ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #27 : ลมที่เปลี่ยนทิศ [รีไรท์ 2020]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.56K
      745
      6 พ.ย. 63

         
         

         นับตั้งแต่มายังโลกใหม่แห่งนี้เป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปี กาเล็ทนั้นแทบที่จะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลายหรือเที่ยวเตร่อย่างที่คุณชายร่ำรวยจากตระกูลใหญ่มักจะทำเลย เนื่องเพราะต้องเคร่งเครียดอยู่กับการฝึกและการหาเลี้ยงครอบครัว  ทว่าหลังจากศึกประลองเป็นตายกับรุสโซ่ได้จบลง ความกดดันที่ถาโถมลงมายังบ่าของกาเล็ทก็ดูเหมือนว่าจะเบาบางลง  ทำให้ในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา กาเล็ทได้ใช้เวลาอยู่กับแชลเทียอย่างมีความสุข

         "กาเล็ท กาเล็ทคิดว่าสีไหนเข้ากับข้ามากกว่ากัน" แชลเทียที่ยกเสื้อผ้าขึ้นมาแนบเทียบกับตัวเองให้กาเล็ทเห็นเอ่ยถาม

         "สีชมพูเข้ากับเจ้ามากกว่า" กาเล็ทเอ่ยตอบ

         "แล้วสีฟ้าล่ะ? กาเล็ทไม่ชอบหรือ?" แชลเทียถาม

         "สำหรับข้า คิดว่าแชลเทียใส่สีอะไรก็ดูสวยน่ารักทั้งนั้น ไม่ต่างกันหรอก" กาเล็ทเอ่ยบอก หากแต่ผลตอบรับที่ได้กลับมานั้นดันไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิด  ทำให้กาเล็ทได้แต่ยืนงงไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดไปกันแน่

         "ให้ช่วยเลือกชุดก็ไม่ยอมตอบเป็นจริงเป็นจัง ทั้งสองชุดนี้จะเหมือนกันได้อย่างไร" แชลเทียเอ่ย

         ได้ฟังคำพูดของแชลเทียกาเล็ทจึงได้เข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไรที่ตัวเองตอบผิดไปกันแน่ "ข้าคิดอย่างนั้นจริงๆ" กาเล็ทเอ่ยย้ำ

         "ฮึ" แชลเทียแค่นเสียงมองค้องออกมาคำหนึ่ง

         "ก็ได้ ก็ได้ ข้าคิดว่าสีชมพูเหมาะกับแชลเทียมากกว่า แต่ว่าชุดสีฟ้าก็ดูไม่เลว เพราะเวลาสวมใส่มันจะช่วยขับเน้นผมสีชมพูของแชลทีให้ดูโดดเด่นขึ้น" กาเล็ทที่ใช้สมองครุ่นคิดหาคำตอบที่สมควรที่สุดได้แล้วเอ่ยตอบ

         "ถ้าอย่างนั้นซื้อทั้งสองเลยก็แล้วกัน" แชลเทียยิ้มเอ่ยหลังจากได้ฟังคำตอบที่ตัวเองต้องการแล้ว

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็แอบถอนหายใจออกมากับตัวเองและคิดไปว่าสำหรับตัวเองแล้ว การตอบคำถามให้ถูกใจแชลเทียนั้นยังยากกว่าการฝึกฝนพลังมากนัก

         ------------------------------------------------------------------------------------------------

         
         "องค์ราชา เรื่องนี้ข้าคิดว่าพระองค์สมควรที่จะไตร่ตรองให้ดีก่อนนะพะยะค่ะ" หนึ่งในขุนนางใหญ่เอ่ยค้านถึงการตัดสินใจของราชาเบรุท

         "เหตุใดจึงต้องไตร่ตรอง? โรฮานของเราเองตอนนี้ก็กำลังต้องการผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาเพื่อเป็นกำลังในวันหน้า และข้าก็ไม่เห็นว่าการจะแต่งตั้งเขาในตำแหน่งมาร์ควิสมันจะมีข้อเสียที่ใด" ราชาเบรุทเอ่ยขึ้น ในน้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกอึดอัดรำคาญใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองนั้นเป็นถึงราชาของโรฮานหากแต่ไม่ว่าจะทำสิ่งใดกลับถูกคัดค้านสอดแทรกตลอดมา  ทว่ามันก็รู้ดีว่าไม่อาจที่จะไม่อดทนเนื่องเพราะตนเองนั้นมีพลังไม่มากพอและยังต้องได้รับการสนับสนุนจากเหล่าขุนนางอยู่

         "พระองค์อย่าได้ลืมนะพะยะค่ะว่าตระกูลบุสโซ่นั้นมีชื่อเสียงที่ฉาวโฉ่เพียงไร การจะแต่งตั้งให้บุตรชายจากตระกูลบุสโซ่ได้มีตำแหน่งเป็นถึงมาร์ควิสเกรงว่าจะก่อให้เกิดกระแสต่อต้านจากส่วนรวม" หนึ่งในขุนนางใหญ่อีกคนเอ่ยเสริม

         ราเบรุทที่ได้ยินถึงกับขุ่นแค้นจนแทบอกระเบิด "กระแสต่อต้านจากส่วนรวมหรือ? วันนั้นในงานประลองมิใช่ชาวบ้าน ชาวเมืองหรอกหรือที่โห่ร้องเสียงดังลั่นจนทั่วทั้งเมืองหลวงต่างได้ยิน หากแต่งตั้งเขาเป็นมาร์ควิสจริงๆ ส่วนรวมก็คงจะมีแต่ได้รับประโยชน์และเกิดความยินดี คงเป็นพวกเจ้าเสียมากกว่าที่ต่อต้านไม่พอใจ" ราชาเบรุทคิด
         
         "ข้าเป็นถึงราชาของอาณาจักร แค่จะแต่งตั้งผู้มีความสามารถขึ้นมาสักคน เหตุใดมันจึงยุ่งยากวุ่นวายถึงเพียงนี้ ที่แท้แล้วเป็นข้าหรือเป็นพวกเจ้าซึ่งผู้นำ! เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่เปลี่ยนใจ ที่สำคับ เรื่องขาวลือที่ว่าตระกูลบุสโซ่นั้นมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ หวังว่าพวกเจ้าจะยังไม่ลืมว่าข่าวโคมลอยพวกนั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยัน" ราชาบเรุทเอ่ย  
         
         "พระองค์กำลังจะพูดว่าเมื่อสิบปีก่อนเป็นพวกข้าปั้นแต่งเรื่องขึ้นมาหรือพะยะค่ะ" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยถามขึ้น

         "ข้าไม่ได้กล่าวเช่นนั้น ว่ากันตามเหตุผล หากเขาละทิ้งแนวหน้าเพื่อหลบหนีดังพวกเจ้ากล่าวว่าจริงๆ เช่นนั้นเหตุใดจึงมีเพียงแค่เขาที่ไม่ได้กลับมา" ราชาเบรุทเอ่ยขึ้น

         "แล้วจะมีผู้ใดสามารถทราบได้หรือพะยะค่ะ อาจบางทีเพราะสวรรค์มีตาจึงไม่ปล่อยให้คนชั่วช้าไร้คุณธรรมหลบหนีไป" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ย

         "เอาเถอะ เอาเถอะ ข้าเห็นว่าแต่งตั้งเขาเป็นมาร์ควิสก็ไม่เสียหายอะไร" ขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยแสดงความเห็นต่างขึ้น

         "ข้าเองก็เห็นด้วย" เสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจดังก้องเข้ามาจากหน้าห้องโถง

          "ท่านผู้พิทักษ์!" เป็นเทลเลอที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมช่วงเช้าด้วยตัวเอง

         "เขาเป็นศิษย์ของข้า ดังนั้นข้าขอเรียนถามความเห็นจากท่านมาร์ควิสเจอริโก้สักสองสามคำถามก็แล้วกัน  การแต่งตั้งให้ตำแหน่งแก่ยอดอัจฉริยะเช่นศิษย์ข้ามันมีปัญหาอยู่ที่ใดหรือ เหตุใดท่านมาร์ควิสเจอริโก้ถึงได้คัดค้านอย่างหัวชนฝาเช่นนี้กัน?" เทลเลอเอ่ยเปิดประเด็นขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าทันทีที่มาถึง

         "ข้ามิใช่ไม่เห็นด้วย เพียงแต่คิดว่าหากแต่งตั้งตำแหน่งสูงเช่นนี้ให้แก่เขาอย่างกระทันหัน อาจมีผู้คนอีกมากที่จะรู้สึกคับข้องไม่พอใจ จะอย่างไรสมควรที่จะให้เขาพิสูจน์ว่ามีความสามารถคู่ควรก่อน" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยตอบอย่างรู้สึกประหม่า เนื่องเพราะผู้ที่กำลังเอ่ยถามมันคือเทลเลอ ผู้พิทักษ์แห่งโรฮาน

         "พิสูจน์ความสามารถหรือ? เช่นนั้นข้าขอเรียนถามว่าระดับพลังของท่านมาร์ควิสเจอริโก้ตอนนี้อยู่ที่ระดับใด?" เทลเลอเอ่ยถาม

         "ระดับ 8" มาร์ควิสเจอริโก้ตอบ

         "ด้วยวัยของศิษย์ข้าที่มีอายุเพียง 17 ปี เขากลับสามารถบรรลุพลังได้ถึงระดับ 9 นี่ไม่ใช่สิ่งที่พิสูจน์ความสามารถของเขาแล้วหรอกหรือ?  ท่านเองก็มีอายุอานามเข้าไปจะสี่สิบปีแล้ว ทว่าระดับแก่นจิตวิญญาณยังคงอยู่เพียงแค่ระดับที่ 8 เองมิใช่หรือ?   หืม พิสูจน์ความสามารถ อย่างพูดให้ข้าขำหน่อยเลย" เทลเลอเอ่ย แค่นเสียงออกมาอย่างไม่ไว้หน้าใคร เทลเลอก็เอ่ยถามต่อ "ขอเรียนถามทุกท่าน พวกท่านคิดว่าการบ่มเพาะฝึกฝนพลังกับการบริหารบ้านเมืองช่วยงานราชการ อย่างใดที่มันเรียนรู้ได้อยากกว่ากันหรือ?"

         "ย่อมเป็นการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณ" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยตอบ

         "ถูกต้อง เป็นอย่างที่ท่านตอบมา  ศิษย์ข้าสามารถเข้าใจการฝึกพลังจิตวิญญาณได้อย่างถ่องแท้แล้วเหตุใดเพียงแค่งานราชการที่ไม่ได้มีความยุ่งยากเท่าไรเขาจะเรียนรู้ไม่ได้ เรื่องพิสูจน์ความสามารถเป็นอันตกไป หากว่ายังมีผู้ใดคัดค้านไม่พอใจ เอาเป็นว่าข้าจะออกหน้ารับประกันตัวเอาด้วยตัวเอง เช่นนี้จะยังไม่ผู้ใดคัดค้านอีกหรือไม่? " เทลเลอเอ่ย

         "ข้า.. ข้าคงเลอะเลือนไปเลยลืมนึกถึงเหตุผลข้อนี้ ขอท่านผู้พิทักษ์อย่าได้ถือสา" มาร์ควิสเจอริโก้กล่าวอย่างนอบน้อมทว่าภายในใจกลับขุ่นแค้นจนแทบอกระเบิด "เจ้าเฒ่าโสโครก รอวันที่ท่านพ่อสำเร็จกิจการออกมาจากการเก็บตัวฝึกก่อนเถอะ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะมีชะตากรรมเช่นไร" มาร์ควิสเจอริโก้นึกคิดกับตัวเอง

         "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ความเห็นของท่านผู้พิทักษ์ช่างตรงกับใจของข้านัก" ราชาเบรุทหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่เห็นสภาพซึ่งมาร์ควิสเจอริโก้ถูกเทลเลอไล่ต้อนด้วยคำถามไม่กี่คำ
         เมื่อผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรอย่างเทลเลอออกหน้าด้วยตัวเอง การประชุมในวันนี้ก็ไม่มีใครที่จะกล้าแสดงตัวออกมาคัดค้านอีก
        
          "ดีเช่นนั้นส่งคนไปแจ้งต่อเขาและนัดวันให้เขาเข้ามารับตำแหน่งกับข้าได้เลย" ราชาเบรุทออกคำสั่งเพื่อปิดการประชุมในช่วงเช้าโดยไม่รู้เลยว่าที่เบื้องหลังม่านของห้องประชุมนั้นกำลังมีร่างเล็กร่างหนึ่งแอบฟังการประชุมช่วงเช้าอยู่ เมื่อได้ยินถึงบทสรุปการสนทนาในวันนี้ร่างเล็กนั้นก็ย่ำเท้าอย่างไม่พอใจในทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×