ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #12 : เงื่อนไขการเข้าเรียน [รีไรท์ 2020]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33.47K
      878
      6 พ.ย. 63



         รุ่งเช้าของวันต่อมากาเล็ทพบว่าทหารยามคนเดิมมายืนรอตนอยู่ด้านหน้าโรงแรมตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้ว

         "ทำให้พี่ท่านต้องรอนานแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกับทหารยามนายนั้น

         "ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ" ทหารยามนายนั้นเอ่ยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ที่มันอารมณ์ดีอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก  เพราะถ้าหากว่าวันนี้แนะนำเด็กหนุ่มให้กับนายหน้าค้าบ้านและการค้าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ค่าตอบแทนที่มันจะได้รับคงไม่ใช่เพียงแค่เหรียญทองเพียงเหรียญเดียว ถ้าจะให้พูดตามตรงแล้วรายได้ซึ่งมันได้รับจากการทำหน้าที่เป็นทหารเฝ้าประตูเมืองในแต่ละเดือนนั้นก็เป็นจำนวนเพียงแค่สี่สิบเหรียญเงินเท่านั้น..ซึ่งรายได้เพียงเท่านี้เพียงพอแค่ทำให้มันสามารถประทังชีวิตอยู่ได้เท่านั้น..แต่รายได้ซึ่งทำให้ชีวิตมันสุขสบายขึ้นส่วนใหญ่นั้นกลับมาจากการใช้อำนาจหน้าที่หาช่องทางในการสร้างรายได้เสริมอย่างที่กำลังทำอยู่นี้ต่างหาก 

         "เมืองหลวงของเรานั้นแบ่งออกเป็นหลายชั้น ตัวเมืองชั้นในนั้นเป็นที่อยู่ของเหล่าขุนนางหรือคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ทั้งหลาย ส่วนตัวเมืองส่วนกลางก็จะเป็นแหล่งค้าขายซึ่งมีทั้งร้านขายอาวุธ ชุดเกราะ ตลอดจนอาวุธพิเศษที่หายาก หากท่านต้องการข้าสามารถแนะนำร้านชื่อดังให้ได้" ทหารยามซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้นำทางเอ่ยอธิบายเกี่ยวกับตัวเมืองแบรี่อย่างคร่าวๆให้กับกาเล็ทและครอบครัวฟังไปด้วยขณะนำทางสู่สถานที่ตั้งของร้านนายหน้าขายอสังหาริมทรัย์

         ที่กาเล็ทสนใจเกี่ยวกับคำพูดของมันกลับเป็นเรื่องของอาวุธพิเศษ ซึ่งจากที่กาเล็ทได้ศึกษาหาความรู้มาจากมิติพิศวงนั้นก็มีข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและกรรมวิธีหลอมสร้างอาวุธเหล่านี้อยู่เหมือนกัน 

         "ที่นี่แหละ" ทหารยามเอ่ยบอกกล่าวกับกาเล็ทเมื่อนำทางมาถึงหน้าร้านของนายหน้าค้าที่ดินแล้ว


         หลังจากที่ปล่อยให้ทหารยามก้าวเดินเข้าไปเพื่อพูดคุยอะไรบางอย่างกับคนที่อยู่ภายในสักพัก กาเล็ทก็พยุงนีน่าติดตามก้าวเดินเข้าสู้ด้านเมื่อเห็นว่าทหารยามคนดังกล่าวกวักมือเรียกตนเองแล้ว  ทันทีที่กาเล็ทก้าวเข้าไปก็พบเห็นชายวัยกลางคนซึ่งใส่แว่นหนาเตอะกำลังนั่งอยู่ด้านหลังเค้าเตอร์ต้อนรับ "ไม่ทราบมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือหรือขอรับ" ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม

         "ข้าและครอบครัวพึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงเลยมีความต้องการที่จะหาซื้อบ้านดีๆสักหลัง พอดีว่าพี่ทหารท่านนี้แนะนำมาว่าที่แห่งนี้เป็นอันดับหนึ่งและสามารถเชื่อถือได้" กาเล็ทเอ่ยโดยยกความดีให้กับทหารยามนายนั้น

         "ฮี ฮี่" ทหารยามนายนั้นหัวเราะออกมาอย่างรู้สึกยินดี "เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปทำหน้าทีก่อนนะนายท่าน" มันเอ่ยอำลา เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขั้นตอนนี้แล้วตัวมันย่อมรู้ดีว่าจะอย่างไรหากการซื้อขายเป็นไปได้ด้วยดีผลประโยชน์ซึ่งมันสมควรจะได้ย่อมไม่บินหนีหายไปไหนแล้ว..เพราะการที่กาเล็ทออกตัวพูดให้กับมันด้วยตัวเองว่าตัวมันเป็นคนแนะนำให้รู้จักที่นี่จึงทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายดายขึ้น

         "นายท่าน หากท่านกำลังมองหาบ้านในเมืองหลวงอยู่ละก็ท่านมาถูกที่แล้วขอรับ" ชายวัยกลางคนสวมบทพ่อค้าทันที "ท่านต้องการบ้านที่มีลักษณะอย่างไร อยู่ในส่วนไหนของตัวเมือง มีขนาดประมาณไหนหรือขอรับ?  อืม...ข้าเกือบลืมไป สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นนั่นก็คืองบประมาณ ว่าแต่ท่านมีงบประมาณเท่าไหร่หรือขอรับนายท่าน?" นายหน้าขายที่ดินเอ่ยถามกาเล็ทอย่างเป็นมืออาชีพ

         "ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากจะได้ที่อยู่ในเขตซึ่งมีความปลอดภัยสูงและขนาดของบ้านที่ต้องการก็ต้องไม่คับแคบจนเกินไป มีพื้นที่ไว้สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง..ส่วนงบประมาณก็ค่อนข้างที่จะสูง" กาเล็ทเอ่ย

          "อืม หากมองในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก สมควรเลือกบ้านที่ตั้งอยู่ภายในเขตตัวเมืองชั้นใน ถ้านับเอาแต่ตัวบ้านซึ่งมีเขตพื้นที่กว้างขวางอีกทั้งยังมีพื้นสวนเข้าไปด้วย...ตอนนี้สมควรมีเหลืออยู่เพียงสองแห่ง แต่ว่าราคามันออกจะแพงหน่อยนะขอรับ" นายหน้าค้าบ้านเอ่ย

         "เรื่องราคาเราค่อยว่ากันทีหลังเถอะ?  ท่านช่วยพาข้ากับท่านแม่ไปชมดูสถานที่ก่อนดีกว่า หากว่าท่านแม่ของข้าถูกใจแล้วค่อยมาพูดคุยถึงเรื่องหลังกัน" กาเล็ทเอ่ยกับนายหน้าค้าบ้าน

         "ได้ขอรับ" กล่าวจบนายหน้าก็ไม่รอช้า..หลังจากเตรียมตัวอยู่สักพักนายหน้าก็เรียกลูกน้องของตนให้นำรถม้าออกมาเพื่อนำกาเล็ท นีน่าและพ่อบ้านโจเซพไปดูสถานที่จริง

         บ้านหลังแรกที่นายหน้าพาไปชมดูนั้นตัวบ้านมีขนาดใหญ่กว่าบ้านเดิมที่เมืองแบรี่ถึงห้าเท่า อีกทั้งพื้นที่ใช้สอยรอบนอกก็ถือว่ามีอยู่ไม่น้อย...สภาพแวดล้อมโดยรอบก็ดูสงบปลอดภัยดี  ส่วนบ้านหลังที่สองนั้นตัวบ้านมีขนาดเล็กรองลงมาจากบ้านหลังแรกอยู่พอสมควรแต่พื้นที่ใช้สอยกลางแจ้งนั้นกลับมีขนาดกว้างกว่าบ้านหลังแรกเกือบสองเท่า

         "ท่านแม่ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร" กาเล็ทเอ่ยถามกับนีน่า

         "แม่ว่าหลังที่สองดูจะเหมาะกว่านะลูก กาเล็ทเองก็จะได้มีพื้นที่สำหรับฝึกฝนมากหน่อย" นีน่าเอ่ยแสดงความเห็น

         "ไม่ทราบว่าบ้านหลังที่สองนี้มีราคาค่างวดเท่าไร?" กาเล็ทเอ่ยถามนายหน้าค้าบ้าน

         "อืม...หลังนี้ถ้าหากรวมค่าทำความสะอาดเสร็จสรรพพร้อมอยู่ก็..อืมสองร้อยหาสิบสามเหรียญทองกับอีกห้าสิบเหรียญเงินขอรับนายท่าน" นายหน้าเอ่ยอย่างรู้สึกลำบากใจเนื่องเพราะราคาที่มากถึงสองร้อยห้าสิบเหรียญทองถือว่าเป็นตัวเงินที่มากอยู่พอสมควร ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะล้มเลิกความคิดที่จะซื้อทันทีเมื่อได้ยินราคาที่สูงลิบขนาดนี้

         "กาเล็ท แม่ว่าราคาสูงอย่างนี้พวกเราหาบ้านหลังอื่นที่อยู่รอบนอกดีกว่าเถอะนะลูก" นีน่าเริ่มเกิดความรู้สึกกังวลใจขึ้นอีก

          "ท่านลุงโจเซพท่านเห็นว่าบ้านหลังนี้เป็นอย่างไร สมกับราคาหรือไม่?" กาเล็ทหันไปเอ่ยถามความคิดเห็นของโจเซพบ้าน

         "หากว่าดูจากวัสดุและพื้นที่ตั้งบวกกับขนาดของตัวบ้าน ราคาเท่านี้ก็ไม่ถือว่าสูงเกินไปนะขอรับนายน้อย" โจเซพเอ่ยแสดงความคิดเห็นของตน

         ได้ยินอย่างนั้นกาเล็ทก็หันไปเอ่ยกับนีน่า "ท่านแม่ข้าคิดว่าบ้านหลังนี้แหละสมควรที่จะเป็นบ้านใหม่ของพวกเรา ที่ข้าห่วงที่สุดนั้นคือความปลอดภัยของท่านแม่ เขตพื้นที่ชั้นในนั้นมีเวรยามแน่นหนากว่าเขตพื้นที่ชั้นนอก อีกทั้งยังปราศจากโจรผู้ร้าย ราคาที่สูงขึ้นมาก็ถือว่าเป็นการซื้อความปลอดภัยเถอะ สำหรับข้าความปลอดภัยของท่านแม่สำคัญยิ่งกว่าเงินทอง" กาเล็ทเอ่ยกับนีน่า 

         "ถ้าอย่างนั้นข้าตกลงซื้อบ้านหลังนี้ก็แล้วกัน" กาเล็ทหันไปเอ่ยยืนยันกับนายหน้าค้าบ้าน

         "ขอรับนายท่านแต่ก่อนทำสัญญาต้องมีการจ่ายค่ามัดจำของตัวบ้านก่อนหนึ่งส่วนและจ่ายที่เหลือหลังจากรับส่งมอบตัวบ้านแล้วนะขอรับ ในส่วนของมัดจำนั้นจะไม่มีการคืนให้ถ้าหากว่านายท่านเปลี่ยนการตัดสินใจนะขอรับ.." นายหน้าขายบ้านเอ่ยแจ้งรายละเอียด 

         "ตกลง" กาเล็ทเอ่ยยืนยัน

         หลังจากทำสัญญาซื้อขายกันตามขั้นตอนจนครบถ้วนแล้วกาเล็ทก็ได้เดินทางกลับมาส่งนีน่าและโจเซพยังโรงแรมที่พัก ส่วนตนเองนั้นก็มุ่งหน้าสู่โรงเรียนผู้ฝึกพลังเพื่อหาข้อมูล


         "ถือว่าประจวบเหมาะนัก" กาเล็ทเอ่ยกับตัวเองอย่างรู้สึกยินดีเมื่อได้อ่านใบประกาศที่ติดอยู่หน้าสถานบันที่บอกถึงกำหนดการคัดเลือกผู้ที่มีสิทธิในการเข้าเรียนของสถาบันซึ่งจะมีการคัดเลือกในอีกสองเดือนซึ่งผู้ที่จะสามารถเข้ารับการคัดเลือกได้ต้องมีอายุไม่น้อยกว่าสิบห้าปีและมีระดับพลังขั้นต่ำอยู่ในขั้นที่สาม  

         ชั่วขณะหนึ่งที่กาเล็ทกำลังยืนอ่านเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันผู้ฝึกฝนพลังอยู่ กาเล็ทก็ได้ยินเสียงหวานน่าฟังเอ่ยทักตนเองขึ้น "กาเล็ท?..กาเล็ทใช่หรือเปล่า?"



         รีไรท์ 2020


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×