คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : SF - SWEET CREAM [6]
# part 6 #
วันนี้แน่นอนว่าผมมาเช้า
ผมตื่นตั้งแต่หกโมง จัดการอาบน้ำแต่งตัวทำนู่นทำนี่จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงถึงค่อยออกจากคอนโดมาโรงเรียน ผมก็เพิ่งรู้หลังจากที่ไม่เคยตื่นเช้ามาเนี่ยแหละว่าเวลาตอนเช้ามันมีมากมายขนาดไหน แค่ครึ่งชั่วโมงของยามเช้าแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยาวนานกว่าสองชั่วโมงของตอนเที่ยงซะอีก อาจจะเป็นเรื่องที่คิดไปเอง แต่อากาศยามเช้ากับแสงแดดที่อบอุ่นก็ชวนสบายไม่น้อย
“เต๋า”
ผมหันไปตามเสียงเรียกที่แสนคุ้นเคย เป็นคชานั่นแหละครับที่เรียกผม เพราะก่อนออกจากคอนโดผมส่งข้อความบอกให้คชารีบๆมา ส่วนผมก็นั่งรอเขาอยู่ที่ม้าหินตัวเดิม
“คชา”
“อะไรเต๋า”
“เปล่า เรียกเฉยๆ คชา คชา คชา คชา คะ-ชา”
“ต๋าวววววววววววววววว~”
“ฮ่าๆๆๆๆ คชาเดี๋ยวนี้มีกวนกลับอ่ะ ไหนเขาว่าเป็นคนเงียบๆไง”
“ใครว่าคชาเงียบ มั่วแล่ว!”
“เต๋าก็ว่างั้น แต่คชาอย่าเงียบเลย พูดเยอะๆ คุยเยอะๆ ยิ้มเยอะๆ น่ารักกว่านะ”
“...คชาจะพยายาม”
“ฮ่าๆๆๆ โอเคเลยชา ยิ้มให้เต๋าเห็นสิบครั้งนับเป็นหนึ่งคะแนน สะสมครบสิบคะแนนเมื่อไหร่เลี้ยงเค้กฟรีเมื่อนั้น โอป่ะ?”
“จัดไป J”
คชาที่ได้ยินคำว่ากินฟรีก็ยิ้มกว้าง ล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเลข 1 แล้วชูให้ผมดู โอเค เช้านี้คชาได้ไปหนึ่งยิ้ม เหลืออีกเก้าครั้งก็จะนับเป็นหนึ่งคะแนนครับ หนทางยังอีกยาวไกลครับเด็กน้อย อิอิ
ขอสารภาพ...เงื่อนไขนี้ผมแม่งโคตรกำไร XD!!
(ถ้าอีโมเฮียเต๋าจะแรดขนาดนี้ กร๊ากกกก)
เงื่อนไขนี้แลดูแล้วเหมือนผมจะเสียผลประโยชน์เหรอครับ? แต่ขอโทษทีเถอะ ได้เห็นคชายิ้มตั้งหนึ่งร้อยครั้งต่อเค้กแค่ไม่กี่บาทเนี่ยคุณคิดว่าอะไรมันจะคุ้มกว่ากันเหรอครับ!?
ตอบได้แบบไม่ต้องคิดนาน ‘ยิ้มคชา!!!!!’
รอยยิ้มของคชาใช่ว่าใครอยากเห็นก็ได้เห็นกันนะครับ ตัวผมยังแปลกใจตัวเองอยู่เลยที่ทุกวันนี้ผมได้เห็นคชายิ้ม คชาหัวเราะ คชางอน คชาเขิน และอีกหลายๆคชาที่ทำให้ผมแปลกใจ ยิ่งอยู่ใกล้ๆคชาก็ยิ่งได้เห็นอะไรน่ารักๆจากเจ้าตัว ยิ่งอยู่ด้วยแล้วก็ยิ่งเอ็นดู เห็นแล้วก็อยากจับมาฟัดซักทีสองที!
...ข้างบนนั่นไม่ใช่ผมนะครับ มีคนมาเข้าสิงผมครับ ผมไม่ได้อยากจะฟัดคชานะครับ!!
...เหมือนจะแก้ตัวไม่ทันอ่ะ...
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
วันนี้สี่คาบเช้าอย่างว่างอ่ะครับ เพราะหลายคนต้องไปจัดเตรียมงานกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ของโรงเรียนที่จัดขึ้นร่วมกับอีกห้าโรงเรียนอื่น แน่นอนว่าคชาที่เป็นประธานนักเรียนก็ต้องไปประชุมใหญ่กับเขาด้วยอยู่แล้วครับ ส่วนผมอ่ะเหรอ...?
เออ! กูว่าง! พอใจป่ะ!?
ใช่ว่าผมจะไม่มีงานนะ! งานของชมรมผมเป็นงานที่โคตรยิ่งใหญ่เลยนะเฮ้ย! ถ่ายรูปไงครับถ่ายรูป ถึงแม้ว่าพวกผมจะไม่ได้โปรกล้องแบบไอ้พวกชมรมถ่ายภาพ แต่งานที่ต้องการความรวดเร็วฉับไวอย่างงานนี้มันก็ต้องเหมาะกับนักข่าวที่ไม่คิดอะไรเวลาถ่ายภาพมากกว่าไอ้พวกหัวศิลปะที่ต้องเอียงซ้ายเอียงขวาปรับนู่นปรับนี่แต่งนั่นเติมโน่นเยอะอ่ะครับ ก็พวกผมแม่งถ่ายไม่คิดไง ถ่ายเอามันส์อย่างเดียว อารมณ์แบบขอเพียงกูได้ภาพมาก็เพียงพอ ฮ่าๆๆๆ
และก็นั่นแหละครับ ถ่ายภาพก็ต้องถ่ายวันงานดิใช่ป่ะ? เพราะงั้นช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนงานเริ่มกูก็ว่างอ่ะครับ เหมือนอย่างตอนเนี้ย อาจารย์ก็ไม่เข้าสอนเพราะต้องช่วยนักเรียนส่วนหนึ่งประสานงาน แต่ถึงเข้าสอนก็ไม่มีคนเรียนอยู่ดี เพราะตอนนี้ห้องเรียนถูกแปรสภาพเป็นห้องทาสีชั่วคราว เพราะไอ้พวกฝ่ายแบ็คกราวด์แกเล่นขนของมานั่งละเลงกันในนี้เลยไงครับ -*-
ไม่มีอะไร...กูแค่เหม็นสี!! (ไม่ช่วยแล้วยังมีหน้ามาบ่นอีกนะมึง - -)
อ่าครับ ส่วนอีกหลายคนที่สงสัยว่า ‘เอ้า! แล้วมึงไม่ถ่ายเก็บบรรยากาศก่อนจะถึงวันงานรึไง?’ บอกตามตรง...กูขี้เกียจครับ! เลยโยนงานให้คนอื่นในชมรมแทน กร๊ากกกก
ว่าแล้วก็เดินไปหาเพื่อนแพรวที่ชมรมหน่อยดีกว่า
แพรวที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ หัวหน้าชมรมของผมอ่ะแหละ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้าชมรมเท่าไหร่ ก็วันๆผมมัวแต่ไปหมกอยู่กับคชานี่ครับ วันนี้เลยกะจะโผล่หน้าไปให้พวกมันเห็นซักหน่อย จะได้ให้พวกแม่งรู้ว่าอันตัวกูนั้นยังคงขยันทำงานอยู่จริงๆนะเออ
ใช้เวลาเดินไม่นานก็มาถึงห้องชมรมครับ ชมรมผมก็ไม่มีอะไรมาก ยิ่งประกอบกับการที่มีสมาชิกโคตรน้อยด้วยแล้วก็เลยทำให้ยิ่งไม่มีอะไรเข้าไปใหญ่ ที่หน้าประตูมีโปสเตอร์ประกาศรับสมัครแผ่นเท่าควายแปะไว้อยู่ ส่วนผนังรอบข้างก็แปะพวกข่าวต่างๆไว้ ส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เรียกง่ายๆว่า ‘เสือก’ เรื่องชาวบ้านอ่ะครับ แต่พวกผมก็หาได้แคร์ไม่ ก็ในเมื่อพวกมึงเสือกปิดกันไม่มิดเอง กูก็เลยเอามาขยายความและแชร์กันในวงกว้างไงครับ J
ก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะครับ แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะชมรมผมต้องมีหนังสือพิมพ์รายวันแปะที่บอร์ดโรงเรียนตลอด ถ้าขาดไปจะกลายเป็นว่าชมรมนี้อู้งาน แล้วสุดท้ายก็จะถูกยุบครับ -*-
อีกอย่างคนส่วนมากก็ชอบอ่านเรื่องรักๆใคร่ๆด้วยไงครับ เพราะงั้นข่าวส่วนใหญ่ที่เราเขียนก็จะเป็นประมาณคนนี้แย่งแฟนคนโน้น คนโน้นหักอกคนนั้น คนนั้นคบกับคนนี้
โดนเขาด่ามาก็เยอะอ่ะครับ แต่ก็อย่างที่บอก พวกกูหาได้แคร์ไม่ กร๊ากกกกกก สมาชิกแต่ละคนหน้าด้านอย่างกับอะไรดี แถมยังเส้นใหญ่ด้วย ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอกครับ อย่างไอ้ต้นนี่ก็น้องพี่ตั้ม พี่ประธานนักเรียนรุ่นที่แล้ว พ่อน้องหลินก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงเรียน แม่พี่แอ้นเป็นอธิการ ส่วนแพรวหัวหน้าชมรมนี่เด็ดสุด เป็นแฟนกับน้องจอยลูกอาจารย์ใหญ่!!
ดูแต่ละหน่อซะก่อนครับ ถ้ามันจะเส้นใหญ่กันขนาดนี้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะมีประโยชน์เสมอไปนะไอ้เส้นใหญ่ๆเนี่ย ไม่งั้นพวกผมคงไม่ต้องมานั่งทำโปรเจ็คแมกกาซีนนี่เป็นผลงานชมรมหรอกครับ
ว่าแล้วผมก็เปิดประตูเข้าไปในห้องชมรม โอ้โห แม่งนั่งหน้าสลอนอยู่กันครบเลยครับ -*-
“อ้าวเต๋า กูก็นึกว่ามึงจะขลุกอยู่กับประธานซะอีกน้า~”
เป็นไอ้ต้นที่ทักผมคนแรก มันที่กำลังเล่นแท็ปโซนิกอยู่พอเห็นผมเดินเข้ามาในห้องก็เปิดปากหมาๆนั่นแซวออกมาทันที เพราะอย่างงั้นคนอื่นในชมรมที่ไม่ได้สนใจผมตั้งแต่ทีแรกเลยหันมามองกันจนคอแทบเคล็ด
“ฮิ้วววววววววววววววววว~”
และพวกมันที่ตอนแรกๆ นั่งหน้าโง่เบื่อโลกกันอยู่ก็สดใสกระดี๊กระด๊าสะดีดสะดิ้งขึ้นมาเปิดปากแซวผมกันทันทีทันใด
แหม ถ้าพวกมึงจะไวกันขนาดนี้แล้วละก็นะ!
“ขลุกเหี้ยอะไร ไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวันซักหน่อยเฮ้ย!” ผมเถียงไอ้พวกขี้เสือกขึ้นมาทันที
“แหมมมม จ้าไม่ทั้งวันจ้า~ แต่ก็สามเวลาหลังอาหารอ่ะนะ” ...ไอ้ต้นนี่มึงสะกดรอยตามกูเหรอ!
“เดี๋ยวนี้ที่พี่เต๋ามาเช้าก็ไม่ใช่อะไร แค่อยากมาเจอพี่ประธาน ฮิ้ววววว~” ...น้องหลินรู้ได้ไงวะ!
“เดี๋ยวนี้ตอนกลางวันน้องเต๋าก็ไม่ได้หายไปไหน แค่ไปกินข้าวกับน้องประธานสองต่อสอง~” ...นี่พี่แอ้นตามไปส่องกูมาเรอะ!
“และตอนนี้ที่ไอ้เต๋าไม่ยอมส่งบทสัมภาษณ์ให้กูซักทีก็ไม่ใช่อะไร เพราะแม่งอยากยืดเวลาออกไปจะได้เจอคชาให้นานๆ~” และสุดท้ายไอ้แพรวแม่งก็พูดขึ้นมา
และก็เกิดปรากฏการณ์...
“ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว~!!!!!”
แม่ง...กูไม่น่ามาที่นี่เลย -///-!
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
ตอนนี้คชากำลังเครียดมาก! (ตัดอารมณ์จากเมื่อกี้ชิบหาย - -)
เพราะอยู่ดีๆ อีกสถาบันก็ดันขอเปลี่ยนรูปแบบพาเหรด จากตอนแรกที่บอกว่าพาเหรดของแต่ละโรงเรียนให้มีแค่คนมาเดินๆ แต่งตัวตามธีม และแสดงอะไรนิดๆหน่อยๆก็พอ แต่เมื่อกี้ดันมาขอเปลี่ยนให้มีวงโยธวาทิตด้วยง่ายๆซะนี่!
“สรุปว่าให้มีดรัมสามคนนะคะ คนแรกจะเป็นคนนำขบวนของวงโย คนที่สองจะเป็นดรัมนำขบวนพาเหรด ส่วนคนสุดท้ายก็ปิดขบวน อ๋อ วงโยต้องมีอย่างน้อย 30 คนนะคะ กำหนดเพลงห้าเพลงค่ะ”
แล้วพอสถาบันนี้ขอเปลี่ยน อีกหลายๆสถาบันก็ขอเปลี่ยนตาม ไหนจะที่บอกว่าขอให้ผู้นำเชียร์มีสิบคน ทีมเชียร์ต้องอังกอร์ตอนพาเหรด วงดนตรีขึ้นเล่นบังคับวงละสามเพลง ขอถอดกีฬาเทนนิส เพิ่มการแข่งวิ่งผลัด 4x100 กับปิงปอง รวมถึงที่ว่าจะให้การแข่งบอลและบาสเป็นแบบสองในสาม และขอยืดเวลาจากสองวันเป็นสามวัน
ไอ้ที่จะเปลี่ยนก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ…
แต่เพิ่งมาบอกอะไรตอนนี้!! เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเองนะเว้ย!!
คชาได้แต่พยายามจดทุกรายละเอียดที่ทุกสถาบันเสนอขอเปลี่ยนแปลงเอาไว้ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะจดทัน หวังจะให้เขาลองเอ่ยปากขอดูบ้าง? ฝันเถอะ! แค่นี้ก็แทบจะจดไม่ทันอยู่แล้ว อย่าหาเรื่องให้คชาต้องเหนื่อยเพิ่มเลย...
สรุปแล้วงานก็ต้องเปลี่ยนแทบทุกอย่าง ยังดีที่ธีมของงานยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่อย่างงั้นคชาคงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับงานนี้แน่ๆ
ตอนนี้คชากลับมาจากการประชุมใหญ่แล้ว กำลังนั่งรอให้แพรวาไปประกาศเรียกหัวหน้าชมรมกีฬากับผู้รับผิดชอบเรื่องต่างๆมาฟังรายละเอียดกันใหม่ เชื่อว่าต้องมีคนโวยวายขึ้นมาแน่ๆ แต่ในเมื่อถึงคชาท้วงในที่ประชุมไปก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี สู้คชานั่งเงียบๆคอยเก็บข้อมูลคู่แข่งดีกว่าเหอะ
“เรียกหัวหน้าชมรมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานกีฬามาประชุมด่วน มีเรื่องสำคัญประกาศ ใครไม่มาไม่มีรีอีกรอบนะยะ!!”
เสียงแหลมๆของแพรวาดังขึ้นผ่านลำโพงหลายสิบตัวของโรงเรียน คชาที่กำลังนั่งเรียบเรียงคำพูดอยู่สะดุ้งเบาๆกับเสียง แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ ประตูห้องก็ดันถูกใครบางคนเปิดเข้ามาซะก่อน
“คชา...ว่างมั้ย?”
เป็นเต๋าที่เปิดประตูเข้ามา คชารู้สึกโล่งใจที่เป็นเต๋า ความรู้สึกบางอย่างมันทะลักออกมาทันทีเมื่อเห็นหน้า เหมือนเวลาที่เราอยู่ในถ้ำมืดๆแล้วหันไปเห็นแสงสว่าง มือคชายื่นออกไปคว้าเต๋าอย่างไม่รู้ตัวทันที…
หมับ!
มือคชาคว้าเข้าที่ข้อมือของเต๋า บีบแน่นจนเต๋าแอบเบ้ปาก ส่วนคชากลับทำแค่ก้มหน้าลงมองพื้น ในหัวคิดอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับเรื่องงานเต็มไปหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งได้แต่นึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่ยอมหัดมีปากมีเสียงอะไรกับเค้าบ้าง ในหัวมีความคิดต่างๆแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว
วงโยธวาทิตต้องมีแปรขบวน ใครจะมาจัดแถวให้ สมาชิกของชมรมโยธวาทิตมียังไม่ถึง20คนเลยด้วยซ้ำ ไหนจะยังต้องหาดรัมเมเยอร์มาเดินนำขบวนวงโยธวาทิตกับปิดขบวนพาเรดอีก จะไปเอาใครมาเป็นผู้นำเชียร์ และจะให้กองเชียร์อังกอร์อะไรตอนพาเหรด ตอนเย็นก็ต้องมีเล่นวงดนตรีสถาบันละสามเพลงอีก ฟุตบอลกับบาสก็ต้องแข่งแบบสองในสามทั้งๆที่ตอนแรกถ้าชนะก็รอชิงเลยแท้ๆ แล้วจะไปบอกนักกีฬาเทนนิสยังไง จะหาคนวิ่งและเล่นปิงปองได้ครบมั้ยในเวลาแค่ไม่กี่วัน
...จะทำยังไงให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
จะทำยังไงให้งานหนนี้ออกมาดีที่สุด...
เครียดโว้ยยยยยยย!!!!!
คชายกอีกมือที่ว่างอยู่ขึ้นมาขยี้หัวตัวเองแรงๆจนมันฟู ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านจนกลายเป็นการมองโลกในแง่ร้ายเกินไป แต่อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้ถ้วยหลักซักถ้วยก็ยังดี จะได้ฉลองหลังงานด้วยความสนุกกันทุกคน
“คชา!”
“ห๊ะ...อะ เต๋า...เอ้อ มีอะไรรึเปล่า?”
“เมื่อกี้เต๋ากำลังจะกลับห้อง แพรวาเดินผ่านมาพอดีเลยบอกเต๋าว่าชากำลังเครียด...แล้วจากที่เต๋าเห็นเนี่ย เครียดขั้นรุนแรงซะด้วยนะ หืม?”
“...ไม่รู้จะจัดการยังไงดี คชาคิดอะไรไม่ออกเลยเนี่ย”
คชาทำหน้าบึ้ง มองเต๋าอย่างติดจะอ้อนอยู่หน่อยๆ ก็อย่างที่เต๋าเคยพูดมาหลายครั้งแล้วนั่นแหละว่าคชาน่ะเด็กน้อยชัดๆ ตอนนี้ก็คงเป็นอารมณ์ของเด็กที่กำลังถูกขัดใจ พอให้มีคนมาตามใจซักเรื่องสองเรื่องเดี๋ยวก็หาย
เต๋าดึงคชาให้นั่งลงบนโซฟา ส่วนตัวเองลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าคชาพลางเอื้อมมือขึ้นมาตะปบแก้มนุ่มนิ่มของคชาเอาไว้แล้วออกแรงนวดเบาๆ
“อย่าทำหน้าบึ้งสิ เดี๋ยวหักแต้มเลยนี่”
“อ๊ะ ไม่มีกฎนี้ซะหน่อย เต๋าอย่ามามั่วนะ!”
คชาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินที่เต๋าขู่ เอื้อมมือเล็กทั้งสองข้างของตัวเองลงไปใช้นิ้วชี้จิ้มๆที่แก้มของเต๋า ก่อนจะออกแรงกดลงไปอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ย! คชา! เจ็บนะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้ แบร่ :P”
คชาแลบลิ้นใส่เต๋าอย่างล้อเลียน ส่วนเต๋าก็ได้แต่แอบอมยิ้มให้กับความน่ารักของอีกคนก่อนจะค่อยๆดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน คชาพอเห็นเต๋ายืนก็ตบเบาะโซฟาข้างตัวเองแปะๆเป็นการบอกว่าให้นั่งลงตรงนี้แทน
เต๋านั่งลงข้างๆคชา แต่อยู่ดีๆก็ดันเกิดขี้เกียจนั่ง(?)ขึ้นมาซะอย่างนั้น เลยเนียนไถลตัวลงไปนอนราบกับโซฟาแทน คชาก้มลงมองเต๋า ส่วนเต๋าเงยหน้าจ้องคชาอยู่ก่อนแล้ว และสุดท้ายคชาก็ทำในสิ่งที่เต๋ารอมานาน
คือเจ้าตัวเล็กตบแปะๆอีกครั้งที่ตักของตัวเอง...
คชาเชิญ! เต๋าไม่ได้ขอนะ!! (เรอะ!?)
เต๋ารีบเลื่อนหัวขึ้นไปนอนบนตักของคชาทันทีอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นไปยิ้มหวานให้เจ้าตัวเล็กที่กำลังส่งสีหน้าหมั่นไส้มาให้
“ไหนคชามีเรื่องเครียดอะไร บอกเต๋ามาดิ้”
...เพียงแค่ประโยคนี้ประโยคเดียวก็เหมือนกับเป็นกุญแจปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดในครั้งนี้ของคชา พอเต๋าพูด คชาก็พลันรู้สึกเหมือนว่าเรื่องที่เคยเครียดก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง เพราะไม่ว่าจะเป็นแพรวา อ้นหรือเต้ พอออกมาจากที่ประชุมก็ถามคชาแค่ว่าเอาไงต่อแค่นั้น แต่สิ่งที่คชาอยากได้จริงๆ คือคนที่จะมารับฟังเรื่องของคชา ไม่ต้องช่วยแก้ไข ไม่ต้องเห็นด้วย แค่ยอมรับฟัง แค่นี้หัวใจคชาก็สงบแล้ว
คชายิ้มน้อยๆให้เต๋า ส่ายหน้าไม่พูดอะไร มือบางลูบผมของเต๋าที่อยู่บนตักตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดกล้องแล้วกดชัตเตอร์ลงไปหลายรูปทีเดียว
“เฮ้ย คชาทำไร?”
“ถ่ายรูป”
“หมายถึงถ่ายรูปเต๋าทำไม?”
“เก็บไว้ เวลาเห็นหน้าเต๋าแล้วสบายใจ J”
คชายิ้ม กดเปิดรูปเต๋าที่อยู่ในไอโฟนให้เจ้าตัวดู เต๋าพอเห็นก็เบ้ปาก เอ่ยบ่นเบาๆว่าคชาถ่ายเต๋าไม่หล่อบ้างล่ะ คชาถ่ายเต๋าอ้วนบ้างล่ะ
คชาได้ยินก็หมั่นไส้ เลยจัดการหยิกแก้มขาวๆของเต๋าไปหนึ่งที เต๋าที่โดนทำร้ายร่างกายก็ใช่ว่าจะยอมนะ เพราะเจ้าตัวเอื้อมมือสุดแขนไปขยี้ผมคชาจนมันยุ่งเหยิงไปหมด
“ต๋าววววว~ ผมคชายุ่งหมด!”
“ไม่รู้ไม่ชี้ แบร่~ :P”
พอเห็นคนตัวโตล้อเลียนตัวเองคชาก็ยู่หน้า แต่ตอนที่กำลังจะตะปบแก้มของเต๋ากลับเพื่อเอาคืน แพรวาก็เปิดประตูเข้ามาซะก่อน
“เอ่อะ...! แหมพี่คชา~ ถ้าจะหวานกันขนาดนี้” แพรวาเมื่อเห็นฉากเต๋านอนตักคชาก็หยอกขึ้นมาทันที
“แพรวามีไรเปล่า” แต่คชาและเต๋าก็หาได้สนใจ ทั้งคู่ทำเสมือนการนอนตักไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรซักนิด หัวเต๋ายังคงหนุนอยู่บนตักของคชา ส่วนมือคชาก็ยังคงลูบผมเต๋าอยู่ไม่ห่าง
ถ้าจะไม่แคร์ใครเลยขนาดนี้ (-________-!!)
“ชิ หน้าด้านกันจริ๊ง!” แพรวาจิ๊ปากอย่างขัดใจ เพราะนึกว่าจะมีใครซักคนเขินหรือลุกขึ้นมาปฏิเสธโวยวายกับคำพูดเมื่อครู่
...แต่แม่ง...เฉยทั้งคู่ว่ะค่ะ (-_-;)
“แพรแค่จะมาบอกว่าทุกคนพร้อมแล้ว ตอนนี้รอพี่คชาอยู่คนเดียว”
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ ป่ะเต๋า” คชาบอกแพรวาก่อนจะหันมาพยักหน้ากับเต๋า
“ไปไหน?” เต๋าทำหน้างง ...ไปไหนวะ?
“ประชุม”
“เฮ้ย เต๋าไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ เข้าไปไม่ได้”
“เต๋าเป็นของคชา เข้าได้”
คชาบอกหน้าตายพลางลุกขึ้นยืนแล้วฉุดเต๋าให้ลุกขึ้นจากโซฟา แพรวาที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่แอบเบ้ปากหมั่นไส้เบาๆ ก็ร้อยวันพันปีเธอไม่เค๊ยไม่เคยจะได้ยินคำที่แสดงความเป็นเจ้าของใครซักคนออกจากปากของพี่คชามาก่อน แล้วไหงกับพี่เต๋าที่รู้จักกันยังไม่ถึงอาทิตย์ดันได้ไปเป็นของตัวเองแล้วยะ? ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
พี่คชาสองมาตรฐาน!!
มาตรฐานทั่วไปกับมาตรฐานพิเศษเพื่อเต๋าอ่ะนะ J
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
คชาและเต๋าเดินตามแพรวามาจนถึงห้องประชุม ในห้องมีคนอยู่ประมาณหห้าสิบกว่าคนที่มาร่วมฟังการเปลี่ยนแปลงของงานกีฬาสัมพันธ์ และหนึ่งในนั้นก็มีแพรว หัวหน้าชมรมของเต๋าด้วยเช่นกัน
เต๋าพอเห็นแพรวก็ทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้ เดินตามคชาเข้าไปตรงหัวโต๊ะ ส่วนแพรวที่เห็นเต๋าเดินตัวติดมากับคชาก็อดที่จะส่งยิ้มล้อเลียนไปให้ไม่ได้ ก็แหม~
ขอล้อซักหน่อยเหอะ! ห่างกันไม่ได้เลยนะ~
แพรวหมายมั่นไว้ในใจแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องถึงหูคนในชมรมอย่างแน่นอน ขณะที่คิดก็ส่งยิ้มชั่วร้ายไปให้เต๋า เจ้าตัวที่กำลังโดนนินทาในใจขมวดคิ้วมุ่น แอบมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ
...กลัวตัวเองจะเป็นข่าวชอบกล!
คชานั่งลงที่หัวโต๊ะ ส่วนเต๋าที่เป็นส่วนเกินก็ได้แต่น้ำตาตก ก็เขาไม่มีที่นั่งอ่ะ จะให้ไปยกเก้าอี้เข้ามาก็ใช่ที่ เขาเลยได้แต่ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ของคชา กวาดตามองไปทั่วห้อง มีไม่กี่คนหรอกที่เขาจะรู้จัก อย่างคนในสภานักเรียนที่เคยเห็นหน้ามาแล้วก็มีอ้น เต้ แพรวาแล้วก็ไอ้ภูร์ ส่วนพวกหัวหน้าชมรมกีฬาก็มีแค่เฟรมที่เป็นกัปตันบาสกับพี่เจมส์ที่เป็นกัปตันบอล แล้วก็พี่ดิวที่เป็นพี่เชียร์กับพี่จอยที่เป็นพี่หลีดและสุดท้ายก็เป็นน้องเหวยเหวยกับพี่เอิงที่ดูแลเรื่องพาเหรดเท่านั้นที่เขาคุ้นหน้า ส่วนที่เหลืออย่าว่าแต่คุ้นเลย อยู่โรงเรียนเดียวกันรึเปล่าก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจ
ไม่ใช่ว่าเขาสังคมน้อยนะ แต่เขาแค่ไม่ค่อยใส่ใจ
เต๋าก้มลงมองคชา อดคิดชื่นชมไม่ได้ว่าตัวเล็กๆแค่นี้แต่ต้องคุมคนถึงห้าสิบกว่าสิบคนนี่ไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะแค่พอคชาเดินเข้ามาในห้องเท่านั้นแหละ เสียงพูดคุยที่ดังอยู่ในตอนแรกก็เงียบลงทันที ทุกคนตั้งใจมองและเตรียมฟังในสิ่งที่คชาจะพูด ไม่มีกระแสต่อต้าน ในดวงตาของแต่ละคนที่มองมาล้วนแล้วแต่แฝงไว้ด้วยความเคารพ
คชาขยับตัว ไล่มองหน้าผู้รับผิดชอบงานกีฬาในครั้งนี้ทุกคนก่อนจะเริ่มพูดขึ้น
“ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคนก่อนที่ไม่ได้ท้วงหรือเสนอในสิ่งที่เราควรจะได้ประโยชน์ออกไป”
คชาพูด สบตากับทุกคนในห้องอย่างตรงไปตรงมา ลุคนี้เป็นลุคใหม่ของคชาที่เขาไม่เคยได้เห็น เพราะตลอดมาที่เขาขลุกอยู่กับคชา อย่างน้อยบนใบหน้าของคชาก็จะต้องมีรอยยิ้มบางๆเคลือบเอาไว้บ้าง ถึงจะไม่ได้ยิ้มกว้างอะไร แต่ก็ไม่ได้เรียบเฉยจนตึงเครียดแบบนี้ แถมน้ำเสียงยังแข็งกระด้าง ชวนให้คิดถึงฉายาที่ว่า…
ประธานนักเรียนแสนเย็นชา
เต๋าเริ่มจะเข้าใจขึ้นมาหน่อยๆแล้วว่าทำไมคนส่วนมากถึงคิดว่าคชามีเพียงหน้าเดียว ก็เล่นทำหน้าเหมือนเป็ดป่วยอย่างนี้ตลอดเวลา แถมยังทำต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้มันก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบและคิดเอาเองว่าตัวคชาหยิ่ง ขี้เก๊ก หรือเย็นชาอยู่แน่นอน
เต๋าล่ะอยากจะให้คชายิ้มแย้มอย่างที่ทำกับเขา คนอื่นจะได้เลิกเข้าใจผิดเสียที แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกหวง
...หวงรอยยิ้มสวยๆ ของคชา
สารภาพตามตรงว่าตลอดการประชุมเต๋าได้แต่คิดเรื่องของคชาจนไม่ทันได้สนใจฟังว่าเขาประชุมอะไรกันไปบ้าง เหมือนมายืนหายใจทิ้ง และจากที่ตอนแรกเต๋ายืนอยู่หลังเก้าอี้ของคชา แต่ตอนนี้ดันมานั่งเบียดกับเจ้าตัวเล็กตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้
...เขาเจอสายตาทิ่มแทงจากคนทั้งห้อง!
สายตาพวกนั้นสื่อเป็นเสียงเดียวกันอย่างมิได้นัดหมายว่า
‘อิจฉา!!!!’
เต๋าพอเห็นอย่างนั้นก็เริ่มรู้สึกสนุก เลยจัดการเอื้อมมือของตัวเองไปโอบรอบเอวบางๆของคชาเอาไว้หลวมๆ ส่วนคชาที่เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสตรงเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังคงพูดเรื่องเกี่ยวกับงานกีฬาต่อไปเรื่อยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเห็นคนทั้งห้องก็ตาแทบลุกเป็นไฟ ใครจะไปรู้ว่าในห้องประชุมนี้มีแต่คชาเอฟซีทั้งนั้น เต๋าเริ่มจะรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนกำลังโดนใครซักคนสาปแช่ง เขาที่ตอนแรกรู้สึกสนุกตอนนี้เลยรู้สึกเครียดขึ้นมานิดๆแล้ว
แต่ก็อย่างว่า ได้ยั่วคนทั้งห้องสนุกจะตาย
เพราะอย่างนั้นอย่าหวังเลยว่าเขาจะยอมปล่อยมือ!
ขอสารภาพ...ความจริงเขาหวงคชาจะตายอยู่แล้ว!!
เลิกจ้องคชาเหมือนจะจับกินเข้าไปทั้งตัวแบบนั้นซักทีเหอะ!
ก่อนที่เขาจะจัดหนักกว่านี้!!
และจนแล้วจนรอด เขาก็ไม่ได้ฟังเลยแม้แต่นิดว่าคชาพูดเรื่องอะไรไปบ้าง มาได้สติฟังอีกทีก็ตอนที่แพรวาพูดสรุปให้แล้วนั่นแหละ
“สรุปว่างานกีฬาครั้งนี้จัดทั้งหมดสามวันนะคะ จะเป็นแข่งกีฬาสองวันแรก วันที่สองจะเป็นแข่งรอบชิงชนะเลิศทุกรายการ ส่วนวันสุดท้ายวันที่สามก็จะเป็นการประกวดพาเหรดและวงโยธวาทิตตอนเช้า แข่งเชียร์และผู้นำเชียร์ตอนบ่าย ประมาณสี่ห้าโมงเย็นแข่งวงดนตรี ประกาศรางวัลและพิธีปิดตอนหนึ่งทุ่มตรงค่ะ และหลังจากนั้นก็จะเป็นการฉลองของโรงเรียนเราไปจนถึงเที่ยงคืน”
เท่าที่ฟังมา เต๋าว่าคชาเก่งไม่น้อยที่จัดการพูดจนทุกคนยอมรับได้ แพรวาที่พูดสรุปจบก็หันไปมองรอบห้องพลางถามว่าใครมีอะไรสงสัยหรือไม่
เป็นพี่เจมส์ที่ยกมือขึ้นถาม
“ที่ว่าแข่งแบบสองในสาม แสดงว่าถ้าพี่เสมอก็ต้องแข่งกับทีมอื่นไปเรื่อยๆจนได้ชนะสองครั้งใช่มั้ย”
“ถูกค่ะ แค่พี่แข่งไปเรื่อยๆ จนชนะสองครั้งเมื่อไหร่ก็ถือว่าได้เข้ารอบชิง บาสก็ใช้กติกาเดียวกันนะ” แพรวาพูดตอบพลางหันไปสบตากับแฟนหนุ่มอย่างเฟรมอีกครั้งก่อนจะมองคนถามคนต่อไป
“วงโยเอายังไงดี?” เต้ถามขึ้นมา เพราะเขาควบทั้งตำแหน่งเลขาหมายเลขสองของคชาและหัวหน้าชมรมโยธวาทิต
“เอ่อ อันนี้คงต้องถามพี่คชา พี่คชา เอาไงดีคะ”
“เดี๋ยวประกาศหาคนเพิ่ม เอาให้มันครบสามสิบคนไม่ต้องเยอะไปกว่านี้ วางล้อคเครื่องดนตรีไว้ให้พร้อม เดี๋ยวผมไปช่วยจัดเรื่องแปรขบวน ถ้าเล่นไม่เป็นจะรับมาก็ได้ขอแค่ให้ใจมันรัก เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง” คชาตอบขึ้นมาเรียกเอาสายตาชื่นชมของคนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี ใครๆก็รู้ว่าคชามีความสามารถเรื่องดนตรีเข้าขั้นเทพขนาดไหน ถ้าคชาลงไปจัดการเองขนาดนี้ วงโยธวาทิตก็คงไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้วล่ะ
แพรวายิ้มกว้างให้พี่ชายที่เธอเคารพและไว้วางใจมาโดยตลอด จากนั้นจึงกวาดสายตามองหาคนที่จะถามคนต่อไป
“พาเหรดใช้ธีมเดิมใช่มั้ยคะ” เหวยเหวยยกมือ ส่วนอีกมือที่ว่างก็เตรียมจดรายละเอียดลงในกระดาษบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยรอยปากกา
“ใช่ค่ะ พาเหรดใช้ธีมร้ายกาจเหมือนเดิม อ้อ ฝากจักการชุดของดรัมที่เพิ่มเข้ามากับวงโยธวาทิตด้วยนะคะ เอาให้แรงระเบิดเลยนะคะน้องเหวย พี่เอิง”
“แล้วเพลงอังกอร์ตอนพาเหรดจะให้ทีมเชียร์ร้องเพลงอะไรและขึ้นตอนไหนคะ” ดิวถาม
“อันนี้คงต้องขอให้พี่ดิวกับพี่เอิงไปตกลงกันเองนะคะ มันจะได้ออกมาเข้ากัน ลองหาเวลาซ้อมด้วยกันดูค่ะ” แพรวาตอบ ก่อนจะนึกอีกเรื่องขึ้นได้ “ว่าแต่พี่จอยคะ ผู้นำเชียร์มีครบหรือยัง?”
“อ้อ พี่หามาเพิ่มได้แล้ว อาจจะไม่หล่อไม่สวยเท่าตัวจริงซักเท่าไหร่ แต่รับรองว่าลีลาเด็ดไม่แพ้ใคร” จอยยิ้มกว้างตอบแพรวา และเป็นเหวยเหวยซะเองที่ตบโต๊ะเสียงดังจนหลายคนสะดุ้งตกใจ ไม่เว้นแม้แต่เต๋าที่กำลังนั่งเหม่ออยู่กับคชาบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน
“ทำไงดีคะพี่แพรวา! พี่คชา! เหวยลืมไปสนิทเลยว่าต้องหาดรัมมาเพิ่มตอนเปิดขบวนของวงโยธวาทิตกับตอนปิดขบวนพาเหรดอ่ะ!”
แพรวาชะงัก เธอก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปซะสนิท ส่วนคนที่เป็นดรัมนำขบวนพาเหรดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอ้น รองประธานนักเรียนนั่นแหละ แพรวากวาดตาไล่มองรอบห้อง ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับภาพเต๋ากำลังโอบเอวคชา ส่วนคชาก็เอนตัวพิงเต๋าอย่างสบายอารมณ์
...เห็นแล้วหมั่นไส้
“เอาพี่คชาเปิดขบวนแล้วให้พี่เต๋าปิดขบวนเป็นไง?” แพรวาถามขึ้นมาอย่างนึกสนุก ไม่ได้คิดจริงจังอะไรเลยซักนิด แค่อยากจะแกล้งเจ้าพี่ตัวดีที่สวีทกันได้ตลอดเท่านั้นเอง
“แพรวาอย่าหาเรื่องให้ผม”
คชาที่ตอนแรกกำลังนั่งเหม่อถึงเค้กช็อกโกแลตอยู่สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินแพรวาพูดอย่างนั้น เขารู้ว่าแพรวาก็แค่จะแกล้ง เพราะแพรวาก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ชอบงานที่คนเยอะๆสักเท่าไหร่ ส่วนเต๋าตอนแรกก็กำลังจะโวยวาย แต่เท่าที่เห็น แววตาของแพรวาไม่ได้จริงจัง คงกำลังแกล้งเขากับคชามากกว่า
แต่มันดันผิดพลาด...ตรงที่เหวยเหวยดันคิดจริงซะนี่
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยค่ะ นะคะพี่เต๋าพี่คชา ช่วยน้องเหวยหน่อยนะ มาเป็นดรัมให้พาเหรดของเหวยที”
“แต่...” คชากำลังจะท้วง แต่เหวยเหวยก็แทรกขึ้นมาก่อน
“นะพี่คชานะ ดรัมเปิดกับปิดขบวนไม่ต้องทำอะไรเลยนะ แค่เดินแกว่งไม้ไปมาเฉยๆ เอง”
“เอ่อ...น้องเหวยครับ วันงานพี่เต๋าต้องถ่ายรูปอ่ะครับ คงมาเดินให้ไม่ได้” เต๋าหาข้อแก้ตัวสุดชีวิต นึกขอบคุณตัวเองที่อยู่ชมรมนักข่าวขึ้นมาตงิดๆ
“ไม่เป็นไรเต๋า ให้คนอื่นถ่ายก็ได้แค่วันเดียวเอง แกไปช่วยน้องเหวยเหอะ” แพรวแทรกขึ้นมา ทำเอาเต๋าแทบจะเขวี้ยงแก้วน้ำบนโต๊ะไปให้
ไม่ช่วยแล้วยังจะหางานให้กูอีก!!
“เอาเป็นว่าพี่เต๋าพี่คชาโอเคนะคะ เดี๋ยววันจันทร์หน้าตอนเย็นมาซ้อมด้วยนะ ขอบคุณค่า ><” เหวยเหวยบอก ก่อนจะหันไปแปะมือกับเอิงที่นั่งเชียร์อยู่ตั้งแต่ต้นอย่างรวดเร็ว
แต่ดีใจกันไม่ทันไร เหวยเหวยก็ต้องยอมแล้วไปหาดรัมคนใหม่ทันที เพราะดูจากสายตาอำมหิตของคชาแล้ว หากเธอยังไม่อยากแข็งตายในตอนนี้ เธอก็ควรที่จะไปหาคนใหม่จะดีกว่า
“มีใครมีคำถามอะไรอีกไหม” คชาถามขึ้นมาเสียงเย็น เรียกให้คนเกือบทั้งห้องสะดุ้งส่ายหน้ากันเป็นแถบๆ
“งั้นปิดประชุม วันนี้วันพฤหัส เดี๋ยวเรื่องประกาศรับสมัครอะไรต่างๆทางผมจะเป็นคนจัดการเอง ให้พวกคุณเอารายละเอียดและจำนวนคนที่ต้องการมาให้แพรวา แล้วตอนนี้อะไรที่เริ่มแก้หรือจัดการได้ก็ให้เริ่มทำเลย เดี๋ยวผมจะบอกอาจารย์ให้เปิดตึกเรียนไว้ในตลอดทั้งคืน หากใครอยากจะอยู่ซ้อมอยู่ปรึกษาอะไรก็แล้วแต่พวกคุณ การเรียนการสอนภายในอาทิตย์หน้ายกเลิกทุกวิชา ให้พวกคุณเตรียมพร้อมงานกีฬาให้ออกมาดีที่สุด ขาดเหลืออะไรมาบอกผม ต้องการอะไรอย่าเพิ่งโวยวาย”
ทั้งห้องเงียบกริบฟังคชาอย่างตั้งใจ ในขณะที่เต๋ากำลังอึ้งอยู่กับลุคใหม่แบบสดๆร้อนๆของคชา
“ส่วนฝ่ายอาร์ตพรุ่งนี้ผมจะส่งคนลงไปช่วย วันนี้ก็กลับไปดูแล้วกันว่าต้องการอะไรอีกหรือเปล่า ส่วนการประชุมวันนี้จบแค่นี้ครับ ขอบคุณมาก หวังว่าอาทิตย์หน้าจะออกมาดี”
ปิดท้ายด้วยสายตาเรียบๆแต่สามารถฆ่าคนทั้งห้องได้แล้วก็หันหลังเดินออกไป จากนั้นทั้งห้องจึงถอนหายใจออกมาพร้อมกันแล้วมองคาดโทษแพรวาทันที
เต๋าเดินตามคชาออกมาจากห้องประชุม คนตัวสูงมองแพรวาอย่างคาดโทษ ส่วนเด็กสาวก็ได้แต่หัวเราะแหะๆมาตลอดทาง
“หนูขอโทษนะพี่เต๋า หนูแค่จะแกล้งเล่นเฉยๆอ่ะ”
“เหมือนตอนที่แกล้งไปสมัครประธานนักเรียนให้คชาเลยว่ะ ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าจะแกล้งเล่นๆเหมือนกัน แต่ดันได้เป็นขึ้นมาซะงั้นอ่ะ ดีนะที่ตอนนั้นมันไม่ได้ส่งสายตาอำมหิตมาแบบเมื่อกี้ ไม่งั้นกูตาย ฮ่าๆๆๆ” อ้นที่เดินมาด้วยกันหัวเราะร่าเมื่อคิดไปถึงตอนประกาศผลประธานนักเรียน ตอนนั้นพอได้ยินชื่อคชาเขาก็แทบทรุด ทำอะไรไม่ถูกเหมือนตัวเองได้แทนอย่างงั้นแหละ!
“...ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่ไปตามคชาก่อนแล้วกัน” เต๋าบอกปัด ก่อนจะขอตัวออกไปหาคชาและเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน
ฝ่ายแพรวาและอ้นเมื่อเห็นเต๋าเดินออกไปตามคชาก็เริ่มตั้งวงนินทา (-_-;)
“คชาเต๋าตัวติดกันนะช่วงนี้ รู้จักกันยังไม่ถึงอาทิตย์เลย”
“แพรก็ว่าอย่างงั้น ใครติดใครก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตัวติดกันมาก”
“คชายอมให้เต๋าเข้าใกล้เกินไปนะพี่ว่า”
“เออใช่ ตอนแพรเข้าไปตามพี่คชาที่ห้อง แพรเห็นพี่เต๋ากำลังนอนตักพี่คชาอยู่ด้วย”
“...พี่ว่ามีซัมติงรองชัวร์”
“สืบกันป่ะพี่? เป็นดีเทคถีบกันเอาเปล่า?”
“กู๊ดติ้งกิ้งแพรวา กี๊บมีไฟท์!!”
(มึงจะอังกฤษทับศัพท์กันไปเพื่ออะไร -_-;)
หึหึหึ ปฏิบัติการสืบเรื่องเต๋าคชาเริ่มแล้ว ณ จุดนี้!!!
………
และแน่นอน คิดรึไงว่าจะมีแต่คนฝั่งคชาที่เริ่มระแคะระคาย คนฝั่งเต๋าเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเหมือนกัน
“ต้องทำให้ไอ้เต๋ามันชัดเจน” ต้นพูด
“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอวะ โอบเอวกันซะกลางห้องประชุมเนี่ย” แพรวถาม เพราะเธอคิดว่าแค่นี้ก็ชัดซะจนไม่รู้จะชัดยังไงแล้ว
“กูหมายถึงให้มันชัดเจนกับคชา ไม่ใช่ให้มาชัดเจนให้พวกกูดู” ต้นอธิบาย ก่อนจะโปรยยิ้มชั่วร้าย
“พี่ต้น หลินรู้แล้วว่าต้องทำยัง”
“ใช่ต้น เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่พี่แอ้นกับน้องหลินเอง ต้นไปคิดวิธีทำให้น้องคชาชัดเจนมาเหอะ”
“พี่แอ้นไม่รู้อะไร เห็นอย่างนั้นต้นว่าเป็นคชาซะอีกที่จะชัดเจนกว่าไอ้เต๋าอ่ะ”
คนทั้งชมรมมองหน้าสบตากันเองอย่างชั่วร้าย หึ ไอ้เต๋าก็ไอ้เต๋าเหอะ เจอแผนนี้เข้าไปได้หึงจนตบะแตกแน่มึง!
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
“ฮัดชิ้ววว!”
“ฮัดชิ้วววว!!”
(แข่งกันจามเพิ่มตัว ว.แหวนรึไงวะ -___-)
เต๋าคชาจามขึ้นมาพร้อมกัน ตอนนี้ทั้งคู่เดินออกมานอกโรงเรียนแล้ว วันนี้คชาตัดสินใจไม่กินเค้กเพราะต้องรีบกลับไปแกะคอร์ดเพลง อ้อ ได้บอกรึยังว่าวงดนตรีที่ว่าเนี่ย ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...
เต๋า คชา เฟรม พร้อมต้นกับรองประธานนักเรียนอย่างอ้นมาเป็นนักร้อง
เอากันง่ายๆ นี่แหละ คนที่มีความสามารถเรื่องดนตรีมันมีน้อย จะฟอร์มวงกันทีก็ลำบากจะตายไป ตอนแรกคชาก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่เต๋าเล่นเบสได้ ส่วนเฟรมนั้นคชารู้อยู่แล้วว่าเก่งกีตาร์ ต้นกับอ้นก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าร้องเพลงเพราะ เพราะงั้นก็เลยจับมารวมวงกันซะเลย!
แต่ที่โคตรแปลกใจก็คงจะไม่ใช่ใคร...
เต๋าโคตรแปลกใจเมื่อรู้ว่าคชาแม่งตีกลอง!!!
ก็เห็นตัวเล็กๆ น่ารักๆ แบบนี้ใครจะไปคิดล่ะว่าจะตีกลองเป็น ลุคแบบคชามันเหมาะกับเปียโนไม่ก็อุคุเลเล่มากกว่านะเขาว่า ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าคชาจะตีกลอง นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับตัวคชานะเนี่ย!
ให้ตายสิ!! มีแต่เรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่เรื่อยเลย!
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
(เสียงดังเพื่ออะไร -_-)
กลับมาแล้วฮะ มันกลับมาแล้ววววววว
เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีการบ้าน งานที่โรงเรียนก็ไม่เยอะ เลยหายไปนานหน่อยฮะ
(อ้าวเหตุผลมึง =____=)
ความจริงแอบไปซุ่มปั่นอีกเรื่องมาหรอกกกก #อิ_____อิ
จะลงต่อจากเรื่องนี้แหละฮะ ถ้าเรื่องนี้จบนะ 55555555
ขอบคุณมากฮะที่เข้ามาอ่านมาเม้นกัน ดีใจสุดๆ ตอนนี้โรงเรียนหยุด3วัน เดี๋ยวจะรีบปั่นรีบลงนะฮะ :)
(ตอนนี้ยาวที่สุดเลยนะฮะOrz)
#ความจริงที่หายไปนานเพราะช้อคกับทรงผมคชาอยู่-_____________________-;
(มันคิดอะไรอยู่วะ)
@TUNAMANASARA
22/09/2012
17.56 @USA
edit : 19.51
ความคิดเห็น