ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #253 : ปะทะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.42K
      336
      4 ต.ค. 61


    "พี่ใหญ่พวกมันเริ่มถอนกำลังแล้วจะเอาเช่นไรดี" อันดับสองเอ่ยถามเซเนียลขึ้น

    เซเนียลที่จับตาดูความเคลื่อนไหวภายในเมืองเป่ยอิงอยู่อย่างไม่วางตาได้ยินคำถามของผู้เป็นน้องรองก็เผยยิ้มลี้ลับออกมา "พวกเจ้านี่ใจร้อนจริงๆเอาเถอะนี่ก็สมควรแก่เวลาแล้ว มาถึงขั้นนี้แล้วคาดว่านางคงไม่อาจที่จะตัดใจทิ้งผู้คนที่อุตส่าพยายามช่วยเหลือให้ตกตายใต้เงื้อมมือของพวกเรา จากลักษณะนิสัยของนาง นางสมควรที่จะรั้งอยู่เพื่อถ่วงเวลาพวกเราไว้เพื่อให้ผู้คนภายใต้การปกครองของนางหลบหนี" เอ่ยจบเซเนียลก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณออกไป พร้อมกันกับที่ผู้คนของทวีปกลางทีส่งออกมาจากผู้นำในครั้งนี้เสียงเป่าหลอดก็ดังก้องขึ้นจากนั้นขบวนเรือเหาะกว่าห้าสิบลำที่คอยท่าอยู่ก่อนแล้วก็เปิดบาเรียม่านพลังอย่างเต็มที่พร้อมทั้งเคลื่อนพลติดตามคาราวานผู้อพยพจากเมืองเป่ยอิงไป

    "พี่ใหญ่จะให้พวกข้า..." อันดับสามเอ่ยถามขึ้น

    เซเนียลที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นห้ามปราม "ยังไม่ เราต้องการจับเป็น การจู่โจมของเจ้าและน้องห้าออกจะรุนแรงเกินไปยากที่จะควบคุมได้ หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นเกรงว่าเผลอพลั้งทำร้ายนางจนถึงแก่ความตายข้าคงรับผิดชอบต่อท่านจักรพรรดิจรัสแสงไม่ไหว" เซเนียลเอ่ยถึงวิชาลับของผู้เป็นน้องสามและน้องห้าของมัน ด้วยน้องสามและน้องห้าของมันนั้นมีทักษะในการปิดบังอำพรางตนเพื่อหลบลี้หนีจากการตรวจจับจากศัตรูเป็นอย่างดี เมื่อสามารถหลบลี้หนีจากการระวังป้องกันตรวจจับของศัตรูได้ก็ย่อมที่จะสามารถจู่โจมใส่ศัตรูในยามที่เปิดช่องว่างและเผด็จศึกได้ในการจู่โจมเดียว อีกทั้งวิชาที่น้องสามและน้องห้าของมันใช้ออกขณะที่ปิดบังอำพรางซุ่มจู่โจมนั้นยังเป็นการร่วมผสานจู่โจมที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถที่จะสังหารระดับจักรพรรดิขั้นสูงได้ในครั้งเดียวด้วยเหตุนี้มันจึงเกรงว่าหากใช้การจู่โจมนี้ต่อจักรพรรดินีซานซานจะพลาดพลั้งทำให้นางถึงแก่ความตายได้

    "จะดีหรือพี่ใหญ่" ผู้เป็นอันดับห้ายังคงเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    เซเนียลผงกศรีษะเป็นการยืนยันการตัดสินใจของตนเอง "ข้อเสียเปรียบของเราเพียงหนึ่งเดียวคือคำสั่งของท่านจักรพรรดิจรัสแสงที่ต้องการให้เราจับเป็นจักรพรรดินีซานซานกลับไป ซ้ำร้ายท่านจักรพรรดิเลออนยังกำชับเป็นพิเศษต่อข้าก่อนทีจะเก็บตัวฝึกฝนว่าอย่าให้บนร่างของนางเกิดริ้วรอยแม้แต่น้อย" เซเนียลเอ่ยพร้อมทั้งถอนหายใจออกมา หากว่าไม่ใช่เพราะคำสั่งนี้ของจักรพรรดิจรัสแสงมีหรือที่มันจะยืดยื้อเสียเวลาวางแผนมากมายถึงเพียงนี้

    "น..นี่คือสาเหตุที่เราต้องยืมกำลังจากจักรพรรดิออก้า?" ผู้เป็นอันดับสี่เอ่ยถามขึ้น

    "ถูกแล้ว ทีนี้พวกเจ้าคงเข้าใจแล้วกระมังว่าเหตุใดพวกเราจึงต้องรวบรวมผู้คนมากมายถึงเพียงและไม่สามารถลงมืออย่างผลีผลามได้" เซเนียลผงกศรีษะเอ่ยตอบผู้เป็นน้องสี่ของมัน สาเหตุที่ต้องยกกำลังพลมามากมายและวางแผนตระเตรียมการอย่างรัดกุมถึงเพียงนี้ก็เพื่อบีบบังคับให้จักรพรรดินีซานซานต้องขอความช่วยเหลือต่อพันธมิตรของนางซึ่งคือทวีปเหนือและทวีปตะวันตก เช่นนี้เมื่อพวกมันปิดหนทางสู่ทวีปเหนือและทวีปตะวันออกไว้เพื่อระมัดระวังเรื่องผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น หนทางเดียวที่หลงเหลืออยู่ก็มีเพียงแต่ทวีปตะวันตกของจักรพรรดิออก้า เมื่อถึงเวลาอันสมควรจักรพรรดิออก้าก็จะปรากฎตัวขึ้นอย่างพอเหมาะพอเจาะเพื่อให้ความช่วยเหลือในยามที่ทวีปใต้ต้องการ จักรพรรดิออก้าที่ปรากฎตัวขึ้นจึงเปรียบเสมือนผู้ที่ส่งกองฝืนท่ามกลางหิมะที่ตกหนักด้วยเงื่อนไขเช่นนี้แม้ว่าจักรพรรดินีซานซานจะเฉลียวฉลาดรอบคอบถึงเพียงไรก็ย่อมที่จะนึกไม่ถึงว่ามหามิตรจะแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู ความช่วยเหลือที่คิดว่ามาถึงจะกลับกลายเป็นดาบเผด็จศึกของศัตรูไป "จะอย่างไรข้าไม่คิดว่าพวกเราจะประสบความสำเร็จในการคร่ากุมนางในครั้งแรกแต่การลองดูก็ไม่นับว่าเสียหายบางทีเรื่องราวอาจจะไม่ได้ยากเย็นอย่างที่ประเมินไว้ถึงแม้ต่อให้พวกเรากระทำไม่สำเร็จก็ยังมีแผนการที่เตรียมไว้ ครั้งนี้พวกเราทั้งห้าพี่น้องจะกลุ้มลุมกดดันใส่นางที่รั้งอยู่เพื่อถ่วงเวลา หากว่าสบโอกาสก็จะใช้โอกาสนี้ลงมือใช้ม่านพลังจับกุมนางไว้แต่หากไม่สบโอกาสก็เพียงถอยกำลังรอการมาถึงของจักรพรรดิออก้า" เซเนียลเอ่ยถึงแผนการของตนเอง


    ได้ยินถึงเสียงเป่าหลอดสัญญาณซานซานก็หันหลังไปเอ่ยสั่งการกับเหม่งอี้ "เหม่งอี้เจ้าสั่งให้ผู้พวกเราที่เหลือคุ้มครองดูขบวนผู้อพยพให้ล่วงหน้าไปก่อน ส่วนเจ้าหลังจากสั่งการเสร็จแล้วให้เร่งรีบกลับมาคอยระวังช่วยเหลือสนับสนุนข้าเข้าใจหรือไม่"

    "ขอรับท่านจักรพรรดินี"


    กองเรือเหาะที่ค่อยๆลอยลำข้ามเมืองเป่ยอิงไล่หลังมากลับต้องหยุดยั้งลงอีกครั้งเพราะจักรพรรดินีซานซานที่ลอยตัวอยู่เบื้องหน้าเพื่อขวางกั้นขบวนเรือเหาะกับคาราวานผู้อพยพจากเมืองเป่ยอิงไว้ เมื่อเรือเหาะของศัตรูค่อยๆลอยล่องเข้ามาในระยะใกล้ ซานซานก็ไม่รีรอช้าพุ่งทะยานเข้าไปจากนั้นใช้แส้ในมือของตนเองฟาดหวดเข้าใส่เรือเหาะลำหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดแต่น่าเสียดายที่ลำแส้ของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ไม่สามารถที่จะกระทบเข้ากับม่านพลังของเรือเหาะได้เพราะก่อนที่ลำแส้ของนางจะตวัดสร้างความเสียหายให้แก่เรือเหาะ ห้าพี่น้องวอลเรนแห่งทวีปกลางก็พุ่งทะยานออกมาใช้พลังจิตวิญญาณสร้างเป็นม่านพลังสะท้อนลำแส้ของซานซานให้กระดอนกลับไป

    "ข้าเซเนียลแห่งตระกูลวอลเรนขอน้อมพบท่านจักรพรรดินี ท่านจักรพรรดินียังคงมีรูปโฉมงดงามไม่เปลี่ยนแปลงช่างสมกับคำล่ำลือที่ได้ยินมาว่าจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้เป็นสตรีที่งดงามที่สุดยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบเทียบได้" หลังจากใช้ม่านพลังสะท้อนปัดป้องลำแส้ของซานซานให้กระดอนกลับไปแล้วเซเนียลก็ทำทีเป็นค้อมตัวเอ่ยอย่างนอบน้อม

    ซานซานเห็นเช่นนั้นก็แค่นเสียงในลำคอออกมา บุคคลิคท่าทีอ่อนโยนนุ่มนวลเมื่อครั้งประชุมภาคีสี่ทวีปไม่ปรากฎให้เห็นอีก ต่อศัตรูที่รุกรานแผ่นดินเกิดสร้างทุกข์เข็ญให้แก่ประชาชนของนาง นางนั้นไร้ความปราณี "ที่แท้ก็ห้าพี่น้องวอลเรนแห่งทวีปกลาง พวกเจ้าทวีปกลางตระบัดสัตย์ลุกล้ำรุกรานบ้านเมืองของผู้อื่นเช่นนี้ข้าจะให้พวกเจ้าพี่น้องวอลเรนมาได้แต่กลับไม่ได้" ซานซานยกชูมือที่ถือแส้ในมือขึ้นชี้ไปยังเซเนียลพร้อมทั้งเอ่ยกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า

    "ขอท่านจักรพรรดินีอย่าได้มีโทสะ ท่านจักรพรรดิเลออนของพวกข้าเพียงแต่ต้องการใคร่พบหน้าท่านจักรพรรดินีซานซานสักครั้งจึงได้ส่งพวกข้าให้มาเชิญตัวท่านจักรพรรดินีไปยังทวีปกลางเพื่อพบปะพูดคุยหารือ ขอเพียงท่านจักรพรรดินียินยอมที่จะติดตามพวกข้ากลับไปเพื่อพบปะกับท่านจักรพรรดิจรัสแสงพวกข้าย่อมต้องถอนกำลังกลับไปไม่ทำร้ายประชาชนของทวีปใต้แน่นอน" เซเนียลเอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าทีเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

    แม้คำพูดของเซเนียลจะฟังดูดีพร้อมหากแต่ซานซานนั้นรู้ดีถึงความหมายที่แฝงอยู่ภายใน "มันมุ่งเป้ามาที่ตัวเรา? ไม่ คำพูดของพวกมันเชื่อถือไม่ได้ต่อให้เรายินยอมปฎิบัติตามข้อเสนอของพวกมันก็ไม่มีสิ่งใดที่จะรับประกันได้ว่าทวีปกลางจะปฎิบัติตามคำมั่นอีกทั้งศึกนี้ก็ไม่ใช่ศึกที่เราไม่อาจเอาชนะ ขอเพียงเราสามารถลากถ่วงเวลาให้ล่วงเลยผ่านไปได้สัก2-3วัน เชื่อว่ากำลังเสริมที่เนี่ยเฟยกำลังรวบรวมจัดหาอยู่จะต้องมาถึงและตีโต้กลับคืนทวีปได้แน่นอนและหากได้กำลังเสริมจากทวีปเหนือหรือทวีปตะวันตกของจักรพรรดิออกก้ายกมาช่วยเหลือไม่เพียงแต่เราจะสามารถยันกองเรือของทวีปกลางไว้ได้หากแต่ยังสามารถที่จะทำลายล้างกองเรือนี้ของพวกมันให้พินาศย่อยยับ" ซานซานสรุปนึกคิดกับตนเองได้เช่นนั้นก็เอ่ยกับเซเนียลกลับไป "วาจาของผู้ที่ตระบัดสัตย์มาแล้วครั้งหนึ่งย่อมไม่มีผู้ใดยอมเชื่อถือ อย่าได้คิดว่าทวีปกลางเป็นทวีปใหญ่แล้วจะเปิดสงครามรุกรานผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ ทวีปกลางของพวกเจ้าตัดสินใจเปิดสงครามขึ้นเช่นนี้จะต้องไม่มีจุดจบที่ดี"

    "เช่นนั้นพวกข้าก็คงไม่มีทางเลี่ยงคงได้แต่ต้องใช้กำลังบังคับหักหาญแล้ว" เซเนียลเอ่ยเสมือนว่าฝ่ายของตนเองเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ เอ่ยกล่าวจบมันก็ส่งสัญญาณให้พี่น้องของมันกระจายตัวออกเพื่อล้อมรอบกลุ้มลุมเข้าใส่ซานซาน

    เห็นเช่นนั้นซานซานก็ไม่กล่าวให้มากความอีกนางเร่งพลังของตนเองเพื่อเตรียมพร้อม ต่อให้ถูกลุมล้อมด้วยระดับจักรพรรดิถึงห้าคนแม้นางจะไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะศัตรูตรงหน้าแต่ถ้าเพียงลากถ่วงไว้สักระยะแล้วค่อยหลบหนีล่าถอยนางนั้นยังมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถกระทำได้ ยิ่งมีเหม่งอี้ลูกน้องคนสนิทคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังย่อมเป็นเรื่องยากที่นางในวันนี้จะเพรี่ยงพล้ำเสียทีให้แก่ศัตรู

    ซานซานพลิกข้อมือของตนเองตวัดแส้ที่ยาวนับสิบเมตรให้ยืดขยายออกยิ่งกว่าเดิมจากนั้นนางก็กวาดมือที่ถือด้ามแส้อยู่เป็นวงบังคับให้ลำแส้หมุนคว้าเป็นวงกลมฟาดหวดใส่พี่ห้าพี่น้องวอลเรนที่กระจายตัวล้อมกรอบอยู่รอบตัวนาง

    เมื่อถูกลำแส้ที่ทรงพลังถึงขนาดสามารถตัดผ่านลำเรือเหาะที่กางม่านพลังไว้ได้อย่างง่ายดายเข้ากดดันทำให้ห้าพี่น้องวอลเรนที่ล้อมกรอบจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้อยู่ต้องถอยกรูดขยายวงล้อมของตนเองออกไป

    "พี่ใหญ่หากพวกเราออมกำลังไว้เกรงว่าคงเป็นพวกเราเองเสียมากกว่าที่จะต้องพลาดท่าเสียทีให้แก่นาง" ลำดับสามในหมู่พี่น้องวอลเรนเอ่ยสื่อสารกับผู้เป็นพี่ใหญ่ของมันผ่านเทเลพาที

    "พวกเราลงมือได้อย่างเต็มที่แต่ให้ระวังไว้อย่าได้พลั้งมือทำร้ายนางถึงแก่ชีวิตก็พอ" เซเนียลเอ่ยสั่งการ

    ได้ยินคำเอ่ยอนุญาติของผู้เป็นพี่ใหญ่ของพวกมันแล้วห้าพี่น้องวอลเรนก็ผงกหัวให้แก่กัน

    "พี่ใหญ่ ข้าจะทุ่มพลังทั้งหมดหยุดเพื่อหยุดยั้งแส้ในมือของนางไว้ให้พวกท่านถือเอาโอกาสนั้นเมื่อการเคลื่อนไหวของนางหยุดยั้งลงกลุ้มลุมเข้าใส่เพื่อตัดกำลังนาง" ลำดับสองเอ่ยนัดแนะกับพี่น้องของมัน จากนั้นมันก็เร่งเสริมพลังจิตวิญญาณดินของตนเองให้แก่ร่างกายของมันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและพุ่งทะยานเข้าไปคว้าจับแส้ที่หมุนวนเข้ามาใกล้กับมัน

    หมับ ลำดับสองแห่งตระกูลวอลเรนยืนมือออกไปคว้าจับลำแส้ที่รวดเร็วไว้ได้ ขณะที่คว้าจับลำแส้ไว้ตัวมันก็ถูกปลายแส้ตวัดเข้าฟาดหวดเข้าใส่ที่ใบหน้าถึงแม้ว่ามันจะทุ่มกำลังของตนเองเสริมพลังให้แก่ร่างกายไว้แล้วตัวมันยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจนต้องกัดฟันกู่ร้องเรียกพี่น้องออกมา "พี่ใหญ่ลงมือ" มันร้องเรียกขณะที่มันรั้งดึงลำแส้ประลองกำลังอยู่กับซานซาน

    ซานซานที่นึกไม่ถึงว่าอีกฝั่งจะใช้วิธีการที่โง่เง่าอย่างการเอาตัวเข้ารับแส้ตรงๆเพื่อหยุดยั้งการจู่โจมของนางเช่นนี้ก็ชงักไปเล็กน้อย "หืมก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะใช้วิธีการซึ่งไร้ความคิดเช่นนี้จะอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง" ซานซานนึกคิดกับตนเองจากนั้นนางจึงเผยรอยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก "หากว่าอาศัยเพียงระดับจักรพรรดิขั้นกลางผู่หนึ่งก็สามารถจะหยุดยั้งวิชาแส้ของข้าได้เช่นนั้นในวันนี้ข้าคงไม่สามารถที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปใต้ได้แล้ว" เอ่ยกล่าวจบซานซานก็ออกแรงดึงรั้งลำแส้ที่ถูกลำดับสองแห่งพี่น้องวอลเรนรั้งดังอยู่กลับมา จากแรงกระชากของนางส่งผลให้ลำดับสองแห่งพี่น้องวอลเรนถึงกลับเสียการทรงตัวถูกดึงกระชากไปตามแรงหากแต่มันยังคงไม่ยอมปล่อยแส้นั้นไป

    "หืมไม่ยอมปล่อยหรือเช่นนั้นข้าจะลำตัวของเจ้าฟาดหวดใส่พี่น้องของเจ้าดูว่าเจ้าจะยังดึงดันอยู่หรือไม่" คิดเช่นนั้นซานซานก็ส่งพลังของตนเองเข้าไปตามลำแส้เพื่อบังคับปลายแส้ที่บัดนี้เพิ่มของผู้หนึ่งเข้ามาจนคล้ายเหมือนลูกตุ้มมนุษย์เข้าฟาดหวดใส่พี่น้องวอลเรนอีกผู้หนึ่งที่กำลังจะล้อมกรอบเข้ามาหานาง







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×