ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #29 : SF - SUDDENLY [03]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 55


    © Tenpoints!







    SUDDENLY





    I start again and whatever pain may come.
     

    I will face myself  , to cross out what I have become.


    Erase myself, and let go of what I've done.


    Today is the ends and I Just FORGIVING myself.



















     

    “คชา ตื่นเร็ว ถึงแล้ว”


    “ทำไมวันนี้คชามากับมึงวะไอ้เต๋า”


    “เออ มีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวกูอธิบายทีเดียว”




     

    คชางัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงที่ดังอยู่ข้างหู พอลืมตามาก็เห็นเต๋ากำลังยืนจ้องหน้าตัวเองอยู่จากนอกรถ เจ้าตัวเล็กเลยรีบลุกขึ้น ก้าวออกจากรถไปนั่งที่โต๊ะประจำที่มีเฟรมกับอ้นนั่งรออยู่ก่อนแล้วแทน



    พวกเขาทั้งสี่คนอยู่คนละคณะกันก็จริง มีแค่คชากับเฟรมที่เรียนคณะเดียวกันคือแพทย์ เต๋าเรียนวิศวะส่วนอ้นเรียนสถาปัตย์ แต่ทั้งสามคณะนี้มันจะมีลานกว้างที่เป็นของใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลาง พวกเขาทั้งสี่ก็จะมานั่งรวมกันตรงนี้แหละ ตึกเรียนของแพทย์อยู่ด้ายซ้าย วิศวะอยู่ตรงกลาง และตามด้วยสถาปัตย์ที่อยู่ด้านขวา



    เหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนจะเข้าเรียน เต๋าเลยให้แยกย้าย แล้วเดี๋ยวมาเจอกันอีกทีตอนเที่ยง ตอนนั้นแหละที่เขาจะเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง รวมถึงตกลงกับคชาในหลายๆเรื่องด้วย

     

     








     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     








     

    “เหี้ย!!


    “เออ กูรู้ว่ามันเหี้ย แต่มันก็สายไปแล้วล่ะพวกมึง”



     

    อ้นกับเฟรมตะโกนเสียดังเมื่อเต๋าเล่าเรื่องทั้งหมดจบ เลยโดนคชาใช้คำพูดและสายตาจิกให้พวกมันรู้ตัวซักทีว่าพวกมึงนั่นแหละที่ผิด






     

    แต่ก็ไม่มีใครสำนึกซักคน...!






     

    จนถึงตอนนี้คชาก็ยังไม่อยากจะรับความจริงอยู่ดี ให้ตายเถอะ



    เที่ยงนี้พวกเขาทั้งสี่ออกมานั่งกินข้าวกันที่โรงอาหารของคณะแพทย์ คณะที่คชากับเฟรมเรียนอยู่ เป็นโชคดีที่พวกเขาต่างก็ว่างตอนบ่ายเหมือนกันทั้งหมดทุกคน เต๋าเลยอาศัยโอกาสนี้มาขอคำปรึกษาจากเพื่อนอีกสองคนทันที





     

    “เอาไงดีวะ คือแม่กูรับได้ก็จริงอ่ะนะที่กูจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่มีแฟนเป็นผู้ชายนี่มันต้องทำอะไรบ้างวะ เหมือนเป็นแฟนกับผู้หญิงมั้ย? แล้วมันต่างกันยังไง แล้วกูต้องทำตัวแบบไหนวะ” เต๋าถามอย่างกังวล นั่นทำให้คนที่เหลือหันมามองเต๋ากันขวับ สายตาที่ใช้มองสื่อประมาณว่า นี่มึงห่วงแค่ประเด็นตรงนี้ช้ะ?’




    “นั่นแหละที่กูเพลีย! ชีวิตทุกวันนี้กูสู้อุตส่าห์พยายามหลบตัวผู้ที่เข้ามาม่อกูอยู่ทุกวัน แล้วนี่มันอะไรกันวะ! ทำไมกูถึงได้มีแฟนเป็นผู้ชาย! แถมยังเสือกเป็นเสือผู้หญิงแบบไอ้เต๋าอีก!” คชาตวัดสายตาไปมองเต๋า เน้นเสียงตรงประโยคสุดท้าย แถมยังมีการแยกเขี้ยวขู่เต๋าฟ่อๆอีกต่างหาก

     



     

    เฟรมกับอ้นได้แต่ถอนหายใจหน่ายๆพลางมองไปที่พวกมันสองคน มันทะเลาะกันอยู่ก็จริงอ่ะนะ แต่ดูสภาพดิ ไอ้เต๋านั่งแกะกุ้งแล้วป้อนเข้าปากคชา ส่วนคชาก็คอยเอาทิชชู่เช็ดมือให้ไอ้เต๋า

     





     

    ...เอ่อ สภาพนี้มันอะไรกันวะ

     






     

    ไอ้แบบเนี้ย...มันพฤติกรรมของคนเป็นแฟนกันชัดๆ!

     





     

    เอาเถอะ พวกมันอาจจะยังไม่รู้ตัว แต่ไอ้สองตัวเนี้ย ถึงจะรู้จักกันได้แค่อาทิตย์เดียวก็จริง แต่ตัวแม่งติดกันยังกับปลิง ตอนเช้าพอคชามาถึงก็ถามหาแต่ไอ้เต๋า พอตอนกลางวันเต๋ามันก็ไปรอรับคชาที่หน้าคลาสเพื่อมากินข้าว แล้วตอนเย็นคชายังไปนั่งรอเต๋าซ้อมบาสที่โรงยิมอีก เพราะงั้นมันเลยเคยมีข่าวลืออยู่วันนึง (ย้ำว่าแค่วันเดียว - -) ว่าเต๋ากับคชาเป็นแฟนกัน แต่พอได้เห็นว่าไอ้เต๋ามันยังไปม่อผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าคชาแล้วคชาก็ไม่ได้โกรธหรือมีปฏิกิริยาอะไร ข่าวนี้ก็เลยหายไปอย่างรวดเร็ว




     

    “พวกมึงฟังกูนะ” เฟรมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เรียกให้ทั้งเต๋าและคชาหันมาสนใจทันที “พวกมึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ เอาแบบปกติที่เป็นอยู่เนี่ยก็เหมือนแฟนกันจะตายห่าล่ะ!



    “กูเห็นด้วย!” อ้นพยักหน้าเห็นด้วยทันทีที่เฟรมพูดจบ ก่อนจะเสริมอะไรอีกนิดหน่อย “แต่เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ มึงแค่เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้ก็เนียนล่ะ เชื่อกู”



    “พวกกูเหมือนแฟนกันตรงไหนวะ?” คชาเอียงคอ หันไปมองหน้าอ้นสลับกับไอ้เฟรมอย่างสงสัย



    “เอาเหอะ เอาเป็นว่าพวกมึงไม่ต้องทำอะไรเลยนะ เหมือนเดิมทุกอย่าง” เฟรมพูดสรุปอย่างเอือมๆ คชากับเต๋าพยักอย่างหน้าเข้าใจ แล้วมันทั้งคู่ก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่ออย่างสบายอารมณ์









     

    ความจริงมันสองคนก็ไม่ได้เหมือนแฟนอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกนะ แค่พวกมันโลกส่วนตัวสูงไปหน่อย คนหนึ่งก็ไม่ค่อยจะแคร์คนรอบข้าง ส่วนอีกคนก็ชอบอยู่คนเดียว พอมาอยู่ด้วยกัน เลยกลายเป็นโลกทั้งใบมีกันอยู่สองคนไปเสียอย่างนั้น

     










     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     

     








     

    “เต๋า กูจะไปโรงพยาบาลนะ”





     

    คชาบอกเต๋าในตอนที่ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงอาหาร อ้นขอกลับบ้านไปก่อนเพราะมีงานต้องทำ ส่วนเฟรมแน่นอนว่าไปหนีหลีสาวอยู่แถวๆตึกอักษร



     

    “ไปไมวะ ไม่สบายเหรอ” เต๋าถามด้วยความสงสัย เอื้อมมือไปแตะหน้าผากคชาเพื่อวัดไข้ “ก็ปกตินี่ มึงเป็นอะไรอ่ะ”


    “กูจะไปให้หมอเอ็กซ์เรย์หาแหวนในท้องกู” คชาตอบหน้าตาย เล่นเอาเต๋าหลุดขำออกมา “มึงขำอะไรไอ้เต๋า! กูเครียดนะกูเครียด! ถ้ากูต้องผ่าท้องขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!


    “ชาเอ้ยยยย” เต๋าไม่ได้ว่าอะไร เจ้าตัวทำเพียงแค่ยิ้มอย่างเอ็นดูพลางลูบหัวคชาเท่านั้น


    “อย่ามาทำเหมือนกูเป็นหมานะ!” แต่แน่นอน ก็คนมันกำลังหงุดหงิดอ่ะ พาลได้ทุกเรื่องแหละ!






     

    เต๋าส่ายหน้าพลางเดินนำคชาไปที่โรงยิม ไม่ใช่อะไร เขาจะมาซ้อมบาส อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ของทุกคณะในมหาลัยแล้ว




    โชคดีที่ปีนี้แพทย์กับวิศวะจับได้คู่กัน นั่นหมายถึงหมอกันเอนจิเนียร์แกจะหันมาจับมือกันชั่วคราวเพื่อผ่าฟันกีฬาปีนี้ไปด้วยกันน่ะนะ ปีที่แล้วอยู่คนละทีมไง แทบจะกัดกันตาย วิศวะที่ห้าวๆก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่หรอก แต่เด็กหมอนี่ดิ ไม่รู้ไปเอาความเกรียนมาจากไหนกัน ใครบอกหมอต้องตี๋ๆ ติ๋มๆ ไม่สู้คนวะ ลองมาดูหมอที่นี่ซะก่อน นักเลงแถมยังเฟี้ยวไม่มีใครเกิน ถ้านึกสภาพหมอแว๊นไม่ออก ดูตัวอย่างได้จากไอ้เฟรมกับไอ้คชาเลย เกรียนไม่ทน!




     

    หมอกับวิศวะได้สีชมพู ตั้งชื่อสีว่า เข็มฉีดเกียร์ เป็นชื่อที่โคตรสิ้นคิด แต่นักกีฬาอย่างเต๋าจะไปโวยวายอะไรประธานสีมันได้ เขาทำได้แค่ระเบิดหัวเราะตอนได้ยินชื่อเท่านั้นล่ะ

     




     

    ส่วนสถาปัตย์ก็คู่กับศิลปกรรม จับได้สีเขียว ดีใจเขาล่ะสองคณะนี้ อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปีแล้ว รักกันเหนียวแน่นจริงๆ เด็กในคณะก็บ้ารั่วไม่มีใครเกิน แถมยังติสต์แตกแม่งทั้งคู่ด้วย คำขวัญมันคือแข่งไม่ดูผล เน้นสนุกสนานบ้าและรั่วเป็นพอ ตัวสร้างสีสันเลยล่ะ

     



     

    ส่วนนอกจากนี้เต๋าไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกว่าใครได้คู่กับใคร ที่พอจะรู้ก็เพราะว่าเกมส์แรกเขาได้แข่งกับทีมสีเขียวนี่แหละเลยได้ข้อมูลมานิดๆหน่อยๆ

     




     

    แต่ก็ดีแล้วที่ปีนี้วิศวะได้คู่กันกับหมอ เพราะเห็นว่าประธานสีทั้งสองคนที่เป็นตัวแทนมาจากทั้งสองคณะเป็นแฟนกัน เพราะงั้นการทำงานของทั้งสองฝ่ายเลยเข้าขากันมากถึงมากที่สุด แต่ถ้าเป็นปีที่แล้วนี่รับรองได้เลยว่าเละแน่ๆ เพราะปีสี่ของสองคณะนี้ไม่ถูกกัน ยังดีที่กีฬาสัมพันธ์ปีสี่ไม่ยุ่งเพราะเรียนหนัก ไม่งั้นคงได้มีวางมวยกันอีกซักยก




    และก็เป็นโชคดีของเด็กวิศวะอย่างเต๋าเช่นกัน เพราะเจ้าตัวสามารถลากเด็กแพทย์อย่างคชาไปไหนมาไหนในคณะได้ด้วยข้ออ้าง ผู้จัดการส่วนตัว

     








     

    คชาล่ะอยากจะขัด ผู้จัดการส่วนตัวพ่องงงง!!

     






     

    เอาคชาเข้ามานั่งเหงกรอไม่พอ! ยังจะใช้คชาไปซื้อนู่นซื้อนี่ให้อีก!




    กูไม่ใช่คนใช้นะโว้ยย!

     

     




     

    แต่ก็ได้แค่บ่น เพราะตอนนี้คชาเดินเข้ามาถึงโรงยิมของไอ้เต๋ามันแล้ว เต๋าดันคชาให้ไปนั่งรอตรงที่เดิม ข้างสนามแบบระยะประชิด ซึ่งหนึ่งอาทิตย์ที่รู้จักกันก็มาที่นี่เกือบจะทุกวันจนเพื่อนไอ้เต๋าจำหน้าจำชื่อได้ล่ะ แถมยังเคยมีแซวๆว่าเป็นแฟนกันอีก แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้เต๋ามันดันเสือกไปม่อเด็กอักษรที่หลงเข้ามาต่อหน้าต่อตาคชาซะงั้น แต่คชาก็ยังเฉยแถมยังมีส่งเสียงแซวไอ้เต๋าอีก พวกเพื่อนมันเลยสรุปโดยไม่ต้องรอคำอธิบายว่าไม่มีทางเป็นแฟนกันชัวร์!

     






     

    ถ้าชาตินี้ใครเอาไอ้เต๋าอยู่...คนนั้นแม่งโคตรเมพ!






     

    และถ้าชาตินี้ไอ้เต๋าหยุดอยู่ที่ใคร...คนนั้นแม่งเป็นบร๊ะเจ้า!










     

    แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ไอ้เต๋ามันเจ้าชู้จะตาย ฟันไม่เลือกขอแค่เป็นผู้หญิงและไม่มีหางก็เป็นใช้ได้ แถมยังไม่แคร์ใครอีกต่างหาก เกิดมาชาตินี้ยังไม่เคยเห็นใครที่ไอ้เต๋ายอมให้ใช้สถานะ แฟนเลยซักกะคน ถ้ามาหยุดอยู่ที่คชาจริงๆล่ะก็...

     









     

    เด็กวิศวะโยธาปีสามกว่าร้อยห้าสิบชีวิตจะพร้อมใจกันกราบตีนคชา!!

     












     

     

    “วิ๊ดวิ้วววว~ คชาจ๋า วันนี้มาเร็วจังงง~



    หนึ่งในคณะเพื่อนนักบาสของเต๋าทักขึ้น จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงทักจากนักกีฬารอบกาย ตอนนี้เต๋าไปเปลี่ยนเสื้ออยู่ คชาไม่ได้ทักกลับ เพียงแค่ยิ้มให้แทน แต่แค่ยิ้มทุกชีวิตในโรงยิมก็เหมือนได้กำลังใจแล้ว ถึงคชาจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็น่ารักพอทดแทนกันได้ ตัวเล็กๆ แก้มแดงๆ รูปร่างลักษณะภายนอกถ้ามองผ่านๆก็เหมือนทอมเปี๊ยบ ยิ่งวิศวะที่แทบจะหาผู้หญิงน่ารักๆไม่เจอแล้วด้วยนั้น



     

    ...แค่ทอมภายนอกอย่างคชาก็ยังดีวะ!




     

    คชานั่งรอเต๋าไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่รอก็มีเพื่อนของเต๋าเข้ามาชวนคุยไปพลางๆ ส่วนมากก็ถามไถ่กันถึงเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไปนั่นแหละ ตัวคชาเองก็ตอบไปเรื่อยๆ ยังไงอย่างน้อยมีเพื่อนคุยไว้ก่อนก็ยังดีกว่าต้องนั่งรอคนเดียวล่ะนะ



     

    “คชาเดี๋ยวนี้เป็นไงบ้าง” เจมส์ที่เป็นนักกีฬาบาสพ่วงตำแหน่งสำคัญอย่างประธานรุ่นและประธานสีทักคชา แต่คชารู้ ว่าคนที่เจมส์อยากรู้เรื่องจริงๆอ่ะไม่ใช่คชาหรอก แต่เป็นต้นแฟนเจมส์มันต่างหาก และถ้ายังไม่ลืมกันล่ะก็ ประธานสีทั้งสองคนที่เป็นตัวแทนมาจากทั้งสองคณะเป็นแฟนกัน



    “ตัวคชาเรื่อยๆ แต่ต้นอ่ะกำลังเครียด” คชาตอบ ยิ้มมุมปากอย่างรู้ทันเมื่อเห็นเจมส์อ้าปากค้าง เจมส์พยักหน้าก่อนจะตั้งสติใหม่ มองซ้ายมองขวาหาไอ้เต๋าแก้เก้อ

     



     

    “เต๋าล่ะคชา”



    “เปลี่ยนเสื้อ”

     



     

    คชาตอบ และพอดีกับที่เต๋าเดินเข้ามาในโรงยิม ตามมาด้วยนักศึกษาผู้หญิงจากหลายๆคณะและหลายๆชั้นปี พวกเธอเข้ามาจับจองที่นั่งกันจนเต็ม จากโรงยิมที่เคยโล่งสนิทในตอนแรก พอเต๋าเข้ามาเท่านั้นล่ะ คชากับนักบาสก็แทบจะหายใจกันไม่ออก

     



     

    “ถ้ามึงจะฮอตขนาดนี้นะไอ้เต๋า” เจมส์อดแขวะไม่ได้เมื่อเต๋าเดินเข้ามาทางตัวเอง


    “แน่ล่ะ กูซะอย่าง” เต๋าว่าก่อนจะยื่นเสื้อกับกางเกงฝากคชาเอาไว้ “ฝากหน่อยชา”


    “ทำไมไม่เก็บในล็อคเกอร์อ่ะมึง” เพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยปากถาม ซึ่งคำถามนี้คชาและเจมส์รวมถึงเพื่อนของเต๋าที่อยู่รอบๆก็อยากรู้เหมือนกัน


    “เออ วันนั้นกูก็คิดเงี้ย เอาเสื้อกับกางเกงเก็บไว้ในล็อคเกอร์ พอกลับมาจะเอาคืน ปรากฏว่าประตูล็อคเกอร์แม่งโดนงัด เสื้อผ้ากูหายเกลี้ยง!

     




     

    พอเต๋าพูดจบก็เรียกเสียงหัวเราะจากคชาและพวกเพื่อนเต๋าที่ยืนฟังอยู่ได้ดีทีเดียว เพราะฮอตเกินไป คนรอบข้างเลยไม่น่าไว้ใจจนต้องเอาเสื้อออกมาเก็บไว้กับตัว อนาถชิบหาย!

     



     

    เพื่อนเต๋าเริ่มไปวอร์มร่างกาย พอดีกับที่ทีมบาสของคณะนิเทศเดินเข้ามา อีกฝ่ายเข้ามาพูดอะไรซักอย่างกับเจมส์ คุยกันไปซักพักเจมส์มันก็พยักหน้า แล้วก็เลยกลายเป็นว่าวิศวะกับนิเทศจะแข่งบาสกันซะงั้น กองเชียร์ที่อยู่รอบๆสนามเลยตะโกนแข่งกันใหญ่ เล่นเอาสนามคึกขึ้นมาทันตาเห็น



    คชาก็ร่วมโห่ไปกับเขาด้วย โห่ไล่นิเทศอ่ะนะ ความแค้นส่วนตัวว่ะ ปกติเขาไม่มีหรอกที่จะมาส่งเสียงเชียร์กีฬาเนี่ย แต่คณะนี้ขอยกเว้น! ขอโห่ไล่มันซักหน่อยเหอะ! มีความแค้นกันมาเยอะ!



    ก็ไอ้ผู้ชาย 80% ของคณะเนี้ยแม่งเคยจีบเขามาแล้วทั้งนั้น! แถมไอ้คนที่เขาเพิ่งจะต่อยปากแตกไปล่าสุดก็ไอ้เวรลูกอธิการที่อยู่คณะนี้นี่แหละ! แถมยังเป็นหัวหน้าทีมบาสด้วย! ส่วนไอ้สมาชิกในทีมนั่นก็เคยเข้ามาม่อเขาไปแล้วทั้งสิ้น!




     

    “เต๋า” คชาเรียกแล้วดึงเต๋าเข้ามาใกล้ เอ่ยกระซิบข้างหูให้ได้ยินกันสองคน ก็กลัวแถวนี้จะมีเด็กนิเทศนี่หว่า “ชนะให้ได้นะมึง ยิ่งไอ้ตัวหัวหน้าทีม โจทก์เก่ากู!



    “โอเคเลย แฟนขอเต๋าจัดให้” เต๋าพูดก่อนจะยิ้มทะเล้นส่งไปให้คชา



    “ได้ อย่าทำให้แฟนผิดหวังล่ะ” คชาเองก็ยิ้มหวานส่งให้เต๋าเช่นกัน (แต่เป็นยิ้มแบบที่เต๋าลงความเห็นว่าโคตรสยอง)

     





     

    เต๋าลงไปวอร์มอัพกับเพื่อน คชาที่นั่งเชียร์อยู่ชิดขอบสนามรับรู้ได้ถึงสายตาของนักบาสคณะนิเทศที่มองมา อยากจะลุกไปอัดแม่งซักทีสองทีว่ะ แต่ไม่ได้ กูเพิ่งมีเรื่องไป เดี๋ยวถูกไล่ออกจะซวยเอา

     

     









     

    ปิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!







     

    เสียงนกหวีดที่ดังขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าเริ่มเกมส์การแข่งขัน ทั้งทีมจากวิศวะและนิเทศต่างก็ใช้สกิลนักบาสที่มีกันอย่างดุเดือด กองเชียร์พากันตะโกนเชียร์อย่างไม่ขาดสาย เรียกเอานักศึกษาคนอื่นๆให้เดินเข้ามาดูด้วยความสงสัย บรรยากาศดุเดือดเลือดพ่านเหมือนการแข่งขันจริงๆ นักกีฬาทั้งวิ่งทั้งโยนลูกบาสส่งให้กันอย่างรวดเร็วชนิดมองตามแทบไม่ทัน ทั้งๆที่เพิ่งจะเริ่มเกมส์ได้ไม่กี่นาทีทั้งสองทีมกลับทำแต้มกันไปแล้ว 12-15



    วิศวะค้างอยู่ 12 ได้ไม่นานก็ตามขึ้นมาเป็น 14 และ 16 อย่างรวดเร็ว ฝ่ายนิเทศก็ไม่น้อยหน้า ชู๊ต 3 แต้มนำขึ้นมาเป็น 18 ได้อย่างไม่ทิ้งฝุ่น



    เมื่อแข่งขันไปเรื่อยๆกองเชียร์ก็ชักจะมันส์ ไม่รู้ว่าไปเอากลองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ทั้งสองฝั่งเริ่มจะแข่งกองเชียร์กันแล้ว บรรยากาศที่ตอนแรกแค่ดุเดือดตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนแรง เหมือนกับแข่งทั้งบาสและกองเชียร์ไปในตัว

     



     

    “เฮ้ยคชา!!

     



     

    คชาที่นั่งหน้าเบื่อเพราะรำคาญเสียงดังรอบตัวเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียก เจอเฟรมที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงหน้าสวยอีกคนที่เขาไม่รู้จัก เฟรมเดินเข้ามานั่งข้างคชาพลางถามถึงสถานการณ์คะแนนของทั้งสองทีมในตอนนี้

     



     

    “กูก็ไม่รู้ รู้แต่ทั้งทีมนิเทศแม่งโจทก์เก่ากู” คชาตอบพลางหันไปมองกระดานเขียนสกอร์ ตอนนี้วิศวะนำนิเทศ 38-37

     



     

    อยู่ดีๆเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อในสนามปรากฏภาพเป็นภาพหนุ่มหล่อขาวออร่าดีกรีเด็กคณะวิศวะอย่างเต๋ากำลังแย่งลูกบาสจากหนุ่มหล่อหน้าคมลูกอธิการจากคณะนิเทศอย่างเบน ผู้หญิงทั้งโรงยิมจับจ้องไปที่ภาพเต๋ากับเบนใช้ชั้นเชิงขั้นเทพในการแย่งลูกบาส พอเต๋าแย่งมาได้กองเชียร์ฝั่งวิศวะก็ตะโกนดังลั่นจนเส้นเสียงแทบแตก พอเบนแย่งคืนมาสำเร็จกองเชียร์ฝั่งนิเทศก็แทบจะกินหัวกันเอง ตะโกนแหกปากซะจนคชาต้องเอามือขึ้นมาปิดหูอย่างรำคาญ

     




     

    “ไอ้เต๋ากับไอ้เบนแม่งโคตรฮอต”


    “ช่างหัวแม่งเหอะ กูรำคาญเสียงเชียร์จะแย่ล่ะ”


    “ออกมั้ยมึง”


    “มึงดูทางเดินดิ๊ ถ้ากูเดินออกไปมีหวังถูกเหยียบตายห่ากันพอดี จะให้รอดปลอดภัยก็คงต้องเดินลัดสนามบาสล่ะ!





     

    เฟรมมองตามทางเดินที่คชาชี้ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย คนแม่งยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋อง โรงยิมก็ใช้ว่าจะเล็กนะ แต่พอเจออย่างงี้แล้วก็อึดอัดชิบเป๋ง หายใจก็ไม่ออก เหม็นกลิ่นเหงื่อด้วย กูไม่น่าพาสาวเข้ามาในสถานที่น่ารำคาญแบบนี้เลยว่ะ!

     





     

    “นี่แก พี่เต๋าหล่อเนอะ”


    “พี่เบนก็หล่อนะแก”


    “หล่อก็จริง แต่มีข่าวมาว่าเป็นเกย์ว่ะ”

     




     

    ขณะที่คชาและเฟรมกำลังมองหาทางออก หูก็ดัน (หาเรื่อง) ไปได้ยินบทสนทนาของผู้หญิงสามคนที่น่าสนใจเข้าพอดี แบบนี้มันต้อง

     





     

    ...เสือก!!

     




     

    ว่าแล้วทั้งคู่ก็ทำตัวเนียน ยื่นหูไปแอบฟังทันที

     

     



     

    “ใครมีข่าวว่าเป็นเกย์อ่ะ? พี่เต๋าเหรอแก”


    “ทั้งคู่นั่นแหละ แต่พี่เต๋าไม่แน่ เพราะเห็นมีไปม่อสาวอยู่”


    “แต่พี่เบนนี่เห็นเขาบอกว่าเป็นโฮโมว่ะ สามวันที่แล้วเพิ่งมีข่าวว่าไปจีบเด็กหมอมา”


    “จีบติดมั้ยแก ฟันแล้วทิ้งอ่ะดิ”


    “เออ เห็นข่าวก็ว่าอย่างงั้น รู้สึกเด็กหมอแม่งเป็นคนให้ท่าเอง ผู้ชายเดี๋ยวนี้แรดชิบหาย”


    “แต่ว่าถึงพี่เต๋าหรือพี่เบนจะเป็นโฮโมก็ช่างเถอะ ยังไงพี่เขาก็หวังแค่ฟันแล้วทิ้งนั่นแหละ”


    “ของจริงมันต้องผู้หญิงอย่างเรานี่ จบเกมส์แล้วฉันเอาน้ำไปให้พี่เขาดีกว่า ฮิๆ”











     

    คชาฟังจบก็แทบจะลุกไปฆ่าไอ้คนพูดรวมทั้งคนปล่อยข่าวให้รู้แล้วรู้รอด สามวันที่แล้ว คนที่ไอ้เบนมันมาจีบก็กูไม่ใช่รึไงห๊ะไอ้สัด!! แล้วใครไปให้ท่ามันวะ! กูต่อยมันปากแหกไปแล้วเหอะ!










     

    ไอ้เหี้ยเอ้ยยยยย กูยังไม่ได้โดนฟันโว้ยยย!!!











     

     

    ปิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!








     

    เป่านกหวีดหาพ่อมึงเหรอ! (พาลไปเรื่อยจริงๆ - -)

     





     

    เสียงนกหวีดเรียกให้คชามองไปที่สนามบาส ตอนนี้เป็นการชู๊ตลูกโทษ (เขาเรียกกันแบบนี้ป่ะ กูไม่รู้ว่ะ!) เป็นฝ่ายคณะนิเทศได้ ตอนนี้สกอร์อยู่ที่วิศวะ56 - นิเทศ55



    เบนเป็นคนได้ชู๊ต ลูกแรกลงไปอย่างสวยงาม คะแนนตีเสมอขึ้นมาทันที กองเชียร์ของนิเทศเต้นแร้งเต้นกาแหกปากดีใจใหญ่ในขณะที่ทางวิศวะเริ่มจะเครียดและภาวนาให้ในครึ่งแรกนี้คะแนนออกมาเสมอกันทีเหอะ!



    ลูกที่สองถูกชู๊ตออกไปแล้ว บรรยากาศรอบข้างกดดัน คนทั้งโรงยิมเงียบเพราะกำลังกลั้นใจลุ้น แล้วเสียงเฮลั่นผสมกับเสียงโห่อย่างผิดหวังก็ดังขึ้นทันทีเมื่อลูกที่สอง...ลงไปอย่างง่ายดาย






     

    จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ วิศวะ 56 – นิเทศ 57







     

    พวกนักบาสของวิศวะรวมทั้งเต๋าวิ่งเข้ามาข้างสนาม แต่ละคนคิ้วขมวดจนเป็นปม บ้างก็บ่นโน่นบ่นนี่เข้ามา แต่ดูเหมือนคนที่โดนด่ามากที่สุดก็คงจะเป็นไอ้เจมส์ เพราะมันคนเดียวพวกเขาถึงต้องมาแข่งแบบนี้ ทั้งที่กะว่าจะซ้อมกันเล่นๆแค่นั้นเอง






     

    “คชาเอาไอ้นั่นมาดิ๊” เต๋าแบมือมาตรงหน้าคชา เฟรมที่ได้ยินก็กำลังจะเอ่ยขัดแล้วว่า ไอ้นั่น ที่ว่าน่ะมันคืออะไร แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะคชาดันยื่นขวดน้ำเย็นไปให้เต๋าเรียบร้อย





    เออเว้ย! เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละ คนที่ไม่ต้องพูดอะไรมากก็เข้าใจกันเนี่ย เต๋ามันยังไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทางอะไรที่สื่อถึงขวดน้ำเลยซักอย่าง แต่คชามันดันรู้ซะงั้น เจ๋งว่ะ!

     




     

    “เต๋า ก้มหน้า” คชาสั่งเต๋า และแน่นอนว่าเต๋าไม่ขัด ก้มหน้าลงมาหาคชาจนชิด “เหงื่อเยอะชิบ นี่มึงเล่นบาสหรืออาบน้ำใหม่กันแน่วะ”

     



     

    คชาบ่นไปเรื่อยๆ ในขณะที่มือก็ทำหน้าที่เช็ดหน้าให้เต๋าด้วยผ้าเย็นสีขาวสะอาด เรียกสายตาจากคนรอบข้าง (ทั้งโรงยิม) ได้ดีทีเดียว เฟรมพยายามจะสะกิดบอกคชาให้รู้ตัวก่อนที่อะไรๆมันจะบานปลายไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล เพราะไอ้สองตัวนั้นมันได้หายเข้าสู่โลกส่วนตัวกันไปเรียบร้อยแล้ว

     









     

    เฟรมไม่ผิดนะ กูเตือนมึงแล้ว

     




     

    “เฮ้ยยยย เต๋ากับคชา...เฮ้ยยยย”


    “กรี๊ดดดดดด พี่เต๋ากับพี่คชาเค้า...”


    “เต๋าคชา...เอ่อ...”

     




     

    และอีกหลากหลายความสงสัย ขนาดสาวที่เฟรมควงมาด้วยยังอดจะชะโงกหน้าออกมาดูไม่ได้ เฟรมแทบจะเอาตีนขึ้นมาตบหน้าผาก (พวกมันทั้งสองตัวนะ...เอ๊า! กูจะตบตัวเองเพื่อ - -) ถ้าพวกมันสองคนจะทำอะไรส่อขนาดนี้น่ะนะ แถมยังทำไปแบบไม่รู้ตัวอีกต่างหาก ใครแซวแม่งก็ไม่สน เพราะโลกนี้มีกันแค่สองคน...

     





     

    กูล่ะเพลีย!

     









     

    “ไหวเปล่าเต๋า” แน่นอนว่าคชาไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง โฟกัสตอนนี้มีแค่เต๋านี่แหละ


    “อือ ฝ่ายนั้นมันโชคดีได้ลูกโทษ เดี๋ยวเกมส์นี้จะนำให้ไกลเลยคอยดู”




     

    เต๋าว่าพร้อมยกยิ้มอย่างมั่นใจ ครึ่งแรกพวกเขาประมาทไปหน่อย คะแนนมันเลยนำไม่มาก แล้วก็มาโดนแซงจนได้ แต่ครึ่งหลังเนี่ยเขาจะรุกหนักแน่! ไม่ยอมให้อีกฝ่ายนำได้หรอก!





     

    “เออ อย่าแพ้นะเว้ย ดูไอ้เหี้ยเบนอะไรนั่นมันจ้องกูดิ้ อยากลุกไปต่อยแม่ง!” คนตัวเล็กพูดพลางทำท่าฮึดฮัดเหมือนจะเข้าไปต่อยจริงๆ เต๋าเห็นแล้วก็อดจะยีหัวกลมเล่นอย่างหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ตัวก็เล็กแค่นี้ยังจะทำปากเก่งอีกแหนะ




    “เดี๋ยวก็ได้โดนมันกระทืบกลางสนามหรอก อ้นไม่อยู่นะเว้ย” ยีหัวอีกคนไปพลางก็พูดไปถึงเพื่อนอีกคนที่คอยตามเก็บเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้พวกเขาตลอด แต่ตอนนี้มันไม่อยู่ ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด


    “กูกลัวป่ะล่ะ!” คชากอดอก เชิดหน้าขึ้นให้เห็นว่าเขาไม่กลัวเลยซักกะนิด คนอย่างคชาไม่เคยกลัวใครเว้ย!

     






     

    เต๋าเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหน้า เพราะคชามันไม่กลัวใครแบบนี้ล่ะ อวดเก่งไม่เข้าเรื่อง แถมยังปากดีไม่ดูสถานการณ์อีก เลยไปหาเรื่องคนอื่นเขาโดยไม่รู้ตัวเข้าบ่อยๆ แล้วหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ไอ้อ้นอ่ะแหละ! (เอะอะกูตลอด!)

     







     

    ปิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!

     






     

    เสียงนกหวีดดังขึ้นบ่งบอกว่าหมดเวลาพัก กรรมการตะโกนเรียกให้นักกีฬาลงสนาม เต๋าหันมาขยี้หัวคชาอย่างหมั่นเขี้ยวอีกครั้งก่อนจะเดินลงสนามไป แต่ก่อนจะไปถึง อยู่ๆคนตัวโตก็เดินกลับเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคชา ก่อนจะก้มลงไปกระซิบกันให้ได้ยินแค่สองคน ในขณะที่คนรอบข้างทั้งโรงยิมจ้องทั้งคู่จนตาแทบถลน รวมถึงนักกีฬาและกรรมการก็หันมาจ้องกันให้พึ่บ








     

    ...และแน่นอน เต๋าไม่ได้สนใจ








     

    “แฟนครับ ขอกำลังใจ”


    “กำลังใจอะไรวะ?”


    “อะไรก็ได้ ขอกำลังใจ”



    “...”

     







     

    คชาลังเลอยู่นิดนึงพลางค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหาเต๋า จรดจมูกลงบนแก้มขาวซีดของอีกคนแผ่วเบาท่ามกลางความอึ้งของคนทั้งโรงยิม ก่อนจะรีบผละออกมาอย่างรวดเร็ว คชาผลักเต๋าที่แก้มขึ้นสีหน่อยๆให้ลงสนาม ส่วนตัวเองก็ก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตากับคนตัวโตที่ตอนนี้ตาเป็นประกายวิบวับและกำลังยิ้มกว้างเสียจนแก้มแทบปริ








     

    ก็แม่หอมแก้มคชาแล้วบอกสู้ๆก่อนสอบอ่ะ! แบบนี้ไม่ใช่การให้กำลังใจรึไงเล่า!!










     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”


    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


    “พี่เต๋าของช๊านนนนนนนน อ๊ายยยยยยยยยยยยยย”


    “น้องคช๊าของเพ่ โนววววววววววววววววววววววววววว”


    “ม่ายยยยย พี่เต๋า ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”


    “ฮืออออออออ พี่เต๋ากับพี่คชา...ม่ายยยยยยยยยยยยย”







     

    เสียงกรีดร้องโหยหวนจากสาวแท้สาวเทียมและผู้ชายดังลั่นโรงยิม นักกีฬาบาสทิ้งลูกบาสแล้วยืนอึ้งกันเป็นแถบๆ กรรมการที่มีนกหวีดคาปากรีบเป่าเสียงดังเพื่อเรียกสติคนทั้งโรงยิมกลับคืนมา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะกองเชียร์ค่อยๆโวยวายแล้วเดินหายออกไปทีละคน นักกีฬาฝั่งตรงข้ามก็หมดอารมณ์แข่งและพากันออกไปจากโรงยิม เลยกลายเป็นว่าเกมส์ที่สองไม่มีการแข่งต่อ คชาทำหน้างงหันซ้ายหันขวาก่อนจะโดนเฟรมที่นั่งอยู่ด้วยกันตบกบาลจนหัวแทบหลุด







     

    “อะไรของมึงวะไอ้เฟรม!! แล้วคนเขาลุกไปไหนกันหมด เกิดอะไรขึ้นวะ”


    “มึงยังไม่รู้ตัวอีก เฮ้อออ”


    “อะไรวะ”

     






     

    คชายกสองมือขึ้นมาขยี้หัวด้วยความงง ตอนนี้คนออกไปเกือบหมดโรงยิมแล้ว เหลือแค่นักบาสของวิศวะกับคชาและเฟรมเท่านั้น ขนาดสาวที่เฟรมควงมายังกรี๊ดที่ไอ้เต๋าโดนคชาหอมแก้มแล้วเดินฟึดฟัดออกไปเลย ตอนนี้โรงยิมเลยดูโล่งเป็นพิเศษ แถมยังหายใจสะดวกขึ้นอีกเป็นกอง

     





     

    “เต๋า!” เพื่อนในทีมบาสของเต๋าตะโกนเรียกชื่อมันเสียงดัง ทำให้เจ้าของชื่อที่โดนเรียกหันไปมอง รวมถึงคนสิบกว่าชีวิตที่ยังเหลืออยู่ในโรงยิมด้วย

     








     

    “อะไรวะ?”




    “มึงกับคชา...เป็นอะไรกันวะ?












    “กูกับคชา...เป็นแฟนกัน”

     

     


















     

     “จริงดิ! ...สัส! เด็กวิศวะ 150 ชีวิตเตรียมกราบตีนคชา!!!

     










     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------



















    เย้ ตอนที่สามมาแล้วววว > w <
    กำลังใจมาเต็มเปี่ยมยามคชาอัพรูป 'ผมโดนบังคับ'
    #ใครรรรรรรรรรรรรรรบังคับแก ใครบังคับ จะเอากล้วยไปเซ่น > w <

    ตอนนี้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ต้องรีบๆ เรื่องนี้สรุปว่าเกิน 7 ตอนแหละ Orz
    ฉากงดออกสื่อก็ถูกตัดไปไว้ตอนที่ 6 นะครับนะ รอไปเถอะ กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เออ มีคำถามฮะ -_-






    จากคอมเมนต์นี้ คือมันคุ้นๆยังไงเหรอฮะ เหมือนเคยไปอ่านที่อื่นมาเหรอ
    แบบ พล็อตมันไปซ้ำกับใครป้ะ orz 
    ไม่สบายใจอ่ะ ... ( ; __ ; ) /

    ถ้าอะไรมันซ้ำหรืองงตรงไหนถามได้นะ
    อะไรขัดๆก็บอกมาจะเอาไปแก้ให้ orz




    ไปนอนล่ะฮะ ราตรีสวัสดิ์ไว้เลยแล้วกันนะ ( ^ _ ^ ) v











     

    10/12/2012
    23:50 @USA

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×