ลำดับตอนที่ #157
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #157 : เลื่อนตำแหน่ง
กาเล็ทซึ่งกำลังนั่งอ่านรายงานสรุปเรื่องราวต่างๆของพ่อบ้านโจเซพอยู่กำลังใช้มือหนึ่งรูปไล้เรือนขนของมิร่าที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างมีความสุข ครั้นเมื่อกาเล็ทอ่านไปถึงเรื่องราวสำคัญคือข้อมมูลรายจ่ายและกำลังคนที่ต้องใช้ในการขยับขยายถนนเส้นทางระหว่างเมืองต่างๆภายในโรฮานให้กว้างขวางขึ้นมือที่รูปไล้เรือนขนของมิร่าอย่างต่อเนื่องอยู่ก็สดุดหยุดลง
มิร่าซึ่งกำลังหลับตาพริ้มอิมเอมไปกับการลูบไร้ของกาเล็ทอยู่พลันลืมตาขึ้นจากนั้นจึงชโงกหัวของตนเองขึ้นพร้อมทั้งใช้ดวงตากระจ่างสุกใสดังเพชรพลอยของตนเองจ้องมองไปยังผู้เป็นบิดาซึ่งอยู่ๆก็หยุดลูบไล้เรือนขนของตนเอง "กรู๊" มิร่าส่งเสียงร้องออกมาคราหนึ่ง กาเล็ทซึ่งได้ยินถึงเสียงร้องก็หันมองมายังร่างเล็กที่เบื้องหน้า "เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว แบบนี้พอใจแล้วใช่หรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งลงมือลูบไล้เรือนขนของตัววิเศษน้อยนี้ต่อไป
ทางด้านคนรักทั้งสามของกาเล็ทเองเมื่อเห็นภาพอันอบอุ่นน่ารักที่เกิดขึ้นก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนนุ่มนวลออกมาอย่างพร้อมเพรียง
"เบลล่า ซิลเวีย เจ้าลองดูนี่ หากว่ากระทำเช่นนี้พวกเจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง" กาเล็ทเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกล่าวกับคนรักทั้งสองของตนเองที่กำลังนั่งปอกผลไม้ใส่จานอยู่ ได้ฟังคำเอ่ยกล่าวเรียกขานของชายคนรักทั้งเบลล่าและซิลเวียก็ลุกขึ้นจากโต๊ะรับแขกภายในห้องทำงานของกาเล็ทและเดินเข้ามาหา
กาเล็ทยื่นส่งรายงานเอกสารแผนการต่างๆให้กับคนรักทั้งสองของตนเองลองอ่านดู
อ่านเอกสารไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเบลล่าก็เอ่ยขึ้น "ขยับขยายถนนหนทางระหว่างเมืองเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ในรายงานนี้ยังชี้แจงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการขยับขยายถนนหนทาง หากว่าเป็นจริงดังเช่นที่เอ่ยอ้างในรายงานงี้เรื่องนี้ก็สมควรที่จะดำเดินการในทันทีไม่สมควรรอช้า" เบลล่าเอ่ยกล่าว
ได้ฟังถึงความคิดเห็นของเบลล่ากาเล็ทก็เผยรอยยิ้มออกมา จะอย่างไรตนเองก็เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่สอดมือเข้ายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของโรฮานดังนั้นแม้ว่าตนเองจะเป็นผู้ใช้สมองครุ่นคิดหาหนทางในการปฎิรูปแต่ในหลายวันที่ผ่านมานี้กาเล็ทมักจะให้ทั้งเบลล่าและซิลเวียอ่านและตรวจทานดูแนวทางที่ตนเองคิดขึ้นมาอยู่เป็นประจำและยกเรื่องการตัดสินใจต่างๆว่าจะกระทำหรือไม่ให้แก่พวกนาง
"เรื่องการที่จะเพิ่มกำลังทหารและพื้นที่ลาดตระเวนนั้นข้าก็เห็นด้วยและคิดว่าเป็นเรื่องดียิ่ง นี่ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าสาเหตุที่มีพื้นที่รกล้างว่างเปล่ามากมายที่เบื้องนอกนั้นมาจากการคุกคามของโจรร้ายและสัตว์อสูรเอง หากว่าเป็นดังที่รายงานนี้ขีดเขียนไว้เช่นนั้นหากว่าพวกเราเพิ่มกำลังทหารในการออกลาดตระเวณรักษาความปลอดภัยอีกทั้งขยับขยายพื้นที่ในการออกลาดตระเวนความปลอดภัยของเหล่าทหารออกไปก็จะทำให้พื้นที่ในการเพาะปลูกของชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น" ซิลเวียเอ่ยกล่าวขึ้น
กาเล็ทได้ฟังก็เอ่ยกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า "ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปในโรฮานนั้นยังนับว่ามีฐานะยากจนอยู่มาก เขตพื้นที่ซึ่งอยู่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ก็จะอยู่รอบตัวเมืองใหญ่ต่างๆและพื้นที่ส่วนนั้นล้วนอยู่ในการครอบครองของเหล่าขุนนางหรือตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยทั้งสิ้น ชาวบ้านที่พอจะมีเงินทุนอยู่บ้างก็อาจสามารถจ่ายค่าเช่าให้แก่เหล่าพ่อค้านายทุนและเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินซึ่งเช่ามาได้ หากว่าปีไหนฟ้าฝนเป็นใจการเพาะปลูกได้ผลผลิตมากก็ยังนับว่าพอมีเหลือเก็บแต่สำหรับกับผู้คนที่ไม่มีเงินทุนก็ต้องเสี่ยงใช้ผืนดินที่รกล้างซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป ชาวบ้านกลุ่มนี้นับว่าน่าเวทนาที่สุด พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นเป้าการปล้นชิงของโจรร้ายแล้วในแต่ละวันยังต้องเฝ้าระวังสัตว์อสูรที่จะเข้ามาฉกฉวยล่าเอาปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้ไปหากว่าโชคร้ายแม้แต่ชีวิตของตนเองและครอบครัวก็ไม่อาจที่จะรักษาไว้ได้"
กล่าวจบกาเล็ทก็ยื่นกระดาษอีกใบให้แก่เบลล่าอ่านดู ในกระดาษใบนี้เป็นแนวทางการส่งเสริมให้ชาวบ้านแต่ละครัวเรือนสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วยตนเองได้ซึ่งกาเล็ทได้นำแนวคิดนี้มาจากโลกก่อนของตน
เบลล่าที่ได้อ่านดูแนวนางซึ่งวางระบบต่างๆไว้เป็นอย่างดีในกระดาษแผ่นนั้น ดวงตาคู่สวยของนางก็เปล่งประกายขึ้น "นี่คือ.." นางหันไปเอ่ยถามกาเล็ทเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม
"แนวทางที่เขียนอยู่ในกระดาษแผ่นนี้หากว่าสามารถกระทำได้จริงจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านภายในโรฮานดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ชาวบ้านที่น่าสงสารเหล่านั้นย่อมไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เมื่อแรกเริ่มดังนั้นข้าจึงคิดว่าพวกเราสมควรต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือให้ทุนแก่พวกเขา หลังจากเหตุการณ์กวาดล้างครั้งใหญ่ผ่านพ้นไปเงินทองที่เขตปกตรองของสี่ตระกูลใหญ่ในเดือนนี้ที่ส่งให้แก่ส่วนกลางก็มากขึ้นกว่าเท่าตัวยังมีทรัพย์สินของตระกูลเกรย์ซึ่งพวกมันแอบซุกซ่อนไว้นานปีก็มีจำนวนมากมายนัก ข้าจึงคิดว่าด้วยเงินรายรับที่เพิ่มมากขึ้นของส่วนกลางประกอบกับทรัพย์สินของตระกูลเกรย์ที่ทหารของตระกูลบุสโซ่ข้ายึดมาได้สามารถนำมาใช้ออกเพื่อปฎฺิรูปโรฮานตามแนวทางที่เขียนไว้ได้ หากว่าองค์หญิงทั้งสองเห็นสมควรก็ลองนำเรื่องนี้ไปเอ่ยกล่าวแก่พระบิดาขององค์หญิงทั้งสองดูเถอะ" กาเล็ทเอ่ยกล่าวอธิบาย พอเอ่ยกล่าวมาถึงช่วงท้ายน้ำเสียงของกาเล็ทก็เปลี่ยนจากเคร่งเครียดจริงจังเป็นน้ำเสียงละเล่นหยอกล้อ
"อืมม" ทั้งซิลเวียและเบลล่าเมื่อได้ฟังน้ำเสียงของกาเล็ทก็เอ่ยกล่าวขึ้นอย่างเขินอายในแววตาของพวกนางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกชื่นชมยินดี
"มิร่าน้อยมานี่ ผลไม้ปอกเสร็จแล้ว มาให้พี่สาวป้อน" แชลเทียซึ่งเสร็จสิ้นจากการปอกผลไม้เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกล่าวขึ้น
ได้ฟังเช่นนั้นกาเล็ทก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานพร้อมทั้งอุ้มมิร่าน้อยขึ้นเดินตรงเข้าหาแชลเทีย กาเล็ทวางร่างเล็กซึ่งมีขนปุกปุยไว้ยังเบื้องหน้าของแชลเทียพร้อมทั้งหย่อนก้นของตนเองนั่งลง "แชลเทีย แนวทางในการปฎิรูปนี้อาจจะกระทบต่อกิจการของตระกูลเรนเดลเจ้า" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดจริงจังอีกครา
แชลเทียได้ฟังเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มนุ่มนวลออกมา "เจ้าหมายถึงกิจการคุ้มกันของตระกูลเรนเดลเราหรือ?" แชลเทียเอ่ยถามพร้อมทั้งหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งส่งมอบให้แก่กาเล็ทและอีกชิ้นหนึ่งป้อนเข้าปากของมังกรน้อยที่ใช้ดวงตากระจ่างสุดใสมองมาที่ตนเอง
กาเล็ทผงกหัวให้กับคำกล่าวของแชลเทีย การที่ตนเองมีแผนจะขยายกำลังทหารของโรฮานและเขตพื้นที่ในการลาดตระเวนออกไปนั้นย่อมส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อกิจการคุ้มกันและตระกูลเรนเดลของแชลเทียก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจการคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดของโรฮาน โดยเฉพาะในรอบหลายเดือนมานี้กิจการคุ้มกันของตระกูลเรนเดลนั้นถือว่าขยายตัวใหญ่โตขึ้นกว่าเท่าตัว
"กาเล็ทเจ้าอย่าได้เป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับตระกูลเรนเดลของข้าต่อให้กิจการคุ้มกันของตระกูลเรนเดลจะต้องปิดลงก็ไม่นับว่าเป็นอย่างไร เพียงแต่หากว่าเป็นเช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนกาเล็ทให้จัดหางานใหม่ให้เหล่าทหารนักบู๊ของตระกูลเรนเดลของข้าด้วย" แชลเทียเอ่ย
"เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ จะอย่างไรหากว่าทางโรฮานเราจะขยายพื้นที่ในการลาดตระเวนออกไปก็จำเป็นจะต้องใช้ผู้คนเพิ่มมากขึ้น ก็ถือให้เอาทหารนักบู๊เหล่านั้นที่ว่างเว้นจากกิจการคุ้มกันที่ปิดลงให้ผันตัวมาทำหน้าที่นี้แทน" กาเล็ทเอ่ยกล่าวเสนอขึ้นพร้อมทั้งหันไปหาซิลเวียและเบลล่า "ซิลเวีย เบลล่า จะเป็นไรหรือไม่หากว่าข้าจะขอให้บรรจุผู้คนเหล่านั้นให้เข้ารับราชการทหาร"
ซิลเวียและเบลล่าได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล "เรื่องนี้หาได้ยากลำบากอันใด พวกข้าจะนำเรื่องพวกนี้ไปบอกกล่าวแก่ท่านพ่อเอง" พวกนางทั้งสองนั้นล้วนมีความเชื่อมั่นต่อชายคนรักอย่างเต็มเปี่ยม
"ก.กาเล็ทข้าคิดว่าในวันนี้ข้ากับน้องหญิงจะกลับเข้าสู่วังหลวง" เบลล่าเอ่ยกล่าวขึ้น
กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกใจหายไม่น้อย "อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือ" กาเล็ทเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยวใจ
ได้เห็นท่าทีของชายคนรักที่แสดงออกซิลเวียก็ส่งเสียงหัวเราะคิกออกมาคราหนึ่ง "นี่เหตุใดจึงต้องแสดงท่าทีเช่นนั้นเล่า พวกข้าเพียงแค่กลับไปชั่วครู่ชัวคราวเท่านั้นหาได้จากไปนาน" ซิลเวียเอ่ยขึ้นจากนั้นจึงหันไปมองผู้เป็นพี่สาวของตนเองด้วยสายตาซุกซน "ท่านพี่น่ะมีความคิดที่จะขอให้ท่านพ่อยกระดับต่ำแหน่งของตระกูลบุสโซ่ขึ้น"
กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อย ยกระดับตำแหน่งอันใด? ตนเองล้วนไม่ต้องการ หากให้เลือกได้ตนเองขอเลือกที่จะใช้เวลาอยู่รวมกับหญิงคนรักที่งดงามทั้งสองเพิ่มอีกสักวันสองวันยังจะดีเสียกว่า
"เรื่องนี้เองข้าก็เห็นด้วย ด้วยเรื่องราวต่างๆที่เจ้ากระทำให้กับโรฮานแล้วสมควรเพิ่มยศตำแหน่งให้แก่ตระกูลบุสโซ่เจ้า ตำแหน่งมาร์ควิสนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นตำแหน่งที่จัดได้ว่าสูงสุดที่ขุนนางจะมีได้แล้วแต่ตำแหน่งนี้ผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ซึ่งมีเขตปกครองเป็นของตนเองล้วนได้ครอบครองทั้งสิ้น ข้ากับท่านพี่จึงคิดว่าไม่อาจเอาตระกูลบุสโซ่ของเจ้าไปเทียบเปรียบให้อยู่ระดับเดียวกับพวกมัน สมควร สมควรเลื่อนตำแหน่งให้กับเจ้าเป็นดยุค" ซิลเวียเอ่ยกล่าวพอเอ่ยกล่าวมาถึงช่วงท้ายน้ำเสียงดูสั่นไหวแสดงออกถึงความรู้สึกเขินอายอยู่บ้างออกมา อันที่จริงแล้วสาเหตุต่างๆที่นางยกอ้างมาล้วนไม่สลักสำคัญที่นางต้องการยกต่ำแหน่งของกาเล็ทให้สูงขึ้นก็มีสาเหตุจากเพราะตัวนางสองศรีพี่น้องเองนั้นได้ตกลงปลงใจจะเป็นคนรักของกาเล็ทแล้วหากเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะช้าหรือเร็วบัลลังก์แห่งโรฮานก็ต้องตกเป็นของชายคนรักแน่นอนด้วยตอนนี้พี่ชายซึ่งเป็นรัชทายาทเพียงหนึ่งเดียวก็กระทำความผิดร้ายแรงจนไม่อาจจะให้อภัยได้และได้หนีหายสาปสูญไปแล้ว การเลื่อนตำแหน่งชายคนรักให้เป็นดยุคจึงถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนั้นเองแต่เรื่องนี้พวกนางหาได้มีความกล้าที่จะเอ่ยบอกกล่าวออกไป
ได้เห็นถึงท่าทีเอียงอายของทั้งซิลเวียและเบลล่ากาเล็ทก็เกิดความรู้สึกสนุกคิดอยากหยอกล้อขึ้นอีกครา "หืม เลื่อนตำแหน่งให้ข้าเป็นดยุคหรือ? ไม่เกรงกลัวว่าข้าจะชิงบัลลังก์ของโรฮานแล้วหรือ" ถ้อยคำนี้กาเล็ทกลับมุ่งเป้าไปหาเบลล่าเป็นพิเศษ
"ก....กาเล็ทยังโกรธเคืองอยู่หรือ" เบลล่าเอ่ยกล่าวท่าทีแสดงออกถึงความรู้สึกไม่สบายใจ
กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ปั้นหน้าเคร่งเครียดขึ้นพร้อมทั้งยกมือขึ้นตบโต๊ะคราหนึ่ง "กลับกล้ากล่าววาจาให้ร้ายเราจักรพรรดิ์ทมิฬดูว่าเราจะลงโทษเจ้าอย่างไร มานี่" กาเล็ทเอ่ยกล่าววางอำนาจเขื่องโข
ซิลเวียที่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงฮึออกมาคราหนึ่ง "เจ้ากล้ารังแกท่านพี่?"
กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็หาได้แสดงท่าทีผ่อนคลายลงกลับยังปั้นสีหน้าและน้ำเสียงขึ้นเอ่ยกล่าวต่อ "เราจักรพรรดิ์ทมิฬมีสิ่งใดที่ไม่กล้า?"
"ดี เช่นนั้นข้าจะไปบอกกล่าวแก่ท่านป้าว่าจักรพรรดิ์ทมิฬผู้ยิ่งใหญ่กลับกล้ารังแกพวกเรา ท่านพี่ แชลเทีย พวกเราไปบอกแก่ท่านป้ากันเถอะ" ซิลเวียเอ่ยกล่าวขึ้น
เห็นท่าทีของหญิงสาวคนรักทั้งสาม ซิลเวียที่จูงมือเบลล่าอย่างแข็งขันทำท่าทีว่าจะเดินออกจากห้องไปพร้อมทั้งแชลเทียที่ยันกายลุกยืนขึ้นกาเล็ทที่กำลังปั้นสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ก็กลับแปรเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว "นี่แค่ล้อเล่น แค่ล้อเล่น อย่าได้ถือเป็นจริงเป็นจังได้หรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยท่าทีซึ่งแสดงออกถึงการยอมศิโรราบ
ได้เห็นท่าทียอมศิโรราบของผู้ซึ่งเอ่ยอ้างตนเองว่าเป็นจักรพรรดิ์ทมิฬพร้อมทั้งวางอำนาจเขื่องโขออกมาเมื่อครู่ทั้งสามสาวก็ส่งเสียงหัวเราะคิกออกมาอย่างพร้อมเพรียง พวกนางย่อมรู้ดีว่าท่าทีวางอำนาจเมื่อครู่ของชายคนรักนั้นล้วนเป็นการปั้นแต่งขึ้นเพื่อหยอกล้อต่อพวกนางทั้งสิ้น
ปล.หายไปสองวัน sry พอดีพ่อกับแม่มาจากต่างจังหวัดครับเลยไม่มีเวลาว่างมาลง เอ่อสำหรับกับเพื่อนๆที่สงสัยว่าเฮ้ยเมืองสร้างถึงไหนแล้ว ทำไมสร้างช้าจัง << ขออธิบายตรงนี้ครับว่ามันติดตรงที่เงื่อนเวลา ตัวเอกพึ่งมาโลกนี้ได้ 1 ปี เริ่มสร้างหมู่บ้านบุสโซ่ได้ประมาณ สามเดือน ขั้นตอนกว่าที่คนจะเข้ามาอยู่ เข้ามาค้าขาย การก่อสร้างเมือง การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก การคิดระบบการปกครองมันต้องใช้เวลาเน้อ เผื่อใครจะลืมไปถึงเรื่องเงื่อนเวลา ส่วนคำถามที่ว่ามันจะกินสามสาวตอนไหน ตอบเลยคือหลังอายุ 18 แต่งงาน ก็ในเรื่องอีกประมาณ 1 ปี ซึ่งถือว่าไม่นานครับ เพราะจะมีช่วง สคริบเวลาเป็นระยะส่วนเปิดซิงพระเอกจะเป็นใคร 5555 คิดไม่ถึงกันหรอกบอกเลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น