ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #228 : สอดมือ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.44K
      566
      14 ก.ค. 61




    "เกือบไป นับว่านางกะจังหวะได้แม่นยำนัก" กาเล็ทนึกคิดกับตนเองขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงออกมาจากวงล้อมการจู่โจมของแส้ เสียงจิ๊ด จิ๊ด ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ย่อมเกิดจากเสียงของกระแสไฟฟ้าที่โลดแล่นตัดฝ่าอากาศ ชั่วพริบตาก่อนที่คลื่นพลังซึ่งถูกดีดซัดเข้ามาโดยซานซานจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้จะเข้าปะทะถึงตัว กาเล็ทพลันเปลี่ยนจากการใช้วิชาอาภรณ์วารีเป็นอาภรณ์อัสนี วิชานี้นั้นเป็นวิชาที่กาเล็ทดัดแปลงผสมผสานคุณสบบัติสายฟ้าและวิชาก้าวย่างอัสนีที่เรียนรู้มาจากผู้เป็นอาจารย์เข้ากับวิชาอาภรณ์วารีก่อเกิดเป็นวิชาใหม่ขึ้นมา หากกว่าว่าวิชาอาภรณ์วารีนั้นสามารถเพิ่มพละกำลังความสามารถให้แก่ผู้ใช้ได้ถึงห้าส่วนและมีคุณสมบัติรักษาฟื้นฟูบาดแผลแล้ว วิชาอาภรณ์อัสนี้นั้นแม้จะถูกลดทอนความสามารถในการเยียวยารักษาไปแต่สิ่งที่ได้มาทดแทนนั้นคือความเร็วยิ่งยวดและประสาทสัมผัสต่างๆที่จะถูกเพิ่มความสามารถให้แหลมคมขึ้นยิ่งกว่าเดิมมาก อีกทั้งขณะที่จู่โจมเข้าใส่กระแสไฟฟ้าที่ถูกผลักดันสร้างขึ้นจากพลังจิตวิญญาณก็จะโลดแล่นเข้าทำร้ายใส่คู่ต่อสู้

    เสียงจิ๊ดจี๊ตัดผ่าอากาศหายไปทันที ออร่าพลังที่ปกคลุมรอบร่างกายของกาเล็ทพลันเปลี่ยนกลับมาเป็นสีฟ้าอ่อนที่ดูสงบนิ่งดังเดิม

    ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปที่จักรพรรดิหนุ่มอย่างส่งสัยกังขา "เขาไม่น่าจะหลบพ้นแล้วนี่ เหตุใดชั่วพริบตาก่อนที่พลังของเราจะเข้าถึงตัวกระแสพลังรอบกายเขาพลันแปรเปลี่ยนไปจากนั้นความเร็วของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่าวไม่น่าเชื่อ" นึกคิดสังสัยกับตนเองได้เช่นนั้นแววตาของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ก็แข็งกร้าวขึ้น เพื่อจะพิสูจน์ทราบข้อสันนิษฐานของตนเองนางไม่สามารถที่จะเก็บออมพลังไว้ได้อีก "ท่านจักรพรรดิทมิฬโปรดระวังตัวซานซานจะจู่โจมอีกระลอกแล้ว" นางเอ่ยกล่าวบอกเตือนแก่กาเล็ท

    เสียงใส่พึ่งจะมาถึงปลายแส้คดเคี้ยวก็สบัดตัดฝ่าอากาศเข้าใส่กาเล็ทอีกระลอก

    "นางคงเอาจริงแล้ว ทั้งความเร็วและพลังจู่โจมของแส้นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" กาเล็ทคิดประเมินกับตนเอง

    ในครั้งนี้กาเล็ทกลับไม่ได้มีท่าทีที่จะหลบเลี่ยงอีก หมับ! กาเล็ทยกมือข้างหนึ่งขึ้นคว้าจับไปที่ลำแส้ซึ่งฟาดหวดเข้าใส่ตนเอง ขณะที่ใช้มือคว้าจับไปที่ลำแส้กาเล็ทยังคงส่งถ่ายพลังของตนเองเข้าไปเพื่อสลายสภาวะของปลายแส้ที่ม้วนตัวฟาดหวดเข้าใส่ตนเองอีกด้วย การจู่โจมของจักรพรรดินีผู้เลอโฉมในครั้งนี้กลับถูกหยุดยั้งไว้อย่างสมบูรณ์

    เห็นเช่นนั้นดวงตาของซานซานก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดใจ "เขาสามารถอ่านการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมองไม่เห็นของแส้ในมือเราออกอีกทั้งยังนึกคิดหาวิธีรับมือได้อย่างเหมาะสมรวดเร็ว ความสามารถเช่นนี้ไม่ธรรมดาแล้ว อีกทั้งการควบคุมพลังของเขายังทำได้อย่างยอ..." นึกคิดประเมินในขีดความสามารถของจักรพรรดิหนุ่มยังไม่ทันจบ นางพลันได้ยินเสียงเตือนจากกาเล็ทจากนั้นร่างของนางพลันถูกกระฉากอย่างแรงให้พุ่งทะยานเข้าหาจักรพรรดิหนุ่ม

    กาเล็ทออกแรงกระฉากลำแส้ที่ตนเองคว้าจับไว้ในกำมืออย่างแรงส่งให้ร่างของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ที่คว้าจับด้ามของแส้อยู่พุ่งเข้ามาตนเองจากแรงกระชาก "คงต้องขอให้ท่านจักรพรรดินีปล่อยแส้แล้ว" กาเล็ทเอ่ยขณะที่ฟันสันมืออีกข้างไปที่ข้อมือขาวผ่องซึ่งกำลังกำด้ามแส้อยู่ของซานซานเพื่อที่จะบีบบังคับให้นางปล่อยมือ

    "คิดให้ซานซานปล่อยแส้เกรงว่ายังไม่ง่ายนัก" จักรพรรดินีแห่งทวีปใต้เอ่ยกล่าวขณะที่ควบคุมพลังเพื่อหยุดยั้งสภาวะที่ถูกแรกฉุดกระชากไว้จากนั้นนางพลันใช้มืออีกข้างหนึ่งปัดป่ายสันมือของกาเล็ทที่ฟาดฟันเข้ามาใส่

    สภาพของหนึ่งจู่โจมหนึ่งตั้งรับเกิดขึ้นให้เห็นอีกครั้ง ขณะที่ผู้หนึ่งคว้าจับปลายแส้ไว้อีกผู้หนึ่งคว้าจับด้ามแส้ไว้ มืออีกข้างของทั้งสองก็โรมรันปัดป้องกันไปมา "หากว่าไม่สามารถทำให้ท่านจักรพรรดินีปล่อยแส้ได้เกรงว่าข้าคงต้องถูกฟาดหวดเสมือนดั่งสุนัขที่ไร้เจ้าของแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นขณะที่กำลังประลองกำลังระยะประชิดกันอยู่

    ได้ยินคำกล่าวของจักรพรรดิหนุ่ม ซานซานก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะคิกออกมาให้ได้ยิน "เช่นนั้นท่านจักรพรรดิทมิฬคงต้องพยายามให้มากกว่านี้"

    ทั้งสองประลองกำลังไปด้วยและประลองไหวพริบไปด้วยอีกสักพัก จู่ๆกาเล็ทพลันสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่แหวกฝ่าข่ายพลังจิตวิญญาณของตนเองมาจากทางด้านหลัง

    "จิ้งจอกเผยหางแล้ว ที่แท้เจ้าก็เป็นสุนัขรับใช้ที่ทวีปกลางส่งมา" เซอกีย์กู่ร้องคำรามก้องขณะที่สองมือถือดาบใหญ่โถมเข้าใส่กาเล็ทจากทางด้านหลัง

    การจู่โจมฟาดฟันครั้งนี้ของจักรพรรดิแห่งแดนเหนือหาใช่พื้นเพทั่วไปดังเช่นการพุ่งเข้าต่อยใส่กาเล็ทในห้องประชุม การจู่โจมครั้งนี้เซอกีย์กลับใช้พลังในการฟาดฟันถึงแปดส่วน

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ละมือจากซานซานหันกลับมาใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นเพื่อสร้างม่านพลังป้องกันขวางกั้นไว้ก่อนที่คมดาบจะเข้าถึงตัวของตนเอง ผึ่งงง เสียงคมดาบประทะเข้ากับม่านพลังที่กาเล็ทสร้างขึ้นเพื่อป้องกันตัว ม่านพลังที่เรืองแสงก่อตัวขึ้นมาเป็นโล่ขวางกั้นคมดาบใหญ่ในมือของจักรพรรดิแห่งแดนเหนือไว้ ผลจากการปะทะของคมดาบใหญ่และม่านพลังส่งให้เกิดลมกรรโชก แม้แรกปะทะคมดาบของตนเองจะถูกม่านพลังขวางกั้นไว้หากแต่จักรพรรดิแห่งแดนเหนือยังคงไม่รามือ ร่างของมันล่องลอยอยู่เหนือศรีษะของกาเล็ทขณะที่เร่งเร้าพลังกดคมดาบใหญ่ในมือเพื่อบดขยี้ม่านพลังที่ขวางกั้นอยู่เบื้องหน้า ฟูววววว เสียงของลมกรรโชกที่เกิดจากกระแสพลังระดับจักรพรรดิที่ถูกถ่ายทอดจากคมดาบหักล้างบดขยี้เข้าใส่ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง

    แครกก แครกก เสียงแตกร้าวปรากฎให้ได้ยินพร้อมทั้งกับเส้นแบ่งแยกที่กรีดผ่านม่านพลังที่กาเล็ทสร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่าม่านพลังกำลังจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ "ท่านจักรพรรดิเซอกีย์คงเข้าใจผิดแล้วนี่เพียงแต่เป็นการซ้อมมือ" ขณะที่เร่งพลังต้านการจู่โจมฟาดฟันที่มุ่งเข้ามา กาเล็ทก็เอ่ยกล่าวเพื่อจะอธิบาย จากนั้นกาเล็ทจึงหันไปหาจักรพรรดินีซานซานที่อีกด้านหนึ่งซึ่งกำลังใช้มืออีกข้างประลองกำลังฉุดยื้อแย่งแส้กับตนเอง "ใช่หรือไม่ท่าน..." เอ่ยกล่าวยังไม่ทันจบประโยคใจของกาเล็ทก็หายวาบเหตุเพราะๆไม่ทราบว่าในข้อมือขาวผ่องอีกข้างที่ยังว่างอยู่ของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้นั้นปรากฎมีดสั้นคมกริบเล่มหนึ่งเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดอีกทั้งขณะที่ตนเองหันกลับมาเพื่อขอให้ช่วยเอ่ยกล่าวแก้ไขความเข้าใจผิดนี้นางกลับกำลังเสือกไสมีดสั้นเล่มนั้นจ้วงแทงเข้าใส่ตนเองเข้ามา

    ถึงแม้ว่ากาเล็ทนั้นค่อนข้างแน่ใจว่าจักรพรรดินีผู้เลอโฉมตรงหน้าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายหมายชีวิตต่อตนเองอีกทั้งยังตรวจไม่พบจิตสังหารที่แผ่พุ่งออกมาจากนางหากแต่ว่าชีวิตคือสิ่งล้ำค่าไม่สามารถที่จะนำมาล้อเล่นเดิมพันกับคำว่าเชื่อใจได้ ชั่วพริบตาที่ต้องตัดสินใจ กาเล็ทจึงไม่ลังเลใจที่จะใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดปัดป้องการจู่โจมนี้ของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ วูบร่างของกาเล็ทเลือนลางอยู่ชั่วพริบตาจากนั้นหนึ่งก็แยกออกเป็นสอง

    ซานซานที่จ้วงแทงมีดสั้นในมือออกใส่กาเล็ทดวงตาเบิกโพรงด้วยความแตกตื่นตกใจเนื่องจากนางเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น กลับเกิดจักรพรรดิทมิฬอีกผู้หนึ่งแทรกตัวออกมาจากร่างกายของจักรพรรดิหนุ่มที่เบื้องหน้าเสมือนวิญญาณที่แหวกฝ่าร่างกายออกมาเพียงครึ่งตัว

    ผลักมือของร่างครึ่งตัวที่แยกออกมาจากร่างหลักของกาเล็ทปัดป่ายไปที่ข้อมือขาวผ่องนวลเนียนที่กำลังผลักไสมีดสั้นคมกริบมันวับเสือกแทงเข้ามาเพื่อบ่ายเบี่ยงการเสือกแทงนั้นออกให้พ้นตัวจากนั้นมือที่ว่างอยู่อีกข้างของร่างแยกนั้นก็ต่อยหมัดออกเข้าใส่ช่วงท้องของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ แลเห็นเช่นนั้นสันชาตญาณในการป้องกันตัวของซานซานก็ตื่นตัวขึ้น มืออีกข้างที่กำด้ามแส้อยู่พลันคลายออกจากนั้นจึงรีบเคลื่อนมาป้องกันตั้งรับหมัดที่ต่อยเข้าใส่ช่วงท้องของตนเองนั้น

    ผลักเสียงของหมัดที่ปะทะเข้ากับฝ่ามือดังขึ้นพลังระดับจักรพรรดิหักล้างกันจนเกิดคลื่นกระแทกกระจายตัวออกไปรอบทิศทาง

    วูบร่างของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ที่แรงกระแทกจากหมัดที่กาเล็ทซัดเข้าใส่จนถลาถอยห่างไป "วิชามายาลวงตา?" แวบแรกจักรพรรดินีซานซานได้แต่นึกถึงวิชาลวงตาหากแต่ผ่านไปชั่วครู่หนึ่งเหตุผลก็เข้ามาหักล้างข้อสรุปนี้ของนางทิ้งไป "ไม่วิชาลวงตาไม่สมควรที่จะสามารถตั้งรับจู่โจมได้เช่นนี้" นางจ้องมองไปยังเบื้องหน้าที่ร่างของนางถูกกระแทกให้ถอยห่างออกมา บัดนี้นางกลับพบว่ามีจักรพรรดิทมิฬอยู่ถึงสองคน ผู้หนึ่งเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับนาง อีกผู้หนึ่งที่เป็นร่างต้นแต่แรกนั้นบัดนี้ได้หันไปตั้งรับการฟาดฟันจากจักรพรรดิเซอกีย์อย่างเต็มตัวแล้ว

    เพล้งเสียงของม่านพลังที่กาเล็ทสร้างไว้ตั้งรับกับคมดาบของจักรพรรดิเซอกีย์แตกออก ทันใดนั้นก็ปรากฎเสียงกัมปนาทของเหล็กที่ปะทะกันดังขึ้นมาแทนที่ เช้งงงง มืออีกข้างของกาเล็ทเรืองแสงวาบขึ้นจากนั้นก็ปรากฎดาบเขี้ยมมังกรขึ้นมาในมือเพื่อใช้ต้านรับดาบใหญ่ในมือของจักรพรรดิเซอกีย์ไว้ได้อย่างทันท่วงที ขณะที่ร่างหลักกำลังปะลองกำลังกับจักรพรรดิแห่งแดนเหนืออยู่ ส่วนอีกร่างซึ่งเป็นร่างแยกกำลังยืนดูเชิงจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้อยู่ ร่างหลักของกาเล็ทก็เปิดปากเอ่ยขึ้น "ข้าว่าหยุดการซ้อมมือไว้แต่เพียงเท่านี้เถอะ หากเกินเลยไปกว่านี้เกรงว่าคงยุ่งยากมากแล้ว"

    หากแต่จักรพรรดินีซานซานกลับหลี่ตาลงอย่างขบคิด หากกล่าวกันตามจริงแล้วนางสมควรที่จะหยุดการซ้อมมือครั้งนี้ไว้ตั้งแต่ที่จักรพรรดิแห่งแดนเหนือสอดมือเข้ามาแล้ว หากแต่ความรู้สึกของนางกลับบอกแก่นางว่าจักรพรรดิหนุ่มตรงหน้าเสมือนว่ายังคงเก็บงำความสามารถที่แท้จริงไว้ ด้วยความรู้สึกกังขานี้ทำให้นางเลือกที่จะทดสอบ การที่นางเสือกมีดเข้าจู่โจมใส่กาเล็ทในยามที่จักรพรรดิแห่งแดนเหนือสอดมือเข้ามานั้น นางหาได้มีเจตนาที่ต้องการจะทำร้ายหมายชีวิตกาเล็ทไม่ หากว่าคมมีดจ่อเข้าถึงตัวของกาเล็ทแล้วนางก็จะไม่ลังเลใจเลยที่จะหยุดยั้งสภาวะจู่โจมของตนเองไว้แต่กลางคันและดึงรั้งพลังกลับคืน "เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ซานซานเกรงว่าคงไม่สามารถที่จะหยุดไว้ได้แล้ว" ซานซานเอ่ยถ้อยคำกำกวมออกมา

    จักรพรรดิแห่งทวีปเหนือเองก็หาใช้คนโง่งม เมื่อมันได้ยินถึงคำกล่าวของกาเลทอีกทั้งสังเกตุท่าทีของจักรพรรดิแห่งทวีปใต้แล้วมันย่อมรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องมีต้นสายปลายเหตุแน่ หากแต่มันยังคงเลือกที่จะตามน้ำไปต่อ ในเมื่อจักรพรรดินีซานซานยังไม่ได้เอ่ยกล่าวสิ่งใดเช่นนั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องหยุดมือ มันได้จะถือเอาโอกาสนี้ระบายความอัดอั้นที่มีต่อเด็กน้อยนี่ออกมาและถือว่าเป็นการทดสอบความสามาถของเด็กน้อยนี่ไปด้วย ตัดสินใจได้เช่นนั้นมันก็กู่ร้อง "อย่าได้กล่าวให้มากความสุนัขรับใช้ของทวีปกลางรับดาบ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×