ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #34 : SF - SUDDENLY [08]

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 56


    © Tenpoints!

    '

    SUDDENLY



    ‘The weakness is coming up with my tear.’

     










     

     

    “คชา! ตื่นได้แล้ว”




    “ฮือออ... อะไรของมึง”




    “มึงมีสอบย่อยนะวันนี้ ตื่นได้แล้ว!





     

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนกว้างของร่างสูง หลังจากวันที่ยุ่งวุ่นวายกับคู่หมั้นของเขาไปก็ผ่านมาจะอาทิตย์นึงแล้ว น้องมะนาวไม่ได้เข้ามาข้องเกี่ยวอะไรกับเขาอีก แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมามันก็คือเรื่องที่เขาโดนใส่ร้าย (จากไอ้แสบขี้เซาบางคนแถวนี้) ว่าเป็นเอดส์ดันแพร่กระจายไปทั่วนี่แหละ จนผู้หญิงที่เคยร่วมเตียงกับเขามาโวยวายกันเป็นสิบ วันนั้นเล่นเอาแทบไม่เป็นอันทำอะไร แล้วสุดท้ายเขาก็ต้องไปให้หมอตรวจเพื่อยืนยันว่าเขาปลอดภัยจริงๆ ผู้หญิงพวกนั้นถึงได้เชื่อและยอมล่าถอยกลับไปกันในที่สุด





    และถ้าจะถามว่าใครกันที่เป็นผู้เสียหาย เขาก็สามารถตะโกนตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่ากูเองนี่แหละ!!





    หลังจากไปโวยวายกับไอ้แสบ คชามันก็นั่งสำนึกผิดไปประมานสามนาทีก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน จนเขาต้องจัดการลงโทษโดยการ ต่อยปาก ไปสักทีสองทีนี่แหละถึงได้ยอมอยู่เฉยๆ และจากนั้นเต๋าก็ได้ท่าไม้ตายเพื่อปราบตัวยุ่งอย่างคชามาไว้ในมือทันที





    ส่วนตอนนี้ก็สายแล้ว คชามีสอบย่อยตอนสิบโมงสามสิบห้า ซึ่งตอนนี้ก็ปาเข้าไปเก้าโมงครึ่งแล้วเรียบร้อย ปกติในตอนเช้าร่างสูงมักจะตื่นก่อนเสมอๆ แต่วันนี้ดันเผลอนอนยาวเสียได้ ทำเอาจะสายแหล่ไม่สายแหล่กันทั้งคู่นี่แหละ แถมคนตัวเล็กนี่ก็ยังปลุกยากปลุกเย็นยิ่งกว่าอะไร กว่าจะแซะออกมาจากเตียงได้คนอื่นเขาคงสอบเสร็จไปกันหมดแล้วล่ะมั้ง





     

    “คชา สายแล้ว ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!




    “ฮื่อออออ ขออีกห้านาทีนะ... นะ...”





    “ครั้งนี้อ้อนแค่ไหนกูก็ไม่ใจอ่อนหรอกเว้ย! ตื่นเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวไปสอบไม่ทันมึงก็มาโวยวายกูอีก”





    “...ไม่เอา กูง่วง”




    “ถ้าไม่ตื่นกูจะต่อยปากมึง!




    “กล้าก็ลอง”





     

    และไม่ต้องรอให้คชาท้าเขาอีกซ้ำสอง ริมฝีปากหนาของร่างสูงก้มลงไปบดเบียดอยู่กับปากอิ่มของคนที่นอนอยู่ทันที ลิ้นร้อนตวัดลากเลียบนกลีบปากที่แดงระเรื่อพลางสอดใส่เข้าไปในโพรงปากเล็ก ดูดดุนเอาลิ้นอุ่นของคนที่ยังไม่ตื่นดีมาหยอกล้อเล่นอย่างสนุกสนาน





    มืออุ่นเริ่มซุกซนลากไล้ไปทั่วทั้งแผ่นท้องบางที่โผล่พ้นชายเสื้อ กางเกงนอนตัวน้อยค่อยๆถูกดึงร่นลงทีละนิดจนในที่สุดเรียวขาเปลือยเปล่าก็ไร้อาภรณ์ป้องกัน ตามมาด้วยเสื้อนอนที่ถูกปลดกระดุมออกจนหมด และในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ร่างกายขาวเนียนนุ่มที่เปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิดใดๆก็ปรากฏสู่สายตาของร่างสูงทันที





     

    “อือ... อ้ะ... เต๋า”




    “จะตื่นได้หรือยัง”




    “กูตื่นแล้ว ยอมแล้ว ยอมแล้วนะ ฮื่อออออ... พอแล้ว”




    “ถ้างั้นก็ไปอาบน้ำ”




    “รู้แล้ว อ้ะ... ไอ้เต๋า!





     

    ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นจากเตียงเมื่อมือแกร่งของร่างสูงบดขยี้ลงมาที่ยอดอก บั้นท้ายนวลเนียนก็กำลังโดนเอาเปรียบโดยมือหนาอยู่ไม่ต่างกัน ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์ จนในที่สุดร่างสูงก็คิดได้ว่าควรเลิกแกล้งคชาสักที ไม่งั้นไอ้คนที่จะตื่นเนี่ยมันจะเป็นเขาเสียมากกว่า





     

    ...ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คิดว่าวันนี้คชาก็คงจะต้องขาดสอบแน่ๆ





     

    “ไป ไป ไม่แกล้งแล้วครับ ไปอาบน้ำไป”




    “ฮื่อออออ... อาบให้หน่อยนะ”




    “อีกแล้วเหรอวะ มึงคิดว่ากูความอดทนสูงนักหรือไงห๊ะ”




    “ครั้งที่แล้วยังทำได้เลย”




    “ครั้งที่แล้วกูแทบจะเป็นบ้าตายมึงรู้รึเปล่า กว่าจะสงบสติอารมณ์ไม่ให้ฟัดมึงได้มันต้องใช้เวลานานขนาดไหนน่ะห๊ะ”




    “นะ...น้าาาา...”




    “แม่งเอ๊ย!









     


    (NC - SUDDENLY08)
    In the Book - w -



















    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------












     

     

    และในที่สุดเช้าวันนี้คชาก็มาสอบทันเวลาแบบเฉียดฉิว ร่างสูงเหยียบมิดมาตลอดทางจนโดนรถคันหน้าคันหลังตะโกนด่าสรรเสริญบรรพบุรุษมารายทาง ก็กว่าจะอาบน้ำให้คชาและตัวเขาเองเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว คนบ้าอะไรวะยั่วได้ทุกการกระทำจริงๆ ให้ตายสิ!




     เต๋าได้แต่ส่ายหน้าให้ร่างบางในขณะที่กำลังมองตามแผ่นหลังเล็กๆเข้าไปจนสุด วันนี้เขาก็กะว่าจะชวนคชามานอนค้างที่บ้านอีกเช่นเคย ก็พรุ่งนี้มันวันเสาร์นี่นะ แถมพ่อกับแม่เขาก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียด้วย ปกติกลับไปทีไรหากไม่เหลือแค่แม่ที่นั่งรอกินอาหารเย็นอยู่ก็กลายเป็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน




    เมื่อคชาหายลับเข้าห้องสอบไปแล้ว เต๋าก็เดินออกมาจากคณะแพทย์แล้วตรงไปที่โรงยิมเพื่อเล่นบาสทันที วันนี้เขามีเรียนตอนบ่าย แต่ที่ต้องถ่อมาก่อนเวลาขนาดนี้ก็เพราะต้องมาส่งคนตัวเล็กนี่แหละ ตอนแรกคชาก็โวยวายใหญ่ แต่ในที่สุดเขาก็ดื้อจนมาส่งมันจนได้




    ใครจะกล้าปล่อยให้คชาขับรถมาเองทั้งๆที่สมองยังไม่ทำงานแบบนี้บ้างล่ะ ที่ผ่านๆมารอดมาได้ยังไงก็ไม่รู้ ส่วนที่เขามั่นใจว่าคชาไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวก็เพราะปกติมันอ้อนเขาที่ไหนกันล่ะ แต่เคยได้ยินมั้ยว่าความขี้เกียจทำให้คนหน้าด้านขึ้นสามเท่าน่ะ เพราะคชามันขี้เกียจจะอาบน้ำเองในตอนเช้า ถึงได้เดือดร้อนให้เขาต้องมานั่งสะกดอารมณ์ยามที่ต้องอาบน้ำให้มันแทนนี่แหละ





     

    แต่มันก็คุ้มเสียยิ่งกว่าอะไร หึหึหึ





     

    “อ้าวไอ้เต๋า! หายหัวไปหลายวันเลยนะมึง”




    “กูก็มีเรื่องอื่นต้องทำเหมือนกันนะ”




    “หายไปรักษาเอดส์กับคุณหมอบางคนมาหรือไง ฮ่าๆๆๆ”




    “ไอ้เหี้ยเจมส์!





     

    ประเด็นร้อนตลอดอาทิตย์ที่เจมส์ยกขึ้นมาล้อทำเอาร่างสูงควันออกหูทันที เขารับลูกบาสมาจากเพื่อนที่กำลังเล่นอยู่อีกคนก่อนจะจัดการทุ่มใส่ไอ้เจมส์ไปเต็มแรง ซึ่งแน่นอนว่าร่างหมีๆของอีกคนก็หลบได้อยู่แล้ว กรรมเลยตกไปอยู่ที่เฟรมที่เพิ่งจะเดินเข้ามาแทน




     

    “เปล่า ช่วงนี้เมียมันคุมเข้ม ฮ่าๆๆๆๆๆ”




    “สัสเฟรม! อ้าว มึงไม่มีสอบย่อยหรือไงวันนี้”





     

    เฟรมรับลูกบาสเอาไว้ก่อนจะเอ่ยแซวเต๋าขึ้นมาอีกคน ซึ่งตอนแรกร่างสูงก็ทำท่าจะปาลูกบาสไปอีกสักลูก แต่ก็ทันนึกขึ้นมาได้ซะก่อนว่าคชากับเฟรมมันอยู่คณะเดียวกันนี่หว่า แถมเรียนก็เกือบๆจะคล้ายกันด้วย แล้วนี่เฟรมไม่มีสอบเหมือนคชาหรือไง




     

    “อ้าว คชาไม่ได้บอกมึงเหรอวะว่าอาจารย์เขาเลื่อนสอบไปวันอังคารหน้าอ่ะ”




    “ไม่เห็นมันพูดอะไรสักอย่าง”




    “แสดงว่าไอ้บ้านั่นก็ไม่รู้เหมือนกันล่ะสิเนี่ย เฮ้อออ”





     

    เฟรมถอนหายใจออกมาเสียงดัง ก่อนที่โทรศัพท์ของร่างสูงจะส่งเสียงเรียกเข้าออกมาดังลั่นโรงยิม เต๋าหันไปส่งสีหน้าปลงๆให้เพื่อนรักก่อนจะเดินมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้า และก็เป็นอย่างที่คิด คชานี่แหละที่โทรมา





     

    “ครับท่าน”




    [มึงงงงงงงงง กูไม่มีสอบอ่ะวันนี้ เขาเลื่อนไปวันอังคารหน้า]




    “แล้วทำไมไม่บอกกูตั้งแต่ทีแรกฮึ?”




    [ก็กูลืมอ่ะ เพิ่งนึกได้เมื่อกี้นี้เอง ไม่น่าล่ะไม่มีใครมาเลยสักคน ไฟก็ไม่เปิด แอร์ก็ไม่เปิด กูก็นึกว่าประหยัดซะอีก”




    “...นี่มึงเข้าไปนั่งรอมาเหรอวะ”




    [ก็เออดิ มารับกูหน่อยนะ น้าาาา]




    “เออ รอแปบ”





     

    ร่างสูงส่งเสียงถอนหายใจออกมาซะยาวเหยียดจนเฟรมหัวเราะลั่น มันเดินเข้ามาตบไหล่เขาแปะๆเป็นกำลังใจก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ให้เขาเซ็งเล่นๆ







     

    “มีแฟนซื่อบื้อก็ต้องทำใจนะมึง”












     

    มีแฟนซื่อบื้อว่าต้องทำใจแล้ว แต่มีแฟนขี้อ้อนแบบนี้ยิ่งต้องทำใจกว่าว่ะ...












     

     

    - - - - - - - - - - - - - - 50% - - - - - - - - - - - - - -













     

     

    “คชาแม่งไม่เคยฟังที่อาจารย์พูดหรอก เขาก็อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาแล้วนะว่าเลื่อนวันสอบอ่ะ มึงก็ยังจะไปโง่นั่งรออีก”




    “ไอ้เฟรม กูก็ลืมบ้างอะไรบ้างเหอะ ตอนเช้ากูยังไม่ตื่นซักหน่อย”




    “เช้าพ่อมึงสิ สิบโมงครึ่งนะได้ข่าว”




    “แดกข้าวไปเลยครับไอ้เหี้ยอ้น”




    “คชาแม่งขี้ลืมเป็นคนแก่”




    “คชาแม่งแก้ตัวเป็นปลาไหล”




    “ไอ้พวกเหี้ยยยยยย เต๋าช่วยกูด้วยยยยย”





     

    คชากอดแขนเต๋าไว้ทันทีที่กำลังจะถูกรุม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่เขามักจะนั่งนิ่งๆเพื่อให้คชาใช้เป็นเครื่องกำบังเวลาสู้ไม่ไหวแบบนี้ แต่ช่วงนี้มันคงไม่ปกติซักเล็กน้อย เพราะไอ้สองเกลอคู่เหี้ยนั่นพร้อมใจกันส่งเสียงร้องแซวออกมาลั่นโรงอาหารวิศวะทันที





     

    “ฮิ๊ววววววววววววววว น้องคชาฟ้องพี่เต๋าซะแล้ว พี่เต๋าอย่ามาตามฆ่ากูนะคั๊บ กูกลัววว”

     





     

    เต๋าส่งสีหน้าเอือมไปให้เฟรมแทบจะในทันที ในใจนึกอยากจะเอาผัดกระเพราของเขาปาอัดหน้ามันไปซักที แต่คิดอีกทีก็เสียดาย เลยได้แต่ชี้หน้าคาดโทษมันไว้แทน ซึ่งไอ้เพื่อนคนนี้มันก็ดันหัวเราะชอบใจเข้าไปกันใหญ่




    คชาแลบลิ้นให้เฟรมพลางกอดแขนเต๋าแน่นขึ้น ซึ่งการกระทำนั้นก็เรียกให้ร่างสูงแปลกใจมากทีเดียว เพราะเขานึกว่าคชาจะผละแขนเขาออกไปตั้งแต่ที่เฟรมเอ่ยแซวคำแรกแล้วเสียอีก เต๋าก้มลงไปมองร่างเล็กที่เกาะเขาหนึบ ก่อนจะต้องอมยิ้มออกมาเมื่อว่าเห็นคชากำลังหน้าแดงแปร๊ด แต่มือก็ยังคงกอดแขนเขาอยู่แบบนั้นโดยไม่ยอมปล่อย





    พักหลังๆมานี้คนตัวเล็กเริ่มจะแสดงออกมากขึ้น ตั้งแต่วันที่เขาบอกรักคชาออกไปคชาก็เริ่มจะแสดงท่าทีแบบนี้ออกมาบ่อยๆ ซึ่งก็ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบ เพราะแบบนี้มันก็เป็นกำไรให้เขาแบบทั้งขึ้นทั้งล่อง แถมยังบอกให้คนรอบข้างได้รู้เป็นนัยๆอีกด้วยว่าพวกเขากำลังคบกันอยู่




    บางทีมันอาจจะมีแค่เต๋าคนเดียวก็ได้ที่โมเมไปแบบนั้น เพราะคชาเองก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไรออกมาสักอย่าง หากแต่ตอนนี้เขาก็ได้ตัดคำว่า ปลอมๆออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้คชาจึงเป็น แฟน ของเขาแบบเต็มตัว ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะต้องการหรือไม่ก็ตาม





     

    “รอยอะไรวะน่ะคชา”




    “หือ...?”




    “ตรงคอมึงอ่ะ ไปโดนยุงที่ไหนกัดมา เฮ้ย เดี๋ยวนะ... หรือว่า...”




    “...”





     

    เฟรมสังเกตเห็นรอยแดงจางๆที่คอของคชา เขาจึงเอ่ยปากถามออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไรมากนักในทีแรก แต่พอได้หยุดคิดหน่อยเท่านั้นแหละ จินตนาการลามกก็ทะลักทะล้นเข้ามาเต็มหัวทันที เจ้าตัวหันมามองหน้าเต๋าสลับกับหน้าคชาจนคอแทบเคล็ด จากนั้นก็โพล่งประโยคจัญไรๆออกมาจากปากหมาๆนั่นทันที





     

    “ตอนเช้า... เอ่อ... พวกมึงจะทำอะไรก็อย่าลืมป้องกันนะ!




    “พ่อมึงเถอะไอ้เฟรม!





     

    เฟรมหลับหูหลับตาตะโกนออกมาก่อนจะวิ่งออกจากโต๊ะอาหารไปทันที ทิ้งไว้แต่เต๋าที่ตะโกนด่าออกไปตามหลังไอ้เพื่อนตัวดีที่คิดอะไรลามกอยู่ตลอดเวลา เขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย (เรอะ?) ก็แค่อดใจไม่ไหวเลยทำรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้นิดเดียวเองนะ ก็ใครใช้ให้คชามายั่วเขาตอนอาบน้ำกันล่ะ ใครที่อดใจไหวก็เก่งเกินคนแล้ว!





     

    “ถุงยางตามเซเว่นก็มีนะพวกมึง รสสตอรเบอร์รี่ที่มึงชอบวางเรียงเต็มชั้นเลยล่ะคชา!





     

    เพื่อนเหี้ยที่นั่งอยู่อีกคนตะโกนบ้างทำเอาสายตาของคนเกือบทั้งโรงอาหารหันมามองทันที ผู้หญิงที่นั่งอยู่พากันหน้าแดง ส่วนผู้ชายก็ผิวปากหวือกันทั้งคณะ ก่อนที่อ้นจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเพราะคชาเตรียมยกแก้วน้ำปั่นขึ้นมาแล้ว





     

    “แม่ง...”





     

    คชาสบถออกมาทั้งๆที่หน้ากำลังขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะตะโกนตามหลังอ้นที่วิ่งตามเฟรมออกไปอีกคนด้วยถ้อยคำที่ทำเอาเต๋าและคนทั้งโรงอาหารนิ่งอึ้งไปนานหลายวินาที









     

    “ปกติพวกกูทำสดตลอด! แต่วันหลังจะลองใช้ถุงยางดูบ้างก็แล้วกันนะ!! ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ!!!









     

    ทำสดเหี้ยอะไร กูมีบุญเข้าไปได้แค่นิ้วเอง!





     

    ร่างสูงได้แต่ประท้วงอยู่ในใจอย่างเจ็บปวด...

     










     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     









     

    “แฮะ สวัสดีครับแม่ สวัสดีครับพ่อ คชามาอีกแล้ว”




    “มาบ่อยๆก็ดีแล้วล่ะตัวเล็ก เพราะถ้าตัวเล็กไม่มา เต๋าก็ไปนอนค้างกับตัวเล็กที่บ้านอยู่ดี”





     

    คชาส่งเสียงทักทายครอบครัวของเต๋าที่นั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวตัวมหึมาตัวเดิม คนตัวเล็กเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับร่างสูง พวกเขาเพิ่งจะเลิกเรียนกันเสร็จ และพอเลิกปุ๊บเต๋าที่มานั่งรออยู่หน้าคลาสก็ลากเขาออกมาทันที





    คุณแม่ของเต๋ายิ้มรับคำทักทายของคชาพลางทักเขากลับด้วยคำสรรพนามที่คชาฟังทีไรก็รู้สึกว่ามันชวนจั๊กกะจี้ชะมัด ตัวล้งตัวเล็กอะไรกันเล่า เขาไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นซักหน่อย วัดครั้งล่าสุดเขาก็ห่างกับเต๋าแค่ห้าเซนติเมตรเองนะ (ได้รองเท้าช่วยไว้เยอะ)





    แม่ของร่างสูงละสายตาออกจากลูกชายคนโปรดอย่างคชาพลางหันไปส่งสายตาและคำพูดจิกกัดให้ลูกชายแท้ๆที่เดินตามคชาเข้ามาติดๆแทน และนั่นก็เรียกให้คุณพ่อของเต๋าที่นั่งอมยิ้มอยู่ส่งเสียงหัวเราะลั่นจนเต๋าถึงกับเหวอ





    ซึ่งแม่ของเต๋าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดเลยสักนิด เพราะมันเป็นความจริงทุกประการ ช่วงนี้ถ้าหากเต๋ากลับมานอนที่บ้านเมื่อไหร่ก็มักจะมีคชาเดินตามเข้ามาด้วยเสมอ และถ้าคชากลับไปนอนที่บ้านวันไหน วันนั้นก็จะต้องมีเต๋าติดสอยห้อยตามกลับไปด้วยเช่นกัน





    บ้านเต๋าก็ยังคงเป็นบ้านหลังโตเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยน พื้นพรมสีขาวสะอาดตาที่ดูหรูเสียจนคชาไม่กล้าเดินย่ำลงไป โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ที่แสนจะไร้ประโยชน์ ทั้งๆที่สมาชิกในบ้านมีกันแค่สามคนเท่านั้นแท้ๆ แต่กลับใช้โต๊ะขนาดถึงยี่สิบคน นอกจากจะเกะกะแล้วยังต้องเหนื่อยและเสียเวลาเพื่อมาทำความสะอาดอีก ว่าแต่เขาก็บ่นซะอย่างกับเป็นคนใช้ของบ้านนี้เลยแฮะ





    แต่เดี๋ยวก่อนนะ สมาชิกบ้านนี้มีกันแค่สามคน รวมสมาชิกจำเป็นแบบเขาเข้าไปถึงยังไงก็ยังมีแค่สี่คนอยู่ดี แล้วทำไมบนโต๊ะถึงมีจานข้าวพร้อมช้อนส้อมตั้งหกชุดวะ สกิลการนับเลขของเขาคงยังไม่ตกใช่มั้ยเนี่ย? และไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องสงสัยนาน คชาเอ่ยปากถามออกไปทันที





     

    "วันนี้มีแขกมาเหรอฮะ ให้คชากลับก่อนดีมั้ย"




    "ตัวเล็กจะกลับก่อนไปทำไมล่ะลูก ทานด้วยกันก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร”




    "แต่คุณแม่มีแขกนี่ฮะ"




    "เราก็คนในครอบครัวนี้นะคชา"





     

    คุณแม่ทำหน้าประมานว่ามีอะไรผิดปกติด้วยงั้นเหรอ ส่วนคุณพ่อของเต๋าที่นั่งเงียบอยู่ในตอนแรกก็พูดโพล่งขัดการสนทนาของสองแม่ลูกคู่ใหม่ขึ้นมาด้วยคำพูดที่ทำเอาคชาหน้าแดงไปถึงใบหู แล้วคุณแม่ก็ปรบมือให้คุณพ่อเบาๆเพราะประโยคที่พูดออกมานั้นโดนใจ




    เต๋ายืนยิ้มกว้างจนหุบไม่ลงเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับของคชา อย่างที่บอกว่าตอนนี้คชาได้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ่อกับแม่ของเขาเอ็นดูคชายิ่งกว่าลูกในไส้อย่างเขาเสียอีก ส่วนนิสัยที่มีเหมือนกันทั้งบ้านก็คือชอบแกล้งให้คชาเขิน เพราะพอคชาเขินแล้วหน้าจะแดง ซึ่งภาพแบบนั้นก็เป็นอะไรที่น่ารักสุดๆ




    ร่างสูงขยับยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อคชายังคงยืนนิ่งพร้อมกับใบหน้าที่เขินอายจนแดงก่ำ ก่อนจะเดินเข้ามาเพื่อลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆและเลื่อนเก้าอี้ให้คนที่ยืนเขินอยู่ได้นั่งลง พลางขยับเลื่อนเก้าอี้ข้างกายคนตัวเล็กสำหรับตัวของเขาเองบ้าง จากนั้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวนู่นนี่ของวันบนโต๊ะอาหารตัวใหญ่ก็เริ่มขึ้นทันที




    มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอที่เต๋าจะเลื่อนเก้าอี้ให้คชานั่ง คุณพ่อกับคุณแม่เห็นครั้งแรกก็ตกใจจนแทบช็อค เพราะไม่คิดว่าหน้าอย่างเต๋ามันจะให้เกียรติใครเป็น ตอนนั้นเลยทำเอาเต๋าน้อยใจผู้ปกครองของตัวเองไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ แต่พอเริ่มเห็นบ่อยๆเข้าก็ชักจะชินตา กลายเป็นว่าถ้าหากวันไหนเต๋าปล่อยให้คชาเลื่อนเก้าอี้นั่งเองจะกลายเป็นเรื่องแปลกไปเสียอย่างนั้น





     

    "แล้วใครมาครับแม่ ทำไมไม่บอกผมก่อน ผมจะได้ไปนอนบ้านคชา"




    "นั่นไง ถ้าบอกแล้วเต๋าจะกลับบ้านมั้ยล่ะ"




    "โถ่แม่ครับ"





     

    เต๋าครางเสียงอ่อยเรียกแม่ตัวเองอย่างยอมจำนน รู้ดีไปหมดทุกเรื่องเลยจริงๆนะแม่เขาเนี่ย แต่มันก็จริงอย่างที่แม่ว่าแหละนะ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นเขาก็ไม่ค่อยได้กลับมานอนที่บ้านซักเท่าไหร่ จนทุกวันนี้ห้องนอนของเขาแทบจะร้างอยู่แล้ว ของใช้และเสื้อผ้าก็ขนไปกองๆไว้ในห้องของคชาซะเกินครึ่ง เพราะวันๆก็เอาแต่ไปค้างกับคชาบ่อยๆนี่แหละ และพอกลับบ้านมาทีไรก็ต้องพาคชามานอนค้างด้วยทุกครั้งไป





    ...ก็คนมันหวงนี่ ไม่อยากปล่อยให้ห่างสายตาเลยสักนาที เป็นไปได้ก็อยากจะย่อขนาดของคชาแล้วเอามาเก็บไว้กับตัวเลยด้วยซ้ำไป





     

    ถ้าทำได้น่ะนะ...





     

    ซึ่งเขาก็ทำไม่ได้ไง ตอนกลางวันก็เรียนคนละคณะคนละเวลากันอีก กว่าจะได้เจอกันก็ต้องรอจนเลิกเรียนนู่น แล้วบางวันก็เลิกเรียนไม่ตรงกัน บางวันคชาก็มีงานวิจัยจนดึกดื่น และบางวันเต๋าก็มีงานโปรเจคจนมืดค่ำ เพราะฉะนั้นตอนกลางคืนเขาก็อยากจะนอนกอดคนตัวเล็กให้หายคิดถึงทั้งคืน อยากจะเป็นคนสุดท้ายที่คชาได้ยินเสียง และอยากจะเป็นคนแรกที่คชาได้เห็นยามตื่นนอน มันอาจจะฟังดูเหมือนเด็กน้อยที่เห่อของเล่นได้แปบๆแล้วก็ทิ้ง แต่เขามั่นใจ ของเล่นชิ้นนี้จะติดตัวเขาไปจนแก่แน่ๆ ถ้าคชายังคงเต็มใจอยู่น่ะนะ




    และพอมองไปยังที่นั่งตรงกันข้ามกับตัวเองก็เห็นเป็นจานอาหารและช้อนส้อมสองชุดวางเรียงเอาไว้หน้าที่ว่างทั้งสองที่ และพอลองคิดๆดูแล้ว เขาก็นึกไม่ออกเลยซักนิดว่าแขกที่มารับประทานอาหารเย็นด้วยกันวันนี้จะเป็นใครไปได้ จึงเอ่ยปากถามแม่ของตัวเองออกไปทั้งๆสายตายังคงจดจ้องไปที่คนตัวเล็กที่นั่งจิบน้ำส้มอยู่ข้างๆแบบไม่วางตา





     

    "แล้วสรุปใครมาเหรอครับ"




    "อดีตคู่หมั้นของแกไงเต๋า"




    "มาทำไมครับ!"




    "แม่จะไปรู้มั้ยล่ะ"





     

    เต๋าได้แต่กัดกรามกรอดพลางขมวดคิ้วแน่น ที่เคลียร์กันไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังไม่เข้าใจอีกหรือไงวะ ถึงจะไม่เชิงว่าบอกปฏิเสธ แต่ที่ทำไปขนาดนั้นก็น่าจะรู้แล้วนี่ว่าเขามีคชาอยู่แล้ว นี่ที่อุตส่าห์ลงทุนเป็นเอดส์ไปเนี่ยไม่ได้ช่วยอะไรเลยสินะ! นอกจากคนอื่นเขาจะเข้าใจร่างสูงผิดๆแล้ว เขายังโดนแม่แท้ๆของตัวเองล้อมาจนถึงทุกวันนี้อีกด้วย! มีลูกเป็นเอดส์แล้วมีความสุขนักหรือไงก็ไม่ทราบเหมือนกันถึงได้ย้ำมันอยู่นั่นแหละ!




    จำได้ว่าวันนั้นคุณพ่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน และดันโชคร้ายบังเอิญมาได้ยินคุณแม่ที่กำลังล้อเขาอย่างสนุกสนานเข้า คุณพ่อแทบจะช็อคกลางอากาศถ้าไม่ติดว่าคุณแม่เขาชิงอธิบายไปก่อนล่ะก็ เย็นวันนั้นที่โต๊ะกินข้าวเลยวุ่นวายกันน่าดู คุณพ่อนั่งอึ้ง คุณแม่พูดย้ำซ้ำๆว่าเขาเป็นเอดส์ และคชาที่นั่งหัวเราะร่า ขนาดว่าเขาหลบไปนอนค้างบ้านคชามาแล้วหนึ่งคืนเพื่อหวังให้เรื่องมันซาๆลงไปบ้าง แต่คุณแม่ก็ยังล้อเขาไม่เลิกอยู่นั่นแหละ





     

    "เอาเป็นว่าแกก็นั่งเงียบๆไปนะเต๋า เดี๋ยวแม่จัดการเอง ตัวเล็กก็เหมือนกันนะ"




    "ครับแม่"





     

    คชาตอบรับในขณะที่เต๋ายังคงนั่งหน้ายู่พลางขมวดคิ้วมุ่น คนตัวเล็กที่ไม่รู้จะทำยังไงดีเลยได้แต่เอื้อมมือไปดึงเอาแขนของเต๋ามากอดเอาไว้เบาๆ ร่างสูงก้มลงมามองอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะต้องคลี่ยิ้มออกมาเสียกว้างเมื่อคชาส่งยิ้มน่ารักๆมาให้ โดยลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อกี้ตัวเองกำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่ รอยยิ้มของคชานอกจากจะมีพลังงานทำลายล้างได้มหาศาลแล้วนั้น ยังสามารถชำระให้จิตใจบริสุทธิ์ได้อีกด้วย





     

    ...ว่าไปนั่น





     

    ขาว่ากันว่าผู้ชายมักจะได้ชัยชนะในเกมส์กีฬาเสมอๆ แต่ต่อให้เก่งมาจากไหนหรือแข็งแกร่งมากอย่างไรสุดท้ายหากได้มาเจอรอยยิ้มของผู้เป็นที่รักแล้วนั้น ก็ต้องแพ้ราบคาบด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงทุกประการ เพราะเขาแพ้รอยยิ้มขอคชาอย่างราบคาบ เอาเข้าจริงก็แพ้มันทุกอย่างนั่นแหละ ไม่เคยจะเถียงชนะคชาเลยซักที!





     

    ไม่เคยได้ยินหรือไง รักจนยอมได้ทุกอย่างน่ะ!





     

    "แม่ล่ะอยากจะหยิบกล้องมาอัดวีดีโอไว้ชะมัด"




    "อะไรครับแม่"




    "ก็แม่ไม่เคยเห็นใครอ้อนแล้วเต๋ายอแบบนี้นี่นา ปกติใครจะอ้อนยังไงถ้าตัวเองไม่ชอบก็จะสะบัดทิ้งไม่ใช่หรือไง แล้วนี่อะไร ตัวเล็กแค่ยิ้มใหหน่อยเดียวก็ยอมแพ้ซะแล้ว"




    "...พูดแบบนี้แม่อยากเห็นครอบครัวผมแตกแยกเหรอครับ"




    "เป็นครอบครัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ มีแต่พ่อกับพ่อ ลูกก็ยังไม่มีเลยสักคน"




    "งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมทำให้นะครับแม่"





     

    เต๋ายักคิ้วให้แม่ตัวเองที่กำลังอ้าปากค้างอย่างไปต่อไม่เป็น ไม่คิดว่าลูกชายสุดที่รักของเธอมันจะหน้าด้านจนกล้าเล่นมุกนี้ออกมาได้ ส่วนคชาก็ตามสเต็ปเดิมนั่นแหละ นั่งอึ้ง ต่อจากนั้นก็หน้าแดง และตามมาด้วยมือเรียวที่ยกขึ้นมาตีแขนเต๋าไปแรงๆหลายๆทีจนร่างสูงร้องลั่น ซึ่งแม่ของเต๋าก็แอบหันไปกระซิบกับพ่อของเต๋าเบาๆว่าลูกชายของพวกเขาแม่งโคตรสำออย ทำเอาพ่อของเต๋าหัวเราะใหญ่ เพราะนานๆทีจะได้เห็นลูกชายที่ควงหญิงเป็นว่าเล่นในสภาพแบบนี้บ้าง




    คชานั่งก้มหน้างุดๆในขณะที่เต๋าและครอบครัวนั่งยิ้มร่าอย่างมีความสุข ทำไมรู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวนี้ทีไรแล้วคชาตกเป็นของเล่นของทุกคนทุกทีเลยนะ! แกล้งกันอยู่นั่นแหละ เขินจนจะระเบิดตัวเองตายอยู่แล้วนะ!




    และในขณะที่บนโต๊ะอาหารกำลังคละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะ คนรับใช้ของบ้านที่คชาเคยเห็นหน้าบ่อยๆก็เดินนำแขกของวันนี้เข้ามาทันที น้องมะนาวที่พวกเขาเพิ่งจะได้เจอไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วส่งยิ้มกว้างอย่างดีใจมาให้คชาและเต๋า ตามมาด้วยคุณแม่ของน้องมะนาวที่มองผ่านๆแค่ครั้งเดียวก็รู้เลยว่าต้องเป็นคุณหญิงคุณนายไฮโซที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแน่ๆ





     

    “สวัสดีค่ะพี่เต๋า พี่คชา คุณลุง คุณป้า”




    “สวัสดีค่ะคุณหญิงและคุณชายเพียงพอ อ้อ น้องเต๋าด้วย สบายดีกันใช่มั้ยคะ”





     

    น้องมะนาวเอ่ยทักเสียงสดใสให้กับคนทั้งสี่บนโต๊ะ ก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงหน้าของเต๋า ส่วนแม่ของน้องมะนาวเอ่ยทักทายเฉพาะครอบครัวเพียงพอเท่านั้น ฟังดูก็รู้ว่าจงใจเมินคชา ซึ่งคนตัวเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว เพราะถ้าไอ้เต๋าจะโดนจับหมั้นจริงๆก็เรื่องของมัน เขาที่เป็นแค่แฟนปลอมๆจะไปทำอะไรได้ล่ะ





     

    แฟนปลอมๆงั้นเหรอ...





    ทำไมอยู่ๆถึงได้เกลียดคำนี้ขึ้นมากันนะ




     

    เต๋าที่กำลังหงุดหงิดสุดขีดเอื้อมมือไปโอบเอวคชาเอาไว้แน่นเมื่อเห็นสายตาของคุณหญิงที่กำลังมองมาทางคนตัวเล็กราวกับจะจิกกัดทางสายตาให้ตายกันไปข้าง เขาว่านะ ไอ้คนที่มีปัญหาน่ะไม่ใช่เจ้าตัวคู่หมั้นอย่างน้องมะนาวหรอก ดูน้องเขาออกจะชื่นชมคชาอย่างบอกไม่ถูก แต่คนที่มีปัญหาน่ะ สงสัยจะเป็นคุณหญิงไฮโซคนนี้เสียมากกว่าล่ะมั้งเนี่ย!




    แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมหมั้นกันล่ะ ก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีคชาอยู่ข้างกายเขาก็อาจจะยอมตกลงเพื่อตัดจบเรื่องราวไปแล้วก็ได้ เพราะน้องมะนาวก็ไม่ได้นิสัยเลวร้ายอะไรนัก แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าเขารักคชา เพราะฉะนั้นต่อให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันยอมหมั้นหรอก!





     

    "พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วก็มากินข้าวกันเลยดีกว่านะ วันนี้แม่ให้ป้าน้อยทำของโปรดของตัวเล็กไว้เยอะเลยแหละ"




    "กินเยอะๆจะได้โตตามเต๋าให้ทันนะลูก พ่ออยากเห็นคชาสูงกว่าเต๋า"




    "สายไปแล้วล่ะครับ ลูกรักของพ่อกับแม่คงไม่มีทางโตไปกว่านี้แล้วล่ะครับ"




    "มะนาวว่าพี่คชาตัวเล็กแบบนี้ก็น่ารักดีออกนะคะ"




    "…ขอร้องล่ะครับเลิกเล่นประเด็นนี้กันซักทีเถอะ ผมล่ะอนาถตัวเอง





     

    หลังสิ้นเสียงของคชา ทั้งโต๊ะอาหารก็พากันส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน เรียกให้คนตัวเล็กที่โดนเล่นงานอยู่คนเดียวหน้าหงิกขึ้นมาทันที อย่างที่เคยบอกว่าตอนนี้คชาเป็นเหมือนของเล่นของคนบ้านนี้ไปแล้ว แม้แต่น้องมะนาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของเต๋าก็ยังเข้ามาผสมโรงด้วยเสียอย่างงั้น ล้อเขาได้ล้อเขาดีทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องน่าอายอย่างส่วนสูง ความจริงเขาก็ไม่ได้เตี้ยอะไรมากมายสักหน่อยนะ! แค่พอยืนคู่กับไอ้เต๋าแล้วเขาก็ดับทันทีเท่านั้นเอง




     
     

    ...ทำไมยิ่งคิดคชายิ่งสงสารตัวเองแปลกๆวะ





     

    บรรยากาศบนโต๊ะกำลังสนุกสนานกันได้ที่ สรุปแล้วน้องมะนาวดันรู้ความจริงเรียบร้อยแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นเอดส์จริงๆตามที่โดนใครบางคนใส่ร้ายป้ายสีเอาไว้ แต่ที่ตอนนั้นทำเป็นเชื่อก็เพราะว่าไม่อยากให้ไอ้ใครบางคนที่ว่านั่นหน้าแหกกลางอากาศเสียมากกว่า




    คชาหัวเราะแหะๆเมื่อถูกจับโกหกได้อย่างจัง คิดขอบคุณน้องมะนาวอย่างสุดซึ้งที่ยอมทำเป็นโง่เชื่อเขาในตอนแรก เธอบอกว่าความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปก่อกวนอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ช่วงนี้แค่ไม่มีอะไรทำก็เลยหาเรื่องไปโวยวายเล่นนิดหน่อยเพื่อสร้างสีสันในชีวิต ซึ่งเต๋าเองก็ขัดออกไปเช่นกันว่ามีแต่สีดำล่ะสิที่สาดลงมาในชีวิตน่ะ





     

    คชารู้สึกเหมือนกรรมตามสนองชอบกล ไปแกล้งคนอื่นเขาไว้เยอะเลยนี่นะ...





     

    ทุกคนกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนนู่นนี่กันอย่างสนุกสนาน เห็นจะมีก็แต่แม่ของอดีตคู่หมั้นของเต๋านี่แหละที่นั่งจิกสายตามาทางคชาอยู่ได้ คนตัวเล็กพยายามทำเป็นไม่สนใจ แต่คุณนายแกก็ยังไม่หยุดสักทีจนเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดี

     




     

    "บุคลิกยังใช้ไม่ได้ ยืนข้างกันมีแต่จะดึงอีกคนให้ตกต่ำซะเปล่าๆ”

     




     

    เสียงแหลมทรงอำนาจตามสไตล์คุณนายที่โพล่งขัดจังหวะขึ้นมากลางป้องเรียกเอาทั้งห้าชีวิตที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานชะงักนิ่งทันที น้องมะนาวที่กำลังจะจิ้มอาหารเข้าปากหันขวับไปมองคุณแม่ของตัวเองอย่างตกใจ ก่อนจะรีบเอื้อมมือไปดึงแขนของแม่ตัวเองเอาไว้แน่นเมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังจะอ้าปากพูดอะไรอีกสักอย่าง





    คชายกมือทั้งสองขึ้นมากุมกันไว้แน่นบนตัก เมื่อคิดตามในสิ่งที่คุณหญิงท่านแล้วพูดมันก็เป็นความจริงทั้งสิ้น ในใจวูบโหวงเหมือนกำลังจะกระโดดลงจากที่สูง ดวงตากลมโตที่หลุบต่ำมาตลอดค่อยๆเหลือบขึ้นไปมองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่จะใจพองโตเมื่อพบว่าเต๋าก็กำลังจ้องมองมาทางเขาอยู่ไม่ต่างกัน




     
     

    "แถมยังเป็นผู้ชายทั้งคู่อีก เพศเดียวกันมารักกันบัดสีที่สุด"





     

    ประโยคที่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ก็ทำเอาความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วทั้งห้องอาหารอีกครั้ง คชานั่งก้มหน้าเงียบในขณะที่เต๋าโกรธจนตัวสั่น คุณพ่อกับคุณแม่ได้แต่นั่งดูสถานการณ์ไปนิ่งๆ ในใจนึกอยากจะเถียงแทนคชาไปใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะถึงตรงหน้าจะเป็นแฟนสุดที่รักของลูกชาย แต่อีกคนที่นั่งทำหน้าดุอยู่นั่นก็มิตรทางการค้าเช่นกัน พวกเขายังไม่จะอยากมีปัญหาทางธุรกิจเพราะเรื่องส่วนตัวหรอกนะ





     

    "คุณแม่คะ! ไหนวันนี้บอกว่าจะมาทานข้าวเพื่อพูดคุยกับพี่เต๋าแล้วก็พี่คชาเพื่อทำความรู้จักกันเฉยๆไงคะ! จะไปหาเรื่องพี่เขาทำไม!"




    "ฉันพูดความจริงทุกอย่าง ไม่เห็นจะไปหาเรื่องตรงไหน น่าสมเพชที่สุด ครอบครัวคงจะตกต่ำมากสินะ พ่อแม่ถึงได้สอนให้ชีวิตนี้คิดแต่จะเกาะผู้ชายกินอย่างเดียว"




    "คุณแม่คะ!"





     

    คชาเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าแม่อดีตคู่หมั้นของเต๋าทันที จะว่าเขาอะไรก็ว่าได้ เพราะเขาไม่คิดมากอยู่แล้ว แต่ถ้าถึงขนาดมาพูดจาดูถูกครอบครัวของเขาโดยไม่เห็นหัวกันแบบนี้มันก็ออกจะเกินไปหน่อย เขามีศักดิ์ศรีพอที่จะหาเงินมาใช้เองได้ ถึงเต๋าจะรวยล้นฟ้าขนาดไหนแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเกาะใครกินไปวันๆอย่างที่โดนกล่าวหา!




    คนตัวเล็กเม้มปากแน่น ในใจก็อยากจะด่าออกไปให้คุณหญิงแกหน้าหงายตกเก้าอี้ไปสักทีเหมือนกัน แต่ก็ยังพอเห็นแก่หน้าของคุณพ่อกับคุณแม่ของเต๋าอยู่บ้าง ดูก็รู้ว่าที่แม่ของอดีตคู่หมั้นมาในวันนี้คงไม่ใช่แค่เพราะเรื่องเขาหรือเต๋าอย่างเดียวหรอก เพราะซองเอกสารสีน้ำตาลซองใหญ่ที่วางกองอยู่ข้างๆคุณพ่อของเต๋าตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาเสียอีก พูดง่ายๆวันนี้ก็คงจะมาเจรจาธุรกิจอะไรบางอย่างกันนั่นแหละ





     

    "สภาพแบบนี้รักกันจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ สงสัยจะสร้างเรื่องขึ้นมาเสียมากกว่าล่ะมั้ง"




    "ผมรักคชาครับ"





     

    ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงแม่ของน้องมะนาวดี เสียงทุ้มต่ำของร่างสูงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหนักแน่นเสียก่อน มือแกร่งเอื้อมมากุมมือนุ่มของคชาเอาไว้แน่นเพื่อย้ำให้กับคนตัวเล็กที่กำลังนั่งตัวเกร็งอยู่ข้างกายให้มั่นใจ และย้ำให้ทุกคนบนโต๊ะได้รับรู้ว่าเขารักคชาจริงๆ





     

    "จะไปกันได้สักกี่น้ำเชียว ไม่มีใครที่ไหนเขาทำใจยอมรับลงหรอกนะ เดือดร้อนอับอายคนรอบข้างเขาซะเปล่าๆ"





     

    เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ของน้องมะนาวพูด อยู่ดีๆคชาก็รู้สึกโหวงแปลกๆในใจขึ้นมาอีกครั้ง จริงอย่างที่หล่อนพูดมาทุกอย่าง ถึงเต๋าจะรักเขา และบางที บางทีเขาก็อาจจะ...รักเต๋าเหมือนกัน แต่สังคมรอบข้างที่ไม่มีใครยอมรับ พวกเขาคงจะไปกันได้ไม่ไกลนัก สักวันเต๋าก็จะต้องมีหน้าที่การงานในสังคม ส่วนเขาก็เหมือนกัน ถ้าหากโลกแห่งความจริงมันจะง่ายดายเหมือนในความฝันก็คงจะดีไม่น้อย




    คชาผิดด้วยหรือไงที่ชอบจะอยู่ข้างๆเต๋า ผิดด้วยหรือที่ชอบที่จะให้คนตัวสูงโอบกอดเอาไว้ด้วยอ้อมกอดแข็งแกร่ง เขาผิดหรือไงที่อาจจะไปหลงรักเต๋าเข้าจริงๆ




    ทั้งๆที่ก็พยายามเตือนตัวเองมาตั้งแต่ทีแรกแล้วแท้ๆว่ามันไม่สมควร เรื่องของเขากับเต๋ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กลับปล่อยให้หัวใจตัวเองถลำลึกมาจนถึงขนาดนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ เขาห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ เอาเข้าจริงก็ไม่คิดจะห้ามเลยด้วยซ้ำ




     

    อ่า...สรุปแล้วนี่เขารักเต๋าไปแล้วจริงๆใช่มั้ยเนี่ย












     

    “ผม...ขอตัวก่อนนะครับ”




    “คชา!












     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     



















     

    มีปัญญาดราม่าได้แค่นี้จริงๆค่ะ Orz
    ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ ขี้เกียจ แต่อันที่จะลงรวมเล่มเราแก้แล้วเรียบร้อย

    ยังเปิดจองรวมเล่มเรื่อยๆนะ สนใจอย่าลืมเข้าไปอ่านรายละเอียด <3


    > คลิก <













     


    16/01/2013
    20 : 58 @USA








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×