ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #311 : พลังที่แตกต่าง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.54K
      438
      11 ม.ค. 62


    กาเล็ทที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก "ข้าคิดว่าท่านอองตวนอย่าได้เสียเรี่ยวแรงไปอย่างสูญเปล่าจะดีกว่า หวังว่าท่านอองตวนคงยังไม่ลืมถึงการคงอยู่ของนาง"
    อองตวนงุนงงไปวูบหนึ่งจากคำพูดของกาเล็ทแต่แล้วมันกลับนึกคิดถึงสัตว์อสูรตัวน้อยซึ่งมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นสูงออก
    "ขอบอกต่อท่านอองตวนว่า ทันทีที่ท่านอองตวนหันหลังให้กับข้า ข้าจะทุ่มพลังเข้าจู่โจมเข้าใส่ท่านอองตวนด้วยพลังทั้งหมดที่มีในกระบวนท่าเดียวและเกรงว่าครั้งนี้คงไม่จบลงเพียงแค่อาการบาดเจ็บสาหัสภายในของท่านอองตวนเป็นแน่ หากท่านอองตวนคิดหมายใจจะจับผู้คนเป็นตัวประกันโปรดคิดให้ดี" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวแจ้งเตือนต่ออองตวนอย่างไม่ปิดบัง
    "บัดซบ มันคิดวางแผนทั้งหมดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว การที่มันบีบบังคับดึงให้เราขึ้นมาต่อสู้อยู่บนอากาศเช่นนี้ทำให้เรายากที่จะปลีกตัวจากไปเพื่อเล่นงานคนใกล้ชิดของมันได้ ยังมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดินั่นอีก" อองตวนเหลือบมองกลับมาที่กาเล็ทอีกครั้งหนึ่ง "มันกำลังเล่นสนุกอยู่กับเรา" ความรู้สึกเสมือนว่ากำลังถูกหยามดูแคลนอยู่พลันแล่นขึ้นมาในจิตใจของอองตวน มันเหลือบไปมองยังแหวนวิเศษบนนิ้วมือของตนเองอีกครั้ง "เหลืออยู่เพียงแปดวง ต่อให้ในวันนี้ต้องสูญเสียของวิเศษเหล่านี้ไปจนหมด เราก็ต้องมีชีวิตกลับไปแจ้งบอกข่าวแก่ท่านจักรพรรดิจรัสแสงให้จงได้" อองตวนขบคิดกับตนเองในใจ นึกคิดตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แล้ว แหวนหนึ่งในแปดที่ยังคงส่องแวงสว่างเป็นประกายอ่อนๆอยู่บนนิ้วมือของอองตวนก็สว่างจ้าขึ้นจากนั้นก็ปรากฎมวลพลังระดับจักรพรรดิเปล่งประกายและถูกดูดซับเข้าไปภายในร่างของอองตวน ไม่นานสีหน้าของอองตวนก็กลับมาเป็นปกติ อาการบาดเจ็บสาหัสภายในของอองตวนล้วนถูกการรักษาฟื้นฟูด้วยความเร็วสูงเร่งให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม
    กาเล็ทที่เห็นเช่นนั้นก็หลี่ตาเล็กลงอย่างได้คิด "หากไม่มีความสามารถอยู่บ้างคงไม่ถูกจัดให้อยู่ในทำเนียบสี่สุดยอดแห่งทวีปกลาง" ที่กาเล็ทยังคงไม่ลงมือสังหารอองตวนแต่แรกเริ่มเพราะเกิดความรู้สึกสนใจต่อแหวนวิเศษในนิ้วทั้งสิบของอองตวนเอง
    เมื่ออาการบาดเจ็บของตนเองฟื้นฟูหายดีแล้วอองตวนก็เตรียมที่จะวางแผนตีโต้ "หากว่าสามารถทำให้มันบาดเจ็บได้แม้เพียงน้อยนิดเราอาจมีช่องว่างให้ฉกฉวยเพื่อหลบหนี แหวนแต่ละวงของเราบรรจุพลังระดับจักรพรรดิไว้ ในยามนี้เหลืออีกเพียง 7 วง หากไม่วางแผนให้ดีเกรงว่าเราคงยากที่จะหลบนี้กลับสู่ทวีปกลางได้" นึกคิดได้ดังนั้นอองตวนก็ดึงพลังจากแหวนหนึ่งในเจ็ดวงที่เหลืออยู่ออกมาเสริมให้การเคลื่อนไหวของตนเองรวดเร็วขึ้น จากนั้นอองตวนพลันหันหลังกลับเตรียมที่จะมุ่งลงไปสู่พื้นดินเบื้องล่าง
    มีหรือที่กาเล็ทจะปล่อยให้อองตวนกระทำได้อย่างที่คาดหวังไว้ ทันทีที่อองตวนหมุนกายเร่งพลังเตรียมจะเคลื่อนที่เข้าหาญาติมิตรของตนเองกาเล็ทก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เพียงชั่ววูบหนึ่งกาเล็ทก็ติดตามมาถึงที่เบื้องหลังของอองตวน ดาบร้อยชนะและดาบเขี้ยวมังกรปรากฎขึ้นมาในมือของกาเล็ท พลังระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันย์จักรพรรดิถูกประจุลงไปในตัวดาบทั้งสอง กาเล็ทที่ติดตามอยู่เบื้องหลังอองตวนเงื้อดาบทั้งสองในมือขึ้นหมายจะแทงเข้าใส่ร่างของอองตวน
    "ท่านติดกับของข้าแล้วจักรพรรดิทมิฬ" อองตวนเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งพลิกกายกลับมาอย่างกระทันหัน จากนั้นแหวนในมือของอองตวนถึงสองวงก็เจิดจรัสสว่างไสวขึ้นพร้อมกันในคราวเดียว ปรากฎขึ้นเป็นม่านพลังสองชั้นป้องกันขวางกั้นการทิ่มแทงเข้าใส่ของดาบร้อยชนะและดาบเขี้ยวมังกรในมือของกาเล็ทไว้ พร้อมกันนั้นอองตวนยังได้ประจุพลังระดับจักรพรรดิของตนเองเสริมเข้าไปยังม่านพลังชั้นที่สองให้แข็งแกร่งยิ่งยวดขึ้นกว่าเดิม
    ดาบร้อยชนะและดาบเขี้ยวมังกรในมือของกาเล็ททิ่มแทงทะละผ่านม่านพลังชั้นแรกไปได้อย่างไม่ยากเย็นหากแต่เมื่อปะทะเข้ากับม่านพลังชั้นที่สองที่ขวางกันอยู่ ก็เกิดคลื่นพลังหักล้างแผ่กระจายไปทั่ว ไม่นานม่านพลังชั้นที่ของที่สองตวนผนึกกำลังของตนเองกับแหวนวิเศษสร้างขึ้นก็เกิดรอยร้าว คมดาบร้อยชนะและคมดาบเขี้ยวมังกรค่อยๆขยับเคลื่อนที่เข้าไปภายในได้ทีละนิดจนเกือบที่จะเข้าถึงตัวของอองตวนได้
    "เป็นอย่างที่เราคิดไว้ ม่านพลังสองชั้นกับพลังของเราเพียงพอที่จะต้านรับการจู่โจมของมันได้" อองตวนลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกกับตนเองเมื่อเห็นว่าคมดาบทั้งสองในมือของศัตรูถูกหยุดลงก่อนที่จะเข้าถึงตัวของตนเอง และนี่คือจังหวะที่อองตวนรอคอย จังหวะที่มันจะใช้เพื่อตีโต้กลับคืนและเปิดเส้นทางถอยหนีให้กับตนเอง อองตวนนำดาบคู่กายของตนเองออกมาจากแหวนมิติ มันจับด้ามดาบไว้มั่นด้วยสองมือพร้อมทั้งประจุพลังของตนเองเข้าไปในตัวดาบ เท่านั้นยังไม่พอ แหวนในมือของอองตวนพลันเปล่งแสงขึ้นอีกครั้งหนึ่งจากนั้นพลังระดับจักรพรรดิขั้นสูงก็ถูกบังคับถ่ายโอนเพื่อประจุเข้าไปยังตัวดาบในมือของอองตวนปรากฎเป็นแสงสว่างเรืองรองขึ้นมา "ข้าไม่เชื่อว่าหากรับดาบซึ่งประจุพลังที่สามารถผ่าร่างผู้ฝึกฝนระดับจักรพรรดิขั้นสูงได้ในดาบเดียวนี้ไปแล้ว ท่านจะไม่ได้รับบาดเจ็บ" อองตวนลอบนึกคิดคำนวนกับตนเองเมื่อทุกสิ่งอย่างเป็นไปอย่างที่ตนเองคาดคิดไว้อย่างพอเหมาะ พอเจาะ สำหรับผู้ฝึกตนแล้วจะอย่างไรยังคงมีช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงเวลามี่พลังสภาวะขาดห้วงและต้องพักหายใจ อองตวนได้เล็งถึงช่วงเวลานั้นของกาเล็ทไว้ ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายทุ่มพลังสภาวะจู่โจมเข้าใส่ตนเองอย่างดุดัน อย่างน้อยต่อให้เป็นจักรพรรดิทมิฬผู้นี้ก็ต้องมีช่วงเวลาที่พลังขาดห้วง และหากมันทุ่มพลังที่มีจู่โจมเข้าใส่อีกฝ่ายในช่วงเวลานั้นจะต้องได้ผลไม่มากก็น้อยแน่นอน อย่าว่าแต่การจู่โจมครั้งนี้ของมันประจุพลังระดับจักรพรรดิขั้นสูงของตัวมันเองพร้อมกับเสริมเพิ่มเติมเข้าไปด้วยพลังจากแหวนวิเศษวงหนึ่งของตัวมันเองทำให้มันมีความมั่นใจอย่างมากในดาบที่ฟาดฟันออกไปครั้งนี้ หากแต่น่าเสียดายสำหรับกับอองตวนที่ดาบซึ่งประจุพลังอย่างรุนแรงของมันกลับฟันใส่ได้แต่อากาศธาตุ ชั่วพริบตาก่อนที่ดาบของมันจะเข้าถึงตัวของอีกฝ่าย อยู่ๆร่างของอีกฝ่ายกลับหายวับไปอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้
    เสียงดังกึกก้องกัมปนาทซึ่งเกิดจากคลื่นพลังสภาวะที่เกิดจากการฟาดฟันของอองตวนแผ่พุ่งเข้าใส่พื้นดินที่เบื้องล่างจนฝากจารึกรอยแผลขนาดใหญ่เป็นทางยาวไว้ยังพื้นดินและบ้านเรือนที่ขวางอยู่ ยังดีซึ่งที่ตั้งของตระกูลโรม่าไม่ได้ขวางอยู่ในทางดาบ
    "ได้อย่างไร?" อองตวนยังคงมึนงงสับสนที่อยู่ๆศัตรูก็หายวับไปต่อหน้า ไม่นานม่านตาของมันก็ขยายออกสาเหตุก็เพราะความรู้สึกแตกตื่นตกใจที่อยู่ๆมันก็สามารถรับรู้จับสัมผัสถึงมวลพลังมหาศาลที่ปรากฎขึ้นยังจุดอับด้านหลังของตนเองได้
    ตุบ หมัดที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าของกาเล็ทปะทะเข้าใส่สีข้างของอองตวนอย่างจัง การจู่โจมนี้ของกาเล็ทไม่เปิดโอกาสให้อองตวนได้แม้แต่ดึงพลังจากแหวนวิเศษที่เหลืออยู่ของตนเองมาสร้างขึ้นเป็นม่านพลังป้องกัน ส่งให้ร่างของอองตวนหมุนกลิ้งหลุนๆไปกลางอากาศ
    ครั้งนี้กาเล็ทไม่เปิดโอกาศให้กับอองตวนได้พักหายใจเหมือนครั้งก่อน ก่อนที่อองตวนจะสามารถหยุดยั้งตั้งตัวของตนเองไว้ได้ หอกโอริฮารูกอนซึ่งประจุพลังระดับจักรพรรดิทั้งสี่เล่มก็พวยพุ่งแหวกฝ่าอากาศเสียบทะลุเข้าใส่ร่างของอองตวนจากหลายทิศทาง
    ด้วยเป็นถึงผู้ฝึกฝนพลังระดับจักรพรรดิทำให้อองตวนมีพลังชีวิตเหนือกว่าผู้คนทั่วไปมากนัก อองตวนยังคงประคองสติไว้ได้อย่างเลือนลาง "ข้ายังไม่อาจตาย ยังไม่อาจตาย" มันขบคิดกับตนเองซ้ำไปซ้ำมาขณะที่ร่างของตนเองกำลังหมุนคว้างล่วงหล่นลงสู่พื้นดินเบื้องล่าง
    ตูมเสียงร่างของอองตวนซึ่งถูกเสียบทิ่มแทงอยู่ด้วยหอกโอริฮารูกอนของกาเล็ททั้งสี่ด้ามตกกระแทกลงสู่พื้นดินส่งให้เกิดฝุ่นควันคละคลุ้งตลบอบอวนไปทั่ว "ข้ายังมีหน้าที่ต้องกลับไปบอกข่าวแจ้งเตือนต่อจักรพรรดิจรัสแสง" อองตวนที่หลงเหลือลมหายใจรวยรินเอ่ยพึมพำกับตนเองพร้อมทั้งพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายยกมือของตนเองขึ้นเตรียมที่จะหยิบยืมพลังจากแหวนวิเศษที่ยังเหลืออีกสามวงมาใช้เพื่อเยียวยารักษาตนเอง หากแต่เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับกับมันที่กาเล็ทจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
    ร่างของกาเล็ทพุ่งทะยานลงจากฟากฟ้ามาอย่างรวดเร็ว ตูม กาเล็ทเหยียบซ้ำเข้าใส่ร่างของอองตวนที่พยายามจะบังคับดึงพลังออกมาจากแหวนวิเศษภายในนิ้มมือข้างหนึ่งจนหมดสภาพ "ไม่จำเป็นต้องห่วงกังวลไป อีกไม่นานข้าจะส่งจักรพรรดิจรัสแสงนายของเจ้าติดตามไปให้เจ้ารับใช้มันต่อในปรภพ" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งส่งพลังระดับจักรพรรดิของตนเองเข้าสู่ร่างของอองตวนเพื่อชอตร้ายอวัยวะภายในของมันจนหมดสภาพเสียชีวิตไป
    เมื่อแน่ใจแล้วว่าอองตวนสี่สุดยอดแห่งทวีปกลางได้สิ้นชื่อลาจากโลกนี้ไปแล้ว กาเล็ทก็เก็บหอกโอริฮารูกอนทั้งสี่กลับคืนเข้าสู่แหวนมิติ พร้อมทั้งก้มลงถอดแหวนทั้งสิบออกจากนิ้วมือของอองตวนและเก็บเข้าสู่แหวนมิติของตนเองไปเช่นกัน จากนั้นกาเล็ทพลันลงมือกระทำสิ่งสุดท้ายที่ตนเองสมควรจะกระทำนั่นคือการกระชากเอาแก่นจิตวิญญาณระดับจักรพรรดิอองจากร่างของอองตวน
    พร้อมกันกับที่อองตวนถูกกาเล็ทจัดการเผด็จศึก ร่างเล็กร่างหนึ่งก็พุ่งทะยานหมุนคว้างเข้าหาจุดซึ่งร่างของอองตวนร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน กระแสลมที่เกินจากการพุ่งทะยานหมุนคว้างเข้าหาของมิร่าช่วยปัดเป่านม่านหมอกของฝุ่นควันให้แหวกกระจายออกไปจนผู้คนที่อยู่ไกลออกไปสามารถมองเห็นได้อย่างชัดตาว่าที่แท้แล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
    มิร่าส่งเสียงร่ำร้องอย่างน่ารักออกมาขณะที่หมุนคว้างบินวนรอบกายของกาเล็ทเสมือนกับว่าต้องการแสดงความยินดีกับผู้เป็นบิดาที่สามารถกำราบศัตรูร้ายลงได้ กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ทำได้แต่ส่ายศรีษะให้กับความน่ารักซุกซนของผู้เป็นบุตรสาวตัวน้อยอย่างช่วยไม่ได้ หากปราศจากซึ่งนางแล้วตนเองคงไม่สามารถที่จะต่อสู้รับศึกได้อย่างวางใจเช่นนี้แน่
    "ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายหญิงใหญ่ขอรับ เห็นหรือไม่ขอรับ ข้าบอกกล่าวแล้วว่ามันไม่ใช่คู่มือของนายน้อยแต่อย่างใด อองตวนอะไรนั่นถูกนายน้อยกาเล็ทสังหารฆ่าทิ้งไปเรียบร้อยแล้วขอรับ ฮ่า ฮ่า อ๊อก" มาร์ตินซึ่งยกชูมือแสดงความยินดีพร้อมทั้งหัวเราะฮ่าๆออกมาอย่างลืมตัวถึงกลับกระอักเลือดออกมา
    นีน่าเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ส่ายศรีษะให้กับความโง่งมของหนึ่งในสี่ขุนพลแห่งตระกูลบุสโซ่ผู้นี้ "เป็นอย่างไรแล้ว เจ็บมากหรือไม่" นีน่าก้มตัวย่อกายลงเพื่อสอบถามตรวจดูอาการของมาร์ติน
    "หัวหน้ามาร์ติน อย่าได้ขยับตัวขอรับ นายน้อยบอกกล่าวไว้ว่ากระดูกที่แตกหักของท่านยังคงไม่ได้รับการรักษา สมควรที่จะอยู่ให้นิ่งไว้" ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองของมันเอ่ยกล่าวขึ้นมาอย่างเป็นห่วงในทันที
    เหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางใหญ่ทั้งที่ติดตามอองตวนมาและผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลโรม่าซึ่งมองเห็นภาพของจักรพรรดิทมิฬ กาเล็ทบุสโซ่ที่กำลังใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนร่างของสี่สุดยอดแห่งทวีปกลางอองตวรที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้นดินถึงกลับปากอ้าตาค้างไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×