ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #21 : SF - SWEET CREAM [9]

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 55
















    # PART 9 #

















    ผมนั่งเขี่ยจานข้าวต่อไปเรื่อยๆอย่างคนกำลังหมดแรง ก่อนจะโดนเสียงเสียงหนึ่งดังเรียกความสนใจผมขึ้นไปเสียก่อน

     






     

    “เฮ้ยเต๋า! เห็นชามั้ย?”

     








     

    ผมเงยหน้าละจากจานข้าวที่ตัวเองกำลังเขี่ยเล่นขึ้นไปมองตามเสียงเรียก แต่พอเห็นว่าเป็นใคร อยู่ดีๆมันก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาเสียอย่างงั้น

     






     

    มันมีสิทธิอะไรมาเรียกคชาว่า ชาวะ!

     






     

    “...” ผมเงียบ ไม่ได้เอ่ยตอบหรือหันไปสนใจเจ้าของเสียงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้



    “เต๋าเว่ย ชาหายไปไหนเนี่ย?” มันเอ่ยถามผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรีบร้อน แต่ผมก็ยังไม่ได้เอ่ยตอบอะไรมันออกไปอยู่ดี ผมทำเพียงพยักหน้าเบาๆให้มันไปแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำเป็นกินข้าวต่อไป แสดงให้รู้ว่ากูไม่อยากจะสนทนากับใครทั้งสิ้นในตอนนี้ โดยเฉพาะ...มึง!



    ความจริงในใจผมกำลังครุกกรุ่นได้ที่ ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมชักจะคิดมากและอารมณ์ไม่ดีซักเท่าไหร่นัก ถึงในตอนเช้าผมจะมีความสุขที่ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าหากขยับขึ้นมาแล้วจะต้องห่างจากเขาแบบนี้ สู้ผมกลับไปนับหนึ่งใหม่มันอาจจะง่ายกว่า

     






     

    ยอมรับอีกครั้งว่าผมกำลังหงุดหงิด!

     





     

    “อะไรของมึงเนี่ยเต๋า พยักหน้าแบบนั้นคืออะไร สรุปมึงรู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าชาอยู่ไหน”


    “ออกไปเมื่อกี้! มึงมีอะไร!” ผมเอ่ยตอบอ้นเสียงห้วน ไอ้รองประธานนักเรียนที่อยู่ๆผมก็เกิดไม่ชอบขี้หน้ามันขึ้นมาอย่างกะทันหัน ยอมรับเลยว่าตอนนี้พาลไปหมดทุกอย่างที่เข้ามาแล้ว ยิ่งกับคนที่เคยมีข่าวว่าจะจีบคชายิ่งแล้วใหญ่!


    “มึงขึ้นเสียงทำไมเนี่ย กูจะมาบอกสถานที่ที่นัดกันเฉยๆ!” พอได้ฟังธุระที่มันว่า ผมก็ยิ่งหงุดหงิด สถานที่นัดพบอะไร เขากำลังจะไปไหนกัน!!

    “นัดอะไร!” ผมเผลอตะโกนถามออกไปเพราะอารมณ์จนอ้นมันชะงัก เขามองผมแปลกๆเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง แต่สักพักก็คลี่ยิ้มออกมา







     

    ...ยิ้มของคนที่อยู่เหนือกว่า








     

    ซึ่งผมเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ที่สุด!!

     











     

    “อ้าว นี่มึงไม่รู้หรอกเหรอ?” มันทำหน้าเหมือนแปลกใจเสียเต็มประดา ก่อนจะยกยิ้มกวนตีนแล้วเอ่ยต่อ “กูโทรไปบอกชาเมื่อคืนเรื่องสถานที่ซ้อมวงไง ชาก็บอกแล้วนะว่าจะบอกมึงเองอ่ะ แต่ที่ไม่บอกเนี่ย...เพราะอะไรนะ หึหึหึ”


    “............”


    “อาจจะเพราะ...ชาไม่อยากให้มึงไปไงเต๋า!


    “ไอ้เหี้ยนี่!!!!

     







     

    ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนเก้าอี้ที่นั่งอยู่ในตอนแรกล้มหงายลงไปกระทบพื้นส่งเสียงดังสนั่นโรงอาหาร คนที่นั่งกินข้าวอยู่หันมามองกันเป็นตาเดียว ถึงคนจะไม่เยอะมากเท่าวันธรรมดาแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจ ในหัวตอนนี้มันมีแต่คำพูดของไอ้อ้นวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด หรือที่เขาพยายามจะห่างจากผมวันนี้ก็เพราะอยากจะตัดความสัมพันธ์กัน แล้วแบบนี้จะมาทำให้ผมมีความหวังตั้งแต่แรกทำไมกันวะ!




    ถึงผมจะไม่ได้พูดตรงๆว่ากำลังชอบหรือกำลังจีบเขาอยู่ แต่ผมว่าการกระทำของผมชัดเจนพอที่คชาจะรู้ว่าผมกำลังคิดยังไงกับเขา เพราะคชาไม่ใช่คนโง่ และผมก็ชัดเจนพอ!




    ผมเดินตรงเข้าไปหาไอ้อ้นที่กำลังยืนทำหน้ายียวนกวนประสาทอยู่แล้วจัดการกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาก่อนจะตะโกนเสียงดังใส่หน้ามัน








     

    “ถ้ามึงคิดจะจีบคชา ข้ามศพกูไปก่อน!!!!



    “มึงเป็นพ่อคชาเหรอ! เรื่องอะไรกูจะต้องมายุ่งกับมึง ถ้ากูคิดจะจีบล่ะก็กูไม่รอเหี้ยอะไรหรอก กูรุกไปแล้วไม่สนน้ำหน้าอย่างมึงหรอกไอ้เต๋า!!






     

    คำพูดที่สวนกลับมาของอ้นทำเอาผมยิ่งเลือดขึ้นหน้าเพราะความโกรธมากกว่าเดิม มันกล้าดียังไงจะจีบคชาโดยไม่เห็นหัวผม!




     

    “มึงอย่าให้มันมากนักนะไอ้เต๋า แค่คชาให้ความสำคัญกับมึงมันก็มากเกินพอแล้ว นี่มึงยังจะมีหน้ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีกทั้งๆที่ตัวมึงเองยังไม่ชัดเจนเนี่ยนะ!


    “กูเหรอที่ไม่ชัดเจน!


    “แล้วอะไรที่มันบอกว่ามึงชัดเจนล่ะวะ! ก็จริงที่มันอาจจะชัดสำหรับตัวมึงเองเพราะมึงมันรู้อยู่แก่ใจว่าตัวมึงเองน่ะคิดยังไง แต่สำหรับใครอีกคนที่ไม่รู้และไม่เคยมีความรักมาก่อนน่ะ มันไม่มีทางเข้าใจการกระทำของมึงได้ทั้งหมดหรอกโว้ย!!!






     



     

    ผมชะงักกึกกับคำพูดของอ้นก่อนจะลองนึกย้อนกลับไปคิดถึงสิ่งที่ผมทำมาตลอดเกือบสามอาทิตย์ สิ่งที่ผมคิดว่าชัดเจนมันอาจจะเลือนรางเป็นเหมือนอากาศสำหรับใครอีกคน เพราะผมไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เขาหรือแม้แต่พูดอะไรที่ยืนยันความรู้สึกก็ไม่เคย มีเพียงแค่ข้อความและที่ห้อยโทรศัพท์เท่านั้นที่ผมให้เขา แต่แค่นั้นมันก็คงจะใช้ยืนยันความรู้สึกอะไรไม่ได้หรอกหากเทียบกับสิ่งที่คชาแสดงออกมาให้ผมเห็นว่าผมแตกต่างจากคนอื่นมากแค่ไหน ทั้งความเปลี่ยนแปลงและคำพูดต่างๆที่ทำให้ผมเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ



    และนั่นมันก็แสดงให้เห็นว่าเขาชัดเจนกับผมมากแค่ไหน ถ้าหากผมจะคิดอะไรให้มันมากกว่านี้อีกซักนิด มันก็คงจะไม่ต้องลงเอยแบบนี้ คชาคงจะไม่คิดที่จะถอยห่างจากผมไปแบบนี้...

     









     

    ใช่มั้ยครับ?

     

     














     

    “ทะเลาะอะไรกัน”





     

    เสียงเย็นๆที่ดังขึ้นเรียกเอาความสนใจของผมไปได้ทันที ผมละมือออกจากคอเสื้อไอ้อ้นก่อนจะหันกลับไปหาคนตัวเล็กที่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คชายืนถือแก้วน้ำสตอเบอร์รี่พลางมองมาที่ผมกับไอ้อ้นด้วยสายตาว่างเปล่า ผมใจหายวูบทันทีที่เห็นสายตาแบบนั้นของเขา สายตาที่มองมาเหมือนคนไม่รู้จักกัน...






     

    “คชา...”


    “ชา เราจะมาบอกเรื่องเปลี่ยนห้องซ้อม”


    “อืม รู้จากเฟรมแล้วล่ะ ขอบใจ”







     

    คชาหันไปคุยกับอ้นโดยทำเหมือนผมเป็นเพียงอากาศที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้กับพวกเขา อ้นหันมามองผมด้วยแววตาท้าทายก่อนจะยกยิ้มมุมปากแบบเหนือกว่ามาให้ แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับคำพูดของมันที่ทำเอาผมโกรธจนไม่ทันได้คิด

     










     

    “มึงกล้าที่จะชัดเจนมั้ยล่ะ กล้ามั้ยล่ะไอ้เต๋า”

     










     

    ผมตบโต๊ะด้วยความโมโหเสียงดังลั่นจนคนทั้งโรงอาหารหันมามองอีกครั้งก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ไม่เคยนึกจะบอกให้ใครรู้นอกจากหัวใจของตัวผมเองมาก่อน




















     

    “กูชอบคชา! ชัดมั้ยมึง กูชอบคชา!!

     

     









     

    -----------------------------> TAOKACHA <---------------------------

     

     










     

    ตอนนี้ผมมานั่งเฝ้าคชาที่กำลังกับกำน้องวงโยอยู่แถวๆสแตนเชียร์ มีเด็กหลายคนอยู่ที่ยังเล่นไม่ได้ แต่เจ้าตัวเขาบอกว่าอย่างน้อยก็ให้แบกเครื่องดนตรีแล้วลองเดินๆไปก่อนเพื่อนฝึกให้ร่างกายเกิดความเคยชินกับน้ำหนักของเครื่องดนตรีซักนิดก็ยังดี


    แดดตอนบ่ายสองไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นเลยซักนิด คนตัวเล็กที่ยืนหน้าแดงเหงื่อไหลท่วมตัวอยู่ทำเอาผมอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้




     

    “น้ำมั้ยครับพี่คชา?”

     




     

    ผมที่กำลังจะเดินเอาน้ำไปให้เขาชะงักทันทีที่โดนตัดหน้าจากรุ่นน้องคนหนึ่ง ในมือของน้องมันมีแก้วน้ำแป็ปซี่ที่ดูแล้วน่าจะกำลังเย็นสดชื่นยื่นไปให้คชา แต่เด็กมันคงจะไม่รู้อะไรซะแล้ว...





     

    “ขอบคุณนะครับแต่พี่ไม่ดื่มน้ำอัดลม”

     






     

    คชาหันไปมองก่อนจะตอบน้องกลับไปด้วยรอยยิ้มนิดๆ แต่การกระทำแค่นั้นก็ทำเอาเด็กมันหน้าแดงเสียจนน่ากลัวว่าจะเป็นลมแดด












    และแน่นอนว่ารอยยิ้มนั่นไม่ได้มีผลแค่กับน้องมันเท่านั้น...

     










     

    เพราะผมกำลังโคตรหวง!

     







     

    และเพราอย่างนั้นผมก็เลยเดินเข้าไปคว้าไหล่บอบบางมากอดไว้แน่นก่อนจะใช้เสื้อนักเรียนของตัวเองเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างเบามือ คชาชะงักไปเล็กน้อยในตอนแรกแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเอาหน้าถูไถไปกับเสื้อของผมด้วยตัวเอง



    ใจผมเต้นแรงเสียจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อคชาทำเหมือนแมวอ้อน หันกลับไปมองก็เห็นไอ้น้องคนเมื่อกี้มันกำลังอ้าปากกว้างจนแมลงวันอาจจะบินเข้าไปได้ ในขณะที่คนอื่นๆในวงโยหันมามองกันเป็นตาเดียว

     










     

    และผม...ไม่จำเป็นต้องสนใจ

     






     

    “น้ำมั้ยครับ?”


    “อื้อ...ขอบคุณฮะ”

     






     

    เขาพยักหน้าก่อนจะยื่นมือออกมารับน้ำเปล่าเย็นๆจากผมไป หลังจากนั้นก็ผละออกจากอ้อมกอดของผมแล้วหันไปสั่งงานน้องต่อ และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะนั่งเฝ้าเขามันตรงนี้แหละ ไม่ไปไหนแล้วครับ ปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้เลยซักนิด มียุงเหลือบไรไต่เข้ามาหาตลอด!












     

    เคยบอกแล้วนี่ครับว่าผมมันเป็นพวกขี้หึงขั้นรุนแรง...

     







     

    ยิ่งกับคนนี้ผมยิ่งหึงมากเข้าไปใหญ่!

     










     

    ส่วนเหตุการณ์ต่อจากที่ผม...เอ่อ...สารภาพอะไรบางอย่างออกไปต่อหน้าคชาและคนทั้งโรงอาหารเรียบร้อยแล้วมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพราะหลังจบคำพูดของผม คชาก็เดินฉับๆมาคว้าแขนผมไปแล้วลากออกมาจากตรงนั้นทันที ต่อจากนั้นผมก็มาโผล่ที่สแตนเชียร์พร้อมคชาและมานั่งคอยส่งสายตาโหดๆใส่คนที่มันบังอาจมาแอบมองคชาอยู่แบบนี้นี่แหละครับ

     








     

    กูดูว่างเนอะ....

     








     

    บรรยากาศการซ้อมเป็นไปอย่างไม่ค่อยราบลื่นเท่าไหร่นะเท่าที่ผมเห็น คงจะเพราะน้องบางคนที่ยังเล่นไม่ได้ทำให้พอลองเอามารวมเพลงกันดูแล้วมันถึงได้เละเทะไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างขนาดนี้ ผมเห็นคชากำลังส่ายหัวอย่างปลงๆแล้วก็ได้แต่แอบขำออกมานิดๆ ตอนนี้หัวเขายุ่งไปหมดเพราะโดนขยี้ในเวลาที่อะไรๆมันไม่ได้ดั่งใจ แต่ผมว่าน้องแต่ละคนมันตั้งใจกันเต็มที่มากๆเลยนะครับ ยิ่งไอ้เลขาหมายเลขสองอย่างเต้ยิ่งตั้งใจและใส่ใจลงไปเต็มที่ คงเพราะมันเป็นถึงหัวหน้าชมรมและคงจะอยากให้งานนี้ออกมาดีที่สุดนั่นแหละครับ



    ส่วนตัวผมก็ไม่ได้นั่งว่างๆอย่างที่คุณคิดนะครับเฮ้ย กล้องลูกรักถูกงัดออกมาใช้อีกครั้งก่อนจะกดถ่ายไปเรื่อยๆ แสงเดย์ไลท์แบบนี้เป็นอะไรที่ตากล้องอย่างผมโคตรจะฟินเลยครับ และคาดว่าภาพเกือบ 60% ที่ถ่ายมาจะต้องเป็นภาพของคชาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย



     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนอากาศที่เคยร้อนค่อยๆเย็นลง ผมที่นั่งว่างดูคชาซ้อมวงไปเรื่อยๆก็จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แต่ผมว่าผมเห็นพัฒนาการของวงมากทีเดียว ตอนนี้เด็กทั้งหมดเล่นเพลงแรกได้แล้วเรียบร้อย ส่วนการเดินแถวดูเหมือนจะยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก แต่ถึงยังไงเราก็มีเวลาอีกตั้ง 4 วันก่อนที่งานกีฬาจะเริ่ม ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเป็นหน้าที่ของโปเต้ที่เข้ามาคุมวงในวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนพวกผมก็จะไปซ้อมวงกันที่ห้องซ้อมแถวๆหมอชิตครับ

     








     

    “วันนี้พอแค่นี้นะ ขอบคุณทุกคนมากครับ”

     








     

    เสียงคชาที่ดังขึ้นมาเรียกสติของผมอีกครั้ง ผมมองตามเขาไปก็เห็นรุ่นน้องหลายคนกำลังเตรียมเก็บอุปกรณ์และสัมภาระของตัวเอง แต่ละคนสภาพเปื่อยกันน่าดู ก็ซ้อมตั้งแต่บ่ายยันหกโมงเย็นนี่ครับ จะให้ยังแข็งแรงก็คงจะยากอยู่ แต่ดูแล้วน้องมันก็ภูมิใจกับผลการฝึกซ้อมของวันนี้กันนะครับ เพราะถึงจะเหงื่อโชกกันทุกคนแต่บนใบหน้าก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มล่ะนะ


    น้องหลายคนเดินเข้ามาไหว้ขอบคุณคชาแล้วก็แบกเครื่องดนตรีกลับไปเก็บที่ห้อง ส่วนเจ้าตัวที่ดูจะเหนื่อยไม่แพ้เด็กในวงเลยซักนิดก็เดินลากขากับสภาพเปื่อยๆเข้ามาหาผมที่นั่งรออยู่






     

    “เต๋า เหนื่อยมั้ย?”


    “หือ ถามตัวเองเถอะคชา”

     





     

    ผมยิ้มขำใส่เขา เพราะคำถามนั้นน่ะผมควรจะถามคชามากกว่าที่เขาจะมาถามผม หัวกลมๆส่ายไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่เหนื่อยทั้งๆที่ดูก็รู้ว่าหมดแรงไปขนาดไหน แต่พอเห็นแบบนั้นแล้วผมก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ เลยลูบหัวเขาไปที



    คชายอมอยู่เฉยๆให้ผมเล่นหัวไปเรื่อยๆก่อนที่จะเดินไปเก็บของจำพวกโน๊ตเพลงและเอกสารต่างๆใส่แฟ้มแล้วยัดมันลงกระเป๋าพลางเดินกลับเข้ามาหาผมอีกครั้ง และแน่นอนว่าผมแย่งกระเป๋าเขามาถือให้เองเรียบร้อยแล้ว








     

    “หิวรึยังครับ แวะกินข้าวกันดีกว่านะ” ผมเอ่ยถามระหว่างทางที่เราทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากประตูของโรงเรียน คชาพยักหน้ารับนิดๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นส่ายหน้าเสียจนผมใจแป้ว







     

     เฮ้ย อะไรอ่ะ?

     








     

    “ไม่อยากกินข้าว อยากกินผัดไท” คชาเงยหน้าขึ้นมาตอบทำเอาผมเผลอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเก็ทเมื่อเขาแลบลิ้นใส่แล้วหัวเราะผม

     








     

    อ้าว นี่แกล้งกันเล่นหรอกเรอะ!








     

    “คชา! มานี่เลย!” ผมตะโกนเมื่อเขาออกวิ่งไปตามทาง ให้ตายสิ คุณรู้มั้ยว่าเมื่อกี้ผมตกใจแทบตายขนาดไหนน่ะ นึกว่าเขาจะรังเกียจสิ่งที่ผมดันเผลอสารภาพออกไปกลางโรงอาหารจนไม่อยากไปไหนมาไหนกับผมแล้วซะอีก

     





     

    เราวิ่งไล่กันมาเรื่อยๆจนถึงร้านผัดไทเจ้าเดิมที่เคยมากินกัน ก่อนที่ผมจะจัดการดึงแก้มเขาไปแรงๆให้หายหมั่นไส้ซักที คชาร้องดังลั่นแล้วยู่หน้าใส่ผมก่อนจะนั่งบ่นผมหงุงหงิงจนผมอดไม่ไหว ยื่นมือไปขยี้หัวเขา...อีกครั้ง


    คนที่บ่นจนเป็นหมีกินผึ้งเมื่อกี้เลยได้แต่นั่งเคลิ้มไปอีกรอบ ผมรู้จุดอ่อนของคชาเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าอยากให้ยอมต้องลูบหัว หึหึหึ





     

    ผมเลิกแกล้งเขาแล้วหันไปสั่งผัดไทมาสี่จาน ไม่ใช่อะไร ตอนเที่ยงผมกับคชายังกินข้าวไม่หมดจานเลยด้วยซ้ำถ้าคุณยังจำได้อยู่น่ะนะ ตอนนี้มันเลยหิวมาก ยิ่งมานั่งอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมๆอย่างนี้ด้วยแล้วยิ่งหิวเข้าไปกันใหญ่ และถ้าผมไม่ได้หูฝาดล่ะก็...เมื่อกี้คชาท้องร้องครับ





     

     “วันนี้เป็นไงบ้าง?” ระหว่างรอผัดไทเลยชวนเขาคุยแก้หิวไปเรื่อยๆครับ


    “คืบหน้ามากกว่าที่คิดฮะ ถ้าเป็นแบบนี้น่าจะทันซ้อมใหญ่วันอังคารนะ”







     

    คชาพูดถึงวันซ้อมใหญ่ขึ้นมาทำให้ผมจำได้ว่านี่มันใกล้จะวันกีฬาแล้วนี่หว่า ถ้านับกันจริงๆนี่เหลือไม่กี่วันเองอ่ะครับ ลืมไปซะสนิทเลย ให้ตายสิ



    ที่หลงๆลืมๆนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ตารางชีวิตของผมแม่งยุ่งเหยิงมากช่วงนี้ วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์และผมมีซ้อมวงดนตรีกับคชาและคนอื่นๆ ส่วนวันอาทิตย์คชาต้องเข้าโรงเรียนไปประชุมตอนเช้าซึ่งแน่นอนว่าผมต้องติดสอยห้อยตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย และตอนบ่ายก็จะยกโขยงกันไปซ้อมดนตรีต่อ ส่วนวันจันทร์คชาต้องไปประชุมกับโรงเรียนอื่นๆในเครือข่ายเพื่อจัดการตารางเวลาและเรื่องที่พักอะไรให้เรียบร้อยสำหรับบางโรงเรียนที่มาจากต่างจังหวัด และวันอังคารมีซ้อมใหญ่ตอนบ่ายของพิธีเปิด, พิธีปิด, พาเหรด, เชียร์, เชียร์ลีดเดอร์และวงโยครับ




    และแน่นอนว่าวันพุธ พฤหัส และวันศุกร์เป็นวันกีฬาประจำปีที่ปีนี้โรงเรียนผมเป็นเจ้าภาพ สามวันรวดครับสำหรับกิจกรรมสนุกๆแบบนี้




    ดูวุ่นวายแต่ผมว่าก็สนุกดีนะ จำได้ว่าตอนผมอยู่ม.หนึ่งใหม่ๆแล้วโดนบังคับให้ขึ้นเชียร์นี่ผมเกลียดมากๆเลยเหอะ รู้สึกจะแอบด่าพี่Staff ไปหลายรอบทีเดียว แทบจะไปเผาบ้านครับถ้าทำได้ แต่พอมาอยู่ม.ห้าแล้วเนี่ยมุมมองมันเปลี่ยนไปเยอะจริงๆครับ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากได้ถ้วยรางวัลมาครอง และทำให้น้องๆมันกล้าเรียกสิ่งที่ได้มาอย่างเต็มปากเต็มคำว่าความภูมิใจ




    ตอนที่อยู่ม.สาม ม.สี่ ผมก็บ่นเหมือนกันเพราะโดนใช้งานจากรุ่นพี่ม.ห้า ยังเคยแอบคิดและนินทากับเพื่อนอยู่เลยว่าม.ห้าแม่งบ้าอำนาจ แต่ตอนนี้เข้าใจทุกอย่างแล้วครับ เพราะคนที่นั่งเล่นช้อนอยู่ตรงหน้าผมเนี่ยแหละที่ทุ่มเทร่างกายและใส่หัวใจลงไปในทุกงานและทุกคำพูด ผมว่าคชาเก่งมากนะ เพราะการจะเป็นผู้นำได้นี่มันไม่ง่ายเลยสักนิด แต่คชาก็ทำมันออกมาได้ดีทีเดียว





    โรงเรียนผมมันจะมีระบบแปลกๆตรงที่ม.ห้าเป็นสภานักเรียน ส่วนม.หกจะละเลิกลดทุกสิ่งทุกอย่างแล้วไปอ่านหนังสือเตรียมเอนท์อย่างเดียวครับ แต่ก็ได้พวกพี่เขาเข้ามาช่วยให้คำแนะนำได้เหมือนกัน พี่บางคนก็ลงเล่นกีฬาแก้เบื่อ บางคนก็มาเดินพาเหรดให้เพราะอยากแต่งสวยแต่งหล่อ แต่ไม่มีใครเป็นเฮดหลักหรอกครับ งานนี้เป็นหน้าที่ของม.ห้าทั้งหมดน่ะ






     

    “แล้วสรุปว่าวันกีฬาจะทำอะไรบ้างล่ะ คชาน่ะ” ผมดึงมือเขาที่กำลังเอาช้อนกับส้อมมาฟาดๆกันเหมือนเด็กๆมาจับพลิกไปพลิกมาเล่น แล้วก็ได้แต่อมยิ้มเมื่อเห็นแก้มทั้งสองข้างของคชาค่อยๆเรื่อไปด้วยสีชมพูอย่างน่ารัก


    “สองวันแรกยังไม่มีแพลนฮะ ส่วนวันสุดท้ายคงเตรียมความพร้อมกับคุมมอนิเตอร์ให้พวกวงโยกับพาเหรดล่ะมั้ง เต๋าล่ะ?” คชาเอ่ยตอบแล้วเอามืออีกข้างที่ว่างอยู่ยกแก้วน้ำชาดำเย็นขึ้นดื่มแก้เขิน ส่วนอีกมือก็ถูกผมจับเล่นอยู่นี่ไง


    “คงจะเดินถ่ายรูปกับคิดคอลัมน์ข่าวไปเรื่อยๆครับ นี่ต้องทำรีวิวไปลงเว็บโรงเรียนด้วย อู้ได้ซะที่ไหนล่ะปีนี้” ผมตอบติดตลกก่อนจะปล่อยมือเล็กออกเมื่อผัดไทมาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมของเส้นผัดไทและกุ้งตัวโตๆมันเรียกน้ำลายผมได้เยี่ยมทีเดียว


    “แสดงว่าปีก่อนๆอู้มาตลอดเหรอเต๋า” เสียงเข้มๆกับมือที่ถือตะเกียบแล้วเอามันชี้มาที่ผม เจ้าตัวทำหน้าที่ตัวเองคิด (เอาเอง) ว่าโหดเล่นเอาผมถึงกับหลุดขำ ก่อนจะยกมือยอมแพ้แล้วยอมแบ่งกุ้งให้เขาแทน

     





     

    คชายิ้มกว้างเสียจนผมใจเต้น เขาลงมือกินผัดไทอย่างเอร็ดอร่อย เห็นอย่างนั้นผมก็ยิ้มตามเขาแล้วลงมือโซ้ยผัดไทด้วยอีกคน

     













     

    เมื่อกินอิ่มเราก็เดินทอดน่องย่อยอาหารกันมาเรื่อยๆครับ สองข้างทางมีร้านค้าโน่นนี่อยู่เยอะทีเดียว ถึงจะไม่ใช่ตลาดแต่ความครึกครื้นนี่พอๆกันเลยครับ



    เมื่อกี้ผมหน้าด้านขอคชาไปนอนค้างที่คอนโดอีกซักคืน แต่เจ้าตัวเขาดันไม่ให้ครับ ใจเสียไปตามๆกัน เหมือนโดนพิษแล้วกำลังจะขาดใจตายอ่ะครับ แล้วก็แทบฟื้นสภาพตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเจ้าตัวเขาบอกว่าค่อยมาวันอาทิตย์แทน คืนนี้ให้ผมกลับไปเตรียมชุดนู่นนี่มาให้เรียบร้อยก่อน เกือบจะหลุดตะโกนด้วยความดีใจแล้วครับถ้าไม่ติดว่าเกรงใจคนที่เดินไปเดินมาอยู่ล่ะก็นะ





     

    “พรุ่งนี้เต๋ามาหาคชาที่หน้าคอนโดตอนแปดโมงนะครับ”






                ผมบอกเมื่อเราเดินกันมาถึงสถานีรถไฟลอยฟ้าบีทีเอส (จะเรียกเต็มยศไปเพื่ออะไร
    -_-) คนมันก็ยังเยอะแยะเหมือนเดิมอ่ะครับ ตอนนี้ทุ่มครึ่งแล้ว รีบกลับก่อนที่มันจะดึกกว่านี้ดีกว่านะผมว่า สำหรับคชาน่ะนะ - -

     








     

    “เขาซ้อมกันสิบโมงนะเต๋า รีบมาทำไม?”


    “คิดถึง”


    “อ...คชาไปล่ะ เจอกันพรุ่งนี้!

     







     

    พูดจบก็รีบวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปอย่างรวดเร็วจนผมเกือบมองตามไม่ทัน ท่าทางเมื่อกี้ทำเอาผมอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้ คชาเบิกตากว้างมองผมก่อนจะค่อยๆหน้าแดง ซึ่งไอ้ปฏิกิริยาแบบนั้นน่ะมัน...น่ารักชะมัด!

     








     

    น่ารักมากๆ!

     








     

    ผมล้วงโทรศัพท์ออกมากดส่งข้อความหาเขาเหมือนเคยแล้วเดินกลับคอนโด อย่างที่เคยบอกเอาไว้ว่ามันอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเหมือนกันครับ

     







     

    แต่ก่อนที่จะได้กลับถึงที่นอนอันแสนสบาย ผมคงมีปัญหาอันยิ่งใหญ่เข้าซะแล้ว ในเมื่อ...

     














     

    “เต๋า”


    “ไอ้เต๋า!


    “ไอ้เหี้ยเต๋า!











     

    “เหี้ยพ่อมึงสิ!

     


     

    ผมหันกลับไปตวาดไอ้เสียงตะโกนปริศนานั่นทันที ตอนแรกก็มาแค่ชื่อกูอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นคำนำหน้าแม่งมาจากไหนเยอะแยะวะ!

     





     

    “พ่อกูไม่ได้เหี้ย แต่มึงนั่นแหละกำลังจะเหี้ย!

     





     

    ไอ้เสียงนั่นตอบกลับมาอีกครั้งจนผมต้องหันไปมองมันให้ชัดๆ จากที่ตอนแรกทำแค่มองผ่านๆ ใครแม่งจะอะไรนักหนากับกูเนี่ยห้ะ ขอให้กูได้มีวันที่สงบสุขซักวันไม่ได้เลยหรือไงวะ!

     






     

    “ไอ้ต้น...?”


    “เออกูเอง มานี่มึงมานี่ เร็วๆ”

     






     

    ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิมพลางมองมันที่แอบอยู่หลังเสาไฟฟ้า (มิดตายห่า) มันหันซ้ายหันขวาแล้วควักมือเรียกผมอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เรื่องอะไรกูจะเดินไปหามึงล่ะ ดูจากสภาพแล้วแม่งต้องหาเรื่องเดือดร้อนอะไรซักอย่างมาให้ผมแน่ๆ และถ้าผมมองไม่ผิด ผมเห็นไอ้แพรว น้องหลินกับพี่แอ้นแอบอยู่หลังเสาไฟฟ้าต้นอื่นๆต่อจากมันด้วย

     








     

    ไอ้เหี้ยพวกนี้แม่งมาทำอะไรกันวะ!

     






     

    นี่กูกลัวนะเนี่ยเฮ้ย

     









     

    พวกมึงจะลักพาตัวกูไปปล่อยในคฤหาสน์แล้วสั่งให้กูฆ่ากันเองภายใน 48 ชั่วโมงใช่มั้ย!

     


















     

    ...ตลกใหญ่ล่ะกู - -

     













     

    “มึงมีอะไรมึงก็พูดมาตรงนี้แหละไอ้ต้น กูจะรีบกลับไปนอน”


    “ไอ้เต๋า! ไว้นอนทีหลัง แต่ก่อนอื่นมึงมานี่เร็วๆเลย นี่มันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะเว่ย!


    “เอาช้างมาฉุดกูก็ไม่ไปหรอก!


    “แล้วถ้าเอาคชามาฉุดอ่ะ?”








    “ไม่มีทาง!

     

     








     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    และแล้วตอนนี้ผมก็มาหยุดอยู่ที่ร้านเค้กเจ้าประจำของผมกับคชาครับ เสียแต่ครั้งนี้ผมดันไม่ได้มากับคชาเหมือนปกติ แต่เป็นกับไอ้พวกนี้...แทน





     

    และมันก็ไม่ได้มีแค่ไอ้สี่ตัวที่ชมรมผมหรอกนะครับ ยังเพิ่มไอ้พวกสภานักเรียนมาด้วย...






     

    เอาล่ะ ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ เหมือนตัวเองกำลังจะเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ และต้องฆ่ากันให้ตายภายในเวลา 48 ชั่วโมงอย่างไงอย่างงั้น









     

    แต่เป็นผม...ที่ไล่ฆ่าพวกมันฝ่ายเดียวน่ะนะ!










     

    “เมื่อกี้พวกมึง...ว่าอะไรนะ...”


    “พวกกูบอกว่า ไอ้อ้นมันไปนอนค้างคอนโดคชา!


    “โกหก!!


    “จริงๆเว่ย! เดี๋ยวกูให้แพรวาโทรไปหามัน แล้วมึงรอฟังเลย!








     

    ผมแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่ออยู่ดีๆพวกมันก็มาบอกข่าวร้ายที่โคตรอันตรายต่อความสัมพันธ์ของผมกับคชาแบบนี้ ตอนนี้ตรงหน้าผมมีสมาชิกชมรมนักข่าวทุกคนที่กำลังจ้องมาทางผม และบวกสภานักเรียนอีกสองคน จะหายไปก็ไอ้อ้นกับไอ้เฟรมนี่แหละ



     

    ไอ้เฟรมน่ะช่างหัวมันเถอะเพราะมีแพรวาอยู่เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ไอ้คนที่แพรวากำลังกดโทรศัพท์หาเนี่ยแม่งไว้ใจไม่ได้ซักนิด!












     

    “ติดแล้วๆ เฮ้ยยยย จะให้หนูเริ่มต้นประโยคว่าไงดีอ่ะพี่!


    “แพรเปิดลำโพง เปิดลำโพงเลย”


    “พวกมึงเงียบๆหน่อย เดี๋ยวแม่งรู้หมด!


    “รับแล้วๆ ชู่วววววววววว!









     

    ผมนั่งมองพวกมันวุ่นวายกับโทรศัพท์อย่างเอือมจนไม่รู้จะทำยังไง นี่พวกมึงผ่านชีวิตเรื่องราวในสมัยมัธยมต้นมาได้ยังไงวะ ถ้าระดับสมองจะปัญญาอ่อนเหมือนเด็กประถมขนาดนี้ จากตอนแรกที่โคตรจะอยากรู้ก็กลายเป็นเซ็งกับพวกแม่งแทนนี่ล่ะครับ







     

    มีไรยัยแพร”









     

    เสียงทุ้มๆของปลายสายที่เอ่ยขึ้นมาเรียกเอาไอ้พวกนั้นหยุดทำร้ายโทรศัพท์แล้วยอมวางมันลงบนโต๊ะดีๆซักที พวกเราเงียบแล้วก้มหน้าจ้องโทรศัพท์เพื่อรอฟังบทสนทนา แต่ผ่านไปแล้วก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปหาเจ้าของโทรศัพท์




    แพรวาหันซ้ายหันขวาทำหน้าตาเหลอหลา ยกมือชี้ตัวเองประมาณว่านี่กูต้องพูดเรอะ เลยโดนไอ้ต้นแยกเขี้ยวใส่ไปที

     





     

    “เอ่อ พี่อ้นๆ ตอนนี้พี่อ้นอยู่ไหน”


    ทำไมอ่ะ มีไรวะ


    “เปล่าๆ คืออออ... อ้อ! พี่คชาบอกให้แพรโทรหาพี่อ้นอ่ะ”


    งั้นก็ไม่ต้องล่ะ พี่อยู่ห้องคชาเนี่ย


    “เฮ้ยพี่ ไปทำอะไรอ่ะ”


    หือ...ก็มา ...อ้น มาช่วยคชาหน่อย! เออๆ! คชาเรียกพี่ล่ะ เดี๋ยวค่อยคุยนะ บาย










     

    มันวางไป พร้อมกับตัวผม ที่พุ่งออกจากร้านเค้กแล้วตรงไปที่สถานีรถไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว













     

    ถึงว่าทำไมไม่ยอมตอบข้อความผมซักที ที่แท้ไอ้อ้นก็ไปก่อกวนถึงคอนโดนี่เอง!
















     

    อย่าหวังว่ามึงจะได้นอนค้างเลยไอ้รองประธาน..


















     

    เพราะคนนี้อ่ะ

     




















     

    ของกู!!!!

     

     









     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------





















    หึหึหึหึหึหึหึหึหึ #อะไรของมึง

    วันนี้วันที่ 21 วันเกิดเราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา *จุดพลุ*



    เอาล่ะ ไม่สามารถตัดจบได้ภายใน 10 ตอนจริงๆนะฮะ
    คงจะซัก 11 ไม่ก็ 12 ตอนนะ

    #นี่คือคำถาม สวีทครีมคือเรื่องสั้นใช่หรือไม่ -_______________________-)?

    ตอนนี้ก็ยังคงติดอนิเมเหมือนเดิมนะครับนะ ห่างหายไปประมาณ 4 เดือนแล้วก็กลับมาหมกมุ่นใหม่
    ตอนแรกว่าจะดูแค่เรื่องเดียว แต่มันผุดมาเรื่อยๆเป็นดอกเห็ดเลยว่ะครับorz


    เอาเป็นว่า ตอนหน้ารอต้นเดือนนะจ้ะ จะพยายามปั่นให้ทัน ซ้าธุ!




    ป.ล. ทำไมข้าเห็นแต่เม้นสวีทครีมกันฟะ เรื่องอื่นไม่อ่านกันเรอะ เราชอบมายเรนนี่สกายกว่าสวีทครีมอีกนะเว่ยOrz

    ป.ล.2 แปะทวิตๆ @tuna_cup











    21/01/2012
    22:00 @USA
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×