ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #174 : แสดงอำนาจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.32K
      389
      13 ก.พ. 61




    เมื่อได้ยินเสียงโวยวายซึ่งเกิดขึ้นที่ด้านหน้าเอลลี่และมาเรียก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ยกมือทั้งสองของตนเองขึ้นเพื่อโอบเอวอ้อนแอ้นคอดกิ่วของมาเรียและเอลลี่ไว้ "เป็นไรหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามขึ้น

    "ม..ไม่มีอะไรค่ะคุณชาย" มาเรียเอ่ยตอบ แม้จะเอ่ยตอบออกไปเช่นนั้นแต่อันที่จริงแล้วในจิตใจของมาเรียกลับรู้สึกกังวลใจ ด้วยมาเรียนั้นรู้ดีว่าฮัมเบลมีนิสัยเช่นไร หลายครั้งหลายคราที่หญิงสาวในหอร้อยบุปผาเสร็จสิ้นจากการปรณิบัติรับใช้คุณชายฮัมเบลท่านนี้ก็มักจะปรากฎริ้วรอยฟกช้ำตามเรือนร่างเสมอ เมื่อสอบถามดูมาเรียกลับพบว่าฮัมเบลผู้นี้นิยมความรุนแรง ตอนที่เหล่าหญิงสาวให้บริการปรณิบัตต่อมันหากว่ามีผู้ใดทำสิ่งใดไม่ถูกอกถูกใจมันก็จะถูกตบตีเที่ยวหนึ่ง ด้วยสาเหตุนี้ทำให้มาเรียหลีกเลี่ยงที่จะให้บริการต่อมันมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ในยามนี้แม้ว่าฮัมเบลผู้นี้จะแหกปากร่ำร้องโวยวายเช่นไรตัวนางย่อมเชื่อว่าดยุคบุสโซ่ที่เบื้องหน้าของตนเองย่อมมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะปกป้องพวกนางไว้แต่ว่าเรื่องราวหลังจากนี้เล่า? ดยุคบุสโซ่ผู้นี้ใช่จะสามารถปกป้องพวกนางตลอดไปได้หรือ? นี่คือสิ่งที่ทำให้ตัวนางรู้สึกกังวลใจ

    "เป็นกังวลใจหรือ" กาเล็ทเอ่ยกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มซึ่งดูอบอุ่นที่ปรากฎขึ้นใบหน้าหล่อเหลา

    ได้ฟังคำกล่าวของกาเล็ทซึ่งคาดเดาถูกต้องถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกตนทั้งมาเรียและเอลลี่ก็ก้มหน้าลง

    "มีข้าอยู่ที่นี่ยังมีสิ่งใดที่ต้องกลัวอีกหรือ? หากว่าเสียงโวกเหวกโวยวายที่ด้านนอกนั้นเป็นต้นเหตุของความรู้สึกกังวลใจของคุณหนูทั้งสองเช่นนั้นข้าจะกำจัดมันไปเสียในบัดดล" กาเล็ทเอ่ยกล่าวแต่ยังไม่ทันที่กาเล็ทจะได้ลงมือทำสิ่งใดประตูเลื่อนของห้องพิเศษที่ด้านหลังของกาเล็ทก็กระเด็นเข้ามาเพราะได้รับแรงกระแทกจากภายนอก

    บานประตูนั้นปลิวละลิ่วเข้ามาใส่แผ่นหลังของกาเล็ทซึ่งกำลังนั่งหันหลังให้กับทางเข้า

    "ท่านดยุคระวัง" เอลที่สังเกตุเห็นบานประตูที่กระเด็นกระดอนมาก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความแตกตื่นตกใจส่วนมาเรียที่ด้านข้างเองก็มีปฎิกริยาไม่ต่างกัน

    ทว่ากาเล็ทกลับยังคงนั่นอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวใดแม้แต่น้อย มุมปากของกาเล็ทยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

    ฟูวววววววววววววว บานประตูที่มีขนาดกว้างและยาวกว่าหลายเมตรที่พุ่งเข้ามากลับค่อยๆแปรเปลี่ยนสถาพหายไปกลายเป็นฝุ่นผงอย่างหน้าอัศจรรย์ทำให้ทั้งเอลลี่และมาเรียเกิดความรู้สึกแตกตื่นตกใจยิ่งกว่าเดิม นี่นับว่าเป็นครั้งคราแรกสำหรับพวกนางที่ได้เห็นฝีมือที่รวบรัดจัดเจนเช่นนี้

    "ทำให้คุณหนูทั้งสองแตกตื่นตกใจแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวจากนั้นจึงเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเคร่งขรึมเคร่งเครียด "ที่บ้านของพวกเจ้าไม่ได้สอนมารยาทหรือว่าการบุกรุกห้องหับของผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องไม่สมควร" กล่าวจบกาเล็ทก็ยกจอกแก้วสุราขึ้นมากระดกดื่มเข้าไปจนหมดอย่างไม่นำพา

    ผู้ติดตามของฮัมเบลซึ่งเป็นผู้ยกขาของตนเองถีบประตูเมื่อสักครู่ถึงกับแข็งชงักค้างไป ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่กาเล็ทปล่อยออกมา กาเล็ทหาได้ปลดปล่อยแรงกดอันใดออกมาทว่าที่ผู้ติดตามของฮัมเบลหยุดชงักค้างไปก็เพราะว่ามันได้เห็นภาพเมื่อสักครู่ได้อย่างถนัดชัดตา ภาพที่ประตูไม้ไผ่บานใหญ่ที่ถูกแรงถีบของมันจนกระเด็นกระดอนเข้าไปภายในห้องพิเศษถูกพลังสภาวะที่นากลัวสลายจนกลายเป็นฝุ่นผงไป "ต้องมีพลังมากมายเพียงใดจึงจะสามารถทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นได้?" ในห้วงสมองของมันนั้นกำลังขบคิดถึงปัญหาข้อนี้ ขบคิดไปก็หาได้คำตอบไม่ พอเวลาผ่านไปเหงื่อเม็ดโป้งก็ผุดขึ้นที่หน้าผากของมันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องเพราะมันเข้าใจแล้ว เข้าใจถึงคำพูดของผู้ดูแลหอร่างท้วมเมื่อสักครู่ที่เอ่ยบอกกล่าวทัดทานว่าบุคคลภายในห้องเป็นบุคคลที่พวกมันไม่สามารถที่จะล่วงเกินได้

    "ยังรีรอลังเลอันใดบุกเข้าไปนำตัวของเอลลี่และมาเรียกลับคืนมาให้แก่ข้า" เสียงของฮัมเบลร่ำร้องสั่งการ ทว่าแม้จะแหกปากร่ำร้องสั่งการเพียงไรผู้ติดตามของมันกลับไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวเพื่อปฎิบัติตามคำสั่งของมันทำให้มันรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจยิ่ง

    ฮัมเบลก้าวเดินฉับๆเข้ามาถึงเบื้องหน้าห้องพิเศษที่กาเล็ทนั่งอยู่ ประจวบเหมาะเข้ากลับที่กาเล็ทนั้นยันกายลุกขึ้นและหันหน้ามาสบตากับมันเข้าพอดีส่งผลให้ร่างของมันถูกผนึกแข็งค้างไว้เช่นกันแต่ในครั้งครานี้ที่ร่างของมันแข็งค้างไปหาใช่เพราะเห็นถึงพลังอันยากจะหยั่งของกาเล็ทไม่หากแต่เป็นเพราะมันสามารถจดจำออกว่าบุคคลที่เบื้องหน้าของมันนี้เป็นผู้ใด "ก...กาเล็ทบุสโซ่" มันเอ่ยกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาแต่ทุกผู้คนทั่วทั้งบริเวณต่างได้ยินอย่างชัดเจน

    ผู้ดูแลหอร่างท้วมที่ด้านหลังของมันถึงกับร่างสั่นสะท้านไป สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าแม้จะให้บริการกับกาเล็ทอย่างดีแต่ในจิตใจของมันก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อแน่นอนว่ากาเล็ทนั้นคือดยุคบุสโซ่ตัวจริงแต่เมื่อได้ยินคำกล่าวเมื่อสักครู่ของฮัมเบลทำให้มันแน่ใจเต็มร้อยแล้ว หากว่ามันรู้เช่นนี้แต่แรกมีหรือที่มันจะปล่อยให้ผู้ติดตามของฮัมเบลก่อเรื่องขึ้น ที่มันเลือกวิธีประนีประนอมพูดคุยห้ามปรามกับฮัมเบลก็เพราะตัวมันนั้นเผื่อทางถอยให้ตนเองไว้ หากว่าคุณชายภายในห้องหับนั้นมิใช่กาเล็ทบุสโซ่ตัวจริงแล้วมันเกิดล่วงเกินฮัมเบลเข้าก็คงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับกับมัน

    ส่วนผู้ติดตามของฮัมเบลที่ร่างชงักแข็งค้างไปไม่กล้าขยับตัวแม้สักนิดเดียวเมื่อได้ฟังผู้เป็นนายเอ่ยชื่อที่สามารถสั่นทะเทือนไปทั่วทั้งโรฮานหรือแม้กระทั่งทั่วทั้งทวีปตะวันออกแห่งนี้ออกมาก็ถึงกับขาสั่นไม่สามารถยืนหยัดทรงกายได้อีกต่อไป

    "หืม ไม่ได้ยินหรือว่าข้าถามเจ้าอยู่ว่าที่บ้านของเจ้าไม่ได้สอนมารยาทหรือว่าการรบกวนผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติมันเสียมารยาท อีกทั้งการเอ่ยเรียกชื่อผู้ซึ่งมียศตำแหน่งสูงกว่าห้วนๆก็ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ ที่แท้แล้วพวกเจ้ากระทำการเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งใช้สายตาเย็นเยียบกวาดมองทั้งหมด

    ได้ยินได้ฟังเช่นนั้นปากของฮัมเบลก็สั่นเครืออย่างหยุดไม่ได้ ฟันของมันถึงกับกระทบกันจนเกิดเป็นเสียงดัง ใบหน้าอ้วนท้วนสมบูรณ์ของมันถึงกับซีดขาว ที่มันสามารถจดจำออกมาว่าบุคคลที่เบื้องหน้ามันนี้คือกาเล็ทบุสโซ่ไม่แปลกปลอมแน่ก็เพราะครั้งหนึ่งเมื่อเดือนก่อนมันประจวบเหมาะได้เห็นขณะที่กาเล็ทนำพาซิลเวียและเบลล่าเข้าเมืองมาในครั้งนั้นชาวบ้านรอบข้างถึงกับซุบซิบพูดคุยกันทำให้มันซึ่งกำลังให้ความสนใจกับเจ้าหญิงที่งดงามทั้งสองของโรฮานอยู่ถึงได้รู้ว่าบุรุษที่กำลังเดินอยู่เคียงข้างพวกนางนั้นที่แท้แล้วคือผู้ใด


    เมื่อยังเห็นว่าทั้งหมดยังนิ่งเงียบอยู่กาเล็ทก็แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา บัดนี้ทั่วทั้งหอร้อยบุปผากลับเงียบกริบลงทุกผู้คนต่างหยุดกิจกรรมการกระทำของตนเองอยู่เพื่อหันมามองดูว่าที่แท้แล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้น "ผู้ดูแลหอ หอร้อยบุปผาของท่านกลับบริการลูกค้าพิเศษเช่นนี้หรือ?" กาเล็ทหันสายตาไปจับจ้องมองดูผู้ดูแลหอร่างท้วมอย่างไม่พอใจ


    "คุกเข่าลง!" เมื่อเห็นว่าทุกสายตาภายในหอร้อยบุปผากำลังจับจ้องมาที่ตนเองและคำถามของตนเองไม่ได้รับคำตอบกาเล็ทก็เอ่ยถ้อยคำออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ ในน้ำเสียงของกาเล็ทในครั้งนี้กลับแฝงไปด้วยพลังระดับจักรพรรดิ์ พลังที่ทำให้ทั่งทั้งหอร้อบบุปผาสั่นสะท้านสะเทือน ทุกผู้คนที่อยู่ในหอร้อยบุปผาในขณะนี้กลับร่างสั่นสะท้านจิตใจสั่นไหวเพราะถูกพลังมหาศาลเข้ากดดัน โดยไม่รู้ตัวทุกผู้คนภายในหอร้อยบุปผาก็คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง แม้แต่ผู้คนที่กำลังนั่งดื่มกินที่โต๊ะของตนเองอยู่ก็ลุกขึ้นและคุกเข่าลง ผู้คนที่อยู่ในห้องพิเศษที่เปิดประตูออกมาสำรวจดูว่าที่แท้แล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นและประสบพบเจอกับเหตุการณ์ตรงหน้าก็ถึงกับต้องคุกเข่าลงเช่นกันเนื่องเพราะทั้งหมดต่างมีความรู้สึกว่าหากไม่ปฎิบัติตามน้ำเสียงที่ทรงพลังอำนาจนี้ตัวตนของตนเองนั้นจะต้องถูกลบออกไปเป็นแน่

    กาเล็ทในบัดนี้กลับแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หากว่าอยู่ในสภาวะปกติธรรมดามีหรือที่กาเล็ทจะกระทำเช่นนี้ เมื่อเห็นภาพตรงหน้าซึ่งทุกผู้คนคุกเข่าลงให้แก่ตนเองก็ทำให้กาเล็ทเกิดความรู้สึกสมใจขึ้นและหันกลับมายังมาเรียและเอลที่ซึ่งบัดนี้ก็กำลังก้มคุกเข่าหมอบกราบอยู่เช่นกัน

    "คุณหนูทั้งสองอย่าได้ทำเช่นนี้ ที่ว่าคุกเข่าลงข้าหาได้หมายถึงคุณหนูทั้งสอง" กาเล็ทรีบเดินเข้าไปพยุงร่างอ้อนแอ้นของเอลลี่และมาเรียขึ้น "เห็นหรือไม่ว่ามีข้าอยู่ไม่มีสิ่งใดที่ต้องเกรงกลัว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่โอบเอวอ้อนแอ้นของมาเรียและเอลลี่ไว้และประคองพวกนางให้มานั่งดังเดิม

    ทุกผู้คนภายในหอร้อยบุปผากลับหมอบกราบลงและยังไม่มีผู้ใดที่กล้าจะขยับตัวลุกขึ้น กาเล็ทนั้นหาได้ใส่ใจไม่และยังคงนั่งดื่มกินรับการปรณิบัติจากเอลลี่และมาเรียอย่างสบายอารมณ์ เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปก็มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่อดทนไม่ไหวอีกต่อไปค่อยๆลุกขึ้นจากท่าทีหมอบกราบ เมื่อเห็นว่ามีผู้คนขยับตัวลุกขึ้นและทยอยจากไปโดยที่กาเล็ทหาได้เอ่ยกล่าวสิ่งใดบุคคลอื่นๆก็ทยอยลุกขึ้นและจากไปตาม

    ฮัมเบลเห็นเช่นนั้นก็ทำทีท่าเหมือนว่าจะลุกขึ้นและจากไปอย่างเงียบๆทว่าทันทีที่มันขยับร่างเสียงของกาเล็ทก็ดังขึ้น "ข้าอนุญาตให้เจ้าขยับตัวลุกขึ้นแล้วหรือ?" การที่กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวให้คุกเข่านั้นย่อมเจาะจงไปที่ฮัมเบลและผู้ติดตามเป็นพิเศษดังนั้นแม้ว่าผู้อื่นภายในหอจะคุกเข่าลงตามไปด้วยกาเล็ทก็หาได้ใส่ใจที่จะไขข้อเข้าใจผิดนี้และเมื่อผู้คนที่เข้าใจผิดคิดไปเองถึงคำสั่งของตนเองลุกขึ้นหมายจะจากไปกาเล็ทเองก็หาได้ใส่ใจเช่นกันแต่กับฮัมเบลและผู้ติดตามนั้นย่อมแตกต่างกาเล็ทยังไม่มีความคิดที่จะปลดปล่อยมันไปโดยง่าย

    "ผู้ดูแลหอให้เจ้าส่งผู้คนไปที่ตระกูลของมันและบอกกล่าวต่อบิดาของมันว่าชีวิตลูกชายของมันขึ้นอยู่กับมัน หากว่าไม่เสนอหน้ามาพบกับข้าภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ก็ให้รอรับร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชายมันได้เลย" กาเล็ทเอ่ยกับผู้ดูแลหอร้อยบุปผา

    "ข.... ขอรับท่านดยุค" ผู้ดูแลหอร่างท้วมขานรับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ




    ปล.แสดงอำนาจซะให้พอนะพ่อหนุ่ม rip กับความเมาน้ำเปลี่ยนนิสัย ดูเหมือนว่าจะมีผู้คนจดจำสปอยที่เคยบอกไว้ออกนะครับ 555 ส่วนจะใช่เมีย 4 5 ไหมก็รออ่านเอานะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×