ตอนที่ 200 : หวนคืนสู่สายหมอก!
ในจังหวะเดียวกันที่ถูกแอนดริวหยุดดาบไว้ มาโคโตะได้พลิกตัวหมุนกลางอากาศและเตะเข้าที่ลำคอของแอนดริว ทว่าก็ถูกชายตรงหน้ารับลูกเตะไว้ได้ง่ายดายอีกครั้งโดยไม่ได้หันมามองการโจมตีนั้นเลยแม้แต่น้อย
“โตขึ้นมาหล่อเหลาเหมือนอาคนนี้ไม่มีผิด สงสัยคงมีสาวๆ ห้อมล้อมไม่น้อยใช่ไหม ฮ่าๆๆ” แอนดริวหลบการโจมตีของหลานชายตัวเองและพูดพลางหยอกล้ออารมณ์ดีไม่เปลี่ยนสีหน้า
“...แก” มาโคโตะสบถอย่างขัดใจ เพราะไม่ว่าเขาจะใช้ลูกไม้ไหน ไม่ว่าจะกระหน่ำเข้าไปยังไงก็ดูเหมือนจะถูกอ่านการเคลื่อนไหวไว้หมดแล้ว
“โห... คำก็แก สองคำก็แก ทำไมเหรอ... ภาพวันนั้นมันติดตาและหลอกหลอนจนช็อตไปเลยหรือไง ฮ่าๆ” แอนดริวเบี่ยงคอให้พ้นวิถีดาบที่เพิ่งแทงเข้ามาและตามมาด้วยระลอกต่อไป
วิชานินจา ม่านหมอกมายา ...มาโคโตะผสานมือเรียงนิ้วตามลำดับเรียกใช้วิชานินจา
รอบบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาคล้ายอยู่บนเทือกเขาสูงจนไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างถนัด ซึ่งทางด้านแอนดริวนั้นเห็นในระยะที่ปลายแขนยื่นออกไปข้างหน้าเท่านั้น
“ไม่เอาน่า... วิชาน่ารังเกียจพวกนี้อีกแล้ว รู้สึกเริ่มรำคาญขึ้นมาแล้วสิ!” ชายร่างใหญ่กล่าวด้วยความอารมณ์ดีที่เจือปนความหัวเสีย
พริ้ว พริ้ว! ...ดาวกระจายจำนวนมากถูกปาเข้าใส่แอนดริวจากทุกทิศทาง แต่ลูกไม้นี่ยังคงใช้กับเขาไม่ได้ผล เพราะแค่ขยับตัวไปซ้ายทีขวาทีเพียงไม่กี่เซนก็สามารถหลบพวกมันได้แทบทั้งหมดแล้ว
“ของเล่นเด็กๆ พวกนี้ เอาไปเล่นเองที่บ้านเถอะเจ้าหลานชาย ฮ่าๆๆ” แม้มาโคโตะจะปาแม่นยำเพียงใดก็ไม่อาจสร้างรอยแผลให้แก่ร่างกายอันใหญ่มหึมาของแอนดริวได้เลย
ปัง! …แอนดริวชกกำปั้นทั้งสองเข้าหากันจนเกิดเสียงดังราวกระสุนปืน
พลังแห่งการชกเมื่อครู่แผ่รัศนีออกรอบตัวจนสามารถทำลายขอบเขตแห่งม่านหมอกออกไปได้บ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด
พริ้ว! เคร้ง! เคร้ง! …แต่ทว่าห่าฝนดาวกระจายก็ยังไม่คงหายไป
“ให้ตายสิ... น่ารำคาญชะมัด โอ้ะ! เจอตัวแล้ว” แอนดริวเกาหัวเริ่มมีน้ำโหพลางกระตุ้นพลังวิญญาณจนร่างกายอาบไปด้วยคลื่นพลังสีแดงข้น นัยน์ตาอันเฉียบคมของเขาตวัดไปทางหนึ่งและพุ่งตัวเข้าหาบางสิ่งด้วยความเร็วจนเกิดแสงติดตา
ขนแขนของมาโคโตะลุกตั้งอย่างฉับพลัน เมื่อสบตาเข้ากับแอนดริวความรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องโดยปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น
เคร้ง เคร้ง เคร้ง ผัวะ! …แอนดริวกระดิกนิ้วจากนิ้วชี้ไปยังก้อยเพื่อดีดพวกดาวกระจายที่มาโคโตะปามากลับไปง่ายดายด้วยความแม่นย้ำที่เหนือกว่า ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าของหลานชายตัวเองเต็มแรง
ตู้ม! ...ร่างของมาโคโตะปลิวไปโดนรถคันหนึ่งจนด้านข้างนั้นยุบเข้าไปและเกิดเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้นลามไปทั่วตามขอบเขตความเสียหาย
ถุ้ย! …ชายหนุ่มลุกขึ้นมาพลางถ่มน้ำลายปนเลือดลงพื้นและเช็ดคราบของมันที่ติดแถวปากออก แม้เมื่อกี้จะทันเอาดาบกันไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรุนแรงจากหมัดนั่นลดลงเลย
“อึดเหมือนกันนี่หว่า... ให้มันได้อย่างงี้สิ! ดี! ลูกผู้ชายมันต้องสื่อผ่านกำปั้น ใช่ไหมเจ้าหลานชาย ฮ่าๆๆๆ” แอนดริวหัวเราะชอบใจ
“...”
ชิ้งงง ...มาโคโตะดึงดาบอีกเล่มออกจากดาบที่ถือ
“โอ้โห... เป็นนินจาหรือนักมายากลกันแน่ เจ้าหลานชาย ฮ่าๆๆ” แอนดริวหัวเราะ แต่สายตากลับเยาะเย้ยอย่างหนัก
ดาบนินจาทั้งคู่ในมือของมาโคโตะนั้นช่างดูแปลกตา อันหนึ่งเรียวเล็กดำทึบและแหลมคม ส่วนอีกอันนั้นดูโปร่งใสมีเพียงกรอบที่คมกริบและพลังงานสายหมอกหมุนวนอยู่ในส่วนแกนของดาบ
เพียงแค่มองแวบเดียวแอนดริวก็สามารถรับรู้ได้ถึงความร้ายกาจและสัญญาณอันตรายที่แอบแฝงอยู่ภายในตัวของดาบทั้งสองนั้น
พรึ่บ! …เคร้ง มาโคโตะหายตัวดั่งภูติพรายและเข้าจู่โจมแอนดริวอย่างรวดเร็ว
แม้ชายร่างยักษจะปัดป้องไว้ได้ แต่พละกำลังและความแม่นยำของมาโคโตะนั้นดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมามากจนตัวเขาต้องถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่ตั้งใจ
ครืดดด! สายหมอกไม่รู้ที่มาที่ไปปกคลุมทั่วทั้งโรงจอดรถ
“ลูกเล่นแบบนี้อีกแล้ว พอสักทีเถอะน่า” แอนดริวสะบัดไม้สะบัดมือ เสียงของกระดูกดัวลั่นทั่วทั้งร่างด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย
วิชานินจา ตัดสายหมอก
สายตาของมาโคโตะจ้องไปยังเป้าหมายตรงหน้า ชายหนุ่มใช้ปากคาบคมดาบเล่มหนึ่งไว้และผสานนิ้วอย่างรวดเร็ว วินาทีต่อมาดาบนินจาในมือพลันเรืองแสงสีขาวนวลอันทรงพลัง
พรึ่บ… ตู้มมม!!!
คลื่นพลังสีขาวตัดเสียดคอของแอนดริวไปอย่างหวุดหวิด เคราะห์ร้ายจึงตกเป็นรถยนต์คันหรูข้างหลังเขาแทน
แอนดริวมองสภาพรถยนต์สลับกับใบหน้าของมาโคโตะ ก่อนรอยยิ้มเหี้ยมจะถูกฉีกออกมา “เกือบไปแล้ววุ้ย! เหมือนจะเก่งขึ้นด้วยแหะ” เขาเลียริมฝีปากของตัวเองคล้ายเจอเรื่องสนุก “ขอซัดแบบไม่กั้กเลยแล้วกัน!”
กลิ่นอายพลังอันบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่ากระหายเลือดพัวพุ่งออกจากร่างของชายร่างยักษ์ ออร่าสีแดงที่ห่อหุ้มร่างกายก็ดูเข้มข้นจนทำให้มาโคโตะสะอิดสะเอียนและหายใจลำบากอยู่ไม่น้อย เขาต้องคอยสะกดอารมณ์ที่พรุ่นพร่านอยู่ภายในใจให้สงบนิ่ง
‘อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือการควบคุม แต่จงใช้มันเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้ศัตรูแทน’ คำพูดของผู้เป็นแม่ดังก้องอยู่ภายในหัวและจิตใจเขาเรื่อยมา แม้ตอนแรกนั้นจะไม่เข้าใจเพราะเขายังเด็ก แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจมันขึ้นมาหลายส่วนแล้ว
“รับมือ”
ร่างอันมหึมาของแอนดริวพุ่งเข้าใส่หลานชายของตัวเองอย่างรวดเร็วและรุนแรง มาโคโตะต้องใช้กระบวนท่าตั้งรับพลางถอยไปด้วย
ด้วยพละกำลังที่ต่างกันหลายชั้นทำให้มาโคโตะต้องเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคยังดีที่เขานั้นยังมีความเร็วที่เหนือกว่าขั้นหนึ่ง ทำให้ลดทอนความเสียหายลงไปได้
“เป็นอะไรไป ฝีมือมีแค่นี้งั้นเหรอ อ่อ… เชื้อคงไม่ทิ้งแถวสินะ มีดีแค่ตำแหน่งหน้าตาเหมือนกัน” แอนดริวยั่วยุโดยเท้าความถึงความหลั
“แก…” มาโคโตะกัดฟันแน่ขณะใช้สองแขนรับลูกเตะของแอนดริว
พื้นที่ทั้งโรงจอดรถเละจนไม่เหลือสิ้นดี เศษซากปรักหักพังของอาคารและของรถยนต์ต่างเกลื่อนกลาดทั่วพื้นที่ ฝุ่นควันและกลิ่นเหม็นไหม้ต่างลอยอบอวนเหมือนผ่านสงครามมาหมาดๆ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ก็มันเรื่องจริงนี่หว่า ฮ่าๆๆ” แอนดริวระดมหมัดเข้าใส่
วิชานินจา สิบสังหารระบำสายหมอก
พรึ่บ! …ร่างของมาโคโตะนับสิบห้อมล้อมร่างของแอนดริวก่อนจะพุ่งเข้าหาพร้อมกับฟาดฟันด้วยกระบวนท่าต่างๆ
แต่กระนั้น…
มันก็ไม่อาจทำให้ชายร่างยักษ์ทำสีหน้าหนักใจ กลับกันเขายิ้มร่าเสียอย่างนั้น
“แค่นี้เหรอ แค่นี้นะเหรอ ขยะ! ตระกูลขยะจริงๆ” แอนดริวชกใบหน้าร่างหนึ่งของมาโคโตะจนสลายไป
“…” ไร้การตอบรับของมาโคโตะ
‘เดี๋ยว… บางอย่างผิดปรกติ บางอย่างมันแปลกๆ ไป’ แอนดริวมองไปรอบๆ สัญญาตญาณของเขากำลังร้องสั่นเหมือนเสียงไซเรนของตำรวจ
ฉึก! …ไม่ทันได้คิดอะไรมาก คมดาบที่ไม่เคยฟันผิวหนังของเขาเข้าก็ฟันเข้าที่แขนข้างขวาเป็นแผลยาวเผยเลือดสดๆ ที่ไหลออกมา
“หรือว่า…” ใบหน้าของแอนดริวเริ่มมืดครึ้ม
วิชานินจา สะเก็ดคมหมอก
คมดาบซ้อนเกิดขึ้นขณะที่ดาบหนึ่งถูกฟันออกไป ยิ่งเกิดการฟันมากขึ้น คมดาบซ้อนก็ปรากฏให้เห็นมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ จนตอนนี้เกิดเกลี่ยวคลื่นพลังคมดาบมากมายสะบั่นทั่วบริเวณ
“ไอ้วิชาบ้านี้อีกแล้ว!” แอนดริวเริ่มหัวเสียจนหน้าแดง วิชาเดียวกับที่คนๆ นั้นใช้ ไอ้คนที่เขาเกลียดชังเข้ากระดูกดำ “พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น แต่เอาเถอะ จุดจบก็คงไม่ต่างกัน”
ฮ่า!!! แอนดริวคำรามพลังอำนาจสีแดงส่งออกไปรอบด้านอย่างคลื่นมหาสมุทร พลันทำลายร่างแยกของมาโคโตะจนสิ้น
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว!” น้ำเสียงจริงจังไม่เหลือเค้าโครงยอกเล่นเหมือนก่อนหน้านี้มาพร้อมกับกรงเล็บแหลมคมทั้งสองมือ ดวงตาของชายร่างยักษ์เปลี่ยนเป็นสีแดงกระหายเลือด คมเขี้ยวงอกเงยจนพ้นริมฝีปาก
ฉีกกระชากล่าสังหาร
ในเสี้ยววินาทีที่มาโคโตะกระพริบตา ร่างของแอนดริวก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ชั่วจังหวะความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา ความคิดภายในสมองของมาโคโตะได้ประมวลผลอย่างรวดเร็ว
วิชานินจา ก้าวร่างข้ามสายหมอก
ตู้มมม!!!
กรงเล็บที่เคลือบไปด้วยพลังทำลายล้างซัดเข้ากับพื้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกเกือบ 3 เมตร แต่ภายใต้หลุมนั้นไม่มีร่างของมาโคโตะอยู่
“หลบเก่งเหลือเกินนะ” ดวงตาอันแดงก่ำมองไปยังเบื้องบนที่ร่างของมาโคโตะลอยอยู่ ใบหน้าอันสงบนิ่งนั้นยิ่งทำให้แอนดริวรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
หากให้นับถึงความแตกต่างระหว่างพ่อลูกตระกูลนี้ คงเป็นความสงบนิ่งของมาโคโตะที่ได้รับจากแม่มา ทำให้แอนดริวไม่สามารถยุยงหรือยั่วยุได้เท่าที่ควร แม้ว่าจะถูกเรียกด้วยคำว่า แก หลายครั้ง แต่มาโคโตะก็ไม่ได้ทำอะไรสิ้นคิดเลยสักนิดเดียว
การไล่ล่าของแอนดริวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คราวนี้เขาไม่เสียเวลาให้มาโคโตะพักมีช่วงจังหวะหายใจ
แต่ถึงอย่างนั้น มาโคโตะก็สามารถโจมตีและหลบหายอย่างภูตพรายได้อยู่ร่ำไป เหมือนกับว่าตัวเขาไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น
“หงุดหงิด หงุดหงิดจริงๆ เลยโว้ย!!!” แอนดริวอ้าปากคำรามจนน้ำลายไหลยืด ดวงตาแข็งกร้าวมาพร้อมกับพลังที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น รอบข้างของเขากำลังเผาไหม้ทุกสิ่งที่เข้าใกล้จนเป็นผงธุรี
หมื่นสารบดขยี้
เมื่อไม่สามารถไล่ต้อนได้ เขาถึงต้องบดขยี้มันให้แหลกไปก็สิ้นเรื่อง เมื่อคิดได้เช่นนั้น กรงเล็บของแอนดริวส่องแสงสว่างจ้าและฟาดไปทางมาโคโตะ จากคลื่นพลังทำลายล้างอันเล็กเท่าแขนก็พลันขยายใหญ่ขึ้นจนเต็มโรงจอดรถ
มาโคโตะมองพลังอันมหาศาจที่หมายจะเข้ามาเอาชีวิตของเขาตรงหน้าอย่างไม่ไหวติง พร้อมกันนั้นชายหนุ่มก็ได้เริ่มผสานนิ้วไปมาอย่างรวดเร็วและหยุดลงในจังหวะเดียวกันกับคลื่นพลังนั้นมาถึง
ตู้มมม!!!
“เอาสิ! คราวนี้จะหนีรอดไปได้อีกไหม ฮ่าๆๆๆ” แอนดริวหัวเราะบ้าคลั่ง
วิชานินจาลับ หวนคืนสู่สายหมอก
พรึ่บ… ฉัวะ…
“บ้าน่า…” แอนดริวหันหน้าไปมองร่างที่นั่งลงในท่าคุกเข่าด้านข้างด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
“ยังสัมผัสได้หรือเปล่า กลิ่นของสายหมอก…”
ซ่า… น้ำพุเลือดได้เกิดขึ้นที่คอของแอนดริวและร่างยักษ์ก็ได้ล้มลง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
