ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #205 : เหตุใดเราจึงถูกผู้คนข่มเหงรังแกบ่อยนัก?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.05K
      537
      29 เม.ย. 61




    "มีอาหารเรื่องชื่อเมนูใดแนะนำหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถามพนักงานต้อนรับ

    "สำหรับเมนูเรื่องชื่อของภัตตาคารเหินฟ้าเราก็มี เป็ดเหินฟ้า ไก่ย่างเกลือ ปลาหิมะเหินฟ้า . . . . " พนักงานต้อนรับเอ่ยบอกชื่อเมนูต่างๆของภัตตาคารออกมามากมาย

    กาเล็ทรับฟังชื่อเมนูที่แปลกประหลาดจากพนักงานต้องรับจนหัวหมุนจากนั้นจึงหันไปหาเทลเล่อผู้เป็นอาจารย์ "ท่านอาจารย์ต้องการจะสั่งสิ่งใดหรือไม่"

    เทลเล่อเองก็รู้สึกมึนงงไม่ต่างกับกาเล็ทเช่นกันกับชื่อเมนูแปลกประหลาดของทางภัตตาคาร "เจ้าสั่งตามที่เห็นสมควรเถอะ ข้าเองก็ไม่สันทัดในเรื่องนี้เท่าใด"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็หันไปหานีน่าผู้เป็นมารดาและคนรักทั้งห้าของตนเอง "กาเล็ทเลือกสั่งเถอะ" เมื่อได้คำตอบเช่นนี้กลับมากาเล็ทจึงหันไปหาพนักงานต้อนรับและเลือกสั่งเมนูเลื่องชื่อที่พนักงานต้อนรับแนะนำมาอยู่หลายเมนู "ส่วนเครื่องดื่มของเป็นน้ำผลไม้กับน้ำเปล่าก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ย

    "ไม่ทราบว่าน้ำผลไม้จะรับเป็นน้ำผลไม้อะไรหรือขอรับ" พนักงานต้อนรับเอ่ยถาม

    "เอาที่สดใหม่มาก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ยตอบ

    ขณะที่พนักงานต้อนรับซึ่งกำลังจดบันทึกอยู่กำลังจะผละจากไปก็มีพนักงานต้อนรับอีกผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาหาพร้อมทั้งกระซิบกระซาบบางสิ่งบางอย่างกับมันจากนั้นพนักงานต้องรับคนแรกก็หันมองกลับมาที่โต๊ะของกาเล็ทวูบหนึ่งจึงค่อยจากไป

    "เรียนคุณชาย คุณชายพึ่งมาใช้บริการยังภัตตาคารเหินฟ้าของเราครั้งแรกหรือขอรับข้านั้นไม่เคยเห็นคุณชายมาก่อนเลยขอรับ" พนักงานต้อนรับคนใหม่เอ่ยถามขึ้น

    เมื่อกาเล็ทได้ฟังคำถามคิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันแสดงออกถึงความแปลกประหลาดใจ ตนเองและครอบครัวนั้นมายังภัตตาคารแห่งนี้เพื่อรับประทานอาหาร เมื่อมาก็สั่งอาหารและเมื่อได้รับการสั่งอาหารแล้วทางภัตตาคารก็สมควรแต่เพียงรับรายการไปและนำอาหารที่ถูกสั่งไว้มาจัดเสริพยังจะต้องสอบถามข้อมูลของลูกค้าให้วุ่นวายอันใดอีกแต่ยังไม่ทันที่กาเล็ทจะได้ขบคิดอย่างถี่ถ้วนนีน่าก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้วเอ่ยตอบพนักงานต้อนรับไป "ใช้แล้วจ่ะพ่อหนุ่ม พวกเราเป็นคนต่างเมืองน่ะซึ่งอยู่ระหว่างการออกท่องเที่ยวน่ะจ่ะพ่อหนุ่ม"

    ได้รับคำตอบมาเช่นนั้นพนักงานหนุ่มก็ผงกหัวเป็นเชิงเข้าใจ "ออกท่องเที่ยวเป็นครอบครัวใหญ่เลยนะขอรับ" พนักงานหนุ่มทำทีเอ่ยขึ้น

    นีน่าได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข "ใช่แล้วจ่ะพ่อหนุ่ม ลูกชายของป้าเขาอยากพาคู่หมั้นออกท่องเที่ยวน่ะ"

    พนักงานต้อนรับได้ฟังเช่นนั้นก็ร้อง"อ้อ"ออกมาคำหนึ่งเป็นเชิงว่าเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

    ทางด้านกาเล็ทเองแม้ว่าจะยังคลืบแคลงสงสัยใจต่อการสอบถามอย่างละลาบละล้วงของพนักงานต้อนรับผู้นี้หากแต่เมื่อได้ยินคำเอ่ยของนีน่าก็เอ่ยร้องประท้วงขึ้น "โถ่ท่านแม่ เป็นท่านแม่ต่างหากที่ข้าต้องการพาออกท่องเที่ยวเอิ่มส่วนพวกนางทั้งห้านั้นก็เอิ่ม ก็..."

    เห็นกาเล็ทซึ่งกำลังลำบากใจยากที่จะเอ่ยกล่าวได้แชลเทียก็เอ่ยขึ้น "พวกข้าเพียงแต่เป็นส่วนเสริม หากมิใช่เพราะกาเล็ทต้องการพาท่านป้าออกท่องเที่ยวพวกข้าทั้งห้าคงไม่ได้มีโอกาสออกท่องเที่ยวเช่นนี้แล้ว"

    "ใช่แล้วค่ะท่านป้า" ทั้งซิลเวีย เบลล่า เซลิน่าและโซเฟียต่างช่วยกันเอื้อนเอ่ยแสดงความเห็นด้วยกับคำกล่าวของแชลเทียออกมา

    กาเล็ทได้ทีก็เอียงตัวเข้าไปกอดยังหว่างเอวของนีน่าซึ่งกำลังนั่งอยู่ทันที

    "ลูกคนนี้นี่ไม่รู้จักอายเสียบ้าง" นีน่าเอ่ยกล่าวขึ้นเมื่อเห็นถึงการกระทำของผู้เป็นบุตรชายแม้ปากจะกล่าวเช่นั้นหากแต่มือของนางยังคงลูบศรีษะของกาเล็ทอย่างรักใคร่

    คู่หมั้นทั้งห้าของกาเล็ทเห็นภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมดต่างก็หมันมองหน้ากันและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ภาพของหญิงสาวทั้งห้าซึ่งสคาญราวบุปผาแย้มยิ้มอย่างมีความสุขเช่นนี้ไม่ว่าเป็นบรุษใดได้พบเห็นย่อมต้องถูกรอยยิ้มทั้งห้าที่ดูร่าเริงสดใสนี้กระชากวิญญาณให้หลุดออกจากร่างแน่นอนและเรย์หนาดก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

    เรย์หนาดที่จ้องมองสังเกตุดูอยู่แต่ไกลถึงกับดวงตากระจ่างวูบขึ้นมา

    "เอ่ย คุณชายที่ด้านโน้นมองเห็นครอบครัวของท่านหญิงแล้วทำให้คุณชายนึกถึงครอบครัวของตนเองขึ้นมาจึงเป็นเหตุให้คุณชายเรย์หนาดรู้สึกถูกชะตากับครอบครัวของท่านหญิงยิ่งนัก คุณชายเรย์หนาดจึงมีความประสงค์ที่จะเป็นเจ้ามือในการเลี้ยงอาหารครอบครัวของท่านหญิงมื้อนี้ เอิ่ม ท่านหญิงจะรังเกียจหรือไม่หากว่าคุณชายของข้าและคู่หมั้นมีความประสงค์ที่จะขอรวมโต๊ะเพื่อทำความรู้จักรคุ้นเคยพูดคุยกับครอบครัวของท่านหญิง" พนักงานเอ่ยเข้าประเด็นตามที่ตนเองถูกวานใช้มาในที่สุด

    กาเล็ทซึ่งกำลังก้มกอดนีน่าอยู่ได้ฟังเช่นนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจังขึ้นมาวูบหนึ่งจากนั้นจึงกลับมาตั้งตัวตรงจ้องมองไปยังพนักงานผู้นั้นด้วยสายตาสำรวจตรวจดู ภายในจิตใจของกาเล็ทก็กล่นด่าคุณชายเรย์หนาดอะไรนั่นอยู่ในใจว่า"ร่วมโต๊ะมารดาเจ้าสิ"

    พนักงานประจำภัตตาคารเหินฟ้าซึ่งถูกสายตาของกาเล็ทจ้องมองอย่างสำรวจตรวจดู ชั่ววูบหนึ่งมันกลับเกิดความรู้สึกเสมือนว่าร่างกายของตนเองถูกจ้องมองโดยพระยามัจจุราชอยู่ วิญญาณของมันเสมือนว่าจะถูกสายตาที่ดูทรงพลังนั้นสะกดหยุดไว้

    เมื่อสำรวจดูท่าทีของพนักงานต้อนรับนั้นแล้วกาเล็ทก็หันไปทางที่พนักงานต้อนรับนั้นชี้ว่าคุณชายเรย์หนาดอะไรนั่นนั่งอยู่จากนั้นจึงเอ่ยกับพนักงานต้องรับไปว่า "ไมตรีของคุณชายเรย์หนาดข้าขอรับไว้ด้วยใจแต่ในวันนี้ข้าและครอบครัวต้องการความเป็นส่วนตัวจึงขอปฎิเสธข้อเสนอของคุณชายเรย์หนาด" กาเล็ทเอ่ยปฎิเสธอย่างสุภาพ

    ได้ฟังคำของกาเล็ทพนักงานต้องรับซึ่งรู้สึกตัวขึ้นมาก็ยิ้มแห้งๆออกมาให้ได้เห็น "ขอรับคุณชายข้าเข้าใจแล้ว" จากนั้นมันจึงรีบวิ่งไปทางโต๊ะของเรย์หนาดและวีร่า

    "จะดีหรือกาเล็ทที่ปฎิเสธเขาไปเช่นนั้น เช่นนี้ก็อดรับประทานอาหารฟรีพอดีเลยน่ะสิ" แชลเทียเอ่ยขึ้นมาอย่างขำขัน

    "ข้าไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ใดมาเป็นเจ้ามือ ภรรยาของข้า ข้าย่อมเลี้ยงดูเองได้" กาเล็ทเอ่ย
    ได้ฟังคำเอ่ยของกาเล็ทหญิงสาวทั้งห้าก็เกิดความรู้สึกกระดากเชินอายขึ้นมาอย่างทันดีทันใด

    "ฮึ ศิษย์เนรคุณ" เทลเล่อเอ่ยกล่าวขึ้นมาลอยๆ

    "กรู๊" มิร่าซึ่งถูกเบลล่าอุ้มอยู่เองก็ส่งเสียงร้องออมาเช่นกัน

    "เช่นนั้นข้าขอเปลี่ยนคำพูดใหม่จะยังทันหรือไม่ เอิ่มเอาเป็นว่า ภรรยาของข้า ลูกน้อยของข้า และอาจารย์ของข้า เอิ่มยังมีท่านแม่ของข้า ข้าย่อมเลี้ยงดูเองได้ เช่นนี้พอใจแล้วหรือไม่ท่านอาจารย์" กาเล็ทหันไปเอ่ยกับเทลเล่อ

    เห็นท่าทีทุกลักทุเลของกาเล็ทซึ่งแสดงออกมาให้ได้เห็นทั้งหมดภายในโต๊ะก็ขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้

    "มานี่มาหาปะป๋ามา" กาเล็ทเอ่ยพร้อมทั้งกางมือออก เห็นเช่นนั้นมิร่าในอ้อมอกของเบลล่าจึงขยับตัวไปมาเพื่อดิ้นรนเล็กน้อย เบลล่าซึ่งทราบได้ว่าตัวน้อยในอ้อมกอดมีความต้องการที่จะกระโจนออกไปหากาเล็มก็คลายวงแขนออกเพื่อปล่อยให้มิร่าโผบินออกไป


    "เป็นอย่างไรบ้าง" เรย์หนาดเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อพนักงานต้อนรับของภัตตาคารเหินฟ้ากลับมาถึง

    "เรียนคุณชายเรย์หนาด ข้าสืบทราบถามข้อมูลมาได้ว่าพวกนางทั้งห้าต่างเป็นคู่หมั้นหมายของคุณชายผู้นั้นขอรับ" พนักงานเอ่ยรายงาน

    เรย์หนาดได้ฟังคำยืนยันเช่นนั้นก็ลอบกัดฟันกรอดด้วยความอิจฉา คู่หมั้นของผู้อื่นกลับงดงามถึงเพียงนั้นอีกทั้งยังมีถึงห้าคน ไม่ทราบว่าต้องมีวาสนาปานใดถึงจะสามารถครอบครองสตรีที่งดงามเพรียบพร้อมถึงห้านางเช่นนี้ได้พอเหลียวกลับมามองดูคู่หมั้นของตนเองที่ด้านข้างแล้วกลับไม่สามารถเทียบเปรียบได้แม้เพียงครึ่งส่วนของผู้อื่น "แล้วข้อเสนอของข้ามันรับไว้หรือไม่" เรย์หนาดยังคงเอ่ยถาม

    ได้ฟังคำถามนี้พนักงานต้อนรับก็มีสีหน้าลำบากใจจากนั้นจึงเอ่ยตอบเรย์หนาดไป "เขาปฎิเสธโดยบอกว่าต้องการความเป็นส่วนตัวขอรับ"

    ได้ฟังเช่นนั้นเรย์หนาดก็กัดฟันกรอด "ข้ามีไมตรีเจ้ากลับไม่รับไว้ ได้เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นดี" เอยจบเรย์หนาดก็โบกมือให้พนักงานต้อนรับเข้ามาหาตนเองเพื่อที่จะสั่งการอีกครั้งหนึ่งจากนั้นมันก็เริ่มกระซิบกระซาบบางอย่าง

    ไม่ทราบว่าเรย์หนาดกระซิบกระซาบสิ่งใดต่อพนักงานต้อนรับแต่ไม่นานหลังจากนั้นพนักงานต้อนรับก็วิ่งหายลับไปยังส่วนหลังของห้องครัว

    เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปได้สิบนาที อาหารพร้อมทั้งเครื่องดื่มต่างๆก็ค่อยๆทยอยถูกนำมาเสริพให้แก่เรย์หนาดอย่างไม่ขนาดสาย

    "เหตุใดถึงได้นานนัก" กาเล็ทเอ่ยบ่นขึ้น

    "ทำอาหารน่ะต้องใช้เวลานะลูกยิ่งหากว่าจะทำให้ออกมาดีมีรสชาติที่ถูกปากผู้คนย่อมต้องใช้ความตั้งใจเป็นพิเศษ" นีน่าเอ่ย

    กาเล็ทซึ่งพึ่งบ่นออดออกมาก็ได้แต่เอ่ยลากเสียงว่า "คร๊าบบบบท่านแม่ข้าเข้าใจแล้ว" นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ10นาทีที่แล้ว

    สิบนาทีต่อมาอาหารยังคงมาเสริพให้แก่โต๊ะของเรย์หนาดอย่างต่อเนื่องจนบัดนี้บนโต๊ะของเรย์หนาดนั้นแทบจะไม่มีที่ว่างเหลืออยู่แล้วแต่บนโต๊ะของกาเล็ทยังคงว่างเปล่าไร้สิ่งใด แม้แต่เครื่องดื่มซึ่งไม่ต้องใช้เวลาในการปรุงแต่งก็ยังไม่มีมาแม้แต่แก้วเดียวรู้สึกได้ถึงความผิดปกตินี้กาเล็ทจึงทำทีจะลุกขึ้นเพื่อไปท้วงติงต่อพนักงานของภัตตาคาร

    "รออีกหน่อยเถอะลูก โต๊ะนั้นเขามาก่อนนะลูก วันนี้กาเล็ทมีธุระหรอลูก" นีน่าเอ่ยขึ้น

    "เปล่าครับท่านแม่ ข้าไม่มีธุระอื่นอีก" กาเล็ทเอ่ยตอบ

    "ถ้างั้นก็รออีกสักหน่อยเถอะลูก" นีน่าเอ่ยร้องขอต่อผู้เป็นบุตรชาย

    เวลาล่วงเลยไปอีกกว่า 20 นาที บัดนี้ใบหน้าของกาเล็ทเรื่อมเขียวขล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสาเหตุก็เพราะกาเล็ทนั้นรู้แล้วว่าตนเองไม่ได้คิดไปเองถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้ว นับตั้งแต่ที่ตนเองสั่งอาหารและเครื่องดื่มไปเวลาก็ล่วงเลยมากว่า40 นาทีแล้ว ใน40นาทีนี้กลับไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มมาเสริพให้แก่โต๊ะของตนเองแม้แต่รายการเดียวกลับกันที่อีกโต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะของเรย์หนาดกลับมีอาหารต่างๆทยอยมาเสริพให้ตลอดระยะเวลา 40 นาทีที่ผ่านไม่ไม่ขาดตนโต๊ะของเรย์หนาดนั้นไม่มีพื้นที่ในการวางให้กับรายการอาหารที่ยกมาเสริพวางให้และต้องต่อโต๊ะเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายโต๊ะเข้าไป

    ในที่สุดความอดทนของกาเล็ทก็หมดลง กาเล็ทลุกขึ้นเอ่ยเรียกพร้อมทั้งคว้าจับพนักงานเสริพผู้หนึ่งไว้และเอ่ยถามขึ้น "เหตุใดอาหารของโต๊ะข้าที่สั่งไปจึงยังไม่มาเสริพแม้แต่รายการเดียว" กาเล็ทพยายามข่มความรู้สึกไม่พอใจไว้เพื่อไม่ให้มันปรากฎออกมาในน้ำเสียงของตนเอง

    พนักงานนั้นหันมาหากาเล็ทและแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาวูบหนึ่ง "ก็ต้องรอตามคิว โต๊ะของคุณชายมาทีหลังโต๊ะของคุณชายเรย์หนาด เช่นนั้นก็ต้องรอจนกว่ารายการอาหารของคุณชายเรย์หนาดจะจัดทำจนครบก่อน"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็พอจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาบ้าง "เหตุใดเราจึงมักจะถูกผู้คนข่มรังแกอยู่บ่อยนัก?" กาเล็ทได้แต่ตั้งคำถามกับตนเองในใจขณะที่หันมองไปทางโต๊ะของเรย์หนาดและก้าวฉับๆเดินตรงเข้าไปหาโดยไม่เปิดช่องให้นีน่าได้เอ่ยคำทัดทานแม้แต่น้อย


    ปล.อย่ารำคาญท่านแม่เลยครับ นางก็แค่กลัวว่าลูกนางจะเปลี่ยนไปหลงมัวเมาในอำนาจที่มีและอีกอย่างผมปัดคาแร็คเตอนางเพื่อมาให้เป็นแบบนี้คือก็ตามที่หลายคนบอกแหละการแต่งให้แม่ตาย ครอบครัวตาย ไม่สนครอบครัวมันง่ายกว่าเหมือนหลายๆเรื่องแต่ผมก็อยากจะแปลกแหวกแนวดู อีกอย่างปมของพระเอกอย่าได้ลืมว่าชาติก่อนมันก็เป็นคนไม่สนใคร ไม่เอาใคร จนวันตายอะครับถึงได้รู้ว่าเออ คนเรามันอยู่คนเดียวไม่ได้ ยังไงตอนเจ็บป่วย ตอนได้ไข้ ก็ต้องมีคนคอยดูแล ผมก็อยากจะให้นักอ่านเข้าใจด้วยว่ามันคือสัจธรรมของโลก นักอ่านหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจเพราะตอนนี้ยังเดินเหินสบายแข็งแรงดี พอพระเอกมีปมจากชีวิตก่อนที่ผิดพลาดประกอบกับมาโลกนี้นีน่านั้นเป็นแม่ที่ดี ไม่ว่าจะเครียด จะลำบาก จะทำงานหนักขนาดไหนก็ไม่เคยด่าว่ากาเล็ทและเลี้ยงดูสั่งสอนมาอย่างดีตลอดครับทำให้เจ้าของร่างเก่านั้นรักแม่มากพระเอกก็ได้ความรู้สึกนั้นมาด้วย+เข้ากับปมจากโลกก่อนเข้าไปก็อย่างที่เห็นคือฟังแม่ทุกอย่างเพราะรู้ว่าแม่หวังดีแต่กาเล็ทก็ยังมีจุดยืนของตัวเองอยู่ครับถ้ายังจำได้ก็ตอนฆ่าพี่ชายซิลเวียกับเบลล่าก็แอบฆ่าเพราะไม่อยากให้ใครรู้ คือเอาง่ายๆถ้ามาท้าทายแบบไอ้เรย์นาร์ดนี่พระเอกมันก็ไม่เห็นว่าจะเป็นภัยอะไรกับตัวเองและก็ความผิดยังไม่ถึงตายมันก็ไม่อยากลงมือหนักอาละวาดโดยไม่จำเป็นประมาณนี้และส่วนจะโดนมากน้อยขนาดไหนก็รอติดตามละกันครับ      เออแล้วที่พระเอกมันโดนหาเรื่องบ่อยเพราะมีสาเหตุอยู่ครับ มันทำตัวไม่เหมือนกับคนเก่งหรือคนที่มีพลังสูงขนาดนั้น เอาง่ายๆคือมันไม่วางก้ามว่าตัวเองสูงส่งยิ่งอยู่ต่อหน้าเมียทั้ง5และแม่ก็ยิ่งทำตัวตลกโปกฮาผิดกับขุนนางหรือคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในยุคสมัยนั้นที่ชอบวางก้ามเก๊กหน้าสร้างบารมี กาเล็ทเป็นเหมือนคนมีสองบุคคลิคครับ กับครอบครัวคนใกล้ชิดนี่ตลกโปกฮาแต่กลับศัตรูที่คุกคามต่อความมั่นคงของครอบครัวนั้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมไม่ปราณีจริงๆถ้าติดตามอ่านมาถึงจุดนี้น่าจะเข้าใจนิสัยใจคอพระเอกแล้วนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×