ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #31 : SF - SUDDENLY [05]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 55


    © Tenpoints!

     

    SUDDENLY



     

     

    Yesterday, I try to ask you something,

    Then your lip is coming out with the answer that I can’t hear.

    So I wonder if that answer is "NO", what should I do.

    Should I cry? Should I die? Or go crazy and then fly to the sky?

    Better yet, should I kiss myself?

    ...Just don’t mind.






    # PART 5 #

     

     













     

    ผ่านเหตุการณ์สยองที่บ้านเต๋ามาแล้วสองอาทิตย์




     

    ทุกวันนี้ทั้งเต๋าและคชาก็ไม่ได้เปลี่ยนการดำเนินชีวิตไปเลยสักนิด ทั้งสองคนก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าจะถามว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม ก็คงจะมีแค่ความสัมพันธ์ระหว่างกัน และนิสัยเสียอย่างหนึ่งของเต๋าที่ทั้งเฟรมและอ้นก็เพิ่งจะเคยได้เห็นนี่แหละ




     

    แน่นอนว่าความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปก็คือจากเพื่อน...ไปเป็น แฟน




    และนิสัยเสียของเต๋าที่ทำเอาคชาปวดหัวไม่น้อย




    นิสัย ขี้หวง ที่แก้อย่างไรก็แก้ไม่หาย






     

    หากไม่นับนิสัยนี้ที่เพิ่มขึ้นมา ก็เรียกได้เลยว่าทั้งสองคนเหมือนเดิมแทบจะทุกอย่าง แต่แน่นอนว่าคนทั้งมหาลัยเค้ารู้กันหมดแล้วว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ในตอนแรกคชาเกือบโดนดักตบจากแฟนคลับของเต๋า แต่คิดว่าตัวแสบอย่างคชาจะอยู่เฉยๆเป็นนางเอกผู้อ่อนแอยอมให้ตบง่ายๆหรือไง คชาคนที่เคยต่อยลูกอธิการเดี้ยงมาแล้วไม่ยอมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอกน่า



    ถึงตอนนี้คชาก็ยังงงๆบวกไม่แน่ใจเหมือนกัน สรุปว่าเขาเป็นแฟนกับเต๋าแล้วใช่ไหม แต่มันก็เป็นแค่แฟนหลอกๆไม่ใช่หรือไง บางครั้งก็แอบคิดนะว่าพวกเขาทั้งสองคนเดินมาไกลเกินกว่าจะหันกลับไปแล้ว พ่อกับแม่ของเต๋าก็รับรู้และไม่ได้ว่าอะไร ออกจะชอบใจคชาเสียด้วยซ้ำ ส่วนทางแม่คชานั้น ถึงพวกเขาจะไม่ได้บอกออกไปตรงๆ แต่ก็เชื่อว่าท่านเริ่มจะรู้แล้วล่ะ เพื่อนธรรมดาที่ไหนจะเทียวไปเทียวมาหากันได้ทุกวี่ทุกวันขนาดนี้




    คิดไปคิดมาพวกเขาก็ทำตัวยิ่งกว่าคนเป็นแฟนกันซะอีกนะ ตอนแรกที่ตัวติดกันอยู่แล้วก็ยิ่งเข้าไปใหญ่ คิดแล้วก็เริ่มจะสับสนแฮะ...




     

     

    ส่วนวันนี้เป็นวันแข่งบาสวันสุดท้ายของงานกีฬา และไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญหรือเพราะความสามารถกันแน่ ทีมบาสของคณะนิเทศและวิศวะถึงได้เข้าชิงมาแข่งขันกันอีกครั้งในรอบสุดท้าย อีกไม่นานก็จะเริ่มแข่ง เต๋ากำลังไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและวอร์มร่างกาย ส่วนเพื่อนอย่างอ้นและเฟรมเตรียมจับจองที่นั่งข้างสนามแบบ Exclusive วีไอพีไว้แล้วเรียบร้อย เหลือก็แต่แฟนตัวดีอย่างคชานี่แหละที่หายหัวไปอยู่ไหนก็ไม่รู้

     




     

    “ไอ้เหี้ยเฟรม! ไอ้สัสอ้น!




     

    เสียงตะโกนเรียกอย่างรีบร้อนทำเอาเฟรมกับอ้นหันขวับ เรียกชื่อไม่เท่าไหร่แต่คำนำหน้าชื่อนี่มันหน้าจับมาตบกบาลซักทีสองที และก็แน่นอนว่าคนที่จะเรียกพวกเขาอย่างนี้ก็มีแค่คนเดียวเนี่ยแหละ




    คนตัวเล็กกำลังวิ่งเข้ามาหา และเพราะเป็นคชา มันเลยเรียกเอาความสนใจจากใครหลายๆคนในโรงยิมได้ดีทีเดียว

     




     

    “เป็นอะไรมึง หอบเป็นหมามาเลย” เฟรมทักขึ้นมาพลางตบที่นั่งตรงกลางระหว่างตนเองและอ้นเป็นสัญญาณว่านั่งตรงนี้ ให้อารมณ์เหมือนสั่งหมาชอบกลในความคิดของคนรอบข้าง




    “กูโดนอาจารย์เรียกไปคุยเรื่องรูปที่กูหอมแก้มไอ้เต๋า ไอ้เหี้ย เรื่องแค่นี้แม่งทำเป็นเรื่องใหญ่!” คชานั่งปุลงตรงกลางทันที เสียงหอบหายใจหน่อยๆยังคงดังแผ่วๆคลอไปกับคำพูดยาวเหยียดที่คนฟังและคนที่แอบฟังไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กเลยซักนิด




    “กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงดี เอาเป็นว่าไอ้เต๋ากำลังจะแข่งแล้ว” อ้นส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะชี้ไปข้างหน้าให้พวกมันทั้งสองคนหันไปสนใจดูเพื่อนรักของตัวเองซักที




    คชากับเฟรมละความสนใจจากกันและกันมาที่สนาม เสียงกรี๊ดดังลั่นเมื่อทีมบาสของนิเทศเดินเรียงแถวกันเข้ามาอย่างเป็นระเบียบแลดูยิ่งใหญ่อลังการ ยังไม่ทันที่จะได้กวาดตาดูให้ครบว่าใครเป็นใครก็ต้องรีบเอามือปิดหูทันที เพราะเสียงกรี๊ดที่ดังอยู่แล้วยิ่งดังขึ้นไปอีกเมื่อทีมของคณะวิศวะพากันเดินเข้ามา...เป็นฝูง (-_-)




    เฟรมส่ายหัวให้กับทีมของเพื่อนตัวเอง ถ้ามันจะไม่มีระเบียบและวุ่นวายขนาดนี้ แมตนี้พวกมันจะรอดกันมั้ยเนี่ย




    นักกีฬาในสนามวอร์มร่างกายกันนิดๆหน่อยๆก่อนจะเดินเรียงเป็นแถวยาวเข้ามาจับมือกัน และนั่นก็เป็นโอกาสในการทำร้ายร่างกายชั้นดี เพราะแต่ละคนเล่นบีบมืออีกฝ่ายเสียจนกลัวว่ากระดูกจะหักกันไปเสียก่อน




    ไม่รอช้าเกมส์เริ่มขึ้นทันที เมื่อสิ้นสุดเสียงนกหวีดที่แสนจะบาดหู นักกีฬาของทั้งสองทีมก็ออกวิ่งและเข้าประกบอีกฝ่ายตามแผนของแต่ละทีม เสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ที่ดังลั่นสนามทำเอาคชาขมวดคิ้วมุ่น วันนี้เสียงดังกว่าเมื่อครั้งก่อนเสียอีกเว้ย!




     

    “เฮ้...ย ...โถ่ไอ้เหี้ย เพื่อนกู”




     

    พอกำลังจะหันไปบ่นกับไอ้เฟรมและไอ้อ้นก็ต้องปลงตก เมื่อหันไปเห็นพวกมันสองตัวขึ้นไปเต้นเชียร์อยู่บนแสตนเชียร์ชั้นบนเรียบร้อย คชายกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองอย่างเหนื่อยใจ เพื่อนเขามันจะมีสักคนมั้ยที่นั่งเรียบร้อยๆดูแข่งบาสไปเรื่อยๆเนี่ย แค่เสียงที่ดังลั่นโรงยิมก็ทำเอาเซ็งจะแย่ คนที่จะมารองรับอารมณ์เสือกหายขึ้นไปเต้นกันสนุกสนานอีก!




    คชานั่งมองตามเต๋าที่กำลังทำหน้าเครียดอยู่ในสนามไปเรื่อยๆแก้เบื่อ คะแนนตอนนี้สูสีจนเดาไม่ถูกเหมือนกันว่าใครจะชนะ แต่ก่อนที่จะได้เบื่อไปมากกว่านี้สายตาของคนตัวสูงในสนามก็มาหยุดอยู่ที่คชาเสียก่อน คนทั้งคู่สบสายตากันก่อนที่เต๋าจะคลี่ยิ้มกว้าง ส่วนคชาเบ้ปากแบบหมั่นไส้ส่งไปให้แทบจะในทันที




    คนเกือบครึ่งสนามที่เห็นเหตุการณ์นี้บางคนแอบอมยิ้มกับภาพเมื่อกี้และบางคนหมั่นไส้เสียจนทนดูแทบไม่ได้ แต่ก็ต้องพากันหลุดหัวเราะออกมาเมื่อกัปตันทีมบาสอย่างเจมส์วิ่งเข้ามาตบหัวไอ้คนที่มันเสือกมายืนสวีทส่งสายตาหวานเยิ้มให้กันกลางสนามบาสที่พวกเขากำลังแข่งขันกันอยู่เสียจนเต๋าแทบจะหัวทิ่มลงไปกับพื้น

     










     

    ปิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     










     

    เสียงเป่านกหวีดยาวๆทำเอาคชาสะดุ้งเฮือกก่อนจะเริ่มตะโกนด่าไอ้กรรมการที่จงใจเดินเข้ามาเป่าเสียงแหลมๆชวนแสบแก้วหูตรงหน้าเขาทันทีแบบไม่ต้องคิด    




     

    “ไอ้เหี้ยไทด์!!! เป่าหาพ่อง!!




    “อ้าวก็มันหมดครึ่งแรกแล้วนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”




     

    ไทด์ที่เป็นกรรมการหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เห็นคนมาสวีทกันกลางสนามแล้วก็อดจะแกล้งไม่ได้ แถมปฏิกิริยาสะดุ้งสุดตัวของคชาก็น่าขำน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ

     



     

    “คชา!

     




     

    เสียงเรียกของคนตัวสูงเรียกเอาความสนใจของคชาและคนเกือบทั้งสนามให้หันมามองกันเป็นตาเดียว เต๋าเดินเข้ามาตรงหน้าก่อนจะยื่นมือออกมาขอน้ำดื่มและผ้าเช็ดหน้า

     




     

    “เหนื่อยมั้ยมึง”



    “มาก กูวิ่งจะรอบสนามแล้วมั้งเนี่ย”



    “ก็เป็นตัวทำแต้มนี่หว่า ชนะให้ได้ล่ะมึง”




     

    คชาพูดไปในขณะที่ริมฝีปากบางก็อมยิ้มมองตามเต๋าที่ขมวดคิ้วหอบหายใจเพราะความเหนื่อย คนตัวขาวบ่นไปเรื่อยๆสลับกับยกขวดน้ำเย็นขึ้นดื่ม ก่อนที่จะต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อรู้สึกถึงสายตาของใครอีกคนที่ทอดมองมา

     




     

    “มองไรคชา”



    “เปล่า...ก็แค่คิดว่ามึงนี่มันขี้บ่นชะมัด”

     




     

    คชาหัวเราะเมื่อเต๋าทำท่าจะเข้ามาต่อย ก่อนจะทำมือประมาณว่าเข้ามาเล้ยกูไม่กลัวมึงหรอก คนตัวเล็กเอานิ้วจิ้มๆที่มุมปากตัวเองแล้วยื่นไปข้างหน้าอย่างท้าทายพลางส่งยิ้มกวนตีนไปให้ และไม่รอช้า เต๋าลงมือ ต่อยปาก คชาทันที

     















     

    โดยใช้ปากต่อยอ่ะนะ...















     

    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!



    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!



    “อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!











     

    เสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นโรงยิมอีกครั้งเหมือนเดจาวู คชาสตั้นไปสามวิก่อนจะรู้สึกตัวแล้วรีบผลักเต๋าออกอย่างรวดเร็วแบบสายฟ้าแลบ คนตัวเล็กหน้าแดงหูแดงจนเต๋าที่สังเกตเห็นขำออกมาเสียงดังลั่นอย่างมีความสุข





    ไอ้คนที่เพิ่งจะทำการ ต่อยปาก คนตัวเล็กไปนั้นเดินเข้าไปลูบหัวกลมๆนั่นอีกครั้ง แล้วเดินลงสนามไปด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มจนน่าหมั่นไส้และหัวใจที่พองโตจนแทบทะลัก เพื่อนในทีมรวมถึงทีมตรงข้ามมองตามคนตัวสูงอย่างอิจฉา และก็เป็นไอ้เจมส์เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เดินเข้ามาตบหัวเขาพลางเอ่ยแซวเป็นลูกคู่ไปกับเพื่อนคนอื่นในทีม โดยที่ไม่ได้ล่วงรู้เลยซักนิดว่าไอ้คนที่เพิ่งโดน ต่อยปาก ไปเนี่ยมันกำลังรู้สึกยังไงอยู่






     

    กูใจเต้นตึกตักไปหมดแล้วไอ้เต๋า!






     

    คชาพยายามทำหน้านิ่งๆแต่แก้มดันแดงจนลามไปถึงใบหู สัมผัสหนักๆที่กดลงมาตรงริมฝีปากยังคงติดอยู่ไม่จางหาย พอคิดได้มือทั้งสองข้างก็ถูกยกขึ้นมากุมแก้มไว้อย่างน่ารักทันทีโดยไม่ต้องสั่ง หัวใจเต้นตึกตักๆอย่างแรงจนกลัวว่ามันจะกระโดดออกมาจากอกแล้วกลิ้งกระเด็นกระดอนตามหลังไอ้เต๋าลงสนามไปเสียก่อน




    ในชีวิตนี้ตั้งแต่เกิดมาจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วเนี่ย สารภาพได้เลยว่าไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง ก็เลยไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกปั่นป่วนแบบนี้ยังไงดี ได้แต่คิดไปถึงตอนที่ตัวเอง ต่อยแก้ม ไอ้เต๋าไปเมื่อตอนที่มันเสือกมาขอกำลังใจในเกมส์ครั้งที่แล้ว ไม่รู้ว่าอีกคนจะรู้สึกใจเต้นรัวเหมือนตีกลองแบบนี้มั่งรึเปล่า









     

    แต่ว่าตอนนี้คชาเริ่มจะหายใจไม่ออกแล้วล่ะ...








     

    “ไอ้เฟรม! อย่ารัดคอกู๊!



    “ไอ้เหี้ยคชา! มึงกับไอ้เต๋ามันจะสวีทเกินหน้าเกินตากูกับน้องแพรวาไปล่ะนะ!



    “ไอ้อ้น! แกะเหี้ยเฟรมออกไปที!



    “กูไม่ยุ่งครับงานนี้ เคลียร์กันเอาเอง กูจะดูแฟนมึงแข่งบาส เนี่ยกำลังมันส์ สกอร์แม่งสูสี งานนี้พลาดไม่ได้ ไอ้เฟรมมึงเค้นอะไรมาได้แล้วอย่าลืมบอกกูด้วย ขอบใจ”



    “ไอ้เพื่อนทรยศ!! เชี่ยเฟรมปล่อยกูวววววววววววววววววววววววววววววววว!!!

     










     

     
     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    “หกสิบหกต่อห้าสิบสอง! วิศวะชนะขาดแบบใสๆ!



    “เยสสสสสสสสสสสสสสสสส!





     

    บรรยากาศในโรงยิมผสมปนเปไปทั่ว ทั้งความดีใจ เสียใจ สะใจ รวมถึงอิจฉาใครบางคนที่พอตัวเองชู๊ตลูกสุดท้ายลงปั๊บพร้อมกับเวลาที่หมดลงพอดีปุ๊บ ก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปกอดอีกคนที่นั่งเชียร์อยู่ข้างสนามทันทีแบบไม่รออะไรทั้งสิ้น




     

     “ไอ้เต๋า! อะไรของมึงเนี่ย!” คนโดนกอดแน่นไปทั้งตัวเลยได้แต่โวยวายเสียงดังทั้งๆที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศ



    “หืม ขอโทษทีว่ะ ลืมตัว” และแน่นอนว่าไอ้คนกอดมันก็หน้าด้านพอที่จะอ้างเหตุผลปัญญาอ่อนเพื่อที่จะได้ฉวยโอกาสกอดอีกคนต่อไป



    “ลืมตัวพ่อง! ปล่อยได้แล้วเว้ย!



    “เรื่องอะไรจะยอมปล่อยล่ะ”

     






     

    คนตัวเล็กดิ้นยุกยิกอยู่ในอ้อมกอดที่เริ่มรัดแน่นขึ้นอยู่นานสองนานก็ไม่เห็นท่าทางว่าจะรอดออกไปไหนได้ สุดท้ายคชาก็เลยได้แต่ปล่อยให้มันเลยตามเลย ยอมให้คนตัวสูงกอดต่อไปเรื่อยๆกลางโรงยิมนั่นแหละ และพอเต๋าเห็นว่าคชาไม่ได้โวยวายอะไรแล้วก็เริ่มจะได้ใจขึ้นมาทันที ร่างสูงจับคนตัวเล็กในอ้อมกอดให้หันหน้าออก จากนั้นคางคมจึงวางเกยลงบนลาดไหล่เล็กอย่างอารมณ์ดี




    และเมื่อทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอกัดมันซักหน่อยเถอะ

     




     

    “มึงนี่...นับวันยิ่งฉวยโอกาสนะ”



    “นิดๆหน่อยๆเองน่า มึงไม่เห็นสายตาที่ไอ้พวกนิเทศมองมึงหรือไง”



    “ทำไม หวงเหรอ”



    “หวงสิ! แฟนกูทั้งคน”






     

    แค่ถามเล่นๆแบบไม่ได้จริงจังอะไรนัก แต่คำตอบที่ได้กลับมาพร้อมกับอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นทำเอาคชาหัวใจเต้นรัว เลยได้แต่ยืนหน้าแดงอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงนั่นแหละ

     




     

    ไอ้เต๋า ทำอะไรเห็นใจคชาบ้างเถอะ!

     




     

    และเมื่อจบการแข่งขัน พวกเขาทั้งหมดก็พากันเดินออกมาจากโรงยิมอย่างสบายอารมณ์ เพราะนอกจากจะชนะการแข่งขันบาสครั้งนี้แล้วยังได้ความสะใจกลับมาอีกต่างหาก ความจริงครั้งที่แล้วถ้าพวกนิเทศมันไม่เดินหนีออกไปก่อนล่ะก็ แน่นอนว่าทีมวิศวะของเขาก็ไม่มีทางแพ้หรอกว่ะ แถมครั้งนี้เขายังมีกำลังใจดีอีกต่างหาก คิดไปก็พลางมองตามคนตัวเล็กที่เดินนำหน้าอยู่แบบไม่ละสายตาไปพลาง จนไอ้เฟรมที่เดินอยู่ข้างๆตบไหล่ปุๆเรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง

     




     

    “มองตามซะหวานหยดเชียวนะมึง”



    “อะไร ใครมอง”



    “มึงนั่นแหละ ไหนว่าแกล้งเป็นแฟนหลอกๆ ตบตาแม่มึงไม่ใช่รึไง”



    “หึ มีมันคนเดียวนั่นแหละที่คิดแบบนั้น”



    “ซื่อบื้อชะมัด”

     




     

    เฟรมว่าแบบนั้นแล้วเดินแซงหน้าเขาขึ้นไปตบหัวคชาอย่างแรง และหลังจากนั้นก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สามแบบย่อมๆขึ้นมาทันที ไอ้อ้นที่เดินตามหลังอยู่ในตอนแรกเลยต้องขยับเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปแยกพวกมันทั้งสองตัวออกจากกันแทบไม่ทัน คนผมยาวส่ายหน้าแบบปลงๆก่อนจะลงมือตบหัวคชากับเฟรมไปคนละทีแบบไม่เบานัก และแล้วพวกมันก็เริ่มวิ่งไล่จับกับเป็นพัลวันเหมือนเด็กอายุสามสี่ขวบก็ไม่ปาน




    ...ใครกันแน่ที่ควรจะปลงวะ เขาว่าในสี่คนนี้เขาปกติที่สุดแล้วว่ะ ไอ้อ้นที่ดูจะเป็นการเป็นงานแต่พออยู่กับไอ้เฟรมไอ้คชาเมื่อไหร่เป็นต้องทำตัวปัญญาอ่อนตามไปด้วยทุกที

     



     

    “คชา วันนี้ไปกินข้าวเย็นบ้านกูนะ”

     



     

    อยู่ดีๆก็อยากให้มันมาทานข้าวเย็นด้วยกันอีกครั้ง เลยเอ่ยปากชวนขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คชาที่กำลังพยายามจะกัดหัวไอ้เฟรมอยู่เลยต้องหยุดไปโดยปริยาย คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาแม่ พอปลายสายกดรับก็ยื่นให้เต๋าเอาไปคุยแทน




    เต๋ายกยิ้มก่อนจะรับเอาโทรศัพท์ไปคุย เรียกความสงสัยจากเฟรมแล้วก็อ้นที่เดินมาด้วยกันให้ต้องเอ่ยปากถามขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

     




     

    “ทำไมต้องให้ไอ้เต๋าคุยวะ”



    “เออ ทำไมวะ”



    “เสือกจริงนะพวกมึง”



    “บอกมาเหอะน่า”



    “เฮ้อ มึงจำวันที่กูไปแดกเหล้ากับมึงได้มั้ยไอ้เฟรม”



    “ได้ดิ วันที่มึงเมาปลิ้นเป็นหมาอ่ะ คลิปยังอยู่ในคอมกูอยู่เลย” เฟรมพยักหน้าก่อนจะทำท่าล้อเลียนคชาที่เมาแล้วกลายเป็นสัตว์สี่เท้าทันทีจนโดนตบหัวไปหนึ่งฉาด



    “ไอ้สัส ยังจะเก็บไว้อีกนะมึง” คชาหันไปด่าเฟรม ก่อนจะทำท่าเหมือนจะเข้าไปตบหัวไอ้เฟรมอีกครั้งเมื่อมันดันเสือกทำท่าล้อเลียนเขาไม่เลิก “แต่นั่นแหละ วันนั้นกูโกหกแม่ว่าไปกินข้าวเย็นกับบ้านไอ้เต๋า แล้วทีนี้ไอ้เต๋ามันเสือกไปหากูที่บ้าน แม่กูเลยรู้ว่ากูโกหก แล้วหลังจากนั้นถ้าจะอ้างอะไรไอ้เต๋าก็ต้องให้มันคุยแทนตลอดแหละ”



    “โถน่าสงสารรรรร”



    “หุบปากไปไอ้เหี้ย!

     




     

    เฟรมหัวเราะดังลั่นทันทีที่สามารถทำให้คชาอารมณ์เสียได้ ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่คนกำลังเดินไปที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย ดวงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้าสมกับเวลาหกโมงเย็นกว่าๆ




    ร่างสูงเดินเข้ามาพลางยื่นโทรศัพท์คืนให้คชา มันพยักหน้าจะบอกเป็นทำนองว่าเรียบร้อยแล้ว พอมองหน้าตากวนตีนของมันแล้วก็อดที่จะเซ็งแม่ตัวเองนิดๆไม่ได้ ไว้ใจมันยิ่งกว่าลูกแท้ๆอย่างเขาเสียอีก เพราะตั้งแต่ที่มันเริ่มมาปลุกเขาที่บ้านในทุกๆตอนเช้าเพื่อที่จะมามหาลัยด้วยกันแล้วนั้น มันก็เริ่มที่จะตีสนิทกับแม่ของเขามากขึ้นเรื่อยๆทีละนิดๆ และไม่ต้องเดาอะไรให้เสียเวลา ตอนนี้ลูกแท้ๆอย่างเขาก็ตกกระป๋องไปแล้วเรียบร้อย




    เมื่อเดินกันมาถึงที่ลานจอดรถ พวกเขาก็เอ่ยลากันเล็กๆน้อยๆ ก่อนที่เฟรมกับอ้นจะเดินแยกออกไปที่รถของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินตามไอ้เต๋าต้อยๆมานั่งรถมันเหมือนเดิมนี่แหละ ตอนนี้รถเขาคงจะเป็นง่อยอยู่ในบ้านไปแล้วล่ะมั้ง เพราะตั้งแต่ที่เป็นแฟนกับมันมา รถเขาก็ไม่ได้ถูกขับออกมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา




    คชาก้าวขึ้นมานั่งบนเบาะด้านหน้าข้างๆร่างสูงตามปกติ เหมือนว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วที่จะต้องมีสารถีคอยขับรถไปส่งที่บ้าน แต่วันนี้คงไม่ปกติซักเล็กน้อยเพราะเขาต้องไปกินข้าวเย็นที่บ้านมันแทน พูดถึงแล้วก็ยังคงสยองกับสายตาพิฆาตของแม่มันไม่หาย ถึงคุณนายแกจะแค่ล้อเล่นเพื่อแกล้งเขาก็เถอะนะ แต่แบบนั้นก็พาลเอาหัวใจจะวายได้เหมือนกัน

     





     

    “กูบอกแม่มึงไปว่ามึงจะค้างนะ”

     





     

    ไอ้เต๋าครับไอ้เต๋า จะทำอะไรถามความเห็นเขาบ้างก็ได้ คิดเองเออเองตลอดมา ให้ตายสิ!




    คชาหันไปมองหน้าคนพูดพร้อมกับส่งสายตาปลงๆไปให้มันแล้วพยักหน้ารับไปแบบเอือมๆ เลยโดนขยี้หัวซะแรงจนผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เรียกเสียงโวยวายคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะให้ดังลั่นรถคันหรูที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกสู่ถนนใหญ่ มุ่งหน้าไปสู่บ้านหลังโตของคนขับทันที

     










     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    คชาก้าวลงจากรถแล้วเดินตามหลังคนตัวสูงเข้าไปในบ้านต้อยๆอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาบ้านไอ้เต๋า เพราะปกติจะเป็นมันนั่นแหละที่เดินเข้าออกบ้านเขาเหมือนกับว่ามันเป็นบ้านของตัวเอง




    ในบ้านก็ยังคงสวยสดงดงามเริดหรูอลังการงานสร้างเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน คชาแทบจะไม่กล้าเหยียบลงไปบนพรมผืนใหญ่สีขาวสะอาดตาของมันเลยด้วยซ้ำ ถึงมันจะนุ่มจนน่าลงไปกลิ้งนอนก็เถอะนะ เพราะกลัวว่าถ้าหากไปทำเลอะขึ้นมาเขาจะไม่มีเงินจ่ายค่าชดใช้เอาน่ะสิ นี่ขนาดแค่แดกแหวนของมันเข้าไปวงเดียวก็ไม่รู้จะชดใช้ยังไงแล้วนะ




    พูดถึงแหวนแล้วคชาก็อยากจะกุมขมับ เขาไปให้หมอเอ็กซ์เรย์ดูแล้วก็ปรากฏว่าไม่เจอแม้แต่เศษซาก ไม่รู้ว่ามันไปหลบอยู่ตรงไหน และพอรู้เรื่องไอ้เต๋าก็โวยวายซะลั่นโรงพยาบาล ซึ่งเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะดันเสือกเป็นคนผิดเต็มๆ จะไปด่ามันกลับก็ใช่ที่ ในใจก็ได้แต่คิดไปว่าเผลอๆแหวนของมันอาจจะโดนน้ำย่อยเปบซินในกระเพาะของเขาย่อยสลายไปผสมกับเม็ดเลือดแดงแล้วพากันกระจายเข้าสู่หัวใจไปแล้วก็ได้




    แต่พอคิดไปคิดมาความน่าจะเป็นเลยไปตกอยู่ที่ไส้ติ่ง หมอบอกว่าไม่แน่มันอาจจะไหลลงไปตรงนั้น แต่หายังไงก็หาไม่เจอ สรุปหมอเลยบอกว่าให้รอดูอาการไปก่อน ถ้าเกิดอาการปวดท้องจนจะขาดใจเมื่อไหร่ก็ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที




    ตอนจะกลับหมอก็ยังไม่วายมองหน้าเขาด้วยสายตาสมเพชสุดชีวิตอีกด้วย อะไรวะ! กูแค่โง่แดกแหวนลงไปวงเดียวเองนะ!

     







     

    เต๋าเดินนำคชาไปที่โต๊ะกินข้าว เพราะตอนนี้เป็นเวลาทานอาหารเย็นของบ้านหลังนี้พอดี เห็นแม่ของร่างสูงกำลังนั่งรออยู่ก่อนแล้วบนเก้าอี้ที่หรูหราพอๆกับโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ แต่ดันใช้พื้นที่วางอาหารจริงๆไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ คชาล่ะไม่เข้าใจคนรวยจริงๆนะ จะฟุ่มเฟือยกับเรื่องพรรค์นี้ไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ใช้แค่โต๊ะตัวเล็กๆให้พอดีกับคนในบ้านมันจะตายหรือยังไง




    ร่างเล็กค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับแม่ของเต๋า ตามมาด้วยร่างสูงที่จับจองที่นั่งข้างคชาแบบไม่ต้องคิด ก่อนคนตัวเล็กจะยกมือขึ้นมาไหว้คุณนายหญิงที่เกือบจะทำเขาหัวใจวายตายไปรอบที่แล้ว แม่ของเต๋าส่งยิ้มบางๆให้คชา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทานอาหารเย็นกัน




    พ่อของเต๋าไม่อยู่บ้านเพราะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ บนโต๊ะอาหารเลยมีเหลือกันเพียงแค่สามคนเท่านั้น ยังดีว่าครั้งนี้แม่ของร่างสูงไม่ได้แกล้งอะไรให้คชากลัวจนหัวหดแบบครั้งที่แล้ว เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะจึงดังขึ้นรอบโต๊ะโดยสองแม่ลูกคู่ใหม่ที่เข้าขากันเป็นอย่างดี เรียกเอารอยยิ้มจากเต๋าที่นั่งดูอยู่ได้ดีทีเดียว เพราะถ้าหากแม่เขาชอบคชาแล้วล่ะก็ อะไรๆมันก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะแบบไม่ต้องสงสัย




    บทสนทนาของคชากับแม่ของร่างสูงส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับคนที่นั่งอมยิ้มเป็นคนบ้าอยู่นี่แหละ แม่ของเต๋าถามเรื่องนู้นเรื่องนี้เกี่ยวกับเต๋าเต็มไปหมด บางคำถามคนตัวสูงยังไม่รู้คำตอบเลยด้วยซ้ำ เลยได้แต่นั่งนิ่งทอดมองคชาอย่างแปลกใจที่มันเสือกตอบได้หมดทุกคำถามแบบไม่ต้องหยุดคิดสักนิด แล้วพอประมวลผลเสร็จจากยิ้มที่กว้างอยู่แล้วก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีกเพราะเริ่มตระหนักได้ว่าคชาสนใจในตัวของเขามากขนาดไหน

     




     

    “วันนี้ตัวเล็กค้างรึเปล่าลูก”



    “ค้างฮะ เต๋ามันบังคับให้ค้าง”



    “อ้าวคชา!

     




     

    เต๋าโวยวายเมื่อคชาดันใส่ร้ายเขาซะงั้น ว่ากันตามความจริงก็ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรหรอก แต่เขาไม่ได้บังคับนะเฮ้ย ขอแก้ข่าวเลย เขาแค่มัดมือชกเท่านั้นเอง (ต่างกันชิบหาย)

     




     

    “งั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำก่อนไปลูก ขอแม่คุยอะไรกับเต๋าหน่อยนะ”



    “ฮะ”

     




     

    คชาตอบรับแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาก้มลงมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่เล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มให้เมื่อเต๋าเงยหน้าขึ้นมาสบตา ร่างสูงที่โดนโจมตีด้วยรอยยิ้มน่ารักเลยจัดการดึงคชาให้ลงมานั่งที่ตัก แล้วขโมยหอมแก้มใสไปแรงๆเสียทีหนึ่ง

     




     

    “ไอ้เต๋า!!



    “อะไรครับ”

     




     

    คชารีบเด้งตัวลุกขึ้นจากตักของคนตัวสูงทันที ใบหน้าใสแดงก่ำเป็นมะเขือเทศ เขินทั้งตัวเอง เขินทั้งไอ้เต๋า แถมยังมีแม่ไอ้เต๋าที่มองมาด้วยอีกคน ไอ้สัสนี่ จะทำอะไรก็คิดถึงใจคชาบ้างเถอะ เต้นแรงจนจะตายอยู่แล้วนะ!




    เต๋าอมยิ้มพลางมองตามแผ่นหลังเล็กๆที่กำลังตีลมชกอากาศไปอย่างเอ็นดู ก่อนจะต้องหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงกระแอมไอของแม่ตัวเอง

     




     

    “อะแฮ่ม!



    “มีอะไรครับแม่”



    “จริงจังรึไงคนนี้”



    “ก็มากกว่าที่แล้วๆมาแล้วกันครับ”

     




     

    เมื่อได้ฟังคำตอบแม่ของเต๋าก็พยักหน้ารับรู้ ถ้าหากเต๋าคิดจะจริงจังล่ะก็ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายเธอก็คงจะไปห้ามอะไรไม่ได้หรอก ซึ่งคชาก็เป็นเด็กดี หน้าตาก็น่ารักและไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก เธอก็ขอตามใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้แล้วกันนะ ถึงคนอื่นในแวดวงสังคมจะมองอย่างไรก็เถอะ แต่ถ้าหากเต๋าเลือกแล้วก็ต้องรับกับสายตาของคนรอบข้างให้ได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นปัญหาของเต๋ากับคชา ถ้าไม่รักกันจริงหรือรับไม่ไหวก็คงจะเลิกกันไปเองนั่นแหละ

     




     

    “เริ่มไปชอบเขาตอนไหนล่ะเนี่ย”



    “สองอาทิตย์ที่แล้ว... เอ่อ ไม่ใช่ๆ สองเดือนที่แล้วครับ”



    “ช้าไปแล้วล่ะเต๋า คิดว่าแม่ไม่รู้หรือไงห้ะ”



    “แม่รู้ได้ยังไงครับ”



    “เอาเป็นว่าแม่รู้ก็แล้วกัน รู้จักกันยังไม่ถึงเดือนเลยนะ แม่ถึงได้ถามไงว่าคนนี้จริงจังรึเปล่า”



    “...มากที่สุดในโลกครับแม่”






     

    เต๋ายิ้มให้กับแม่ของตัวเอง การที่ได้พูดความจริงออกไปมันก็ทำให้เบาใจลงไปมากทีเดียว อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งระวังหน้าระแวงหลังอะไรอีกแล้ว และก็ตามที่เขาพูดไปนั่นแหละ เขาจริงจังกับคชา มากที่สุดในโลก

     



     

    แม่ของเต๋ายิ้มตอบ ถ้าลูกมันจะยังยืนยันขนาดนี้ก็คงต้องตามใจ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเสียหายในสายตาคนเป็นแม่อยู่แล้ว แต่ที่เธอเรียกให้เต๋าอยู่ก่อนก็เพราะมันมีปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งเธอคิดว่าถ้าคชาอยู่ฟังด้วยล่ะก็ คนตัวเล็กจะต้องคิดมากแน่ๆ

     




     

    “เด็กที่แม่เคยไปคุยเรื่องหมั้นกับลูกไว้น่ะ วันนี้ทางแม่เขาโทรมา บอกว่าต้องการจะหมั้นต่อ”



    “แต่แม่ยกเลิกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ!



    “แม่ยกเลิกไปแล้ว ทางนั้นตอนแรกก็ตกลงดีอยู่หรอก ดูจะไม่อยากหมั้นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆถึงโทรมาบอกว่าไม่ให้ยกเลิกซะอย่างนั้น”



    “แม่ก็ทำอะไรสักอย่างสิครับ”



    “แม่พยายามแล้วนะเต๋า แต่ทางนั้นก็เอาแต่ตะโกนเย้วๆว่าจะหมั้นต่อท่าเดียว ถ้าให้แม่เดาล่ะก็ ตอนแรกคงจะคิดว่าลูกหน้าตาน่าเกลียดไม่มีใครเอาจนต้องหาคู่หมั้นให้ล่ะมั้ง แต่พอได้เห็นหน้าลูกจริงๆแล้วก็คงจะนึกเสียดายล่ะนะ”



    “แม่ครับ มันไม่ตลกเลยสักนิดนะ”



    “แม่รู้ ใครว่าแม่ตลกล่ะ ไม่ต้องห่วงน่า เดี๋ยวจัดการให้ แค่เอามาบอกให้รู้ไว้เท่านั้นแหละ”



    “ขอบคุณมากนะครับแม่”



    “ดูแลตัวเล็กให้ดีล่ะเต๋า”



    “ด้วยเกียรติเลยครับ”

     

     









     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------










    ตอนที่ห้าจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา - w -
    เรื่องกระดึ๊บๆมาอีกนิดนึง #นิดจริงๆ555555555555
    ตอนหน้ามีฉากงดออกสื่อนะฮะ อิอิอิอิอิอิอิ 
    สรุปว่าจะให้เราเอาลงบล็อคช้ะ หรือว่าไง ลิ้งค์โหลด? ส่งเมล? ว่ามาๆๆ

    เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว เรื่องต่อไปปั่นไปได้แค่สิบกว่าหน้า ทำไงดี ; w ;
    พยายามจะแต่งให้ทันคริสมาส แต่ไม่สามรถจริงๆ ผลัดไปก่อนละกันนะ 55555

    ส่วนตอนนี้ พวกท่านกำลังฟินกับเต๋าคชาแอดสะเมิงกันอยู่ใช่หรือไม่!
    เราอยู่ไกลยังฟินเลย อยากได้รูปคู่มากระตุ้น 5555555555555

    เจอกันตอนหน้า ขึ้นปีใหม่นะจ้ะ จุ้บๆ > 3 <

    ป.ล. ใครก็ได้กดวิจารณ์นิยายให้หน่อยจิ ; _ :
    ป.ล.2 เม้นด้วยนะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ

    ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ <3











     

    20/12/2012
    23:50 @MN,USA
















     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×