ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #171 : ประมูลพรหมจรรย์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.12K
      452
      10 ก.พ. 61




    ขณะที่กาเล็ทเดินเข้าไปยังบริเวณทางเข้าของหอร้อยบุปผา ชายฉกรรจ์สองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าทางเข้าออกก็ใช้สายตาสำรวจตรวจดูมายังตนเอง

    "เหตุใดคุณชายท่านนี้จึงดูคุ้นตานัก เหมือนว่าข้าจะเคยเป็นเขาที่ไหนมาก่อน" หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของสถานที่จ้องมองมาที่กาเล็ทพร้อมกับคิดในใจ

    ส่วนเพื่อนของมันอีกผู้หนึ่งก็สำรวจตรวจดูเครื่องสวมใส่ของกาเล็ท "อืมถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเครื่องประดับอันใดที่ดูมีราคาแต่ดูจากเสื้อผ้าเนื้อดีที่สวมใส่อยู่คงจะเป็นคุณชายของตระกูลมั่งมีสั่งแห่งหนแน่นอน" มันคิดสรุปกับตนเองจากนั้นจึงเปิดปากเอ่ยกล่าวกับกาเล็ทด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม "คุณชายมาเที่ยวหอร้อยบุปผาครั้งแรกหรือขอรับ"

    "อ..อืม นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่" กาเล็ทตอบคำ

    "เช่นนั้นเชิญด้านในก่อนครับคุณชาย หอร้อยบุปผาของเรานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยสตรีที่งดงามมากมายอาหารก็อร่อย เครื่องดื่มก็เลิศริส" มันเอ่ยกล่าวกับกาเล็ทจากนั้นจึงหันหน้าเข้าสู่ภายในร้านพร้อมทั้งกวักมือเรียกสตรีผู้หนึ่งที่ยังว่างอยู่ให้เข้ามารับช่วงในการต้อนรับกาเล็ทต่อจากมัน

    "เชิญคุณชาย" หญิงสาวที่แต่งกายให้เห็นถึงสัดส่วนของสตรีอย่างไม่ปิดบังเดินเข้ามาคล้องแขนของกาเล็ทพร้อมทั้งนำพากาเล็ทเดินเข้าไปสู่ภายในหอร้อยบุปผา แม้ว่าหญิงสาวนางนี้จะมีรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่จัดได้ว่าดูดีแต่ยังนับว่าด้อยกว่าคู่หมั้นทั้งสามของตนเองอยู่หลายส่วน

    "เชิญนั่งก่อนค่ะคุณชายที่หอร้อยบุปผาของเรานั้นมีบริการพิเศษอยู่ หากว่าคุณชายต้องการให้ข้าคอยอยู่ดูแลรับใช้ขณะรับประทานอาหารก็จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อเวลาจองตัวข้า" ทันทีที่นำกาเล็ทมานั่งลงยังบริเวณเค้าเตอร์ซึ่งดูไปมีลักษณะไม่ต่างกับบาร์เครื่องดื่มหญิงสาวนางนี้ก็เอ่ยบอกกล่าวเงื่อนไขในการใช้บริการของหอร้อยบุปผาออกมา

    "หืมซื้อเวลาจองตัว ไม่ทราบว่าเป็นตัวอุบาทใดที่สามารถคิดบริการเช่นนี้ออกมาได้" กาเล็ทคิดกับตนเอง ดูไปแล้วบริการเช่นนี้กลับคล้ายเหมือนบริการในร้านเหล้าต่างๆในโลกก่อนของตนเองอยู่บ้าง

    "คุณชายที่ร้านเรานั้นมีบริการหลายระดับซึ่งราคาก็นับว่าแตกต่างกันออกไป หากว่าคุณชายต้องการที่จะให้ข้าอยู่บริการ ในส่วนค่าตัวของข้านั้นคือชั่วโมงละ 20 เหรียญเงินค่ะซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คิดแยกจากค่าอาหารและเครื่องดื่มค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการข้าหรือไม่" หญิงสาวพยายามเอ่ยเสนอบริการให้แก่กาเล็ทพอเอ่ยกล่าวมาถึงช่วงท้ายน้ำเสียงของนางกลับแฝงแววออดอ้อนร้องขอ

    กาเล็ทได้ฟังก็ครุ่นคิด "นางบอกกล่าวว่ามีหลายระดับราคา สำหรับกับตัวนางคิดที่ชั่วโมงละ 20 เหรียญเงินก็นับว่าเป็นจำนวนที่มากมายนัก ในราคาเช่นนี้นับว่ายากนักที่ผู้คนปกติทั่วไปจะสามารถจ่ายออกได้"

    "อืม ยังก่อนดีกว่าข้าขอนั่งดูบรรยากาศรอบๆอีกสักครู่ก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ยกล่าวเพื่อปฎิเสธ

    ได้ฟังคำเอ่ยกล่าวปฎิเสธของกาเล็ทนางก็ค่อยๆคลายมือออกจากการคล้องแขนกาเล็ท ถึงแม้ว่าใบหน้าที่งดงามนั่นจะยังดูยิ้มแย้มแต่ภายในจิตใจของนางกลับก่นด่ากาเล็ทอยู่ในใจ "ตัวทุเรศนั่นกลับแนะนำลูกค้าชั้นเลวมาให้ข้าอีกแล้ว แม้รูปร่างหน้าตาของคุณชายผู้นี้จะดูไม่เลวทว่ากลับปราศจากเงินทองเพียงแค่ 20 เหรียญเงินต่อชั่วโมงก็ไม่ยอมจ่ายออกช่างตระหนี่ถี่เหนียวนัก" นางคิดกับตนเองในใจจากนั้นจึงใช้สายตาสำรวจตรวจดูกาเล็ทรอบหนึ่ง "ก็นับว่าสมควรอยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่ได้ใส่เครื่องประดับซึ่งดูมีราคาแม้สักชิ้นหนึ่ง" คิดสรุปกับตนเองได้เช่นนั้นนางก็ขอปลีกตัวจากมา ไม่ทราบว่าหากสตรีนางนี้ทราบความจริงว่าคุณชายรูปงามที่ตัวนางคิดว่าดูดีแต่ภายนอกทว่าภายในกลวงโหว่ผู้นี้ที่แท้แล้วคือกาเล็ท บุสโซ่ บรุษซึ่งสามารถพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินของโรฮานได้อย่างง่ายดายราวกับการผลิกฝ่ามือแล้วนางจะทำหน้าเช่นไร

    อันที่จริงแล้วที่กาเล็ทเลือกที่จะปฎิเสธบริการจากหญิงสาวเมื่อสักครู่นี้ไปหาใช่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองไม่ การที่กาเล็ทเลือกที่จะเข้ามาในหอร้อยบุปผานี้นั้นก็เพื่อต้องการยืนยันตรวจดูว่าที่แท้แล้วหอร้อยบุปผานี่ใช่สถานที่ซึ่งให้บริการอย่างที่ตนเองคิดเข้าใจหรือไม่ และรูปแบบในการเปิดบริการจะเป็นเช่นไร? มีผู้ใดเป็นเจ้าของกันแน่น? นั่นคือจุดประสงค์ของกาเล็ท เมื่อมานั่งยังบาร์แห่งนี้กาเล็ทก็พบว่าที่ด้านหลังเคาเตอร์บริการยังมีบุคคลซึ่งดูไปคล้ายเหมือนบาร์เทนเดอร์ในโลกก่อนให้บริการอยู่ ดังนั้นกาเล็ทจึงเลือกที่จะนั่งยังที่แห่งนี้เพื่อสอบถามพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์คนนี้ดีกว่า

    "เอาเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้ว" กาเล็ทเอ่ยสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ที่ด้านหลังบาร์บริการ

    "ต้องการเป็นเหล้าหรือน้ำผลไม้ขอรับคุณชาย" บาร์เทนเดอร์ที่ด้านหลังเอ่ยถามกาเล็ท

    "เอาเป็นน้ำผลไม้ก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ยตอบ

    "ค่าบริการ 10 เหรียญเงินขอรับคุณชาย" บาร์เทนเดอร์เอ่ย

    "เพียงแค่ค่าน้ำผลไม้แก้วหนึ่งก็ 10 เหรียญเงินแล้วนับว่ามีราคาแพงกว่าที่เบื้องนอกหลายเท่านัก" แม้จะครุ่นคิดเช่นนั้นทว่ากาเล็ทกลับนำเหรียญทองออกมาหนึ่งเหรียญเพื่อจ่ายเป็นค่าน้ำผลไม้ "ที่เหลือให้เจ้าเก็บไว้เถอะ" กาเล็ทเอ่ย สำหรับกับกาเล็ทในตอนนี้เงินทองไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หากว่าตนเองต้องการสอบถามข้อมูลจากผู้อื่นแล้วยังตระหนี่ถี่เหนียวไม่ยอมจ่ายออกเช่นนั้นยังจะสามารถล้วงถามข้อมูลอันใดได้อีก การที่กาเล็ทจ่ายหนึ่งเหรียญทองนี้ออกไปจึงนับว่าเป็นการเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบาร์เทนเดอร์

    จริงดังคาดหมายของกาเล็ท เมื่อบาร์เทนเดอร์นั้นรับเงินเหรียญทองนั้นไปแล้วก็ยิ้มร่าออกมาจากนั้นมันจึงเป็นฝ่ายเริ่มเปิดการสนทนากับกาเล็ทก่อน "คุณชายเหตุใดคุณชายจึงไม่ให้ไดน่าอยู่คอยบริการคุณชายกันขอรับ ดูไปเรื่องเงินทองก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับกับคุณชาย" บาร์เทนเดอร์นั้นเอ่ยถาม แรกเริ่มเดิมที่ตัวมันก็มีความคิดไม่ต่างจากหญิงสาวที่มีชื่อว่าไดน่าทว่าเมื่อมันได้รับเงินจากการเล็ทเป็นจำนวนกว่า 1 เหรียญทองทำให้มันเปลี่ยนความคิด ผู้คนที่กล้าโยนเงินหนึ่งเหรียญทองออกไปโดยไม่ขบคิดเลยแม้แต่น้อยยังจะเป็นคนซึ่งไร้เงินทองอยู่อีกหรือ?

    "พอดีข้าพึ่งจะมาที่นี่ครั้งแรกน่ะเลยยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ข้าจึงเลือกที่จะรอดูไปก่อน หากว่าพบเจอผู้ใดถูกใจก็ค่อยเรียกมาภายหลังก็ยังนับว่าไม่สายไปมิใช่หรือ?" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าว

    บาร์เทนเดอร์ประจำหอร้อยบุปผาได้ฟังเช่นนั้นก็ผงกหัวเป็นเชิงเข้าใจ

    กาเล็ทนั่งหันมองไปทั่วทั้งบริเวณเพื่อดูเหล่าคุณชายมากหน้าหลายตาเที่ยวเตร็ดเตร่โอบกอดสาวงามอยู่ระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นคิ้วของกาเล็ทก็ขมวดเข้าหากันเนื่องจากอยู่ๆกาเล็ทก็ได้ยินเสียงพิณที่ถูกดีดให้ดังมาจากยังบริเวณชั้นบนขอหอร้อยบุปผา "ช่างเป็นเสียงพิณที่มีกลิ่นอายของความรู้สึกเศร้าสร้อยหดหู่นัก" แม้ว่าตนเองจะไม่เข้าใจเท่าใดนักแต่อย่างน้อยกาเล็ทก็สามารถแยกแยะออกได้ว่าท่วงทำนองของเสียงพิณนี้แฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจของผู้บรรเลง

    "ฟังดูเช่นนั้นหรือขอรับ? หากว่าท่วงทำนองของเสียงพิณนี้ฟังดูขัดหูของคุณชายจะให้ข้าไปบอกกล่าวให้หยุดบรรเลงหรือไม่ขอรับ?" บาร์เทนเดอร์เอ่ยเสนอออกมา

    "ไม่จำเป็นหรอก ข้าเพียงแต่นึกสงสัยใจว่าเหตุใดผู้ดีดบรรเลงเพลงที่ไพเราะเช่นนี้จึงมีความรู้สึกเศร้าหดหู่ถึงเพียงนี้กัน" กาเล็ทเอ่ย

    "ก็เพราะว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันประมูลพรหมจรรย์ของนางแล้วยังไงล่ะ" เสียงของสตรีผู้หนึ่งเอ่ยให้คำตอบแก่กาเล็ท

    เมื่อกาเล็ทหันไปตามเสียงใสนั้นก็พบเข้ากับหญิงสาวผู้หนึ่งที่แต่งตัวดูมิดชิดไม่คล้ายเหมือนกับหญิงสาวที่ให้บริการอยู่ในบริเวณร้านคนอื่นๆ รูปร่างหน้าตาของนางนั้นจัดได้ว่างดงาม แม้จะยังนับว่าด้อยกว่าคู่หมั้นทั้งสามของตนเองอยู่บ้างแต่ทว่าก็ไม่มากนัก

    "ประมูลพรหมจรรย์?" กาเล็ทเอ่ยถามย้ำออกมาอย่างไม่เข้าใจ

    ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวที่พึ่งมาถึงหรี่เล็กเข้าหากัน เมื่อพบว่าคุณชายที่อยู่ตรงหน้าของตนเองผู้นี้ไม่คล้ายกับว่าจะเสแสร้งแกล้งไม่รู้นางก็เอ่ยกล่าวขึ้น "คุณชายไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยหรือ?"

    "ย่อมไม่ รบกวนคุณหนูช่วยเอ่ยบอกกล่าวอธิบายแก่ข้าได้หรือไม่" กาเล็ทเอ่ย

    ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวก็หันไปหาบาร์เทนเดอร์ "เจ้าไปทำงานของเจ้าเถอะข้าจะอยู่ดูแลคุณชายเอง"

    "ขอรับคูณหนูมาเรีย" บาร์เทนเดอร์เอ่ยขานรับจากนั้นจึงตัดใจจากไป

    มาเรียเดินเข้ามานั่งที่ด้านข้างของกาเล็ท "การประมูลพรหมจรรย์นั้นคือการประมูลครั้งแรกของหญิงสาวซึ่งเป็นนางคณิกาประจำหอร้อยบุปผาเมื่อพวกนางมีอายุครบ 15 ปีบริบรูณ์แล้วอีกทั้งหญิงสาวที่จะนำออกมาประมูลก็ต้องมีรูปโฉมโนมพรรณที่จัดได้ว่างดงามยากจะเปรียบ" มาเรียเอ่ยกล่าวอธิบาย

    "เป็นผู้ใดที่คิดระบบบ้าบอนี่ขึ้นกันช่างไร้เหตุผลนัก" กาเล็ทเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจ "เช่นนั้นเมื่อนางรู้ศึกเศร้าหดหู่กับการขายพรหมจรรย์เหตุใดนางจึงได้เข้าร่วมกัน" กาเล็ทเอ่ยถาม

    ได้ฟังคำถามนี้ของกาเล็ทคิ้วคู่สวยของมาเรียก็ย่นเข้าหากัน "คุณชายไม่ทราบจริงๆหรือว่าแกล้งถามข้ากันแน่" มาเรียเอ่ย

    "คุณหนูมาเรียข้าย่อมไม่เข้าใจจริงๆ" กาเล็ทตอบ

    "หญิงสาวที่อยู่ในหอร้อยบุปผานั้นจะมีสองแบบ หนึ่งนั้นคือผู้ที่มาด้วยความสมัครใจและอีกหนึ่งนั้นคือผู้ที่ถูกขายให้กับทางหอร้อยบุปผา ผู้ที่ถูกขายให้แก่หอร้อยบุปผาตั้งแต่เล็กจะถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังเล็กและเมื่อวัยของนางถึง 15 ขวบปีก็จะถูกนำออกมาประมูลพรหมจรรย์ครั้งแรกและจากนั้นนางก็จะกลายเป็นนางคณิกาประจำ ชั่วชีวิตต้องทำงานอยู่ภายในหอร้อยบุปผาตลอดไป" มาเรียเอ่ยอธิบาย

    ได้ฟังเช่นนั้นกาเล็ทก็ร้องออกมาทันที "เหลวไหลต่อให้ถูกขายมาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามจะอย่างไรก็สมควรที่จะสามารถไถ่ตัวออกไปได้เหตุใดถึงได้ต้องทำงานอยู่ในหอนี้ตลอดไป"

    ได้ฟังเช่นนั้นมาเรียก็ถอนหายใจออกมา "คุณชายไม่ทราบหรือว่านี่คือกฎ เป็นกฎที่ราชาแห่งโรฮานอนุญาติให้นำออกใช้เรื่องนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้"

    "กฎ?" กาเล็ทแสดงออกถึงความงุนงงไม่เข้าใจออกมาอีกคราหนึ่ง

    มาเรียเห็นอาการของคุณชายที่เบื้องหน้าของตนเองแล้วก็ทำให้รู้สึกที่จะอดสงสัยใจไม่ได้ว่าเหตุใดคุณชายผู้นี้จึงดูเหมือนกับว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย "คุณชายไม่ทราบหรือว่าหอร้อยบุปผานี่เป็นกิจการหลวง?"






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×