ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #22 : SF - SWEET CREAM [10]

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 55


















     





     









    # PART 10 #

     

     









     

    “เฮ้ยเดี๋ยวน้อง! มาแลกบัตรก่อน!





    “ไว้ก่อนพี่!









    ผมเร่งสุดฝีเท้ามาที่หน้าลิฟต์ก่อนจะต้องสบถออกมาเสียงดังจนคนที่รออยู่รอบข้างหันมามองกันเป็นตาเดียว ก็คนที่มารอขึ้นลิฟต์ดันมีเยอะมากจนไม่มีที่แทรกให้ผมเข้าไปได้ ยิ่งความเร็วที่ช้าซะจนเต่ายังจะแซงของไอ้กล่องอลูมีเนียมเคลื่อนที่ที่ไร้ประโยชน์อันนี้ก็ยิ่งทำเอาผมหงุดหงิดงุ่นง่านมากกว่าเก่าจนแทบจะระเบิดตัวเองมันซะเดี๋ยวนั้น


    ย้อนกลับไปหน่อยก็แล้วกันครับ เมื่อกี้ผมวิ่งออกจากร้านเค้กมาอย่างไม่สนใจเสียงเรียกเสียงตะโกนของใครทั้งสิ้น พอกระโดดขึ้นบีทีเอสมาได้ก็เอาแต่กดโทรศัพท์หาคชาแบบไม่ยั้งมือ แต่ยิ่งโทรเขาก็ยิ่งไม่รับ และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมร้อนใจมากกว่าเก่าจนไม่รู้จะทำยังไง เลยได้แต่บ่นไอ้รถกระป๋องเคลื่อนที่คันนี้ให้มันวิ่งเร็วขึ้นอีกนิดทั้งๆที่รู้ว่าบ่นไปก็คงจะเท่านั้น


    พอมาถึงที่หมายผมก็วิ่งตรงเข้ามาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพี่ยามหน้าคอนโด ก่อนจะมายืนส่งรังสีทะมึนใส่ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมกากๆตรงหน้าผมเนี่ยแหละ










    ....











    ไม่รงไม่รอมันล่ะ!!













    ผมวิ่งอ้อมไปขึ้นบันไดหนีไฟทันทีที่หมดความอดทน ยังดีที่ห้องคชาอยู่แค่ชั้นสาม ผมเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อใกล้จะถึงที่หมาย เสียงหอบหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดผมก็มาถึง เหมือนเห็นแสงสว่างส่องลอดออกมาจากความมืดอย่างไงอย่างงั้น













    กูถึงแล้ว!






    ผั่วะ!










    บานประตูหนีไฟถูกผมผลักออกด้วยไหล่อย่างแรงทันทีที่วิ่งมาถึงชั้นสาม ผมรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างมันหยุดนิ่ง รู้สึกเหมือนโลกใบนี้มันกำลังจะถล่ม แล้วก็ได้แต่คิดว่าผมนี่มันไร้สมองสิ้นดี

















    ประตูหนีไฟที่ไหน...













    เขาเปิดจากข้างนอกได้กันเล่า!!
















     

     

    “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!














     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     














     

    “แฮ่ก แฮ่ก!









    ในที่สุดผมก็มาถึงห้องคชา!




    ผมวิ่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง 333 ในขณะที่กำลังจะเคาะประตูก็ดันได้ยินเสียงเหมือนของหนักตกกระทบพื้นเสียก่อน จากนั้นมันก็มาพร้อมกับเสียงโวยวายทุ้มๆของคนที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าเกลียดขี้หน้า...ที่สุด!





    “ไอ้อ้น!








    ผมสบถแล้วเปิดประตูเข้าไป โชคดีที่ห้องมันไม่ได้ล้อคเอาไว้ ก่อนจะแทบถลาไปลากไอ้อ้นออกมาเกือบไม่ทัน สภาพของคชากับไอ้อ้นที่ผมเห็นทำเอาความโกรธที่มันเคยลดลงไปเพราะความเหนื่อยที่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงพุ่งปิ๊ดขึ้นมาอีกครั้งจนรู้สึกปวดตุบๆที่ขมับ


    ภาพที่ผมเห็นคือไอ้เหี้ยมหาประลัยเหี้ยบรรลัยมหาสมุทรสุดโคตรขอบฟ้าจรดภูเขานอกอวกาศเหี้ย (-__-) อ้นกำลังคร่อมคชาอยู่โดยที่ทั้งตัวคชามีแค่เสื้อคลุมอาบน้ำสีดำเพียงตัวเดียวเท่านั้น ในสมองผมตอนนั้นมันขาวโพลน สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเลยไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาจากอะไรทั้งสิ้น มันออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกของผมล้วนๆ!








    ต่อยแม่งงงง!!!!











    “เฮ้ยเดี๋ยวไอ้เต๋า!



    “เต๋า!






    “มึงตายยยยยยยยยย!!!

     











     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    “กูขอโทษนะเต๋า”


    “ขอโทษนะพี่เต๋า”


    “ขอโทษนะเว่ย...”





     

    ผมยืนกอดอกปั้นหน้ายักษ์จ้องพวกมันแปดตัวด้วยดวงตาถมึงทึง ไอ้โปเต้บวกไอ้แพรวกับไอ้เฟรมกำลังนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ตรงหน้าผม พี่แอ้นกับไอ้ต้นเอ่ยขอโทษผมไปเรื่อยๆ  ในขณะที่แพรวาและหลินพากันวิ่งวุ่นหากล่องยา

     






     

    กล่องยา?

     









     

    แล้วก็ไม่ต้องสงสัยว่าไอ้ตัวต้นเหตุมันหายไปไหน นั่งโอดครวญว่าเจ็บอย่างนั้นปวดอย่างนี้อยู่ตรงโซฟาตรงกันข้ามกับผมนี่แหละ เมื่อกี้ผมลงหมัดซัดใส่เข้าหน้ามันไปเต็มแรง ถึงจะไม่เคยต่อยใครมาก่อนเลยซักครั้งในชีวิตก็เถอะ แต่คงเพราะตอนนั้นผมกำลังโมโหมั้งครับ เลยจัดไปแบบเต็มๆไม่มีออมแรงเลยซักนิด





     

    “ไอ้เหี้ยเต๋า มึงต่อยมาได้ไม่ไว้หน้ากูเลยนะ”


    “มึงนั่นแหละไอ้สัส คร่อมคชาซะกลางห้องแบบไม่เกรงใจกูเลยนะ”


    “มึงเป็นอะไรกับคชา ทำไมกูถึงต้องเกรงใจห้ะ”


    “ยังไม่เข็ดสินะมึง!







     

    ผมเตรียมถกแขนเสื้อจะถลาไปต่อยหน้าแม่งอีกซักหนแต่ก็ต้องหยุดไว้ก่อนเพราะโดนไอ้เฟรมกับไอ้แพรวที่กระโดดขึ้นมาล็อคแขนเอาไว้คนละข้าง พร้อมกับโปเต้ที่ขยับแว่นแล้วเดินเข้ามาขวางหน้าระหว่างผมกับไอ้ศัตรูหมายเลขหนึ่งจนผมต้องมองตาม มันขยับนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วส่ายไปส่ายมาตรงหน้าผม ทำเสียงจุ้ๆจนผมหงุดหงิด อ้าปากจะงับนิ้วแม่งไปซักทีสองทีจนมันชักนิ้วกลับไปแทบไม่ทัน

     







     

    “อะไรของมึงห้ะ! ส่ายนิ้วหาพ่อง!


    “มึงอย่าแดกนิ้วกูดิไอ้เหี้ย! นี่ไงกูกำลังจะคลายข้อสงสัยให้มึงอยู่!


    “งั้นก็ว่ามาเร็วๆ! เล่นเหี้ยอะไรกันไม่รู้เรื่องนะพวกมึง!


    “รอคชาก่อน”

     










     

    มันพูดขึ้นมาเรียบๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมชะงักแล้วลงไปนั่งสงบเสงี่ยมที่โซฟาทันที ไอ้เฟรมกับไอ้แพรวมองผมงงๆซักพักแล้วแม่งก็หัวเราะออกมา ไอ้หัวเราะนี่ไม่เท่าไหร่ครับยังพอให้อภัย แต่ไอ้เหี้ยโปเต้นี่เสือกยิ้มชั่วร้ายส่งมาให้กูอีก นี่พวกมึงคิดกันเหรอว่านี่จะเป็นจุดอ่อนของกูอ่ะ คิดเหรอว่าถ้าพูดชื่อคชาแล้วกูจะยอมทุกอย่างอ่ะ คิดเหรอ...

     






     

    เออ มึงคิดถูก!!

     









     

    ผมยอมนั่งลงเงียบๆ แล้วหัวสมองมันก็พาให้คิดไปถึงเรื่องที่ผมเสือกพูดอะไรๆออกไปที่โรงอาหาร พอมาคิดๆดูแล้วก็รู้สึกว่าผมนี่แม่งหน้าด้านชะมัด แต่มันก็อาจจะเป็นผลดีก็ได้ถ้าคิดในอีกแง่ การที่ผมกล้าพูดอะไรแบบนั้นต่อหน้าคชามันก็คงทำให้เขารู้บ้างแล้วล่ะว่าผมคิดยังไงกับเขา ตอนนี้ผมก็คงได้แต่หวังนั่นแหละว่าคำตอบมันจะคืออะไร แต่การที่เขายังมาขลุกอยู่กับผมวันนี้ก็ทำให้ผมมั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจความรู้สึกของผม

     







     

    “เสร็จแล้ว”

     









     

    ผมเงยหน้าหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินเสียงของคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่ เขาออกมาในชุดนอนลายทางสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ห้อยคอออกมาด้วย คชากวาดตามองแต่ละคนก่อนจะมาหยุดสบตากับผมในเสี้ยววินาทีแล้วยิ้มออกมาบางๆ แต่แค่นั้นก็เล่นเอาผมใจสั่น เขาก้าวขาเดินเข้ามานั่งข้างผมบนโซฟาตัวเดียวกัน เอนหลังพิงพนักโซฟาพลางขยับตัวให้อยู่ในท่าที่สบายแล้วมองตรงไปที่ไอ้พวกตัวป่วนด้วยสายตาที่ผมสุดจะบรรยาย...






     

    น่ากลัวชิบ .___.

     





     

    “เอาล่ะ เกิดอะไรขึ้น”

     






     

    คชาถามเสียงเรียบ ส่งสายตาที่ขนาดผมได้แต่มองข้างๆก็ยังนึกกลัว ไม่อยากจะคิดว่าไอ้พวกที่ต้องทนมองตรงๆมันจะยังรอดชีวิตกันอยู่มั้ย พวกมันแต่ละคนเริ่มนั่งไม่ติดพื้น หันซ้ายหันขวาหาคนอธิบายเรื่องราวใหญ่ แต่สรุปแล้วแม่งก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาซักที จนคชาขยับตัวนั่นแหละไอ้เฟรมถึงได้กระโดดขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็วแล้วตะโกนออกมาทันที





     

    “กูไม่รู้เรื่องนะเว้ยคชา กูโดนลากเข้ามาแบบไม่เต็มใจ!


    “อ้าวไอ้เฟรม! เอาตัวรอด!


    “เงียบไปไอ้ต้น! มึงอ่ะตัวการ!


    “กูเปล่านะ น้องหลินโน่นที่คิดแผนอ่ะ!


    “พี่ต้นอย่ามาโยนให้หลิน ไปว่าแพรวาโน่น คนจัดการทุกอย่างน่ะ!


    “หนูจัดการทุกอย่างก็จริง แต่พี่อ้นเป็นคนแสดงนะพี่!


    “กูโดนต่อยขนาดนี้ ยังจะมาโยนขี้ให้กูอีกเรอะ!


    “ก็พี่อ่ะแหละเสือกไปคร่อมพี่คชาทำไมเล่า!


    “กูสะดุดโว้ย!!!


    “เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!!!

     









     

    ผมตะโกนออกไปสุดเสียงหลังจากที่นั่งมองพวกมันมานานด้วยความรำคาญสุดจะทน ไอ้พวกเหี้ยนี่แม่งโยนความผิดกันไปมาเป็นเด็กอนุบาลไปได้ ให้ตายเถอะ! แต่พอหันไปมองข้างๆก็เห็นคชาอมยิ้มออกมานิดๆกับเหตุการณ์ปัญญาอ่อนเมื่อกี้ ความรำคาญที่มีเลยหายว๊าบไปทันที





     
     

    ผมเคยคิดๆอยู่เหมือนกันนะ... (เพิ่งแวบเข้ามาในหัวเมื่อกี้นี้แหละ)





    บางทีคชาอาจจะเป็นจุดอ่อนของผมก็ได้...แค่บางทีนะบางที








     

    “เอาล่ะไอ้ต้น” ผมชี้นิ้วไปที่ไอ้คนที่นั่งทำหน้าเศร้าสำนึกผิดแบบเฟคสัสๆอยู่ตรงหน้าผมด้วยความหมั่นไส้เกินจะทน “มึงอธิบายมาให้หมดบัดเดี๋ยวนี้!” ก่อนจะบอกให้มันเล่าทุกอย่างออกมาให้หมดเปลือก อย่าคิดว่ามึงจะรอดนะไอ้ต้น กูรู้ว่ามึงนั่นแหละตัวการทุกอย่าง!







     

    “ไอ้เต๋า! กูเป็นเพื่อมึงนะเว้ย!


    “อย่ามาอ้างครับมึง”


    “มัน...มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกเว้ย! คือ...กูก็แค่อยากแกล้งมึงอ่ะเต๋า อยากเห็นมึงหึงจนทำอะไรไม่ถูกเฉยๆ แล้วทีนี้พอไปเจอกับพวกสภานักเรียน ปรากฏว่าความคิดเราตรงกันพอดีไง เลยตกลงร่วมมือกันอ่ะ แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบเนี้ย...”





     

    ไอ้ต้นอธิบายไปคนอื่นที่นั่งอยู่ก็พยักหน้ากันไป เห็นแล้วผมก็อดที่จะขำไม่ได้ว่ะครับ พวกมันแต่ละคนนี่ผมไม่เคยเห็นใครซักคนมานั่งสำนึกผิดแบบนี้เลยนะบอกตามตรง ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกเลยมั้งครับที่ต้องมาเอ่ยขอโทษเนี่ย แต่เห็นแล้วก็สงสารครับ ยอมยกโทษให้ก็ได้








     

    เอาเข้าจริงมันก็เป็นผลดีสำหรับผมเหมือนกันนะครับ...





     

    “เลยตกลงร่วมมือกันไง แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ไง...กูก็เลยโดนต่อยแบบเนี้ย...”






     

    เสียงทุ้มๆของไอ้อ้นที่ถูกดัดจนแหลมเอ่ยล้อเลียนไอ้ต้นขึ้นมาเรียกเอาเสียงหัวเราะจากพวกเราได้เป็นอย่างดี ไอ้ต้นหันไปแยกเขี้ยวใส่ ในขณะที่ไอ้อ้น มันก็ยังคงความสามารถที่จะบ่นถึงเรื่องที่ผมต่อยมันไปได้เรื่อยๆโดยไม่หยุดปากเลยซักนิด เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลยนะครับเฮ้ย แค่ปากแตก บวมนิดๆ ช้ำหน่อยๆ มีสีแดงๆ ม่วงๆ แถวๆมุมปาก










     

    เฮ้! แค่นี้ทำเป็นบ่นไปได้นะมึง










     

    “ก็นั่นมึงทำตัวเองอ่ะไอ้อ้น มึงเสือกไปคร่อมคชาเอง”


    “เหี้ยเฟรม! กูก็พูดปาวๆอยู่ว่ากูสะดุดโว้ยยยย!!




     





     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     








     

    พวกมันกลับกันไปหมดแล้วเรียบร้อยครับ







    ตอนนี้เหลือแค่ผมกับคชาที่อยู่ในห้อง ก่อนจะไปพวกผมก็นัดแนะเรื่องซ้อมดนตรีในวันพรุ่งนี้กันนิดหน่อย สรุปว่าสิบโมงเจอกันที่ห้องซ้อมแถวๆหมอชิต ซึ่งไอ้เฟรมไปเช่ามาแล้วเรียบร้อย 7 ชั่วโมงรวด กะเอาให้โน้ตเพลงซึมซับเข้าผิวหนังกันเลยทีเดียว สิบโมงถึงห้าโมงเย็นของวันพรุ่งนี้ดูท่าน่าจะยุ่งกันน่าดู เพราะพอประเมินจากสมาชิกแต่ละคนแล้วนั้น ผมหาความปกติไม่ได้เลยซักคนครับ


     

    “เต๋า เสื้อบอลกับกางเกงอยู่ในตู้ที่เดิมนะ ไปอาบน้ำไป”

     


     

    ผมพยักหน้าให้คชาพลางเดินเข้าห้องน้ำไปคว้าเอาเสื้อบอลกับกางเกงสามส่วนตัวเดิมมาวางไว้แล้วลงมืออาบน้ำทันที วันนี้ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยชะมัด เหมือนใช้พลังงานไปเยอะมากทั้งที่พอลองมานึกย้อนดูแล้วผมแม่งไม่ได้ทำอะไรเลยซักนิด


    ผมอาบน้ำเหมือนวิ่งผ่านน้ำ เช็ดตัวแล้วใส่เสื้อผ้าทันที ไม่คิดจะเดินออกจากห้องน้ำไปในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวอีกแล้วครับ ครั้งก่อนยังขายขี้หน้าอยู่ไม่หาย พูดแล้วก็อาย ตอนนั้นกูคิดเหี้ยอะไรอยู่ ทำไมถึงกล้าเดินออกไปทั้งๆที่มีแค่ผ้าขนหนูพันเอวอยู่ผืนเดียววะ


    ผมเปิดประตูออกมาพลางกวาดตามองหาเจ้าของห้อง ปรากฏว่าไม่เจอครับ เลยลองเดินๆออกมาสำรวจห้องเขาดูซักหน่อย ครั้งที่แล้วมาก็เหมือนไม่ได้มา เพราะผมดันเผลอหลับไปก่อนบนโซฟาซะงั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วแม่งก็ไม่มีอะไรให้ผมสำรวจซักอย่าง ห้องคชานี่มันจะเรียบสนิทเกินไปล่ะนะ (ไปเสือกอะไรกับเขาล่ะมึง -__-)

     





     

    “เต๋า ทำไมอาบน้ำเร็วจัง”





    ผมหันไปมองตามเสียงเรียก พอเห็นคชากำลังยืนชงโกโก้ร้อนพลางมองมาทางผมอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวผมก็เดินเข้าไปหาเขาทันที





     

    “หือ... มีอะไรเต๋า?”


    “ที่มันทำน่ะ...อุบัติเหตุแน่ใช่มั้ยครับ?”


    “ทำ...? ทำอะไร ใครทำอะไรใครเต๋า?”


    “ไอ้อ้นน่ะ แค่สะดุดใช่มั้ยครับ”


    “อ๋อ ตอนนั้นคชาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ แล้วอ้นเดินมาจะให้คชาทำอะไรซักอย่างนี่แหละ แต่ดันสะดุดขาโต๊ะตรงหน้าโซฟา เลยล้มมาทับคชาอ่ะ”







     

    ผมกำหมัดแน่น ถึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจแต่ภาพที่เห็นมันก็ชวนคิดไปไกล แถมคำบอกเล่าที่คชาว่ามาทั้งหมดนั่นก็แสดงว่ามันมาที่นี่ตั้งนานแล้ว นานจนสามารถนั่งรอคชาอาบน้ำได้ แล้วคชาก็ดันออกจากห้องน้ำมาในสภาพแบบนั้นอีก ตอนนั้นมันจะเห็นอะไรไปบ้างวะ คิดแล้วผมก็ยิ่งหงุดหงิด ไม่น่าปล่อยให้คชากลับคอนโดมาคนเดียวเลยว่ะ!






     

    “นี่ เต๋ารู้อะไรมั้ย?”


    “หือ... อะไรครับ?”










     

    ผมนั่งปุลงบนโซฟาพลางรับแก้วโกโก้ร้อนจากคชามายกขึ้นดื่ม คำถามของเขาทำเอาผมครุ่นคิดนิดๆ แต่พอคิดไปคิดมามันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาก็เลยเอ่ยปากถามเขาออกไปตรงๆ คชาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ก่อนจะก้มตัวลงมาจนหน้าของเราอยู่ห่างกันแค่คืบ...












     

    “ถึงคชาจะชอบบัตเตอร์คาราเมลที่สุด แต่เค้กที่คชาสั่งประจำน่ะมันคือช็อกโกแลตเค้กนะ”













     

    คชาเอ่ยพลางยิ้มกว้าง เรียกเอาผมยกยิ้มตามเขาทั้งๆที่สมองยังคงประมวลผลกับคำพูดของเขาอยู่ ก่อนจะแทบหายใจไม่ออก เมื่อเขาค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ...





     

    “ราตรีสวัสดิ์ครับ ช็อคโกแลตเค้ก”












     

    คชาหันหลังเดินจากไป ปล่อยให้ผมนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมกับแก้วโกโก้ร้อนในมือและสัมผัสแผ่วเบาที่ยังคงติดอยู่ที่ข้างแก้ม พอสติเริ่มกลับเข้าร่างผมก็ทำได้แค่ยิ้มกว้างจนคล้ายคนบ้าอยู่คนเดียว












     

    “ไม่ดื่มโกโก้ร้อนแล้วเหรอครับ?”






     “....นอนได้แล้ว!

     










     

    ผมเอ่ยแซวคนที่กำลังปีนหนีขึ้นที่นอน ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันมาค้อนผมเสียขวับใหญ่ แต่ผมคงจะไม่ใจเต้นแรงขนาดนี้ถ้าไม่ได้เห็นว่าคชาน่ะ...หน้าแดงขนาดไหน

















     

    มีความสุขชะมัดเลย J

     










     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    “คชา...”


    “นี่ คชา”


    “คา...ชาาา”


    “ถ้าไม่ตอบ เต๋าจะหอมคืนแล้วนะ!


     

    “อะไรเต๋า!








     

    ผมหัวเราะกร๊ากทันทีที่เขากระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียงนอน พอคชารู้ว่าผมแค่แกล้งเล่นก็หันไปหยิบเอาหมอนมาปาใส่ผมทันที ถึงห้องทั้งห้องจะปิดไฟไปหมดแล้วแต่ดูก็รู้ว่าเขาน่ะกำลังหน้าแดง แถมตอนนี้ก็คงจะกำลังทำหน้าบึ้งพลางยู่ปากใส่ผมด้วยล่ะมั้งครับ


    ผมหยิบหมอนที่เขาปาขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงข้างๆเขา คชามองตามผมซักพักแต่เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรก็จัดการคว้าเอาหมอนที่อยู่ในอ้อมกอดผมไปวางแปะไว้ที่เดิมแล้วล้มตัวลงนอนทันที ผมที่มีเรื่องจะพูดเลยได้แต่สะกิดหลังเขาเบาๆให้หันกลับมา คชาส่ายหัวนิดๆก่อนจะหันหน้ามาทางผมพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร




     

    “ที่เต๋าพูดไปน่ะ...”


    “...”


    “ที่โรงอาหาร ที่เต๋าบอกไป เต๋าจริงจังนะครับ”


    “...อืม”


    “ไม่มีอะไรครับ ก็แค่มายืนยันให้รู้ไว้”


    “...อืม”


    “ไม่กวนล่ะครับ นอนไปนะ”






     

    ผมทอดมองใบหน้าใสในความมืด เขาไม่แสดงอารมณ์ใดใดออกมาบนใบหน้า แต่ดวงตากลมสวยกลับสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด แบบนี้ก็ยังค่อยมีความหวังหน่อย ผมได้แต่ปลอบตัวเองแบบนั้นแล้วลูบหัวเขาไปที แต่ก่อนที่จะได้ลุกออกจากเตียงเพื่อไปนอนยังโซฟาตัวเดิมนั้น กลับถูกมือเล็กฉุดรั้งเอาไว้เสียก่อน








     

    “หืม...มีอะไรครับ” ผมถามเขาที่เอาแต่หันหน้าหลบสายตาผมไปอีกทางทั้งๆที่มือยังคงจับกับมือของผมอยู่ไม่ปล่อย ก่อนจะต้องยกยิ้มขึ้นมากับคำพูดน่ารักๆของเขา








     

    “โซฟา...ไม่ให้นอน”












     

    ผมยกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเริ่มขยับตัวเพื่อเว้นที่ว่างบนเตียงแล้วดึงๆมือผมเป็นการบอกในสิ่งที่เขาต้องการ แค่ผมเห็นก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร หัวใจผมพองโตและเต้นแรงเหมือนเพิ่งไปวิ่งออกกำลังกายมาหมาดๆอย่างไรอย่างนั้น ผมแทบจะกระโดดลงไปนอนข้างเขาแล้วถ้าเกิดว่าไม่คิดอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน










     

    ขออนุญาตทำตัวโง่ซักครั้งเถอะนะครับ...











     

    “ถ้าโซฟาไม่ให้ งั้นผมนอนพื้นก็ได้ครับ”


    “อะ! ฮื่อ... งั้นก็นอนพื้นไปเลยไป!










     

    เขาโวยวายใส่ผมเสียงเบา มือก็ยังไม่ยอมปล่อย เล่นเอาผมแทบจะยั้งใจตัวเองไม่ให้กระโดดลงไปฟัดเขาแทบไม่ไหว ผมเลิกแกล้งเขาแล้วล้มตัวลงนอนตรงที่ว่างที่เขาเหลือไว้ให้ทันที พอพยายามจะมองหน้าเขาให้ชัดๆก็กลายเป็นว่าเขานอนหันหลังให้ผมเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ










     

    ผมได้แต่นอนยิ้มให้กับความมืดเหมือนคนบ้า








    เพราะความอบอุ่นตรงฝ่ามือที่ยังคงกอบกุมกันอยู่ไม่ห่าง












    คืนนี้ผมคงฝันดีที่สุดในชีวิต

     














     

    “ฝันดีครับ...”

     

     













     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------









    เดี๋ยวมาทอร์คนะแปะไว้ก่อน :D






    มาล่ะ 5555555555555555555555555555
    ในที่สุดก็เสร็จ! ช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีเวลาเลยฮะ
    คือเขาตัดเกรดกันช่วงนี้ไง แล้วเราก็ต้องตามงานนู่นนี่เหมือนที่ไทยเลยไง .__________.
    (หนียังไงก็ไม่พ้นสินะสินะ)

    แต่เรารักษาสัญญานะเว่ย บอกตอนที่แล้วว่าจะลงต้นเดือนก็ลงต้นเดือนนะเว่ย!
    ตอนนี้มันเรื่อยๆมาก (ความจริงก็เรื่อยๆแม่งทุกตอน-_______________-)
    คืออย่างที่บอกว่านิยายเรามันไม่มีความลับนางร้ายหรืออะไรซักอย่าง เดินเรื่องไปวันๆ
    จากนี้ก็จะเริ่มไร้สาระล่ะนะฮะ (คือปกติก็ไม่มีสาระไง-_____________-)

    จะพยายามไม่ให้เกิน 15 ตอนนะ
    ที่ต้องตัดก็ไม่ใช่อะไร เดี๋ยวนักอ่านจะเบื่อกันซะก่อนอ่ะ .______.
    (ความจริงอยากลงเรื่องต่อไปหรอก55555555)

    ตอนหน้าคงไม่นาน ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านมาเม้นนะฮะ
    เราไม่เสี่ยวแต่เรารักทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    *ส่งจูบ* *โดนปัดทิ้ง* *นั่งร้องไห้มุมห้องพร้อมหลอดไฟนีออนที่ค่อยๆมืดลง* #อะไรของมึง



    @tuna_cup  












    01/11/2012
    @USA





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×