ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #27 : SF - SUDDENLY [01]

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 55


    © Tenpoints!




    SUDDENLY

    R
    emember The First Day When I Saw Your Face 

    Remember The First Day When You Smiled At Me 

    I'm So Happy So Happy That You're In My Life

    And I Know What Is Love Now

     










     

    “เต๋า แม่จะให้แกหมั้นนะ”


    “เฮ้ย! ตลกแล้วแม่ ทำเป็นละครหลังข่าวไปได้”


    “เอ้า! แม่พูดจริงๆ! เนี่ยหาคู่หมั้นไว้ให้ล่ะ ยังไงก็ต้องหมั้น เว้นแต่แกจะมีแฟนอยู่แล้วอ่ะนะ”


    “ใช่แม่! เต๋ามีแฟนแล้ว! คบกันมานานแล้วด้วย เราแม่งโคตรรักกันเลยนะแม่”


    “เหรอ งั้นก็ไปพามาให้แม่ดู เอาแหวนนี่ไปให้เธอคนนั้นใส่ด้วย อีกสองวันมาเจอแม่ที่บ้าน แล้วอย่าคิดจะไปหาแฟนหลอกๆมาล่ะ เพราะฉันจะจี้ถามทุกอย่างที่เกี่ยวกับแกจนพรุนไปเลย”

     

     








     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    “เพราะเงี้ยอ่ะเหรอมึงถึงชวนกูออกมากินเหล้าน่ะ”


     

    ชายผมยาวอดพูดถามขึ้นไม่ได้หลังจากที่นั่งฟังเพื่อนตัวขาวเล่าชีวิตอันแสนรันทดสุดระกำให้ฟัง ตอนแรกเขาก็สงสารและเห็นใจมันอยู่หรอกนะ แต่พอมาคิดอีกทีก็อดที่จะสมน้ำหน้าไม่ได้ว่ะ ก็ชีวิตทั้งยี่สิบเอ็ดปีของมันมีผู้หญิงเข้ามาให้เลือกแทบไม่ขาดสาย แต่ไอ้นี่มันเสือกถือคติวันไนท์สแตน พบเจอและลาจากกันภายในคืนเดียวเสียอย่างงั้น


    และเชื่อว่าแม่มันก็คงจะรับลูกเหี้ยๆแบบนี้ไม่ไหว เลยต้องไปหาคู่หมั้นมาให้ ลูกมันจะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาเสียที ไม่ใช่มามัวแต่ทำตัวเกเรไปวันๆ แบบนี้


    ส่วนที่เขาสามารถคิดซะได้เป็นเรื่องเป็นราวแทนแม่เพื่อนได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะว่าช่วงนี้เขาก็เริ่มที่จะรับกับพฤติกรรมของไอ้เต๋ามันไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ก็มันเล่นฟันผู้หญิงแบบไม่เลือกหน้าเลือกเวลาเลือกสถานที่ มีเจ้าของหรือไม่ก็ไม่สน แล้วสุดท้ายเป็นไง คนเคลียร์เรื่องทุกอย่างก็เขานี่แหละ!


     
     

    เหนื่อยกูทุกที!

     



     

    ส่วนคนที่ถูกนินทาในใจก็ยังคงนั่งโอดครวญถึงความใจร้ายของแม่ตัวเองอยู่ไม่ขาด กินเหล้าไปพลางชะเง้อมองหาสาวน่ารักๆ ไปพลาง จนอ้นที่อยู่ด้วยกันทนไม่ไหว ลงมือตบกบาลมันไปซักที



     

    ...ผั้วะ!!!!

     



     

    “โอ๊ย! ไอ้อ้น มึงไม่ช่วยกูไม่ว่า แต่มึงมาทำร้ายกูทำไม!


    “ไอ้สัสเงียบปากมึงของไปบัดเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงยังไม่เลิกทำตัวเหี้ยๆแบบนี้นะไอ้เต๋า กูก็ขอสมน้ำหน้ากับสิ่งที่มึงกำลังเศร้าอยู่ว่ะ! สมน้ำหน้า! กูขอโบกป้ายไฟสนับสนุนแม่มึงเต็มที่!


    “เออว่ะ! อ้นน กูจะทำไงกับเรื่องนี้ดีวะแม่ง มึงช่วยกูคิดที”


    “หาแฟนซักคนสิมึง”


    “แล้วจะให้กูไปหาแม่งจากไหนเล่า!


    “แฟนคนล่าสุดของมึงไง”


    “เพิ่งคบกันแค่สองวันเองนะ เอาคนนี้จริงอ่ะ”


    “งั้นกูก็ไม่รู้กับมึงแล้วว่ะไอ้สัส! เรื่องเหี้ยๆแบบนี้กูขอแนะนำให้มึงรอคู่หูคู่เหี้ยอย่างไอ้เฟรมกับไอ้คชามาคิดเหอะ กูแม่งหมดปัญญาว่ะ!

     




     

    จะว่าไปพอพูดถึงไอ้สองตัวนั้นขึ้นมา อ้นก็อดที่จะส่ายหน้าอย่างระอาใจไม่ได้ แค่หน้าของพวกมันโผล่เข้ามาในห้วงความคิดแวบๆเขาก็แทบจะสลัดออกไปไม่ทัน วีรกรรมเหี้ยๆที่พวกมันเอาก่อไว้ตามมาหลอกหลอนเขาไม่ขาด แต่แล้วไง? เพราะคนที่ต้องมาคอยตามเก็บก็เขาอีกนั่นแหละ แล้วถามว่าพวกมันสำนึกมั้ย? รอเป็ดออกลูกเป็นตัวก่อนเถอะ!


    เขาล่ะอยากจะตัดเพื่อนกับพวกมันให้รู้แล้วรู้รอดไปก็ตั้งหลายครั้ง แต่ยังไงก็ทำใจไม่ได้ ด้วยเพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้พวกมันอยู่กันสองคนบวกไอ้เต๋าที่เออออตามพวกมันตลอดล่ะก็ คงได้มีคนอีกเยอะแยะที่ต้องเดือดร้อนเพราะไอ้พวกนี้แน่ อย่างน้อยก็เขาคนหนึ่งล่ะที่รู้ว่าถ้าไม่มีคนคอยปราม พวกมันก็ยิ่งได้ใจ ทำแต่เรื่องเหี้ยๆไม่เว้นวันชัวร์ๆ


    พอพูดถึงก็มากันพอดีเลยนั่น ตายยากกันจริงๆ ไอ้เฟรมเดินหน้าระรื่นแบกกีตาร์ตัวโปรดของมันเข้ามา แค่เห็นมันยิ้มเขาก็ขนลุก ลางสังหรณ์เริ่มจะไม่ดีแปลกๆ ส่วนอีกคนที่ตัวเล็กๆเหมือนลูกแมวก็นั่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเดินเกาะชายเสื้อไอ้เฟรมพร้อมยิ้มแป้นจนตาปิดมาเลยทีเดียว...





     

    ไปก่อเรื่องที่ไหนมาอีกล่ะพวกมึง!!!







     

    “สวัสดีอ้น~ สวัสดีเต๋า~



    ร่างเล็กๆนั่นร้องทักขณะที่กำลังปืนขึ้นนั่งเก้าอี้ตรงบาร์ที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ แต่คงด้วยเพราะส่วนสูงรึยังไงก็ไม่สามารถที่จะทราบได้ เจ้าตัวเลยขึ้นนั่งไม่ได้ซักที อ้นมองพลางแอบกลั้นหัวเราะ...อมยิ้มให้กับความพยายามน่ารักๆนั่น ถึงยังไงก็ไม่กล้าที่จะหัวเราะออกมาจริงๆหรอก กลัวว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะงอนเข้าให้น่ะสิ แต่อีกคนที่นั่งชะเง้อหาสาวอยู่เนี่ย วันๆนอกจากจะไม่ทำเหี้ยอะไรเว้นแต่หลีหญิงแล้วนั้น มันยังไม่รู้จักมองสถานการณ์รอบข้างเอาซะเลย...



     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ไอ้ชาเอ้ยย นี่มึงเตี้ยขนาดที่ว่าขึ้นนั่งเก้าอี้ไม่ได้เลยเหรอวะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

     







     

    ไอ้เหี้ยเต๋า กลับไปเหล่หญิงของมึงต่อไป!!

     




     

    อ้นแทบจะเอาหัวโขกกำแพงทันทีที่เต๋าพูดจบ ส่วนเฟรมที่ตอนนี้ในมือมีแก้วไวน์เรียบร้อยแล้วก็ไม่วายหันมายิ้มล้อๆใส่คชาด้วยอีกคน และแน่นอนว่าคนโดนล้อหน้ายู่อย่างหงุดหงิดไปแล้ว


    เต๋าพอเห็นก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ พลางจับคชา...เรียกง่ายๆว่าอุ้มจะดีกว่าขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ทรงสูงได้อย่างสบายๆ คชาที่พอได้ขึ้นมานั่งสมใจอยากแล้วก็ลืมเรื่องน่าโมโหเมื่อกี้ไปทันที เจ้าตัวหันไปสั่งไวน์แดงกับบาร์เทนเดอร์แล้วก็หันกลับมายิ้มหวานให้เต๋าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     


     

     “ยิ้มอะไรคชา”

     


     

    เป็นเต๋าที่อดจะถามเจ้าตัวเล็กออกมาไม่ได้ เพราะตั้งแต่เข้ามาแล้วที่คชายังคงยิ้มไม่หุบอยู่แบบนี้ แถมยังยิ้มทั้งหน้าจนดวงตาหายไปเลยด้วย ไม่บ่อยนักหรอกนะที่จะได้เห็นคนหน้าเดียวและโลกส่วนตัวสูงอย่างคชายิ้มออกมาแบบนี้

     


     

    “ก็แค่อารมณ์ดี~ เนอะเฟรมเนอะ”


    “ช่าย โคตรอารมณ์ดี หึหึหึ”

     


     

    คชาตอบข้อสงสัยของเต๋าพลางหันไปขอคำยืนยันจากเฟรมว่าวันนี้เจ้าตัวอารมณ์ดีจริงๆ ทั้งสองคนทำหน้าตาแปลกๆใส่กัน ก่อนจะยกยิ้มออกมาเสียกว้างจนอ้นได้แต่ส่ายหน้า เพราะในสายตาของคนรอบข้าง ยิ้มของเฟรมอาจจะเป็นยิ้มของคนที่ขี้เล่น ทะเล้นและอารมณ์ดีทั่วๆไป ส่วนของคชาก็จะออกแนวรอยยิ้มน่ารัก เป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาปลอดพิษภัย แต่ใครเลยจะรู้ ว่าถ้าได้รู้จักไอ้สองคนนี้แบบลึกซึ้งถึงสันดารเบื้องลึกกันแล้วล่ะก็ จะพบเลยว่าไอ้เหี้ยพวกเนี้ย...

     


     

    แม่งเกรียน!!!

     


     

    วันๆมันสองตัวเคยทำประโยชน์อะไรให้สังคมที่ไหนกัน แม่งก็ได้แต่ทำตัวเกรียนหาเรื่องคนอื่นเขาไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดมุ่งหมายในชีวิตเท่านั้นแหละ เขาก็ไม่ได้อยากจะมาบ่นอะไรนักหนาหรอกนะ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาต้องมาคอยตามเก็บทุกเรื่องของพวกมันเนี่ย! ทั้งเรื่องผู้หญิงของไอ้เต๋า เรื่องผู้ชายที่มาตามจีบคชาแล้วโดนเจ้าตัวเล่นกลับไปจนแทบร้อง เรื่องทะเลาะเบาะแว้งในแวดวงดนตรีของไอ้เฟรม...และไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็เป็นไอ้อ้นคนนี้ทั้งสิ้นที่ต้องจัดการให้!

     


     

    ...อยู่กับพวกมึงแล้วกูเหมือนเบ๊ก็ไม่ปาน!

     

     


     

    อ้นได้แต่บ่นอยู่ในใจ เพราะยังไงเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี =___________=!

     

     

     

    ส่วนเต๋าหลังจากได้คำตอบจากคชาจนหายสงสัยแล้วก็ได้แต่กลับมานั่งเครียดกับเรื่องปวดหัวของตัวเองต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้จะทำยังไงกับกรณีมัดมือหมั้นของแม่ตัวเองดี ที่สำคัญจะให้ไปหาสาวที่ไหนมาตอนนี้ได้ทันกันล่ะ ไอ้ที่มีอยู่ก็ไม่ได้รู้จักอะไรกันมากมายถึงขนาดที่จะเอามาหลอกแม่ตัวเองได้หรอกนะ อย่าว่าแต่คำว่า รักเลย แค่ชื่อเต๋ายังจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำเนี่ย!


    แต่ในเมื่อไอ้สองคู่หูที่มีความคิดแปลกๆแต่สร้างสรรค์ (?) อย่างคชากับเฟรมมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วทั้งที ก็ขอใช้พวกมันให้เป็นประโยชน์หน่อยละกัน! และคงไม่ผิดอะไรใช่มั้ยถ้าเขาจะถามเรื่องซีเรียสแบบนี้กับไอ้เกรียนสองตัวนี่น่ะ


     

    “เฮ้ยชา เฟรม กูมีอะไรจะให้พวกมึงช่วยหน่อยว่ะ”

     


     

    เต๋าคิดๆดูแล้วก็ว่าถามไอ้พวกนี้มันน่าจะได้คำตอบดีกว่าให้เขามานั่งคิดเองให้เสียเวลาอย่างตอนนี้ เลยตัดสินใจโพล่งถามออกไป ทางฝั่งเฟรมและคชาที่ไม่มีอะไรทำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งตาลุกวาว นัยน์ตาประกายวิบวับขึ้นทันทีที่ได้ยิน พร้อมเตรียมตัวในการสร้างเรื่องสร้างราวกันเต็มที่ โดยมีอ้นที่ได้แต่นั่งส่ายหน้าไปมาอย่างคนปลงตกอยู่ข้างๆ

     


     

    “ว่ามาเลยไอ้เต๋า พวกกูพร้อมช่วยมึงทุกอย่าง เนอะชาเนอะ”


    “ใช่มึง พวกกูกำลังว่างๆ...ไม่ๆ พวกกูเต็มใจช่วยมึงทุกอย่างเลยเต๋า เพื่อนทุกข์คชาก็สุขด้วย ถ้ามีอะไรที่กูช่วยได้ก็บอกนะเต๋า ว่าแต่มึงมีอะไร?”

     



     

    คชาร่ายออกมาซะยาว แต่ละประโยคขัดแย้งกันเองอย่างไม่น่าให้อภัย ถ้าฟังแล้วกรองดีๆซักหน่อยก็จะรู้ว่าไอ้คนพูดมันกำลังเบื่อชีวิตประจำวันอย่างตอนนี้ แล้วหวังหาเรื่องน่าสนุกทำเสียมากกว่า แต่คนฟังที่มีสมองไว้จำแค่ท่าบนเตียงอย่างเต๋ากลับไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร เจ้าตัวโฟกัสไปแต่คำว่า ช่วยเท่านั้นแหละ ส่วนอ้นที่ฟังประโยคของคชาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเมื่อกี้ก็ได้แต่จนใจ ส่ายหน้าเบาๆพลางยื่นมือหนาไปตบไหล่เต๋าแปะๆอย่างให้กำลังใจแทน


    เต๋าหันมามองอ้นด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ในขณะที่เฟรมและคชาต่างก็จ้องรอฟังเรื่องของเต๋ามานานแล้วด้วยความใจจดใจจ่อ




     

    “กูโดนแม่จับหมั้นอ้ะ!


    “ห๊ะ!!

     




     

    คชาและเฟรมแสร้งตกใจ พยายามจะเบิกตาให้กว้างเอาให้รู้ว่าพวกเขาโคตรจะตกใจ แต่ถ้าจะเอาตามความจริง พวกเขารู้สึกเฉยๆกับเรื่องของเต๋าม๊ากมาก เพราะเรื่องมันเล็กละเกิน แถมต้นเหตุที่คิดจะจับไอ้เต๋าหมั้น พูดกันแล้วก็คือคนที่พวกเขาต้องไปต่อกรด้วยยังเป็นคุณหญิงแม่สุดโหดของมันอีก แล้วจะให้พวกเขาไปโวยวายสร้างเรื่องอ่ะเหรอ...?





     

    ไม่เอาอ่ะ!!

     




     

    แม่เต๋าน่ากลัวจะตายไปเหอะ ให้ตายพวกเขาก็ไม่กล้าไปยุ่งวุ่นวายกับครอบครัวของเต๋าหรอก ยิ่งไอ้ที่จะให้ไปสร้างปัญหาให้นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ฝันไปเถอะจ้า!


    คชาเฟรมถอยกรูด ทำเป็นชมนกชมไม้รอบข้างอย่างสบายใจ ส่วนคนกลางอย่างอ้นก็ได้แต่ถอนหายใจ นี่ถ้าไม่เกรงใจนะ เขาจะลุกขึ้นมาเต้นระบำหน้าท้องลาบัมบ้าดีใจเลยด้วยซ้ำ เป็นโชคดีของเขาที่ไอ้พวกนี้มันยอมอยู่เฉยๆ ไม่ได้สร้างเรื่องสร้างราวให้เขาต้องลำบาก




    อ้นยิ้มกว้างในความโชคดีของตัวเอง กลับกัน เต๋าแทบจะร้องไห้ในความโชคร้ายแบบไร้ที่ติของตัวเองอยู่รอมร่อ!

     



     

    “พวกมึงอย่าทอดทิ้งกูดิ! ช่วยกูคิดหน่อยยย กูบอกแม่ไปแล้วว่ามีแฟนอ่ะ คบกันมานานแล้วด้วย แล้ววันศุกร์นี้ก็ต้องพาไปให้แม่กูดูแล้ว ช่วยหาแฟนหลอกๆให้กูทีนะ ไอ้เฟรมมม คช๊าาาา” เต๋าแทบจะก้มกราบไอ้พวกนี้อยู่แล้ว จู่ๆก็มาทำเป็นไม่รู้จักกันซะงั้นอ่ะ หรือเขาจะหมดที่พึ่ง แล้วก็ต้องไปหมั้นจริงๆวะ

     




     

    ...ไม่เอานะ!

     




     

    “ไอ้เต๋า มึงจะดูถูกแม่ตัวเองเกินไปล่ะครับ ที่แม่มึงให้เวลามึงตั้งสองวันเนี่ยเพราะอะไรมึงรู้ป้ะ?” คชาที่ทนเห็นเต๋างอแงเป็นเด็กๆไม่ได้พูดแทรกขึ้นมา ทำให้เฟรมกับอ้นที่กำลังมองเต๋าด้วยสายตาเอือมๆต้องตั้งใจฟัง เพราะนานๆทีคชาจะพูดอะไรที่มันมีประโยชน์กับคนรอบข้างซักที


    “เพราะอะไรวะ? ให้แฟนกูเตรียมตัวเหรอ?” เต๋าหยุดโวยวายแล้วถามอย่างไม่เข้าใจ เขาคิดอย่างนี้จริงๆนะเว้ย ไม่ได้โม้ด้วย ก็นึกว่าแม่จะใจดี ให้เวลาแฟนเขาเตรียมใจนี่หว่า แต่สำหรับเขามันคงเป็นเวลาหาแฟนมาแก้ขัดอ่ะ หรือไม่ใช่วะ?


    “แม่มึงรู้ไงว่ามึงโกหกเขาอ่ะ! ไอ้เหี้ย นั่นอ่ะแม่มึงนะโว้ย! ให้ตายยังไงเขาก็รู้วะว่าลูกตัวเองกำลังมีความรักรึเปล่าน่ะ แล้วที่เขาให้เวลาก็เพราะอยากจะรู้ว่ามึงจะทำยังไงก็แค่นั้นแหละ เบื๊อกเอ๊ย!” คชาใช้มือผลักหัวเต๋าไปเบาๆอย่างจะเตือนสติ นี่มันคิดว่าแม่มันโง่ขนาดดูไม่ออกว่ามันโกหกเลยเหรอวะ กูล่ะเพลีย!


    “จริงดิ แล้วแม่กูรู้ได้ไงอ่ะ กูว่ากูไม่ได้แสดงพิรุธอะไรเลยนะ! เฮ้ยย ชา เอาไงดีวะะะะ”

     


     

    เต๋าแทบจะลงไปกราบตีนคชา ถ้าไม่ติดว่าคนมันเยอะล่ะก็นะ...

     



     

    มันคงทำไปแล้ว!

     




     

    คชาใช้เวลาคิดเล็กน้อย บอกตามตรงว่าไม่อยากจะยุ่งซักเท่าไหร่หรอกนะ แต่มันก็อดที่จะเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ไม่ได้ว่ะ เพราะถึงจะยุ่งยากยังไงก็เพื่อนกัน รู้จักกันมาตั้งอาทิตย์นึงแล้วด้วย...

     





     

    ใช่! ฟังไม่ผิดหรอก! รู้จักกันมาแค่อาทิตย์เดียวเองแหละ!

     





     

    คชากับเฟรมรู้จักกันตอนเช้าวันเปิดเรียนของมหาลัยปีสามวันแรก สารภาพว่าอยู่คณะเดียวกันคือแพทยศาสตร์ แถมยังเรียนด้วยกันมาหลายปีแต่ไม่เคยรู้จักกันเลย หน้ายังไม่เคยเห็นอ่ะเอาจริงๆ ส่วนเต๋านี่อยู่คนละคณะกัน แต่รู้จักกันก็เพราะเล่นบอล วันนั้นตอนบ่ายๆคชากับเฟรมไม่มีเรียน มีอีกทีก็สี่โมงเย็น จะกลับบ้านก็เสียเวลา ยังไงก็ต้องออกมาอีกอยู่ดี พอไม่มีอะไรทำก็เลยพากันไปเตะบอล แล้วก็เจอกับเต๋านี่แหละ ส่วนอ้นนี่รู้จักคนสุดท้ายเลย อ้นอยู่คณะสถาปัตย์ ส่วนเต๋าอยู่วิศวะ วันนั้นบังเอิญรอรถด้วยกัน คชาเฟรมเต๋าที่เพิ่งเรียนเสร็จเลยชวนอ้นคุย หลังจากนั้นก็กลายเป็นว่ามาสนิทกันนี่แหละ


    และถึงจะรู้จักและสนิทกันแค่อาทิตย์เดียวก็เถอะ แต่พวกเขาก็รักกันยิ่งกว่าเพื่อนที่คบกันมาเป็นปีเสียอีกนะ ร่วมเป็นร่วมตายกันมาก็หลายครั้ง ทั้งตอนที่เต๋าไปหลีหญิงของรุ่นพี่ปีสี่ ตอนที่คชาเผลอต่อยลูกอธิการที่เข้ามาม่อ และตอนที่เฟรมเอากีตาร์ทุบหัวรุ่นน้องจนหัวแตกกลางห้องดนตรี






     

    ถ้าถามว่าแล้ววีรกรรมอ้นล่ะ...?

     





     

    ก็คอยตามแก้ให้พวกแม่งนั่นแหละ! แค่นี้ก็ไม่มีเวลาจะไปทำอย่างอื่นแล้ว!

     







     

    ...กูเพลีย!!

     








     

    “คิดออกล่ะ”

     


     

    คชาว่าพลางยิ้มกว้างจนตาหยี ปรากฏรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจอย่างยิ่งจนคนที่เห็นกลืนน้ำลายดังเอื้อก แต่คนละความรู้สึกกันอ่ะนะ...เต๋ากลืนน้ำลายเพราะลุ้นกับทางรอดของตัวเอง เฟรมทำเพราะลุ้นเรื่องสนุกๆ ส่วนอ้นกลืนน้ำลายเพราะปลงตก อยากจะหายตัวแวบไปจากตรงนี้จริงๆให้ตายเถอะ

     

     

    “ว่ามาเลยคชา” เต๋าทำตาวิบวับ รอคอยอย่างมีความหวังขึ้นมาทันที


    “ตอนนี้มึงคบกับใครอยู่ป่ะ?”


    “คบ”


    “ดีมาก ฟังแผนกูนะพวกมึง”

     









     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------











     

     

    “แบบนี้จะดีเหรอวะ”

     


     

    เต๋าถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่คนมารวมตัวกันอยู่หน้าทางเข้าของภัตตาคารสุดหรูที่เฟรมเป็นคนจองสถานที่ให้ตามแผนของคชา ส่วนคชาที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการสั่งอาหารก็หันขวับมาจ้องเต๋าทันทีที่ได้ยิน เจ้าตัวขมวดคิ้วมองเต๋าในทำนองไม่พอใจ ถ้าอ่านสายตาได้ก็คงจะบอกประมาณว่า มึงไม่เชื่อใจกูรึไง

     


     

    เอาตามตรงนะ...เต๋าเริ่มไม่เชื่อแล้วว่ะ!

     


     

    แผนของคชาเป็นแผนเบสิกๆ เหมือนในละครหลังข่าวเป๊ะๆ คือให้ผู้หญิงที่เต๋าคบอยู่ตอนนี้มาโมเมไปว่าเป็นแฟนเต๋ามานานแล้ว แต่ไม่ได้บอกผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวกับแผนการนี้ เพราะเจ้าตัวเล็กบอกว่าผู้หญิงมันปากมาก ถ้ารู้แล้วแผนล่มแน่นอน เต๋าเลยต้องทำตามที่คชาบอก โทรนัดผู้หญิง (ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ชื่อ) ให้มาเจอกัน โดยเต๋าจะเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาแหวนใส่ไว้ในเค้ก และเมื่อถึงฉากสำคัญ อ้นจะไปตามแม่เต๋าให้มาเห็นเหตุการณ์สุดแสนจะโรแมนติกนี่ซะ แม่เต๋าจะได้เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้เต๋ามันจริงจัง แล้วก็จะได้ยกเลิกการหมั้นไปซักที


    สารภาพตามตรงไม่อ้อมค้อมปิดบังว่าตอนฟังแผนมันก็ดูเริ่ดดีอ่ะนะ ดูเหมือนมันจะสำเร็จอ่ะ แต่พอได้ลองลงมือทำตามไปได้ครึ่งทางแล้ว เต๋ารู้สึกว่ามันจะล่มยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกว่ะ ตาขวากระตุกยิกๆ บอกเหตุว่าในอนาคตเขาคงต้องซวยอภิมหาศาลเป็นแน่แท้


    ด้านเฟรมและอ้นก็กำลังช่วยกันคิดหาเหตุผลว่าจะดึงเอาแม่เต๋าออกมายังไงดี ส่วนคชาก็กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการยัดแหวนประจำตระกูลของเต๋าลงไปในเค้กรสสตอเบอร์รี่ที่เจ้าตัวเป็นคนสั่งมา พร้อมกับย้ำแผนให้เต๋าฟังอีกครั้งอย่างตั้งใจ

     


     

    “ชา กูขอซ้อมหน่อยได้ป่ะ คือกูรู้สึกเฟลอย่างบอกไม่ถูกว่ะ”


    “ซ้อมอะไรวะ”


    “มึงมาเป็นผู้หญิงดิ้ กูจะลองพูดตามบทที่กูซ้อมมาดู”


    “เออๆ มาๆ”

     




     

    เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เต๋าต้องการให้ช่วยคืออะไร คชาก็หยุดจากการยัดแหวนใส่เค้กแล้วก็จัดการเงยหน้าขึ้นมาหาเต๋า ยืดตัวตรงแล้วทำเป็นตั้งใจฟังในสิ่งที่เต๋ากำลังจะพูด ทางเต๋าก็อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา คชาพอเห็นอย่างนั้นก็เร่งเต๋า

     




     

    “...”


    “เอ้า พูดมาดิ”


    “คือ...กูจำชื่อผู้หญิงไม่ได้ว่ะ”


    “...!

     





     

    คชาอ้าปากค้าง แทบจะกระโดดเข้าไปงับหัวไอ้เต๋ามันอยู่รอมร่อ บ้าเอ๊ยย เต๋ามันเอ๋อจริงๆนั่นแหละ ถ้านับตั้งแต่วันแรกมาจนถึงวันนี้เต๋ามันคบกับผู้หญิงคนนั้นมาได้สี่วันแล้วนะเฮ้ย แล้วนี่กำลังจะทำเรื่องสำคัญแท้ๆ มันเสือกบอกว่าไม่รู้ชื่อผู้หญิงเนี่ยนะ คชาโคตรเพลีย!



     

    “งั้นมึงก็พูดชื่อกูไปก่อน เร็วๆมึง จะถึงเวลาที่นัดแล้ว”


    “โอเคๆ ชื่อมึงนะ...อะแฮ่ม! คชา...”

     




     

    เต๋าหลับตาพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องหน้าคชานิ่งอย่างจริงจัง มือทั้งสองของเต๋ากุมมือเล็กของคชาที่วางเอาไว้บนโต๊ะอาหารแน่น สายตาจริงใจของเต๋ามองสบตรงไปที่ดวงตาใสๆนั่น ก่อนที่คชาจะ...

     







     

    หลุดขำออกมา

     








     

    “หึ ฮะๆ เต๋า กูขอโทษ เอาใหม่ๆ...หึหึ”


    “คชา...มึงแม่ง”

     







     

    เต๋าหน้าแดงไปจนถึงใบหู อยากจะยกขาขึ้นมาก้านคอคชาซักทีสองที! ก็กว่าจะรวบรวมความกล้าพูดออกมาแต่ละคำได้มันยากนะเว้ย! แล้วยิ่งเป็นการพูดบทที่หวานจนเลี่ยนกับเพื่อนที่มันสนิทกันแบบโคตรๆอย่างคชาด้วยแล้วก็ยิ่งแล้วใหญ่ เขาก็อายเป็นอะไรเป็นนะ ไม่ได้หน้าด้านหน้าหน้าทนทำตัวเหี้ยไปวันๆอย่างที่ไอ้อ้นมันกล่าวหาเสียหน่อย


     

    “เอาล่ะ” เต๋าทำหน้าจริงจัง จ้องหน้าคชาใหม่อีกครั้ง ส่วนคชาที่กลัวจะหลุดหัวเราะออกมาให้เสียเรื่องอีกรอบเลยเข้าโหมดหน้าเดียว ไร้ความรู้สึกเหมือนอย่างวันแรกที่เต๋าเจอ


    “คชา เต๋ามีอะไรจะบอก”



    “มีอะไรเหรอ” คชาแสร้งยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอียงคออย่างนึกสงสัย ถึงเขาจะอยู่แพทย์ก็เถอะ แต่วิชาแอคติ้งของเขามันก็เจ๋งไม่แพ้เด็กนิเทศเลยนะเว้ย

     


     

    “คือคชา...ตลอดเวลาที่เราคบกันมา (4 วัน) เต๋าว่าเต๋ารู้สึกดีกับคชามากเลย ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าคชา (คชาทำหน้าเอือม) ตอนจะนอนในหัวก็มีแต่คชา (คชาทำหน้าจะอ้วก) แล้ววันนี้ เต๋าก็อยากจะบอกคชาว่า...”

     





     

    คชายิ้มหวาน (เฟค) ให้เต๋า ส่วนอ้นกับเฟรมดันลืมหน้าที่ไปชั่วขณะ เพราะทั้งคู่มัวแต่หันไปสนใจบทสนทนาของเต๋ากับคชามากกว่า นั่นเลยทำเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านหน้าทั้งสองไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และพอตั้งตัวได้ ทุกอย่างก็เหมือนจะสายไปซะแล้ว...

     









     

    “พี่เต๋า!!!!

     








     

    เต๋าอ้าปากค้าง หยุดทุกคำพูดไว้ทันทีที่ได้ยินเสียงแหลมๆนี่ดังขึ้น ส่วนคชาหลับตาปี๋ ตกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้คาดฝัน และพอมองแล้วรู้ว่าใครที่เป็นคนตะโกนเท่านั้นแหละ คชาก็เบิกตากว้าง ก่อนจะหันไปส่งสายตาจิกกัดพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่พวกเฟรมและอ้นลงความเห็นกันแล้วว่าโคตรสยองมาให้ทันที


    เฟรมกับอ้นแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะให้ตัวเองตายไปให้รู้แล้วรู้รอดมันซะตรงนี้ ไม่อยากจะคิดถึงชีวิตของพวกเขาหลังจากนี้เลยซักนิด โดนคชามันเอาตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเห็นศพพวกเขาถูกหมกอยู่ตามป่าตามเขาก็ไม่ต้องตกใจนะ ทางที่ดีช่วยรวบรวมชิ้นส่วนให้ด้วยก็จะขอบคุณมากเลย


    เพราะแค่คิดถึงรอยยิ้มสยองๆนั่นก็อยากจะผูกคอตายแล้ว ก็สิ่งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นที่สุดดันเกิดซะนี่ ก็ยัยผู้หญิงคนที่ไอ้เต๋ามันคบอยู่สี่วันดันเจือกมาก่อนเวลานัดตั้งสิบนาทีนี่หว่า แล้วตอนนั้นพวกเขาก็กำลังเคลิ้มกับฉากรักสวีทหวานน้ำตาลขึ้นจนมดไต่ของคชากับเต๋าพอดี เลยไม่ทันได้ดูว่าจะมีคนเดินเข้ามาในร้านอ่ะดิ

     


     

    “กูขอโทษษษ”

     


     

    อ้นกับเฟรมขยับปากบอกคชาแบบไม่มีเสียงพร้อมยกมือไหว้คชาปลกๆ โต๊ะของพวกเขาห่างจากพวกคชาประมาณห้าโต๊ะได้ แถมผู้หญิงคนนั้นยังหันหลังให้อยู่ ทำให้อ้นกับเฟรมแสดงท่าทางสำนึกผิดได้เต็มที่ ส่วนคชาก็ได้ค้อนตาเหลือก ถ้าทำได้ก็คงจะกระโดดมางับหัวพวกเขาแล้ว แต่ยังดีที่มันทำอย่างงั้นไม่ได้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบนี้

     


     

    “นี่พี่เต๋าเรียกจอยมาเพื่อให้มาดูฉากที่พี่เต๋ากำลังจะบอกรักคนอื่นอย่างนั้นเหรอ!!!

     






     

    อ่อ...แฟนเต๋าสี่วันชื่อจอยนี่เอง

     


     

    เต๋าที่กำลังอึ้งกับเหตุการณ์ทำหน้า อ๋อ กูรู้ล่ะ ออกมาแวบนึงแล้วก็ได้แต่นั่งนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก หันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคชาทันที แต่ในสายตาของคนที่กำลังเข้าใจผิดอย่างแรงแบบจอย สิ่งที่หญิงสาวเห็นจึงกลายเป็นฉากเต๋าส่งสายตาหวานหยดให้คชาที่นั่งตรงข้ามกันโดยไม่เห็นหัวเธอต่างหาก

     


     

    “พี่เต๋า...นี่มึงเป็นเกย์เหรอวะ!!!

     


     

    จอยเลิกแล้วกับการเรียกเต๋าแบบดีๆ ถึงมันจะเป็นพี่ก็เหอะ แต่ขอขึ้นมึงกูหน่อยเถอะวะ! เสียใจอะไรยังไม่เท่ากับการที่ผู้ชายของตัวเองถูกดันถูกผู้ชายด้วยกันนี่แหละแย่งเอาไป ถึงจอยจะไม่รู้จักคชามาก่อน แต่ดูจากสายตาที่คชามองเต๋าแล้ว มันสื่อได้แค่ว่า...คชารักเต๋ามาก! และแน่นอน สายตาเต๋าก็บอกเหมือนกันว่ารักคชามาก! (นี่มึงใช้อะไรมองห๊ะ - -)

     


     

    “ตอบสิวะ! นี่มึงเป็นเกย์ใช่มั้ย!!” จอยยังคงตะโกนถามเต๋าด้วยความรู้สึกทั้งขายหน้าและสมเพชตัวเอง นี่เธอมีแฟนเป็นเกย์มาตลอดสี่วันเลยเหรอวะ อัปยศอดสูมาก!


    “เปล่านะจอย พี่ไม่ได้เป็นนะ”


    “แล้วไอ้ฉากโรแมนติกเมื่อกี้มันอะไร! พี่คิดว่าจอยโง่มากเหรอวะ! ถ้าอยากจะบอกเลิกทำไมไม่พูดมาตรงๆ! จะเรียกให้จอยมาเจอภาพทำร้ายจิตใจทำไม ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!!

     




     

    จอยตะโกนลั่นใส่หน้าเต๋าแล้วก็สะบัดก้นเดินออกจากประตูไป เต๋าได้แต่นั่งอึ้งอย่างเคย ส่วนที่อึ้งก็เพราะว่าในชีวิตนี้นอกจากเพื่อนเขาสามคนนี่แล้วก็ยังไม่เคยมีใครกล้าขนาดที่มาตะโกนใส่หน้าคุณชายอย่างเขาว่าไอ้เหี้ยเอ๊ยมาก่อนเลยซักคน


    เรื่องจอย? เหอะ เขาไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยซักนิดที่ได้ทำร้ายความรู้สึกของจอยหรอกนะบอกตรงๆ เพราะตลอดระยะเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ เขาก็ไม่ค่อยได้แคร์ความรู้สึกของใครเท่าไหร่อยู่แล้ว อย่างน้อยลองไปนับผู้หญิงที่เขาฟันแล้วทิ้งมาก็น่าจะรู้ล่ะ

     




     

    “เต๋า...” คชาเรียกเต๋าด้วยเสียงอ่อยๆ ส่วนเต๋าก็ส่ายหน้ากลับว่าไม่เป็นไร


    “ไม่เป็นไรชา กูไม่เป็นไร แผนพังหมดเลยเนอะ” เต๋าแสร้งยิ้ม ทั้งที่ในใจกังวลจนแทบจะทะลัก พรุ่งนี้แล้วที่เขาต้องพาแฟนปลอมๆไปหาแม่ แต่ถ้าแผนพังหมดแบบนี้ ทางเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือลองเจรจากับแม่ดูก่อน แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ยังไงก็คงต้องยอมหมั้นตามที่แม่บอก


    “เปล่า...กูแค่จะบอกว่าไหนๆแผนก็พังแล้ว เค้กนี่กูขอนะ” คชายิ้มกว้างมองเต๋า พลางนิ้วเรียวก็ชี้ไปที่เค้กรสสตอเบอร์รี่ที่ตัวเองจ้องมาตั้งแต่แรก เต๋าถอนหายใจ พยักหน้าอนุญาตเบาๆ ส่วนอ้นและเฟรมพอเห็นว่าจอยเดินออกไปแล้ว ทั้งคู่เลยค่อยๆเดินเข้ามาหาเต๋ากับคชาที่โต๊ะ คชาอมยิ้มพลางตักเค้กเข้าปากไปด้วยอย่างถูกอกถูกใจกับรสชาติหวานๆนี่ ส่วนเต๋าก็กุมขมับอย่างคิดมาก ไม่ว่ายังไงก็ต้องหมั้นจริงๆสินะ

     




     

    เฮ้ออออ

     





     

    “เฮ้ยไอ้เต๋า มึงอย่าเพิ่งคิดมากนะ เดี๋ยวพวกกูจะช่วยพูดกับแม่มึงให้”


    “พูดไปก็เท่านั้น แม่กูไม่ฟังพวกมึงหรอก มึงก็น่าจะรู้นะอ้น”


    “เออ ก็จริง ตอนเรื่องน้องแนทกูไปอธิบายแทนมึงแทบตาย กว่าแม่มึงจะยอมลงก็ตอนที่น้องแนทมันเดินมาพูดแทนนั่นแหละ...แล้วแบบนี้มึงจะเอาไง? ยอมหมั้นเหรอวะ”


    “ถ้ามันไม่มีทางออก ก็คงต้องเป็นอย่างงั้นแหละ”

     





     

    เต๋าถอนหายใจ โบกมือลาอ้นกับเฟรมเป็นการบอกกลายๆให้กลับบ้านไปได้แล้ว เพราะเขารบกวนพวกมันสองคนมาทั้งวันกับการเตรียมแผนการในวันนี้ แต่มันก็ดันมาพังไม่เป็นท่าซะได้ ส่วนคชาที่กำลังกินเค้กอยู่น่ะเดี๋ยวเขาจะไปส่งเอง เพราะถึงยังไงบ้านก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว อ้อมรถไปส่งหน่อยยังไงก็ไม่เสียหาย




     

    “คชา กินอะไรอีกมั้ย เดี๋ยวกูเลี้ยง” เต๋าถามอย่างใจดี เอาจริงๆตอนนี้เขายังไม่อยากจะกลับบ้านซักเท่าไหร่ นั่งดูคชากินมันก็เพลินดีเหมือนกัน


    “ไม่ล่ะ รอกูกินเค้กนี่แปบนึง จะหมดแล้ว” คชางับเค้กคำสุดท้ายเข้าปากเสร็จก็กลืนลงไปโดยที่ไม่ได้เคี้ยวเลยสักคำ “...หมดแล้ว ป่ะเต๋า กลับบ้าน”

     




     

    เฮ้ย อย่ามองคชาด้วยสายตาแบบนั้น นี่เป็นความสามารถพิเศษของคชาเลยนะเว้ย! (มึงภูมิใจ?)

     




     

    “เออๆ กลับก็กลับ...ว่าแต่แล้วแหวนกูอ่ะ มึงเก็บไว้ไหน”


    “อ๋อ...กูใส่ไว้ใน...เอ่อ...ในเค้ก...ชิบหายล่ะ


    “อันนั้นกูรู้แล้ว แล้วมันอยู่ไหนล่ะตอนนี้ กูจะเก็บ เดี๋ยวหายขึ้นมาแม่กูเล่นกูตายห่าแน่”


    “...เต๋า”


    “หือ มีไรชา”


    “คือ...แหวนมึงอ่ะ...”


    “?”

     

     



     

    .




     

    ..

     

     



     

     

     








     

     

    “กูกลืนลงไปแล้วว่ะ!












     

     

     

    “.....”

     









     

     

     

    ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!

     










     

     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     














    เป็นไงล่ะมึง ตะกละตะกามไม่เข้าที่ สมน้ำหน้า (คชา : พ่อง!)



    5555555555555555

    มาแล้วจ้ามาแล้ว เรื่องใหม่ตอนที่1
    สารภาพว่าตอนแรกนอยด์มาก กะจะทิ้งไม่ลงแล้วแหละ
    แต่ดันมาอารมณ์ดีเพราะคอมเม้นที่เม้นทุกตอนไม่ขาดเข้าซะก่อน เลยเอามาลงให้ <3

    อย่าหาว่าเรื่องมากเห็นแก่คอมเม้นหรืออะไรเลยนะ แต่เห็นใจหน่อยเถอะ
    ตั้งใจเขียนมาแทบตายก็อยากจะอ่านกลับบ้างอะไรบ้าง
    คำสองคำก็ยิ้มแล้วนะเอาจริงๆ :)

    เรื่องนี้ก็แน่นอนตามว่าสไตย์เรา ไม่มีดราม่าอะไรทั้งสิ้น เกรียนกันทั้งเรื่องแบบไม่ต้องพัก
    ก็แหม ดูตัวละครแต่ละตัวสิ หึหึหึ






    ป.ล.1 น่าจะ 7 ตอนจบ
    ป.ล.2 มีฉากงดออกสื่อ
    ป.ล.3 ใครเป็นนักเขียนแลกแบนเนอร์ได้นะ
    ป.ล.4 เม้นหน่อยๆๆๆๆๆ :)





















    29/11/2012
    18:00 @USA














    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×