ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #51 : สมัครเข้าร่วม [รีไรท์]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.15K
      631
      13 ต.ค. 60







         รุ่งเช้าของวันต่อมากาเล็ทกลับพบว่าทั้งโรส เรน่า เจฟ มาร์ติน มารอตนเองอยู่แล้ว ทำให้กาเล็ทรู้สึกแปลกใจไม่น้อย "มิใช่บอกว่าให้พวกเจ้าหยุดพักสักสองวันหรอกหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามบนสีหน้าแสดงออกถึงความสงสัยใจ

         "ท่านมาร์ควิส พวกข้าลาออกจากการเป็นทหารทางการแล้ว" โรสเอ่ย

         "ลาออก! เหตุใดพวกเจ้าจึงได้ลาออกกัน ใช่เพราะกลัวจะถูกตระกูลเจอริโก้กลั่นแกล้งหรือไม่?" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "เรื่องนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งท่านมารค์ควิส จริงอยู ณ ตอนนี้ที่ข้าอยู่ภายใต้สังกัดของท่าน แต่ทว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ความไม่แน่นอน อาจบางทีตระกูลเจอริโก้อาจจะใช้อำนาจโยกย้ายพวกข้า หากเป็นเช่นนั้นข้าเกรงว่าตระกูลเจอริโก้จะอาศัยเรื่องส่วนรวมแก้แค้นเรื่องส่วนตัว" โรสเอ่ยอธิบาย

         "คนต่ำช้าย่อมมีวิธีของคนต่ำช้า" เมื่อนึกถึงมาร์ควิสเจอริโก้และมาร์ควิสเครตันกาเล็ทก็เอ่ยออกมาอย่างดูแคลนจากนั้นจึงถอนหายใจหันไปถามกับอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง     "เช่นนั้นพวกเจ้าจะเอาอะไรกิน" กาเล็ทเอ่ย

         ได้ยินคำถามของกาเล็ทโรสก็แสดงท่าทีกล้าๆกลัวๆสักพัก "เพราะเหตุนี้พวกข้าถึงมาหาท่านมาร์ควิสในวันนี้ ข้าได้ยินมาว่าท่านมาร์ควิสกำลังต้องการกำลังคนพวกข้าได้แต่หวังว่าจะสามารถรับใช้ท่านมาร์ควิสได้" 

         "พวกข้าพูดคุยตกลงกันแล้ว ขอเพียงท่านมาร์ควิสรับพวกข้าไว้พวกข้าจะยอมเป็นม้าลารับใช้ท่านมาร์ควิสไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พวกข้าไม่ต้องการอะไรมาก ขอเพียงมีข้าวกินอิ่มท้องทุกวันก็เพียงพอแล้ว" เร่น่าเอ่ยเสริมขึ้น

         แน่นอนว่ากว่าที่ทั้งสี่จะมาในวันนี้ ทั้งสี่ได้ผ่านการพูดคุยหาลือกันมาเป็นอย่างดีแล้ว นกที่ดีก็ต้องเลือกกิ่งไม้เกาะคนฉลาดก็จำต้องเลือกผู้เป็นนาย จากการที่ได้สังเกตุมาร์ควิสบุสโซ่ผู้นี้มาทั้งสี่กลับเห็นว่ากาเล็ทนั้นแตกต่างจากขุนนางใหญ่อื่นๆอย่างเห็นได้ชัด กาเล็ทนั้นเห็นคุณค่าของชีวิตพวกตน ยามออกรบกาเล็ทก็ไม่ได้นำตัวเองไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วปล่อยให้ลูกน้องไปเสี่ยงอันตราย แต่กาเล็ทกลับเลือกที่จะร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกตน

         เห็นทั้งสี่ที่เฝ้ารออย่างคาดหวังกาเล็ทก็ได้แต่ถอนใจ ด้วยกำลังทรัพย์ของตนที่มีอยู่ในตอนนี้การจะเลี้ยงผู้คนเพิ่มอีกสักสี่ห้าคนคงไม่ใช่ปัญหาอะไร อีกจากการใคร่ควรมาอย่างดีกาเล็ทก็ได้ผลสรุปออกมาแล้วว่าตนเองเพียงลำพังต่อให้แข็งแกร่งเพียงไหนก็ย่อมไม่สามารถต่อกรกับคนหมู่มากได้ อีกทั้งเรื่องราวต่างๆตนเองย่อมไม่สามารถที่จะจัดการมันได้โดยลำพัง "เอาเถอะ ปราสาทที่นอกเมืองของข้าก็ใหญ่โตหากจะให้ข้าอยู่กับท่านแม่และพ่อบ้านโจเซพเพียงแค่สามคนก็ออกจะดูโหวงเหวงไป เลี้ยงพวกเจ้าอีกสี่คนเพิ่มขึ้นมาตระกูลบุสโซ่คงไม่ถึงกับล้มละลายหรอกกระมัง" กาเล็ทกล่าวทีเล่นทีจริงเพื่อสลายบรรยากาศที่ตึงเครียดตรงหน้าไป "ว่าแต่พวกเจ้าไม่กินจุกระมัง?" กาเล็ทยังไม่วายที่จะปล่อยมุขออกมาในช่วงท้าย

         ทั้งสี่ที่มักจะเห็นแต่ด้านที่เอาจริงเอาจังของกาเล็ทถึงกับตั้งตัวไม่ถูก "ท่านมาร์ควิส"

         กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มเป็นกันเองออกมา "ตอนเป็นทหารพวกเจ้าได้เบี้ยหวัดต่อเดือนเท่าไร" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "หนึ่งเหรียญทองกับห้าสิบเหรียญเงินท่านมาร์ควิส" โรสเอ่ยตอบ

         กาเล็ทที่ได้ฟังถึงค่าตอบแทนที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองได้รับเมื่อครั้งยังเป็นทหารก็จมดิ่งสู่ห้วงความคิด หนึ่งเหรียญทองกับห้าสิบเหรียญเงินดูไปเหมือนจะมาก แต่ถ้าเทียบกับความเสี่ยงในสายอาชีพแล้วเงินจำนวนนี้จะนับเป็นอย่างไรได้ เพียงแค่ค่าอาหารการกินในแต่ละเดือนของแต่ละคนเงินจำนวนนี้ก็คงเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งแล้ว ไหนจะค่าเลี้ยงดูคนในครอบครัว ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆอีก ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งสี่คนนั้นมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้ากองร้อย กาเล็ทไม่อยากจะคิดว่าทหารที่มียศต่ำกว่านั้นจะมีรายได้ต่ำเตี้ยเท่าใด

         "เอาเช่นนี้เถอะเริ่มแรกข้าจะให้ค่าตอบแทนพวกเจ้าต่อเดือนคนละสามเหรัยญทองเป็นอย่างไร" กาเล็ทตัดสินใจได้ก็เอ่ยบอกออกมา

         "สามเหรียญทอง!!" ทั้งสี่อุทานออกมาด้วยความตกใจ

         "ใช่สามเหรียญทอง น้อยไปหรือ?" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ป เปล่าเพียงพอแล้วท่านมาร์ควิส เพียงพอแล้ว" ทั้งสี่ตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง จะน้อยไปได้อย่างไร สามเหรียญทองต่อเดือนนั้นมากกว่ารายได้ต่อเดือนครั้งที่พวกตนสังกันโรฮานอยู่ตั้งหนึ่งเท่าตัว เดิมที่มาในวันนี้ทั้งสี่นั้นไม่ได้หวังอะไรมาก ทั้งสี่หวังแต่เพียงว่ากาเล็ทจะรับพวกตนไว้ก็เพียงพอแล้ว แต่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้ทั้งสี่ตกใจจนไม่อาจกล่าววาจาได้

         "อย่าพึ่งยินดีไป อย่าที่พวกเจ้าน่าจะรู้แล้วว่าข้านั้นชิงชังความอยุติธรรมที่สุด ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรบก็ไม่สมควรรังแกผู้อ่อนแอ ทำงานรับใช้บ้านเมืองก็ไม่สมควรใช้ตำแหน่งหน้าที่เอาเปรียบผู้คน หากข้าพบว่ามีผู้ใดภายใต้ร่มธงของข้ามีพฤติกรรมรีดไถชาวบ้าน หรือทำผิดกฎหมายข้าจะลงโทษพวกมันด้วยตัวของข้าเอง และโทษนั้นจะหนักหนาก็ปกติหลายเท่า เข้าใจหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยเสียงเข้ม

         "พ พวกข้าเข้าใจแล้ว" โรสเอ่ย

         เห็นว่ามีแต่เพียงโรสที่เอ่ยตอบคำก็เล็ทก็หันไปมองอีกสามคนที่เหลือ

         "ข ข้าเข้าใจแล้วท่านมาร์ควิส" เร่น่าเอ่ยตอบ
         
         "ข้าก็เข้าใจแล้วท่านมาร์ควิส" เจฟเอ่ยตอบ
         
         "ข้าก็เช่นกัน" มาร์ตินเอ่ยตอบ

         เห็นเช่นนั้นกาเล็ทก็ส่ายหัวออกมาพร้อมเดินเข้าหาร่างใหญ่ยักษ์ของมาร์ติน "เพียงแค่การตอบคำถามเจ้ายังเกรงกลัวเช่นนี้จะไปรบกับผู้ใดได้ เป็นชายชาตรีต้องมีความมั่นใจในตนเอง ตอบให้มันดังๆ" กาเล็ทเอ่ยพร้อมทั้งใช้มือตบไปที่ไหล่ของมาร์ติน

         "ข้าเข้าใจแล้วครับ" มาร์ตินเอ่ย

         "ข้าเข้าใจแล้วครับ" เจฟที่ด้านข้างก็เอ่ยออกมาอีกครั้งเช่นกันเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของกาเล็ท

         "ดีมาก จากนี้ไปพวกเจ้าเป็นคนของตระกูลบุสโซ่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าด้วยตำแหน่งอีก ให้เรียกข้าว่านายน้อยเถอะ" กาเล็ทเอ่ย

         "ครับ ค่ะ นายน้อย" ทั้งสี่ขานรับ

         กาเล็ทยังคงสำรวจตรวจดูทั้งสี่ จะว่าไปทั้งสี่นั้นมีพลังอยู่เพียงระดับสี่เท่านั้นซึ่งดูว่ายังอ่อนแออยู่มากในสายตาของกาเล็ท "พวกเจ้านั้นยังนับว่าอ่อนแออยู่มาก" กาเล็ทเอ่ย

         ได้ยินคำพูดของกาเล็ททั้งสี่ก็แสดงสีหน้าที่ลำบากใจออกมา "ขออภัยด้วยนายน้อยที่พวกข้าไร้พรสวรรค์" โรสเอ่ย

         "เหลวไหล จริงอยู่ว่าพรสวรรค์เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้บรรลุพลังได้รวดเร็วขึ้นแต่มันไม่ใช่ทุกสิ่ง เจ้ากลับปล่อยให้ผู้คนมาตีค่าของตัวเจ้า เมื่อพวกเจ้ากล่าวว่าเจ้าไร้พรสวรรค์เจ้าก็เชื่อเช่นนั้นหรือ" กาเล็ทเอ่ย อบรมลูกน้องใหม่ทั้งสี่ของตน "ต่อให้ผู้อื่นดูแคลนพวกเจ้าเช่นไรก็ไม่เลวร้ายเท่ากับพวกเจ้าดูแคลนตนเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการฝึกพลังหาใช่พรสวรรค์ แต่มันคือความอดทด ความพยายาม ที่ระดับพลังของพวกเจ้ามาถึงทางตันมันหาใช่พรสวรรค์ของพวกเจ้ามีไม่มากพอ แต่มันเพราะว่าจิตใจของพวกเจ้าต่างหาก" กล่าวจบกาเล็ทก็นำยาเทพโอสถออกมาจากแหวนมิติ

         "รับนี่ไป นี่คือยาเทพโอสถมันจะช่วยให้พวกเจ้าสามารถดูดซัพพลังจิตวิญญาณได้ง่ายขึ้น จำคำของข้าไว้ผู้ที่มีความเชื่อมั่นต่อตนเองและมีความพยายามมากพอเท่านั้นที่จะประสบผลสำเร็จในเส้นทางของการฝึกพลัง" การเล็ทใช้พลังผลักดันยาเม็ดเทพโอสถไปยังเบื้องหน้าของลูกน้องทั้งสี่พร้อมทั้งกล่าวอธิบาย "จากนี้พวกเจ้าก็มารายงานตัวกับพ่อบ้านโจเซพที่ตระกูลบุสโซ่ทุกเช้าเถอะ หลังจากย้ายไปยังปราสาทบุสโซ่แล้วคงไม่มีงานให้พวกเจ้าช่วยเหลือเท่าใด พวกเจ้าก็ใช้โอกาสนั้นฝึกฝนเพิ่มพูนพลังเถอะ ข้าจะช่วยดูเรื่องการฝึกให้อีกแรง"

         ทั้งสี่รับยาเม็ดที่ล่องลอยมาที่เบื้องหน้าของตนเองมาไว้ในมือ หากสังเกตุให้ดีจะพบว่ามือของทั้งสี่ที่ถือยาเม็ดอยู่นั้นสั่นอยู่ จะไม่ให้สั่นได้อย่างไร ผู้ฝึกพลังทุกคนย่อมรู้ดีว่ายาที่ช่วยในการฝึกฝนให้ง่ายขึ้นนั้นมีค่ามากเพียงไร ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อมาได้ โดยเฉพาะในโรฮานที่ไม่มีนักปรุงยามีฝีมือเลย 

         แม้ยาเทพโอสถที่กาเล็ทนำออกมาให้ทั้งสี่นั้นจะเป็นยาระดับแรกแต่มันก็สามารถช่วยให้การดูดซัพพลังจิตวิญญาณราบรื่นไปกว่าเดิมได้หลายเท่า นี่เป็นตัวยาที่ยังหลงเหลือจากการที่กาเล็ททดลองผสมยาขึ้นในครั้งแรก ในครั้งนั้นกาเล็ทสามารถขายยานี้ในตลาดประมูลของเมืองรีเวลได้เม็ดละกว่าสิบเหรียญทอง

         "ยังไม่รีบกินอีก" กาเล็ทเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกน้องของตนยังคงรีรอลังเล 

         ได้ยินคำพูดของกาเล็ททั้งสี่ก็ตืนจากภวังค์และนำยาเม็ดเข้าปากไป ทันทีที่ยาเม็ดนั้นเข้าปากไปมันก็ละลายอย่างลวดเร็ว จากนั้นทั้งสี่พลันรู้สึกได้ว่ามีพลังสายหนึ่งกระจายไปทั่วร่างของตนเอง

         "รู้สึกเช่นไรบ้าง" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ข้ารู้สึกเหมือนมีความร้อนกระจายไปทั่วร่าง" เรน่าเอ่ย

         "ข ข้ารู้สึกเหมือน เหมือนว่าข้าสามารถสัมผัสพลังจิตวิญญาณรอบกายได้" โรสเอ่ย

         กาเล็ทได้ฟังคำกล่าวของโรสก็ยิ้มออกมา "ถูกต้องแล้ว ที่พวกเจ้าพึ่งจะกินเข้าไปนั้นคือยาเทพโอสถ ไม่เพียงมันจะทำให้พวกเจ้าสามารถดูดซัพพลังจิตวิญญาณได้รวดเร็วขึ้นแล้วมันยังจะช่วยให้พวกเจ้าเข้าสู่ห้วงสมาธิจิตว่างเปล่าได้ง่ายขึ้น เอาล่ะวันนี้พวกเจ้าไม่ต้องช่วยงานใดแล้ว หลังจากไปรายงานตัวกับพ่อบ้านโจเซพเสร็จแล้ว พวกเจ้าก็หาที่เหมาะๆนั่งฝึกเถอะ" กาเล็ทกล่าวพร้อมทั้งทำท่าจะขอตัวจากไป

         "น นายน้อย ท่านยังต้องการคนเพิ่มอีกหรือไม่" เจฟเอ่ยถามขึ้น

         "หืม? ยังมีผู้ต้องการสมัครอีกหรือ" กาเล็ทชงักลงและเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

         "ยังมีอีกจำนวนหนึ่งนายน้อย" เจฟซึ่งเป็นผู้ที่สามารถควบคุมตนเองได้ดีที่สุดในหมู่ทั้งสี่จนไม่ลืมเรื่องสำคัญไปเอ่ยตอบ

         อันที่จริงแล้วยังมีทหารอีกไม่น้อยที่ต้องการสมัครเข้าร่วมกับตระกูลบุสโซ่เพียงแต่ที่เหลือนั้นไม่ได้ผลีผลามดั่งเช่นทั้งสี่ ที่เหลือนั้นยังไม่ได้ลาออกจากการเป็นทหารและกำลังคำยืนยันจากที่สี่คนก่อน

         กาเล็ทครุ่นคิดอีกพักหนึ่ง อันที่จริงตระกูลบุสโซ่ยังคงต้องการกำลังคนอีกมาก  "ตกลง แต่ต้องบอกต่อพวกเจ้าว่าข้าไม่สามารถให้ค่าจ้างต่อเดือนคงละสามเหรียญทองทุกคนได้  หากว่ายังมีผู้ต้องการเข้าร่วมพวกเจ้าก็ไปนำพาพวกมันมาลงทะเบียนกับท่านพ่อบ้านโจเซพ ส่วนเบี้ยหวัดรายเดือนข้าสามารถจ่ายให้ได้คนละหนึ่งเหรียญทองกับอีกห้าสิบเหรียญเงินต่อคนและยาเทพโอสถคนละเม็ดต่อเดือน"

         ได้ฟังคำกล่าวของกาเล็ททั้งสี่ก็อึ้งไปอีกครา หลังจากได้รู้สรรพคุณของยาเทพโอสถแล้วค่าจ้างรายเดือนของพวกตนนั้นย่อมถือเป็นเรื่องเล็กไปเลย นี่นายน้อยของตนเองพึ่งบอกกล่าวว่าจะให้ยาเทพโอสถต่อผู้เข้าร่วมเดือนละหนึ่งเม็ด

         "ต แต่ว่านายน้อย ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกับท่านมีนับร้อยคน" เจฟเอ่ยอย่างเป็นห่วง

         "หืม มากมายเช่นนั้นเชียว" กาเล็ทเอ่ยอย่างแปลกใจ "นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ข้ากับลังต้องการกำลังคนอยู่พอดี แต่บอกต่อพวกเจ้า ข้าต้องการเพียงคนที่มีประวัติขาวสะอาดและมีความประพฤติที่ดีเท่านั้นเข้าใจหรือไม่ ไปบอกต่อพวกมันหากว่าต้องการเข้าร่วมก็ต้องยอมรับกฎที่ข้าตั้งไว้" กาเล็ทเอ่ย

         "นายน้อยท่านจะมอบยาเทพโอสถให้ทุกคน ทุกเดือนเลยหรือ" โรสอดเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองเป็นกังวลใจออกไปไม่ได้ นายน้อยของตนเองจะไปมียาวิเศษเช่นนี้มากมายขนาดนั้นได้อย่างไร

         "ย่อมแน่นอน" กาเล็ทเอ่ยตอบทันควัน "ในเมื่อพวกเจ้าเป็นกลุ่มแรกที่เข้าร่วมกับข้า ข้าก็จะแต่งตั้งให้พวกเจ้าทั้งสี่เป็นหัวหน้าพวกมัน หากหนึ่งในพวกมันมีผูู้ใดประพฤติไม่ดีพวกเจ้าผู้เป็นหัวหน้าต้องร่วมรับผิดด้วยเข้าใจหรือไม่" กล่าวเพื่อย้ำเตือนถึงเรื่องสำคัญจบกาเล็ทก็เอ่ยตัดบท "เอาล่ะข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการอยู่พอสมควร ให้พวกเจ้าไปแจ้งต่อพ่อบ้านโจเซพดั่งที่ข้าบอก" กล่าวจบกาเล็ทก็หันกายจากไป









     

         

        

        

        

        
        

        

        

        

        

        

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×