ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #229 : เหตุใดจึงคิดสังหารข้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.46K
      569
      15 ก.ค. 61




    เมื่อถูกบีบบังคับให้ลงมือกาเล็ทก็ย่อมที่จะไม่งอมืองอเท้ารอรับการจัดการจากผู้อื่น กาเล็ทยกดาบเขี้ยวมังกรสีดำขลับขึ้นมาเพื่อต้านรับดาบใหญ่ในมือของเซอกีย์ที่ฟาดฟันเข้าใส่ตน เช้ง เช้ง เช้ง เสียงดาบเขี้ยวมังกรและดาบใหญ่ในมือของเซอกีย์ปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า

    ทางด้านซานซานยังคงยืนนิ่งเพื่อประเมินจักรพรรดิหนุ่มอีกผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของตนเอง ขณะที่รับรู้ได้ถึงอีกด้านหนึ่งซึ่งเซอกีย์และกาเล็ทอีกร่างหนึ่งกำลังต่อสู้โรมรันกันอยู่ "จักรพรรดิทมิฬที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเรานี้บางครั้งให้ความรู้สึกหนักแน่นบางครั้งกลับให้ความรู้สึกเสมือนกลวงเปล่า ที่แท้แล้วนี่คือวิชาแปลกประหลาดใดกันแน่" ด้วยความสงสัยที่มีนางจึงเตรียมตัวที่จะลงมือพิสูจน์เพื่อให้ทราบว่าที่อยู่ตรงหน้านางนั้นใช้ภาพมายาที่สร้างขึ้นมาหลอกล่อถ่วงเวลาจริงหรือไม่ จักรพรรดินีซานซานที่ลอยอยู่กลางอากาศพลันเหลือบมองลงไปยังเบื้องล่างในจุดที่อาวุธแส้ของนางกองอยู่จากนั้นนางพลันกางมือออกเพื่อส่งถ่ายพลังดูดดึงแส้นั้นให้กลับคืนเข้าสู่มือ หากแต่ทันทีที่นางขยับเคลื่อนไหวร่างแยกของกาเล็ทที่สงบนิ่งไม่ไหวติงมาเนิ่นนานก็ขยับเคลื่อนไหวเช่นกัน

    ร่างแยกของกาเล็ทขยับพุ่งจู่โจมเข้าใส่ซานซานด้วยมือเปล่า พลัก พลัก พลัก พลัก ร่างแยกของกาเล็ทระดมทั้งหมัดทั้งเท้าเข้าจู่โจมใส่จักรพรรดินีแห่งทวีปใต้อย่างไม่อ่อนข้อโดยไม่เปิดโอกาสให้นางได้ใช้พลังดึงเก็บแส้คู่กายที่ตกอยู่เบื้องล่าง

    "ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ใช่วิชาภาพมายาแน่นอน" ขณะที่ถูกรุกไล่เข้าใส่จนต้องค่อยๆถอยร่นไป ซานซานก็คิดประเมินกับตนเอง แม้ว่าจะถูกรุกไล่จนต้องถอยร่นหากแต่ในจิตใจของนางกลับเกิดความรู้สึกยินดีขึ้น "อาจบางทีแสงแห่งความหวังที่ท่านยายบอกกล่าวคือเขาเอง"

    สำหรับวิชาร่างแยกของกาเล็ทนี้หาใช่วิชาที่สามารถใช้ออกได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกสำหรับการสร้างร่างแยกพลังเช่นนี้ขึ้นมานั่นคือความเสี่ยง การที่จะสร้างร่างแยกที่มีความสามารถเช่นนี้ขึ้นมาจำเป็นที่จะต้องแบ่งพลังจากร่างหลักออกมาส่วนหนึ่ง ความสามารถของร่างแยกจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับพลังที่แบ่งออก หากแบ่งออกมามากร่างแยกก็ยิ่งจะมีความสามารถมากขึ้นตามลำดับหากแต่ก็ต้องแบกรับความเสี่ยง เมื่อร่างแยกถูกจู่โจมทำลายจนสลายหายไปย่อมหมายความว่าพลังที่แบ่งออกไปก็จะสูญเสียไปอย่างเสียเปล่า จากที่จะทำให้ได้เปรียบก็อาจจะกลับกลายเป็นเสียเปรียบไป อีกทั้งร่างแยกที่แบ่งแยกออกไปก็หาได้มีประสาทความรับรู้หรือความนึกคิดเป็นของตนเอง หากแต่เป็นเสมือนร่างพลังที่ว่างเปล่าซึ่งต้องได้รับคำสั่งการเคลื่อนไหวจากร่างต้น ดังนั้นการบังคับควบคุมร่างแยกนี้จึงนับว่าไม่ง่ายนัก

    กาเล็ทที่กำลังแลกดาบอยู่กับจักรพรรดิแห่งแดนเหนือปัญสมาธิเหลือบมองไปยังร่างแยกของตนเองที่กำลังเข้าต่อสู้พัวพันอยู่กับจักรพรรดินีซานซานวูบหนึ่ง "ร่างแยกของเรานั้นมีพลังเพียงสามส่วนเกรงว่าแม้จะทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ก็ยังคงไม่อาจโค่นล้มเอาชัยต่อนางยิ่งการต่อสู้นี้ยืดยาวเท่าใดยิ่งไม่เป็นผลดีต่อเรา" กาเล็ทนึกคิดประเมินกับตนเองจากนั้นจึงหันกลับมายังจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือ "ขอบอกกล่าวอีกครั้งว่านี่เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด หากว่าท่านจักรพรรดิเซอกีย์ยังคงดึงดันที่จะจู่โจมเข้าทำร้ายใส่ข้า ข้าก็จะไม่ขอเกรงใจอีก"

    "จนป่านนี้แล้วมันยังคงเก็บงำพลังไว้ มีความสามารถึงเพียงนี้การที่ไทสันพ่ายแพ้ให้แก่มันก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร" เซอกีย์เหลือบมองไปยังอีกฝากซึ่งจักรพรรดินีซานซานกำลังต่อสู้พัวพันอยู่กับร่างแยกของกาเล็ทอยู่ "ผู้ใดร้องขอให้เจ้ายั้งมือไว้ไมตรี" เซอกีย์ตะโกนกู่ร้องอย่างดุดันขณะที่เร่งพลังส่งผ่านไปยังดาบใหญ่ของมันจากนั้นมันก็หมุนตัวเหวี่ยงดาบใหญ่นั้นออกไปยังกาเล็ท

    ฟวับ ฟวับ ฟวับ ดาบใหญ่ที่แฝงไปด้วยพลังจิตวิญญาณคุณสมบัติลมหมุนคว้างเข้าหากาเล็ท ไม่เพียงแต่คมดาบของดาบใหญ่นี้ที่ต้องระมัดระวังยังมีกระแสลมที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่งรอบตัวดาบที่พร้อมจะตัดสิ่งที่ขวางทางมันอยู่ให้ขาดออกเป็นเสี่ยงๆ

    "เขาคือผู้ใช้จิตวิญญาณธาตุลม" กาเล็ทนึกคิดกับตนเองในใจ ไวเท่าความคิดกาเล็ทพลันเปลี่ยนคุณสมบัติชองวิชาอาภรณ์วารีโดยแทรกการแปลงคุณสมบัติดินผสมกลมกลืนเข้าไปจากนั้นจึงตีลังกาหลบคมดาบที่หมุนฟันเข้ามา ขณะเดียวกันกับที่กาเล็ทตีลังกาหมุนตัวหลบคมดาบร่างของจักรพรรดิแดนเหนือก็มาปรากฎดักทางไว้ยังเบื้องหลัง

    "รับมือ" เซอกีย์กู่ร้องตะโกนก้องเป็นสัญญาณเตือนขณะที่ต่อยหมัดซึ่งมีกระแสลมหมุนวนจนส่งเสียงวืด วืด อยู่ออกไปเบื้องหน้า ตัวมันย่อมรู้ดีว่าด้วยความสามารถของเด็กหนุ่มที่เบื้องหน้าการจู่โจมปกติธรรมดาคงยากที่จะทำร้ายเข้าถึงตัวได้ดังนั้นมันจึงคิดกลยุทธจู่โจมกระหนาบสองข้างครั้งนี้ขึ้น

    กาเล็ทที่พึ่งจะหลบคมดาบได้พลันยื่นมือออกไปคว้าจับด้ามดาบ ออร่าสีน้ำตามสว่างเรืองรองขึ้นมายังข้อมือของกาเล็ทขณะที่ยืนมือฝ่าทะลวงกระแสลมหมุนเข้าไปคว้าจับยังด้ามดาบ "คืนดาบให้แก่ท่านจักรพรรดิ" ขณะเดียวกันกับที่ร่างของเซอกีย์ปรากฎขึ้นที่ด้านหลังและต่อยหมัดออกกาเล็ทก็เหวี่ยงดาบใหญ่ยักษ์ของเซอกีย์ที่ตนเองคลายสภาวะพลังที่แฝงมาออกแล้วกลับไปเข้าใส่

    "เจ้าเด็กนี่ !!" เซอกีย์ที่พึ่งจะต่อยหมัดออกมาเกิดความรู้สึกตระหนกตกใจจนต้องรีบดึงรั้งหมัดกลับคืนมาเพื่อตั้งรับคมดาบที่ถูกเหวี่ยงกลับมา มันไม่คิดแลกชีวิต ถึงจะคิดแลกชีวิตนี่ก็นับเป็นการแลกที่ไม่คุ้มค่าดังนั้นมันจึงเลือกที่จะหยุดยั้งการจู่โจมของตนเองไว้เพื่อกลับมาตั้งรับ

    กึ๊งงงงงงง เสียงสั่นไหมของเหล็กกล้าดังสั่นสะท้านไปทั่วท้องฟ้า บรรยากาศสั่นไหวจนรู้สึกได้ เซอกีย์หันใช้สองมือประกบเข้านาบกับใบดาบเพื่อหยุดยั้งสภาวะฟาดฟันมาของดาบได้อย่างทันท่วงที

    กาเล็ทจึงถือเอาโอกาสนี้ถอยห่างออกมาหาได้จู่โจมซ้ำเติมเข้าใส่อย่างที่ควรจะเป็น

    "มันสามารถแก้ทางวิชาของเราได้ในเวลาอันสั้นแถมยังจู่โจมสวนกลับมาได้อย่างหนักหน่วง ความสามารถของเจ้าเด็กนี่นับว่ายากจะหยั่งถึง" เซอกีย์หยุดยั้งจ้องมองไปทีกาเล็ทโดยไม่มีทีท่าว่าจะลงมืออีกขณะที่คิดประเมินอยู่ในใจ

    ทางด้านซานซานเองเมื่อพิสูจน์ทราบได้แล้วว่าร่างแยกที่อยู่ตรงหน้าของตนเองนั้นหาใช่วิชาภาพมายานางก็ผละแยกออกมาจากร่างแยกของกาเล็ทเช่นกัน "ขณะที่ใช้วิชาประหลาดรับมือกับเรา เขายังสามารถชิงชัยได้เปรียบในการต่อสู้กับท่านเซอกีย์ ความสามารถเช่นนี้นับว่าไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิจรัสแสงลีออนแล้ว" ขณะที่นางนึกคิดประเมินถึงขีดความสามารถของกาเล็ทอย่างยินดีและกำลังจะเอ่ยปากเพื่อหยุดยั้งการซ้อมมือครั้งนี้นางกลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังมหาศาล พลังที่สามารถจะสังหารระดับจักรพรรดิได้ในทีเดียว "ท่านจักรพรรดิทมิฬระวัง" ซานซานตะโกนก้องเพื่อเตือนกาเล็ทซึ่งอยู่ห่างออกไปให้รู้ตัว เสียงร้องเตือนของนางในครั้งนี้ปราศจากความเยือกเย็นดั่งเช่นที่เคยมีมา

    กาเล็ทและเซอกีย์เองก็รับรู้ได้ถึงภัยที่ใกล้เข้ามา เพีบงแค่จิตสังหารที่มุ่งร้ายต่อตนเองก็ทำให้กาเล็ทรู้ตัวแล้ว ยังไม่ต้องกล่าวถึงมวลพลังจิตวิญญาณมหาศาลที่ฟุ่งเข้าใส่ "การจู่โจมนี้มุ่งเป้ามาทีเรา!" ขณะที่กาเล็ทคิดจะใช้อาภรณ์อัสนีเคลื่อนกายหลบเลี่ยงหอกพลังที่ถูกซัดขว้างเข้าใส่ตนจากระยะไกล กาเล็ทพลันสังเหตุเห็นจักรพรรดิแห่งแดนเหนือที่ด้านหลัง ตนเองสามารถหลบพ้นแล้วจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือสามารถหลบพ้นหรือไม่ ? ไวเท่าความสงสัยกาเล็ทล้มเลิกความคิดที่จะหลบเลี่ยงไปกัดฟันหันกลับไปเผชิญหน้ากับหอกพลังที่พุ่งทะยานเข้าใส่ตนเองอย่างไร้ปราณี

    วูบ วูบ วูบ วูบ หอกโอริฮารูกอนทั้งสี่โผล่ออกมาในอากาศจากนั้นจึงพุ่งทะยานกระจายตัวออกเพื่อสร้างม่านพลังขึ้นตั้งรับอยู่เบื้องหน้าของกาเล็ท

    บึ้มมม เสียงดังกึกก้องกัมปนาทระเบิดขึ้นฉับพลันท้องฟ้าที่มืดมิดก็สว่างจ้าขึ้นมาวูบหนึ่ง หอกพลังนี้กลับมีอานุภาพไม่ด้อยกว่าหอกพลังที่มิร่าใช้สังหารจักรพรรดิแดงในครั้งนั้นเลย "มันคิดฆ่าเราชัดๆ" กาเล็ทคิดสรุปกับตนเองขณะที่หันมองไปยังทิศทางที่หอกพลังนั้นถูกซัดขว้างมา

    การจู่โจมครั้งนี้แตกต่างจากการที่จักรพรรดินีซานซานและจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือกลุ้มลุมทดสอบตนเอง ทั้งจักรพรรดินีซานซานและจักรพรรดิแห่งแดนเหนือขณะที่ลงมือทดสอบประมือกับตนเองกาเล็ทยังมีความรู้สึกที่ว่าทั้งสองหาได้มีเจตนาที่จะฆ่าล้างสังหารตนเองจริงๆอีกทั้งยังสัมผัสได้ว่าทั้งสองนั้นล้วนแล้วแต่ยังคงเก็บออมพลังไว้หาได้ใช้พลังที่มีออกมาอย่างเต็มที่ หากแต่หอกพลังเมื่อครู่ที่ซัดขว้างมานั้นแตกต่าง อย่างเห็นได้ชัด กาเล็ทสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงจิตมุ่งร้ายที่หมายชีวิตตนเองได้อย่างเต็มเปี่ยม ยังมีพลังทำลายของหอกนี่ก็เพียงพอที่จะสังหารระดับจักรพรรดิได้อย่างไม่ยากเย็น ผู้ที่มีพลังระดับที่จะสร้างหอกพลังเช่นนี้ได้อีกนอกจากจักรพรรดิแห่งทวีปเหนือและจักรพรรดิแห่งทวีปใต้แล้วเห็นทีคงมีแต่มิร่าน้อยกับจักรพรรดิออก้าแล้ว

    ไวเท่าความคิดร่างของกาเล็ทสลายกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังทิศทางที่หอกพลังถูกซัดขว้างมาแต่ไกลด้วยความเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

    วูบร่างของกาเล็ทยืนกอดอกมาปรากฎอยู่เบื้องหน้าของออก้าที่กำลังแตกตื่นประหลาดใจเพราะการลอบจู่โจมของตนเองล้มเหลว "เหตุใดจึงคิดสังหารข้า" กาเล็ทเอ่บกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×