ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #20 : SF - SWEET CREAM [8]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 55








    # PART 8 #

     

     

    '......................................' 

     




     

    นั่นเป็นรูปร่างหน้าตาของข้อความที่ทำให้ผมยิ้มกว้างจนปากจะฉีกมาจนถึงตอนนี้

     





     

    ผมไม่รู้ว่าเมื่อวานผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ไม่คุ้นหู พอลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นคือกระดาษโพสอิทสีส้มที่แปะอยู่บนหน้าผาก ค่อยๆตั้งสติได้ก็เพิ่งระลึกนี่แหละว่าผมหน้าด้านมานอนค้างที่คอนโดของคชา แล้วก็คงเผลอหลับไปตอนกำลังนอนรอคชาอยู่บนโซฟาแน่ๆ


    ตอนนั้นผมยังไม่ได้สนใจกับข้อความในกระดาษ เดาว่าคงเป็นข้อความเยาะเย้ยผมที่หลับไปก่อนนั่นแหละ ผมมองไปทางเตียงนอนใหญ่ของคชา เห็นเจ้าตัวเล็กกำลังพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง มองไปที่พื้นข้างๆโซฟาที่ผมนอนก็เห็นเสื้อผ้าที่ผมใส่เมื่อวานถูกพับเรียบร้อยวางไว้ให้ พอหยิบขึ้นมาดูถึงได้รู้ว่าถูกซักและรีดให้เรียบร้อยแล้วนี่แหละ มาถามกับเจ้าตัวทีหลังก็ได้คำตอบว่าชั้นล่างสุดของคอนโดมีร้านซักรีดอยู่ คชาเลยไปแซงคิวมาให้ตอนตีห้ากว่าๆ รอไม่ถึงสิบนาทีก็ได้ชุดนักเรียนที่ถูกซักและรีดจนเรียบร้อยมาอยู่ในมือ




     

    ส่วนกางเกงใน ผมซักและตากไว้ในห้องน้ำอ่ะครับ - -

     





     

     

    ไอ้ตอนที่รู้ว่าคชาอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาจัดการเสื้อผ้าของผมให้ตอนตีห้าว่าผมยิ้มแก้มแทบปริแล้วนะ พอมาเห็นข้อความในกระดาษเท่านั้นแหละ จำได้ว่าผมตะโกนแหกปากสุดเสียงจนคนหันมามองกันเกือบทั้งโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ

    คือตอนเช้าๆมันยุ่งมาก ผมเลยทำแค่ยัดกระดาษโพสอิทที่ยังไม่ได้อ่านเอาไว้ในกระเป๋าและเข้าไปอาบน้ำ พอออกมาก็เห็นคชาที่แต่งตัวเรียบร้อยกำลังรวบรวมเอกสารที่กองไว้บนโต๊ะเมื่อคืนใส่กระเป๋า ตอนแรกผมคิดว่าคชาไม่อาบน้ำ แต่ปรากฏว่าคชาไปอาบน้ำห้องข้างๆที่เจ้าของห้องเป็นคุณป้า แต่แกไม่อยู่ห้องเลยฝากกุญแจห้องไว้กับคชา เจ้าตัวบอกว่าไม่อยากให้ผมรอและไม่อยากเสียเวลา หากไปถึงโรงเรียนเร็วก็ยิ่งจัดการอะไรต่างๆได้สะดวกขึ้น

    ตอนนั้นผมลืมเรื่องโพสอิทไปซะสนิท แอบเห็นคชาขมวดคิ้วมองผมนิดๆแล้วก็แปลกใจ หน้าผมมีอะไรติดอยู่รึเปล่าวะ?

    เรามาถึงโรงเรียนกันตอน 6 โมงกว่าๆครับ นี่เป็นการมาโรงเรียนที่เช้าที่สุดเลยก็ว่าได้ของผม ขณะที่กำลังจะถามคชาว่าจะไปไหนต่อจะได้ติดสอยห้อยตามไปด้วยนั้น เจ้าตัวเล็กก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน

     


     

    “เต๋า คชาไปจัดการงานก่อนนะ”

    “ดะ...”

    “เจอกันตอนเที่ยงนะเต๋า เดี๋ยวคชาไปกินข้าวด้วย”

    “เอ่อ...อืมๆ”

    “อ่าน...โพสอิทด้วยนะเต๋า ไปล่ะ”

    “หา...? เอ่อ บายๆ เจอกันตอนเที่ยงครับ”

     



     

    ผมพูดตอบคชาไม่ทันซักประโยค มาตั้งสติได้ก็ตอนที่คชาเดินหายไปแล้วนี่แหละ ผมค้นกระเป๋าหาโพสอิทที่คชาพูดถึง เจอมันนอนอยู่ก้นกระเป๋าก็ค่อยๆคลี่มันออกมาอ่าน

     

     









     

    แล้วจากนั้น

     





     

    ...คนแถวนั้นก็สะดุ้งกันเป็นแถบๆเพราะเสียงร้องตะโกนของใครบางคน

     

     

     








     

    ใครบางคนที่ว่า...ก็ผมนี่แหละครับ

     

     

     

     











     

     

    อรุณสวัสดิ์ ช้อกโกแลตเค้ก J

     













     

     

    “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

     

     











     

     

    ช้อกโกแลตเค้ก...


    เค้กของโปรดอันดับที่สี่ของใครบางคน



    ใครบางคนที่ทำเอาผมยิ้มกว้างจนเหมือนคนบ้าขนาดนี้

     

     






     

    ให้ตายสิ

     







     

    ผมชักจะหลง...จนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะ!

     










     

     

    คชา!!

     

     

     






     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     










     

     

    ตอนนี้คชากำลังยุ่งมาก...ยุ่งมากๆ...

     








     

    โคตรยุ่งเลยให้ตายสิ!!!

     





     

    วงโยที่เขามาคุมนั้นคืบหน้าไปประมาณสองส่วนร้อย คชาแทบจะสติแตกเมื่อพบว่าคนสามสิบคนที่ต้องการนั้นมีสมาชิกเก่าที่เล่นเครื่องดนตรีเป็นจริงๆแค่สิบห้าคน ส่วนอีกสิบห้าคนที่เพิ่งสมัครมาใหม่นั้นมาจากการถูกบังคับและหลงผิดด้วยกันทั้งสิ้น

    ตอนนี้เขาขอมือเฟรมและเต้มาช่วยกันฝึกเด็กอีกสิบห้าคนให้เป็นก่อนที่คชาจะคิดการแปรแถวออก ยังดีที่เด็กสิบห้าคนนั้นยังพอมาช่วยกันสอนเพื่อนได้บ้าง และโชคดีอีกอย่างที่เครื่องเป่าหลักๆอย่างคลาริเน็ตกับแซกโซโฟนมีคนเป็นอยู่แล้ว โชคดีหนักขึ้นไปอีกเมื่อเครื่องใหญ่ที่สำคัญเช่นกลองเบสกับกลองธรรมดานั้นเด็กที่เป็นสมาชิกก็เล่นเป็นเช่นกัน เบาแรงคชาไปได้อีกเยอะทีเดียว

    ขณะที่กำลังคิดจังหวะให้พอเหมาะกับการเดินแถวอยู่นั้น รุ่นน้องคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับใบหน้าเกรงใจนิดๆ

     





     

    “คือ...พี่คชาครับ ผม...ผมขอลาออกได้มั้ยครับ”

     







     

    รุ่นน้องคนนั้นก้มหน้าก้มตาพลางถามอย่างรู้สึกผิด เขารู้ว่าพวกรุ่นพี่นั้นทุ่มเทมากแค่ไหน แต่การเล่นทรัมเป็ดมันยากเกินไปจริงๆสำหรับเขา แค่ฝึกให้ไล่โน้ตยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ในขณะที่คนอื่นเขาเริ่มขึ้นเพลงแรกกันแล้ว

     


     

    “หืม...”

     




     

    คชาขมวดคิ้วพร้อมกับส่งเสียงเย็นในลำคอ ก่อนจะเอ่ยปากถามเต้ด้วยเสียงที่ทำเอาคนที่กำลังสอนน้องเล่นเพลงแรกอยู่สะดุ้งวาบ “เต้! ถ้าขาดทรัมเป็ดไปซักตัว มันจะเป็นยังไง”


    “มันก็ไม่เป็นอะไรมากอ่ะนะ” เต้ตั้งสติก่อนจะตะโกนตอบกลับมา โบกมือให้น้องที่เขาฝึกอยู่อ่านและจำโน้ตเพลงแรกให้แม่น ก่อนจะเดินเข้ามาหาคชาพลางพูดไปเรื่อยๆ “ก็แค่ตอนที่ไม่มีจังหวะกลองคุมวงจะล่ม เสียงมันจะไม่สมดุล คนหายไปหนึ่งคน แน่นอนว่าล่มแบบไม่ต้องสงสัย”


    น้องคนนั้นพอได้ฟังก็หน้าซีดเผือก พยายามควบคุมอาการสั่นกลัวและกลั้นน้ำตาที่กำลังเห่อขึ้นมาให้ได้มากที่สุด



    “ก็อย่างที่เต้ว่าล่ะนะ คุณจะลาออกก็ได้ครับ ผมไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว” มาดคชาที่น่ารักเวลาอยู่กับคนตัวขาวหายไปเป็นปลิดทิ้งทันทีเมื่อเอ่ยถึงเรื่องงาน คชาเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน หากเต๋ามาเห็นคนตัวเล็กตอนนี้คงจะแปลกใจไม่น้อยทีเดียว


    รุ่นน้องที่น่าสงสารส่ายหน้าเป็นพัลวัน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆแล้วฝึกต่อทันที มีเพื่อนบางคนเข้ามาช่วยสอนเพราะกลัวว่าเจ้าเพื่อนคนนี้จะโดนพี่คชากินเข้าไปเสียก่อน

     


     

    คชายกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะพลางหันกลับมาจัดขบวนของตัวเองต่อไป เต้ส่ายหน้าน้อยๆให้กับเพื่อนจอมเจ้าเล่ห์แล้วเดินกลับเข้ามาที่กลุ่มรุ่นน้องเพื่อซ้อมต่อ

     



     

    “พี่เต้ครับ พี่คชาโคตรน่ากลัว” รุ่นน้องคนหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างหวาดๆ เมื่อกี้คชาอาจจะไม่ได้ทำอะไรมากก็จริง แต่รังสีสังหารที่มากับดวงตาคู่สวยที่หรี่ลงเล็กๆนั่นแล้ว มันก็กดดันจนคนที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ตรงนี้อดจะขนลุกไปด้วยไม่ได้


    “เออ รู้แล้วก็อย่าไปหาเรื่องมันล่ะ ระวังจะโดนต่อยเหมือนรุ่นพี่บางคน เห็นตัวเล็กๆแบบนั้นแต่หมัดหนักใช้ได้” เต้ขู่น้องกลับขำๆ พลางลอบมองคนตัวเล็กไปในที คชาตัวเล็กและน่ารักจนบางทีเขายังอดที่จะมองว่าคชาเป็นทอมไม่ได้ แต่พอเจอเหตุการณ์คชาระเบิดอารมณ์ต่อยรุ่นพี่ขึ้นมา คชาผู้น่ารักก็กลายเป็นน่ากลัวขึ้นมาสามเท่าทันที

     



     

    ครืด

     





     

    เสียงเก้ากี้ครูดกับพื้นดังขึ้นเรียกความสนใจของคนทั้งห้องดนตรีได้เป็นอย่างดี คชาลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางเดินตรงเข้าไปหากลุ่มรุ่นน้องที่กำลังซ้อมอยู่ ใบหน้าเนียนเรียบนิ่งจนน้องบางคนเริ่มใจไม่ดี เต้บอกให้น้องหยุดซ้อมก่อนจะหันมาเตรียมฟังสิ่งที่คชากำลังจะพูด



    “เฟรม...” คชาเรียกเฟรมที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เจ้าตัวทำหน้าเจื่อนๆก่อนจะรีบกดวางสายแล้วเดินมานั่งรวมกลุ่มกับพวกเต้ทันที



    ห้องทั้งห้องเงียบกริบจนน้องบางคนถึงกับกลั้นหายใจ ฉายาที่ว่าเย็นชาของคชานั้นไม่ใช่ได้มาเพราะหน้าตาที่นิ่งเฉยเท่านั้น เพราะนิสัยของคนตัวเล็กก็ไม่ได้น้อยหน้า หากไม่อยู่ในความสนใจแล้วล่ะก็ อย่าหวังว่าคชาจะชายตามอง บรรยากาศรอบตัวเวลาที่เอาจริงเอาจังยิ่งแล้วใหญ่ ขนาดเพื่อนที่เป็นถึงเลขาอย่างเต้ก็อดจะกลัวไม่ได้จริงๆ



    “เต้คุณซ้อมน้องไปนะ ส่วนเฟรมคุณมากับผม เดี๋ยวตอนบ่ายสองผมจะกลับมาดู พวกคุณทุกคนต้องเล่นเพลงแรกให้ได้ ถ้าใครเป็นตัวถ่วงคุณน่าจะรู้ว่าตัวเองจะต้องโดนอะไร”

     




     

    คชาสั่งเสียงเฉียบขาดก่อนจะเดินนำออกไป เฟรมหันมาโบกมือให้กำลังใจเต้กับรุ่นน้องสองสามทีก่อนจะตามออกไปอีกคน

     






     

    เมื่อห้องซ้อมดนตรีปราศจากคชา เด็กทั้งห้องก็ถอนหายใจพร้อมกันอย่างโล่งอก

     








     

    “นึกว่าจะมีใครตายซะอีก!

    “โคตรน่ากลัว!!

    “บอกทีว่านี่คือประธานนักเรียน!

     







     

    น้องตะโกนกันเสียงหลงกับความน่ากลัวและกดดันของคชา เต้ปรามน้องเบาๆแต่ก็อดจะเห็นด้วยกับน้องไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาทนอยู่กับมันมายังไงได้ตั้งเทอมนึง แต่ก็อย่างว่าแหละนะ หากไม่นับรวมเรื่องงาน คชาก็เป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งทีเดียว

     

     

    คงต้องขอย้ำ...ว่าถ้าหากไม่นับรวมเรื่องงาน...

     





     

    และเขากับมัน...ก็อยู่ด้วยกันเพราะเรื่องงานล้วนๆ!

     

     








     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     









     

    “คชา เราจะไปไหนกันวะ”



     

    เฟรมเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่ถูกลากตัวออกมาจากห้องซ้อมดนตรีอย่างงงๆ เขาเดินตามคนตัวเล็กมาจนถึงสนามบาสแล้วก็ยังไม่เห็นว่าจะคชาจะหยุดเดิน ตอนแรกนึกว่าจะพาเขามาสนามบาสเพื่อถามรายละเอียดเรื่องการแข่ง แต่เห็นทีคงจะไม่ใช่ซะล่ะมั้ง


    “เรามีเรื่องให้เฟรมช่วยหน่อย” คชาหยุดเดินก่อนจะหันมายื่นกระดาษปึกหนึ่งให้เฟรม “เอาเจ้านี่ไป เราขอคืนภายในเย็นนี้นะ”




    เฟรมรับกระดาษมาคลี่ออกงงๆ ไล่สายตาอ่านไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็เข้าสิ่งที่คชาต้องการ เขาพยักหน้าน้อยๆก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์

     




     

    “ฉลาดไม่เปลี่ยนเลยนะคชา”

    “อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเราสอยรางวัลนี้ได้ชัวร์ๆ”

     





     

    เฟรมยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะผละออกไปทำในสิ่งที่คชาต้องการ แต่ก่อนจะได้ไปปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นนั้น ก็โดนขัดจังหวะโดยการลากเขาเข้าไปในโรงยิมเสียก่อน

     





     

    “เฮ้ย!! เหี้ยอะไรวะ!!




    “เฟรมนี่แพรเอง เงียบก่อนๆ พี่ต้นดูทีว่าพี่คชาไปรึยัง หลินเตรียมอธิบายแผน ส่วนพี่อ้นไปคิดเรื่องไว้เร็ว!




    แพรวาใช้มือปิดปากแฟนหนุ่มก่อนจะหันไปสั่งงานเสียยาวเหยียด และคนที่ได้รับงานไปนั้นก็ปฏิบัติตามเป็นอย่างดี ต้นแง้มประตูโรงยิมออกไปดูและเมื่อเห็นว่าไม่มีคชาแล้วก็หันมาพยักหน้าส่งสัญญาณให้หลินที่ยกกระดานไวท์บอร์ดขึ้นมาเตรียมเขียนอธิบายและอ้นที่ถือโทรศัพท์เดินไปเดินมาอย่างนั่งไม่ติด

     




     

    “เกิดอะไรขึ้นวะ แล้วพวกมึงมารวมตัวทำอะไรกันเนี่ย”

     





     

    เฟรมถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ให้ตายสิ อยู่ๆก็ถูกลากให้เข้ามาในโรงยิมแล้วแถมพวกมันยังทำตัวลับๆล่อๆกันอีก




    “คืออย่างงี้เว่ย” ต้นพูดขึ้นมาเรียกความสนใจจากเฟรมได้อย่างดี “แกสงสัยความสัมพันธ์ของเต๋ากับประธานนักเรียนมั้ย”




    เมื่อได้ฟังคำถามเฟรมก็ยิ้มกริ่ม พยักหน้ารับรู้และตกลงเข้าร่วมขบวนการทันที “กูไม่รู้หรอกนะว่าพวกมึงมารวมตัวกันได้ยังไงและคิดจะทำอะไรต่อไป แต่กูเอาด้วย มีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้เลย”

     







     

    “งั้นมึงก็คงต้องออกโรงแล้วล่ะ...”

     







     

    อ้นโพล่งขึ้นก่อนจะชี้ไปทางโรงอาหารผ่านหน้าต่างของโรงยิม ปรากฏภาพคนตัวเล็กกำลังเดินเคียงคู่ไปกับชายร่างสูงขาวพอดิบพอดี

     





     

    “หลินอธิบายแผนด่วนเลย!

    “เอาล่ะ ฟังนะทุกคน!!!

     










     

    ...เฮ้ ตอนนี้คชากำลังยุ่งอยู่นะ อย่าเพิ่งพาปัญหามาให้อีกได้มั้ย....

     

     









     

    ---------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     









     

    ผมมาหาคชาที่โรงอาหารตามที่เขาส่งข้อความมาบอก วันนี้โรงอาหารคนไม่เยอะเพราะต่างคนต่างก็มีงานให้รับผิดชอบ ไม่มากนักที่จะกินข้าวได้ตรงเวลา บางคนก็ฝากกันมาซื้อ อย่างเมื่อกี้ไอ้เพนหัวหน้างานอาร์ตก็พาเพื่อนอีกสองสามคนมาช่วยกันแบกกล่องข้าวห้าสิบกว่ากล่องไปแจกจ่ายฝ่ายอาร์ตของมันเอง


    ร้านอาหารตามสั่งขายดีเป็นพิเศษจนป้าร้านน้ำปั่นกับร้านก๋วยเตี๋ยวต้องเข้ามาช่วยทำครัว เห็นป้าเขาบอกว่าไม่ใช่แค่ฝ่ายอาร์ตที่สั่ง สแตนเชียร์ วงโย และพาเหรดก็ไม่น้อยหน้า สั่งออร์เดอร์กันเข้ามาจนป้าแกทำไม่ทัน แทบจะเป็นลมเพราะเมนูที่ลายตาเป็นสิบๆอย่าง เห็นอย่างนั้นผมเลยเดินเลี่ยงไปกินข้าวมันไก่แทนร้านอาหารตามสั่ง กลัวโดนป้าแกเหวี่ยงเอาครับ


    ร้านข้าวมันไก่มีออร์เดอร์จากนักกีฬาบาสและวอลเล่ย์บอล แต่เนื่องจากเมนูมันทำง่าย ผมเลยสามารถแซงคิวได้อย่างง่ายดาย


    ส่วนคชาได้ข้าวหมูแดงมา ร้านนั้นก็มีออร์เดอร์จากนักกีฬาวิ่งและไตรกีฬาทั้งหลายเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ทำง่ายและคนสั่งเป็นถึงประธานนักเรียน ข้าวหมูแดงที่หมูพูนจานก็มาตกอยู่ในมือของคชาอย่างง่ายดายเช่นกัน


    เราพากันไปนั่งที่ม้าหินตัวเดิมก่อนจะเริ่มกินเพราะความหิว ผมว่าวันนี้คชาคงใช้สมองไปเยอะทีเดียว ส่วนผมหลังจากที่อู้มาหลายวัน วันนี้ก็ได้ฤกษ์ทำงานซักทีครับ กล้อง Canon EOS5D ตัวเก่งและแพงเหี้ยๆของผมถูกงัดออกมาใช้ เพราะงานนี้มันต้องถ่ายระยะไกล แล้วผมซึ่งเป็นคนขี้เกียจแบกเลนส์ไปไหนมาไหน ก็เลยเลือกเอากล้องที่ถ่ายได้ชัดๆ ซูมได้ไกลๆและละเอียดกว่าตัวอื่นไว้ก่อนล่ะครับ

     








     

    เจ้าตัวนี้นี่ลูกรักเลยนะ!




     

    และลูกรักของผม...









     

    ก็กำลังถูกคนน่ารักส่องเล่นอยู่ครับ J

     










     

    ชักอยากจะเป็นกล้อง...



    ถ้าคชาจะส่องใกล้ขนาดนั้น ผมขอแปลงร่างเป็นกล้องวันนึงได้มั้ยครับ?

     








     

    นี่จริงจังนะเนี่ย...




    บอกแล้ว...ผมแม่งขี้หึง

     











     

    “เต๋า”

     






     

    แชะ! แชะ! แชะ!

     








     

    พอผมเงยหน้าขึ้นไปหาคนเรียก คชาที่จ่อกล้องรออยู่ก่อนแล้วก็กดชัตเตอร์ซะสามครั้ง เล่นเอาผมเหวอทำอะไรไม่ถูกเลยครับเฮ้ย!



    “หน้าตอนเหวอตลกชะมัดเลย” คชาดูรูปแล้วเอ่ยออกมาเบาๆ ผมอ้าปากค้างทันทีแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยขัดอะไรออกไปได้เพราะรอยยิ้มนิดๆของเขานั่นแหละ




    คชาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ผมก่อนส่งกล้องสุดที่รักกลับมาให้ผมแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป นี่เลยเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับผม เพราะผมเตรียมยกกล้องมาจ่อคนน่ารักที่กำลังกินข้าวตรงหน้าแล้วเรียบร้อย แต่ก่อนที่จะได้กดชัตเตอร์ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์คชาก็เข้ามาเสียก่อน

               






    “เฟรม ว่าไง”

     







     

    พอรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือนักกีฬาบาสและมือกีตาร์ของวงผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร ตามองกล้องและรัวกดชัตเตอร์ถ่ายรูปคชาไม่หยุดจนเจ้าตัวเขาเบ้ปากใส่แต่ก็โวยวายอะไรมากไม่ได้เพราะติดคุยโทรศัพท์อยู่

     


     

    ยิ่งเขาเบ้ปากใส่ผมก็ยิ่งกดรัว ก็อยากทำท่าน่ารักๆก่อนทำไมกันล่ะ

     




     

    คชาวางโทรศัพท์ลงในขณะที่กดผมเปิดภาพเพื่อเช็ครูป แต่อยู่ดีๆเขาก็ลุกออกจากโต๊ะทั้งๆที่ข้าวยังพร่องไปไม่ถึงครึ่งจานด้วยซ้ำ นั่นทำให้ผมตั้งตัวแทบไม่ทัน นึกว่าเขาจะโกรธเรื่องที่ผมแอบถ่ายรูปเขา ในสมองเตรียมคำแก้ตัวไว้มากมาย ถ้าหากเอากระจกมาส่องหน้า คงจะเห็นว่าหน้าผมซีดจนแทบจะร้องไห้เลยล่ะมั้งครับ


    แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะเขาชี้ไปที่โทรศัพท์ก่อนจะส่ายหน้าเป็นทำนองว่าไม่รู้เหมือนกัน



    นั่นหมายความว่าเฟรมคงโทรมาเรียกคชาให้ไปที่ไหนซักแห่ง และมันก็คงปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้คชาหอบเอกสารไว้ที่วางไว้ข้างตัวขึ้นมาเตรียมจะเดินไปแล้ว ผมที่ตั้งสติไม่ทันก็ได้แต่ใช้ปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกาย มือของผมคว้าเข้าที่ข้อมือของอีกคนทันที คชาชะงักก่อนจะหันมาและเอียงคอมองว่าผมต้องการอะไร

     






     

    “เต๋า...ไปด้วยได้มั้ย?”

     







     

    ผมมองเขาอย่างมีความหวัง วันนี้ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาในตอนเช้าแล้วผมก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลยจนกระทั่งตอนนี้ อาจจะดูมากเกินไป แต่ผมรู้สึกว่าวันนี้เราห่างกันมาก ปกติอย่างน้อยถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ความรู้สึกของผมก็เหมือนมีเขาอยู่ข้างๆ ซึ่งต่างจากวันนี้ เพราะผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่คนเดียว

     







     

    ผมกำลัง คิดถึง คนที่อยู่ห่างกันแค่เอื้อม

     









     

    ยอมรับเลยว่าผมคิดจะกดส่งข้อความหาเขาหลายครั้งมาก แต่ผมกลัวว่ามันจะไปรบกวน เขาอาจจะกำลังใช้สมาธิหรือบางทีอาจจะรำคาญ แต่แบบนี้ผมก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ เจอหน้ากันยังไม่ถึงยี่สิบนาทีเลยด้วยซ้ำ

     








     

    “ขอโทษนะเต๋า แต่เฟรมบอกให้ไปคนเดียว”

    “...แต่เต๋าเป็น...ของคชาไม่ใช่เหรอ?”

    “อย่าดื้อสิช้อคโกแลตเค้ก แล้วจะรีบกลับมานะ”

     




     

    คชาโบกมือลาแล้วเดินออกไป ผมมองตามหลังเขาไปจนสุดสายตาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นี่ผมไม่ได้ดราม่านะเว่ย! แค่แอบน้อยใจนิดๆเอง ทำไมเขายังทำทุกอย่างเหมือนเดิม หรือผมอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองไปรึเปล่า?

     





     

    ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะ...



    คชาไม่รู้จริงๆหรือต้องการให้มันคลุมเครือไปเรื่อยๆกันแน่






    เขาอยากเห็นผมทรมานเพราะน้อยใจเขารึไงนะ...















    ----------------------------------------------------------------


    มาแล้วววววววววววววววววววววว
    ตอนนี้มาลงอย่างอึนๆ -_-

    ช่วงนี้จะห่างหายนะฮะ ติดอนิเมอยู่ หลายเรื่องทีเดียว55555555555555555
    (อยู่เมกาเหมือนอยู่ญี่ปุ่น -_______________________-)

    ใกล้จะจบแล้วสำหรับเรื่องนี้ เดินทางมาไกลเหมือนกันนะ
    และแน่นนอนว่าเรื่องนี้จบเราจะคลอดเรื่องใหม่มาแน่นอน ไมทิ้งหรอกบทความนี้ - w -


    ฝากเม้นด้วยนะฮะ รอตอนต่อไป อีกนาน #อ้าว555555555555555555555











    14/10/2012
    21:55 @USA



     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×