ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #14 : ปะทะคารม [รีไรท์ 2020]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32.53K
      857
      6 พ.ย. 63



         

         "เจ้าคือกาเล็ท บุสโซ่?" ผู้คุมสอบซึ่งทำหน้าที่ตรวจเอจสารเอ่ยถามพร้อมกับที่เงยหน้าขึ้นมาสำรวจดูกาเล็ท 

         "ถูกแล้ว..ข้าเอง" กาเล็ทเอ่ยตอบ

         "แก่นจิตวิญญาณระดับขั้นที่สี่กับอายุเพียงสิบเจ็ดปี่นับว่าไม่เลว ถ้าหากแก่นจิตวิญญาณของเจ้ามีความเข้ากันได้กับสสารมากกว่าหนึ่งธาตุก็นับว่ามีอนาคตไกลอยู่...ถึงแม้ว่าในปีนี้อันดับการทดสอบของเจ้าจะเข้ามาเป็นอันดับสองก็อย่าได้ท้อแท้ไป" ผู้คุมสอบเอ่ยจากนั้นจึงเอ่ยแนะนำ "ตามเขาไป..เขาจะพาเจ้าเดินทางเข้าไปพบกับผู้อำนวยการเป็นการส่วนตัว"

         "กำหนดการไม่ใช่ว่าจบแค่การลงทะเบียน?" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างรู้สึกแปลกประหลาดใจด้วยไม่รู้มาก่อนว่าจะเข้าพบกับผู้อำนวยการของสถาบันด้วย

         "ข้าก็ไม่ค่อยจะรู้อะไรมากนั้นหรอก..แต่ผู้อำนวยการเจาะจงมาเป็นพิเศษว่าต้องการพบกับเจ้า" ผู้คุมสอบเอ่ยตอบกาเล็ท "ติดตามเขาไปเถอะ..เอ่ยถามมากความก็เสียเวลาเปล่าๆ"

         ได้ยินอย่างนั้นกาเล็ทก็ทำได้แต่พกความรู้สึกสงสัยใจเดินตามคนนำทางไปเพื่อเข้าพบกับผู้อำนวยการของสถาบันผู้ฝึกพลัง


         "ท่านผู้อำนวยการข้านำกาเล็ทบุสโซ่มาแล้วครับ" บุคคลผู้ซึ่งนำทางกาเล็ทมาเคาะประตูพร้อมทั้งเอ่ยบอกต่อคนในห้อง


          "ให้เข้ามาได้" เสียงใสดังออกมาจากอีกฝั่งของประตูชวนให้กาเล็ทต้องมุ่นขมวดคิ้วอย่างแปลกประหลาดใจ


          เมื่อเข้ามาภายในห้องที่ดูโอ่อ่า...กาเล็ทก็พบว่ามีคนอยู่ด้านในถึงสองคน...หนึ่งนั้นก็คือหญิงสาวใส่แว่นซึ่งมีเส้นผมสีเขียวที่ดูแปลกตา ส่วนอีกหนึ่งนั้นก็คือโจดานยอดอัจฉริยะแห่งตระกูลบลูโน

         "โจดาน...หมดธุระแล้วเจ้าออกไปก่อน" หญิงสาวเอ่ยบอกกับโจดานจากนั้นจึงหันมาทางกาเล็ท "นั่งก่อนสิ"

         โจดานที่ลุกพรวดขึ้นหันมาสบตากับกาเล็ทวูบหนึ่ง...ไม่รู้เพราะอะไรทำให้กาเล็ทรู้สึกว่าแววตาของอีกฝ่ายนั้นกำลังแสดงออกถึงความรู้สึกไม่พอใจอยู่

         "กาเล็ทบุสโซ่?" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่โจดานออกจากห้องไป

         "ครับ..ข้ากาเล็ท บุสโซ่" กาเล็ทเอ่ยแนะนำตัว

         "ข้าคลาร่ามีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของสถานศึกษาแห่งนี้" คลาร่าเอ่ยแนะนำตัว

         "ไม่ทราบว่าผู้อำนวยการต้องการพบข้าด้วยเรื่องใด?" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างรู้สึกสงสัย

         หลังจากได้ยินคำถาม บนใบหน้าของคลาร่าก็ปรากฎรอยยิ้มที่ดูลี้ลับขึ้น "ข้ามีความคิดเห็นบางการต้องการที่จะสอบถามความเห็นของเจ้าว่าเห็นด้วยหรือไม่?"

         "ความคิดเห็น?" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

         คลาร่าได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะลี้ลับออกมาจากนั้นจึงเอ่ยต่อ "โลกเรานี้ก็ชั่งกว้างใหญ่นั้น" เอ่ยกล่าวจบคลาร่าก็ถอนหายใจออกมา "คนบางคนมีความสามารถเพียงน้อยนิดกลับเที่ยวอวดโอ่ประกาศศักดาอยากให้ทุกคนยอมรับในความสามารถของตน...จะว่าไปนี่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่ข้าไม่เข้าใจกลับเป็นคนอีกประเภท...ทั้งที่มีความสามารถลึกล้ำสุดจะหยั่งหากแต่กลับเลือกที่จะเป็นบังเอาไว้อย่างสุดชีวิต...ข้าเพียงแต่ใคร่สงสัยว่าคนประเภทหลังนี้เขาคิดอะไรอยู่กัน?"

         หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของคลาร่ากาเล็ทก็เกิดความตื่นตัวขึ้นทันที "...." นิ่งเงียบไปสักพัก กาเล็ทก็เปิดปากเอ่ยขึ้น "ข้าอภัยที่ข้าโง่เขลาไม่สามารถที่จะหาคำตอบให้กับท่านผู้อำนวยการได้"

         ได้ยินอย่างนั้นคลาร่าก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้จากนั้นก็เดินอ้อมมาที่ด้านหลังของกาเล็ทอย่างเชื่องช้า พริบตาต่อมาคลาร่าก็ยกสันมือเรียวของตนฟาดเข้าใส่ต้นคอของกาเล็ทอย่างไม่ให้ตั้งตัว

         หมับ กาเล็ทหันไปคว้าจับฝ่ามือเรียวบางนั้นไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะกระทบเข้ากับสันคอของตน "ท่านต้องการอะไรกันแน่ท่านผู้อำนวยการ?" กาเล็ทเอ่ยถาม
         
         "หากมีระดับแก่นจิตวิญญาณอยู่ที่ระดับสี่จริงคงไม่สามารถปัดป้องฝ่ามือนี้ได้กระมัง? เด็กน้อยที่พึ่งจะก้าวเดินออกจากห้องไปเมื่อสักครู่นั้นมีแก่นจิตวิญญาณอยู่ในระดับขั้นที่ห้า...แต่ข้าพนันได้เลยว่ามันไม่สามารถจะป้องกันฝ่ามือเมื่อสักครู่นี้ได้แน่" คลาร่าเอ่ย

         "ปล่อยได้แล้วมั้ง?" คลาร่าเอ่ยจากนั้นจึงเอ่ยถามต่อ "เหตุใดเจ้าจึงต้องเก็บซ่อนพลังปิดบังพรสวรรค์ของตน?" คลาร่าเอ่ยถามเข้าประเด็นหลังจากเดินกลับมานั่งยังเก้าอี้อย่างเดิม 

         "ท่านผู้อำนวนการไม่เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ต้นไม้สูงยิ่งต้องเผชิญกับแรงลม?" กาเล็ทเอ่ยตอบ

          "ไม่เพียงแค่มีระดับพรสวรรค์ที่สูงลิบหากแต่กลับมีความรอบคอบระมัดระวังถึงเพียงนี้ด้วย?...เกรงว่าด้วยพรสวรรค์และความสามารถของเจ้าคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าเรียนภายในสถาบันแห่งนี้ ที่แท้แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?" คลาร่ายังคงเอ่ยถามต่อ

         หากสังเกตุให้ดีจะพบว่าบทสนทนาระหว่างคลาร่ากับกาเล็ทกลับไม่คล้ายเหมือนบทสนทนาของผู้อำนวยการของสถาบันกับนักเรียนในปกครองแต่อย่างใด
         
         "จะพูดถึงเหตุผล..มันก็..เอาเป็นว่าข้ารับรองว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนหรือก่อเรื่องวุ่นวายให้กับสถาบันของท่านผู้อำนวยการแน่" กาเล็ทเอ่ย

         หลังจากได้ฟังคำตอบของกาเล็ท คลาร่าและกาเล็ทก็สบตากันวูบหนึ่ง ถึงแม้จะยังคงรู้สึกคืบแคลงในตัวของกาเล็ทที่ไม่ยอมบอกถึงจุดประสงค์แท้จริงในการเข้ามายังสถาบันแห่งนี้ทว่าคลาร่ากลับรู้สึกว่าคำ "ข้าจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายหรือสร้างความเดือดร้อน" ของกาเล็ทนั้นเชื่อถือได้ 

         "เอาเถอะเมื่อไม่ต้องการที่จะบอกข้าก็จะไม่ฝืนบังคับ" คลาร่าเอ่ยอย่างรู้สึกยอมแพ้

         กาเล็ทถอนหายใจออกมาจากนั้นจึงเอ่ยกล่าว "ข้าเพียงต้องการอยู่อย่างสงบ หวังว่าท่านผู้อำนาวยการจะเข้าใจ หากไม่มีเรื่องใดอีกข้าขอตัว" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับที่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ที่จริงแล้วกาเล็ทก็ไม่ได้ต้องการเข้ามายังสถาบันแห่งนี้เพื่อศึกษาอย่างที่คลาร่าคาดเดาจริงๆ สิ่งที่กาเล็ทมุ่งหวังจากสถาบันแห่งนี้ก็คือหอสมุดขนาดใหญ่ซึ่งมีแต่บุคลากรของสถาบันเท่านั้นที่จะเข้าใช้ได้...แม้จะได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างคนก่อนมา แต่ความรู้ของเจ้าของร่างๆนี้ก็ถือว่ามีอยู่อย่างจำกัด..ทำให้กาเล็ทในตอนนี้ต้องรีบหาข้อมูลสำคัญที่พอจะหาได้เอาไว้ก่อน 
         
         "น่าสนใจจริงๆ" คลาร่ามองตามเงาหลังของกาเล็ทไปอย่างไม่วางตา

         -----------------------------------------------------------------------------------------------

         หลังจากที่กาเล็ทออกจากห้องผู้อำนวยการมาแล้วกลับพบว่าโจดานยังคงรออยู่ที่ด้านนอก "นึกว่าใคร...ที่แท้ก็กาเล็ทแห่งตระกูลบุสโซ่....ตระกูลที่เคยฉาวโฉ่ไปทั่วโรฮาน!" โจดานเอ่ยยั่วยุ

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็หันมองมาที่โจดานอย่างแข็งกร้าว 

         "อย่าได้หลงลำพองไป เพียงแค่ผู้อำนวยการให้เวลาเจ้ามากกว่า...ไม่ได้แสดงว่าเจ้าเหนือกว่าข้า" โจดานเอ่ยขึ้น

         ได้ยินสิ่งที่โจดานเอ่ยออกมา กาเล็ทที่เกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นเมื่อสักครู่ก็ทำได้แต่หัวเราะเยาะตัวเองในใจที่ถือสาหาความกับเด็กน้อยคนหนึ่ง  "มันว่างมากหรือยังไงกันนะถึงได้เราสมองมาคิดเรื่องอะไรที่มันไร้สาระแบบนี้ได้?" กาเล็ทนึกคิดตั้งคำถามกับตัวเอง

         "ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยต่อข้ามาก่อน" โจดานเอ่ยอย่างเดือดดาลพร้อมทั้งเอื้อมมือไปหมายจะกระชากยังบริเวณหัวไหล่ของกาเล็ทซึ่งหันหลังเดินผ่านตัวเองไป

         สัมผัสได้อย่างนั้นกาเล็ทก็หันกลับมาคว้าจับข้อมูลของโจดานไว้ "มีความสามารถก็จริงแต่เหตุใดต้องอวดโอ่?"

         "อ๊าก ปะ..ปล่อยข้า" โจดานกัดฟันร้องออกมาอย่างรู้สึกเจ็บปวด

          เห็นอย่างนั้นกาเล็ทก็ปล่อยให้โจดานซึ่งล้มก้นจั้มเบ้าและกำลังกุมข้อมือของตัวเองอยู่เอาไว้เบื้องหลังจากนั้นจึงเดินจากมาโดยไม่หันหลังกลับไปมองโจดานแม้แต่น้อย 

         ส่วนโจดานก็มองตามเงาหลังของกาเล็ทไปอย่างรู้สึกเคียดแค้นชิงชัง 

         ถึงแม้กาเล็ทจะไม่อยากมีเรื่องแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากาเล็ทจะปล่อยให้คนอื่นข่มเหงรังแกตัวเองได้ ในบางครั้งการจะอยู่อย่างสงบได้ก็จำเป็นที่จะต้องเผยเขี้ยวเล็บออกมาบ้าง


         รีไรท์ 2020




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×