ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #214 : การบาดเจ็บของมิร่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.51K
      517
      13 มิ.ย. 61

    "ยินดีด้วยท่านอาจารย์ที่ท่านบรรลุพลังสู่ระดับจักรพรรดิแล้ว" กาเล็ทเดินเข้าไปเอ่ยแสดงความยินดีกับเทลเล่อ

    เทลเล่อที่ลืมตาขึ้นมาจากการนั่งฝึกฝนแล้วพลันยันกายลุกขึ้น บนใบหน้าของเทลเล่อนั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม "หากมิใช่เพราะเจ้ามีหรือข้าจะสามารถมีวันนี้" เทลเล่อเอ่ยกล่าว

    "ท่านอาจารย์อย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลย" กาเล็ทเอ่ย

    "เป็นอย่างไรบ้าง การฝึกผู้คนของเจ้าคืบหน้าไปถึงขั้นใดแล้ว" เทลเล่อเอ่ยถาม

    "ยังไม่มากครับท่านอาจารย์ การที่จะควบคุมค่ายกลนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้หลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งความสามัคคีพร้อมเพรียงและการโอนถ่ายกระแสพลังที่แม่นยำ ดังนั้นแล้วเริ่มแรกข้าจึงเลือกที่จะให้พวกเขาฝึกระเบียบวินัยเพื่อเป็นพื้นฐานไปยังขั้นต่อไปก่อน" กาเล็ทเอ่ย

    เทลเล่อนั้นเอ่ยถามพอเป็นพิธีเท่านั้น เมื่อได้รับคำอธิบายจากผู้เป็นศิษย์แล้วจึงผงกหัวเป็นเชิงเข้าใจได้จากนั้นจึงยกมือขึ้นแตะไปที่บ่าไหล่ของกาเล็ท "เอาตามที่เจ้าเห็นสมควรเถอะ ส่งข้าออกไปจัดการเรื่องราวด้านนอกเถอะ" เทลเล่อเอ่ยจากนั้นจึงเหลือบมองไปยังมังกรน้อยที่นอนกางขาสบัดหางอยู่บนศรีษะของกาเล็ท "ให้เป็นเด็กดีอย่าได้ซุกซนเข้าใจไหม"

    "กรู๊" มิร่าส่งเสียงร้องตอบ

    พูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยคกาเล็ทก็ส่งเทลเล่อออกสู่โลกภายนอกไป เมื่อมีเทลเล่ออยู่ที่ด้านนอกกาเล็ทก็สามารถวางใจทุ่มสมาธิอยู่กับการฝึกฝนให้กับผู้คนของตนเอง

    หลังจากหนึ่งเดือนแรกในมิติเทพเจ้าผ่านพ้นไป กาเล็ทก็เริ่มที่จะให้ทหารของตระกูลบุสโซ่กว่าร้อยชีวิตเริ่มฝึกดูดซับพลังจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มพูนระดับพลังของตนเอง เมื่อมีตัวยาเทพโอสถระดับสูงช่วยประกอบเข้ากับกระแสจิตวิญญาณที่หนาแน่นในมิติเทพเจ้า ใช้เวลาเพียง 5 เดือนในมิติเทพเจ้าพลังของทหารกว่าร้อยชีวิตก็เพิ่มระดับขึ้นมาแตะยังระดับที่ 6 ขั้นสูงเป็นส่วนใหญ่แล้ว บ้างที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าผู้อื่นก็มีระดับพลังบรรลุสู่ขีดขั้นที่ 7 ได้ ไม่เพียงแต่ทหารกว่าร้อยชีวิตของตระกูลบุสโซ่ซึ่งถูกคัดเลือกไว้ที่มีระดับพลังเพิ่มพูนสูงขึ้น สี่ขุนพลของตระกูลบุสโซ่เองก็มีความก้าวหน้าขึ้นให้ได้เห็น ณ ตอนนี้ทั้ง โรส เจฟ มาร์ตินและเรน่าต่างมีระดับพลังอยู่บนจุดสูงสุดของระดับราชาขั้นต้นแล้วเหลืออยู่ก็แต่เพียงการทะลวงสู่ขีดขั้นต่อไปเท่านั้น

    ตึงงง ตึงงงงง ตึงงงงง เสียงของเหล็กที่สั่นสะท้านดังกึกก้องไปทั่วภายในมิติเทพเจ้า เสียงนี้ย่อมมาจากกาเล็ทที่กำลังพยายามใช้พลังของตนเองหลอมสร้างดัดรูปอุปกรณ์ชุดเกราะจากโอริฮารูกอนขึ้นมา เนื่องจากเมื่อเดือนก่อนระหว่างที่กาเล็ทฝึกซ้อมต่อสู่อย่างจริงจังกับมิร่านั้นเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น กาเล็ทนั้นมักจะคิดว่ามิร่าแข็งแกร่งและมีพลังป้องกันที่ไร้เทียมทานยากจะเจาะผ่านได้ทว่าเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกฝนครั้งนั้นได้ทำให้ความคิดนี้ของกาเล็ทสั่นคลอนไป ระหว่างการฝึกครั้งนั้นกาเล็ทซึ่งทุ่มพลังเต็มกำลังงัดสาระพัดวิชาที่ตนเองมีจู่โจมใส่มิร่าอย่างเอาจริงเอาจังอยู่เกิดพลั้งมือทำให้มิร่านั้นได้รับบาดเจ็บ มิร่าที่ดูเหมือนว่าจะปัดป้องการจู่โจมของกาเล็ทได้ทั้งหมดกลับถูกหอกซึ่งสร้างขึ้นจากแร่โอริฮารูกอนที่กาเล็ทใช้พลังจิตวิญญาณของตนเองควบคุมอยู่ทิ่มแทงกระแทกเข้าใส่จากมุมอับส่งผลให้มิร่าส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แม้ว่าหลังจากการตรวจสอบร่างกายของมิร่าอย่างละเอียดดูแล้วและพบว่านางนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เหตุการณ์นี้กลับทำให้กาเล็ทตระหนักรู้ว่าตนเองนั้นมีความคิดที่ตื้นเขินเกินไป จะอย่างไรการมีเครื่องป้องกันย่อมมิใช่เป็นสิ่งที่ดีกว่าไม่มี? ด้วยเหตุนี้กาเล็ทจึงได้ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานในการจัดสร้างชุดเกราะป้องกันให้แก่มิร่า

    เหล่าทหารของตระกูลบุสโซ่กว่าร้อยชีวิตต่างถูกดึงดูดโดยเสียงและแสงสว่างวูบวาบซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้พลังหลอมสร้างชุดเกราะให้กับมิร่าของกาเล็ท

    "หัวหน้าโรส นายน้อยกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ" ทหารหญิงผู้หนึ่งเอ่ยถามขณะที่จ้องมองไปยังกาเล็ทอย่างสงสัยใคร่รู้

    โรสซึ่งได้ยินผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ยถามก็ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ "พวกเจ้าช่างโชคดีนักที่ได้มีโอกาสเห็นการหลอมสร้างอาวุธของนายน้อย อาวุธวิเศษของพวกข้าก็เป็นนายน้อยที่หลอมสร้างให้เองกับมือเช่นกัน"
    ได้ฟังคำอธิบายของโรสแล้วเหล่าทหารของตระกูลบุสโซ่ต่างผงกศรีษะของตนเอง

    "การฝึกซ้อมของนายน้อยกับคุณหนูมิร่าช่างทำให้พวกเราได้เปิดหูเปิดตานัก" เจฟเอ่ยกล่าวขึ้น

    "หัวหน้าเจฟ ข้าขอเรียนถามได้หรือไม่ขอรับ" ทหารผู้หนึ่งเอ่ย

    "สงสัยไม่เข้าใจเรื่องใดก็ให้เอ่ยถามออกมาได้เลย มิใช่ตกลงกันไว้แล้วหรอกหรือ" เจฟเอ่ย

    "จะเกิดสงครามขึ้นกับทวีปกลางจริงๆหรือขอรับหัวหน้าเจฟ" ทหารผู้ใคร่รู้นั้นเอ่ยถาม เมื่อคำถามนี้โพร่งออกมาจากปากของมันเสียงพูดคุยทั่วทั้งบริเวณก็เงียบกริบลงเนื่องเพราะทุกผู้คนต่างต้องการทราบคำตอบของคำถามนี้ อันว่าสงครามนั้นย่อมไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดขึ้น

    "เรื่องนี้ตัวข้าย่อมไม่สามารถที่จะให้คำตอบแก่เจ้าได้ คำถามนี้พวกข้าเองก็เคยถามกับนายน้อยเช่นกัน" เจฟเอ่ย

    "แล้วนายน้อยบอกต่อหัวหน้าว่าอย่างไรหรือขอรับ" ทหารนายเดิมเอ่ยถาม

    "แม้แต่นายน้อยเองก็ไม่แน่ใจในเรื่องนี้ สงครามจะเกิดหรือไม่หาได้ขึ้นอยู่กับพวกเราแต่การเตรียมรับมือไว้ก่อนย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด พวกเจ้าเองก็อย่าได้เป็นกังวลไป พวกเจ้าเองก็ได้เห็นการฝึกซ้อมต่อสู้ของนายน้อยกับคุณหนูมิร่าแล้วมิใช่หรือ เห็นเช่นนั้นแล้วพวกเจ้ายังคิดว่าจะมีผู้ใดสามารถเอาชนะนายน้อยกาเล็ทของพวกเราได้อีกหรือ?" เจฟเอ่ย เมื่อได้ยินคำเอ่ยกล่าวของเจฟ ทั้ง มาร์ติน โรส และเรน่าต่างลอบผงกหัวอย่างเห็นด้วย

    "ย่อมไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะนายน้อยกาเล็ทได้ขอรับ"

    "ทราบหรือไม่ว่าเมื่อครั้งที่นายน้อยฝึกฝนให้กับพวกข้าทั้งสี่ด้วยตนเอง ในครั้งนั้นพวกข้าทั้งสี่ทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีเข้ากลุ้มลุมใส่นายน้อยซึ่งใช้พลังในระดับเดียวกันกับพวกข้า.." เจฟเอ่ยกล่าว

    "ผลเป็นเช่นไรขอรับหัวหน้าเจฟ"

    "พวกข้าทั้งสี่ไม่สามารถกระทำอันตรายใดแก่นายน้อยได้เลย ในครั้งนั้นเพียงแค่จู่โจมให้เข้าถึงตัวของนายน้อยก็นับว่าลำบากมากแล้ว ภายใต้ร่มธงของนายน้อยพวกเราไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวต่อผู้ใด" เจฟเอ่ย

    ขณะที่เหล่าลูกน้องของตนเองกำลังจับเข่าพูดคุยกันเกี่ยวกับตนเองในเวลาพักอยู่กาเล็ทซึ่งพึ่งจะใช้พลังของตนเองขึ้นรูปโอริฮารูกอนแล้วเสร็จก็ยกมือขึ้นมาปาดเช็ดเหงื่อของตนเอง "ตัวน้อยมานี่" กาเล็ทเอ่ยเรียกมิร่าซึ่งนอนจ้องมองดูตนเองขึ้นรูปโลหะวิเศษอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

    ได้ยินเสียงเรียกของกาเล็ทมิร่าก็กระพือปีกลอยตัวขึ้นทยานเข้าหากาเล็ท

    "กางปีกออกให้ปะป๋าลองใส่ให้หนูดู" กาเล็ทเอ่ย

    มิร่าได้ยินเช่นนั้นก็สยายปีกของตนเองออกอย่างว่าง่าย

    กาเล็ทค่อยๆลองประกอบสวมใส่ชุดเกราะที่ตนเองหลอมสร้างดัดรูปขึ้นมาอย่างอยากลำบากให้แก่มิร่า ชุดเกราะที่กาเล็ทหลอมสร้างให้แก่มิร่านี้ครอบคลุมไปถึงบริเวณศรีษะและลำตัว ยังมีกาเล็ทยังหลอมสร้างกงเล็บจากโอริฮารูกอนให้แก่เท้าน้อยๆทั้งสี่ของมิร่าเพื่อใช้ในการต่อสู้จู่โจมอีกด้วย

    มิร่าซึ่งกำลังอยู่ในอาการตื่นเต้นดีใจสับส่ายร่างกายไปมาขณะที่กาเล็ทค่อยๆหยิบจับชิ้นส่วนของชุดเกราะเข้ามาส่วมใส่บนร่างกายของนาง เมื่อกาเล็ทสวมใส่ชิ้นส่วนชุดเกราะเข้าไปชิ้นหนึ่งมิร่าก็ขยับกายพลิกตัวเพื่อจ้องมองสิ่งที่ถูกนำมาสวมใส่ไว้ยังร่างกายของตนเองครั้งหนึ่ง ดวงตาสุกใส่ทอประกายของความตื่นเต้นยินดีออกมาให้ได้เห็น

    "อยู่นิ่งๆ" กาเล็ทเอ่ยขณะที่ค่อยๆหยิบชิ้นส่วนชุดเกราะแต่ละชิ้นขึ้นมาประกอบเข้าใส่ร่างของมิร่าอย่างตั้งใจ "เอ้าเสร็จแล้ว หนูอาจจะยังรู้สึกไม่ชินกับชุดเกราะที่ปะป๋าสร้างให้แต่ใช้เวลากับมันสักหน่อยก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง" กาเล็ทเอ่ยขณะที่ยกชูร่างของมิร่าซึ่งถูกสวมใส่ไปด้วยชุดเกราะเงาวับสีเงินตัดกับขนสีดำขลับของนางขึ้น
    "กรู๊" มิร่าส่งเสียงร้องออกมาอย่างเริงร่า "มิร่าชอบ มิร่าดีใจ มิร่าจะใส่ชุดที่ปะป๋าสร้างให้ต่อสู้" มิร่าส่งเสียงมาตามพันธสัญญา

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะนำร่างของมิร่าเข้ามาคลอเคลีย "หนูรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า" กาเล็ทเอ่ยถาม

    "ไม่ มิร่าชอบ มิร่าชอบชุดเกราะที่ปะป๋ากาเล็ทสร้างให้" มิร่าส่งเสียงตอบมาทางพันธสัญญา

    "ถ้าใส่ได้ไม่มีปัญหางั้นก็ถอดออกก่อน" กาเล็ทเอ่ย

    "ต้องถอดแล้วหรอ" มิร่าส่งเสียงถามออกมาอย่างผิดหวัง

    "ชุดนี้ยังไม่เสร็จดี ปะป๋ายังต้องสลักอักขระเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับมัน ถ้าไม่ถอดออกก่อนแล้วจะทำได้ยังไง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวกับมิร่า กาเล็ทนั้นไม่ต้องการให้เกิดสิ่งผิดพลาดขึ้นจึงต้องการทำให้แน่ใจว่าชุดเกราะที่ตนเองหลอมสร้างขึ้นนี้จะช่วยปกป้องมิร่าจากการจู่โจมที่หนักหน่วงในขณะที่เข้าต่อสู้ได้

    "ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าคะ" กาเล็ทเอ่ยกับมิร่าพร้อมทั้งใช้มือของตนเองลูบคลำไปยังจุดที่ถูกหอกโอริฮารูกอนของตนเองพุ่งกระแทกเข้าใส่บนร่างกายของมิร่าขณะที่ถอดเกราะออกจากร่างของมิร่า

    "ไม่เจ็บแล้วนะ ไม่เจ็บ มิร่าไม่เจ็บแล้ว ปะป๋ากาเล็ทไม่ต้องเป็นห่วง" มิร่าซึ่งสำผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจของกาเล็ทก็ส่งเสียงเอ่ยกล่าวตอบกาเล็ทกลับไปเสมือนเป็นการปลอบประโลมกาเล็ทที่รู้สึกผิดอยู่

    หากจะให้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน กาเล็ทซึ่งในขณะนั้นมีระดับพลังอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิขั้นกลางแล้วได้ทุ่มเทฝึกฝนกับมิร่าอย่างจริงจัง กาเล็ทได้งัดทุกสาระพัดวิชาของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทั้งจู่โจมใส่มิร่าด้วยการแปลงคุณสมบัติจากพลังจิตวิญญาณ ทั้งใช้พลังบังคับหอกโอริฮารูกอนทั้งหมดของตนเองจู่โจมใส่มิร่าพร้อมกัน ด้วยทั้งต้องป้องกันการจู่โจมจากการแปลงคุณสมบัติของกาเล็ทและต้องคอยระวังหอกโอริฮารูกอนที่ไม่ทราบว่าจะพุ่งทะลวงเข้าใส่เมื่อใด สุดท้ายแล้วทำให้มีหนึ่งในหอกโอริฮารูกอนที่กาเล็ทควบคุมสามารถรอดพ้นการตรวจจับของมิร่าและพุ่งปะทะเข้าใส่ร่างของนางได้ ถึงแม้ว่ามิร่านั้นจะมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งจากการที่ตนเองเป็นสัตว์อสูรแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกายของนางหล่อหลอมขึ้นจากเหล็กอีกทั้งในยามนี้กาเล็ทก็มีระดับพลังที่เพิ่มพูนสูงขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่พบเจอกับนางครั้งแรกมาก หอกโอริฮารูกอนนี้ถึงแม้จะไม่สามารถที่จะเจาะทะลุผิวหนังของมิร่าได้แต่เพียงแค่ได้เห็นร่างน้อยๆของมิร่าถูกหอกซึ่งตนเองควบคุมอยู่พุ่งกระแทกเข้าใส่จนลอยละลิ่วไปหลายเมตรก็เพียงพอที่จะทำให้กาเล็ทจิตตกแล้ว

    พลังทำลายจากการพุ่งกระแทกเข้าใส่ของหอกโอริฮารูกอนนี้แม้จะยังไม่สามารถเทียบเปรียบได้กับหอกพลังที่มิร่าขว้างปาเข้าใส่จักรพรรดิแดงแต่อย่างน้อยก็มีพลังถึงสามส่วนของหอกพลังที่มิร่าใช้สังหารจักรพรรดิแดง แม้การถูกกระแทกอย่างแรงจากหอกโอริฮารูกอนจะยังไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับมิร่าได้แต่หากว่าถูกการจู่โจมเช่นนี้หลายครั้งเข้าก็ไม่สามารถมีสิ่งใดมารับประกันได้ว่านางจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกิดอันตรายขึ้นทำให้กาเล็ทตัดสินใจที่จะทุ่มมันสมองและความสามารถทั้งหมดของตนเองในการหลอมสร้างเครื่องป้องกันให้แก่มิร่าขึ้นนั่นเอง

    "นอนพักสักหน่อยดีไหมคะ พอหนูตื่นขึ้นมาอีกทีปะป๋าคงสร้างชุดเกราะของหนูเสร็จแล้วล่ะ" กาเล็ทเอ่ยกับร่างเล็ก
    "นอนกับปะป๋าได้ไหม" มิร่าส่งเสียงเอ่ยถามกลับมา

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มพร้อมทั้งอุ้มร่างของนางขึ้นมาวางไว้บนศรีษะของตนเอง "นอนบนนี้เลยดีไหม"

    "ดี" มิร่าตอบกลับอย่างไม่ขบคิด











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×