ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love wars : สงครามร้าย หัวใจรัก [SNSD fic. TaeNy ft. YulSic]

    ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 54


    Chapter 2



    "โอ้ย! เป็นบ้าอะไรเนี่ย!" หญิงสาวใช้อุ้งมือตบเข้าที่พวงมาลัยอย่างหัวเสียเมื่ออยู่ๆรถยนต์ยุโรปราคาสูงก็มาตายเอาเสียดื้อๆ


    เจสสิก้า หยิบเสื้อโค้ทราคาแพงคลุมร่างบางไว้ ก่อนจะเปิดประตูฝ่าอากาศหนาวๆในยามพลบค่ำของฤดูเหมันต์ไปก้มๆเงยๆอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ



    จริงๆก็ทำอะไรไม่เป็นหรอกนะ..



    "รู้แบบนี้ให้คนขับรถมาส่งซะก็ดี" เธอบ่นขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ และเมื่อล้วงมือเข้าไปควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ต้องสถบออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ทันที


    แบตหมด! ฉันจะกรี๊ดตรงนี้ได้มั้ยเนี่ย!!!!


    ว่าแล้วคุณหนูแห่งตระกูลจองก็ยกมือขึ้นปิดปากและส่งเสียงกรีดร้องเบาๆในลำคอเพื่อไม่ให้น่าเกลียดนัก แต่การกระทำนั่นก็ไม่พ้นสายตาก็หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบผ่านมาถึงยังบริเวณนั้นพอดี


    ยูริค่อยๆชะลอฝีเท้าลงเมื่อสายตาแหลมคมไปปะทะเข้ากับร่างบางที่แสนจะคุ้นตาตรงหน้า เธอย่นหัวคิ้วลงเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัสของภาพ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆเมื่อสมองเริ่มที่จะประมวลผลได้ว่า เธอต้องเจอกับยัยป้าจิตใจพิการนี่อีกจนได้



    กรุงโซลนี่มันแคบจริงๆ ให้ตายสิ!



    "แทยอนหรอ รอพี่อีกแป๊บนะ พอดีงานที่บริษัทยุ่งมากเลย" ยูริกดโทรศัพท์หาน้องสาวที่นัดแนะกันไว้ ในความเป็นจริง ตอนนี้มันก็ล่วงเลยเวลานัดมาได้หลายนาทีแล้วเหมือนกัน แต่คงไม่เป็นอะไรมากเพราะแทยอนเองก็อยู่กับทิฟฟานี่ สถานที่ที่นัดกันไว้ก็อยู่ใกล้แค่นี้ ขืนจะให้เธอทิ้งผู้หญิงที่ดูสิ้นไร้หนทางตรงหน้าคนนี้ไปซะเฉยๆมันก็ดูไร้ซึ่งมนุษยธรรมไปหน่อย


    ถึงยัยป้านี่จะเป็นคนที่เธอเกลียดขี้หน้านักหนาก็เถอะ


    "รถเสียหรอ" น้ำเสียงห้วนๆถูกส่งไปทักทายกันทันทีเมื่อยูริมายืนหยุดอยู่ตรงหน้ารถสีดำเมทัลลิคราคาสูงปรี๊ด


    ยัยป้านี่รวยน่าดู..


    "ถ้าไม่เสียฉันจะมายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้รึไง" นั่น.. มันน่าช่วยมั้ยล่ะแบบนี้น่ะ!


    ยูริกระตุกหัวคิ้วมองหญิงสาวอย่างเคืองๆ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ว่าเป็นคนเกาหลีเหมือนกันเธอคงไม่ยืนหายใจให้เสียอารมณ์อยู่ตรงนี้แน่ๆ


    "เปิดกระโปรงสิ" ร่างสูงขยับเข้าใกล้ยานพาหนะสุดหรู หันมองหน้าเจสสิก้าอีกครั้งก่อนจะออกคำสั่งใส่เธอ

    "บ้ารึไง!" เจสสิก้าถลึงตามองอย่างตกใจ ยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้อย่างอัตโนมัติ


    ยัยนี่คิดจะฉวยโอกาสกับฉันรึไง! เห็นว่ามืดๆ รถเสียไปไหนไม่ได้สินะ! กรี๊ดดด!!


    "นี่ป้า! คิดว่าฉันอยากดูของป้านักรึไง! ฉันหมายถึงกระโปรงรถนี่ เข้าไปเปิดสิ!" ยูริถอนหายใจอย่างแรง เธอว่าคำพูดของเธอกับสถานการณ์แบบนี้มันก็ไม่คลุมเครือสักนิด ยัยป้านี่หมกมุ่นชัดๆ!!

    "ก็พูดให้มันครบๆไม่ได้รึไง!" เจสสิก้าสะบัดเสียงใส่ ก่อนจะเดินเข้าไปกดปุ่มให้กระโปรงหน้ารถเปิดขึ้น ทำไมคนที่โผล่มาช่วยเธอตอนนี้ถึงต้องเป็นยัยโย่งปากจัดนี่ด้วยก็ไม่รู้!

    .

    .

    "ไดชาร์ทเสียล่ะมั้ง" ยูริที่ขยับตัวเข้าออกระหว่างในรถกับนอกรถอยู่สักพัก พูดขึ้นเบาๆ หันมองเจสสิก้าที่เลิกคิ้วมองเธออย่างงงๆ


    กับรถยนต์เนี่ย.. เจสสิก้าขับมันได้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ..


    "ยืนนิ่งทำไม โทรตามช่างสิ"

    "อ่าว เธอซ่อมเองไม่ได้รึไง"

    "นี่เธอ! คาดหวังมากเกินไปรึเปล่า ฉันเป็นแค่พนักงานบริษัท ไม่ใช่ช่างซ่อมรถนะ แค่รู้ว่ามันพังตรงไหนก็ประเสริฐมากแล้วเนี่ย!"

    "แล้วจะดูทำไม บอกให้ตามช่างตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง"

    "อ้าวป้า! พูดงี้ก็สวยดิ!" ยูริชักสีหน้าขึ้นในทันที เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่สามารถทำให้เธอขัดเคืองอารมณ์ได้มากขนาดนี้มาก่อน



    "นี่! ฉันไม่ใช่ป้านะ! ฉันชื่อเจสสิก้า, จอง เจสสิก้า จำไว้ด้วย!"







    .........







    "พี่ยูลบอกว่างานยุ่งน่ะ คงจะมาช้า" แทยอนเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมาส่งยิ้มบางๆให้ทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆเธอ



    เป็นเพราะแทยอนกับยูริย้ายจากต่างจังหวัดมาเรียนในกรุงโซลตั้งแต่ขึ้นชั้นปี 1 ยิ่งได้เข้ามาใช้ชีวิตด้วยกันเพียงสองคนในเมืองใหญ่ยิ่งทำให้เธอกับยูริสนิทกันมากกว่าพี่น้องแท้ๆบางคู่เสียอีก



    สำหรับทิฟฟานี่นั้น เธอเลือกที่จะกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเกาหลีทั้งๆที่คนในครอบครัวอาศัยอยู่ที่อเมริกา เพราะเธอให้เหตุผลว่าเกาหลีเป็นเหมือนประเทศแม่ ครั้งหนึ่งในชีวิตเธอก็อยากที่จะกลับมาเรียนรู้วัฒนธรรมที่นี่ ก่อนที่จะกลับไปสานต่อธุรกิจของครอบครัวอีกครั้ง

    แต่ถึงตอนนี้.. เธอก็ยังไม่กลับอเมริกา โดยอ้างเหตุผลว่าอยากจะหาประสบการณ์ที่นี่ต่ออีกสักพัก แต่ใครจะรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของเธอคือคนคนเดียวที่เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของเธอคนนี้นี่แหละ



    "เราไปเดินเล่นกันเถอะมิยอง เดี๋ยวพี่ยูลมาก็โทรมาเอง รอตรงนี้ก็เสียเวลาเปล่าๆ" แทยอนจับมือทิฟฟานี่ กระตุกเบาๆให้คนที่ตัวใหญ่กว่าขยับลุกตามได้ไม่ยาก



    พอออกจากตัวอาคาร ลมหนาวที่ปะทะเข้าหน้าก็ทำเอาทิฟฟานี่ต้องห่อตัวลง ยกสองมือขึ้นถูไปมาเพื่อให้ความอบอุ่น

    แทยอนถลึงตามองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ รีบคว้าสองมือเปล่าเปลือยของทิฟฟานี่มากุมไว้ ก่อนจะเอ่ยปากดุทันที


    "รู้ว่าหนาวแล้วทำไมไม่ใส่ถุงมือมาล่ะมิยอง!"

    "ฉันเอามาแล้วนะแทแท แต่สงสัยจะถอดลืมไว้ที่ที่ทำงาน" ทิฟฟานี่ตอบเสียงอ่อย รู้สึกพลาดที่เผลอเอามือที่อุตส่าห์ซุกซ่อนไว้ในเสื้อโค้ทตัวยาวออกมาให้แทยอนเห็นจนได้


    คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ทิฟฟานี่ชอบทำให้เธอเป็นห่วงแบบนี้เสมอ เธอถอดถุงมือของตัวเองออกและไม่ลังเลที่จะใส่มันให้ทิฟฟานี่ทันที


    "ไม่ต้องหรอกแทแท ฉันไม่หนาวสักหน่อย" ทิฟฟานี่ดึงมือห่างออกมานิดหน่อย ถึงเธอจะหนาวแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ต้องมาลำบากเพราะเธอนี่นา

    แทยอนกดหัวคิ้วมองใบหน้าหวานก่อนจะจับมือเธอไว้แน่นไม่ให้ขยับหนีไปไหน และค่อยๆสวมถุงมือของตัวเองให้กันอย่างเบามือ

    "มือเย็นขนาดนี้ยังทำมาอวดเก่งอีก" แทยอนระบายยิ้มบางๆ สำหรับเธอแล้วทิฟฟานี่เป็นคนที่เธอห่วง เป็นผู้หญิงที่เธอแคร์มากที่สุดเสมอมา ทิฟฟานี่เป็นคนสำคัญ เป็นเหมือนครอบครัวของเธออีกคน


    แต่ทิฟฟานี่ไม่เหมือนยูริ ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไร จะว่าไปจริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้อยากหาความหมายของความรู้สึกนี้สักเท่าไหร่ ในเมื่อวันนี้ที่มีทิฟฟานี่อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ เธอก็มีความสุขดีอยู่แล้ว


    "แล้วแทไม่หนาวรึไง"

    "ทำแบบนี้ก็ไม่หนาวแล้ว" พูดจบก็ดึงตัวคนที่ตัวใหญ่กว่าเข้ามาชิดใกล้ ประสานมือกันไว้แน่น ก่อนจะซุกทั้งมือเธอและมือของทิฟฟานี่เข้ามาอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวหนาของตัวเอง


    ทิฟฟานี่ลอบมองแทยอนอย่างขัดเขิน แค่เห็นแทยอนอมยิ้มน้อยๆใบหน้ามันก็ร้อนผะผ่าวขึ้นมาเฉยๆ

    เพราะแทแทเป็นแบบนี้ ฉันถึงตกหลุมรักเธอได้วันละหลายๆรอบ.. แทยอนที่แสนดีของฉัน..




    "โอ๊ะ! มิยอง! นั่นหนังเรื่องที่เธออยากดูนี่นา" แทยอนใช้มือข้างที่ว่างชี้ไปที่จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่บนตึกสูง ที่ฉายภาพทีเซอร์ภาพยนตร์รักโรแมนติกชื่อดัง แววตาเป็นประกาย รอยยิ้มที่ผุดขึ้นคล้ายเด็กตัวเล็กๆถูกส่งให้ทิฟฟานี่ทันที จนอดที่จะยิ้มตามกันไม่ได้

    "คืนนี้หลังมื้อเย็นเราชวนพี่ยูลไปดูด้วยกันมั้ย" ทิฟฟานี่เคยบอกเธอว่าอยากดูมาก ใช่.. เธอจำได้ดี แต่เป็นเพราะช่วงนี้เธอวุ่นวายอยู่กับเรื่องบางอย่างทำให้ไม่มีเวลาเสียที

    "อ้อ..." ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอรู้สึกดีใจที่แทยอนจำมันได้ แม้ว่าคราวนั้นเธอจะเพียงแค่พูดออกมาลอยๆก็ตาม แต่ที่อ้ำๆอึ้งๆอยู่เนี่ยเพราะเธออยากจะดูกับคนตัวเล็กแค่สองคนต่างหาก



    "ฉัน.. อยากดูกับแทแทสองคนน่ะ.." ทิฟฟานี่กลั้นใจพูดอย่างที่ใจคิด พูดเสร็จก็หลบสายตาออกมาอย่างขัดเขิน


    ถ้าเธอมองแทยอนต่ออีกสักหน่อย ก็คงได้เห็นใบหน้าขาวใสราวเด็กน้อยนั้นเขินอายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น


    "อ่อ.. งั้นหรอ.. ได้สิ.. งั้นกินเสร็จเราไล่พี่ยูลกลับบ้าน แล้วไปดูกันสองคนนะ" แทยอนที่ปรับอารมณ์ได้เร็วกว่าพูดขึ้นพลางหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี



    ความจริงเธอเองก็อยากดูกับทิฟฟานี่แค่สองคนเหมือนกัน แต่ถ้าพูดแบบนี้แต่แรกมันคงดูแปลกอยู่ไม่น้อยสำหรับคนอย่างเธอ



    "จริงนะ!" ทิฟฟานี่ผู้ไม่เคยปกปิดความรู้สึกของตัวเองได้หันกลับมามองแทยอนพร้อมดวงตายิ้มน่ารัก นับว่าความกล้าเล็กๆเมื่อกี้ของเธอประสบความสำเร็จมากทีเดียว



    "อื้ม ถ้าเบี้ยวให้เรียกหมาได้เลย!"


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    "นี่เธอ! จะตามฉันมาทำไมเนี่ย!!" ยูริขมวดคิ้วมองคนที่สาวเท้าตามเธอมาติดๆ ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกเพื่อที่จะหนีหญิงสาวที่เจ้าอารมณ์ที่สุดในโลกในความคิดของเธอ



    ต่อให้สวยกว่านี้เป็นล้านเท่า ฉันก็ไม่มีวันจะคิดพิศวาสกับยัยนี่ได้แน่ๆ



    "ก็เธอไม่หยุดนี่! เธอจะปล่อยให้ฉันยืนรอช่างอยู่ตรงนั้นคนเดียวได้ยังไง! นี่มันมืดแล้วนะ แล้วฉันก็เป็นผู้หญิง!!" เจสสิก้าบ่นยาวอย่างหัวเสีย โทรศัพท์ก็แบตหมด นอกจากเบอร์ตัวเองแล้วจำเบอร์ใครไม่ได้สักคน ต้องยอมให้ยูริโทรตามช่างโกโรโกโสที่ไหนก็ไม่รู้ที่บอกว่ากว่าจะมาถึงคงต้องรอเป็นชั่วโมงๆ!


    ฉันเป็นผู้หญิงนะ! แล้วไอ้ช่างที่ตามมานั่นจะไว้ใจได้มั้ยก็ไม่รู้ เกิดมันหน้ามืดทำอะไรฉันขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ!!!


    "ถ้ากลัวนักก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านซะสิ! หรือถ้ายังกลัวอีกก็รถเมล์นู่น! คงไม่มีใครวิตถารปล้ำเธอกลางรถเมล์หรอกน่า!!"

    "นี่เธอ! จะให้คนอย่างฉันกลับรถเมล์เนี่ยนะ!!"

    "อ้าว! นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา! เธอจะให้ฉันอุ้มเธอกลับบ้านเลยมั้ยยัยป้า!!"

    "นี่! ฉันบอกว่าฉันชื่อเจสสิก้า!!"

    .

    .

    "เกิดอะไรขึ้นหรอพี่ยูล ทำไมมาเอะอะโวยวายแบบ.." แทยอนกับทิฟฟานี่ที่เดินอยู่ไม่ไกลได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังโหวกแหวกจึงได้ก้าวเร็วๆมาตามทางของต้นเสียง และทันทีที่แทยอนได้เห็นว่าคู่กรณีของพี่สาวเธอเป็นใคร คำพูดทั้งหมดก็ถูกกลืนหายไปในลำคอทันที


    จอง เจสสิก้า! นี่พี่ยูลรู้จักลูกสาวประธานจองด้วยหรอเนี่ย!


    แทยอนเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงเพียงชั่วครู่ ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ ดึงมือออกจากทิฟฟานี่และรักษาระยะห่างออกมาเล็กน้อย จนทิฟฟานี่ต้องเอียงคอมอเธออย่างแปลกใจในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแบบนั้น


    "พี่ยูลมีอะไรรึเปล่า" แทยอนเดินเข้าไปใกล้ๆยูริและเจสสิก้า เอ่ยปากถามพี่สาวอย่างเป็นห่วงเป็นใย ก่อยจะโปรยยิ้มไปทางเจสสิก้าเล็กน้อย



    ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ยูลกับเจสสิก้า แต่นี่มันก็คือโอกาสของฉัน..



    "ก็ยัยป้านี่ดิ! ตามพี่มาอยู่ได้ รถตัวเองเสียพี่ก็เรียกช่างให้ นี่อะไรจะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนอีก บอกให้กลับรถเมล์ก็ไม่ยอมกลับ!"

    "นี่เธอ! เลิกเรียกฉันว่าป้าสักที! แล้วก็ถ้าช่างของเธอมันน่าไว้ใจน่าเชื่อถือฉันก็คงไม่ต้องเดินตามเธอมาแบบนี้หรอกนะ รู้ไว้ซะด้วย!"

    "อ้าว! ป้านี่ยังไง! ฉันบอกว่.."


    "พี่ยูลพอเถอะ" แทยอนยกมือปราบยูริที่กำลังเถียงคอเป็นเอ็น ถึงจะรู้ดีว่าพี่สาวนอกไส้คนนี้ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนโดยสายเลือด ออกจะเป็นคนมีเหตุผลเสียด้วยซ้ำไป แต่นาทีนี้เธอคงต้องเลือกที่จะอยู่ข้างเจสสิก้าไว้ก่อน แม้ว่าจะเป็นฝ่ายผิดต่อยูริก็ตาม


    เจสสิก้ายกยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อเมื่อเห็นว่าผู้หญิงตัวเล็กเลือกที่จะเข้าข้างเธอมากกว่าคนที่ร้จักกันอย่างยูริ เธอหันมองแทยอนเล็กน้อย ปฏิเสธไม่ได้ว่าใบหน้าขาวใสนั้นมีเสน่ห์มากทีเดียว และรอยยิ้มเล็กๆเมื่อกี้มันก็สามารถทำให้หัวใจเธอกระตุกได้ไม่ยากนัก


    "แทยอน! นี่แกเข้าข้างยัยนี่รึไง!!" ยูริมองหน้าน้องสาวอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าเธอจะเข้าข้างคนอื่น ทั้งๆที่รู้จักกันดีแท้ๆ

    "พี่ยูลไปเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการให้.." แทยอนพูดขึ้นอย่างใจเย็น สายตาที่จริงจังทำให้ยูริต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง

    "แกจะไปสนยัยนี่ทำไมแทยอน! แกไม่รู้หรอกว่าแม่นี่ร้ายขนาดไหน" ยูริจ้องมองน้องสาวสลับกับผู้หญิงที่แสนร้ายกาจในความคิดของเธอไปมา


    นึกถึงตอนที่ชนน้องซอล้มลงกับพื้นแล้วไม่ยอมขอโทษ แล้วก็ยังโกรธไม่หาย!


    แทยอนไม่ได้มีท่าทีสนใจในคำพูดของยูริมากนัก ยอมรับว่าตอนนี้เธอสนใจลูกสาวประธานจองคนนี้มากกว่าสิ่งใดทั้งหมด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพรายของที่ริมฝีปากของเธอโดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นมัน.. และแน่นอนว่าเธอไม่อยากให้ใครก็ตามรับรู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรต่อไป..



    "พี่ยูลไปก่อนเถอะ ไม่ต้องรอกินข้าวนะ เดี๋ยวฉันคงกลับบ้านเลย อ่อ... ฉันฝากมิยองด้วยนะพี่.." เธอหันไปบอกยูริอีกครั้ง ก่อนที่ดวงตาของเธอมันจะไปกระทบเข้ากับสายตาที่อ่านยากของทิฟฟานี่


    มันเหมือนสับสนระคนตัดพ้อ.. ไม่แน่ใจ.. แต่เธอทนมองแววตาแบบนั้นของทิฟฟานี่นานๆไม่ได้.. เธอรู้สึกผิด.. เธออยากจะเดินกลับไปหา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ในตอนนี้


    "แทยอน แกเป็นอะไรไปเนี่ย! ยัยนี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเราสักหน่อย! ทำไมต้องใส่ใจขนาดนั้นด้วย แค่พี่โทรตามช่างให้มันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่รึไง!"



    "ไปเถอะค่ะพี่ยูล.." หลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน ทิฟฟานี่ก็เดินเข้ามากระตุกเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของยูริก่อนจะระบายยิ้มบางๆที่ดูพยายามเสียเหลือเกิน

    "เอางั้นหรอ.." ยูริหันมองหน้าทิฟฟานี่ ก่อนจะเลิกคิ้วถามเพื่อความมั่นใจ


    ถึงเธอจะไม่อยากจะยอมรับ แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทิฟฟานี่มีความรู้สึกพิเศษกับแทยอนอยู่ไม่น้อย.. สายตาของทิฟฟานี่ไม่เคยปกปิดอะไรได้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีความหวังที่จะได้ครอบครองหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนนี้อยู่ดี

    ในเมื่อน้องสาวของเธอไม่มีท่าทีจะสนใจทิฟฟานี่อย่างที่ควรจะเป็น แล้วมันผิดหรือถ้าเธอคิดจะเป็นคนที่ดูแลผู้หญิงคนนี้เสียเอง


    "โอเค.. งั้นแก..อย่ากลับบ้านดึกนะไอ้หมาแท! พี่ไปแล้ว!" เห็นทิฟฟานี่พยักหน้ายิ้มน้อยๆ ยูริจึงยิ้มกลับให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันกลับไปหาสั่งน้องสาวตัวดีที่เห็นคนอื่นดีกว่าพี่ตัวเองเสียได้



    ปกติแล้ว.. แทยอนก็ไม่ใช่คนที่สนอกสนใจคนอื่นมากนัก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้าแบบนี้.. หรือไอ้แทมันจะตกหลุมรักยัยป้านี่?!


    ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความสงสัยได้เพียงไม่นาน ก็ต้องรีบขยับตัวตามทิฟฟานี่ที่เดินล่วงหน้าไปก่อนแล้ว โดยทิ้งปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกนี่ไว้เบื้องหลัง







    แทยอนมองตามยูริที่เร่งฝีเท้าไปจนอยู่ในระดับเดียวกับทิฟฟานี่อย่างรู้สึกแปลกๆในหัวใจ.. เธอไม่ชอบเห็นใครก็ตามเข้าใครเพื่อนคนนี้ของเธอ แม้ว่าจะเป็นพี่สาวของเธอเองก็ตาม.. เธอเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เธอพยายามทำตัวเป็นก้างติดตามทิฟฟานี่ไปทุกที่




    แต่ตอนนี้เธอมีเรื่องที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด.. เธอรอคอยวันนี้มาถึง 15 ปีเต็ม นับตั้งแต่วันที่เธอโดนทิ้งให้อยู่ที่สถานสงเคราะห์เพียงลำพัง..


    วันที่จะได้ทวงทุกๆอย่างในชีวิตของเธอกลับคืนมา.. และคนเพียงคนเดียวที่สามารถพาเธอไปถึงจุดนั้นได้ก็มีแต่เธอคนนี้เท่านั้น..




    จอง เจสสิก้า.. ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในเกมการแก้แค้นที่เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป








    ...........





    เป็นบทที่มีแต่ตัวละครหลัก (เริ่มคิดถึงพี่ยุนยอมเกรียนขึ้นมานิดหน่อย.. อิอิ)


    ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ


    :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×