ตอนที่ 157 : หลงทาง...
“หากไม่เคยหลงทาง อาจไม่พบทางออก” ข้อความดังกล่าวเด่นชัดขึ้นตรงหน้าของหญิงสาว แม้ภายในหนังสือจะมีข้อความมากมายเขียนไว้ให้อ่านแต่เธอกลับสะดุดกับประโยคนี้เป็นที่สุด จนทำให้เธอเผลอลืมตัวเอื้อนเอ่ยออกมา
ทันทีที่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป หญิงสาวจึงต้องเหลือบตามองไปยังร่างของชายหนุ่มที่หลับสนิทอยู่บนเตียงหลังหรูตรงหน้า แล้วต้องลอบถอนหายใจเมื่อการกระทำของเธอไม่ไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา
หลังจากผ่านเหตุการณ์ในตลาดปลาเมื่อเดือนก่อน ทำให้จินหรือชายหนุ่มบนเตียงต้องหลับใหลเป็นเวลานาน ซึ่งก็ผ่านมาตั้งเดือนหนึ่งแล้วนับจากวันนั้น แต่เขากลับไม่ลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ภาพเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมายังติดตาตรึงใจเธออยู่กระทั่งตอนนี้ การต่อสู้อันเหนือมนุษย์ พลังมากมายที่เธอไม่เคยรู้จัก ได้ประจักษ์แก่สายตาแล้ว
ส่วนทางด้านพ่อของเธอนั้นได้ถูกพาไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว และสามารถรักษาอาการบาดเจ็บไว้ได้ทันอย่างฉิวเฉียด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้สะกิดเข้าไปในหัวใจของเธอจนทำให้หญิงสาวนั้นรู้ตัวแล้วว่าสิ่งใดสำคัญกับเธอ และควรทำอย่างไรที่จะรักษามันไว้ อย่างน้อยเธอก็ขอทำในสิ่งที่ไม่เสียใจในภายหลัง
ก๊อก ก๊อก!!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นจนทำให้หญิงสาวหน้าตาน่ารักค่อนไปทางสวยหันไปมอง พร้อมกับหลุดจากภวังค์ที่เธอกำลังคิดอยู่ เธอสงวนท่าทีและเก็บหนังสือลงอย่างเงียบๆ
“พักผ่อนบ้างเถอะ หนูเรย์กะ” เสียงของชายชราดังขึ้นพร้อมกับเปิดประตูเดินเข้ามายังจุดที่เรย์กะกำลังนั่ง พร้อมกันนั้นเขายังยื่นแก้วโกโก้ร้อนของโปรดของเธอให้อีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ” เรย์กะยิ้มให้กับชาโต้
และนี่อาจเป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นมา มันทำให้เธอเรย์กะสามารถยิ้มให้กับทุกคนได้ ซึ่งในตอนแรกทำเอาหลายคนถึงกับตะลึงค้างจนไม่ทำอะไร และมีบางคนถึงกับขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อเก็บภาพเหนือธรรมชาตินั้นไว้เป็นที่ระลึก แต่ก็ถูกใครบางคนซัดเปรี้ยงจนไม่กล้าขอถ่ายไปในที่สุด
“ดูเจ้าหลานคนนี้สิ ทุกคนอุตส่าห์มาเยี่ยมและคอยให้กำลังใจกันขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นมาทักทายกันบ้างเลย เฮ้ย! ลุกขึ้นมาทักทายหนูเรย์กะเขาหน่อยสิ เจ้าหลานตัวยุ่ง” แม้ชาโต้จะไม่ชินรอยยิ้มของเรย์กะเท่าไหร่ แต่เขากลับคิดว่ามันดีแล้วที่เธอสามารถยิ้มออกมาแบบนี้ เท่าที่เขาจำได้นั้น เขาเคยเห็นเรย์กะยิ้มตอนเด็กๆ ซึ่งมันก็ผ่านมานานนมแล้วเช่นกัน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เรย์กะส่ายหน้าให้กับชาโต้ก่อนจะหันไปมองหน้าจินพร้อมกับยกโกโก้ร้อนในมือขึ้นดื่มอย่างช้าๆ
แม้บนใบหน้าของเธอจะประดับไปด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนั้น แต่จากประสบการณ์ทางอายุของชาโต้กำลังบอกว่าเธอกำลังฝืนใจทำอยู่ เขาจึงเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กสาวอย่างปลอบประโลม ทำเอาเธอถึงกับนิ่งไปเลยทีเดียว ถึงจะโกหกคนอื่นได้ว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เธอกลับโกหกตัวเองไม่ได้ แล้วที่สำคัญ เหตุการณ์ในวันนั้นส่งผลกับจินเช่นนี้ มันยังคงตามหลอกหลอนเธอว่าตัวเธอเองนั้นแหละที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“อย่าเอาแต่โทษตัวเองเลยหนูเรย์กะ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป เจ้าจินมันไม่เป็นอะไรหรอก เห็นอย่างนั้นจินเขาแข็งแกร่งกว่าปู่ของมันเสียอีก”
“ค่ะ” เรย์กะเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านปนอยู่ในนั้น
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เกิดการเคลื่อนไหวจากแก๊งยากูซ่าน้อยใหญ่ขึ้นมากมาย แม้ท้องถนนยามกลางวันจะคึกคักไปด้วยรถรา แต่ในยามค่ำคืนกลับเงียบสงัดยิ่งกว่าป่าช้าเสียอีก เพราะพวกเขารู้ว่าในที่ไหนสักแห่งในคืนนั้นจะต้องมีการนองเลือดแน่นอน ซึ่งมันเกิดจากการต่อสู้ของแก๊งมากมายที่เข้ามาลองของกับแก๊งมังกรคำราม สาเหตุมาจากมีมือดีทำการปล่อยคลิปวิดีโอการต่อสู้ของจิน โดยมีการตัดต่อเล็กน้อยเพิ่มเติมมาอีกด้วย
ถึงจะมีบางพวกที่หวาดกลัวและย่ำเกรงต่อพลังอำนาจของจิน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากลองสัมผัสถึงขุ่มพลังขนาดนั้นของชายหนุ่ม จนเรื่องต้องร้อนไปถึงมือพวกหัตถ์แห่งมังกรต้องลงไปปราบปรามและต่อสู้กันอยู่ทุกค่ำวัน
“ตื่นได้แล้วเจ้าตัวดี” หลังจากที่เรย์กะขอลาและเดินทางกลับไปแล้วได้ไม่นาน ชาโต้ก็เอ่ยออกมาอย่างลอยๆ และนั้นได้ทำให้ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงได้สะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมา
“รู้ก่อนอยู่แล้วเหรอ ท่านปู่” จินลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับส่งรอยยิ้มแห้งๆ ไปยังปู่ของเขา
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก ทำไมถึงไม่ยอมตื่นขึ้นมาทักทายหนูเรย์กะสักหน่อย เธอเป็นห่วงหลานมากเลยรู้ไหม”
“แรกๆ ผมก็อยากทักทายเธออยู่หรอกท่านปู่ แต่พอเห็นเธอเป็นแบบนั้นแล้ว ผมกลับไม่อยากตื่นขึ้นมารบกวนเธอเสียอย่างนั้น” จินมองไปยังเก้าอี้ด้านข้างที่เรย์กะเคยนั่งเมื่อกี้
“คนหนึ่งก็อยากเห็นอีกคนตื่นขึ้นมาทักทาย ส่วนอีกคนกลับไม่อยากตื่นขึ้นมารบกวน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี้ย” ชาโต้เอามือกุมขมับตัวเองและนวดเบาๆ
“แหะๆ ไว้ผมจัดการเองแล้วกันครับ”
“มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ว่าแต่รู้สึกยังไงบ้าง หลานหลับไปตั้งหนึ่งเดือน”
“หนึ่งเดือนเลยเหรอครับ อืมมม...”
ดูเหมือนจินจะไม่ได้ตกใจหรือแปลกประหลาดสักเท่าไหร่ เขาขยับร่างกายไปมาเพื่อตรวจสอบถึงสิ่งผิดปรกติ แต่กลับไม่พบอะไรน่าเป็นห่วง และนั้นทำให้ชาโต้รู้สึกโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง ถึงเขาจะเตรียมการจ้างเหล่าหมอกับพยาบาลไว้ก่อนหน้านี้แล้วเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำกายภาพบำบัดให้จิน
แต่แล้วใบหน้าของจินกลับแสดงออกมาถึงอาการหนักใจ นั้นคงไม่พ้นที่ทราบว่าในตอนนี้ตนได้มีพลังงานอีกสายกำลังหมุนเวียนอยู่ในตัว ซึ่งมันทั้งมืดมิดและชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด ตรงข้ามกับพลังเดิมที่เขามีอย่างลิบลับ
“มีอะไรงั้นเหรอหลาน” ชาโต้พูดถามด้วยใบหน้าเป็นห่วง
“เปล่าหรอกครับ รู้สึกไม่ชินกับอะไรบางอย่าง แต่อีกสักพักคงดีขึ้น ว่าแต่เหตุการณ์ทางนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่ากับหลานชายของตัวเองที่นอนไปเกือบเดือนหรอก” ชาโต้ยิ้มอย่างไม่ยี่หระเท่าไหร่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้ในสายตาของคนอื่นจะดูร้ายแรงแค่ไหน แต่สำหรับเขาที่ผ่านในยุคโกลาหลที่เขาพบเจอแล้ว เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมาก
“พวกนั้นรับมือได้สินะ ท่านปู่ถึงสบายใจได้แบบนี้” จินยิ้มให้กับชายชราตรงหน้า พร้อมกับคาดการณ์เรื่องที่เกิดขึ้นในหัว
“เรื่องของพวกเด็กต่อยตีกันธรรมดาๆ มากกว่า ...ดูเหมือนว่าหลานจะมีแขกคนสำคัญ งั้นปู่ขอตัวก่อนแล้วกัน อย่าลืมพักผ่อนเยอะๆ ฝันดีเจ้าหลานชาย”
“ฝันดีครับท่านปู่” จินมองแผ่นหลังของชายชราเดินออกจากห้องไป ก่อนจะหันไปมองทางหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกลทางทิศขวาของเขา “สบายดีไหม คุณคลาวด์”
“ตอนแรกกะว่าจะมาเยี่ยมคุณจินเฉยๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาตอนคุณจินฟื้นพอดี” คลาวด์เดินออกมาจากมุมมืดทางหน้าต่างพร้อมกับประกายแสงสีแดงที่ฉายชัดจากดวงตา เส้นผมสีขาวที่ไม่ได้ถูกปกปิดไว้สยายไปตามแรงลมยามค่ำคืน ชุดหรูหราสีดำขับให้ออร่าความหล่อเนี้ยบของเจ้าตัวพุ่งพรวดขึ้นทันที
“แต่ดูจากสีหน้าแล้ว สงสัยมีเรื่องหนักใจอยู่สินะครับ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ นายท่าน” คลาวด์สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลมาจากร่างของจิน หากเทียบกับตอนที่เขาได้ต่อสู้แล้ว พลังของจินในตอนนี้ได้ก้าวข้ามจุดนั้นไปหลายขั้นแล้ว
“เรียกอย่างเดิมก็ได้ หากให้ผมเดา... คงเป็นเรื่องขององค์กรเนเมซิสสินะ” จินมองไปยังคลาวด์ที่นั่งคุกเข่าในท่าอัศวินพร้อมกับเอามือทาบหน้าอก
“ครับ เมื่อไม่นานมานี้ทางองค์กรได้วิจัยและค้นคว้าเกี่ยวกับตัวยาตัวใหม่ได้สำเร็จ อีกทั้งยังเพิ่งได้ส่งเข้าสู่ตลาดมืดไปเมื่อไม่นานมานี้ด้วย”
“ทำถึงขนาดนี้ ทางองค์กรนั้นกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า” จินเอามือจับคางพลางคิดไปด้วย
“อย่างที่คุณจินกำลังคิดเลยครับ ตอนนี้องค์กรกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับรายจ่ายที่ศูนย์เสียไป จนไม่อาจมาจุนเจือสมาชิกได้อย่างทั่วถึง จนมีคนถึงกับถอนตัวออกไปเป็นจำนวนมากครับ”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ แล้วยาที่ว่านั้นชื่อว่าอะไร มีผลยังไงบ้าง” จินถามด้วยด้วยตาเป็นประกาย
“มันเป็นยาต่อยอดยาก้าวข้ามขีดจำกัด และมีชื่อว่า NMS-002 ส่งผลให้ยกขีดพลังวิญญาณขึ้นไปอีกขั้นโดยไร้เงื่อนไขครับ ส่วนผลข้างเคียงนั้นมีเพียงทำให้ร่างกายรับภาระหนักเพียงเท่านั้น แตกต่างจากตัวยาเก่าอย่างสิ้นเชิงที่เอาชีวิตไปเสี่ยงกับมันครับ” คลาวด์สรุปสั้นๆ ให้จินได้เข้าใจ ถึงจะมีอะไรเยอะกว่านี้ แต่มันเป็นเพียงแค่ส่วนปลีกย่อยไม่สลักสำคัญเท่าไหร่
“อย่างนั้นหรอกเหรอ แล้วสามารถยกระดับไปได้ไกลแค่ไหน” จินพยักหน้าเข้าใจ
“ถึงขั้นเรียกพลังแฝงออกมาได้เลยครับ”
“พลังแฝง?” จินทำหน้าไม่เข้าใจในจุดนี้ ทำให้คลาวด์ต้องเงียบไปเพื่อเรียบเรียงข้อความก่อนจะพูดออกมา
“เป็นการดึงพลังที่แท้จริงของพลังวิญญาณออกมา หากพูดให้เข้าใจง่ายคงเป็นพลังวิญญาณขั้น 3 ครับ เช่นอย่างคุณจินสามารถเรียกสายฟ้าออกมาโจมตีได้”
‘ อาจเรียกได้ว่าเป็นเวทย์มนต์ธาตุประจำตัวสินะ ’ จินคิดในใจก่อนเทียบเคียงให้ตัวเองพอเข้าใจ
“แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไรครับ” จินเงยหน้าขึ้นมามองคลาวด์
“พลังแฝงได้ถูกจัดออกเป็นสองประเภทด้วยกันครับ ประเภทแรกนั้นสามารถเห็นได้ไม่ยากหากคนนั้นเลื่อนขั้นพลังวิญญาณขึ้นถึงขั้น 3 ส่วนมากจะสามารถเรียกใช้พลังพวก ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือพลังที่ใกล้เคียงกับสิ่งเหล่านั้นได้ แต่อีกประเภทหนึ่งนั้นพบเห็นได้ยาก ซึ่งหากให้เทียบแล้ว ใน 10 คนของคนมีพลังวิญญาณขั้น 3 จะมี 1 คนที่มีพลังประเภทนี้ พวกเราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า พวกมีพลังแฝงแบบพิเศษ”
“พลังแฝงแบบพิเศษ...” แม้จะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ แต่ว่าจินกลับรู้สึกว่าตัวเองแปลกประหลาดกว่าสิ่งที่เพิ่งได้ยินเสียอีก “พอมีตัวอย่างไหมครับ”
“...เช่นคนที่สามารถกล่อมให้คนอื่นทำตามได้เพียงแค่จ้องตากันในเวลา 3 วินาที”
“เริ่มเห็นภาพแล้วครับ” จินพยักหน้าเข้าใจในทันที
‘ ใกล้เคียงกับพลังสัมผัสแห่งเทพเจ้าของเราเลยสินะ ว่าแต่พลังอีกสายของเรามีสัมผัสแห่งเทพเจ้าหรือเปล่า ...สงสัยต้องไปถามท่านไรจินเสียแล้ว ’
ในจังหวะที่จินนิ่งเงียบและใช้สมาธิอยู่กับตัวเองอยู่นั้น พลันบางอย่างทำให้คลาวด์สะดุ้งตัวและหวาดหวั่นกับบางอย่างแบบไม่ทราบสาเหตุ จนทำให้เขาต้องมองไปยังใบหน้าของนายท่านตัวเอง และสิ่งที่เขาเห็นนั้นกลับทำให้คลาวด์ไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก
ว่าทำไม... ดวงตาของจินในตอนนี้ถึงเป็นสีแดงอย่างน่ากลัวได้ขนาดนั้น แล้วยังมีสัญลักษณ์แปลกประหลาดอยู่บนกลางหน้าผากนั้นอีก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ขอให้สิ่งที่ทุกคนหวังสมดังปรารถนากันทั่วหน้าครับ และขอให้มีความสุขกันเยอะๆๆๆๆ เลย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พลังแฝงก็พลังแฝงเถอะ เจอจิน..ก็ราบเป็นหน้ากลองทั้งนั้น 55555555=หัวเราะสะใจ อิอิ