ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1
Chapter 1
กระดาษแผ่นขาวมากมายถูกจัดลงแฟ้มอย่างประณีต เอกสารข้อมูลถูกจัดเป็นหมวดหมู่ ทั้งประวัติ การศึกษา รางวัลและผลงานต่างๆที่เธอทำมาตลอดทั้งชีวิตได้รับการรวบรวมลงหน้ากระดาษอย่างกระชับ ได้ใจความ
แทยอนเปิดแฟ้มสะสมผลงานตรงหน้าดูเป็นรอบสุดท้าย แฟ้มสะสมผลงานที่เธอทุ่มเวลาให้มันตั้งแต่สมัยเรียน และแน่นอนว่าเธออยากให้มันออกมาดีที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สำหรับคนที่มีความสามารถอย่างเธออาจไม่จำเป็นต้องลงทุนกับสิ่งเหล่านี้มากมายขนาดนี้ เพราะเพียงแค่ผลการเรียน และผลงานที่โดดเด่นสะดุดตาก็มีบริษัทน้อยใหญ่ต้องการดึงตัวเธอเข้าร่วมงานมากมายจนแทบไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์เสียด้วยซ้ำ
แต่สำหรับ จอง คอร์ปฯ หรือ เคเจ คอร์ปฯในอดีตนั้น เธอต้องการสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้าไป.. จนถึงวันสุดท้ายของตระกูลจองในบริษัท ซึ่งเธอมั่นใจว่ามันจะต้องสร้างความประทับใจกว่าวันแรกของเธออย่างเทียบกันไม่ติด
แทยอนปิดแฟ้มลง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้กลับไปยังตำแหน่งของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คสีดำสนิทที่เธอใช้เสิร์ชหาข้อมูลสำคัญทิ้งไว้
ไล่สายตาผ่านประวัติอันยืดยาวของบริษัทที่ได้รับการบิดเบือนอย่างน่าเกลียด ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเค้นเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ
"หืม.. จอง เจสสิก้า.. ลูกสาวประธานบริษัทงั้นหรอ?" เมื่อสายตามาหยุดอยู่ที่รูปหญิงสาวหน้าตาดีมากคนหนึ่งที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานบริษัท ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนประธานจอง แทยอนก็ต้องหยุดจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่แบบนั้น พลางย่นหัวคิ้วลงอย่างอดไม่ได้
"จบ MBA จากอเมริกาเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว.. เพิ่งเข้ามาสานต่องานในบริษัทได้ไม่นาน...." เธออ่านข้อมูลที่เขียนไว้ใต้รูปอย่างละเอียดซ้ำไปซ้ำมา
"น่าสนใจจริงๆ.." ประโยคสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากบางอีกครั้ง ก่อนที่มุมปากจะถูกยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์..
.......
"ซอฮยอนนนนนนนน !!!!!" ควอน ยูริป้องปากตะโกนเสียงดัง หวังจะให้คนที่นั่งหันหลังอยู่ไกลๆได้ยิน แต่เธออาจจะลืมไปว่า ตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านอับกูจอง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า Korea's Beverly Hills หรือพูดง่ายๆมันก็คือย่านคนรวยแบบมากๆแห่งหนึ่งของกรุงโซลนั่นเอง
"พี่ยูล.. เบาๆก็ได้.." ซอ จูฮยอน หรือ ซอฮยอน หญิงสาวหน้าตาน่ารักในชุดนักศึกษาฝึกงาน ก้มตัวหลบสายตาผู้คนที่จ้องมองมาอย่างเคอะเขิน สองขายาวก้าวเร็วๆมาหยุดอยู่หน้ารุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ด้วยกันในรั้วมหาลัย จนตอนนี้ที่ควบตำแหน่งเป็นสต๊าฟคอยสอนงานในบริษัทออกแบบโฆษณาเล็กๆที่เธอฝึกงานอยู่
"เออ โทษทีๆพี่ลืมไป นี่เกือบจะกระโดดชูไม้ชูมือแล้วนะเนี่ย" ยูริพูดเร็วๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองบรรยากาศรอบกายอีกครั้ง
จะอึมครึมกันไปไหนวะเนี่ย ส่งเสียงนิดหน่อยก็ไม่ได้ แล้วยัยคุณป้าบ้าแบรนด์เนมนั่นจะมองให้รองเท้ามือสองของฉันผุดยี่ห้อวิ้งวับขึ้นมารึงายยยยย! ฉันไม่ใช่ลูกสาวป้านะ ไม่ต้องมองคาดโทษขนาดนั้นก็ได้!!
"งานเรียบร้อยแล้วนะคะ ลูกค้าโอเคมาก" ซอฮยอนสะกิดไหล่กันเบาๆพร้อมรอยยิ้มหวานที่ประดับบนใบหน้า แฟ้มงานที่เปิดหน้าสัญญาได้รับการลงลายมือชื่ออย่างชัดเจนถูกยื่นมาตรงหน้า ทำให้ฉันละสายตาจากอาจุมม่าหน้าป่วยมาสนใจรุ่นน้องน่ารักคนนี้ได้ในทันที
"โห น้องซอสุดยอดดดดดดดดดดดดดด!!!!" และแล้วฉันก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอีกรอบ..
"พี่ยูล กะจะให้คนอื่นเค้ารู้จักชื่อซอกันหมดเลยรึไงคะ" ซอฮยอนหัวเราะเบาๆในท่าทีกระโตกกระตากของฉัน แต่เอาเถอะ ตอนนี้ฉันสนใจการเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่มากกว่า
แหม รุ่นน้องเราเก่งจริงๆ ไม่เสียแรงที่เทรนด์มากับมือ
"ขอโทษค่า ขอโทษนะค้าาาาา" ยูริค้อมศีรษะลงต่ำสี่ทิศทาง ท่าทางคล้ายพนักงานต้อนรับที่ยืนกล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าแบบนั้นยิ่งทำให้เป็นจุดสนใจมากขึ้น.. แต่มีหรอคนอย่างเธอจะสน วันนี้เธออารมณ์ดี กับเหล่าอาจุมม่าพวกนี้ก็เจอกันครั้งเดียวแล้วก็จากกันไป เรื่องอะไรจะต้องเก็บมาอายให้เปลืองพลังงาน
"เที่ยงนี้อยากกินซออะไร เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง แต่ไม่เอาแถวนี้นะ กลัวไม่มีค่ารถกลับบ้าน ฮ่าๆๆ" ยูริเดินลูบท้องตัวเองไปมา ระบายยิ้มกริ่มอย่างสบายอารมณ์ราวกับเพิ่งถูกลอตเตอรี่มาหมาดๆ
"ซอก็ไม่เอาที่นี่ค่ะ ซออายคนอื่นเค้านะ" พูดจบ สองสาวก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้ง
เพราะพี่ยูลเป็นคนแบบนี้ ใครๆถึงได้หลงเสน่ห์เธอนัก.. แต่ไม่ใช่สำหรับฉันนะคะ สำหรับฉันน่ะ พี่ยูลเป็นพี่สาวที่ดีที่สุดในโลก ส่วนเรื่องความรัก ฉันไม่เคยสนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ
.
.
.
"โอ้ย!"
"เฮ้ย! น้องซอ! เป็นไงบ้าง !!"
เดินใกล้จะถึงประตูทางออก ซอฮยอนก็ถูกหญิงสาวในชุดเดรสเข้ารูปสีดำดูสวยสง่าเบียดกระแทกจนล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้นเย็นเฉียบ หญิงสาวขยับแว่นกันแดดราคาแพง ปรายหางตามองซอฮยอนเพียงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินต่อโดยไม่ได้ใส่ใจแม้กระทั่งการพูดคำขอโทษ
"นี่เธอ! เดินชนคนอื่นล้มพับแบบนี้น่ะ ตาบอดรึไง! ขอโทษน้องซอเดี๋ยวนี้เลย!!" ยูรี่ปรี่ไปประคองตัวซอฮยอนให้ลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะตะโกนไล่หลังหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินออกจากตัวห้างได้ไม่ทันจะพ้นสองก้าว
"นอกจากตาบอด สงสัยจะหูหนวกด้วยนะเนี่ย สนใจไปตรวจเช็คการได้ยินและการมองเห็นกับคุณหมอแถวนี้ก่อนมั้ยป้า!" ยูริก้าวสามขุมไปประชิดตัวสาวปริศนา ก่อนจะออกแรงดึงตัวเธอให้หันมาหากันทันที
"นี่ ปล่อยนะ! เธอไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ ไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นใคร!!" หญิงสาวสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อที่จะหลุดจากการเกาะกุมของยูริ เธอดึงแว่นกันแดดแบรนด์หรูออก ก่อนที่ดวงตาสวยคมคู่นั้นจะจ้องมองยูริอย่างไม่พอใจ
"โอ้! โชคดีจังที่ไม่เป็นใบ้ด้วย แต่แหม.. นี่ป้าสมองเสื่อมด้วยหรอเนี่ย ตัวเองยังจำไม่ได้.. น่าสงสารจัง พิการเยอะนะเราน่ะ" ยูริสวนกับทันที พลางยักคิ้วหลิ่วตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างจงใจจะกวนประสาท
"นี่เธอ!!!!!!"
"ขอโทษซอฮยอนเดี๋ยวนี้!"
"ไม่!!"
"ฉันบอกให้ขอโทษ!!!"
"ไม่มีทาง!!" หญิงสาวพูดประโยคสุดท้าย ก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างอารมณ์เสีย
"เดี๋ยวสิ! ชนแล้วหนีรึไง!!" ยูริตะโกนเสียงดัง ก้าวเท้าตามไปในทันที แต่ก็ถูกซอฮยอนดึงมือเอาไว้เสียก่อน
"ช่างเค้าเถอะค่ะพี่ยูล ซอไม่เป็นอะไรมาก" ซอฮยอนระบายยิ้มบางๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้ยูริอารมณ์เย็นลงเสียเท่าไหร่ เมื่ออารมณ์ดีๆเมื่อกี้ถูกกวนจนขุ่นเพราะหญิงสาวแปลกหน้าที่สุดแสนจะไร้มารยาทคนนั้นจนยากที่จะระงับไม่ให้เดือดได้อีกต่อไป
"โอ้ยย ยัย.. ยัยป้าเอ้ย!! สาธุ ขอให้โดนหลอก! แฟนทิ้ง! ไม่มีใครรักกกกกก!!!!" แต่ในเมื่อเดือดไปก็ทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แค่ตะโกนไล่หลังหญิงสาวไปอย่างหัวเสีย
หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้า แต่นิสัยอย่างกับแม่มด! โอ้ยยย ยัยป้าเอ้ย! ใครได้เธอเป็นแฟนล่ะซวยไปถึงชาติหน้า!!!!
.......
"สวัสดี เธอเป็นพนักงานใหม่ใช่ป่ะ ฉันอิม ยุนอานะ แต่เรียกยุนเฉยๆก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก" หญิงสาวหน้าใสที่เรียกตัวเองว่ายุนอา ฉีกยิ้มกว้าง ยื่นมือมาตรงหน้าฉันที่กำลังเก็บข้าวเก็บของบนโต๊ะทำงานตัวแรกในชีวิตที่ จอง คอร์ปฯ
ถึงจะผิดหวังนิดหน่อยที่เป็นได้เพียงพนักงานในระดับล่าง แต่ฉันก็เลือกที่จะรับตำแหน่งนี้แทนที่จะเข้าทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่ากันหลายขั้นตามที่ได้รับการยื่นข้อเสนอมา เพราะถึงแม้มันจะไม่ใช่ตำแหน่งที่น่าพึงพอใจเมื่อเทียบกับความรู้ความสามารถของฉัน แต่งานในแผนกนี้มันมีอะไรดีๆที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะ
"สวัสดี ฉันควอน แทยอน จะเรียกแทเฉยๆก็ได้" ฉันยิ้มตอบกลับอย่างเป็นมิตร เลือกที่จะแนะนำตัวในนามสกุล 'ควอน' ของครอบครัวบุญธรรม แทนที่จะเป็นนามสกุลเดิมของตัวเอง ก่อนจะจับมือทักทายเพื่อนร่วมงานคนแรกที่ดูๆไปก็มีส่วนคล้ายกับพี่ยูลอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เธอออกจะขาวกว่า ส่วนพี่ยูลก็หน้าคมกว่าหน่อยนึง
"โอเคเลยแท จริงๆฉันก็เพิ่งทำงานที่นี่ได้เดือนเดียว แต่ก็เชี่ยวพอสมควร ยิ่งเรื่องสาวๆในบริษัท แผนกไหนสวยแผนกไหนตู้มต้ามนี่ขอแค่แกถามมาคำเดียว ฉันตอบได้หมด" ยุนอาเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆกัน แววตาเปล่งประกายเวลาพูดถึงผู้หญิงกับสรรพนามและวิธีการพูดที่เปลี่ยนไปทำฉันอึ้งไปเล็กน้อย คล้ายถูกบังคับกลายๆว่าเราสนิทกันแล้วอย่างนั้นแหละ
แต่ก็เอาเถอะ จริงๆฉันก็ถูกชะตากับเธออยู่เหมือนกัน
"เนี่ยนะ แกเจอซันนี่แผนกการเงินรึยัง? เชรี่ยเอ้ย! บะฮึ้มมากอะ! แต่เสียดายแมร่งโดนซูยองหัวหน้าแผนกเราคาบไปกินซะแระ" หน้าตาวิบวับเป็นประกายขยับเข้าใกล้กัน ก่อนจะส่งเสียงกระซิบกระซาบราวกับกำลังพูดความลับของสหประชาชาติ แต่กลับเป็นเรื่องผู้หญิงยิ่งทำให้ฉันอดที่จะขำเพื่อนใหม่คนนี้ไม่ได้
"ขำอะไรวะไอ้แท นี่ฉันจริงจังนะเว้ย!" ยุนอาตัดพ้ออย่างเคืองๆ จนฉันต้องรีบโบกมือปฏิเสธไปมาทั้งๆที่ยังกลั้นหัวเราะไม่สำเร็จ
.
.
.
"เออ.. ว่าแต่.. แกรู้จักบอร์ดบริหารที่ดูแลแผนกเราโดยตรงรึเปล่า.." เมื่อสบโอกาส แทยอนจึงได้เอ่ยถามในประเด็นที่ต้องการจะรู้ทันที
แต่ไม่ใช่เธอไม่รู้ว่าแผนกที่เธอทำงานอยู่ขึ้นตรงกับผู้บริหารคนไหนเสียเมื่อไหร่.. เธอรู้.. รู้ดีเสียด้วย.. และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอเลือกทิ้งตำแหน่งดี เงินเดือนสูงมาเพื่อรับงานในแผนกนี้โดยเฉพาะ แม้ว่าจะเหลืองานว่างแค่ระดับล่างก็ตาม
จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนักสำหรับแทยอน เพราะถึงอย่างไร เธอก็มีวิธีที่จะก้าวกระโดดในแบบของเธออยู่แล้ว
"อ๋อ.. คุณเจสสิก้าน่ะหรอ? เธอเป็นรองประธานบริษัท เป็นลูกสาวประธานจองเชียวนะ เพิ่งกลับมาจากอเมริกาไม่นาน โหเนี่ย สวยชิบหายวายปวง เห็นแล้วแทบละลายลงไปนอนตายกับพื้นเลยแกเอ้ยยยย"
"แล้วเธอนิสัยเป็นยังไง.. เอิ่ม.. ฉันจะได้ทำตัวถูกไง เกิดทำอะไรไม่ถูกใจเดี๋ยวจะโดนเด้งตั้งแต่วันแรกๆ"
"เออนี่แหละที่ฉันกำลังจะบอกแก! เห็นสวยๆนะแมร่งโคตรเหวี่ยง! ไม่รู้แม่นมที่บ้านลืมให้นมรึไงคุณเธอถึงได้ทรงพระโมโหโกธาได้ตลอดเวลา ไม่ไหวว่ะ นี่ขนาดนานๆจะเข้าบริษัทสักทีนะ แต่แกเอ้ยยยย เข้ามาทีไรล่ะ ยะเยือกกันทั้งแผนก!! สวยโหด น่ากลัวชิบเป๋ง!" ยุนอาพูดไปก็รู้สึกหนาวขึ้นมาซะเฉยๆ จนต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองอย่างหวาดๆ
จอง เจสสิก้า ลูกสาวสุดรักสุดหวงของประธานบริษัท หน้าตาสวยหยดจนอิม ยุนอาต้องเหลียวมองคอแทบหักในวันแรกที่เห็น แต่หลังจากนั้นไม่นานก็โดนเธอขู่ฟ่อใส่เข้าไปหนึ่งดอก เล่นเอาหงอมาจนถึงวันนี้
"ขนาดนั้นเชียว.." แทยอนเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา ก่อนจะกระตุกยิ้มกริ่มที่มุมปากเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยของรองประธานบริษัท
แบบนี้สิ ค่อยน่าสนุกหน่อย..
"เออสิ ขนาดนั้นแหละ ทางที่ดีฉันขอแนะนำให้แกอย่าได้เฉียดกรายเข้าไปใกล้คุณเธอเกิน 5 เมตรถ้าไม่อยากโดนพายุน้ำแข็ง สวยสยองได้แค่มองแต่ห้ามสัมผัส! แล้วก็... ไปกลับบ้านกันเหอะเย็นแล้ว อยู่เลยเวลาไม่ได้ เกินมาสักนิดสักหน่อยเนี่ยคันยุบยิบไปทั้งตัวเลย สงสัยจะแพ้งานหนักว่ะ" ยุนอาพูดพลางแสร้งเกาเนื้อเกาตัวอย่างขำๆ ก่อนจะคล้องคอเพื่อนใหม่ที่สนิทกันอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที แล้วลากเธอลงลิฟท์ไปชั้นล่างสุดของบริษัททันที
"อ้าว มิยอง!" หลังจากก้าวผ่านประตูบริษัทไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็เห็นทิฟฟานี่นั่งแกว่งเท้าไปมาอยู่ที่ม้านั่งตรงหน้า แทยอนก้าวเท้าเข้าไปหาเธอเร็วๆ ก่อนจะหยุดยืนยิ้มแฉ่งเหมือนเด็กน้อยอวดฟันขาวให้กันอย่างน่ารัก
"พอดีผ่านมาแถวนี้" คำพูดไม่สั้นไม่ยาวพร้อมดวงตายิ้มตามแบบฉบับของทิฟฟานี่ถูกหยิบยื่นให้แทยอนทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้ถาม ราวกับได้ตระเตรียมคำพูดมาก่อนล่วงอย่างอะไรอย่างนั้น
และแน่นอนว่า.. คนอย่างคิม แทยอนไม่เคยที่จะสังเกตปฏิกิริยาแปลกๆของเพื่อนเธอคนนี้เลยสักครั้ง
"ใครวะ สวยอะ!" ยุนอากระซิบกระซาบใส่หูเพื่อนร่วมงาน ดวงตาเปล่งประกายกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่อย่างไม่ปิดบัง แถมยังพยายามจะขยับตัวเข้าใกล้อีกต่างหาก เล่นเอาแทยอนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นดันใบหน้าใสนั่นออกห่างเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองในทันที
"อย่าแม้แต่จะคิด.. เพื่อนฉันคนนี้ห้ามม่อ.." แทยอนดึงตัวยุนอาออกมากระซิบเสียงต่ำ
"โหย.. อะไรว้าาา เพื่อนกันต้องหวงด้วยรึไง ถามจริง เพื่อนหรือแฟน หวงยิ่งกว่าเมียอีก" พูดจบก็ถูกศอกกลับไปหนึ่งทีแทนคำตอบ
"แต่ฉันว่าเค้าชอบแกนะ เชื่อเหอะ สัญชาตญาณเสือมันบอก" ยุนอายกมือกุมขึ้นท้องเล็กน้อย ก่อนจะก้มตัวกระซิบใส่หูแทยอนอีกครั้ง พลางยิ้มกริ่มเดินเข้าไปหาทิฟฟานี่ที่ยืนมองเธอสองคนอยู่ไม่ไกล
แทยอนหัวใจกระตุกเล็กน้อยกับคำว่าชอบของยุนอา แต่ก็แค่แป๊บเดียว เพราะไอ้เพื่อนใหม่หน้าตาดีมันตั้งท่าจะเข้าไปสานความสัมพันธ์กับทิฟฟานี่อีกแล้ว
"สวัสดีค่ะ ชื่อมิยองหรอคะ ฉันอิม ยุนอานะ เป็นเพื่อนไอ้แทมัน แต่เรียกยุนเฉยๆจะดีกว่าค่ะ เพื่อความสนิทสนม"
"มิยองฉันเรียกคนเดียว แกจะเรียกทิฟฟานี่ สเตฟานี่ ฟานี่ อะไรก็ได้แต่ไม่ใช่มิยอง!" แทยอนสาวเท้าสั้นๆมาหยุดยืนหน้าทิฟฟานี่ ยื่นมือไปจับมือกับยุนอาตัดหน้าเธอซะเฉยๆ
ยุนอายืนยิ้มกริ่มในปฏิกิริยาตอบรับของแทยอน แหม... ทำมาซึน จะเก็บไว้เองล่ะสิ.. ไอ้หมาแทหวงก้างเอ้ย!
.
.
.
.
.
.
.
เสียงเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ควันจากเตากลางโต๊ะเล็กๆฟุ้งลอยทั่วบริเวณ เสียงฉ่า ~ ดังขึ้นตามมาด้วยกลิ่นหอมๆของเนื้อสุกไปเพิ่งจะลงไปนอนแผ่ในเตาได้ไม่นาน เล่นเอาแทยอนกลืนน้ำลายลงคออย่างคนหิวโหยสุดพลัง
ร้านเนื้อย่างราคาประหยัดที่เธอกับทิฟฟานี่มานั่งทานด้วยกันบ่อยๆตั้งแต่สมัยเรียนจนกลายเป็นร้านประจำ ที่แห่งนี้ยังคงเป็นที่โปรดปรานของเธอเสมอ และทิฟฟานี่ก็จะมานั่งเป็นเพื่อนด้วยกันทุกครั้งจนเจ้าของร้านเข้าใจว่าพวกเธอเป็นคู่ปาท่องโก๋ไปเสียแล้ว
"เพื่อนแทน่ารักดีเนอะ" เสียงหวานพูดขึ้นเบาๆ แต่ทำเอาฉันสำลักเนื้อย่างในทันที
"ไอ้ยุนอะนะ!" ฉันหยิบน้ำขึ้นซดจนหมดแก้ว ตบหน้าอกตัวเองสองสามที หลังจากร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ต้องถามซ้ำในสิ่งที่ทิฟฟานี่พูดอีกครั้ง
"อืม ตลกดี"
เหอะ.. ไอ้ยุนมันตลกที่ไหนกัน?! นั่นมันม่ออออออออ!!!
"มิยองชอบยุนหรอ?" แทยอนวางตะเกียบลงกับโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเธอนิ่งๆ
"หืม.. ไม่ได้ชอบแบบนั้น แค่เห็นว่าน่ารักดี"
"ดีแล้ว ยุนมันไม่เหมาะกับมิยองของฉันหรอก" แทยอนยิ้มกริ่มในคำตอบ หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อเข้าปากอย่างอารมณ์ดี โดยไม่เคยรู้ว่าถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของที่เธอมักพูดบ่อยๆ ต่อให้ทำใจอย่างไร ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถคุ้นชินกับมันได้เสียที
ไม่รักก็อย่ามาให้ความหวังกันได้มั้ยเนี่ยแทแท..
ทิฟฟานี่นั่งมองเพื่อนสาวที่แอบรักมาหลายปีตรงหน้าพลางระบายยิ้มออกมาอย่างลืมตัว.. แทยอนที่ฉลาดเป็นกรด มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวแต่ในขณะเดียวกันก็ทำตัวทะเล้นเป็นเด็กๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ.. แทยอนที่ไม่เคยแสดงความรู้สึกลึกๆให้เธอได้รับรู้บ้างเลย แต่ถึงอย่างไรเธอก็เลือกที่จะรักผู้หญิงคนนี้อยู่ดี..
.........
chapter 1 มาแบบงงๆเล็กน้อย
ฝ่ายเมะเรื่องนี้พี่ยูลน่ารักสุดแล้วค่ะ 5555 หมาแทเก๊กซึนเกินไป ร้ายลึกอีกต่างหาก ส่วนยุนก็.. เกรียนนิดนึง 5555
ป.ล. เสือยุนอาอ่านขาดทุกเกมรัก... *ปรบมือ*
กระดาษแผ่นขาวมากมายถูกจัดลงแฟ้มอย่างประณีต เอกสารข้อมูลถูกจัดเป็นหมวดหมู่ ทั้งประวัติ การศึกษา รางวัลและผลงานต่างๆที่เธอทำมาตลอดทั้งชีวิตได้รับการรวบรวมลงหน้ากระดาษอย่างกระชับ ได้ใจความ
แทยอนเปิดแฟ้มสะสมผลงานตรงหน้าดูเป็นรอบสุดท้าย แฟ้มสะสมผลงานที่เธอทุ่มเวลาให้มันตั้งแต่สมัยเรียน และแน่นอนว่าเธออยากให้มันออกมาดีที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สำหรับคนที่มีความสามารถอย่างเธออาจไม่จำเป็นต้องลงทุนกับสิ่งเหล่านี้มากมายขนาดนี้ เพราะเพียงแค่ผลการเรียน และผลงานที่โดดเด่นสะดุดตาก็มีบริษัทน้อยใหญ่ต้องการดึงตัวเธอเข้าร่วมงานมากมายจนแทบไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์เสียด้วยซ้ำ
แต่สำหรับ จอง คอร์ปฯ หรือ เคเจ คอร์ปฯในอดีตนั้น เธอต้องการสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้าไป.. จนถึงวันสุดท้ายของตระกูลจองในบริษัท ซึ่งเธอมั่นใจว่ามันจะต้องสร้างความประทับใจกว่าวันแรกของเธออย่างเทียบกันไม่ติด
แทยอนปิดแฟ้มลง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้กลับไปยังตำแหน่งของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คสีดำสนิทที่เธอใช้เสิร์ชหาข้อมูลสำคัญทิ้งไว้
ไล่สายตาผ่านประวัติอันยืดยาวของบริษัทที่ได้รับการบิดเบือนอย่างน่าเกลียด ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเค้นเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ
"หืม.. จอง เจสสิก้า.. ลูกสาวประธานบริษัทงั้นหรอ?" เมื่อสายตามาหยุดอยู่ที่รูปหญิงสาวหน้าตาดีมากคนหนึ่งที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานบริษัท ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนประธานจอง แทยอนก็ต้องหยุดจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่แบบนั้น พลางย่นหัวคิ้วลงอย่างอดไม่ได้
"จบ MBA จากอเมริกาเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว.. เพิ่งเข้ามาสานต่องานในบริษัทได้ไม่นาน...." เธออ่านข้อมูลที่เขียนไว้ใต้รูปอย่างละเอียดซ้ำไปซ้ำมา
"น่าสนใจจริงๆ.." ประโยคสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากบางอีกครั้ง ก่อนที่มุมปากจะถูกยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์..
.......
"ซอฮยอนนนนนนนน !!!!!" ควอน ยูริป้องปากตะโกนเสียงดัง หวังจะให้คนที่นั่งหันหลังอยู่ไกลๆได้ยิน แต่เธออาจจะลืมไปว่า ตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านอับกูจอง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า Korea's Beverly Hills หรือพูดง่ายๆมันก็คือย่านคนรวยแบบมากๆแห่งหนึ่งของกรุงโซลนั่นเอง
"พี่ยูล.. เบาๆก็ได้.." ซอ จูฮยอน หรือ ซอฮยอน หญิงสาวหน้าตาน่ารักในชุดนักศึกษาฝึกงาน ก้มตัวหลบสายตาผู้คนที่จ้องมองมาอย่างเคอะเขิน สองขายาวก้าวเร็วๆมาหยุดอยู่หน้ารุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ด้วยกันในรั้วมหาลัย จนตอนนี้ที่ควบตำแหน่งเป็นสต๊าฟคอยสอนงานในบริษัทออกแบบโฆษณาเล็กๆที่เธอฝึกงานอยู่
"เออ โทษทีๆพี่ลืมไป นี่เกือบจะกระโดดชูไม้ชูมือแล้วนะเนี่ย" ยูริพูดเร็วๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองบรรยากาศรอบกายอีกครั้ง
จะอึมครึมกันไปไหนวะเนี่ย ส่งเสียงนิดหน่อยก็ไม่ได้ แล้วยัยคุณป้าบ้าแบรนด์เนมนั่นจะมองให้รองเท้ามือสองของฉันผุดยี่ห้อวิ้งวับขึ้นมารึงายยยยย! ฉันไม่ใช่ลูกสาวป้านะ ไม่ต้องมองคาดโทษขนาดนั้นก็ได้!!
"งานเรียบร้อยแล้วนะคะ ลูกค้าโอเคมาก" ซอฮยอนสะกิดไหล่กันเบาๆพร้อมรอยยิ้มหวานที่ประดับบนใบหน้า แฟ้มงานที่เปิดหน้าสัญญาได้รับการลงลายมือชื่ออย่างชัดเจนถูกยื่นมาตรงหน้า ทำให้ฉันละสายตาจากอาจุมม่าหน้าป่วยมาสนใจรุ่นน้องน่ารักคนนี้ได้ในทันที
"โห น้องซอสุดยอดดดดดดดดดดดดดด!!!!" และแล้วฉันก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอีกรอบ..
"พี่ยูล กะจะให้คนอื่นเค้ารู้จักชื่อซอกันหมดเลยรึไงคะ" ซอฮยอนหัวเราะเบาๆในท่าทีกระโตกกระตากของฉัน แต่เอาเถอะ ตอนนี้ฉันสนใจการเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่มากกว่า
แหม รุ่นน้องเราเก่งจริงๆ ไม่เสียแรงที่เทรนด์มากับมือ
"ขอโทษค่า ขอโทษนะค้าาาาา" ยูริค้อมศีรษะลงต่ำสี่ทิศทาง ท่าทางคล้ายพนักงานต้อนรับที่ยืนกล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าแบบนั้นยิ่งทำให้เป็นจุดสนใจมากขึ้น.. แต่มีหรอคนอย่างเธอจะสน วันนี้เธออารมณ์ดี กับเหล่าอาจุมม่าพวกนี้ก็เจอกันครั้งเดียวแล้วก็จากกันไป เรื่องอะไรจะต้องเก็บมาอายให้เปลืองพลังงาน
"เที่ยงนี้อยากกินซออะไร เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง แต่ไม่เอาแถวนี้นะ กลัวไม่มีค่ารถกลับบ้าน ฮ่าๆๆ" ยูริเดินลูบท้องตัวเองไปมา ระบายยิ้มกริ่มอย่างสบายอารมณ์ราวกับเพิ่งถูกลอตเตอรี่มาหมาดๆ
"ซอก็ไม่เอาที่นี่ค่ะ ซออายคนอื่นเค้านะ" พูดจบ สองสาวก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้ง
เพราะพี่ยูลเป็นคนแบบนี้ ใครๆถึงได้หลงเสน่ห์เธอนัก.. แต่ไม่ใช่สำหรับฉันนะคะ สำหรับฉันน่ะ พี่ยูลเป็นพี่สาวที่ดีที่สุดในโลก ส่วนเรื่องความรัก ฉันไม่เคยสนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ
.
.
.
"โอ้ย!"
"เฮ้ย! น้องซอ! เป็นไงบ้าง !!"
เดินใกล้จะถึงประตูทางออก ซอฮยอนก็ถูกหญิงสาวในชุดเดรสเข้ารูปสีดำดูสวยสง่าเบียดกระแทกจนล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้นเย็นเฉียบ หญิงสาวขยับแว่นกันแดดราคาแพง ปรายหางตามองซอฮยอนเพียงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินต่อโดยไม่ได้ใส่ใจแม้กระทั่งการพูดคำขอโทษ
"นี่เธอ! เดินชนคนอื่นล้มพับแบบนี้น่ะ ตาบอดรึไง! ขอโทษน้องซอเดี๋ยวนี้เลย!!" ยูรี่ปรี่ไปประคองตัวซอฮยอนให้ลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะตะโกนไล่หลังหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินออกจากตัวห้างได้ไม่ทันจะพ้นสองก้าว
"นอกจากตาบอด สงสัยจะหูหนวกด้วยนะเนี่ย สนใจไปตรวจเช็คการได้ยินและการมองเห็นกับคุณหมอแถวนี้ก่อนมั้ยป้า!" ยูริก้าวสามขุมไปประชิดตัวสาวปริศนา ก่อนจะออกแรงดึงตัวเธอให้หันมาหากันทันที
"นี่ ปล่อยนะ! เธอไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ ไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นใคร!!" หญิงสาวสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อที่จะหลุดจากการเกาะกุมของยูริ เธอดึงแว่นกันแดดแบรนด์หรูออก ก่อนที่ดวงตาสวยคมคู่นั้นจะจ้องมองยูริอย่างไม่พอใจ
"โอ้! โชคดีจังที่ไม่เป็นใบ้ด้วย แต่แหม.. นี่ป้าสมองเสื่อมด้วยหรอเนี่ย ตัวเองยังจำไม่ได้.. น่าสงสารจัง พิการเยอะนะเราน่ะ" ยูริสวนกับทันที พลางยักคิ้วหลิ่วตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างจงใจจะกวนประสาท
"นี่เธอ!!!!!!"
"ขอโทษซอฮยอนเดี๋ยวนี้!"
"ไม่!!"
"ฉันบอกให้ขอโทษ!!!"
"ไม่มีทาง!!" หญิงสาวพูดประโยคสุดท้าย ก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างอารมณ์เสีย
"เดี๋ยวสิ! ชนแล้วหนีรึไง!!" ยูริตะโกนเสียงดัง ก้าวเท้าตามไปในทันที แต่ก็ถูกซอฮยอนดึงมือเอาไว้เสียก่อน
"ช่างเค้าเถอะค่ะพี่ยูล ซอไม่เป็นอะไรมาก" ซอฮยอนระบายยิ้มบางๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้ยูริอารมณ์เย็นลงเสียเท่าไหร่ เมื่ออารมณ์ดีๆเมื่อกี้ถูกกวนจนขุ่นเพราะหญิงสาวแปลกหน้าที่สุดแสนจะไร้มารยาทคนนั้นจนยากที่จะระงับไม่ให้เดือดได้อีกต่อไป
"โอ้ยย ยัย.. ยัยป้าเอ้ย!! สาธุ ขอให้โดนหลอก! แฟนทิ้ง! ไม่มีใครรักกกกกก!!!!" แต่ในเมื่อเดือดไปก็ทำอะไรไม่ได้ เธอจึงได้แค่ตะโกนไล่หลังหญิงสาวไปอย่างหัวเสีย
หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้า แต่นิสัยอย่างกับแม่มด! โอ้ยยย ยัยป้าเอ้ย! ใครได้เธอเป็นแฟนล่ะซวยไปถึงชาติหน้า!!!!
.......
"สวัสดี เธอเป็นพนักงานใหม่ใช่ป่ะ ฉันอิม ยุนอานะ แต่เรียกยุนเฉยๆก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก" หญิงสาวหน้าใสที่เรียกตัวเองว่ายุนอา ฉีกยิ้มกว้าง ยื่นมือมาตรงหน้าฉันที่กำลังเก็บข้าวเก็บของบนโต๊ะทำงานตัวแรกในชีวิตที่ จอง คอร์ปฯ
ถึงจะผิดหวังนิดหน่อยที่เป็นได้เพียงพนักงานในระดับล่าง แต่ฉันก็เลือกที่จะรับตำแหน่งนี้แทนที่จะเข้าทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่ากันหลายขั้นตามที่ได้รับการยื่นข้อเสนอมา เพราะถึงแม้มันจะไม่ใช่ตำแหน่งที่น่าพึงพอใจเมื่อเทียบกับความรู้ความสามารถของฉัน แต่งานในแผนกนี้มันมีอะไรดีๆที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะ
"สวัสดี ฉันควอน แทยอน จะเรียกแทเฉยๆก็ได้" ฉันยิ้มตอบกลับอย่างเป็นมิตร เลือกที่จะแนะนำตัวในนามสกุล 'ควอน' ของครอบครัวบุญธรรม แทนที่จะเป็นนามสกุลเดิมของตัวเอง ก่อนจะจับมือทักทายเพื่อนร่วมงานคนแรกที่ดูๆไปก็มีส่วนคล้ายกับพี่ยูลอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เธอออกจะขาวกว่า ส่วนพี่ยูลก็หน้าคมกว่าหน่อยนึง
"โอเคเลยแท จริงๆฉันก็เพิ่งทำงานที่นี่ได้เดือนเดียว แต่ก็เชี่ยวพอสมควร ยิ่งเรื่องสาวๆในบริษัท แผนกไหนสวยแผนกไหนตู้มต้ามนี่ขอแค่แกถามมาคำเดียว ฉันตอบได้หมด" ยุนอาเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆกัน แววตาเปล่งประกายเวลาพูดถึงผู้หญิงกับสรรพนามและวิธีการพูดที่เปลี่ยนไปทำฉันอึ้งไปเล็กน้อย คล้ายถูกบังคับกลายๆว่าเราสนิทกันแล้วอย่างนั้นแหละ
แต่ก็เอาเถอะ จริงๆฉันก็ถูกชะตากับเธออยู่เหมือนกัน
"เนี่ยนะ แกเจอซันนี่แผนกการเงินรึยัง? เชรี่ยเอ้ย! บะฮึ้มมากอะ! แต่เสียดายแมร่งโดนซูยองหัวหน้าแผนกเราคาบไปกินซะแระ" หน้าตาวิบวับเป็นประกายขยับเข้าใกล้กัน ก่อนจะส่งเสียงกระซิบกระซาบราวกับกำลังพูดความลับของสหประชาชาติ แต่กลับเป็นเรื่องผู้หญิงยิ่งทำให้ฉันอดที่จะขำเพื่อนใหม่คนนี้ไม่ได้
"ขำอะไรวะไอ้แท นี่ฉันจริงจังนะเว้ย!" ยุนอาตัดพ้ออย่างเคืองๆ จนฉันต้องรีบโบกมือปฏิเสธไปมาทั้งๆที่ยังกลั้นหัวเราะไม่สำเร็จ
.
.
.
"เออ.. ว่าแต่.. แกรู้จักบอร์ดบริหารที่ดูแลแผนกเราโดยตรงรึเปล่า.." เมื่อสบโอกาส แทยอนจึงได้เอ่ยถามในประเด็นที่ต้องการจะรู้ทันที
แต่ไม่ใช่เธอไม่รู้ว่าแผนกที่เธอทำงานอยู่ขึ้นตรงกับผู้บริหารคนไหนเสียเมื่อไหร่.. เธอรู้.. รู้ดีเสียด้วย.. และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอเลือกทิ้งตำแหน่งดี เงินเดือนสูงมาเพื่อรับงานในแผนกนี้โดยเฉพาะ แม้ว่าจะเหลืองานว่างแค่ระดับล่างก็ตาม
จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนักสำหรับแทยอน เพราะถึงอย่างไร เธอก็มีวิธีที่จะก้าวกระโดดในแบบของเธออยู่แล้ว
"อ๋อ.. คุณเจสสิก้าน่ะหรอ? เธอเป็นรองประธานบริษัท เป็นลูกสาวประธานจองเชียวนะ เพิ่งกลับมาจากอเมริกาไม่นาน โหเนี่ย สวยชิบหายวายปวง เห็นแล้วแทบละลายลงไปนอนตายกับพื้นเลยแกเอ้ยยยย"
"แล้วเธอนิสัยเป็นยังไง.. เอิ่ม.. ฉันจะได้ทำตัวถูกไง เกิดทำอะไรไม่ถูกใจเดี๋ยวจะโดนเด้งตั้งแต่วันแรกๆ"
"เออนี่แหละที่ฉันกำลังจะบอกแก! เห็นสวยๆนะแมร่งโคตรเหวี่ยง! ไม่รู้แม่นมที่บ้านลืมให้นมรึไงคุณเธอถึงได้ทรงพระโมโหโกธาได้ตลอดเวลา ไม่ไหวว่ะ นี่ขนาดนานๆจะเข้าบริษัทสักทีนะ แต่แกเอ้ยยยย เข้ามาทีไรล่ะ ยะเยือกกันทั้งแผนก!! สวยโหด น่ากลัวชิบเป๋ง!" ยุนอาพูดไปก็รู้สึกหนาวขึ้นมาซะเฉยๆ จนต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองอย่างหวาดๆ
จอง เจสสิก้า ลูกสาวสุดรักสุดหวงของประธานบริษัท หน้าตาสวยหยดจนอิม ยุนอาต้องเหลียวมองคอแทบหักในวันแรกที่เห็น แต่หลังจากนั้นไม่นานก็โดนเธอขู่ฟ่อใส่เข้าไปหนึ่งดอก เล่นเอาหงอมาจนถึงวันนี้
"ขนาดนั้นเชียว.." แทยอนเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา ก่อนจะกระตุกยิ้มกริ่มที่มุมปากเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยของรองประธานบริษัท
แบบนี้สิ ค่อยน่าสนุกหน่อย..
"เออสิ ขนาดนั้นแหละ ทางที่ดีฉันขอแนะนำให้แกอย่าได้เฉียดกรายเข้าไปใกล้คุณเธอเกิน 5 เมตรถ้าไม่อยากโดนพายุน้ำแข็ง สวยสยองได้แค่มองแต่ห้ามสัมผัส! แล้วก็... ไปกลับบ้านกันเหอะเย็นแล้ว อยู่เลยเวลาไม่ได้ เกินมาสักนิดสักหน่อยเนี่ยคันยุบยิบไปทั้งตัวเลย สงสัยจะแพ้งานหนักว่ะ" ยุนอาพูดพลางแสร้งเกาเนื้อเกาตัวอย่างขำๆ ก่อนจะคล้องคอเพื่อนใหม่ที่สนิทกันอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที แล้วลากเธอลงลิฟท์ไปชั้นล่างสุดของบริษัททันที
"อ้าว มิยอง!" หลังจากก้าวผ่านประตูบริษัทไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็เห็นทิฟฟานี่นั่งแกว่งเท้าไปมาอยู่ที่ม้านั่งตรงหน้า แทยอนก้าวเท้าเข้าไปหาเธอเร็วๆ ก่อนจะหยุดยืนยิ้มแฉ่งเหมือนเด็กน้อยอวดฟันขาวให้กันอย่างน่ารัก
"พอดีผ่านมาแถวนี้" คำพูดไม่สั้นไม่ยาวพร้อมดวงตายิ้มตามแบบฉบับของทิฟฟานี่ถูกหยิบยื่นให้แทยอนทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้ถาม ราวกับได้ตระเตรียมคำพูดมาก่อนล่วงอย่างอะไรอย่างนั้น
และแน่นอนว่า.. คนอย่างคิม แทยอนไม่เคยที่จะสังเกตปฏิกิริยาแปลกๆของเพื่อนเธอคนนี้เลยสักครั้ง
"ใครวะ สวยอะ!" ยุนอากระซิบกระซาบใส่หูเพื่อนร่วมงาน ดวงตาเปล่งประกายกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่อย่างไม่ปิดบัง แถมยังพยายามจะขยับตัวเข้าใกล้อีกต่างหาก เล่นเอาแทยอนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นดันใบหน้าใสนั่นออกห่างเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองในทันที
"อย่าแม้แต่จะคิด.. เพื่อนฉันคนนี้ห้ามม่อ.." แทยอนดึงตัวยุนอาออกมากระซิบเสียงต่ำ
"โหย.. อะไรว้าาา เพื่อนกันต้องหวงด้วยรึไง ถามจริง เพื่อนหรือแฟน หวงยิ่งกว่าเมียอีก" พูดจบก็ถูกศอกกลับไปหนึ่งทีแทนคำตอบ
"แต่ฉันว่าเค้าชอบแกนะ เชื่อเหอะ สัญชาตญาณเสือมันบอก" ยุนอายกมือกุมขึ้นท้องเล็กน้อย ก่อนจะก้มตัวกระซิบใส่หูแทยอนอีกครั้ง พลางยิ้มกริ่มเดินเข้าไปหาทิฟฟานี่ที่ยืนมองเธอสองคนอยู่ไม่ไกล
แทยอนหัวใจกระตุกเล็กน้อยกับคำว่าชอบของยุนอา แต่ก็แค่แป๊บเดียว เพราะไอ้เพื่อนใหม่หน้าตาดีมันตั้งท่าจะเข้าไปสานความสัมพันธ์กับทิฟฟานี่อีกแล้ว
"สวัสดีค่ะ ชื่อมิยองหรอคะ ฉันอิม ยุนอานะ เป็นเพื่อนไอ้แทมัน แต่เรียกยุนเฉยๆจะดีกว่าค่ะ เพื่อความสนิทสนม"
"มิยองฉันเรียกคนเดียว แกจะเรียกทิฟฟานี่ สเตฟานี่ ฟานี่ อะไรก็ได้แต่ไม่ใช่มิยอง!" แทยอนสาวเท้าสั้นๆมาหยุดยืนหน้าทิฟฟานี่ ยื่นมือไปจับมือกับยุนอาตัดหน้าเธอซะเฉยๆ
ยุนอายืนยิ้มกริ่มในปฏิกิริยาตอบรับของแทยอน แหม... ทำมาซึน จะเก็บไว้เองล่ะสิ.. ไอ้หมาแทหวงก้างเอ้ย!
.
.
.
.
.
.
.
เสียงเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ควันจากเตากลางโต๊ะเล็กๆฟุ้งลอยทั่วบริเวณ เสียงฉ่า ~ ดังขึ้นตามมาด้วยกลิ่นหอมๆของเนื้อสุกไปเพิ่งจะลงไปนอนแผ่ในเตาได้ไม่นาน เล่นเอาแทยอนกลืนน้ำลายลงคออย่างคนหิวโหยสุดพลัง
ร้านเนื้อย่างราคาประหยัดที่เธอกับทิฟฟานี่มานั่งทานด้วยกันบ่อยๆตั้งแต่สมัยเรียนจนกลายเป็นร้านประจำ ที่แห่งนี้ยังคงเป็นที่โปรดปรานของเธอเสมอ และทิฟฟานี่ก็จะมานั่งเป็นเพื่อนด้วยกันทุกครั้งจนเจ้าของร้านเข้าใจว่าพวกเธอเป็นคู่ปาท่องโก๋ไปเสียแล้ว
"เพื่อนแทน่ารักดีเนอะ" เสียงหวานพูดขึ้นเบาๆ แต่ทำเอาฉันสำลักเนื้อย่างในทันที
"ไอ้ยุนอะนะ!" ฉันหยิบน้ำขึ้นซดจนหมดแก้ว ตบหน้าอกตัวเองสองสามที หลังจากร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ต้องถามซ้ำในสิ่งที่ทิฟฟานี่พูดอีกครั้ง
"อืม ตลกดี"
เหอะ.. ไอ้ยุนมันตลกที่ไหนกัน?! นั่นมันม่ออออออออ!!!
"มิยองชอบยุนหรอ?" แทยอนวางตะเกียบลงกับโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเธอนิ่งๆ
"หืม.. ไม่ได้ชอบแบบนั้น แค่เห็นว่าน่ารักดี"
"ดีแล้ว ยุนมันไม่เหมาะกับมิยองของฉันหรอก" แทยอนยิ้มกริ่มในคำตอบ หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อเข้าปากอย่างอารมณ์ดี โดยไม่เคยรู้ว่าถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของที่เธอมักพูดบ่อยๆ ต่อให้ทำใจอย่างไร ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถคุ้นชินกับมันได้เสียที
ไม่รักก็อย่ามาให้ความหวังกันได้มั้ยเนี่ยแทแท..
ทิฟฟานี่นั่งมองเพื่อนสาวที่แอบรักมาหลายปีตรงหน้าพลางระบายยิ้มออกมาอย่างลืมตัว.. แทยอนที่ฉลาดเป็นกรด มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวแต่ในขณะเดียวกันก็ทำตัวทะเล้นเป็นเด็กๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ.. แทยอนที่ไม่เคยแสดงความรู้สึกลึกๆให้เธอได้รับรู้บ้างเลย แต่ถึงอย่างไรเธอก็เลือกที่จะรักผู้หญิงคนนี้อยู่ดี..
.........
chapter 1 มาแบบงงๆเล็กน้อย
ฝ่ายเมะเรื่องนี้พี่ยูลน่ารักสุดแล้วค่ะ 5555 หมาแทเก๊กซึนเกินไป ร้ายลึกอีกต่างหาก ส่วนยุนก็.. เกรียนนิดนึง 5555
ป.ล. เสือยุนอาอ่านขาดทุกเกมรัก... *ปรบมือ*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น