คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : SF - SWEET CREAM [10]
# PART 10 #
“เฮ้ยเดี๋ยวน้อง! มาแลกบัตรก่อน!”
“ไว้ก่อนพี่!”
ผมเร่งสุดฝีเท้ามาที่หน้าลิฟต์ก่อนจะต้องสบถออกมาเสียงดังจนคนที่รออยู่รอบข้างหันมามองกันเป็นตาเดียว ก็คนที่มารอขึ้นลิฟต์ดันมีเยอะมากจนไม่มีที่แทรกให้ผมเข้าไปได้ ยิ่งความเร็วที่ช้าซะจนเต่ายังจะแซงของไอ้กล่องอลูมีเนียมเคลื่อนที่ที่ไร้ประโยชน์อันนี้ก็ยิ่งทำเอาผมหงุดหงิดงุ่นง่านมากกว่าเก่าจนแทบจะระเบิดตัวเองมันซะเดี๋ยวนั้น
ย้อนกลับไปหน่อยก็แล้วกันครับ เมื่อกี้ผมวิ่งออกจากร้านเค้กมาอย่างไม่สนใจเสียงเรียกเสียงตะโกนของใครทั้งสิ้น พอกระโดดขึ้นบีทีเอสมาได้ก็เอาแต่กดโทรศัพท์หาคชาแบบไม่ยั้งมือ แต่ยิ่งโทรเขาก็ยิ่งไม่รับ และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมร้อนใจมากกว่าเก่าจนไม่รู้จะทำยังไง เลยได้แต่บ่นไอ้รถกระป๋องเคลื่อนที่คันนี้ให้มันวิ่งเร็วขึ้นอีกนิดทั้งๆที่รู้ว่าบ่นไปก็คงจะเท่านั้น
พอมาถึงที่หมายผมก็วิ่งตรงเข้ามาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพี่ยามหน้าคอนโด ก่อนจะมายืนส่งรังสีทะมึนใส่ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมกากๆตรงหน้าผมเนี่ยแหละ
....
ไม่รงไม่รอมันล่ะ!!
ผมวิ่งอ้อมไปขึ้นบันไดหนีไฟทันทีที่หมดความอดทน ยังดีที่ห้องคชาอยู่แค่ชั้นสาม ผมเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อใกล้จะถึงที่หมาย เสียงหอบหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดผมก็มาถึง เหมือนเห็นแสงสว่างส่องลอดออกมาจากความมืดอย่างไงอย่างงั้น
กูถึงแล้ว!
ผั่วะ!
บานประตูหนีไฟถูกผมผลักออกด้วยไหล่อย่างแรงทันทีที่วิ่งมาถึงชั้นสาม ผมรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างมันหยุดนิ่ง รู้สึกเหมือนโลกใบนี้มันกำลังจะถล่ม แล้วก็ได้แต่คิดว่าผมนี่มันไร้สมองสิ้นดี
ประตูหนีไฟที่ไหน...
เขาเปิดจากข้างนอกได้กันเล่า!!
“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!”
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
“แฮ่ก แฮ่ก!”
ในที่สุดผมก็มาถึงห้องคชา!
ผมวิ่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง 333 ในขณะที่กำลังจะเคาะประตูก็ดันได้ยินเสียงเหมือนของหนักตกกระทบพื้นเสียก่อน จากนั้นมันก็มาพร้อมกับเสียงโวยวายทุ้มๆของคนที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าเกลียดขี้หน้า...ที่สุด!
“ไอ้อ้น!”
ผมสบถแล้วเปิดประตูเข้าไป โชคดีที่ห้องมันไม่ได้ล้อคเอาไว้ ก่อนจะแทบถลาไปลากไอ้อ้นออกมาเกือบไม่ทัน สภาพของคชากับไอ้อ้นที่ผมเห็นทำเอาความโกรธที่มันเคยลดลงไปเพราะความเหนื่อยที่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงพุ่งปิ๊ดขึ้นมาอีกครั้งจนรู้สึกปวดตุบๆที่ขมับ
ภาพที่ผมเห็นคือไอ้เหี้ยมหาประลัยเหี้ยบรรลัยมหาสมุทรสุดโคตรขอบฟ้าจรดภูเขานอกอวกาศเหี้ย (-__-) อ้นกำลังคร่อมคชาอยู่โดยที่ทั้งตัวคชามีแค่เสื้อคลุมอาบน้ำสีดำเพียงตัวเดียวเท่านั้น ในสมองผมตอนนั้นมันขาวโพลน สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเลยไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาจากอะไรทั้งสิ้น มันออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกของผมล้วนๆ!
ต่อยแม่งงงง!!!!
“เฮ้ยเดี๋ยวไอ้เต๋า!”
“เต๋า!”
“มึงตายยยยยยยยยย!!!”
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
“กูขอโทษนะเต๋า”
“ขอโทษนะพี่เต๋า”
“ขอโทษนะเว่ย...”
ผมยืนกอดอกปั้นหน้ายักษ์จ้องพวกมันแปดตัวด้วยดวงตาถมึงทึง ไอ้โปเต้บวกไอ้แพรวกับไอ้เฟรมกำลังนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ตรงหน้าผม พี่แอ้นกับไอ้ต้นเอ่ยขอโทษผมไปเรื่อยๆ ในขณะที่แพรวาและหลินพากันวิ่งวุ่นหากล่องยา
กล่องยา?
แล้วก็ไม่ต้องสงสัยว่าไอ้ตัวต้นเหตุมันหายไปไหน นั่งโอดครวญว่าเจ็บอย่างนั้นปวดอย่างนี้อยู่ตรงโซฟาตรงกันข้ามกับผมนี่แหละ เมื่อกี้ผมลงหมัดซัดใส่เข้าหน้ามันไปเต็มแรง ถึงจะไม่เคยต่อยใครมาก่อนเลยซักครั้งในชีวิตก็เถอะ แต่คงเพราะตอนนั้นผมกำลังโมโหมั้งครับ เลยจัดไปแบบเต็มๆไม่มีออมแรงเลยซักนิด
“ไอ้เหี้ยเต๋า มึงต่อยมาได้ไม่ไว้หน้ากูเลยนะ”
“มึงนั่นแหละไอ้สัส คร่อมคชาซะกลางห้องแบบไม่เกรงใจกูเลยนะ”
“มึงเป็นอะไรกับคชา ทำไมกูถึงต้องเกรงใจห้ะ”
“ยังไม่เข็ดสินะมึง!”
ผมเตรียมถกแขนเสื้อจะถลาไปต่อยหน้าแม่งอีกซักหนแต่ก็ต้องหยุดไว้ก่อนเพราะโดนไอ้เฟรมกับไอ้แพรวที่กระโดดขึ้นมาล็อคแขนเอาไว้คนละข้าง พร้อมกับโปเต้ที่ขยับแว่นแล้วเดินเข้ามาขวางหน้าระหว่างผมกับไอ้ศัตรูหมายเลขหนึ่งจนผมต้องมองตาม มันขยับนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วส่ายไปส่ายมาตรงหน้าผม ทำเสียงจุ้ๆจนผมหงุดหงิด อ้าปากจะงับนิ้วแม่งไปซักทีสองทีจนมันชักนิ้วกลับไปแทบไม่ทัน
“อะไรของมึงห้ะ! ส่ายนิ้วหาพ่อง!”
“มึงอย่าแดกนิ้วกูดิไอ้เหี้ย! นี่ไงกูกำลังจะคลายข้อสงสัยให้มึงอยู่!”
“งั้นก็ว่ามาเร็วๆ! เล่นเหี้ยอะไรกันไม่รู้เรื่องนะพวกมึง!”
“รอคชาก่อน”
มันพูดขึ้นมาเรียบๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมชะงักแล้วลงไปนั่งสงบเสงี่ยมที่โซฟาทันที ไอ้เฟรมกับไอ้แพรวมองผมงงๆซักพักแล้วแม่งก็หัวเราะออกมา ไอ้หัวเราะนี่ไม่เท่าไหร่ครับยังพอให้อภัย แต่ไอ้เหี้ยโปเต้นี่เสือกยิ้มชั่วร้ายส่งมาให้กูอีก นี่พวกมึงคิดกันเหรอว่านี่จะเป็นจุดอ่อนของกูอ่ะ คิดเหรอว่าถ้าพูดชื่อคชาแล้วกูจะยอมทุกอย่างอ่ะ คิดเหรอ...
เออ มึงคิดถูก!!
ผมยอมนั่งลงเงียบๆ แล้วหัวสมองมันก็พาให้คิดไปถึงเรื่องที่ผมเสือกพูดอะไรๆออกไปที่โรงอาหาร พอมาคิดๆดูแล้วก็รู้สึกว่าผมนี่แม่งหน้าด้านชะมัด แต่มันก็อาจจะเป็นผลดีก็ได้ถ้าคิดในอีกแง่ การที่ผมกล้าพูดอะไรแบบนั้นต่อหน้าคชามันก็คงทำให้เขารู้บ้างแล้วล่ะว่าผมคิดยังไงกับเขา ตอนนี้ผมก็คงได้แต่หวังนั่นแหละว่าคำตอบมันจะคืออะไร แต่การที่เขายังมาขลุกอยู่กับผมวันนี้ก็ทำให้ผมมั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจความรู้สึกของผม
“เสร็จแล้ว”
ผมเงยหน้าหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงของคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่ เขาออกมาในชุดนอนลายทางสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ห้อยคอออกมาด้วย คชากวาดตามองแต่ละคนก่อนจะมาหยุดสบตากับผมในเสี้ยววินาทีแล้วยิ้มออกมาบางๆ แต่แค่นั้นก็เล่นเอาผมใจสั่น เขาก้าวขาเดินเข้ามานั่งข้างผมบนโซฟาตัวเดียวกัน เอนหลังพิงพนักโซฟาพลางขยับตัวให้อยู่ในท่าที่สบายแล้วมองตรงไปที่ไอ้พวกตัวป่วนด้วยสายตาที่ผมสุดจะบรรยาย...
น่ากลัวชิบ .___.
“เอาล่ะ เกิดอะไรขึ้น”
คชาถามเสียงเรียบ ส่งสายตาที่ขนาดผมได้แต่มองข้างๆก็ยังนึกกลัว ไม่อยากจะคิดว่าไอ้พวกที่ต้องทนมองตรงๆมันจะยังรอดชีวิตกันอยู่มั้ย พวกมันแต่ละคนเริ่มนั่งไม่ติดพื้น หันซ้ายหันขวาหาคนอธิบายเรื่องราวใหญ่ แต่สรุปแล้วแม่งก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาซักที จนคชาขยับตัวนั่นแหละไอ้เฟรมถึงได้กระโดดขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็วแล้วตะโกนออกมาทันที
“กูไม่รู้เรื่องนะเว้ยคชา กูโดนลากเข้ามาแบบไม่เต็มใจ!”
“อ้าวไอ้เฟรม! เอาตัวรอด!”
“เงียบไปไอ้ต้น! มึงอ่ะตัวการ!”
“กูเปล่านะ น้องหลินโน่นที่คิดแผนอ่ะ!”
“พี่ต้นอย่ามาโยนให้หลิน ไปว่าแพรวาโน่น คนจัดการทุกอย่างน่ะ!”
“หนูจัดการทุกอย่างก็จริง แต่พี่อ้นเป็นคนแสดงนะพี่!”
“กูโดนต่อยขนาดนี้ ยังจะมาโยนขี้ให้กูอีกเรอะ!”
“ก็พี่อ่ะแหละเสือกไปคร่อมพี่คชาทำไมเล่า!”
“กูสะดุดโว้ย!!!”
“เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!!!”
ผมตะโกนออกไปสุดเสียงหลังจากที่นั่งมองพวกมันมานานด้วยความรำคาญสุดจะทน ไอ้พวกเหี้ยนี่แม่งโยนความผิดกันไปมาเป็นเด็กอนุบาลไปได้ ให้ตายเถอะ! แต่พอหันไปมองข้างๆก็เห็นคชาอมยิ้มออกมานิดๆกับเหตุการณ์ปัญญาอ่อนเมื่อกี้ ความรำคาญที่มีเลยหายว๊าบไปทันที
ผมเคยคิดๆอยู่เหมือนกันนะ... (เพิ่งแวบเข้ามาในหัวเมื่อกี้นี้แหละ)
บางทีคชาอาจจะเป็นจุดอ่อนของผมก็ได้...แค่บางทีนะบางที
“เอาล่ะไอ้ต้น” ผมชี้นิ้วไปที่ไอ้คนที่นั่งทำหน้าเศร้าสำนึกผิดแบบเฟคสัสๆอยู่ตรงหน้าผมด้วยความหมั่นไส้เกินจะทน “มึงอธิบายมาให้หมดบัดเดี๋ยวนี้!” ก่อนจะบอกให้มันเล่าทุกอย่างออกมาให้หมดเปลือก อย่าคิดว่ามึงจะรอดนะไอ้ต้น กูรู้ว่ามึงนั่นแหละตัวการทุกอย่าง!
“ไอ้เต๋า! กูเป็นเพื่อมึงนะเว้ย!”
“อย่ามาอ้างครับมึง”
“มัน...มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกเว้ย! คือ...กูก็แค่อยากแกล้งมึงอ่ะเต๋า อยากเห็นมึงหึงจนทำอะไรไม่ถูกเฉยๆ แล้วทีนี้พอไปเจอกับพวกสภานักเรียน ปรากฏว่าความคิดเราตรงกันพอดีไง เลยตกลงร่วมมือกันอ่ะ แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบเนี้ย...”
ไอ้ต้นอธิบายไปคนอื่นที่นั่งอยู่ก็พยักหน้ากันไป เห็นแล้วผมก็อดที่จะขำไม่ได้ว่ะครับ พวกมันแต่ละคนนี่ผมไม่เคยเห็นใครซักคนมานั่งสำนึกผิดแบบนี้เลยนะบอกตามตรง ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกเลยมั้งครับที่ต้องมาเอ่ยขอโทษเนี่ย แต่เห็นแล้วก็สงสารครับ ยอมยกโทษให้ก็ได้
เอาเข้าจริงมันก็เป็นผลดีสำหรับผมเหมือนกันนะครับ...
“เลยตกลงร่วมมือกันไง แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ไง...กูก็เลยโดนต่อยแบบเนี้ย...”
เสียงทุ้มๆของไอ้อ้นที่ถูกดัดจนแหลมเอ่ยล้อเลียนไอ้ต้นขึ้นมาเรียกเอาเสียงหัวเราะจากพวกเราได้เป็นอย่างดี ไอ้ต้นหันไปแยกเขี้ยวใส่ ในขณะที่ไอ้อ้น มันก็ยังคงความสามารถที่จะบ่นถึงเรื่องที่ผมต่อยมันไปได้เรื่อยๆโดยไม่หยุดปากเลยซักนิด เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลยนะครับเฮ้ย แค่ปากแตก บวมนิดๆ ช้ำหน่อยๆ มีสีแดงๆ ม่วงๆ แถวๆมุมปาก
เฮ้! แค่นี้ทำเป็นบ่นไปได้นะมึง
“ก็นั่นมึงทำตัวเองอ่ะไอ้อ้น มึงเสือกไปคร่อมคชาเอง”
“เหี้ยเฟรม! กูก็พูดปาวๆอยู่ว่ากูสะดุดโว้ยยยย!!”
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
พวกมันกลับกันไปหมดแล้วเรียบร้อยครับ
ตอนนี้เหลือแค่ผมกับคชาที่อยู่ในห้อง ก่อนจะไปพวกผมก็นัดแนะเรื่องซ้อมดนตรีในวันพรุ่งนี้กันนิดหน่อย สรุปว่าสิบโมงเจอกันที่ห้องซ้อมแถวๆหมอชิต ซึ่งไอ้เฟรมไปเช่ามาแล้วเรียบร้อย 7 ชั่วโมงรวด กะเอาให้โน้ตเพลงซึมซับเข้าผิวหนังกันเลยทีเดียว สิบโมงถึงห้าโมงเย็นของวันพรุ่งนี้ดูท่าน่าจะยุ่งกันน่าดู เพราะพอประเมินจากสมาชิกแต่ละคนแล้วนั้น ผมหาความปกติไม่ได้เลยซักคนครับ
“เต๋า เสื้อบอลกับกางเกงอยู่ในตู้ที่เดิมนะ ไปอาบน้ำไป”
ผมพยักหน้าให้คชาพลางเดินเข้าห้องน้ำไปคว้าเอาเสื้อบอลกับกางเกงสามส่วนตัวเดิมมาวางไว้แล้วลงมืออาบน้ำทันที วันนี้ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยชะมัด เหมือนใช้พลังงานไปเยอะมากทั้งที่พอลองมานึกย้อนดูแล้วผมแม่งไม่ได้ทำอะไรเลยซักนิด
ผมอาบน้ำเหมือนวิ่งผ่านน้ำ เช็ดตัวแล้วใส่เสื้อผ้าทันที ไม่คิดจะเดินออกจากห้องน้ำไปในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวอีกแล้วครับ ครั้งก่อนยังขายขี้หน้าอยู่ไม่หาย พูดแล้วก็อาย ตอนนั้นกูคิดเหี้ยอะไรอยู่ ทำไมถึงกล้าเดินออกไปทั้งๆที่มีแค่ผ้าขนหนูพันเอวอยู่ผืนเดียววะ
ผมเปิดประตูออกมาพลางกวาดตามองหาเจ้าของห้อง ปรากฏว่าไม่เจอครับ เลยลองเดินๆออกมาสำรวจห้องเขาดูซักหน่อย ครั้งที่แล้วมาก็เหมือนไม่ได้มา เพราะผมดันเผลอหลับไปก่อนบนโซฟาซะงั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วแม่งก็ไม่มีอะไรให้ผมสำรวจซักอย่าง ห้องคชานี่มันจะเรียบสนิทเกินไปล่ะนะ (ไปเสือกอะไรกับเขาล่ะมึง -__-)
“เต๋า ทำไมอาบน้ำเร็วจัง”
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก พอเห็นคชากำลังยืนชงโกโก้ร้อนพลางมองมาทางผมอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวผมก็เดินเข้าไปหาเขาทันที
“หือ... มีอะไรเต๋า?”
“ที่มันทำน่ะ...อุบัติเหตุแน่ใช่มั้ยครับ?”
“ทำ...? ทำอะไร ใครทำอะไรใครเต๋า?”
“ไอ้อ้นน่ะ แค่สะดุดใช่มั้ยครับ”
“อ๋อ ตอนนั้นคชาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ แล้วอ้นเดินมาจะให้คชาทำอะไรซักอย่างนี่แหละ แต่ดันสะดุดขาโต๊ะตรงหน้าโซฟา เลยล้มมาทับคชาอ่ะ”
ผมกำหมัดแน่น ถึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจแต่ภาพที่เห็นมันก็ชวนคิดไปไกล แถมคำบอกเล่าที่คชาว่ามาทั้งหมดนั่นก็แสดงว่ามันมาที่นี่ตั้งนานแล้ว นานจนสามารถนั่งรอคชาอาบน้ำได้ แล้วคชาก็ดันออกจากห้องน้ำมาในสภาพแบบนั้นอีก ตอนนั้นมันจะเห็นอะไรไปบ้างวะ คิดแล้วผมก็ยิ่งหงุดหงิด ไม่น่าปล่อยให้คชากลับคอนโดมาคนเดียวเลยว่ะ!
“นี่ เต๋ารู้อะไรมั้ย?”
“หือ... อะไรครับ?”
ผมนั่งปุลงบนโซฟาพลางรับแก้วโกโก้ร้อนจากคชามายกขึ้นดื่ม คำถามของเขาทำเอาผมครุ่นคิดนิดๆ แต่พอคิดไปคิดมามันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาก็เลยเอ่ยปากถามเขาออกไปตรงๆ คชาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ก่อนจะก้มตัวลงมาจนหน้าของเราอยู่ห่างกันแค่คืบ...
“ถึงคชาจะชอบบัตเตอร์คาราเมลที่สุด แต่เค้กที่คชาสั่งประจำน่ะมันคือช็อกโกแลตเค้กนะ”
คชาเอ่ยพลางยิ้มกว้าง เรียกเอาผมยกยิ้มตามเขาทั้งๆที่สมองยังคงประมวลผลกับคำพูดของเขาอยู่ ก่อนจะแทบหายใจไม่ออก เมื่อเขาค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ...
“ราตรีสวัสดิ์ครับ ช็อคโกแลตเค้ก”
คชาหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้ผมนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมกับแก้วโกโก้ร้อนในมือและสัมผัสแผ่วเบาที่ยังคงติดอยู่ที่ข้างแก้ม พอสติเริ่มกลับเข้าร่างผมก็ทำได้แค่ยิ้มกว้างจนคล้ายคนบ้าอยู่คนเดียว
“ไม่ดื่มโกโก้ร้อนแล้วเหรอครับ?”
“....นอนได้แล้ว!”
ผมเอ่ยแซวคนที่กำลังปีนหนีขึ้นที่นอน ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันมาค้อนผมเสียขวับใหญ่ แต่ผมคงจะไม่ใจเต้นแรงขนาดนี้ถ้าไม่ได้เห็นว่าคชาน่ะ...หน้าแดงขนาดไหน
มีความสุขชะมัดเลย J
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
“คชา...”
“นี่ คชา”
“คา...ชาาา”
“ถ้าไม่ตอบ เต๋าจะหอมคืนแล้วนะ!”
“อะไรเต๋า!”
ผมหัวเราะกร๊ากทันทีที่เขากระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียงนอน พอคชารู้ว่าผมแค่แกล้งเล่นก็หันไปหยิบเอาหมอนมาปาใส่ผมทันที ถึงห้องทั้งห้องจะปิดไฟไปหมดแล้วแต่ดูก็รู้ว่าเขาน่ะกำลังหน้าแดง แถมตอนนี้ก็คงจะกำลังทำหน้าบึ้งพลางยู่ปากใส่ผมด้วยล่ะมั้งครับ
ผมหยิบหมอนที่เขาปาขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงข้างๆเขา คชามองตามผมซักพักแต่เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรก็จัดการคว้าเอาหมอนที่อยู่ในอ้อมกอดผมไปวางแปะไว้ที่เดิมแล้วล้มตัวลงนอนทันที ผมที่มีเรื่องจะพูดเลยได้แต่สะกิดหลังเขาเบาๆให้หันกลับมา คชาส่ายหัวนิดๆก่อนจะหันหน้ามาทางผมพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร
“ที่เต๋าพูดไปน่ะ...”
“...”
“ที่โรงอาหาร ที่เต๋าบอกไป เต๋าจริงจังนะครับ”
“...อืม”
“ไม่มีอะไรครับ ก็แค่มายืนยันให้รู้ไว้”
“...อืม”
“ไม่กวนล่ะครับ นอนไปนะ”
ผมทอดมองใบหน้าใสในความมืด เขาไม่แสดงอารมณ์ใดใดออกมาบนใบหน้า แต่ดวงตากลมสวยกลับสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด แบบนี้ก็ยังค่อยมีความหวังหน่อย ผมได้แต่ปลอบตัวเองแบบนั้นแล้วลูบหัวเขาไปที แต่ก่อนที่จะได้ลุกออกจากเตียงเพื่อไปนอนยังโซฟาตัวเดิมนั้น กลับถูกมือเล็กฉุดรั้งเอาไว้เสียก่อน
“หืม...มีอะไรครับ” ผมถามเขาที่เอาแต่หันหน้าหลบสายตาผมไปอีกทางทั้งๆที่มือยังคงจับกับมือของผมอยู่ไม่ปล่อย ก่อนจะต้องยกยิ้มขึ้นมากับคำพูดน่ารักๆของเขา
“โซฟา...ไม่ให้นอน”
ผมยกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเริ่มขยับตัวเพื่อเว้นที่ว่างบนเตียงแล้วดึงๆมือผมเป็นการบอกในสิ่งที่เขาต้องการ แค่ผมเห็นก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร หัวใจผมพองโตและเต้นแรงเหมือนเพิ่งไปวิ่งออกกำลังกายมาหมาดๆอย่างไรอย่างนั้น ผมแทบจะกระโดดลงไปนอนข้างเขาแล้วถ้าเกิดว่าไม่คิดอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน
ขออนุญาตทำตัวโง่ซักครั้งเถอะนะครับ...
“ถ้าโซฟาไม่ให้ งั้นผมนอนพื้นก็ได้ครับ”
“อะ! ฮื่อ... งั้นก็นอนพื้นไปเลยไป!”
เขาโวยวายใส่ผมเสียงเบา มือก็ยังไม่ยอมปล่อย เล่นเอาผมแทบจะยั้งใจตัวเองไม่ให้กระโดดลงไปฟัดเขาแทบไม่ไหว ผมเลิกแกล้งเขาแล้วล้มตัวลงนอนตรงที่ว่างที่เขาเหลือไว้ให้ทันที พอพยายามจะมองหน้าเขาให้ชัดๆก็กลายเป็นว่าเขานอนหันหลังให้ผมเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
ผมได้แต่นอนยิ้มให้กับความมืดเหมือนคนบ้า
เพราะความอบอุ่นตรงฝ่ามือที่ยังคงกอบกุมกันอยู่ไม่ห่าง
คืนนี้ผมคงฝันดีที่สุดในชีวิต
“ฝันดีครับ...”
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
เดี๋ยวมาทอร์คนะแปะไว้ก่อน :D
มาล่ะ 5555555555555555555555555555
ในที่สุดก็เสร็จ! ช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีเวลาเลยฮะ
คือเขาตัดเกรดกันช่วงนี้ไง แล้วเราก็ต้องตามงานนู่นนี่เหมือนที่ไทยเลยไง .__________.
(หนียังไงก็ไม่พ้นสินะสินะ)
แต่เรารักษาสัญญานะเว่ย บอกตอนที่แล้วว่าจะลงต้นเดือนก็ลงต้นเดือนนะเว่ย!
ตอนนี้มันเรื่อยๆมาก (ความจริงก็เรื่อยๆแม่งทุกตอน-_______________-)
คืออย่างที่บอกว่านิยายเรามันไม่มีความลับนางร้ายหรืออะไรซักอย่าง เดินเรื่องไปวันๆ
จากนี้ก็จะเริ่มไร้สาระล่ะนะฮะ (คือปกติก็ไม่มีสาระไง-_____________-)
จะพยายามไม่ให้เกิน 15 ตอนนะ
ที่ต้องตัดก็ไม่ใช่อะไร เดี๋ยวนักอ่านจะเบื่อกันซะก่อนอ่ะ .______.
(ความจริงอยากลงเรื่องต่อไปหรอก55555555)
ตอนหน้าคงไม่นาน ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านมาเม้นนะฮะ
เราไม่เสี่ยวแต่เรารักทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
*ส่งจูบ* *โดนปัดทิ้ง* *นั่งร้องไห้มุมห้องพร้อมหลอดไฟนีออนที่ค่อยๆมืดลง* #อะไรของมึง
@tuna_cup
01/11/2012
@USA
ความคิดเห็น