงคนนี้มันไม่ใช่การเสแสร้งเพื่อให้เธอสนใจ แน่นอนว่าเธอคาดหวังให้ทิฟฟานี่มองเธอบ้าง แต่ทุกการกระทำมันก็ออกมาจากหัวใจของเธอทั้งหมด

    "อ้อ.. พอดี.. มื้อเที่ยงกินมาเยอะมากเลยค่ะพี่ยูล" ทิฟฟานี่กระอ้อมกระแอ้มตอบพลางหลบสายตาของยูริเล็กน้อย


    เธอโกหกใครไม่เก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ..


    "อืมมม งั้น.. อยากกลับบ้านเลยมั้ยเดี๋ยวพี่ไปส่ง" ยูริเป็นแบบนี้เสมอ เธอเลือกที่จะมองข้ามในสิ่งที่ทิฟฟานี่ไม่อยากจะพูดถึง เธอไม่เคยซักไซ้ ไม่เคยแสดงออกให้ทิฟฟานี่ต้องอึดอัดใจ


    ถึงจะยังไม่ใช่คนที่รัก แต่อย่างน้อยๆแค่ได้เป็นใครสักคนที่ทิฟฟานี่สบายใจที่จะอยู่ด้วยกัน แค่นั้นก็ดีมากแล้วสำหรับเธอ..


    "พี่ยูลคะ.."

    "หืม?"



    "เราไปดูหนังกันมั้ย?"







    ..........







    "เธอรู้จักกับยัยโย่งปากจัดนั่นด้วยหรอ" เจสสิก้าเอ่ยปากถามคนตัวเล็กตรงหน้า หลังจากที่พากันมาหยุดยืนอยู่ที่หน้ารถยนต์สีดำราคาแพงของเธอ


    แทยอนเป็นผู้หญิงที่น่าคบหากว่ายูริมากมายในสายตาของเธอ.. ต้องเรียกว่าเทียบกันไม่ติดเลยดีกว่า ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์กว่ายัยคนที่จ้องแต่จะกัดเธอราวกับฟ้ากับเหว

    ไม่ใช่ว่ายูริหน้าตาไม่ดี.. จะว่าไปเรียกว่าดีมากก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ปากจัดๆของเธอมันทำให้เจสสิก้าเกลียดเข้าไส้


    "พี่ยูล.. เอ่อ.. คุณหมายถึงพี่ยูริหรอคะ" แทยอนพูดพลางก้มๆเงยๆขยับมือไปมาอยู่ที่กระโปรงหน้ารถอย่างชำนิชำนาญ


    ไม่คิดว่าวิชาวิศวกรรมที่เธอคิดจะเอามาเป็นประโยชน์ในการทำงานกับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า จะได้ใช้งานเร็วขนาดนี้ ดูผ่านๆก็รู้ได้ทันทีว่าสาเหตุของอาการทั้งหมดมันคืออะไร.. พี่ยูลคงไม่ทันดูว่าปัญหามันเป็นแค่ปลั๊กของไดชาร์ทมันหลุดแค่นั้นเอง



    แต่จะให้ซ่อมเสร็จง่ายๆมันก็คงจะตัดโอกาสของเธอที่จะได้อยู่กับเจสสิก้ามากไปหน่อย..



    ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของคนที่ทำลายชีวิตเธอจนล่มจม ทำให้ครอบครัวที่แสนสุขของเธอพังทลายลงเพียงชั่วข้ามคืน.. จะมีใครรู้บ้างว่าเธอผ่านช่วงเวลาเลวร้ายพวกนั้นมาอย่างยากลำบากเพียงใด จากเด็กวัยห้าขวบเศษที่มีชีวิตดุจดังเทพธิดาตัวน้อยๆของบ้าน ต้องกลายเป็นเด็กที่ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ เธอไม่เหลือใครสักคนนอกจากตัวเธอเอง..


    ถึงตอนนี้เธอก็ยังพยายามตามหาทุกคนในครอบครัวของเธอ แต่ก็ไม่มีวี่แวว.. เธอไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อแม่ของเธอต้องทนลำบากอยู่ที่ส่วนใดของโลก ไม่รู้เลยว่าพี่ชายของเธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดไหน จะขี้เล่น จะชอบแกล้ง จะคิดถึงน้องสาวคนนี้บ้างรึเปล่า..


    ไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอต้องทนฝันร้ายกับเรื่องพวกนี้มานานแค่ไหนแล้ว.. เธอเติบโตมากับความแค้น มันฝังรากลึกจนยากที่จะลบเลือนไปได้ง่ายๆ




    เธอเกลียดคนตระกูลจอง .. มันมากจนเธอไม่สามารถให้อภัยคนพวกนี้ได้แล้วจริงๆ
     



    "นี่เค้าคงไม่ใช่พี่แท้ๆของเธอใช่มั้ย?!" เจสสิก้าเลิกคิ้วถาม เสียงแหลมๆดึงแทยอนออกมาจากภาพแห่งอดีตอันปวดร้าวได้ในทันที


    แทยอนคลายปมที่หัวคิ้วลง ปั้นหน้ายิ้มหวานให้กับเจสสิก้าอีกครั้ง การปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเธอตั้งแต่ไหนแต่ไร


    "ไม่ใช่หรอกค่ะ อืม.. ฉันว่ารถของคุณมีปัญหานิดหน่อย.." การโกหกในเรื่องนี้ไม่มีประโยชน์ เพราะรูปร่างหน้าตาของเธอกับควอน ยูริมันยากที่จะเชื่อว่าเป็นพี่น้องท้องเดียวกันอยู่แล้ว การเลี่ยงที่จะเล่าถึงรายละเอียดและเบี่ยงเบนไปเรื่องอื่นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์แบบนี้

    "อ้าว! แล้วฉันต้องทำยังไงล่ะ" เจสสิก้าชักสีหน้าอย่างอารมณ์เสียทันทีเมื่อคิดว่าเธออาจจะต้องเสียเวลากับเจ้ารถพยศคันนี้ต่อ


    แทยอนลอบกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ .. เจสสิก้าเป็นอย่างที่ยุนอาพูดไว้ไม่มีผิด.. คุณหนูเอาแต่ใจ คงถูกตามใจซะเคยตัว.. นี่คงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากสินะกับเงินมหาศาลที่เธอได้มันมาเพราะความเลวของตระกูลเธอน่ะ


    "อาจจะต้องเปลี่ยนอะไหล่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะฉันรู้จักช่างเก่งๆไม่ใกล้ไม่ไกลแถวนี้ คุณจะรอ.. หรืออยากจะกลับก่อนคะ.." รอยยิ้มน่ารักยังปรากฎอยู่ที่ริมฝีปากตลอดเวลา เรื่องการคุยกับช่างไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่เรียนวิศวะจนได้เกียรตินิยมอย่างเธอ


    ไม่ว่าเจสสิก้าจะเลือกรอ.. หรือเลือกที่จะกลับบ้านไปก่อนมันก็เป็นโอกาสของเธอทั้งนั้น.. เพราะถึงเจสสิก้าเลือกที่จะกลับบ้าน เธอก็มั่นใจว่าคุณหนูแบบนี้คงไม่คิดจะนั่งแท็กซี่คนเดียวในเวลาแบบนี้แน่ๆ


    ยังไงๆมันก็ดีกว่าการที่เธอซ่อมรถยนต์เจ้าปัญหาคันนี้เสร็จง่ายๆ แล้วปล่อยให้คุณหนูจองขับรถกลับบ้านไปเองอย่างแน่นอน


    "อืม.. ยังไงดีล่ะ.." เจสสิก้ายอมว่ารอยยิ้มแบบนั้นของแทยอนทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมากทีเดียว เธอใช้ความคิดอยู่ได้สักพัก ก่อนที่การกระทำของแทยอนจะหยุดทุกความคิดของเธอลงทันที


    "ขอโทษนะคะ.." แทยอนพูดพลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้เจสสิก้าช้าๆ รอยยิ้มที่ผุดขึ้นอย่างจงใจโปรยเสน่ห์ขับให้ก้อนเนื้ออ่อนๆของหญิงสาวเต้นแรงและเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ เจสสิก้าแทบจะกลั้นหายใจเมื่อใบหน้าขาวใสของแทยอนอยู่ห่างออกไปแค่คืบ


    แทยอนค่อยๆดึงเศษใบไม้ที่ติดอยู่ที่ปอยผมของเจสสิก้าออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะระบายยิ้มอ่อนโยนให้อีกครั้ง


    "สงสัยจะหล่นมาจากข้างบนนู้นนะคะ" แทยอนเงยหน้ามองต้นไม้ด้านบนเล็กน้อย คงต้องขอบคุณมันอยู่เหมือนกันที่หยิบยื่นโอกาสให้เธอขนาดนี้ แม้จะไม่ได้มองใบหน้าสวยของเจสสิก้าตรงๆในตอนนี้ แต่ลานสายตาของเธอก็กว้างพอที่จะรู้ว่าคุณหนูตระกูลจองยังคงจับจ้องเธอไม่วางตา


    เจสสิก้าแทบจะตกอยู่ในภวังค์ไปแล้ว.. ทั้งแววตา รอยยิ้ม ความอ่อนโยนแบบนั้น.. แทยอนเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากจริงๆ..


    "ตกลงว่า.. คุณจะรอหรือจะกลับดีคะ.." แทยอนเอ่ยปากถามผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง ยิ่งพอได้มองหน้าเธอตรงๆในตอนนี้ มันยิ่งทำให้แทยอนมั่นใจว่าการที่จะดึงเจสสิกาเข้ามาอยู่เกมเกมนี้มันไม่ยากเกินความสามารถของเธอเลย..

    "เธอชื่ออะไรนะ" เหมือนเจสสิก้าจะไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอถามเท่าไรนัก

    "คะ?"

    "คุณชื่ออะไร.." น้ำเสียงที่อ่อนลงของหญิงสาวทำให้แทยอนยิ้มกริ่มในใจ




    "แทยอนค่ะ.. ควอน แทยอน.."





    ไม่ต้องห่วงนะคะ เรายังต้องเจอกันอีกนาน.. คุณจอง เจสสิก้า..


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    แทยอนส่งยิ้มให้คนในรถที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านไปช้าๆ และเมื่อไกลจนลับสายตาเธอก็หุบยิ้มลง สีหน้าเคร่งขรึมลงถนัดตา ข้อมือซ้ายถูกยกขึ้นดูนาฬิกาอย่างอัตโนมัติ


    สี่ทุ่ม.. ถ้าทิฟฟานี่ยังอยู่ไม่ไกลแถวนี้อาจจะทันหนังรอบสุดท้ายก็ได้..


    แทยอนแย้มยิ้มอย่างมีความหวัง ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดโทรศัพท์หาคนที่คิดถึงในทันที


    ปิดเครื่องงั้นหรอ?



    คนตัวเล็กกดหัวคิ้วลงอย่างแปลกใจเล็กน้อย ปกติแม้กระทั่งเวลานอนทิฟฟานี่ก็จะเพียงแค่ปิดเสียงไว้เท่านั้น แต่เธอก็เลือกที่จะหยุดความสงสัยไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะก้าวเท้าออกจากจุดที่ยืนอยู่ จากจังหวะการเดินปกติก็ค่อยๆเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวิ่งในที่สุด


    แทยอนสาวเท้าอย่างเร็วไปหยุดหอบหายใจอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เธอทรุดตัวลงนั่งอย่างกระสับกระส่าย ยกมือขึ้นดูนาฬิกาเป็นสิบรอบ จนในที่สุด เธอก็ตัดสินใจหยัดตัวขึ้นยืน และเริ่มออกเดินเร็วๆอีกครั้ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าราวกับนักวิ่งร้อยเมตรอย่างไม่กลัวเหนื่อย







    ..........







    "มิยอง! มิยองงงงงงง !!" แทยอนตะโกนเรียกหญิงสาวเจ้าของบ้านเสียงดัง มือเล็กถูกยกขึ้นกดออดหน้าบ้านหลายต่อหลายครั้งจนเริ่มมั่นใจว่าเธอยังไม่กลับ


    เมื่อกี้โทรไปหาพี่ยูลก็ปิดเครื่องเหมือนกัน.. แต่เพราะเป็นยูริ เธอถึงเชื่อว่าทิฟฟานี่จะต้องปลอดภัย เธอมั่นใจในตัวพี่สาวคนนี้เสมอ..



    ขอโทษ.. แต่ฉันไม่ได้ลืมสัญญาของเรานะมิยอง..



    แทยอนทรุดตัวลงนั่งหน้าบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน เป็นเพราะเมื่อกี้วิ่งมาเสียไกลมันเลยทำให้เธอลืมอากาศหนาวๆในค่ำคืนนี้ได้บ้าง แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า ลมเย็นๆของฤดูหนาวก็ทำเธอสั่นสะท้านไปหมด


    ถุงมือก็ให้มิยองไปแล้วด้วยสิ.. มือจะแข็งมั้ยวะเนี่ย..


    เธอเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งเฉยๆเป็นลุกขึ้นกระโดดไปมาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ในความจริงแล้วหากเธอจะกลับบ้านไปก่อนก็คงจะไม่ผิดอะไรนัก แต่เธออยากเจอทิฟฟานี่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอยังมุ่งมั่นที่จะยืนท้าลมหนาวอยู่ตรงนี้



    แค่ได้เห็นเธอยิ้มให้อีกครั้งก็พอแล้ว ภาพสุดท้ายที่จากกันเมื่อกี้มันรบกวนจิตใจฉันมากเลยรู้มั้ยมิยอง..

    .

    .

    .

    "พี่ยูลส่งฉันแค่นี้ก็ได้ค่ะ" เสียงหวานที่คุ้นหูดึงความสนใจทั้งหมดของแทยอนไปในทันที คนตัวเล็กหันมองตามต้นเสียงอย่างอัตโนมัติ ก่อนที่ภาพหญิงสาวสองคนตรงหน้าจะทำให้เธอต้องเบี่ยงตัวหลบเพื่อแอบมองอยู่ห่างๆ


    ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้.. เธอแค่รู้สึกแปลกๆที่เห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน ไม่ชอบ.. ใช่.. อยู่ๆเธอก็รู้สึกเซ็งขึ้นมาซะเฉยๆ


    ทั้งๆที่คาดหวังให้ยูริมาส่งทิฟฟานี่ตั้งแต่แรก แต่พอมาเห็นด้วยตาตัวเองแล้วมัน... บอกไม่ถูก...


    "ไม่เป็นไรหรอก มาซะขนาดนี้แล้ว อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้วเนี่ย" ยูริยิ้มอย่างอารมณ์ดี ยกมือขึ้นวางบนศีรษะเพื่อนของน้องสาว แล้วโยกเบาๆอย่างหยอกล้อ


    ไม่เป็นไรมั้ง.. ปกติกับไอ้หมาแทฉันก็ทำแบบนี้นี่นา..


    ทิฟฟานี่เคลื่อนศีรษะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะส่งค้อนเล็กๆให้ยูริคนขี้แกล้ง เรียกเสียงหัวเราะให้ร่างสูงได้ไม่น้อย


    ถ้ามีเครื่องมือวัดระดับความสุข ตอนนี้ค่าคะแนนของยูริคงพุ่งทะยานจนสูงปรี๊ดเป็นแน่!


    "ถึงแล้ว ขอบคุณนะคะพี่ยูล" เมื่อเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน ทิฟฟานี่ก็ระบายยิ้มสวย พลางค้อมศีรษะลงเล็กๆเพื่อเป็นการขอบคุณและบอกลาไปในตัว เห็นยูริก้มศีรษะตอบกันนิดๆ เธอจึงตัดสินใจหันหลังเพื่อเปิดประตูเข้าบ้าน



    ยอมรับว่าเธองอนแทยอน ไม่รู้จะเรียกว่างอนได้รึเปล่า หรือมันจะมากกว่านั้น.. เธอทั้งเสียใจ น้อยใจ ผิดหวัง ความรู้สึกมันเยอะแยะไปหมดตั้งแต่แทยอนปล่อยมือจากเธอและแสดงท่าทีสนอกสนใจผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักคนนั้น..


    ทิฟฟานี่ที่สนใจและเฝ้าสังเกตความเป็นไปของแทยอนในทุกๆเรื่อง มีหรือที่คนอย่างเธอจะไม่เห็นว่าแทยอนยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่สาวสวยคนนั้นแค่ไหน


    แทยอนไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร.. ถึงเธอจะรู้ดีว่าสำหรับแทยอนแล้วก็คงให้เธอได้แค่ความเป็นเพื่อน แต่สำหรับคนแอบรักอย่างเธอ พอเห็นแบบนั้นแล้วมันก็อดจะเจ็บปวดไม่ได้จริงๆ

    เธอยังไม่อยากกลับบ้าน ยังไม่พร้อมที่จะอยู่คนเดียวในเวลานั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เธอเลือกที่จะชวนยูริไปดูหนังรอบดึกด้วยกัน ซึ่งมันจะผิดอะไรในเมื่อแทยอนก็ผิดสัญญากับเธอเอง.. ยังไงแทยอนก็ไม่สนอยู่แล้วว่าเธอจะไปทำอะไรที่ไหน สำหรับเพื่อนอย่างเธอก็มีสิทธิ์แค่นี้.. เธอทำได้แค่มองดูแทยอนอยู่ห่างๆ.. แค่นั้นจริงๆที่เธอพอจะทำได้..




    เธอรู้มั้ยแทยอน ว่าฉันพยายามตัดใจจากเธอมากี่รอบแล้วน่ะ..








    "ฟานี่!" เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ทิฟฟานี่ต้องหันกลับไปมองทางยูริอีกครั้งพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย


    หรือฉันจะลืมของอะไรไว้ที่พี่ยูลรึเปล่านะ... ก็ไม่นี่นา...


    "เอ่อ.." ยูริตะกุกตะกักไปเล็กน้อย ยิ่งเห็นทิฟฟานี่ใกล้ๆมันยิ่งทำให้เธอ.. เขิน..

    "คะ?"

    "ฝันดีนะฟานี่.." โอ้.. พูดออกไปแล้ว..

    "ฝันดีค่ะพี่ยูล" ทิฟฟานี่ตอบกลับภายในเสี้ยววินาที เห็นท่าทีขัดๆเขินๆของคนตรงหน้าแล้วก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ แน่ล่ะ.. การบอกว่าฝันดี ถึงจะเป็นประโยคง่ายๆแต่มันก็ขัดกับบุคลิกของยูริอยู่ไม่น้อย



    ยูริมองทิฟฟานี่หันกลับไปวุ่นวายกับการไขกุญแจบ้านอีกครั้ง เข้าใจเลยว่าไอ้คนที่มันอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้นี่มันรู้สึกยังไง



    "ฟานี่!" สุดท้ายก็เรียกอีกจนได้..


    และทิฟฟานี่ก็หันขวับมามองเธออีกครั้ง ในท่าทีแบบเดิมเป๊ะ!


    เอิ่ม.. คราวนี้จะพูดอะไรดีวะ..


    "หนังสนุกเนอะ!" พูดเสร็จก็กระตุกยิ้มแหยๆหนึ่งที ก็คำพูดนี้น่ะ เธอพูดไปเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้งวันนี้เนี่ย!

    "อ๋อค่ะ"

    "ห่ะๆ ฟานี่เข้าบ้านเถอะ" เรียกเอง ไล่เองเรียบร้อย! เก่งมากควอน ยูริ!!


    ทิฟฟานี่อมยิ้มน้อยๆก่อนจะก้มศีรษะบอกลาอีกครั้ง นี่ถือเป็นครั้งที่สามของวันที่เธอเห็นทิฟฟานี่พยายามเปิดประตูบ้านหลังนี้..



    "ฟานี่!" โอ้ย! ไอ้บ้า! แกจะเรียกเค้าทำไมนักหนาวะเนี่ยยยยยยยยยย!!!


    ถึงจะหมดมุข.. แต่ในเมื่อเรียกเธอไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำนิดนึง..


    "พี่ไปนะ.. ห่ะๆ.." คำพูดสิ้นคิดที่สุดในโลกหลังจากบอกลากันเป็นสิบรอบ เธอก็ยังขุดคำบอกลามาบอกกันอีกจนได้



    พูดเสร็จก็อยากจะทึ้งผมตัวเองทิ้งให้หมด! ไอ้ยูลเอ้ยยยยย ! นี่ถ้าไม่น่าเกลียดฟานี่คงตอบว่า ฉันรอให้พี่ไปตั้งนานแล้วนะคะ หรือไม่ก็ เพราะพี่ยังไม่ไปสักทีนี่แหละฉันถึงเข้าบ้านไม่ได้!



    โอ้ ควอน ยูริ!!!! แกทำอะไรลงไปเนี่ยยยยยยยยย!!!!!!!!



    ยูริกลับหลังหันอย่างไวราวกับนักเรียนนายร้อย ใช่สิ.. มันเป็นเพราะฉันไม่ชอบเห็นทิฟฟานี่เดินจากไป ฉันจึงพยายามรั้งไว้อยู่เรื่อย... เพราะงั้น ชิ่งหนีออกมาเองแบบนี้แหละดีที่สุด!!




    ทิฟฟานี่เลิกคิ้วมองยูริที่เดินห่างเธอไปอย่างเร็ว ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ



    พี่ยูลนี่ตลกดีแฮะ.. ไม่เคยรู้เลย.. อิอิ


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    แทยอนเผลอขมวดคิ้วเป็นปมแน่น เธอเห็นทุกๆการกระทำ สีหน้า แววตา ทุกๆอย่างเธอเห็นมันหมด..


    เป็นเพราะเธอไม่ใช่คนที่จะมานั่งสังเกตพฤติกรรมของคนอื่น ทำให้เธอมองข้ามความหวังดี ความเป็นห่วงเป็นใย และอะไรอีกมากมายที่ยูริพยายามจะแสดงออกต่อทิฟฟานี่เสมอมา..

    เป็นเพราะเธอไม่เคยสนใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้ มันทำในเธอคิดว่ายูริมองทิฟฟานี่เป็นน้องสาว เหมือนๆกับที่มองเธอ..

    แต่ภาพเมื่อกี้มันชัดเจนเกินกว่าที่เธอจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่จริง ถึงเธอจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ แต่เธอก็อยู่กับยูริมานานมากพอที่จะรู้ว่าลักษณะแบบนั้นของยูริมันหมายความว่ายังไง








    แล้วถ้าเธอไม่ชอบ.. ถ้าเธอไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น.. มันจะผิดมากรึเปล่า?







    ........



    เปลี่ยนมายูลทิกันเถอะ... (แม่ยกตบ! 55)


    มีบางคนเริ่มหมั่นไส้อิพี่แท เมะหลักของเรื่องแล้วค่ะ อย่าเพิ่งนะคะ ยังมีให้หมั่นไส้อีกเยอะ! ไม่ใช่ๆ 555 สงสารพี่แทเค้าหน่อยนะคะ อดีตหมามันเศร้าน้า.. โดนทิ้งตั้งแต่ 5 ขวบเชียวนะ !

    (ไรเตอร์พยายามแก้ตัวให้เต็มที่แล้วนะคะพี่แท!)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×