ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #190 : ช้าและเร็ว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.59K
      472
      27 มี.ค. 61




    "กาเล็ท ระวังลูก ระวังลูก ระวัง" นีนี่ที่กำลังนั่งอยู่ด้านข้างมองดูภาพที่กาเล็ทหลบการจู่โจมของลูกน้องทั้งสี่ที่ผลัดกันเข้าจู่โจมใส่อย่างใจหายใจคว่ำด้วยกลัวเกรงว่าผู้เป็นบุตรชายจะพลาดพลั้งจนได้รับบาดเจ็บขึ้นมา

    เทลเล่อที่นั่งดูอยู่ไม่ไกลก็ได้แต่ยิ้มออกมากับอาการแตกตื่นตกใจของนีน่า "ท่านหญิง ไม่จำเป็นต้องแตกตื่นตกใจไปต่อให้คมดาบ คมหอก หรือแม้กระทั่งค้อนใหญ่ยักษ์ในมือของมาร์ตินนั่นทุบใส่ถูกร่างกายของกาเล็ทจริงๆ ศิษย์ผู้นี้ก็หาได้ระคายเคืองไม่"

    ได้ยินคำกล่าวของเทลเล่อ ซิลเวีย แชลเทียก็เอ่ยสนับสนุนขึ้นมาอีกเสียงหนึ่ง "ใช่แล้วท่านป้า อย่าได้เป็นห่วงเขาจนมากเกินไป กาเล็ทน่ะแข็งแกร่งกว่าที่ท่านป้าเข้าใจมากนัก"

    ได้ยินทั้งคำกล่าวของเทลเล่อและคำยืนยันจากแชลเทียกับซิลเวีย นีน่าก็หันกลับที่ซิลเวียและแชลเทียด้วยใบหน้าที่ยังไม่คลายความรู้สึกกังวัลไป "หยั่งงั้นหรือลูก"

    "จะไม่ให้น่าเป็นห่วงได้อย่างไร เจ้าไม่เห็นค้อนใหญ่ในมือของมาร์ตินนั่นหรือน้องหญิง" เบลล่าเอ่ยอย่างไม่วางใจขึ้นมา

    "ท่านพี่ ข้าไม่ได้หมายความว่าพวกข้าไม่ได้เป็นห่วงเขาแต่ที่อยากจะบอกท่านพี่คือเขานั้นเหนือกว่าที่เห็นภายนอกมากนัก คำกล่าวของท่านผู้พิทักษ์ที่ว่าต่อให้ค้อนใหญ่ยักษ์ที่อยู่ในมือของมาร์ตินนั้นทุบใส่ถูกร่างของเขา เขาก็หาได้ระคายเคืองไม่นั้นย่อมไม่แปลกปลอม เรื่องนี้ข้าเคยเห็นมากับตา" ซิลเวียเอ่ยยืนยัน

    "เรื่องนี้ข้าก็ขอร่วมยืนยันด้วยอีกคน" แชลเทียเอ่ยขึ้นมาเพื่อสนับสนุนซิลเวียพร้อมทั้งหันไปเอ่ยกล่าวกับ โซเฟียและเซลิน่าที่นั่งดูภาพการฝึกซ้อมอยู่อย่างหวาดหวั่นที่ด้านข้าง "ไม่ต้องตื้นเต้นตึงเครียดไป เขาไม่เป็นอะไรหรอก"

    "กรู๊" เสียงร้องของมิร่าดังขึ้นมาเหมือนว่าจะสนับสนุนคำกล่าวของแชลเทียและซิลเวียเพิ่มอีกเสียงหนึ่ง

    ทางด้านกาเล็ทที่กำลังยิ้มยินดีกับความก้าวหน้าของลูกน้องทั้งสี่ของตนเองอยู่ในใจย่อมไม่สังเกตุเห็นถึงความกังวลของผู้เป็นมารดาและคนรัก สาเหตุที่กาเล็ทเลือกที่จะฝึกสอนลูกน้องทั้งสี่ของตนเองต่อหน้าพวกนางก็เพื่อเพราะแค่ถือว่าเป็นการแสดงแก้เบื่อให้แก่พวกนางดูระหว่างเดินทางไปด้วยก็เท่านั้น กาเล็ทหาได้คิดไปไกลว่าผู้เป็นมารดาซึ่งไม่ค่อยจะเห็นด้านที่แข็งแกร้าวของตนเองเท่าใดจะเกิดความรู้สึกกังวลใจขึ้นมา

    ฉับ ฉับ กาเล็ทก้าวถอยหลังไปสองก้าวเพื่อหลบการฟาดฟันใส่ของโรสที่โถมฟาดฟันใส่ตนเองเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตายเสมือนว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ขณะที่ก้าวถอยหลังเพื่อหลบการฟาดฟันเป็นก้าวที่สองมุมปากของกาเล็ทก็ยกยิ้มสูงขึ้น ชั่วขณะต่อมาร่างของเจฟก็กระโดดเข้ามาที่เบื้องหลังของผู้เป็นนาย มือทั้งสองข้างของเจฟกำหอกวิเศษในมือแน่น แสงสว่างจางๆครอบคลุมไปทั่วร่างและหอกในมือของเจฟ เจฟที่รอคอยมองหาโอกาสและช่องว่างอยู่นานลงมือแล้ว ฟุบ หอกในมือของเจฟถูกแทงออกไปใส่แผ่นหลังที่เสมือนจะเปิดว่างของกาเล็ทอยู่อย่างเต็มกำลัง

    กาเล็ทที่รู้สึกถึงเจฟได้อยู่ก่อนแล้วกลับพลิกหมุนตัวหลบการจู่โจมจากหอกของเจฟไปได้อย่างเฉียดฉิว หอกของเจฟที่พลาดเป้าจากร่างของกาเล็ทไปแทบจะพุ่งเข้าใส่ร่างของโรสที่กำลังถลาฟาดฟันมาจากทิศตรงข้ามส่งผลให้เจฟแตกตื่นรนลานรีบรั้งหอกของตนเองกลับคืน ขณะเดียวกันร่างของกาเล็ทที่พลิกหลบการแทงใส่ของเจพก็มาปรากฎอยู่ที่เบื้องหลังของโรสพร้อมทั้งฟันฝ่ามือใส่หลังคอของโรสเบาๆคราหนึ่ง

    "น .. นายน้อยท่านมีตาหลังหรืออย่างไร" เจฟเอ่ยโวยออกมาคราหนึ่ง

    "เคยบอกกล่าวไปแล้วไม่ใช่หรือว่าสมควรใช้สัมผัสมากกว่าใช้สายตา หากว่าใช้สายตานำความรู้สึกแล้วการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าก็จะช้าไปหนึ่งก้าวเสมอดั่งที่เป็นอยู่" กาเล็ทเอ่ย

    "กาเล็ท" เสียงหวานใสดังขึ้นขัดจังหว่ะการฝึกฝนของทั้งหมดลง

    กาเล็ทที่กำลังเอ่ยกล่าวสอนสั่งชี้ถึงข้อผิดพลาดของเจฟและโรสอยู่ก็หันมาตามเสียงเรียก

    "มีอะไรหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามซิลเวียที่เดินเข้ามาเรียกหาตน

    "ทราบหรือไม่ว่าท่านป้าเป็นกังวลใจหายใจคว่ำเกรงว่าเจ้าจะพลาดพลั้งได้รับอันตรายจากการฝึกฝนจะแย่แล้ว" ซิลเวียเอ่ยขึ้นมา

    เมื่อได้ฟังคำเอ่ยบอกของซิลเวียกาเล็ทก็ได้คิด จากนั้นจึงหันมองไปยังทิศทางที่ผู้เป็นมารดานั่งอยู่กาเล็ทก็ได้พบกับสายตาที่ห่วงหาที่มองมา "หาได้ต้องเป็นห่วงข้า ด้วยระดับพลังของพวกมันย่อมไม่สามารถทำอันตรายข้าได้"

    "ข้ารู้ บอกต่อท่านป้าแล้วแต่ท่านป้ายังคงเป็นห่วง ข้าเลยคิดว่าเจ้าสมควรแสดงให้ท่านป้าดู" ซิลเวียเอ่ย

    ได้ยินเช่นนั้นก็เล็ทก็ยิ้มออกมาผงกหัวรับและเดินเข้ากลับเข้าไปหาผู้เป็นมารดา

    "กาเล็ท เหนื่อยไหมลูก" นีน่าที่เห็นว่าผู้เป็นบุตรชายเสร็จสิ้นจากการฝึกฝนแล้วก็รีบลุกขึ้นเอ่ยถามพร้อมทั้งควักผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยออกมายื่นส่งให้ผู้เป็นบุตรชาย

    อันที่จริงแล้วการฝึกฝนให้กับลูกน้องทั้งสี่ของตนเองหาได้กินแรงกาเล็ทอันใดแต่กาเล็ทยังคงรับผ้าเช็ดหน้ามาจากมือของผู้เป็นมารดาและใช้มันปาดเช็ดใบหน้าที่ไร้เหงื่อของตนเอง "ทำให้ท่านแม่เป็นห่วงอีกแล้ว" กาเล็ทเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยื่นส่งผ้าเช็ดหน้ากลับคืนให้แก่นีน่า

    "การฝึกฝนนั้นสมควรทำก็จริงอยู่แต่ก็ต้องระมัดระวังด้วยนะลูก" นีน่าเอ่ย

    "ครับท่านแม่ แต่ท่านแม่วางใจเถอะว่าการฝึกให้กับพวกมันทั้งสี่นั้นไม่สามารถก่อเกิดอันตรายแก่ข้าได้แน่นอน" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งหันหลังไปส่งสัญญาณบางอย่างให้กับมาร์ติน "ท่านแม่คอยดู" กล่าวจบกาเล็ทก็ส่งผ่านพลังไปที่เท้าของตนเองส่งผลให้เกิดม่านพลังครอบคลุมไปทั่วทั้งพื้นดาดฟ้าเรือจนแม้แต่นีน่า เบลล่า โซเฟียและเซลิน่าซึ่งแทบจะไร้พลังยังรู้สึกได้ ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะตั้งตัวได้นีน่าก็ต้องใจหายใจคว่ำอีกรอบหนึ่ง

    ร่างของมาร์ตินที่ถือค้อนใหญ่ยักษ์อยู่กระโจนเข้าพร้อมกับยกค้อนใหญ่นั่นด้วยสองมือทุบลงใส่กาเล็ทอย่างดุดัน ทว่ากาเล็ทกลับยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อหยุดยั้งค้อนที่มาร์ตินทุบลงมาอย่างสุดกำลังได้อย่างง่ายดายราวกับไม่มีเรื่องราวใด วูบบบบ คลื่นพลังที่เกิดจากการทุบทำลายของมาร์ตินถูกส่งผ่านกระจายไปตามม่านพลังที่กาเล็ทสร้างขึ้น การทุบทำลายที่รุนแรงจนสามารถป่นเรือเหาะทั้งลำได้กลับกลายเป็นไร้ผลกระทบใดและสลายหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ครั้งนี้แม้แต่เทลเล่อที่ยืนมองอยู่ห่างๆยังถึงกับม่านตาขยายกว้างออกด้วยความตกใจ

    กาเล็ทผลักค้อนในมือของตนเองออกส่งให้ร่างของมาร์ตินที่ชงักค้างอยู่กลางอากาศค่อยๆถูกส่งกลับคืนสู่พื้นเรือ "ต่อให้ถูกทุบเข้าจริงๆข้าก็หาได้รับอันตรายใด ท่านแม่โปรดวางใจ"

    นีน่าที่เห็นภาพซึ่งน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็จ้องมองไปที่บุตรชายของตนเองอย่างลึกซึ้งภาคภูมิิ "ดูท่าแม่คงจะห่วงหาเจ้าเสียเปล่าแล้ว หากว่ากาลานพ่อของเจ้ามาเห็นเขาคงต้องภูมิในมากแน่ๆ"

    "ความห่วงใยของท่านแม่ที่มีให้ข้าไม่เคยเสียเปล่า ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านแม่รู้ว่าข้านั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว จากนี้ข้าจะยืนหยัดเป็นดั่งกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันล้มลงคอยปกป้องดูแลท่านแม่แทนท่านพ่อเอง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวจบก็กระโดดเข้าเอวของนีน่าซึ่งกำลังอุ้มมิร่าอยู่ "ใช่ไหมมิร่าน้อย พวกเราจะช่วยกันปกป้องท่านย่า"

    "กรู๊ กรู๊" มิร่าส่งเสียงตอบรับออกมา

    นีน่าซึ่งอยู่ในอารมณ์ซึ้งในแถบที่จะปรับอารมณ์ไม่ทันตามการกระทำของผู้เป็นบุตรชาย "ดูเจ้าเติบใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วกลับไม่รู้จักอาย" แม้จะเอ่ยกล่าวเช่นนั้นแต่ยังคงลูบหัวผู้เป็นบุตรชายอย่างเอ็นดู "แม้จะแข็งแกร่งมีพลังกว่าผู้อื่นก็อย่างได้ข่มเหงรังแกผู้คนนะลูก พ่อของเจ้ามักจะบอกกล่าวอยู่เสมอว่าพลังและอำนาจนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคมที่ให้ทั้งคุณและโทษ"

    ''เรื่องนี้คงต้องรบกวนให้ท่านแม่อยู่คอยดูแลควบคุมข้าแล้ว" กาเล็ทเอ่ยอย่างติดตลก

    "เหมือนที่ปะป๋าคอยควยคุมมิร่าใช่ไหม" เสียงของมิร่าดังถามขึ้นในหัวของกาเล็ท

    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ลูบหัวนางคราหนึ่งจากนั้นจึงลุกขึ้นจูงมือของนีน่ากลับไปนั่งที่ดังเดิม

    "กาฝึกต่อสู้ออกกระบวนท่าเห็นทีคงต้องจบลงแต่เพียงนี้ เนื่องจากอยู่บนเรือเหาะจึงไม่ค่อยจะสะดวกเท่าใดนัก เช่นนั้นเรามาฝึกการควบคุมพลังเถอะ " กาเล็ทเอ่ย

    ได้ฟังเช่นนั้นทั้งโรส เจฟ มาร์ตินและเรน่าก็แสดงอาการตื่นเต้นยินดีออกมา

    "การต่อสู้กันของผู้ฝึกฝนพลังขั้นสูงนั้นหาได้มีแต่การเสริมพลังเข้าฟาดฟันกันเท่านั้น ปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันเลยยังมีการแปลงคุณสมบัติี่จะช่วยหนุนเสริม แต่อยากให้จำไว้ว่าการแปลงคุณสมบัตินั้นแม้จะมีอานุภาพทำลายที่สูงแต่ในทางกลับกันก็สิ้นเปลืองพลังงานกว่าการเสริมพลังให้แก่สิ่งของหรือร่างกายมากนัก" กาเล็ทเอ่ย กล่าวจบกาเล็ทก็ยกแบฝ่ามือของตนเองขึ้นจากนั้นเหนือฝ่ามือของกาเล็ทก็เปล่างแสงเรืองรองออกมาและปรากฎมวลน้ำทรงกลมขนาดเล็กขึ้นอย่างช้าๆ "นี่คือการควบคุมพลังเพื่อแปลงคุณสมบัติพลังจิตวิญญาณให้กลายเป็นสลาร" กล่าวจบกาเล็ทก็ยกมืออีกข้างและแบมันออกเหมือนกับครั้งแรกจากนั้นก็ปรากฎแสงเรืองรองขึ้นอย่างรวดเร็วก่อเกิดเป็นมวลน้ำเช่นเดียวกับมืออีกข้าง "นี่ก็คือการแปลงคุณสมบัติพลังจิตวิญญาณให้กลายเป็นสลารเช่นกันแต่พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าทั้งสองอย่างนั้นมีความแตกต่างกันที่ใด"


    ลูกน้องทั้งสี่ของกาเล็ทได้แต่จ้องมองลูกบอลน้ำทรงกลมในมือทั้งสองของผู้เป็นนายน้อยอยู่นานสุดท้ายแล้วเจฟก็ยกมือเอ่ยขึ้น "อืมม มวลน้ำในมือข้างขวาของนายน้อยก่อตัวขึ้นรวดเร็วกว่าขอรับ"

    "ยอดเยี่ยม" กาเล็ทเอ่ยกล่าวชมเจฟที่เอ่ยกล่าวเห็นข้อแตกต่างได้ "ทราบหรือไม่ว่าเหตุใดจึงมีช้าและเร็ว" เมื่อเห็นว่าลูกน้องทั้งสี่ของตนเองส่ายหัวกาเล็ทก็เปิดปากอธิบายต่อ "ที่ช้าก็เพราะข้าดึงพลังจากภายนอกมาสร้างเป็นพลัง วิธีนี้จะสิ้นเปลืองพลังจิตวิญญาณภายในกายน้อยกว่าแต่ข้อเสียของมันก็ใหญ่หลวงนัก นั่นคือช้า ในเมื่อวิธีนี้ช้ากว่าการใช้จริงในการต่อสู้จึงจำกัดนัก" กาเล็ทเอ่ยอธิบายจากนั้นจึงสลายมวลน้ำจากบนฝ่ามือทั้งสองข้างทิ้งไปและสร้างมันขึ้นอีกครั้งอย่างพร้อมเพรียงเพื่อให้ทั้งสี่ได้เห็นถึงข้อแตกต่างของความช้าและเร็ว

    "ส่วนอีกวิธีที่รวดเร็วก็เพราะว่าข้าดึงพลังจากภายในร่างกายออกมาใช้โดยตรงและแน่นอนมันต้องใช้พลังจิตวิญญาณมากทำให้เป็นภาระแก่ร่างกายและวิธีนี้เองเป็นวิธีที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ในการต่อสู้" กาเล็ทเอ่ยอธิบาย

    ได้ฟังคำอธิบายของกาเล็ทลูกน้องทั้งสี่ก็ผงกหัวอย่างได้คิด "ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม้แต่การแปลงคุณสมบัติยังมีข้อปลีกย่อยเช่นนี้" โรสเอ่ยขึ้น

    "ยังจำตอนที่จักรพรรดิ์แดงบุกมาได้หรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถามขึ้นจากนั้นจึงเอ่ยต่อ "ลูกไฟใหญ่ยักษ์ที่มันสร้างขึ้นในตอนนั้นถือว่าเป็นการดึงพลังจากภายนอกมาช่วยทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมการส่งผลให้ข้าและมิร่าน้อยสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงทีหากว่ามันเปลี่ยนเป็นใช้พลังจากร่างกายของตนเองเช่นนั้นไม่ทราบว่าจะมีผู้คนมากน้อยเท่าใดที่ต้องถูกแผดเผาตกตายลงในวันนั้นแล้ว" กาเล็ทเอ่ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×