ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #16 : วิวาทกลางเมือง [รีไรท์ 2020]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.5K
      704
      6 พ.ย. 63






         "กาเล็ท....ข้ากำลังคิดว่าจะไปเยี่ยมท่านป้าอยู่พอดี..." แชลเทียเอ่ยด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงในขณะที่ใช้พูดกับกาเล็ทนั้นแตกต่างกับที่ใช้พูดกับโจดานเมื่อสักครู่อย่างชัดเจน  หลังจากที่รีบวิ่งเข้ามาหากาเล็ทแล้ว แชลเทียก็เอ่ยถามต่อ "ยินดีด้วย..ข้าได้ข่าวมาว่ากาเล็ทผ่านการทดสอบอีกทั้งยังได้เข้าพบผู้อำนวยการเป็นการส่วนตัว"

         กาเล็ทซึ่งไม่ได้ตั้งตัวว่าจะได้พบแชลเทียอย่างกระทันหันแทบที่จะทำอะไรไม่ถูก ..."เพียงแค่โชคดีเท่านั้น" กาเล็ทตอบอย่างถ่อมตน

         แชลเทียได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา...เนื่องจากรู้ดีว่าโชคไม่สามารถที่จะทำให้ผ่านการทดสอบได้อย่างกาเล็ทว่า

         "เป็นเพียงแค่ไก่รองบ่อน..ไม่เห็นจะมีสิ่งใดน่ายินดี สำหรับข้ามันคือความอัปยศมากกว่า" โจดานซึ่งเดินติดตามมาเอ่ย

         "โจดาน..ข้าไม่ได้ถามความเห็นเจ้า" แชลเทียหันไปเอ่ยขึ้นเสียง

         "แชลเทีย...คงไม่ได้ลืมนะทางครอบครัวของพวกเรากำลังหาลือเกี่ยวกับเรื่องหมั้นหมายระหว่างเรา...จะทำอะไรก็สมควรที่จะเห็นแก่หน้าของข้าบ้าง" โจดานก้าวเดินเข้ามาประชิดตัวแชลเทียพร้อมกับเอ่ยโดยใช้น้ำเสียงในเชิงข่มขู่

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็มุ่นคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างรู้สึกสงสัยใจ

         "พูดจาเหลวไหล...เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเพราะท่านพ่อถูกครอบครัวของเจ้ากดดันต่างหาก...ต่อให้ต้องตายข้าก็ไม่ยอมแต่งให้กับคนอย่างเจ้า"  แชลเทียเอ่ยสวนทันที

         โจดานได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างแสดงอำนาจ "ก็รู้มิใช่หรือว่าไม่อาจแข็งขืน....แล้วจะอิดออดขัดขืนยื้อถ่วงเวลาไปเพื่ออะไร? เจ้าดูให้ดีว่าตัวข้านั้นมีพร้อมทุกสิ่ง ทั้งความสามารถ ทั้งอำนาจ ทั้งเงินทอง...ข้าเพรียบพร้อมถึงเพียงนี้ยังไม่คู่ควรกับเจ้าอีกหรือ?" โจดานก้าวเดินประชิดเข้าหาแชลทีพร้อมกับที่เอ่ยพูดออกมาอย่างใส่อารมณ์หากแต่กลับมาเงาร่างสายหนึ่งแทรกเข้ามาขั้นระหว่างกลางไว้ก่อน

         "เจ้า ! สวรรค์มีทางเจ้ากลับไม่เดิน..นรกไร้หนทางเจ้ากลับเลือกมา ถ้าอย่างนั้นบัญชีแค้นเมื่อวันนั้นข้าขอทบต้นทบดอกเลยก็แล้วกัน" โจดานเอ่ยอย่างรู้สึกเดือดดาลเมื่อเห็นว่ากาเล็ทเข้ามาแทรกแทรงเรื่องระหว่างตนกับแชลเทียจากนั้นจึงหันไปส่งสัญญาณให้กับผู้ติดตามของตนเองให้ลงมือ 

         ถึงแม้แชลเทียจะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องผิดใจอะไรกันมาก่อน..แต่ดูจากสถานการณ์แล้วกาเล็ทคงไม่สามารถที่จะต่อกรกับสมุนบริวารของโจดานซึ่งมีพลังถึงระดับหกทั้งสองคนได้แน่ เห็นอย่างนั้นแชลเทียก็ก้าวเดินออกมายืนขวางที่ด้านหน้าของกาเล็ทไว้ "โจดานมีเรื่องอะไรกันก็ค่อยพูดค่อยจา เจ้าก็น่าจะรู้ว่าทำตัวเป็นอันธพาลระรานคนอื่นเช่นนี้ข้าไม่ชอบ" แชลเทียเอ่ย "..ถ้าหากว่าวันนี้เจ้าลงมือกับกาเล็ท..ข้าจะไม่มองหน้าเจ้าอีกเลย" แชลเที่ยซึ่งทำอะไรไม่ได้มากนักเอ่ยขู่

         โจดานซึ่งเห็นว่าหญิงในดวงใจของตนก้าวออกมากางแขนปกป้องชายอื่นก็เกิดความรู้สึกโมโหเดือดดาลขึ้นยิ่งกว่าเดิม  สายตาของมันที่มองมายังกาเล็ทกลับยิ่งมายิ่งชั่วร้าย "เห็นแก่เจ้าข้าจะละเว้นสุนัขจากตระกูลบุสโซ่สักครั้งก็ได้แต่นั่นก็ต้องมีเงื่อนไข..ถ้าหากว่าเจ้าไม่อยากให้ข้าทำร้ายมันในวันนี้ก็ยอมตกลงแต่งให้กับข้า หาไม่แล้วข้ารับรองกับเจ้าได้เลยว่าสุนัขจากตระกูลบุสโซ่จะไม่มีชีวิตรอดกลับไปในวันนี้" โจดานฉวยโอกาสจากสถานการณ์ในตอนนี้ขึ้นมาบีบคั้นแชลเทีย

         "จะ...เจ้า !!" แชลเทียได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก.....ด้วยเพราะแชลเทียนั้นรู้ดีว่าโจดานมีขีดความสามารถในการกระทำอย่างที่ขู่จริง เนื่องเพราะโจดานนั้นมาจากตระกูลใหญ่ซึ่งก็คือตระกูลบลูโน ตระกูลบลูโนนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆในโรฮานโดยมี รุสโซ่ บลูโน เป็นผู้นำ รุสโซ่นั้นเป็นผู้ฝึกฝนพลังซึ่งมีระดับแก่นจิตวิญญาณอยู่ในระดับขั้นที่เก้าระดับปลาย ด้วยสาเหตุนี้เองเลยทำให้ตระกูลบลูโนนั้นสามารถที่จะแผ่อธิพลภายในโรฮานได้อย่างรวดเร็ว...ด้วยมีรุสโซ่ซึ่งมีระดับพลังอยู่ในขีดขั้นที่เก้าเป็นแกนนำเลยทำให้แม้แต่ราชาแห่งโรฮานอย่างราชาเบรุธยังต้องเกรงอกเกรงใจต่อตระกูลบลูโน

         กาเล็ทซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์อยู่คิดคำนวนถึงผลได้ผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ถึงแม้ว่าตนเองต้องการที่จะปิดบังความสามารถแท้จริงเอาไว้ก็ตาม...แต่หากว่าการทำอย่างนั้นต้องแลกมาด้วยความเสียสละของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งยอมออกตัวเพื่อปกป้องตนแล้ว ตนจะอยู่อย่างสงบได้จริงหรือ?  ตนจะสามารถทนมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดที่กัดกินจิตใจไปตลอดชีวิตได้หรือ?  คำถามมากมายปรากฎขึ้นมาภายในห้วงความคิดของกาเล็ท "ไม่...เราจะไม่ยอมทำผิดซ้ำอีกแน่ ไม่อีกแล้ว" นึกคิดตัดสินใจกับตัวเองได้อย่างนั้นกาเล็ทก็ก้าวเดินออกมาที่เบื้องหน้าของแชลเทียเพื่อเผชิญหน้ากับโจดานทันที 

         "ต้องการชีวิตของข้า?....เกรงว่าเศษสวะอย่างเจ้าคงไม่มีปัญญา...ชีวิตของข้าอยู่นี่ถ้าแน่จริงก็เข้า" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับที่จ้องมองไปยังดวงตาของโจดานอย่างยั่วยุท้าทายโดยไม่รู้เลยว่าหนึ่งในสิ่งซึ่งโจดานเกลียดที่สุดก็คือตอนที่มีคนมองมายังมันด้วยสายแบบที่ตนกำลังทำอยู่

         "อ้อ!..คิดแสดงตนเป็นผู้กล้าปกป้องหญิงงามหรือ? ข้าจะบอกให้เอาบุญว่าวันนี้ตัวโง่งมที่ขุดหลุมฝังตัวเองอย่างเจ้าจะไม่สามารถปกป้องสิ่งใดได้..แม้แต่ชีวิตของตัวเจ้าเอง" กล่าวจบมันก็ส่งสัญญาณให้สมุนบริวารลงมือทันที

         "กาเล็ทระวัง" แชลเทียส่งเสียงเตือนออกมาอย่างรู้สึกตื่นตระหนก

         โจดานก้าวถอยฉากออกมาเพื่อเว้นระยะเปิดช่องให้บริวารของตนทั้งสามลงมือ 

         เมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายเปิดทางให้แล้ว ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ทั้งสามก็ก้าวฉับๆเดินดุ่มเข้าหากาเล็ทอย่างรวดเร็ว...เห็นอย่างนั้นบนใบหน้าของโจดานก็ปรากฎรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้น เมื่อหลายวันก่อนซึ่งตัวมันพลาดท่าเสียทีให้กับกาเล็ท...ความแค้นในวันนั้นจะได้รับการชำระในวันนี้..อีกทั้งยังเป็นการชำระกลับคืนอย่างหมดจด  ด้วยฝีมือของบริวารทั้งสามของมันซึ่งมีระดับแก่นจิตวิญญาณในระดับที่หก สุนัขจากตระกุลบุสโซ่คงไม่มีทางที่จะรอดพ้นเคราะห์กรรมไปได้แน่ นั่นคือความคิดของโจดาน

         เห็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ทั้งสามคนที่ก้าวฉับๆเข้ามาหาตน...กาเล็ทกลับไม่ได้แสดงท่าทีว่าหวั่นกลัวหรือแสดงความแตกตื่นออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย

         ชายฉกรรจ์ผู้ซึ่งมาถึงตัวกาเล็ทเป็นคนแรกยื่นมือของมันออกไปตะปบใส่ไหล่ของกาเล็ทอย่างรวดเร็ว ทว่ากาเล็ทกลับใช้มือของตนซึ่งมีขนาดเล็กกว่าหลายเท่ายกขึ้นปัดการตะบบจับจากชายฉกรรจ์คนแรกทิ้งไป....ผลลัพธ์ของการปะทะที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ร่างของชายฉกรรจ์คนแรกที่โถมตัวเข้ามาถึงกลับหมุนคว้างล้มหงายไปตามแรกปัด

         ตึง เสียงร่างขนาดใหญ่ของชายฉกรรจ์นั้นล้มลงกระแทกกับพื้นถนน 

         ไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นว่ากาเล็ทจะสามารถจัดการกับผู้ฝึกพลังระดับที่หกได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นการจัดการด้วยเพียงการเคลื่อนไหวเดียว เห็นอย่างนั้นสมุนบริวารของโจดานที่ยังเหลืออยู่สองคนก็ถึงกับหยุดสภาวะท่าร่างของตนไว้แต่กลางคัน

         "ชีวิตของข้าอยู่ที่นี่...จะไม่เข้ามาเอาแล้วหรือ?" กาเล็ทเอ่ยขึ้นขณะที่จ้องมองไปยังสมุนบริวารของโจดานที่เหลืออยู่ทั้งสองคน


         เห็นอย่างนั้นสมุนบริวารของโจดายที่เหลือสูงทั้งสองคนก็ได้แต่หันไปมองหน้ากันอย่างกล้าๆกลัวๆ 

         "ลังเลหรือ?..ถ้าอย่างนั้นให้ข้าช่วยพวกเจ้าจบเรื่องในวันนี้เองเถอะ" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับที่ยกมือขึ้นอยู่ในท่ากอดอกและก้าวเท้าเดินเข้าหาสมุนบริวารของโจดานทั้งสองคนซึ่งเหลืออยู่

         เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแววตาแชลเทียซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของกาเล็ทก็สั่นไหวเป็นระรอกอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น ภาพของกาเล็ทที่อ่อนแอในอดีตซึ่งตนเองเคยรู้จักกลับมลายหายไปในชั่วพริบตา...."นี่ใช่กาเล็ทจริงๆ?" แชลเทียได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นในใจ

         เห็นว่ากาเล็ทย่างเท้าใกล้เข้ามาอยู่ทุกขณะ ลูกสมุนทั้งสองของโจดานก็ถึงกลับก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

         "ไอ้พวกโง่เลี้ยงเสียข้าวสุก...ฆ่ามัน...ถ้าหากพวกเจ้ากล้าถอยแม้อีกเพียงก้าวเดียว..ข้าจะบอกให้ท่านพ่อตัดขาของพวกไร้ประโยชน์อย่างเจ้าทิ้ง!" โจดานรีบตระเบงเสียงเอ่ยสั่งอย่างรู้สึกตื่นตระหนกไม่ต่างกับลูกน้องทั้งสองของตน เนื่องเพราะรู้ดีว่าการจัดการกับผู้ฝึกพลังระดับหกภายในกระบวนท่าเดียวนั้นไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะกระทำได้

         สมุนบริวารทั้งสองของโจดานได้ยินอย่างนั้นก็ปลุกปลอบกำลังขวัญและข่มความกลัวเอาไว้จากนั้นจึงพุ่งโถมตัวเข้าหากาเล็ท...พริบตาต่อมามันก็พบว่าตนเองนั้นไม่สามารถที่จะออกแรงเคลื่อนที่ต่อไปได้..เมื่อก้มลงมองไปยังขาทั้งสองข้าของตนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่พวกมันก็พบว่าร่างท่อนร่างของตนกลับถูกผนึกหลอมรวมเข้ากับกลุ่มก้อนของเศษหินเศษดินที่ก่อตัวขึ้นมาผนึกร่างท่อนร่างของตนไว้  รู้ตัวอีกทีก็ปรากฎเงาร่างสายหนึ่งทยานเข้ามาประชิดตัวของพวกมันทั้งสองแล้ว พริบตาต่อมาสติของพวกมันก็วูบดับไป
        
         หลังจากทะยานเข้าไปออกหมัดกระแทกเข้าใส่ร่างของสมุนบริวารทั้งสองที่เหลืออยู่ของโจดานจนลอยหวืดไปกาเล็ทก็หันมองมายังโจดาน

         "คิดจะเอาชีวิตของข้ามิไช่หรือ?" กาเล็ทเอ่ย

         เมื่อเห็นว่าโจดานยังคงนิ่งอึ้งไม่ตอบคำกาเล็ทก็เอ่ยต่อ "ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็เลิกราแค่เพียงเท่านี้เถอะ" กาเล็ทเอ่ย... กาเล็ทนั้นไม่ใช่คนโง่ เนื่องเพราะรู้ดีว่าตัวเองในตอนนี้ยังไม่มีขีดความสามารถมากพอถึงขนาดที่จะทำอะไรได้อย่างใจนึก  ด้วยตระกูลบลูโนนั้นคือตระกูลใหญ่ซึ่งแผ่อิทธิพลหยั่งรากลึกอยู่ในโรฮานมานาน อย่างนั้นถ้าหากว่าตนเองลงมือกับโจดานรุนแรงจนเกินไปแน่นอนว่าทางตระกูลบลูโนต้องไม่ยอมที่จะนิ่งเฉยอยู่แน่ กลับกันถ้าหากว่าตนเองหยุดยั้งเรื่องราวเอาไว้แค่เพียงเท่านี้ เรื่องก็จะกลับกลายเป็นเพียงการทะเลาะวิวาทของเด็กรุ่นเยาว์ เมื่อเป็นอย่างนั้นขุมกำลังที่เบื้องหลังของโจดานก็ยากที่จะหาเหตุผลที่จะสอดมือเข้ามาลงมือได้

       

         "กาเล็ท กาเล็ทใช่ไหมลูก? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" เสียงตื่นตระหนกของนี่น่าซึ่งกำลังแหวกฝูงชนเข้ามาดังเรียกสติของกาเล็ทให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติ

         
         ".... ท่านแม่" กาเล็ทเห็นอย่างนั้นก็รีบตรงดิ่งแหวกฝูงชนที่มามุงดูเรื่องราวเข้าไปเพื่อพยุงนีน่าออกมาทันที



         รีไรท์ 2020
     

     
        

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×