ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #243 : แสงแห่งความหวังที่มืดดับลง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.31K
      495
      23 ส.ค. 61




    มิร่าหยุดยั้งร่างของตนเองอยู่เบื้องหนาของเอกีย์ขณะที่ใช้ดวงตาดำคลับของตนเองจ้องมองไปที่ศัตรูตรงหน้าอย่างพินิจวิเคราะห์ ที่นางหยุดยั้งอยู่เบื้องหน้าศัตรูก็เพราะคำสั่งของกาเล็ทที่ว่าให้จับเป็น นางกำลังประเมินว่ากับศัตรูผู้นี้สมควรใช้พลังในระดับเท่าไรดีจึงจะเหมาะสม

    เอกีย์ที่ร่างสั่นสะท้านเพราะสัมผัสได้ถึงความตายที่เข้ามาเยือนแต่แล้วจู่ๆความกดดันมหาศาลนั้นก็ถูกสลายหายไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เมื่อมันตั้งสติได้กลับพบว่าที่เบื้องหน้าของตนเองมีสัตว์อสูรตัวน้อยกำลังจ้องมองมาที่ตนเองอยู่ "มังกร?" เอกีย์ส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัวถึงสิ่งที่เห็น แต่เมื่อสำนึกรู้ได้ว่าสัตว์อสูรที่ลอยตัวกระพือปีกอยู่เบื้องหน้าของตนเองตอนนี้คือต้นเหตุของความตายที่ตนเองสัมผัสได้เมื่อครู่มันก็กู่ร้องคำรามก้อง "ใสหัวไป" เอกีย์ตวาดก้องก่อนที่เหวี่ยงหมัดของตนเองที่สวมสนับมืออยู่เข้าจู่โจมใส่สัตว์อสูรที่เบื้องหน้า

    วูบมิร่าเคลื่อนตัวหลบเลี่ยงการจู่โจมเหวี่ยงหมัดของเอกีย์ได้ไม่ยาก เพียงขยับเคลื่อนตัววูบเดียวนางก็สามารถที่จะหลบรอดการเหวี่ยงหมัดของเอกีย์ได้แล้ว การจู่โจมอย่างเอาจริงเอาจังของเอกีย์สำหรับกับนางก็ไม่ต่างอะไรกับการละเล่นที่ผู้เป็นบิดามักจะเล่นไล่จับกับตนเองอยู่เป็นประจำ หลังจากหลบเลี่ยงหวัดที่กวาดฟาดเข้ามาของเอกีย์แล้วมิร่าก็ขยับอุ้งเท้าของตนเองครั้งหนึ่ง นางค่อยๆยกอุ้งเท้าของตนเองขึ้นจากนั้นนางจึงขยับเข้าไปฟาดหวดอุ้งเท้าหน้าของตนเองข้างขวาใส่ใบหน้าของเอกีย์ที่ถลึงตาแสดงความดุดันจ้องมองมา

    ตุบ เสียงอุ้งเท้าน้อยๆกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของเอกีย์ ดังสะท้านขึ้น แรงกระแทกส่งผลให้ใบหน้าของเอกีย์หมุนสะบัดไป

    "บัดซบ" เอกีย์กัดฟันกรอดสบถกร่นด่าด้วยคำหยาบคายออกมา จะอย่างไรมันก็มีพลังถึงระดับจักรพรรดิ เอกีย์รวบรวมพลังไปที่สองหมัดของตนเองอีกครั้ง แสงสีแดงปรากฎขึ้นให้ได้เห็นที่สนับมือทั้งสองข้างของมันที่สวมใส่อยู่แสดงให้เห็นว่ามันเอาจริงแล้ว คลื่นความร้อนแผ่ซ่านออกมาจากหมัดทั้งสองจากนั้นมันจึงเริ่มที่จะตีโต้กลับคืนจู่โจมใส่สัตว์อสูรเบื้องหน้า

    วืด วืด วืด วืด หมัดแล้วหมัดเล่าที่เอกีย์จู่โจมต่อยออกใส่เป้าหมาย หากแต่มันกลับต่อยถูกได้แต่อากาศธาตุ คลื่นความร้อนจากหมัดของมันแผ่นกระจายคลื่นผ่านอากาศจนทำให้อากาศสั่นไหวบิดเบือนเมื่อมองด้วยตาเปล่า

    หลังจากที่หลบหมัดชุดของเอกีย์ได้อย่างง่ายดายร่างของมิร่าก็เคลื่อนเข้าใกล้เอกีย์อีกครั้ง ในครั้งนี้นางยกอุ้งเท้าข้างซ้ายของนางขึ้นจากนั้นจึงใช้มันฟาดหวดเข้าใส่ใบหน้าอีกซีกของเอกีย์อีกครั้ง การฟาดหวดครั้งนี้นางเพิ่มพลังจากครั้งก่อนหน้าเข้าไปอีกสามส่วน

    ตุบ เสียงจากการปะทะระหว่างอุ้งเท่าและใบหน้าเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เป็นดั่งเช่นครั้งแรกใบหน้าของเอกีย์สะบัดไปตามแรงกระแทกที่ถูกฟาดหวดเข้าใส่ หากแต่การถูกฟาดหวดครั้งนี้สร้างผลกระทบแก่มันมากกว่าเดิม ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วใบหน้าของมันอย่างหยุดไม่ได้ แรงสั่นสะเทือนทำให้มันรู้สึกวิงเวียงยากต่อการยืนหยัดทรงกาย เอกีย์ถึงกับเซถอยหลังไปสองก้าวเมื่อถูกมิร่าฟาดหวดเข้าใส่ในครั้งที่สอง แต่การถูกจู่โจมครั้งนี้ยังไม่อาจจะทำให้มันล้มลง เอกีย์กัดฟันกรอดอีกครั้งจากนั้นจึงตั้งหลักปรับสมดุลให้แก่ร่างและก้าวเท้าออกไปต่อยหมัดใส่อากาศเบื้องหน้าส่งคลื่นความร้อนมหาศาลพวกพุ่งออกจากหมัดทั้งสองข้างออกไปจู่โจมใส่มิร่า

    เป็นดังคาด มิร่าสามารถเคลื่อนหลบคลื่นพลังความร้อนนี้ไปได้อย่างง่ายดาย แม้จะเห็นเช่นนั้นแต่มุมปากของเอกีย์กลับยกโค้งสูงขึ้นเนื่องเพราะที่มันตั้งใจจู่โจมใส่ครั้งนี้ไม่ใช้สัตว์อสูรตรงหน้าหากแต่เป็นผู้คนสองคนที่อยู่เบื้องหลังของมัน

    กาเล็ทที่นั่งพยุงเจฟและท่ายทอดพลังจิตวิญญาณของตนเองเข้าสู่ร่างเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายของเจฟรักษาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเองอยู่สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่จู่โจมเข้ามาใส่ตนเอง หากแต่กาเล็ทกลับไม่ได้แสดงออกถึงท่าทีหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย กาเล็ทเพียงยกมือข้างหนึ่งขึ้นสบัด คลื่นความร้อนที่พวยพุ่งเข้ามาก็สลายหายไปคล้ายไม่มีอยู่

    เอกีย์เห็นที่ชั้นก็ดวงตาเบิกโพลงด้วยความแตกตื่นประหลาดใจแต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ทำสิ่งใดได้มากกว่านั้นมันก็สัมผัสได้จึงอันตราย

    มิร่าที่หันหลังกลับมามองเห็นเช่นนั้นก็เกิดความรู้สึกฉุนเฉียวโกรธเคืองขึ้น ความรู้สึกชิงชังก่อตัวขึ้นมาในจิตใจของนาง มิร่าหันกลับมาเผชิญหน้ากับเอกีย์อีกครั้งจากนั้นจึงพุ่งเข้าหาเอกีย์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเอกีย์จะก้าวถอยหลังขณะต่อยหมัดของตนเองสวนมาหากแต่นางก็สามารถหลบเลี่ยงเข้าประชิดตัวของมันได้ไม่ยาก หมัดของเอกีย์ในสายตาของมิร่านั้นดูเชื่องช้าไม่ได้คุกคามต่อนางเลยแม้แต่น้อย เมื่อเคลื่อนประชิดเอกีย์ไดอีกครั้งนางก็รัวอุ้งเท้าทั้งสองข้างตบฟาดหวดเข้าใส่ใบหน้าของเอกีย์อย่างไม่ยั้ง แต่นางยังไม่ลืมที่จะออมกำลังไว้ตามคำสั่งจับเป็นของผู้เป็นบิดา

    ตุบ ตับ ตุบ ตับ ใบหน้าของเอกีย์ถูกตบหวดเข้าใส่ด้วยอุ้งเท้าน้อยๆของมิร่าจนสบัดไปซ้ายทีขวาทีไปมา ในตอนนี้ในจิตใจของเอกีย์ก่อเกิดความรู้สึกประการหนึ่งขึ้น ความกลัว ความกลัวก่อเกิดขึ้นในจิตใจของมัน นับตั้งแต่ที่เหยียบย่างเท้าเข้ามาภายในทวีปตะวันออกแห่งนี้มันก็นึกดูถูกหยามหยันถึงการป้องกันที่หละหลวมของทวีปตะวันออก มันคิดว่าทวีปแห่งนี้ไม่มีสิ่งใดคู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อกรกับจักรพรรดิจรัสแสงนายเหนือหัวของมัน มันคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ตลอดมาแม้ตัวมันและบาทหลวงเจมินี่จะถูกผู้คนพบเห็นขณะถ่ายถอดพลังเข้าสู่ผลึกอสูรคลั่งก็ตามถึงจะเป็นเช่นนั้นมันยังมีความมั่นใจว่าตนเองจะสามารถตามล่าฆ่าล้างเหล่าหนอนแมลงที่มารบกวนเรื่องสำคัญของมันได้และมันก็เกือบจะกระทำได้สำเร็จ จนกระทั่งสัตว์อสูรที่แปลกประหลาดตัวนี้ปรากฎตัวขึ้นมา ตอนนี้มันสำนึกรู้ได้แล้วว่าตัวมันไม่ใช่ผู้คุมสถานการณ์อีกต่อไป พร้อมกับที่มันเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ความคิดที่จะตามล่าฆ่าล้างผู้พบเห็นตัวมันและบาทหลวงเจมินี่ก็ไม่หลงเหลืออยู่อีก ในตอนนี้มันคิดแต่เพียงว่าจะถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด ถ่วงเวลาให้มากพอที่บาทหลวงเจมินี่จะกระทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้ลุล่วง "เรายังไม่อาจมาล้มลงที่ตรงนี้" เอกีย์คิดเช่นนั้นก็กลั้นใจรวบรวมพลังเฮือกใหญ่เพื่อเตรียมจู่โจมตีโต้กลับ เมื่อการจู่โจมด้วยการระบุเป้าหมายเฉกเช่นปกติไม่สามารถเข้าถึงตัวศัตรูมันก็จะใช้การจู่โจมวงกว้างซึ่งไม่สามารถหลบให้พ้นได้

    วืดดดดด ร่างของเอกีย์เจิดจรัสเปร่งแสงขึ้นวูบหนึ่งจากนั้นไม่นานไอความร้อนมหาศาลก็ระเบิดออกไปทั่วทั้งบริเวณโดยมีเอกีย์เป็นศูนย์กลาง หากแต่เมื่อฝุ่นควันจากแรงระเบิดที่ตลบอบอวลอยู่มลายจากหายไป เอกีย์ก็ต้องส่งเสียงร้องอุทานออกมาด้วยความสิ้นหวัง "มง่ายจริง ป..เป็นไปไม่ได้" เอกีย์ส่งเสียงออกมาอย่างไม่ชัดเท่าใดเนื่องเพราะใบหน้าของมันที่เริ่มปูดบวมขึ้น แม้จะไม่อย่างเชื่อในสิ่งที่เห็นมากเท่าใดแต่ความจริงนั้นปรากฎอยู่ตรงหน้าแล้ว ความจริงที่ว่าการจู่โจมระเบิดพลังคลื่นความร้อนของมันไม่สามารถจะทำอะไรศัตรูได้เลย ไม่เพียงไม่สามารถกระทำอันตรายศัตรูได้พื้นที่ซึ่งได้ผลกระทบจากแรงระเบิดคลื่นความร้อนกลับเป็นเพียงบริเวณด้านหลังและด้านข้างจากตัวมัน วิชาระเบิดคลื่นความร้อนที่สมควรจะสร้างความเสียหายเป็นวงกลมกลับกลายเป็นสร้างความเสียหายเป็นครึ่งวงกลมเท่านั้นหนำซ้ำที่ถูกจู่โจมเข้าใส่ด้วยวิชาของมันกลับมีแต่ต้นไม้ใบหญ้าเช่นนี้แล้วมันจะศูนย์เสียพลังจำนวนมากไปเพื่ออะไร?

    มิร่านั้นไม่เพียงไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่เอกีย์ระเบิดออกหากแต่นางยังคงแผ่พลังของตนเองออกไปเพื่อป้องการให้แก่กาเล็ทที่เบื้องหลังซึ่งกำลังทุ่มสมาธิของตนเองถ่ายโอนพลังรักษาเจฟอยู่ มิร่านั้นสามารถที่จะต้านทานหักล้างวิชาระเบิดพลังของเอกีย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ

    เอกีย์ในตอนนี้เปรียบเสมือนหมาที่ถูกไล่ให้จนตรอก จะหลบหนีก็ไม่ได้จะสู้ก็มีแต่จะพ่ายแพ้ เบื้องหลังของมันนั้นคือบาทหลวงเจมินี่ที่กำลังถ่ายโอนพลังเข้าสู่ผลึกอสูรคลั่ง ด้วยความภักดีของมันที่มีต่อจักรพรรดิจรัสแสงไม่เหลือช่องให้มันเลือกที่จะหนีเอาตัวรอด หากมันเลือกที่จะหลบหนีเอาตัวรอดนั่นย่อมหมายความว่าภารกิจสำคัญที่ผู้เป็นนายมอบหมายให้แก่มันก็มีโอกาสสูงที่จะล้มเหลว เช่นนั้นมันคงไม่สามารถที่จะแบกหน้ากับไปอธิบายกับผู้เป็นนายได้เป็นแน่แท้ หากจะให้เลือกสู้แล้วมันย่อมรู้ดีว่าแม้มันจะทุ่มทุกอย่างที่มีสุดท้ายก็ยังคงต้องจบลงด้วยความพ่ายแพ้ สัตว์อสูรที่เบื้องหน้าของมันตอนนี้นั้นแข็งแกร่งยิ่งยวดอย่างที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อน อย่างว่าแต่ตอนนี้มันมีเพียงลำพังผู้เดียวอีกฝ่ายกลับมีมากมายยากจะคาดเดา "คงมีแต่วิธีนี้เท่านั้น ข้าจะใช้ชีวิตของข้าเป็นเครื่องพิสูจน์ความภักดีที่มีต่อองค์จักรพรรดิ"เอกีย์คิดกับตนเอง

    ได้เห็นถึงท่าทีของเอกีย์ที่เปลี่ยนไปทำให้กาเล็ทรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง

    เอกีย์หยุดยั้งตั้งมั่นอยู่กับที่จากนั้นมันจึงเริ่มที่จะดูดซับพลังจิตวิญญาณรอบกายมันเข้าสู่แก่นจิตวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ดวงตากระจ่างเบิกกว้างขึ้น "มันคิดระเบิดแก่นจิตวิญญาณของตนเอง" รู้ได้ดังนั้นกาเล็ทก็เปิดปากสั่งการ "มิร่าน้อยอย่าให้มันดูดซับพลังได้สำเร็จ"

    ได้ยินถึงคำกล่าวของกาเล็ทมิร่าก็เคลื่อนไหว นางอ้าปากน้อยๆของตนเองขึ้นจากนั้นจึงเริ่มดูดกระแสพลังจิตวิญญาณโดยรอบเข้าสู่ร่างด้วยกำลังที่มากกว่าเอกีย์หลายเท่าส่งผลให้กระแสพลังที่สมควรจะถูกเอกีย์ดูดซับไปเคลื่อนตัวมาที่มิร่าและถูกมิร่าดูดกลืนลงไป ด้วยความสามารถพิเศษของมิร่าซึ่งสามารถดูดกลืนและสลายพลังจิตวิญญาณได้อย่างมหาศาลเหมือนเมื่อครั้งใช้ดูดซับวิชาของจักรพรรดิแดงทำให้แม้เอกีย์จะคิดใช้ชีวิตของตนเองซื้อเวลาให้แก่พวกพวกยังไม่สามารถกระทำได้

    "ด.ได้อย่างไรกัน" เอกีย์เอ่ยกล่าวอย่างสิ้นหวังด้วยใบหน้าที่บวมเปล่งไม่เหลือรูปเค้าเดิม แต่ก่อนที่ความสิ้นหวังจะโหมกระหน่ำกัดกินจิตใจของมันแสงแห่งความหวังของมันก็ปรากฎ

    บาทหลวงเจมินี่ที่ไม่ทราบว่ามาถึงตั้งแต่เมื่อใดก็พ่งทะยานลงมาจากเบื้องบนปรากฎตัวขึ้นใช้ไม้เท้าในมือฟาดหวดใส่มิร่าที่กำลังจะใช้หางของตนเองรัดคอเอกีย์และรากกลับไปหาผู้เป็นบิดาเพื่อรับคำชมเชย

    มิร่าที่สัมผัสได้ถึงบางสิ่งถอยห่างออกมาไกลกว่าทีควรจะเป็น

    "เป็นอย่างไรบ้าง ข้าจะนำพาเจ้าหลบหนี" บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกับเอกีย์

    "ท่านบาทหลวงท่านมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่า.." เอกีย์เอ่ยถามอย่างยากเย็น

    "ถูกต้อง สำเร็จลุล่วงแล้ว ตอนนี้คิดแต่เพียงเรื่องหลบหนีเป็นพอ เรื่องอื่นๆค่อยว่ากล่าวทีหลัง" บาทหลวงเจมินี่เข้าไปพยุงร่างของเอกีย์ขึ้นแต่ก่อนที่มันจะได้กระทำอะไรไปมากกว่านั้น กรอบม่านพลังหนาแน่นก็ล่วงหล่นลงมาจากเบื้องบนครอบร่างของมันและเอกีย์ไว้ให้ไร้ทางหนี "วิชาม่านพลัง!!" บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกล่าวกับตนเองด้วยความแตกตื่น

    วิชาม่านพลังนี้ย่อมเป็น โรส มาร์ตินและเรน่าทั้งสามที่พึ่งจะรุดมาถึงร่วมมือกันสร้างขึ้นเพื่อกักขังคร่ากุมศัตรูไว้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×