คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : SF - SWEET CREAM [1]
# PART 1 #
“เต๋า งานนี้มีแต่มึงเท่านั้นที่ทำได้! กูคาดหวังในตัวมึงโคตรๆ! เพราะฉะนั้นพยายามเข้านะไอ้เพื่อนรัก!!”
“งืมๆ...หืม?...หา?”
เสียงของผู้เป็นประธานชมรมหนังสือพิมพ์นามว่าแพรวดังทะลุโซนประสาทเข้ามาหลังจากผมแอบหลับไปตลอดการประชุม โอ้ไม่!! เมื่อกี้แม่งให้อะไรผมมาทำนะ? แถมคาดหวังซะดิบดีอีกตะหาก ให้ตายเหอะซาร่า!!! ผมไม่ได้ฟังที่พี่แกพูดเลยซักกะติ๊ด แล้วกูจะทำอะไรให้คุณมึงได้ล่ะคร้าบ
“อ่า กูจะพยายามครับ”
ตอบไปงั้นแหละ! ก็จะให้กูพยายามอะไรฟะ!! ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาให้ทำอะไร แล้วจะให้กูพยายามอะไรฟร้า!!!
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
ผมเดินออกมาจากห้องประชุม ประชุมอะไรน่ะเหรอ?
ครับ ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน อันตัวกระผมนั้นมีนามว่า ‘เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ’ หลายคนอาจสงสัยว่าเป็นชื่อที่มีที่มามาจากอะไร สารภาพตามตรง กูก็ไม่รู้ครับ (-_-) เอาเป็นว่าผมเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีครับ ตาของผมมีสีดำเข้ม ผมสีน้ำตาลโทนออกดำๆ ผิวขาวโอโม่ยิ่งกว่าแฟ็บ ส่วนหุ่นผมก็ไม่ได้ล้ำบึ๊กหรือเหี่ยวแห้งจนเกินไป มันเป็นหุ่นของนายแบบแหละ...
กร๊ากกกกก ชมตัวเองอยู่ได้ตั้งนานท่าจะบ้าแล้วแฮะกู (-_-)
ผมอยู่ชมรมหนังสือพิมพ์ที่ตอนนี้ชักจะเหมือนบ้านร้างเข้าไปทุกที แล้วที่เป็นอย่างนั้นน่ะนะก็เพราะไอ้ชมรมนักข่าวที่กระจายข่าวออกทางทีวีของโรงเรียน สมาชิกในชมรมผมก็บ้ากล้องหนีไปอยู่ชมรมนักข่าวกันซะเกือบหมดชมรม ตอนนี้ที่เหลืออยู่ก็มีแต่สมาชิกเก่าแก่อย่างผม , ไอ้ต้นเพื่อนสุดที่รัก , พี่แอ้นที่เรียนเก่งมากๆจนไอน์สไตล์ต้องยกนิ้ว , น้องหลินที่เสียงดังและขี้โวยวายเป็นที่สุด และสุดท้ายก็ไอ้ประธานชมรมสุดงี่เง่าทอมแพรว
ทั้งหมดก็เหลือเพียงแค่ 5 คนเนี่ยแหละ
“เฮ้!! ต้น!!!”
“เต๋าเรอะ มีอะไรวะ”
ผมตะโกนเรียกต้น (เพื่อน) สุดที่เลิฟของผม เมื่อเห็นหมอนั่นเดินออกมาจากห้องประชุม พอผมทัก ไอ้ต้นก็หันมาถามผมหน้าโหดปานจะไปฆ่าใครหลังจากที่หันมามอง ไปหงุดหงิดใครมาฟะ
“ไอ้ที่ประชุมเมื่อกี้อ่ะ เหี้ยแพรวแม่งให้กูทำอะไรเหรอ??”
ผมเอียงคอถาม ทำหน้าตาแอ๊บแบ๊วสุดชีวิตเพราะตอนนี้ไอ้ต้นมันกำลังอารมณ์ไม่ดี กลัวมันจะระเบิด…
...ตูม!!!!
“ไอ้เวร ว่าแล้วว่าต้องมาถาม นอนได้นอนดีทุกเวลา ความรู้สึกรับผิดชอบน่ะมีมั๊ย? อย่าให้กูต้องด่าเยอะ!”
“กูขอโทษครับ ก็แม่งเมื่อคืนกูไม่ได้นอนเลยอ่ะ มึงต้องเห็นใจกูบ้าง”
“เมื่อคืนมึงทำอะไร”
“...ฮาร์ฟไลท์”
“ไอ้สัด!! ไปไกลๆตีนกู!!!!!!”
“โต้นนนนนนน~ มึงอย่าทอดทิ้งกูน้าาาา~”
“ไอ้เชี่ยนี่ กูเกลียดมึง!!” ต้นบอกก่อนจะฮึดฮัดบ้าบออยู่คนเดียว
“ต้น TT…..”
“เออ! งานที่ไอ้หัวหน้าชมรมงี่เง่านั่นมอบหมายให้มึงทำน่ะคือการเรียกเรตติ้งของชมรมงี่เง่านี่ด้วยการส่งมึงไป ‘สัมภาษณ์ประธานนักเรียน’ ยังไงเล่า!!” ต้นพูดพลางนิ่วหน้าอย่างโมโหไอ้แพรวหัวหน้าชมรม “ส่วนของกูน่ะคือไปสัมภาษณ์พวกรุ่นพี่ดังๆของโรงเรียน...”
ต้นยังคงพูดต่อ แต่มันไม่ได้เข้าหูผมแล้วล่ะ เพราะผมกำลังจะเป็นลมกับคำว่าประธานนักเรียนของโรงเรียนอยู่รอมร่อ ให้ตายเถอะแจ๊คสัน!! อะไรมันจะซวยงี้ฟะ!!?
ประธานนักเรียนของโรงเรียนผมก็เหมือนกับประธานนักเรียนของโรงเรียนทั่วไปนั่นแหละครับ แต่แค่ว่ามันอาจจะแปลกๆก็ตรงที่ว่าประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้...
....แม่งพูดไม่เป็น!
ไม่ใช่วามันเป็นใบ้นะครับ แค่มันประหยัดคำพูดไปหน่อยเท่านั้นเอง...
คือที่พูดๆ มานี่ก็ใช่ว่าจะเคยได้ไปคุยอะไรกับเจ้าตัวเขาหรอกนะครับ ผมก็ฟังๆ เค้ามาอีกทีนั่นแหละ ผมเคยเห็นหน้าประธานเขาบ้างก็จริง แต่ก็ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยอะไรกันมากเป็นพิเศษ ผมรู้แค่ว่าเขาชื่อคชา
แต่ประธานนักเรียนอย่างหล่อนะขอบอก (ยืดอกภูมิใจ)<---(เกี่ยวอะไรกะมึง)
“ไอ้สัดเต๋า!!”
...ผั๊วะ!!
เสียงของต้นมาพร้อมกับฝ่ามือของมันที่โบกมาเต็มที่อย่างแรงลงบนหัวของผม เจ็บนะโว้ยยยยย!!!
แม่งมีการแยกเขี้ยวขู่ด้วยครับ ไอ้เหี้ยนี่ไปโมโหใครมาวะ
“บอกให้กูอธิบายแต่มึงเสือกเมินกูเรอะ!? เดี๋ยวนี้ชักจะมากนะมึง!!”
“มึงจะหงุดหงิดอะไรนักหนาวะะ?? กะอีแค่ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ ไม่แน่บางทีพอรู้จักกันแล้วมึงอาจจะมีเส้นสายเป็นรุ่นพี่ม.6 ก็ได้นะเว้ย”
ผมถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ นี่ถ้าเป็นผมคงกระโดดโลดเต้นไปล่ะ มีแบ็คเป็นรุ่นพี่กูคงน้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจเหอะ
“เต๋า!! มึงก็รู้ว่ากูไม่กินเส้นกับไอ้เหี้ยพี่เจมส์!!”
“มึงก็อุตส่าห์ใส่พี่ให้เขาเนอะ แต่ใส่แบบนี้มึงอย่าเลย เรียกชื่อห้วนๆไปเลยเหอะ”
เรื่องของไอ้เหี้ยต้นแม่งก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ว่าไอ้พี่เจมส์อะไรของมันเตะบอลมาโดนไงครับ ซึ่งตอนนั้นไอ้ต้นก็แบกเอกสารรายงานของแม่งมาพะลุงพะลัง แล้ววันนั้นฝนเพิ่งหยุดตก จากสถานการณ์คร่าวๆที่ผมเล่ามาคงพอจะเดากันได้เนอะ?
ครับ...
เอกสารเชี่ยต้นกลายเป็นแผ่นกระดาษไร้ค่าไปทันทีครับ
และต้นมันก็คงไม่เกรียนแตกขนาดชกหน้าพี่เขาไปจนดั้งแทบยุบถ้าไม่เพราะไอ้เศษกระดาษไร้ค่าที่ว่านั่นคือรายงานครับ รายงานเดี่ยว ใช้มือเขียน 250 หน้าขึ้นไป ส่งวันนั้นพอดิบพอดี
ณ จุดนั้นคือกูโคตรสงสารไอ้ต้นเลยครับ แม่งต่อยพี่เขาเสร็จแล้วก็แทบจะร้องไห้ แต่ดีว่าอาจารย์แกยังใจดี เลื่อนเดดไลน์ให้ ไม่งั้นวันนั้นกูคงเห็นไอ้ต้นร้องไห้ชัวร์ๆ
ส่วนพี่เจมส์ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรครับ ผมว่าพี่เขารู้สึกผิดด้วยซ้ำ แถมเวลาเจอหน้าไอ้ต้นพี่เขาก็ไม่ได้อะไร ปฏิกิริยาออกไปทางบวกด้วย ผมว่าเพื่อนผมเนี่ยแหละที่แม่งโง่เสือกคิดไปเอง (- -)
อ่ะ กลับมาเรื่องของผมก่อนที่เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องของไอ้ต้นไปโดยสมบูรณ์ครับ เอาเป็นว่าไปสัมภาษณ์ประธานนักเรียนกดดันยิ่งกว่าทำข้อสอบระดับประเทศอีกครับ และผมก็คงไม่เซ็งยิ่งขึ้นเมื่อพบว่า...
“วันนี้ประธานไม่อยู่นะ ไปประชุมสาขากับโรงเรียนอื่นในเครือ พรุ่งนี้ถึงจะมาโรงเรียน”
ครับ พอผมไปหน้าห้องประธานเพื่อขอพบ ก็พบว่าประธานแม่งไม่อยู่ครับ ออกไปประชุมสาขา กูล่ะเซ็ง มาประชุมอะไรวันที่กูมีธุระวะ?
เพราะงั้น ถือโอกาสละกันนะ...
“ภูร์” ผมเรียกเพื่อนที่ทำงานเป็นหัวหน้าการคลังของโรงเรียนไว้ “ประธานเป็นคนยังไงวะ?” ผมถามทันที ภูร์ทำหน้างงๆใส่ผม ประมาณว่ามึงจะถามไปทำไมอะไรทำนองนั้น
“คือกูต้องมาสัมภาษณ์ประธานอ่ะ แต่กูไม่เคยคุยกับเขาเลยไง ก็เลยอยากรู้คร่าวๆว่ามันเป็นคนยังไง แล้วมึงก็น่าจะเคยได้คุยกับประธานบ้าง กูก็เลยลองถามดู”
“อ้อ” ภูร์ทำหน้าถึงบางอ้อ ก่อนจะเงยหน้าคิดๆสักพักแล้วก็ยิ้มมาให้ผม
“อะไร มึงยิ้มทำไม มีอะไรให้มึงอารมณ์ดีห๊ะ”
“เปล่าๆ กูก็ไม่ได้รู้จักเขามากหรอก เคยคุยกันก็จริงแต่ก็มีแต่เรื่องงบประมาณโรงเรียน คุยเล่นไร้สาระอ่ะไม่เคยหรอก” ภูร์ตอบผม ก่อนจะทำสีหน้าจริงจังจนผมอดทำตามไม่ได้
“แต่กูรู้อยู่อย่าง...” มันทำเสียงเบา แถมตอนสุดท้ายยังลากเสียงยาวด้วย เฮ้ย กูลุ้นนะเฮ้ย
“ประธานไม่ชอบคนพูดคำหยาบ”
กูอึ้ง คือจะบอกว่ามันผู้ลากมากดีว่างั้น เด็กผู้ชาย ม.5 กับคำหยาบก็เหมือนของคู่กัน พอแยกกันแล้วมันไม่ใช่นะเออ
“ถ้ามึงอยากรู้ให้ลึกกว่านี้มึงต้องไปถามรองประธาน หมอนั่นน่าจะคุยกับประธานรู้เรื่องมากที่สุด”
“แล้วรองแม่งอยู่ไหนอ่ะ?”
“ไปประชุมสาขา”
“...ขอบคุณนะสัด”
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เป็นไรๆ”
ผมมองค้อนไอ้หมีภูร์(?)ทันทีที่มันหัวเราะร่าใส่หน้าผม ไอ้เหี้ยนี่แม่งกวนตีน มันก็รู้ๆอยู่ว่าที่ผมมาถามมันก็เพราะวันนี้ประธานไม่อยู่ และพรุ่งนี้ผมก็เตรียมจะไปสัมภาษณ์เลยมาเก็บข้อมูล ไอ้นี่ยังเสือกกวนตีนอีก
“กูไปถามคนอื่นก็ได้ ไม่คุยกะมึงและ สัดหมีอ้วนภูร์!”
.......
.....
...
..
“ไอ้เหี้ยเต๋า! กูไม่ใช่หมีพูห์!!”
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
ได้มาเยอะเลยครับ หลังจากที่ผมตามถามคนในสภานักเรียนที่เคยคุยกับประธานมาบ้าง ได้ผลสรุปแบบนี้ครับ
“ประธานพูดน้อยมากๆๆๆๆๆๆ แบบถามคำตอบคำเลย”
“ประธานเป็นคนสุภาพมาก คุยกะกูอ่ะแทนตัวเองผม คุณ ตลอด”
“รู้สึกว่าประธานจะชอบของหวานนะ ตอนนั้นที่ไปประชุมมีของว่างเป็นเค้ก ประธานขอเพิ่มตั้งสี่ชิ้นแหนะ”
“บางมุมก็เหมือนเด็กนะ อาทิตย์ที่แล้วกูซื้อเค้กมาฝากก็จ้องซะตาวาว”
“เออ ใช่ๆ ยิ่งพอมึงบอกว่า ’ให้ครับ’ นะ สายตาแม่งโคตรน่ารักอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“ถึงหน้าจะไม่ยิ้ม ปากจะไม่พูด แต่ตานี่แสดงออกทุกเรื่องเหอะ ยังกะเด็ก ฮ่าๆๆๆ”
“แต่เวลาวีนน่ากลัวนะมึง”
“อ้อ กูจำได้ ที่ประธานแม่งต่อยรุ่นพี่สลบใช่มะ”
“ใช่ ตอนนั้นแม่งไม่พูด หน้าไม่แสดงอารมณ์ แต่หมัดอย่างหนักเหอะ”
...
และอีกมากมายครับ
เอาเป็นว่า พรุ่งนี้ผมจะซื้อเค้กมาเซ่นไหว้ จะพยายามไม่พูดคำหยาบ และสุดท้ายจะไม่ยั่วโมโหประธานเด็ดขาด!
สาบาน!! ไม่ว่าจะด้วยเกียติของอะไรก็เถอะ!
-----------------------------> TAOKACHA <----------------------------
ห้าโมงเย็นกว่าๆ
ผมแวะร้านเค้ก...
ตอนแรกกะจะซื้อตอนพรุ่งนี้เช้า แต่พอลองถามเจ้าของดันบอกว่าเปิดสิบโมง เลยต้องซื้อตอนนี้แล้วแช่ตู้เย็นเอา หวังว่าประธานคงกินเค้กแช่ตู้เย็นได้นะ (-_-)
แล้ว...
กูจะซื้อเค้กรสอะไรดี - -
เวรกรรม กูเดินเข้ามาในร้านเค้กแต่ไม่รู้จะซื้อเค้กรสอะไร ทำไมกูไร้สมองขนาดนี้วะ? รู้งี้น่าจะถามไปด้วยว่าประธานชอบรสอะไร โธ่...
กรุ๊งกริ๊ง
เสียงประตูร้านดังขึ้น ผมที่กำลังก้มๆเงยๆหาเค้กที่น่าจะอร่อยเลยหันไปมอง และพบว่าโลกนี่มันช่างกลมและแคบขัดกับทฤษฎีของตาแก่นักวิทยาศาสตร์หัวฟูนั่นซะเหลือเกิน คนที่เข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ คนที่ผมกำลังเลือกเค้กให้อยู่นี่ล่ะ!
ประธานไงล่ะ!!
ประธานเดินตรงมายังเคาท์เตอร์เค้กข้างๆผม นั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเคาท์เตอร์ แล้วเอ่ยสั่งเค้ก
“เหมือนเดิมฮะ แต่วันนี้เอาวนิลากลับบ้านชิ้นนึงนะ”
ผมได้ยินเสียงประธานแล้ว ให้ตาย ผมว่าเขาน่าจะไปร้องเพลงได้เลยนะเนี่ย เสียงเพราะซะขนาดนี้ แต่ว่าผมที่กะจะแอบฟังว่าเขาสั่งเค้กอะไรก็ดันรู้แค่ว่าเขาจะเอาเค้กรสวนิลากลับบ้านซะงั้น เพราะเขาดันสั่งแบบรู้กันแค่สองคนกับพนักงานว่า “เหมือนเดิม”
“หือ? กินเยอะเดี๋ยวก็อ้วนหรอก” เจ้าของร้านทักประธานตอนกำลังเอาเค้กใส่จานให้ เจ้าของร้านเป็นชายอายุน่าจะประมาณยี่สิบสอง หน้าตาดูดีอยู่ แต่ที่ร้านนี้คนเยอะไม่ใช่เพราะหน้าตาเจ้าของร้านหรอกนะ แต่เป็นเพราะร้านนี้ทำอะไรก็อร่อย ผมยังชอบชานมปั่นของที่นี่เลย
“วันนี้เครียด คนอื่นพูดเอาแต่ได้” ประธานพูดตอบเจ้าของร้าน ผมชะงักนิดนึงตอนที่ได้ยินเสียงตอบกลับของเขา ผมนึกว่าเขาจะนั่งเงียบเมินเจ้าของร้านเสียอีก
ผมแอบเงยหน้าขึ้นมองประธาน หน้าเขาตอนนี้กำลังแสดงออกว่าเซ็งสุดๆ
เดี๋ยว! เขาต้องไร้อารมณ์เซ่!!
“ฮะๆๆ ทำไมนายชอบคิดมากในเรื่องของคนอื่นนะ” เจ้าของร้านเอียงคอมองประธานนิดนึงก่อนที่จะยื่นจานที่มีเค้กใบเตยกับเค้กฟักทองอย่างละชิ้น พร้อมกับชาเขียวปั่นแก้วบิ๊กไซส์ให้พลางพูดต่อ
“นายลองเอาแต่ได้บ้างสิ บางทีอาจจะสบายใจขึ้นบ้างก็ได้นะ”
พูดอะไรน่ะ!!!
ผม(แอบ)มองเจ้าของร้านอย่างไม่เชื่อสายตา เฮ้ย นายควรจะบอกให้เขาปล่อยวาง อย่าเครียดมากไม่ใช่รึไง ไหงดันไปเสี้ยมเขาแบบนั้นเล่า!
“คุณบ้าเหรอไงหา?”
ประธานสวนกลับทันที หน้าเขาดูเอือมเจ้าของร้านมาก ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะร่า
“แหม ก็ฉันไม่รู้จะปลอบยังไงนี่นา”
“คุณแค่ทำเค้กมาให้ผมก็พอ”
“คชาใจร้ายจัง ฉันอุตส่าห์ปลอบทั้งทีนะ”
“...ผมว่าคุณไปเอาสตรอเบอร์รี่เค้กครีมมาให้ผมอีกชิ้นเถอะ”
“กินมากเดี๋ยวอ้วนจริงๆ นะ”
“ถ้าผมจะอ้วน ก็คงอ้วนตั้งแต่คุณเปิดร้านแล้วล่ะ”
“ก็จริง คชามากินเกือบทุกวันเลยเนอะ อะ สตรอเบอร์รี่เค้กครีม”
“ขอบคุณฮะ”
ผมฟังพวกเขาพูดไปเรื่อยๆ ได้มาเห็นแบบนี้แล้วไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นคนพูดน้อย อิมเมทประธานนักเรียนอย่างที่ทุกคนบอก
แต่สรุปแล้ว ผมก็ยังไม่ได้เค้กอยู่ดีสิน่า!
ผมเลยตัดสินใจสั่งบัตเตอร์คาลาเมลมาเพราะเห็นมันน่ากินที่สุด และตอนนั้นเองที่...
“บัตเตอร์คาลาเมลหนึ่งชิ้นกลับบ้านครับ” ...ผม
“บัตเตอร์คาลาเมลมาให้ผมอีกชิ้นทีฮะ” …ประธาน
“...”
“....”
กรรมเวร ผมกับประธานเราดันสั่งเค้กรสเดียวกันซะงั้น และเนื่องจากเสียงเกิดขึ้นไม่ไกลตัว ผมกับเขาเลยหันมองหน้ากัน ผมปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเราดันสบตากัน เลยได้แต่ยิ้มให้เขาไป ส่วนประธานก็เอียงคอมองผมด้วยแววตาแปลกใจ แต่เมื่อเห็นผมยิ้มให้ เขาก็...
...ยิ้มตอบ!!!!!!!!!!!!!
ถึงจะแปปเดียวแต่เขาก็ยิ้มตอบมาจริงๆ ซะด้วย!!
ผมแอบน้ำตาไหลอยู่ในใจ ปลื้มชะมัดเลยให้ตายสิ ต้องขอบคุณบัตเตอร์คาลาเมลจริงๆที่ทำให้ผมได้เห็นประธานยิ้ม!
“เอ่อ...” เจ้าของร้านเรียก ประธานและผมเลยเงยหน้าไปมองเขาที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์ด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“คือว่า...บัตเตอร์คาลาเมลเหลือชิ้นเดียวเองอ่ะ...”
เขาหันมองหน้าผมทีหน้าประธานที ผมเลยชี้ไปที่ประธาน
“ให้ประ...เอ่อ คนนี้ก็ได้ครับ ผมขอใบเตยแทนแล้วกัน”
เจ้าของร้านเลิกคิ้วมองหน้าผมอย่างจะถามให้แน่ใจ ผมเลยพยักหน้าอีกที ถึงยังไงเค้กนี่ผมก็ตั้งใจที่จะซื้อไปเซ่นประธานอยู่แล้ว ให้เขาเลยจะเป็นไรไป
“ไม่เป็นไร ผมกินแครอทก็ได้”
แต่เสียงประธานดันแทรกขึ้นมาก่อน เขาเงยหน้ามองผม เพราะเขานั่งส่วนผมยืน แต่ถึงปากจะพูดว่าแครอทก็ได้ แต่สายตาเขาดันส่งประกายออกมาประมาณว่า ‘จงมอบบัตเตอร์คาลาเมลมาให้ข้าซะดีๆ’ อะไรทำนองนั้น นั่นทำให้ผมอมยิ้มเล็กๆให้เขาก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรเหมือนกัน คุณกินบัตเตอร์คาลาเมลไปเถอะ”
ผมยิ้มให้เขาอีกครั้งเมื่อเห็นเขาทำสายตาลำบากใจมาให้
อย่างที่เขาบอกกันมา…
‘ถึงหน้าจะไม่ยิ้ม ปากจะไม่พูด แต่ตานี่แสดงออกทุกเรื่อง’
...อ่านง่ายสุดๆ!!
ประธานทำสีหน้าลังเล แต่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดดีใจหน่อยๆ
“คุณอยู่โรงเรียนเดียวกับผม...แต่ผมขอโทษด้วย ผมรู้แค่ว่าคุณอยู่ชั้นปีเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าคุณชื่ออะไร”
...แค่รู้ว่าอยู่ชั้นเดียวกันก็ซึ้งแล้ว!
“ไม่เป็นไร กุ...เอ่อ ผมชื่อเต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ”
“คุณไม่ต้องบอกทุกอย่างก็ได้ ประชดผมรึไงกัน?”
“อ้าว เปล่านะ ก็แค่เผื่อไว้ว่าผมอาจได้คะแนนเพิ่มจากประธานเพราะยอมเสียสละเค้กให้นี่นา”
“ก็เลยบอกชื่อ-นามสกุลมาเหรอ คุณคิดว่าจะได้รึไง”
“ไม่หรอก แค่เผื่อเท่านั้นเอง”
ผมยิ้มร่าให้ประธาน ถ้าส่องกระจกคงเห็นว่ารอยยิ้มผมกวนตีนขนาดไหน
...เฮ้ย เดี๋ยวเด้! งี้กูไม่กลายเป็นไอ้กวนตีนในสายตาประธานเรอะ!!
ผมต้องสร้างภาพนะเฮ้ย!
ต้องเป็นคนดีนะ!
ถ้าประธานไม่ยอมให้ผมสัมภาษณ์จะทำยังไง!
“บอกห้องคุณมาด้วยสิ” เมื่อได้ยินคำถาม ผมนิ่งไปเสี้ยววินาที แล้วน้ำตาก็แทบไหลพราก กูโดนประธานประชด กูกลายเป็นกุ๊ยกวนตีนในสายตาประธานไปแล้ว ฮือๆๆๆ
“นี่ ห้องคุณน่ะ” ผมสลด แต่ก็ยอมบอกไปแต่โดยดี
“ม.5 ห้อง 2-B ภาคอินเตอร์วิทย์-คณิต เลขที่ 4 นั่งริมหน้าต่างแถวสุดท้าย อาคาร 493-2 ครับ”
“นี่คุณจงใจประชดผมใช่มั้ย”
เปล่านะ T_T !!!
ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“เอ้า บัตเตอร์คาลาเมลได้แล้ว สรุปว่าเป็นของคชาใช่มั้ย?”
เจ้าของร้านออกมาขัดจังหวะ เขามองไปที่ประธานอย่างถามว่าใช่หรือไม่
คุณออกมาถูกจังหวะมาก! ขอบคุณครับ!
ผมแทบจะกระโดดกอดเจ้าของร้าน แต่ติดตรงที่ว่ามีเคาน์เตอร์ขวางอยู่เลยทำไม่ได้
“แล้วก็นี่ใบเตยของคุณ 59 บาทครับ” ผมยื่นเงินให้เจ้าของร้านหนึ่งร้อยบาท เขาบอกว่ารอสักครู่แล้วเดินเข้าไปหลังร้าน
ผมที่รอตังค์ทอนอย่างไม่มีอะไรจะทำเลยยืนดูประธานกินฆ่าเวลา แต่เห็นแล้วก็อดทีจะแซวเขาไม่ได้
“บัตเตอร์คาลาเมลอร่อยมั้ยครับ?”
“ที่สุด”
ประธานตอบผม แต่ก็ต้องชะงักเงยหน้ามามอง เขามองผมสลับกับเค้กในจานก่อนจะทำสีหน้าลำบากใจ แต่ซักพักก็คลี่ยิ้มออกมานิดๆ
“อ้าปาก”
.....
........หา??
“อ้า...”
“เอ่อ อะไรอ่ะครับ”
“อ้า…!”
“อ่ะ โอเคๆ อ้า...???”
งับ...
ประธานตักบัตเตอร์คาลาเมลในจานป้อนผม!
พอป้อนเสร็จก็เอาช้อนไปงับ เอียงคอส่งสายตาถามประมาณว่าเท่านี้พอหรือเปล่า
บอกได้คำเดียว...
....น่ารัก!!!!
“อ่ะ ขอบคุณครับ อร่อยมาก” ผมยิ้มให้เขา แล้วกล่าวขอบคุณ
และเขาก็...
ยิ้มกว้างตอบกลับมา!!!
เน้นว่ายิ้มกว้าง!!!
โอ๊ย! ให้ตายสิ...ผมว่าเขาน่ารักชะมัด!!!!
TBC.
------------------------------------------------------------------
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
(ส่งเสียงดังนำไว้ก่อน 55555)
ในที่สุดก็ได้ลงอีก!!!!
หายไปโคตรนาน!!
เปล่านะ แค่มันยุ่งไปหน่อยเท่านั้นเอง
ตอนนี้อยู่อเมริกา มาแลกเปลี่ยน 1 ปีฮะ (^w^)
ว่างมากเพราะโรงเรียนยังไม่เปิด โฮสต์ทำงาน วันๆอยู่บ้านเล่นเน็ต
เลยมา...ลงฟิคซะเลย 55555555555
ฝากด้วยเน่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นที่ไม่สั้นเลยซักนิด เผลอๆคงซัก 10 ตอน อย่าเพิ่งเบื่อนะ
เดี๋ยวจะลงเร็วๆ ถ้าเม้นเป็นที่พอใจอ่ะนะ #โดนตบ - -
ฝากทวิตๆ @TUNAMANASARA
24/08/2012
ความคิดเห็น