ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF - TAOKACHA] 'ALL IS YOU'

    ลำดับตอนที่ #12 : SF - SWEET CREAM [2]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 55













    # PART 2 # 

     

     

    วันนี้ผมตื่นเช้ามากครับ....

    เมื่อวานนั่งคิดอยู่ตั้งนานว่าจะถามอะไรประธานดี ต้องเป็นคำถามที่เด็ดๆ โดนใจวัยรุ่น ไม่งั้นก็จะเป็นเหมือนบทสัมภาษณ์สนทนาทั่วๆไปที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แล้วชมรมก็จะถูกยุบเพราะไม่มีผลงานเด่นๆส่งอาจารย์

     

    เท่าที่ผมคิดมาก็มี...

    เพื่อนสนิท?

    สไตล์การใช้ชีวิต?

    เครื่องรางนำโชค?

             

    และที่ขาดไม่ได้...

     

    ความรักครั้งแรก?

     

                ไม่รู้เหมือนกันว่าคำถามจะน่าเบื่อมั้ย (กูขอตอบ น่าเบื่อมากกกกก!!) แต่ผมกะจะถามให้เยอะๆไว้ก่อน แล้วค่อยไปเลือกคำตอบโดนๆมาลง ผมว่าเดี๋ยวตอนที่ถามอยู่ คำถามก็คงผุดขึ้นมาเองล่ะ

    ผมมาถึงที่โรงเรียนเช้าพอสมควร นักเรียนเลยยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เห็นแต่นักกีฬาโรงเรียนที่ช่วงนี้ฟิตซ้อมเพราะใกล้แข่งกีฬาพี่น้องสาธิตเชื่อมสัมพันธ์ อาจารย์บางท่านที่นั่งเขียนกระดาษยุกยิกๆแต่เช้า ลุงภารโรงที่กวาดใบไม้ในโรงเรียน ป้าที่คอยทำความสะอาด และนักเรียนอีกบ้างประปราย

    บรรยากาศตอนเช้าของโรงเรียนดีมากๆ ลมพัดเย็นสบาย แสงแดดอ่อนๆ กับภาพต้นไม้ปลิวกายไปกับสายลมมันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ วันนี้ผมกะจะมาบอกประธานเรื่องสัมภาษณ์ตอนเช้า และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วันนี้ผมจะมาหาเขาทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น แล้วงานของผมก็จะสำเร็จเสร็จลุล่วงภายในวันเดียว ฮ่าๆๆๆ

    ผมเอากระเป๋าเข้ามาวางในห้อง เห็นเพื่อนอยู่สามคน หลับซะสองในสาม ส่วนอีกคนกำลังนั่งทำงานของเมื่อวานอยู่

     

    “ไง” ผมทักไป เพื่อนที่นั่งทำงานเงยหน้ามองผม พยักหน้าให้นิดๆแล้วทักตอบ

    “หวัดดี วันนี้มาเช้านะ” เขาชื่อเพน เป็นเพื่อนที่ผมมักจะคุยด้วยในเรื่องฟุตบอลบ่อยๆ เพราะเรารักแมนยูเหมือนกัน บางทีถ้าเวลามีแข่งเราก็จะดูไปด้วยเชียร์ไปด้วยทางเอ็มเอสเอ็นก็เคย

    “มีธุระนิดหน่อยน่ะ แล้วนั่นทำงานอะไรอยู่เหรอ?” ผมถาม เพราะเพนเป็นคนเรียนเก่งพอสมควร เขาไม่น่ามีงานค้างขนาดต้องมานั่งปั่นเอาตอนเช้า

    “พอดีชีทเก่ากูหาย เลยต้องถ่ายเอกสารมานั่งทำใหม่ โคตรเซ็ง”

    “เหรอ โชคดีนะ อย่าลืมปลุกอีกสองคนล่ะ เดี๋ยวจะนอนยาว”

    “เออๆ ...เต๋า ออร่ารอบกายมึงบ่งบอกว่าวันนี้มึงกำลังจะโชคดี”

    “อะไรของมึงเพน กูไปดีกว่า =_=

     

    ผมพูดแค่นั้นแล้วขอตัวออกมา จะได้ไม่รบกวนสมาธิพวกเขา ผมเดินมาเรื่อยๆ ในมือถือสมุดที่จดคำถามเอาไว้ เดินคิดไปเรื่อยๆว่าจะถามอะไรอีกดี ละลาบละล้วงเกินไปก็ไม่ดี แต่ถ้าเป็นคำถามพื้นๆก็ไม่ได้เหมือนกัน เฮ้อ...

     

    “นี่ เต๋า...?”

     

    ผมหยุด หันหลังไปตามเสียงเรียก รู้สึกคุ้นหูกับน้ำเสียงนุ่มๆแบบนี้อย่างบอกไม่ถูก

     

    “ประธาน?”

     

    ผมเรียกเขากลับอย่างงงๆ แต่หัวใจกลับพองโต มันเป็นความรู้สึกเหมือนคนที่เราอยากให้เขาสนใจจำชื่อเราได้ แอบดีใจหน่อยๆแฮะ

     

    “ไม่ได้ชื่อประธานซักหน่อย”

     

    เขาทำหน้ามุ่ยนิดนึง ก่อนจะเดินเข้ามายืนข้างๆผม ระดับสายตาของเขาน่าจะอยู่ที่ไหล่ผม เพราะงั้นผมจึงสรุปไปแล้วว่าผมสูงกว่าเขา...มากทีเดียว - -

    ผมยิ้มน้อยๆให้เขาแล้วเดินนำไปนั่งตรงม้าหินข้างใต้ต้นไม้ เขาเอียงคอนิดๆก่อนจะเดินตามมานั่งด้วย

    เราเงียบกันสักพักก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูด

     

    “ผมต้องสัมภาษณ์คุณนะ”

     

    ...หวังว่าเขาจะไม่ได้รำคาญหรือคิดว่านี่เป็นการจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่องเถอะ

     

    “รู้แล้วล่ะ” เขาตอบ

     

    .....รู้แล้ว? รู้ได้ยังไงล่ะ?

    แล้ว ...เขาโอเคใช่มั้ย...?

     

                “เมื่อเช้าภูร์เพิ่งบอกผมตอนที่เขาเข้ามารายงานเรื่องงบประมาณ” เขาคิดนิดๆก่อนจะพูดต่อ “ภูร์บอกว่าคนจากชมรมหนังสือพิมพ์ที่ชื่อเศรษฐพงศ์มาขอสัมภาษณ์ แต่เมื่อวานผมไม่อยู่เลยกลับไปก่อน ผมรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูดีเลยลองเปิดหาจากรายชื่อนักเรียนดู...”

     

    “...แล้วปรากฏว่า นั่นก็คือคุณ”

     

    ....แบบนี้ ผมคงต้องส่งจดหมายไปขอบคุณไอ้หมีภูร์สินะ

     

    “แล้ว...คุณโอเคใช่มั้ย?”

     

     

    “ก็ถ้าไม่โอเค จะมาพูดเรื่องนี้ทำไม?”

     

     

    ……

     

    โอเค...กูเชื่อมึงแล้วเพน

     

     

    ……

     

    วันนี้ผมโคตรโชคดี J

     

     

     


     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     








     

    “พักกลางวันคุณว่างมั้ย?”

    “ปกติผมไม่กินข้าวกลางวันหรอก อาศัยฝากเพื่อนซื้อแซนวิสมาให้ที่ห้องประธานนักเรียน”

    “ประธานนี่ตามตัวง่ายดีเนอะ ไม่ห้องเรียนก็ห้องประธาน งั้นเดี๋ยวตอนพักกลางวันผมมาหาแล้วกันนะ”

    “อื้อ”

     

    นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้วันนี้ผมเรียนช่วงเช้าไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าที่ควร ผมนั่งคิดมาตลอดทั้งคาบเรียนว่าตอนไปหาประธานจะคุยอะไรกันดี ซึ่งตัวผมรู้เกี่ยวกับเขาแค่ว่าเขาชอบกินเค้กและของหวานจำพวกครีมทุกชนิด เลยไม่รู้จะหาหัวข้ออะไรมาคุยดี

    อ้อ สรุปแล้วผมก็ไม่ได้ให้เค้กเค้านะครับ ก็เมื่อวานเล่นเจอกันจะๆซะขนาดนั้น ผมว่าอย่าให้เลยคงจะดีกว่า

    แต่ผมว่าบรรยากาศระหว่างเราคงไม่เลวร้ายอะไรนักหรอกครับ ถึงต่างคนจะต่างเงียบหรือคิดเรื่องอะไรต่างๆอยู่ในหัว บรรยากาศเมื่อเช้านี้สำหรับผมมันสบายใจ เรานั่งด้วยกันจนออดดังบอกเวลาเข้าแถว ระหว่างนั้นเราอยู่ด้วยกันถึงสามสิบนาที แต่หัวข้อของบทสนทนาของเรามีแค่

     

    “ก็ถ้าไม่โอเค จะมาพูดเรื่องนี้ทำไม?”

    กับ...

    “งั้นเดี๋ยวตอนพักกลางวันผมมาหาแล้วกันนะ”

     

    แต่ผมกลับไม่รู้สึกอึดอัดหรือกระอักกระอ่วน ดูประธานก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร เรานั่งด้วยกัน มีบ้างบางทีที่บังเอิญสบตากัน แล้วตอนนั้นผมก็จะได้เห็นรอยยิ้มน้อยๆของประธาน

     

    ...ผมอาจจะรู้สึกไปเอง แต่เราค่อนข้างมีเคมีเข้ากันระดับหนึ่งทีเดียว

     

    ตอนพักกลางวันผมเดินออกมาจากห้องเรียน ลังเลใจอยู่ว่าจะชวนประธานไปกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารหรือซื้อแซนวิสไปกินกับเขาดี แต่ว่ายังไงนี่ก็เป็นมื้อแรก ผมควรจะกินตามเขาดีกว่า เพราะงั้นผมเลยเดินตรงไปซื้อแซนวิสที่ร้าน ของผมอันของเขาอัน

    อืม...ผมเอาไส้อะไรดีนะ...

     

              เวรกรรม! ประธานชอบกินแซนวิสไส้อะไรวะ!

     

    เอาอีกแล้ว เหมือนตอนซื้อเค้กเลย ทำไมผมถึงไม่รอบคอบเลยนะ!

     

    อือออ

    เอาไส้ไก่น้ำสลัดไปละกัน น่าจะอร่อย

    เอ๊ะ ไส้แฮมไข่ดาวก็น่าจะโอเค

    แต่แยมสตรอเบอร์รี่ก็น่ากินแฮะ

               

    กรรม!! เอามันไปหมดนี่ล่ะ!

     

    “พี่ครับ อย่างละอัน”

     

    พี่คนขายฟังแล้วอึ้งเลยทีเดียวครับ แต่แกก็โกยแซนวิสให้ผมไส้ละอัน ใส่ถุงเรียบร้อย

    “อ่ะน้อง มีทั้งหมดหกไส้ ร้อยยี่สิบบาทครับ พี่แถมนมให้สองขวด เอารสไรดี?”

     

    เอิ่ม...ประธานชอบกินรสไรล่ะนี่ -_-

     

    “ช็อคโกแลตกับสตอเบอร์รี่แล้วกันพี่ ขอบคุณมากครับ นี่เงินฮะ” ผมยิ้มให้พี่คนขายนิดนึงก่อนจะเดินเลี้ยวขึ้นบันไดตรงไปชั้นสาม ชั้นที่มีห้องประจำของประธานอยู่

     

    ผมเคาะประตูสองสามที นับในใจสามวินาทีแล้วเปิดเข้าไปข้างใน

    นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเข้ามาในห้องนี้ มันเป็นเพียงห้องเล็กๆที่ไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะทำงานอยู่กลางห้อง  กองเอกสารและหนังสือร้องขอต่างๆวางเรียงไว้บนนั้น ด้านซ้ายมีตู้เก็บเอกสาร ในตู้เรียงแฟ้มไว้เป็นสีๆและตามตัวอักษร มีตู้เย็นตัวเล็กๆวางอยู่แถวนั้นกับกระติกน้ำร้อน มีโต๊ะเล็กๆอีกตัวอยู่ข้างๆกัน บนโต๊ะเป็นอุปกรณ์ชงชากาแฟ และสุดท้าย มีโซฟาที่นั่งได้ซักสามคนวางอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงาน

    ประธานที่กำลังนั่งเขียนอะไรซักอย่างบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองผม เขาทำหน้าแปลกใจนิดๆ ก่อนจะเอ่ยถาม

    “มาเร็วจัง ไม่กินข้าวก่อนเหรอ?”

    ผมยิ้มพร้อมชูถุงแซนวิสให้เขาดู แล้วขวักมือเรียกเขามานั่งที่โซฟา

    “ผมซื้อมาเผื่อคุณด้วย มากินกัน”

    ประธานที่กำลังจัดกองเอกสารเงยหน้าขวับขึ้นมามองผมทันที ถึงจะไม่ได้แสดงออกทางหน้าตาว่าหิวหรืออยากกิน แต่ดวงตาของเขานี่เป็นประกายมาเชียว

     

    ...ดูออกง่ายเหมือนเดิมเลย

     

    “เอ้า ใจเย็นๆครับ ไม่หมดหรอก ฮะๆๆ”

    ผมขำเขาเบาๆ เพราะเขารีบมากเลยสะดุดปลั๊กไฟนิดหน่อย ประธานหันมาค้อนผมแวบหนึ่งแล้วค่อยๆเดินมานั่งข้างผม

    “กินไส้อะไรดีครับ?”

    “อืม...”

    “...”

     

                “...เลือกให้หน่อย”

     

    “เอ๊ะ?” ผมงงไปแวบหนึ่ง แต่ก็ตั้งสติตอบประธานได้ทัน “ไส้ไก่น้ำสลัดสิ ผมว่าน่าจะอร่อยดี”

     

    เขาเอียงคอคิดนิดนึงแล้วจึงพยักหน้า

     

    “โอเค ไก่น้ำสลัดก็น่าอร่อย ขอบคุณนะฮะ”

     

    ผมพยักหน้าตอบเขา พลางหยิบนมรสสตอเบอร์รี่ออกมาแล้วยื่นไปให้ ประธานรับไปแล้วหันมาขอบคุณอีกครั้ง ผมยิ้มตอบให้เขา

     

    และเป็นอีกครั้ง...

     

    ที่ผมได้เห็นรอยยิ้มสวยๆของประธาน

     

    .....

     

    วันนี้ผมนี่โชคดีจริงๆ J

     




     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     







     

    เรากินแซนวิสกันเรียบร้อย ประธานกินไก่น้ำสลัดกับแฮมไข่ดาว ที่เหลืออีกสามชิ้นเลยตกเป็นของผมไป ระหว่างกินผมได้รู้เพิ่มอีกอย่าง...

     

                คือประธานกินเด็กน้อยมากกกกกกก

     

    เวลากินก็จะแก้มยุ้ยๆ เคี้ยวตุ้ยๆ พอกินเจอรสถูกใจทีไรก็จะอมยิ้มน้อยๆ กินไปอมยิ้มไป น่ารักมาก! ถึงแม้ดูภายนอกเขาอาจจะดูเป็นเด็กมัธยมห้าที่หน้าเด็กไปหน่อย แต่พอมาเจอท่าประกอบการกินน่ารักๆแล้วก็ยิ่งดูเด็กเข้าไปใหญ่ ให้ตาย ผมน่าจะพกกล้องมาถ่ายภาพเขาไปด้วย!

     

    “จะมาสัมภาษณ์อะไรผมเหรอ?” พอกินเสร็จ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาถาม

    “ยังคิดหัวข้อไม่ได้เลยครับเนี่ย” ผมสารภาพไปตามตรง “ต้องหาหัวข้อที่น่าสนใจ แล้วก็เป็นเรื่องที่คุณสะดวกใจจะตอบ แต่ตอนนี้ผมยังคิดอะไรไม่ออกเลย”

    “อืม...งั้นตอนนี้มีคำถามอะไรบ้างอ่ะ คุณถามวันละข้อสองข้อก็ได้นะ แต่...มันมีงานอะไรเหรอ อยู่ดีๆถึงได้มาสัมภาษณ์ผมอ่ะ?”

     

                ...งานอะไรล่ะ หวิดจะโดนเขายุบชมรมทิ้งอยู่เนี่ย TT

     

    “ชมรมของผมผลงานมันเริ่มจะน้อยลงเรื่อยๆแล้วน่ะครับ เราก็เลยคุยกันว่าจะทำหนังสือคล้ายๆกับแมคกาซีนขึ้นมา ข้างในที่กำหนดไว้คร่าวๆก็จะมีสัมภาษณ์คนที่เคยเป็นตำนานโรงเรียนบ้าง คนดังๆของโรงเรียนบ้าง รู้สึกจะกำหนดส่วนของประธานเอาไว้สี่หน้า ส่งต้นฉบับอีกสองเดือนครับ”

     

    .....สี่หน้า!!!!!

     

    พูดเองแล้วก็แอบตกใจเองเบาๆครับ ตั้งสี่หน้าผมจะลงอะไรดีล่ะเนี่ย แต่อย่างน้อยก็ต้องมีรูปเต็มซักหนึ่งหน้า รูปกิจกรรมอีกหนึ่งหน้า ให้พูดเกี่ยวกับตัวเองอีกซักหนึ่งหน้า แล้วที่เหลืออีกหนึ่งหน้าก็ต้องเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องคิดคำถามเพื่อที่จะเอามาสัมภาษณ์!

     

    หนึ่งหน้า!!!

    กูต้องคิดคำถามตั้งหนึ่งหน้า!!!! (เยอะเหลือเกิน --)

     

             

    .....ลาตาย T_T

     

    “ของผมตั้งสี่หน้าเชียวเรอะ! บ้าแล้ววว”

    ประธานเริ่มโวยวาย ณ จุดนี้เองผมก็อยากจะโวยวายเหมือนกัน แต่ถ้าทำแบบนั้นชมรมผมคงโดนยุบแน่ ไหนๆปีนี้ก็ม.ห้าแล้ว ถ้าขึ้นม.หกก็คงไม่ค่อยได้มาเรียนเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมเอนท์ ยังไงตอนนี้ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดล่ะ

     

    “เอ่อ...งั้นวันละข้อสองข้ออย่างที่ประธานบอกก็แล้วกันนะ”

    “...เอางั้นก็ได้ฮะ”

     

    “งั้น...เอิ่ม...อาหารที่ชอบ?”

    ขนมเค้กทุกรส”

    ...ว่าแล้วเชียว

     

    “เครื่องดื่มล่ะ?”

    “ชาเขียวปั่นแก้วใหญ่ๆ”

    ...วันนั้นก็เห็นสั่งนี่นะ

     

    “อาหารที่ไม่ชอบ?”

    “ผมแพ้หัวหอม”

    ...อ๊ะ แต่ผมชอบนะ

     

    “อะไรที่ชอบที่สุดในชีวิตครับ?”

    เค้ก

              ...ถ้าจะจงรักภักดีต่อเค้กขนาดนี้

     

    เอิ่ม...กูหมดมุกนึกไม่ออกแล้วครับ เอาไว้แค่นี้ละกัน เดี๋ยวเย็นนี้กลับไปคิด แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาหาใหม่

    “ประธานอยู่ทำไรต่ออ่ะ?”

    “เคลียร์งานฮะ”

    “อยู่ด้วยคนได้มั้ยอ่ะ ห้องเงียบดี”

    “เอาสิ”

     

    แล้วประธานก็ไปนั่งก้มหน้าเขียนโน่นเซ็นนี่ลงบนเอกสารที่โต๊ะทำงานต่อ ส่วนผมก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา เสียบหูฟังเปิดเพลงเอาไว้ ตอนแรกกะจะนั่งมองประธานไปเรื่อยๆจนออดดัง แต่ผมทนง่วงไม่ไหวล่ะ ขอหลับซักงีบแล้วกันนะครับ

    “นี่ประธาน ออดดังแล้วปลุกผมทีนะ”

    ประธานเงยหน้าขึ้นมามอง เขาพยักหน้าให้ผม เป็นอันว่าเขาเข้าใจแล้ว ผมจะได้หลับให้สบายโดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดนอนเพลินจนเลยเวลาเรียน

     

     

    “ฝันดีตอนกลางวันนะฮะ”

     

    เขาบอกฝันดีผม...ให้ตายสิ

                       

    ผมว่า...

     

    บางที

    ตอนนี้...

     

    ...ผมคงจะนอนยิ้มอยู่ล่ะมั้ง

     

    ......

     

    ผมเชื่อแล้ว ว่าวันนี้ผมโชคดีมากจริงๆ J

     

     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------

     

     

    “เต๋า!!

    ผมสะดุ้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง อย่างแรกที่เห็นคือใบหน้าน่ารักๆของประธานกำลังขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ

    ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู เฮ้ย! นี่เวลามันเลยวิชาแรกของคาบบ่ายมาตั้งสี่สิบนาทีแล้วนี่หว่า เหลืออีกสิบนาทีก็จะเริ่มวิชาที่สองของคาบบ่ายแล้ว ทำไมประธานเพิ่งจะปลุกผมตอนนี้อ่ะ!

    ผมหันไปมองประธาน มือชี้นาฬิกา ส่งสายตาคำถามสุดๆไปให้

     

    “ไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ผมปลุกคุณตั้งแต่เที่ยงห้าสิบแล้ว!

    “แต่ผมไม่ตื่น คุณก็เลยปล่อยให้ผมโดดคาบบ่ายว่างั้น?”

     

    ผมประชด เพิ่งรู้ว่าประธานเป็นคนแบบนี้นะเนี่ย!

     

    “อย่ามาทำหน้าหงุดหงิดใส่นะ” แหน่ะ! มีสั่งด้วย! “ตอนบ่ายเพื่อนคุณโทรมาบอกว่าวิชานั้นไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ป่วย ไม่มีใครมาสอนแทน ผมเลยไม่ได้ปลุกต่อ แต่นี่กำลังจะเริ่มวิชาถัดไปแล้ว ผมถึงได้มาปลุกอยู่นี่ไง!

     

                ....ซวยแล้วไงกู

     

    ผมมองหน้าประธาน เมื่อกี้ดีนะที่ผมไม่ได้ตวาดออกไป ไม่งั้นได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

     

    ...เพราะแค่นี้

    ...ผมก็ทำเขาก็หน้าบึ้งซะแล้ว :(

     

    “เอ่อ ประธาน ผมขอโทษนะ” ผมเอามือเขย่าแขนประธานเบาๆ พร้อมกับทำหน้าตาน่าสงสาร ตอนนี้เขากำลังเอามือล้วงกระเป๋าไว้ทั้งสองข้าง หันหน้าบึ้งๆไปอีกทาง ส่วนผมก็นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมพลางพูดขอโทษเขาไปเรื่อยๆ

     

    “ประธานนนน ผมขอโทษน้า”

    ปฏิกิริยาตอบรับ : หน้าบึ้ง ไม่ยอมหันหน้ามาคุยเหมือนเดิม TT

     

    “ประธานคร้าบบบ เต๋าขอโทษษษษ” ผมเริ่มอ้อนนิดๆ

    ปฏิกิริยาตอบรับ : หน้ายังคงบึ้งอยู่ แต่ก้มหน้าลงมามองผมล่ะ

     

    “คชาาาาา~ เต๋าขอโทษจริงๆครับ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงเค้กนะ หายโกรธนะ”

    ปฏิกิริยาตอบรับ : อมยิ้มนิดๆ ยอมสบตา ที่สำคัญ พยักหน้าตกลง!!

     

     

    “พูดแล้วนะ เลี้ยงด้วย : ) ~

     

    ประธานยิ้ม ทำหน้าทำตาร่าเริงเกินเหตุเพื่อเยาะเย้ยผมที่ดันไปตกหลุมพรางง้อเขาด้วยการเอาขนมเค้กมาล่อ ผมก็เพิ่งจะรู้เนี่ยแหละว่าประธานไม่ได้เงียบๆ ซื่อๆ เป็นคนดีอย่างที่คนอื่นบอกเอาไว้นี่หว่า แบบนี้มัน ร้ายเงียบ  ชัดๆ!

     

    ฮึ่ม! เจ้าเล่ห์นักนะ!

     

    แต่เอาเหอะครับ ผมก็นิสัยไม่ดีจริงๆแหละที่ไปกล่าวหาเขาแบบนั้น ผมก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างเขาไม่ทำอย่างนั้นหรอก แถมยังไปทำหน้าหงุดหงิดใส่เขาอีก เขาไม่งับหัวผมขาดก็ดีแค่ไหนแล้ว

     

    “ว่าแต่เพื่อนคนไหนโทรมาเหรอ?”

    ผมดึงให้เขาลงมานั่งบนโซฟาด้วยกัน ถ้าจำไม่ผิดนี่เป็นคาบว่าง ส่วนต่อไปเป็นชมรม

     

    “ไม่ไปเรียนรึไง”

    เขามองหน้าผม สายตาส่งมาประมาณว่าเมื่อกี้โมโหที่ไม่ได้ไปเรียน แต่ตอนนี้ดันมาชวนคุยทั้งที่จะเริ่มวิชาต่อไปแล้วซะงั้น

     

    “ต่อไปเป็นคาบว่าง ต่อด้วยชมรม”

    “อ้อ”

    “ว่าแต่เพื่อนคนไหนโทรมาอ่ะ”

    “ขึ้นหน้าจอว่า ต้น เขาบอกว่าคาบต่อไปอาจารย์ไม่มา”

    “แล้วมันรู้ป่ะว่าประธานเป็นคนรับ?”

    “ไม่น่าจะรู้อ่ะ เพราะผมไม่ได้พูดอะไรซักคำ เขาโทรมาพูดๆๆ แล้วก็วางไปเลย”

     

    นิสัยไอ้ต้นมันและครับ โทรมาพูดอย่างเดียวแล้ววาง -_-

     

    “เออ ประธาน ขอเบอร์หน่อยดิ”

    “หือ”

    “เผื่อมีอะไรไง”

    “อ่อ ครับๆ เอาเบอร์เต๋ามา เดี๋ยวผมโทรไป”

     

    เขาล้วงหยิบไอโฟนสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้ผมมากดเบอร์ ผมกดแล้วโทรออก รอแปบนึงไอโฟนของผมก็ดังขึ้น ผมหยิบมากดตัดสายแล้วเมมเบอร์

     

    “เบอร์เลขสวยอ่ะ” เขาพูดขึ้นมา ผมยิ้มกว้างตอบเขาไป

    “แน่นอนสิ” พอได้ยิน เขาก็เบ้ปากแบบหมั่นไส้นิดๆส่งมาให้ เอิ่ม...

     

                            ...น่ารักว่ะเฮ้ย!!!!

     

    โอ๊ยให้ตายเถอะ!! ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กอ่ะ อยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เห็นอะไรน่ารักๆมากขึ้น ผมอยากจะไปตะโกนบอกทุกคนมากว่าประธานไม่ได้ไร้อารมณ์นะเว้ย แต่เขาน่ารักสุดๆไปเลยต่างหาก!

     

    “ประธานมีเรียนต่อป่ะ”

    “ไม่มี ตอนนี้เป็นคาบว่างต่อด้วยชมรมเหมือนคุณอ่ะแหละ”

    “แล้วไปไหนป่ะ”

    “ไม่อ่ะ เครียดกะงานกีฬาสัมพันธ์อยู่”

    “หือ ทำไมเหรอ”

    “เขามาของบประมาณเพิ่ม แต่ผมให้ไม่ได้แล้ว ไม่งั้นโรงเรียนจะเข้าเนื้อ”

    “งั้นก็ไม่ต้องให้ ประธานบอกไปเลย มีเท่าไหนก็ใช้เท่านั้นแหละ!

    “อืม...นั่นสินะ”

     

    เขาก้มหน้าคิดๆแล้วก็เงยมามองผมที่กำลังมองเขาอยู่

     

    “เลี้ยงเค้กเย็นนี้นะ”

     

    ทำหน้าจริงจังตอนพูด เหมือนกลัวผมจะผิดสัญญา ผมยิ้มให้แล้วก็พยักหน้า เขายิ้มตอบนิดๆก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ผมลุกตามไปลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเขา แล้วก็ปฏิบัติการ...

     

     

    ...จ้องหน้า

     

     

    เขาน่ารักจริงๆนะ! ยิ่งสังเกตยิ่งมองก็ยิ่งเห็นว่าน่ารัก ให้ตายสิ...!

    “อ้าว เอากระดาษปิดหน้าทำไมครับนั่น”

    “เอ๊ะ?”

    “หืม ปิดหน้าทำไมอ่ะ”

    “ก...ก็เต๋าจ้องอ่ะ!

     

    เขาเอากระดาษที่ปิดหน้าออก หลับตาปี๋โวยวายผม แก้มแดงนิดๆด้วย...

     

    โอ๊ยยยยย!!! น่ารักโว้ยยยยยย!!!

               

    “อะไร...เขินอ่ะเด้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

    “อย่าหัวเราะนะ!

    “หน้าแดงใหญ่แล้วคร้าบบบบบ~ ฮ่าๆๆๆๆ”

    “เต๋า หยุดหัวเราะนะ!

     

    ผมนั่งจ้องให้เขาเขินเล่นอีกสักพักแล้วก็เลิกแกล้ง ไถลเก้าอี้ไปที่ตู้เย็นแทน ผมเปิดดู มีแต่น้ำเปล่าวุ้ย

    “ประธานน่าจะหาอย่างอื่นมาติดตู้เย็นไว้บ้างนะ มีแต่น้ำเปล่า”

    “ไม่ได้ชื่อประธานซักหน่อย”

    ผมหันไปมอง เห็นเขากำลังเบ้ปากมองผมอยู่เหมือนกัน เอ้อ ก็ผมติดปากอ่ะ อีกอย่างผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร จะใช้คุณก็แปลกๆอ่ะ มึงก็ไม่ได้ เลยเรียกแต่ประธานๆๆ

    “เอ่อ แล้วจะเรียกว่าอะไรดีอ่ะ”

    “คชา ผมชื่อคชา

    นั่นไง ว่าแล้วว่าเขาต้องอยากให้เรียกชื่อมากกว่า เพราะเรียกแต่ประธานๆ เป็นผมผมก็ไม่ค่อยชอบอ่ะ แต่ผมติดอยู่อย่างอ่ะดิ...

    “คชา ถ้าจะให้เรียกอย่างงี้ เวลาแทนตัวเองเต๋าจะติดแทนตัวว่าเต๋าอ่ะ มันชินแล้ว”

    “หือ? หมายความว่าไงอ่ะ?”

    ผมจัดการสไลด์ตัวเองพร้อมเก้าอี้กลับมานั่งจ้องเขาเหมือนเดิม

     

    “ก็...อย่างวันนี้เดี๋ยวคชารอเต๋าไปคุยกะชมรมแปปนึงนะ แล้วเดี๋ยวเต๋าค่อยพาไปเลี้ยงเค้ก แบบเนี้ย”

     

    “อ๋อ ปกติแทนตัวแบบนี้กับใครเหรอ?”

    “ที่บ้าน เวลาพูดก็แทนชื่อตัวเองอ่ะ”

     

    “เอาสิ งั้นเดี๋ยวคชาแทนตัวด้วยชื่อมั่ง :)

     

    พูดแบบนั้นแล้วก็ยิ้ม...  

                                 ...น่ารัก!

     

    “โอเค แล้วแต่คชาละกัน”

    “โอเค แล้วแต่คชาเนอะ”

     

    ...เริ่มกวนล่ะ -_-!

     

    “งั้นเต๋าไปชมรมล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นมาหาที่นี่นะ”

    “เจอกันหน้าอาคารเลยเถอะ เพราะเดี๋ยวคชาก็จะไปชี้แจงเรื่องงบประมาณแล้ว”

    “โอเคครับ เดี๋ยวเจอกันนะ :)

     

    “อื้อ เดี๋ยวเจอกัน :)

     

    คชาโบกมือบ๊ายบายแล้วยิ้มตอบผม วันนี้เขายิ้มให้ผมกี่ครั้งแล้วนะ...

     

     

    .....

     

    ผมรู้แค่ว่า วันนี้ผมโชคดีมากๆเลยครับ J

     

     

     

    -----------------------------> TAOKACHA <----------------------------







     


    เย่!
    มาแล้วจ้าาาาาาา มันโผล่มาแล้ววว 55555555
    ขอบคุณสำหรับเม้นเด้อ เดี๋ยวถึง 300 เมื่อไหร่จัด NC เลยเอาเปล่าาา อิอิ
    ถ้าคนเม้นกล้าเม้น เราคนเขียนก็กล้าจัดอ่ะ แค่ NC โถ่ะ! (แค่เรอะ!?)

    ขอเพ้อหน่อย
    ช่วงนี้คชาน่ารักอ่ะ น่ารักจนเราอยากกลับไทยไปตามมันอ่ะ โอยยยย 5555
    เสียดายเราไม่ได้ไปคอน เห็นบัตรแล้วเซ็ง ฮืออออ

    อ่อ มีนักอ่านฟอลทวิตเรามาถามเรื่องการสอบชิงทุนไปต่างประเทศด้วย
    ถามเรื่องนี้ก็ได้นะฮะ เผื่อใครอยากไป ปรึกษาได้ๆ อยากระบาย 5555

    อเมริกาไม่มีที่ฉีดก้นและซอสมะเขือเทศในร้านพิซซ่า สองอย่างนี้พอไม่มีแม่งโคตรทรมาน T_T
    เหมือนจะตลกนะ แต่มันขำปนน้ำตาอ่ะะ ฮือออออออ

    พอล่ะๆ เดี๋ยวตอนหน้ามานะฮะ เม้นเยอะๆเราจะได้รีบลง อิอิ

    ทวิตๆ @TUNAMANASARA















    27/08/2012

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×