ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #62 : แยกตัว [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.25K
      724
      29 ต.ค. 60




         "นายน้อย!! ท่านปลอดภัยกลับมาแล้ว" โจเซพนั้นรีบบึ่งมายังห้องโถงแห่งนี้ทันที ที่มีทหารไปเรียกหา

         "ท่านลุงข้าสบายดี" กาเล็ทเอ่ยตอบ "มิร่าทักทายพ่อบ้านโจเซพหน่อยสิ" กาเล็ทกล่าวกับมิร่า พร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับพ่อบ้านโจเซพ "ท่านลุงนี่มิร่า ข้ารับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรม" 

         จเซพผงกหัวเป็นเชิงเข้าใจ "ว่าแต่นายน้อยท่านเรียกข้ามายามดึกดื่นเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีเรื่องเร่งด่วนใด" 

         กาเล็ทปั้นหน้าเคร่งเครียดขึ้น "ท่านแม่ ท่านทำใจให้ดีๆและรับฟังข้า" กาเล็ทหันไปเอ่ยกับนี่น่าที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ

         

         "ข้าพบร่างของท่านพ่อแล้ว" กาเล็ทเอ่ย

         ร่างของนีน่าสะท้านขึ้น เรี่ยวแรงเสมือนว่าจะถูกสูบหายไปจากร่าง จริงอยู่ว่าสามีของนางหายสาปสูญไป แม้ตัวนางเองก็หมดหวังและทำใจไว้แล้วว่าสามีของนางคงไม่มีชีวิตรอดอยู่ในโลกแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อยังไม่พบร่าง แม้ความหวังจะน้อยนิดเพียงไร มันก็คุ้มค่าที่จะหวัง เมื่อได้ยินคำที่บุตรชายของตนกล่าวเมื่อครู่นั่นย่อมหมายความว่าสามีของนางนั้นไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว

         กาเล็ทนำโลกไม้ที่บรรจุโครงกระดูกของกาลานผู้เป็นบิดาออกมาจากแหวนมิติ

         "น นายน้อยท่านทราบได้อย่างไรว่านี่เป็น นี่เป็นร่างกายที่หลงเหลืออยู่ของนายท่าน" โจเซพเองก็รู้สึกสะเทือนใจไม่แพ้นีน่าเช่นกัน น้ำเสียงที่เอ่ยถามถึงกับสั่นเครือเล็กน้อย

         กาเล็ทไม่ได้เอ่ยตอบคำถามนี้หากแต่กลับนำป้ายประจำตัวที่ตนเองพบออกมายื่นให้แก่โจเซพ

         "กาลาน บุสโซ่" โจเซพค่อยๆอ่านตัวอักษรที่สลักไว้อย่างช้าๆ มือที่ถือตราประจำตัวนั้นอยู่ก็สั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ "น นายท่าน เป็นท่านจริงๆ"

         ส่วนนีน่านั้นบัดนี้ได้แต่จ้องมองไปที่โครงกระดูกนั้นอย่างเงียบงัน

         "ข้าพบร่างของท่านพ่ออยู่ในส่วนลึกของป่าอสูรฟ้า" กาเล็ทเอ่ย

         "ป่าอสูรฟ้า" นีน่าที่เหม่อมองร่างของสามีอยู่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา

         "ท่านพ่อไม่ได้เป็นดั่งที่ข่าวลือว่าไว้ หากข้าคาดเดาไม่ผิดเรื่องนี้มันต้องเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์สัตว์อสูรคลุ้มคลั่งเมื่อ 8 ปีก่อน จากที่ท่านอาจารย์เทลเล่อบอกต่อข้าเมื่อ 8 ปีก่อนท่านพ่อได้รับภารกิจลับจากราชาเบรุท" กาเล็ทค่อยๆเอ่ยเปิดเผยเรื่องราวออกไป

         "ภารกิจลับ?" โจเซพเองก็เกิดอาการมึนงงสับสนเช่นเดียวกัน มันย่อมไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้

         "กล่าวไปแล้วยืดยาวยิ่ง" กาเล็ทถอนหายใจออกมาแล้วจึงเอ่ยต่อ "เหตุการณ์สัตว์อสูรคุ้มคลั่งเกิดจากนางเอง" กาเล็ทเอ่ยพร้อมทั้งก้มลงมองมายังมิร่า

         มิร่าในอ้อมอกของกาเล็ทก็ซุกหน้าเข้ากับอกของกาเล็ทเสมือนดั่งว่าจะหลบหนีความผิดของตนเอง

         "นางอาศัยอยู่ในหุบเขาอสูรฟ้าทำหน้าที่ดูแลอารักขาศิลาวิเศษก้อนหนึ่ง" กาเล็ทกล่าวพร้อมนำศิลาเทพเจ้าออกมา "เป็นศิลานี่เอง เมื่อ 8 ปีก่อนศิลานี้ได้ถูกผู้คนขโมยออกมาจากหุบเขาอสูรฟ้า นางซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ศิลาจึงได้ใช้อำนาจของนางกดดันเหล่าอสูร ทำให้พวกมันเตลิดเปิดหนีออกมาจากหุบเขา" กาเล็ทเว้นช่วงให้ทั้งนีน่าและโจเซพครุ่นคิดทำความเข้าใจกับเรื่องราว จากนั้นจึงเอ่ยต่อ "ศิลานั้นกลับตกมาอยู่ในมือของราชาเบรุท ข้าคาดคิดว่าราชาเบรุทคงทราบดีกว่าผู้ใดถึงที่มาของศิลา เขาคงคาดเดาถึงสาเหตุที่สัตว์อสูรคุ้มคลั่งได้ไม่ยาก ดังนั้นเขาจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาและมีความคิดที่จะนำศิลานี้กลับคืนสู่หุบเขาอสูรฟ้า ซึ่งผู้รับหน้าที่นำศิลานี้กลับคืนไปคือท่านพ่อ" กาเล็ทเอ่ย

         ทั้งห้องโถงบัดนี้มีแค่ความเงียบงัน "เขาตายอย่างโดดเดี่ยวลำพังในหุบเขานั้น" นีน่าเอ่ยสะอื้นพร้อมร่ำไห้ลูบคลำโครงกระดูกของสามี

         กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็เจ็บปวดใจ มารดาผู้อ่อนแอของตนใช่จะเกิดอาการตรอมใจยิ่งกว่าเดิมหรือไม่? ยิ่งคิดโทสะภายในจิตใจของกาเล็ทที่มีต่อราชาเบรุทก็ยิ่งสูงขึ้น

         "ท่านแม่ เรื่องมันก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว อย่าได้เป็นเช่นนี้" กาเล็ทเข้าไปเอ่ยปลอบโยนมารดาของตนเอง "ข้าจะจัดพิธีนำร่างของท่านพ่อกลับมาสู่มาตุภูมิอย่างสมเกียรติ ข้าจะป่าวประกาศให้ทุกผู้คนรับรู้ถึงวีรกรรมที่กล้าหาญของท่านพ่อ" กาเล็ทกล่าวเสียงกร้าว หากว่าราชาเบรุทปกปิดมันตนเองจะเป็นผู้เปิดเผยเอง เหล่าขุนนางที่มีส่วนร่วมกับการใส่ร้ายป้ายสีบิดาของตนเองในครั้งนี้พวกมันต้องรับผิดชอบ

         "ขอแม่อยู่กับท่านพ่อเพียงลำพังได้ไหมกาเล็ท" นีน่าหันมาเอ่ยกับบุตรชาย ณ ตอนนี้นางไม่ต้องการรับรู้สิ่งใดอีก

         กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่สงสัญญาณให้แก่พ่อบ้านโจเซพ

         "ท่านลุง บอกต่อท่านข้ามีความคิดที่จะแยกตัวออกจากโรฮาน" กาเล็ทเอ่ยขึ้นกับโจเซพเมื่อออกมาจากห้องโถง

         "นายน้อยท่านคิดกบฎ!" โจเซพอุทานออกมาด้วยความตกใจ 

         "ไม่ถึงขั้นนั้นท่านลุง บอกต่อท่าน จากการกระทำที่ราชาเบรุทปฎิบัติต่อท่านพ่อ ข้าไม่อาจทำใจรับใช้บุคคลเช่นนี้ได้ ข้ารู้สึกดูแคลนเขา ข้าโกรธเคืองเขาจนแทบอยากจะฉีกกระชากร่างเขาออกเป็นเสี่ยง แต่จะอย่างไรการตายของท่านพ่อจะโทษว่าเขาก็ไม่ได้ ด้วยนิสัยของท่านพ่อเท่าที่ข้าจำความได้ ข้าคิดว่าเป็นท่านพ่อสมัครใจทำภารกิจนี้เองดังนั้นข้าไม่อาจดูแคลนการตัดสินใจของท่านพ่อ ข้าเพียงแต่ต้องการลาออกจากตำแหน่งขุนนางที่รับใช้บ้านเมืองและใช้ชีวิตอย่างสงบ พัฒนาตระกูลบุสโซ่เราให้เจริญก้าวหน้า จากนี้ไปจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับส่วนกลางอีก" กาเล็ทกล่าวอธิบาย

         ถึงจะได้ฟังเช่นนั้นโจเซพก็ยังคงไม่เข้าใจ จะอย่างไรหากแข็งข้อต่อส่วนกลางย่อมถูกจัดว่าเป็นกบฎเช่นเดียวกัน

         "ท่านลุงเอาเถอะเรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากล่าว เรื่องสำคัญที่สุด ณ ตอนนี้คือการจัดพิธีนำร่างของท่านพ่อกลับคืนสู่มาตุภูมิ พิธีนี้ไม่อาจไม่ใหญ่โต เราจะทำให้พิธีนี้ใหญ่โตกว่าพิธีใดที่โรฮานเคยจัดมา อีกทั้งข้าจะสร้างรูปปั้นของท่านพ่อไว้ยังพื้นที่หน้าปราสาทเพื่อเป็นสัญลักษณ์และเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านบุสโซ่" กาเล็ทเอ่ยถึงแผนการของตนเอง สังเหตุเห็นสีหน้าที่ไม่เป็นปกติของโจเซพกาเล็ทก็เอ่ยถามขึ้น "มีจุดใดเป็นปัญหาหรือท่านลุง?"

         "นายน้อยบอกต่อท่าน หลายวันที่ผ่านมานี้คนของเราถูกก่อกวนหาเรื่องไม่น้อย" โจเซพเอ่ยบอก

         "ก่อกวนหาเรื่อง?" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ใช่แล้วนายน้อย ทหารของเราที่กลับเข้าเมืองไปเยี่ยมครอบครัวมักจะถูกคนของตระกูลเจอริโก้หาเรื่องอยู่บ่อยๆ ยังมีสาวใช้ที่เข้าเมืองไปซื้อข้าวของจำเป็นมากักตุนไว้ก็ถูกระรานเช่นเดียวกัน เมื่อเช้ารถม้าที่บรรทุกข้าวของของพวกเราถึงกลับถูกกลุ่มอันธพาลทุบทำลายไป ข้าเกรงว่าพิธีนำร่างของนายท่านกลับสู่มาตุภูมิคงไม่ราบรื่นเท่าใด" โจเซพเอ่ยอย่างหวั่นใจ

         "เริ่มแล้วหรือ" กาเล็ทยิ้มเหี้ยมเอ่ยคำ "เรื่องนั้นท่านลุงไม่ต้องเป็นกังวล บอกต่อท่านตอนนี้ข้ามีทุนรอนมากพอที่จะรับมือกับทุกผู้คนในโรฮาน ต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับทั้งโรฮานก็ไม่นับเป็นอย่างไรได้ เมื่อรุ่งเช้ามาถึงให้ท่านลุงนำคนของเราทั้งหมดออกไปจัดเตรียมพื้นที่โดยรอบปราสาทดูแลพื้นที่ให้สะอาดสะอ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ไปหักร้างถางพงบริเวณทางหลวงจากทิศเหนือมายังปราสาทบุสโซ่ เอาเป็นระยะทางมากหน่อย เราจะจัดขบวนแห่นำร่างของท่านพ่อกลับมาให้ยิ่งใหญ่" กาเล็ทเอ่ยสั่งการ

         "ใครมาขวางก็ฆ่าให้หมด" เสียงเล็กในอ้อมอกของกาเล็ทเอ่ยขึ้น

         "น นายน้อยหากว่า หากว่ามีผู้มาก่อกวนเราจะทำอย่างไรกับคนพวกนั้น" โจเซพอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

         รอยยิ้มประหลาดปรากฎขึ้นบนใบหน้าของกาเล็ท "ย่อมทำเช่นที่นางบอก มาหนึ่งฆ่าหนึ่ง มาร้อยฆ่าร้อย หากว่าผู้ใดมาขัดขวางพิธีอัญเชิญร่างของท่านพ่อกลับคืนสู่มาตุภมิูพวกเราจะเหยีบเลือดเนื้อของมันข้ามไป ข้าไม่หวั่นเกรงหากพวกมันจะมาก่อกวน ข้าเกรงแต่เพียงว่าพวกมันจะไม่มา" กาเล็ทเอ่ยเสียงเหี้ยม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×