ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #166 : สู่ระดับจักรพรรดิ์ขั้นกลาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.16K
      426
      4 ก.พ. 61




    ภายในมิติเทพเจ้าตอนนี้มิร่ากำลังฝึกฝนสอนให้เหล่าหมาป่าขนแดงเข้าใจภาษาของมนุษย์มากขึ้น หากกล่าวถึงความเฉลียวฉลาดของเหล่าหมาป่าขนแดงแล้วแม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับมนุษย์ที่โตแล้วแต่ระดับภูมิปัญญาของพวกมันนั้นเทียบเท่าได้กับเด็กชาวมนุษย์ที่มีอายุราว 8-10 ขวบเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆที่มิร่าพยายามบอกสอนได้อย่างรวดเร็ว

    กาเล็ทที่กำลังนั่งหลอมสร้างยาต่างๆจากวัตถุดิบที่ตนเองเก็บรวบรวมมาได้จากหุบเขาอสูรฟ้าเหลียวมองมิร่าที่กำลังหยอกล้อเล่นอยู่กับฝูงหมาป่าขนแดง นางถึงกับมาขอร้องให้ตนเองคิดหาชื่อให้กับเหล่าหมาป่าด้วย "เผลอครู่เดียวก็รู้ความถึงเพียงนี้แล้ว" กาเล็ทคิดกับตนเองได้เช่นนั้นก็รู้สึกอิ่มเอมใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก "หรือนี่คือความรู้สึกของพ่อแม่ที่ได้เห็นลูกน้อยเติบใหญ่ขึ้นกัน?" ขณะที่เหลียวมองดูผู้เป็นบุตรสาวบุญธรรมมือทั้งสองข้างของกาเล็ทก็วาดเป็นวงสลับกันไปมาส่งกระแสพลังเข้าไปยังใจกลางเพื่อหลอมผสมกลมกลืนตัวยาต่างๆให้เข้ากัน ตัวยาที่กาเล็ทกำลังผสมอยู่นี้นั้นเป็นตัวยาสำหรับกับสัตว์อสูรโดยเฉพาะ จริงอยู่ว่าตัวยาบางตัวสัตว์อสูรและมนุษย์สามารถใช้ร่วมกันได้เช่นตัวยาเทพโอสถทลายสวรรค์แต่จะอย่างไรสรีระร่างกายของสัตว์อสูรและมนุษย์นั้นยังนับว่ามีข้อแตกต่าง ในวันนี้วันที่ตนเองมีสมุนไพรที่หลากหลายและมากเกินพอกาเล็ทจึงเลือกที่จะนำความรู้ที่จดจำได้จากมิติประหลาดมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    "ยาหมื่นอสูร เท่านี้แผนการของเราก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวกับตนเอง เมื่อหลอมสร้างยาหมื่นอสูรเป็นจำนวนมากแล้วเสร็จกาเล็ทก็นำหญ้าเหมันต์ออกมาจากแหวนมิติของตนเอง กาเล็ทจ้องมองหญ้าเหมันต์ที่ลอยคว้างอยู่บนอากาศอยู่ครู่หนึ่ง ในจำนวนสมุนไพรมากมายที่ตนเองเก็บเกี่ยวได้จากหุบเขาอสูรฟ้าแล้วนับว่าหญ้าเหมันต์นี้มีค่ามากที่สุดอีกทั้งยังมีอย่างจำกัดนัก หากว่านำมาสกัดปรุงแต่งเป็นตัวยาแล้วคงได้ไม่เกินสี่ถึงหาเม็ดแน่นอน หนึ่งนั้นย่อมใช้สำหรับกับตนเองที่กำลังเข้าสู่ขั้นตอนทะลวงขึ้นสู่ระดับจักรพรรดิ์ขั้นกลางส่วนอีกหนึ่งนั้นก็คงเพื่อสำหรับมิร่าน้อยและเทลเล่อ "น่าเสียดายนักที่วัตถุดิบล้ำค่าเช่นนี้กลับมีอย่างจำกัด เฮ้อแต่ก็เอาเถอะในตอนนี้สิ่งที่เราต้องการที่สุดคือพลัง ยิ่งเรา มิร่าและท่านอาจารย์มีความเข้มแข็งมากขึ้นเท่าไหร่นั่นยิ่งเป็นหลักประกันของความมั่นคงปลอดภัยเท่านั้น" กาเล็ทครุ่นคิดกับตนเอง กาเล็ทนั้นไม่ใช่คนประมาทเลินเล่อดังนั้นกาเล็ทจึงไม่มัวเมาไปกับความสำเร็จที่ตนเองสังหารจักรพรรดิ์แดงได้ กาเล็ทนั้นมักจะคิดถึงกรณีเลวร้ายที่สุดซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้กับตนเองเสมอ

    ในตอนนี้กาเล็ทนั้นคิดคำนวนไปถึงความเป็นไปได้ว่าตนเองอาจที่จะต้องเป็นศัตรูกับอีกสี่ทวีปที่เหลือหรือแม้กระทั่งในโลกยูยานแห่งนี้นั้นอาจจะมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าระดับจักรพรรดิ์อย่างเช่นระดับราชันย์จักรพรรดิ์หรือระดับที่สูงกว่าคงอยู่ด้วยซ้ำไป

    "มิร่าน้อยมานี่" กาเล็ทเอ่ยปากเรียกมิร่าซึ่งกำลังเล่นหยอกล้ออยู่กับเหล่าหมาป่าขนแดงซึ่งตอนนี้กำลังเดินวนรอบร่างของมิร่าพร้อมทั้งสลับกันใช้หัวใหญ่โตของพวกมันถูไถชนเข้ากับร่างของมิร่าอยู่ การได้มาใช้ชีวิตอยู่กับกาเล็ทและนีน่าทำให้จิตใจของมิร่านั้นมีความอ่อนโยนเมตตามากขึ้นแตกต่างจากครั้งที่อยู่ภายในหุบเขาอสูรฟ้าเพียงลำพัง หากว่าเป็นเมื่อก่อนมีหรือที่มิร่าจะยอมเล่นกับสัตว์อสูรที่อยู่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นหมาป่าขนแดง

    "ปะป๋าเรียกทำมายย" มิร่าในร่างเด็กหญิงกระโดดโลดเต้นเข้ามาหากาเล็ททันที ยังมีลูกของหมาป่าขนแดงทั้ง 5 ตัวซึ่งบัดนี้มีขนาดตัวไม่ต่างจากขนาดตัวของมิร่าเลยที่วิ่งเหยาะๆตามติดที่ด้านหลังมิร่ามาด้วย

    "นี่ตัวยาที่ปะป๋าพึ่งจะหลอมสร้างขึ้นมาใหม่ มันมีชื่อว่าตัวยาหมื่นอสูร ยาพวกนี้จะมีผลทำให้ระดับแก่นจิตวิญญาณของสัตว์อสูรเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยาพวกนี้ให้เก็บไว้กับหนูเอาไว้กินเล่นและเอาไว้ให้เป็นรางวัลสำหรับพวกมัน" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวพร้อมทั้งส่งมอบถุงผ้าที่บรรจุเม็ดยาหมื่นอสูรไว้หลายสิบเม็ดให้แก่มิร่า

    "ฮี ฮี่ รักปะป๋าที่สุดเลย" มิร่าเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งกระโจนเข้าหาเพื่อกอดและสูดดมกลิ่นกายของกาเล็ท

    กาเล็ทโอบกอดลูบหัวนางอยู่ครู่หนึ่ง "ไว้หมดแล้วค่อยมาขอกับปะป๋าใหม่ เอาล่ะหนูไปเล่นกับพวกหมาป่าต่อเถอะและอย่าลืมสอนให้พวกมันสังเกตุจดจำตราและเครื่องสวมใส่ของผู้คนตระกูลบุสโซ่ไว้ด้วยล่ะ" กาเล็ทเอ่ย

    "ค่ามิร่าจะสอนทั้งหมดเลย ไว้ใจมิร่าได้เลย" มิร่าเอ่ย

    เมื่อมิร่าเคลื่อนกายห่างออกไปแล้วกาเล็ทก็หันมองมายังหญ้าเหมันต์ที่ล่องลอยเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนอยู่เบื้องหน้าของตนเอง "เอาล่ะสมควรลงมือได้แล้ว" กล่าวจบกาเล็ทก็เร่งพลังตั้งสมาธิเพื่อหลอมรวมสกัดหญ้าเหมันต์ให้ออกมาเป็นตัวยาอย่างระมัดระวัง

    แม้จะมีระดับพลังถึงระดับจักรพรรดิ์ขั้นต้นแล้วแต่การหลอมรวมสกัดตัวยาจากหญ้าเหมันต์นั้นถือได้ว่าเป็นศาสตร์วิชาระดับสูงด้วยเหตุนี้จึงเป็นการกินเรี่ยวแรงสมาธิของกาเล็ทยิ่งนัก กาเล็ทวาดมือไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนเป็นเวลากว่า 20 ชั่วโมงในมิติเทพเจ้าเพื่อควบคุมระดับพลังและกระแสการไหลเวียนของพวกมันให้คงที่ไม่ขาดไม่เกิน บัดนี้หญ้าเหมันต์สลายหายไปจนหมดสิ้น ในลูกบอลพลังโปร่งแสงที่เปรียบเสมือนโถหลอมตัวยานั้นหลงเหลืออยู่แต่เพียงสิ่งที่ดูไปคล้ายฝุ่นผงลอยคละคลุ้งอยู่ภายใน

    กาเล็ทหายใจลากยาวคราหนึ่งจากนั้นจึงบีบมือของตนเองเข้าด้วยกัน ผงคละคลุ้งที่ลอยอยู่ในลูกบอลพลังที่เบื้องหน้าก็จับตัวกันเข้าเป็นก้อนกลมขนาดเท่าหัวแม่มือทั้งหมด 5 ก้อน "ในที่สุดก็สำเร็จจนได้" กาเล็ทเอ่ยกับตนเองด้วยความรู้สึกลิงโลดยินดี หากว่าการผสมยาครั้งนี้ล้มเหลวไปมิใช่ว่าจะต้องสูญเสียหญ้าเหมันต์ที่ล้ำค่านั้นไปอย่างเปล่าประโยชน์ "โอสถเทวะ" ชื่อนี้ก็นับว่าไม่เลว

    กาเล็ทไม่รอช้าที่จะนำตัวยาที่ตนเองพึ่งหลอมสร้างได้นั้นเข้าปากของตนเองไปเม็ดหนึ่ง ทันทีที่เม็ดยาเข้าไปในปากของตนเองและถูกร่างกายของตนเองดูดกลืนซึมซับไป พลังที่กาเล็ทสูญเสียไปจากการใช้หลอมสร้างตัวยาเป็นเวลานานก็ถูกเติมเต็มให้กลับมาอย่างรวดเร็ว แก่นจิตวิญญาณภายในร่างของกาเล็ทสั่นไหวอย่างรุนแรงจากนั้นมันก็เปล่งพลังจิตวิญญาณมหาศาลออกมาอย่างบ้าคลั่ง

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็หลับตาลงรวบรวมสมาธิเพื่อควบคุมพลังมหาศาลนั้นและใช้มันทะลวงเข้าสู่ระดับถัดไป ด้วยผลของเม็ดยาเทวะนี้ทำให้การทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ์ขั้นกลางของกาเล็ทนั้นราบรื่นง่ายดายยิ่งกว่าการพลิกฝ่ามือ เพียงไม่นานร่างของกาเล็ทก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าออกมาลำแสงพลังงานพวยพุ่งออกจากร่างของกาเล็ทเป็นลำสูงขึ้นไปเบื้องบนของมิติเทพเจ้าแสดงออกถึงการบรรลุสู่อีกขีดขั้นของพลัง

    "ปะป๋า ปะป๋า ยินดีด้วย ปะป๋ากาเล็ท ปะป๋ากาเล็ทแข็งแกร่งขึ้น ปะป๋ากาเล็ท" เมื่อลืมตาขึ้นมากาเล็ทก็พบว่ามิร่านั้นกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ที่เบื้องหน้าของตนเองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแสดงออกถึงความรู้สึกยินดีถึงขีดสุด

    "มิร่าน้อยมานี่ ปะป๋ามีของขวัญจะให้หนูด้วยนะ" กาเล็ทอ้าแขนของตนเองออกพร้อมทั้งเอ่ยกล่าวขึ้น

    มิร่าที่เห็นว่ากาเล็ทอ้าแขนทั้งสองออกก็ไม่รอช้ากระโจนเข้าหาเพื่อไปคลอเคลียกับกาเล็ททันที

    "มิร่าจำหญ้าเย็นที่มิร่าบอกว่าข่มไม่อร่อยได้ไหม" กาเล็ทเอ่ยขึ้น
    "จำได้ ขม ไม่ชอบเลยอะ ไร้ประโยชน์ด้วยนะ กินแล้วพุงของมิร่าป่องขึ้นมาเหมือนจะแตกออกเลยล่ะ" มิร่าเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งแสดงออกถึงสีหน้าไม่ชอบใจออกมา

    "นี่คือเม็ดยาที่ปะป๋าสกัดออกมาจากหญ้าเย็นนั้น นี่สำหรับกับมิร่า ปะป๋าเองก็กินไปแล้วหนึ่งเม็ด" กาเล็ทเอ่ย

    "ปะป๋ากินไปแล้วหรอ" มิร่าเอ่ยกล่าวถามขึ้น

    "ใช่แล้ว จำได้ไหมปะป๋าบอกว่ายังไง" กาเล็ทเอ่ย

    "งืมม เด็กน่ารักต้องไม่เลือกกิน มิร่าจำได้" มิร่าตอบคำ

    "ดีมาก" กาเล็ทเอ่ยอย่างพอใจพร้อมทั้งยื่นเม็ดยานั้นป้อนให้แก่มิร่า

    มิร่าอ้าปากกินเม็ดยานั้นเข้าไปอย่างหวาดระแวงแต่เมื่อเม็ดยานั้นเข้าปากไปมิร่าก็ส่งเสียงออกมาอย่างแปลกประหลาดใจ "หุ" จากนั้นมิร่าก็แปลงกลับเป็นร่างของมังกรตัวน้อยอย่างรวดเร็ว "ปะป๋า มิร่ากำลังจะเพิ่มพลัง มิร่ากำลังจะเก่งขึ้นแล้ว ฮี ฮี่ ปะป๋าต้องกอดมิร่าไว้ตลอดตอนมิร่าหลับไปนะ" มิร่าส่งเสียงเป็นเชิงออดอ้อนมาทางพันธะสัญญาต่อกาเล็ท

    "แน่นอน ทันทีที่มิร่าลืมตาตื่นขึ้นมาปะป๋าจะเป็นคนแรกที่มิร่าเห็นเลยล่ะ" กาเล็ทเอ่ยให้คำมั่น

    ได้ฟังคำกล่าวยืนยันที่ตนเองต้องการแล้วดวงตาของมิร่าก็ค่อยๆพริ้มหลับไปในอ้อมกอดของกาเล็ท ขนหนาหนุ่มของนางก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนสภาพเป็นแข็งแกร่งประดุจเหล็กไปตามกระบวนการป้องกันตัวของตนเอง

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มพอใจออกมาและอุ้มมิร่าออกจากมิติเทพเจ้าไปทั้งอย่างนั้น

    เมื่อออกมาที่ด้านนอกก็เป็นเวลาเกือบรุ่งเช้าแล้ว กาเล็ทกลับพบว่าผู้เป็นอาจารย์ของตนเองนั้นนั่งรออยู่ภายในห้องทำงานของตนเอง "ท่านอาจารย์มีเรื่องเร่งด่วนหรือ?" กาเล็ทเอ่ยถามขึ้น

    "อืมจะว่าเร่งด่วนก็ใช่จะว่าไม่ก็คงจะไม่" เทลเล่อเอ่ยกล่าว

    "เป็นเรื่องใดหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามขณะที่อุ้มมิร่าน้อยไว้

    "เกี่ยวกับคลาร่า" เทลเล่อเอ่ยบอกกล่าวออกมาจากนั้นจึงเล่าเรื่องราวที่คลาร่าเอ่ยตัดพ้อต่อว่ากับตนเองยามเมื่อครั้งตนเองกลับไปบ้านพักให้แก่กาเล็ทฟัง

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกหวาดเกรงขึ้นมา จะกล่าวไปแล้วตนเองนั้นยังถือได้ว่าติดค้างบุญคุณคลาร่าผู้อำนวยการแห่งสถาบันผู้ฝึกตนอยู่ยังมีในครั้งคราที่ตระกูลบุสโซ่จัดงานต้อนรับร่างของผู้เป็นบิดากลับสู่มาตุภูมิคลาร่าเองก็แสดงออกในงานอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนตระกูลบุสโซ่ไม่แต่เพียงเรื่องนั้นคลาร่านั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็มักจะแสดงออกชัดว่ายืนอยู่ฝ่ายของตระกูลบุสโซ่ตลอดมา ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้ย่อมเป็นตนเองที่หลงลืมผู้อำนวยการผู้นี้ไปจริงๆ

    "เอ๊ะมิร่าน้อยเป็นอะไรไปหรือ?" เทลเล่อที่สังเกตุออกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมิร่าน้อยได้ก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลใจ

    "ท่านอาจารย์อย่าได้เป็นกังวลใจ นี่นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี มิร่าน้อยกำลังเข้าสู่กระบวนการพัฒนาการ เมื่อตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลคาดว่าระดับพลังของนางต้องก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ์ขั้นสูงแน่นอนแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าว

    ได้ฟังเช่นนั้นดวงตาของเทลเล่อก็เบิกโพลงด้วยความรู้สึกยินดีปรีดา "จริงหรือ? เหตุใดจึงรวดเร็วถึงเพียงนั้น มิใช่ว่านางเพิ่งเลื่อนระดับเมื่อครั้งต่อสู้กับจักรพรรดิ์แดงหรอกหรือ" เทลเล่อเอ่ยถามขึ้น


    กาเล็ทได้ยินคำถามของผู้เป็นอาจารย์ก็เผยรอยยิ้มออกมา "อันที่จริงแล้วสมควรที่จะใช้เวลาอีกสักหลายเดือน ท่านอาจารย์ยังจำหญ้าเหมันต์ที่ข้าพบเจอในหุบเขาอสูรฟ้าได้หรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถามขึ้น




    ปล.บางทีก็ไอเดียตันๆเขียนไม่ออก แต่วันนี้รู้สึกว่าจะเริ่มมีไอเดียเขียนผูกโยงเนื้อเรื่องกับพลอตที่วางไว้แล้วแฮะ สู้เว้ยยย




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×