ตอนที่ 168 : เฝ้ามองอย่างใกล้ชิด!
สายตาของจินจ้องมองไปยังใจกลางพายุนั้นมานานสักครู่หนึ่งแล้ว ซึ่งเท่าที่เขาดู เหมือนมันจะค่อยๆ เบาบางลงจนเห็นได้ชัด และเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้สแตนดูเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อยอีกด้วย เฉกเช่นกับสภาพของห้องที่พังยับเยินไปแล้วในขณะนี้
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ”
ประโยคแรกของสแตนดังทันทีขึ้นหลังจากพายุที่แผ่กลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นได้หายไป พร้อมๆ กับใบหน้าของจินที่มีอาการแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะสแตนสามารถคาดเดาอีกทั้งยังตอบคำถามของเขาที่จะถามเมื่อกี้ได้อย่างแม่นยำ
“ขอรับ ผมได้รับความสามารถใหม่มาด้วย แต่สิ่งแลกเปลี่ยนก็หนักหนาสาหัสเหมาะสมกับชื่อแหวนแห่งอาถรรพ์นั้นแหละขอรับ”
และเป็นอีกครั้งที่สแตนสามารถตอบคำถามของจินที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมันทำให้ดวงตาสีแดงของจินเปล่งประกายเสริมแต่งด้วยรอยยิ้มของเขาราวกับว่ากำลังเจอของน่าสนใจเข้าให้แล้ว
“อะ เอ่อ... นายท่านช่วยลดความตื่นเต้นลงหน่อยดีกว่าไหมขอรับ” สแตนพูดดักและเผลอเดินถอยหลังออกมาอย่างหวาดระแวง
“ทำไมล่ะ ถ้าไม่ใช่ความสามารถนั้นแล้วเป็นแบบไหนกันแน่ สแตน” จินย่างสามขุมเข้าไป พร้อมกับบิดร่างกายให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหว สแตนที่ได้ยินเสียงกระดูกของจินที่ลั่น ทำให้ร่างกายเขาอดสั่นตามไปด้วยไม่ได้
“ไม่ใช่ความสามารถอ่านความคิด แต่เป็นการมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตอันสั้น ขอรับ” สแตนถอยหลังกับความคิดของนายท่านตัวเองในขณะ ราวกับว่าตัวเขาไม่ได้มองเห็นสีดวงตาของจินที่เปลี่ยนไป
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! สายฟ้าสีดำทมิฬหมุนวนรอบตัวจินอย่างเกรี้ยวกราดตามอารมณ์ของเจ้าตัวในตอนนี้
“โอ้... น่าสนใจไม่น้อย... มาดูกันว่าความสามารถใหม่ของนายจะมีขีดจำกัดแค่ไหนกันน้า...” จินยิ้มเหี้ยมให้กับแวมไพร์วัยกลางคนผมขาวที่เดินถอยหลังตรงหน้า
“ผมว่าเอาไว้วันหลังดีกว่าไหมขอรับ อีกอย่างดูเหมือนนายท่านจะเหนื่อยจากการเรียกวันแรกแล้วด้วย” สแตนตอบกลับด้วยยิ้มแห้งๆ ให้กับจิน
“พอพูดถึงเรื่องนี้ ยิ่งอยากออกกำลังกายขึ้นมาทันที” จินพูดพร้อมกับนึกถึงหน้าของโทริ อริเก่าศัตรูคู่แค้นพิษรักฝังจิตที่เพิ่งเจอเมื่อช่วงกลางวันขึ้นมา
“อะ อีกอย่างผมมีงานที่ร้านต้องรีบไปสะสางด้วยนะขอรับ” สแตนถอยหลังจนชิดเข้ากับประตู พร้อมกับรำลึกไปถึงตอนที่เขาต่อสู้กับจินในอีกโลกแล้วหวาดเสียวในทันที จะเรียกว่าการต่อสู้ก็ไม่ได้ถูกไปเสียหมด คงเรียกว่าการรังแกจากจินเสียมากกว่า
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก รับรองว่าไม่นาน”
“แต่ว่า---”
จินเดินไปใกล้สแตนพร้อมกับลากคอแวมไพร์ผู้น่าสงสารเข้ามิติไปในทันที โดยไม่สนคำคัดค้านอะไรทั้งสิ้น
“ขอให้กลับมาครบ 32 ประการนะคะ คุณสแตน” ทิ้งให้มากิคอยสวดมนต์ภาวนาอวยพรแก่สแตนอยู่หน้าห้องไปพลางๆ
“เกิดไรขึ้นข้างในเหรอ หนูมากิ เมื่อกี้เหมือนปู่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเสียงดัง ก่อนหน้านี้ก็มีเสียงข้าวของตกแตกอีกด้วย” ชาโต้ที่เดินขึ้นมาถามมากิทันทีด้วยสายตาที่เป็นห่วงหลานๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เหมือนว่านายท่านกำลังจัดการอะไรบางอย่างอยู่ คุณปู่เข้านอนเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้วด้วยนะคะ” มากิยิ้มตอบกลับ
“อย่างนั้นหรอกเหรอ นึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นเสียอีก งั้นปู่เข้านอนก่อนนะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะแม่หนู ยังไงเราก็อย่านอนดึกมากนักละหนูมากิ ถึงจะเป็นแวมไพร์ก็เถอะ”
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
ชาโต้คลายความกังวลลงพร้อมกับกล่าวลามากิเข้าห้องนอนของตนไป และเป็นความจริงอีกข้อหนึ่ง ที่จินได้บอกชาโต้เกี่ยวกับตัวตนของสแตนกับมากิให้แก่ชาโต้ไปแล้ว เนื่องจากความไว้วางใจและชาโต้ยังเป็นสมาชิกครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของเขาที่ยังมีอยู่ ซึ่งชาโต้ก็ได้รับปากจินไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใครไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม ถึงแม้จินจะไม่ได้ห้ามอะไรก็เถอะ ส่วนเรื่องของคลาวด์นั้น จินยังคงไม่บอกชาโต้ เพราะกลัวว่าแผนการที่เขากำลังทำอยู่นั้นจะนำภัยมาให้แก่ปู่ของเขา
“ไม่ต้องห่วงหนูหรอกค่ะ ยังมีอีกคนที่น่าเป็นห่วงมากกว่า” มากิมองตามแผ่นหลังของชายชราก่อนจะหันกลับไปมองประตูห้องทำงานของจินที่เงียบสงบลง
ผ่านไปราวชั่วโมงเศษ ทั้งจินและสแตนก็กลับมาจากมิติที่จินได้สร้างขึ้น พร้อมกับสภาพของสแตนที่ยับเยินราวกับลุยสมรภูมิรบแสนดุเดือดมาหมาดๆ โดยที่เสื้อผ้าหน้าผมนั้นไม่เหลือสภาพเดิมเลยแม้แต่น้อย
“ดูเหมือนขีดจำกัดนั้นจะมีอยู่หลายข้อ หรือว่านายอาจจะยังใช้ไม่คล่อง อันนี้ก็ไม่แน่ใจแล้วแหละ” จินพูดอย่างสบายใจ ราวกับได้ปลดปล่อยบางอย่างออกไป พร้อมกับดวงตาที่กลับมาเป็นสีเหลืองอร่ามเช่นเดิม
“จู่ๆ ผมก็คิดถึงหน้าของอลิซขึ้นมาอย่างแปลกๆ เลยขอรับ” สแตนกล่าวด้วยดวงตาเหม่อลอย
“มันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ทำเป็นตัดพ้อไปได้ แต่ข้อแลกเปลี่ยนดูเหมือนจะไม่ได้ร้ายแรงกับนายเท่าไหร่ ในเมื่อจมูกแวมไพร์นั้นดีขนาดไหนอยู่แล้ว” จินผสานมือมองไปยังสแตนที่เปลี่ยนลุคกลับมาเนี้ยบเฉกเช่นปรกติได้อย่างรวดเร็ว
“ขอรับ ถึงแม้ช่วงแรกๆ อาจจะลำบากหน่อย ผมก็คิดว่าคงไม่ใช่ปัญหาอะไรในระยะยาว”
แต่ทว่าดวงตาของแวมไพร์ผู้นี้นั้นไม่ได้มีสีแดงก่ำเหมือนเดิมแล้ว หากให้เทียบคงเปรียบเสมือนกลีบดอกกุหลาบแดงที่เหี่ยวเฉาไร้ซึ่งความสดใหม่ของสีสัน
“สูญเสียสีสันในการมองเห็น แลกเปลี่ยนกับการพบเจอเหตุการณ์ในอนาคตอันสั้น ถ้าเป็นคนปรกติคงลำบากน่าดู” จินพูดขึ้น หลังจากได้ทดสอบความสามารถใหม่ของสแตนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้สามารถมองเห็นได้ประมาณ 5 วินาทีล่วงหน้าขอรับ” สแตนตอบกลับโดยที่จินไม่จำเป็นต้องถาม
“จะว่าน้อยก็น้อย จะว่าเยอะก็เยอะเหมือนกันนะ แต่ก่อนอื่น อย่าเพิ่งใช้ในตอนนี้ดีกว่า อารมณ์ผมค่อนข้างขึ้นลงๆ อยู่ เดี๋ยวจะฉุนขาดเอา” จินกล่าวด้วยความหวังดี จนทำให้สแตนเลิกใช้ไปในทันทีทันใดเลยทีเดียว
“ขอรับนายท่าน ว่าแต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างแปลกๆ ภายในห้อง ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” สแตนหันไปมองรอบๆ ห้องราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างที่ตัวเองรู้สึกไม่ชอบมาพากล
“ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก ว่าอย่างนั้นไหมครับ ท่านเทพผู้มาเยือน” จินกล่าวพร้อมกับมองไปยังมุมห้องด้านขวาจากโต๊ะทำงานของเขาที่นั่งอยู่
“แหวนแห่งอาถรรพ์งั้นเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าจะตกไปอยู่ในมือของแวมไพร์ได้แบบนี้”
น้ำเสียงใสหวานดังกังวาลราวกับระฆังของสวรรค์ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏร่างของอิสตรีสาวแรกรุ่นดวงตาสีมรกตกับเส้นผมยาวถึงกลางหลังที่มีสีเช่นเดียวกับดวงตาที่กำลังอยู่ในชุดเดรสสวยสีขาวโชว์ไหล่อันขาวนวลของเธอ
“ท่านฮิวาริ” สแตนโค้งตัวและทำความเคารพอย่างมีมารยาท เฉกเช่นเดียวกับจินที่ทำเหมือนกับสแตนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาพอทราบเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้นจากปากของทุกคน และชื่อนี้ก็เป็นชื่อของเทพที่เข้ามาช่วยเหลือไรจินไว้อีกด้วย
“ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ เราแค่มาทำตามหน้าที่เท่านั้น” ฮิวาริปัดมือบอกให้แก่ทั้งคู่อย่างไม่สนใจ ก่อนจะเดินผ่านเศษซากสิ่งของที่แตกพังจากพายุของแหวนแห่งอาถรรพ์ที่สแตนสวมอยู่ ซึ่งเกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง เพราะจุดไหนที่เธอเดินผ่าน จุดนั้นก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนตอนมันจะเละเทะชวนไม่น่ามองไปอย่างรวดเร็ว จนทุกอย่างกลับเข้าที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
“หน้าที่?” ใบหน้าของจินมีเครื่องหมายคำถาม ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเทพนั้นจะไม่ก้าวก่ายมนุษย์หากไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นจนทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง แล้วคำว่าหน้าที่ของเทพตนนี้ยิ่งทำให้จินสงสัยการมาเยือนเป็นอย่างยิ่ง
“ใช่ พวกตาแก่จากสภาบ้าบอคอแตกอะไรพวกนั้น ได้ลงความเห็น แถมบอกแกมบังคับให้เรามาจับตาดูเจ้า กลัวว่าเจ้าจะนำความเสียหายและทำลายขั้วอำนาจแห่งเทพลงอะไรก็ไม่รู้ของตาแก่พวกนั้น ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก อย่างนี้ก็กระทบเวลาหลับเวลานอนของเราหมดกันพอดี” ใบหน้าแสนสวยของเธอแสดงถึงอาการไม่สบอารมณ์พร้อมกับพูดออกมา และทิ้งท้ายด้วยการบ่นเบาๆ กับตัวเองก่อนจะหันมามองหน้าจิน จนทำให้จินเกือบเผลอลืมหายใจไปชั่วขณะเลยทีเดียว
ซึ่งหากเป็นคนอื่นมาเจอเทพสาวจังๆ ดั่งเช่นเขาเจอแล้วละก็ คงไม่แคล้วต้องหลงมนต์เสน่ห์ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้าของเธอแน่นอน
“จับตาดู สภาแห่งเทพ ขั้วอำนาจ” คำถามมากมายปรากฏบนใบหน้าจิน จนทำให้เทพสาวถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับจินได้หันไปมองหน้าสแตนที่นิ่งเงียบโดยไม่ออกความเห็นใดๆ
“เอาไว้ค่อยอธิบายวันหลังแล้วกัน ตอนนี้เราอยากนอนจะแย่อยู่แล้ว” ฮิวาริออกอาการงอแงชวนน่ารักก่อนจะมองหาที่นอนของตน
“เอ่อ ต้องนอนที่นี่เหรอครับ” จินถามขึ้น
“ใช่นะสิ ไม่ให้เรานอนที่นี่ เจ้าจะให้เราไปนอนที่ไหน อีกอย่างหากนอนที่อื่นก็ไม่ใช่การจับตามองเจ้าอย่างใกล้ชิดนะสิ” ฮิวาริตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะป้องปากหาวจนน้ำตาเล็ดออกมา
“หากเป็นเช่นนั้น ยังไงคืนนี้คงต้องให้ท่านนอนที่ห้องผมก่อนแล้วกันนะครับ เอาไว้ยังไงพรุ่งนี้ผมจะให้แม่บ้านพ่อบ้านจัดห้องไว้ให้ท่านอีกที” สุดท้ายจินก็แก้ไข้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้ไปก่อน ซึ่งมันทำให้สแตนต้องมองทั้งคู่สลับกันอย่างช่วยไม่ได้
“ตกลงตามนั้นก็ได้ นำทางไปเลย เราง่วงแล้ว” ฮิวาริตอบโดยไม่ใช้เวลาคิดแม้แต่น้อย
“ก่อนจะไป ผมมีเรื่องจะถามสักหน่อยจะได้ไหมครับ” มีบางอย่างที่จินต้องการรู้และอยากได้คำตอบจากเธอคนนี้อยู่ด้วยไม่น้อย
“เจ้าจะถามเรื่องไรจินอย่างนั้นใช่หรือเปล่า” ฮิวาริหันมามองหน้าจิน
“ตอนนี้ท่านไรจินเป็นอย่างไรบ้างครับ” จินเลือกถามสิ่งที่ควรถามมากที่สุดออกมา
“ไม่ต้องห่วงเขาหรอก อีกนานก็จะพ้นโทษแล้ว ห่วงตัวเจ้าเถอะ ตอนนี้ทั้งแดนสวรรค์ต่างพุ่งเป้ามาที่เจ้าเสียมากกว่า คนอะไรมีพลังเทพถึงสองขั้วได้แบบนี้” ฮิวาริตอบแบบปัดๆ ไปให้แก่จิน จนทำให้เขาต้องยิ้มแห้งๆ ให้แก่เธอ
หากให้เถียงเขาคงจะตอบกลับว่า เขาก็ไม่ได้ต้องการไหมล่ะ
“แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะนำทางเราไปเสียที” เทพสาวมองจินตาขวางพร้อมกับทำแก้มป่องอย่างขัดใจให้กับเขา
“งั้นเชิญตามผมมาทางนี้เลยครับ” จินได้แต่จำใจต้องพาเธอไปด้วยตัวเอง ซึ่งดูเหมือนเธอจะไม่สนใจสแตนเลยแม้แต่น้อย เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ดูเหมือนเธอจะหงุดหงิดและใส่อารมณ์มาทางเขาเสียมากกว่า
จนทั้งคู่หายไปจากห้องทำงานแห่งนี้ และได้ทิ้งให้แวมไพร์ผู้โดดเดี่ยวต้องทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจอยู่ลำพัง
“ว่าแต่... เทพเขานอนกันด้วยเหรอขอรับ ถือว่าเป็นความรู้ใหม่เลยทีเดียว”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,434 ความคิดเห็น
-
#1336 Nazzga2 (จากตอนที่ 168)วันที่ 5 มีนาคม 2562 / 13:11555 ตอนนี้เหมือนจะจบดีน่ะ แต่มันจะมาตอนที่แสตนตบมุกตอนท้ายนี้สิ 555#1,3360
-
#1335 ราตรีสีรุ้ง (จากตอนที่ 168)วันที่ 5 มีนาคม 2562 / 13:07ถึงกับละนิยายเรื่องอื่นที่กำลังอ่านอยู่มาอ่านเรื่องนี้ต่อเลยนะเนี่ย#1,3350