ตอนที่ 112 : หรือว่ากลัว?
จินกำลังยืนมองสนามทดสอบรถอันใหญ่ตรงหน้าด้วยความแปลกใจเล็กน้อยที่พวกไคนุกับเหล่าลูกน้องอีกสี่ห้าคนพามา ซึ่งที่แห่งนี้นั้นดูเหมือนมันจะเคยเป็นสนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์เก่าของพื้นที่นี้มาก่อน พวกเขาสามารถมองเห็นอาคารที่นั่งที่สภาพเก่าแก่ที่ดูเหมือนจะจุคนได้ประมาณเกือบห้าพันคนได้อย่างสบาย พร้อมกับมีจอมอนิเตอร์ที่พังไปแล้วติดตั้งอยู่รอบๆ หลังคาก็มีหลายที่แหว่งขาดจนไม่สามารถบังแดดหรือลมฝนได้ ส่วนพื้นด้านล่างของสนามก็มีสเปรย์พ่นกำกับตำแหน่งวิ่งไว้ด้วย โดยที่แห่งนี้มีความกว้างพอประมาณแต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่มันปิดตัวลง ตัวสนามเองก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลาที่ไม่ได้รับการดูแลมันให้ดีเท่าที่ควร ความยาวทางวิ่งของสนามอยู่ราวๆ 2 กิโลเมตรหากเดาจากสายตา ถนนแข่งนั้นมีทั้งทางคดเคี้ยว มุมอับสายตา ทางลาดชันและปิดท้ายด้วยทางยาวก็ลากเข้าถึงเส้นชัย
และจินยังมองเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีเหล่าวัยรุ่นปะปนอยู่ด้วยรวมแล้วประมาณ 20 คนเห็นจะได้ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างแต่งกายด้วยเสื้อหนังแขนยาวสีดำและมีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวกระรอกที่เป็นรูปกระโหลกติดอยู่ด้านหลังด้วย มองแค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นแก๊งกระรอกปีศาจ และยังมีเหล่ารถจักรยานยนต์หลากหลายยี่ห้อหลากหลายชนิดจอดอยู่ทั่วบริเวณด้วย
“พวกนั้นงั้นเหรอ”
“พวกนี้แหละครับ แก๊งกระรอกปีศาจ”
ไคนุพูดเสร็จและเดินมายืนด้านข้างจินมองไปยังคนพวกนั้นที่กำลังพูดคุยและกำลังเสพอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนพวกลูกน้องของไคนุก็จัดการนำรถลงมาจากหลังกระบะ
“พวกมอเตอร์ไซค์พวกนั้นก็ของพวกมันงั้นเหรอ” จินชี้นิ้วไปยังเหล่ามอเตอร์ที่จอดทิ้งไว้ไม่ไกลจากพวกนั้น
“ใช่แล้วครับ พวกมันทำการแข่งขันและชิงมันมาได้จากพวกที่เข้ามาท้า แต่ก็ได้ด้วยวิธีสกปรกทั้งนั้นแหละครับ พวกที่เข้ามาช่วยใหญ่เป็นพวกต่างถิ่นอยากลองของทั้งนั้น” ไคนุพยักหน้าบอกและอธิบายให้จินฟังพลางมองไปยังพวกมัน
“หากมีอะไรเกิดขึ้น รีบพากันถอยออกมาอย่าให้ใครบาดเจ็บล่ะ” จินคาดเดาเหตุการณ์ต่อจากนี้ได้โดยไม่ยาก
“พวกผมจะทำยังงั้นได้ยังไงครับ” ไคนุปฏิเสธด้วยใบหน้าของเขา
“ทำตามที่ผมบอก ไปกันเถอะ…” จินหันไปยิ้มให้ไคนุที่ทำหน้าหนักใจ และออกตัวเดินนำพวกเขาไปยังจุดที่พวกนั้นอยู่
“ดูสิ! ใครมา!!!” ชายหนุ่มที่เพิ่งพ้นช่วงวัยรุ่นมาไม่นานและย้อมผมสีส้มบาดตาลุกขึ้นพูดเมื่อเห็นจิน ไคนุ และเหล่าลูกน้องจูงรถเดินมาทางพวกเขา
“ลมอะไรหอบมาครับ… ท่านไคนุแห่งแก๊งพิราบขาว ไม่สิ! ไม่มีแก๊งนั้นแล้วใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ” หลังจากที่ชายคนนั้นกล่าวออกมา เหล่าลูกน้องที่อยู่รอบๆ ก็หัวเราะสะใจกันเสียงดัง พร้อมกับมีคำพูดเสียดสีดังออกมาเรื่อยชวนให้หงุดหงิด
“ขอทางให้พวกเราด้วยไรชู พวกเราไม่ได้มาหาเรื่อง” ไคนุเดินออกมาด้านหน้าและพูดกับชายผมส้มหน้าตาอันธพาลตรงหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“มันง่ายไปหรือเปล่าไคนุ แกก็รู้นี่ถิ่นใคร…” ไรชูเอานิ้วดันอกไคนุให้ก้าวถอยหลังด้วยหน้าตาหาเรื่อง
พร้อมกันนั้นพวกแก๊งกระรอกปีศาจต่างเดินมาห้อมล้อมพวกจินไว้ ทำให้ปริมาณที่มากล้นถึงสามถึงสี่เท่าทำให้พวกลูกน้องของไคนุเริ่มน่าถอดสีออกมา ยิ่งด้วยอาวุธต่างๆ ในมือพวกนั้นแล้วยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวชวนเกิดสงครามอยู่ทุกเมื่อ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่มีใครก้าวถอยหลังหนีเลยแม้แต่คนเดียว
จินเดินมาจับไหล่ไคนุ และเดินไปประจันหน้ากับไรชูอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยส่วนสูงของจินที่มากกว่าไรชู ทำให้สายตาของจินมองไรชูในแนวต่ำลง
“พวกเราอยากมาทดสอบรถกันสักหน่อย พวกคุณช่วยหลีกทางให้ได้ไหม” จินกล่าวด้วยความสุภาพสำหรับคนเพิ่งพบกัน
“แกเป็นใครกันว่ะ ไอ้หน้าละอ่อน ไม่รู้หรือไงที่นี่มันมีธรรมเนียมอยู่! หากต้องการก็มีค่าผ่านทางหรือไม่ก็แข่งกับพวกข้า” ชายผมส้มที่เจาะหูตาจมูกลิ้นพูดกับจินอย่างไม่ไว้หน้า
“ช่างหัวธรรมเนียมอะไรนั้นเถอะครับ ที่นี่มันเป็นที่สาธารณะ ผมไม่เห็นมีความจำเป็นต้องทำตาม” จินพูดออกมาสวนทางกับรอยยิ้มที่ยิ้มอยู่ของเขา
“เฮ้ย!!!” เหล่าลูกน้องต่างตะโกนเสียงดังออกมาหมายจะกระโจนเข้าไปขย้ำจิน
“หยุดก่อนๆ กฎมันก็ต้องเป็นกฎไอ้น้อง! พวกข้าอยู่ที่นี่มานานแกจะมาแหกกฎแบบนี้ มันไม่ได้! มันไม่ถูกต้อง!!!” ไรชูกล่าวด้วยเสียงอารมณ์ดี
“หากแกไม่อยากตายละนะ!!!” ไรชูพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของจินและพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่
“เอามือสกปรกนั่นออกไปจะดีกว่า หากยังอยากมีมันอยู่ แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือน” จินจ้องชายตรงหน้าด้วยความอำมหิตที่แฝงอยู่ในดวงตา
“อึก!” ไรชูรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังย้ำเตือนอยู่ภายในว่าเจ้าหนุ่มนี่น่ากลัวกว่าที่เขาเห็นมากนัก
ดวงตาคู่นั้นของจินที่จ้องกลับมา ทำให้เขารู้สึกขนลุกขนพองอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือที่จับก็เริ่มมีอาการสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“แค่ล้อเล่นหรอกน่า” ไรชูเอามือออกพร้อมกับใช้สองมือของเขาปัดฝุ่นละจัดคอเสื้อของจินให้อยู่ในสภาพดีเช่นเดิม
การกระทำเมื่อครู่ของไรชู ทำเอาพวกลูกน้องของเขาต่างมองกันด้วยสายตาสงสัยปนมึนงง แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เช่นเดียวกับพวกไคนุที่เฝ้ามองอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดแทรกหรือกล่าวก่ายการกระทำของจิน
“งั้นขอตัว” จินปลีกตัวเดินหลบไปอีกทาง
“แต่เดี๋ยว!” แต่แล้วไรชูก็ใจกล้าหน้านิ่งเดินมาขวางไว้อีกพร้อมกับเหล่าลูกน้องปิดทางเดินจินไว้
“พวกเรามาแข่งกัน” ไรชูพูดด้วยรอยยิ้มขึ้น และเหล่าลูกน้องต่างกระชับอาวุธในมือเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จินหันหน้าไปมองพวกไคนุก่อนที่จะมองไปยังชายที่มาขวางตรงหน้า
“ทำไมต้องแข่ง ถอยไป!” จินแฝงจิตสังหารไปกับคำพูดทำเอาพวกคนที่มาขวางสะดุ้งตกใจรีบก้าวถอยหลังกันทันทีอย่างรักตัวกลัวตาย
“หรือว่าไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง” ไรชูกล่าวหลังจากจินเดินไปไม่ไกล ทำเอาจินหยุดชะงักและหันมามอง
“แต่ก็อย่างว่าแหละ เด็กเพิ่งหัดขับจะไปมีอะไรละเนอะ” ไรชูยังพ่นคำดูถูกออกมา
จินรู้สึกอยากฆ่าพวกนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็กลัวพวกไคนุที่มาด้วยโดนลูกหลงจนบาดเจ็บหรืออาจตายลงได้ นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดและไม่อยากให้เกิดขึ้น อีกทั้งในพื้นที่นี้ก็ไม่ได้ไกลหูไกลตาคนเท่าไหร่ พวกคนก็สัญจรไปมาให้พบเจออยู่ตลอดอีกด้วย
“จะแข่งยังไงว่ามา” จินเดินกลับไปหาไรชู
“ไม่มีกติกา เข้าเส้นชัยถือว่าชนะ แต่ว่า…” ไรชูหยุดพูดและลากสายตามองไปทางพวกจินกันทีละคน
“แข่ง 1 รอบ เดิมพันด้วยของมีค่า”
“เล่นมันเลยสิลูกพี่ ไม่ต้องขงต้องแข่งมันแล้ว!!!” ชายร่างยักษ์ที่ถือไม้เบสบอลมีหนามแหลมทั้งกระบองกล่าวออกมา พร้อมใบหน้าฮึดฮัดนั้น เป็นชนวนให้ลูกน้องทุกคนพูดตามและหมายจะพุ่งเข้าไปทุบตีพวกจิน
“ทุกคนเงียบ!” ไรชูตวาดเสียงดัง ทำการสยบเหล่าเสียงและท่าทางก้าวร้าวของลูกน้องตัวเองได้อย่างน่ามหัศจรรย์
“ของมีค่าอะไรที่คุณว่า” จินกล่าวต่อเมื่อเห็นทุกอย่างกลับมาสงบอีกครั้ง
“อะไรดีน้า… โอะ! รถคันนั้นก็สวยเหมือนกันนี่ งั้นเดิมพันด้วยรถเป็นยังไง” ไรชูชี้นิ้วไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของจินที่ถูกจูงมาโดยลูกน้องของไคนุ
“แค่นั้น?” จินเลิกคิ้วถาม
“แล้วแกต้องการเดิมพันเป็นอะไรเจ้าหนู” ไรชูหันมาถาม
“หากผมชนะ พวกคุณทุกคนต้องออกจากที่แห่งนี้และจะต้องไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก พร้อมกับทิ้งพวกเศษเหล็กพวกนี้ไว้ด้วย” จินชี้นิ้วไปยังพวกรถที่จอดอยู่
“หน๊อย!!! แก!!!” เหล่าลูกน้องที่ไม่ชอบใจท่าทางของจินต่างโมโหและอยากเข้ามาฟาดหน้าสักเปรี้ยง
“ข้อตกลงมันเห็นจะได้แต่ฝ่ายเดียว แบบนี้พวกข้าไม่ยอมรับหรอก” ไรชูยกมือห้ามปรามพวกลูกน้องที่ใจร้อน
“เพิ่มคันนั้นไปด้วยเป็นยังไง” จินชี้ไปยังรถสปอร์ตคันหรูสีดำของเขาที่จอดอยู่ตรงทางเข้าให้พวกมันได้เห็น
“นั่นมัน!” พวกลูกน้องต่างทำตาลุกวาวกันทันที พวกเขาพอรู้รุ่นและยี่ห้อของมัน ซึ่งเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศ ราคาก็แสนแพง และอีกอย่างพวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องเสียด้วย เพราะพวกรถถคันพวกนี้ก็ได้จากการแข่งขันมาทั้งนั้น
“ตกลง แต่มีเงื่อนไขอีกข้อ คือ ให้คนของพวกข้าลงแข่งอีกสองคน” ไรชูตอบตกลงแต่เพิ่มเงื่อนไขมาอีกข้อ ทำเอาพวกไคนุมองหน้ากันอย่างหนักใจ นั่นก็เท่ากับว่า สามรุมหนึ่ง
“ไรชู! แกจะมากไปแล้วนะ” ไคนุที่เงียบฟังมาตั้งนานก็เริ่มมีอารมณ์เดือดขึ้นมา
“หรือว่าไม่เอาก็ได้นะ ข้าไม่บังคับอะไรอยู่แล้ว” ไรชูไม่แสดงความเสียดายแต่อย่างใด ผิดกับสีหน้าของพวกลูกน้องที่ต้องการให้จินเข้าร่วมแข่งขัน พร้อมกับมองไปยังรถสปอร์ตคันหรูนั้นสลับไปมา
“ตกลง จะกี่คนผลมันก็ไม่เปลี่ยนไปหรอก รีบเริ่มกันเถอะ” จินห้ามไคนุที่เริ่มเดือดขึ้นพร้อมกับเร่งให้พวกเขามาแข่งกันได้แล้ว
“ดูเหมือนแกจะมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยนะไอ้หนู แล้วอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งตอนแพ้แล้วกัน ฮ่าๆๆ” ไรชูกล่าวเสร็จเหล่าลูกน้องต่างหัวเราะกันตามเสียงดังเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมา
“แต่ว่าคุณจิน เจ้าพวกนี้มันมีแผนเล่นไม่ซื่อแน่นอน ทำไมถึงไปรับปากแบบนั้นละครับ” ไคนุกระซิบถามจินเสียงเบา
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า” จินยิ้มตอบอย่างไม่ยี่หระใดๆ พร้อมกับสายตาและเสียงหัวเราะที่ส่งมาเรื่อยๆ จากพวกแก๊งกระรอกปีศาจที่กำลังนัดแนะกันว่าใครจะลงแข่ง
“แต่ว่า”
“หลังจากจบการแข่งแล้ว รีบพาทุกคนถอยออกไปอย่าอยู่ใกล้เด็ดขาด รับปากผมได้ไหม?”
“ครับ” แม้จะไม่อยากตอบตกลงแต่เขาก็เชื่อในการตัดสินใจของจิน พร้อมกับเดินไปหาพวกลูกน้องที่กำลังเช็คเครื่องยนต์กันอย่างขันแข็งและบอกกล่าวบางอย่างออกมา
ไม่นานหลังจากนั้น จิน กับพวกคนของแก๊งกระรอกปีศาจที่เข้าแข่งขันก็ขับรถมาหยุดตรงที่จุดเริ่มต้น
บรื้นนนนน บรื้นนนนน!!!
เสียงบิดคันเร่งของรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสี่คันต่างดังขึ้นเป็นจังหวะ เพื่อเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ เสียงเชียร์และคำดูถูกดังออกมาเป็นช่วงๆ ให้จินได้ยิน
‘ ความเสถียรค่อนข้างดี เอาละ! พวกเรามาทะยานไปด้วยกันเถอะ ’ จินยิ้มและพูดกับรถของตัวเอง เสียงท่อของจินนั้นนุ่มลึกและทุ้มเท่ในแบบสปอร์ตเลยทีเดียว และเสียงเครื่องยนต์ก็ไม่ได้ดังอย่างแปลกๆ แต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปได้สวย
จินยกนิ้วโป้งไปให้พวกไคนุที่ยืนมองด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่ไม่ไกล พร้อมกับปิดหน้ากากของหมวกกันน็อคที่สวมลง และตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับทางด้านหน้า
ส่วนทางด้านไรชูก็ส่งซิกไปยังพวกลูกน้องอย่างรู้กัน คนพวกนั้นเมื่อได้รับคำสั่งก็พากันแยกย้ายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกำลังวางแผนการบางอย่าง ชวนไม่ชอบมาพากลอย่างยิ่ง และไรชูก็หันมายิ้มเหี้ยมให้จินภายใต้หมวกกันน็อคที่สวมอยู่นั้น
ด้วยประเภทรถที่พวกของไรชูหยิบมาใช้แข่งกับจินนั้นค่อนข้างโกงกันเลยทีเดียว เพราะขนาดเครื่องยนต์ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ แต่จินก็ไม่ได้แสดงอาการหนักใจอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย
แล้วทันใดนั้นก็มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งของแก๊งกระรอกปีศาจเดินมาด้านหน้าของพวกเขาทั้งสี่คน
“หื้ม?” จินมองด้วยความแปลกใจ เพราะเธอก้มลงไปถอดเอากางเกงในสีชมพูของเธอออกและชูขึ้นเหนื่อยหัวเป็นสัญญาณบางอย่าง และมีเสียงโห่ร้องของพวกแก๊งกระรอกปีศาจที่ดังมาเป็นระลอกๆ อีกด้วย
บรื้นนนนน! บรื้นนนนนน!!! …พร้อมกับมีควันจากการเผายางตลบอบอวลออกมา
เหล่ารถมอเตอร์ไซค์ต่างคำรามออกมาเสียงดังด้วยการบิดคันเร่งของคนขับ จินหันไปมองพวกคู่แข่งที่ก็หันมามองเช่นกัน และพวกนั้นยังทำท่าปาดคอจินเป็นการข่มขู่อีกด้วย
พรึ่บ!
บรื้นนนนนนนนน!!! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ทันทีที่หญิงสาวตรงหน้าทิ้งกางเกงในมือลงพื้น เหล่าผู้แข่งขันทั้งหมดต่างบิดคันเร่งสับเกียร์วิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทำเอากระโปรงตัวน้อยที่เธอสวมอยู่ปลิวไปตามแรงลมของรถที่วิ่งออกไป ซึ่งดูเหมือนจินจะเป็นฝ่ายตามไรชูที่ขับนำอยู่ โดยอีกสองคนกำลังขับตามมาอย่างกระชันชิด
เส้นทางแรกที่พวกเขาเจอนั้นเป็นทางคดเคี้ยวที่เลี้ยวไปมาและมีมุมอับสายตาอยู่เรื่อยๆ ทุกโค้งที่ขับผ่าน จินสามารถบังคับรถได้อย่างดีเยี่ยมและถ่วงสมดุลได้อย่างลงตัว ซึ่งกำลังขับตามไรชูไปเรื่อยๆ แล้วทันใดนั้นเขาก็เห็นไรชูยกมือเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา
ชิ้งงงงงง!!!
“เฮ้ย!” จินอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะทันใดนั้นพื้นตรงหน้าของจินก็ปรากฎหนามแหลมยาวเกือบครึ่งเมตรออกมา
“คุณจิน!!!” เหล่าพรรคพวกไคนุตะโกนออกมาเสียงดัง ท่ามกลางความสะใจของพวกแก๊งกระรอกปีศาจ
โปรดติดตามตอนต่อไป...
HAVE A GOOD TIME !
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาดูพี่จินเราจะชนะยังใง
ได้เวลาตบเกรียน