ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My mafia girl มาเฟียคนดีรักพี่นะคะ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : การเดินทางที่คาดไม่ถึง

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 57


    บทที่ 1

    การเดินทางที่คาดไม่ถึง

     

                “บี้ตื่น!!!ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”เสียงของคุณแม่สุดที่รักของฉันดังขึ้น ฉันเลยต้องลุกขึ้นมานั่งบิด

    ขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ แต่เพราะฉันยังงัวเงียตื่นไม่เต็มตา

    เลยไม่ทันได้ดูอะไร ประตูห้องน้ำเจ้ากรรมก็ดันเปิดมากระแทกหน้าฉันเต็มๆแบบพอดิบพอดีเอามากๆด้วย

    นะเลือดกำเดาฉันไหลด้วยอ่ะ ฉันตื่นเต็มตาเลยทีเดียวนะเนี่ย!!

                “อ้าวพ่อ!!เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ?”ฉันถามทันทีเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง

                “ก็เออน่ะสิ!!แล้วแกไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะจะเข้าไปอาบก็ไปเร็วๆ”พ่อพูดแล้วก็พูดโดยที่ไม่สัง

    เกตเลยว่าเลือดกำเดาฉันไหลออกมาไม่หยุดแต่ฉันก็ต้องรีบลุกไปอาบน้ำเพราะพ่อกับแม่ต่างบอกว่าเดี๋ยวจะ

    ไปไม่ทัน ไม่ถึง 10 นาทีฉันก็ออกมาจากห้องน้ำฉันรีบไปแต่งตัวโดยใส่ชุดประจำของฉันซึ่งก็คือเสื้อยืดกาง

    เกงยีนสุดเท่ของฉัน ^-^

                “เฮ้ย!!แกแต่งตัวอะไรของแกเนี่ย? มานี่เลย”แม่ฉันเห็นเลยโวยใหญ่แล้วลากฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

    ใหม่โดยเสื้อที่ใส่เป็นชุดเดรสเกาะอกผ้าพลิ้ว ผมฉันถูกดัดลอนจนเด้งดึ๋งเลยมั้ง รองเท้าส้นเข็มสูงประมาณ

    สามนิ้วมั้งนะ แต่งหน้าจนฉันดูเป็นสาวสะพรั่งไปเลยอ่ะทั้งๆที่ฉันอายุแค่ 17 เองนะไม่ถึงห้านาทีแม่ฉันก็

    จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพเลยอ่ะบอกตรงๆนะแม่ฉันเก่งเว่อร์

                “ไปเร็วเดี๋ยวไปไม่ทัน”พ่อพูดแล้วจัดการขึ้นรถเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่องฉันรีบเดินด้วยความเร็ว

    แต่มันก็ไม่ได้เร็วให้ดั่งใจคิดเพราะฉันยังไม่ค่อยชินกับรองเท้าส้นเข็มถึงแม้จะใส่มาแล้วหลายครั้งก็ตามพอ

    ฉันขึ้นรถเรียบร้อยแล้วพ่อก็ออกตัวไปด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติจนมาถึงสนามบิน

                “พ่อมาทำอะไรที่สนามบินเนี่ย?”ฉันถามไปด้วยความสงสัยแล้วก็เหมือนเคยได้ค้อนกลับมาทุกที

    เลย พ่อฉันหันไปเอากระเป๋าลงจากหลังรถแต่ เอ๊ะ!!!กระเป๋าพวกนั้นมันของแบรนด์เนมเลยนี่นามีสี่ใบเอ่อ...

    ลืมบอกไปว่าลากน้องชายมาด้วยตอนนี้อายุเจ็ดขวบกว่าๆแล้วหล่อเหมือนพ่อสวยเหมือนแม่และที่สำคัญ

    กวนประสาทเหมือนพี่มันแบบพิมพ์เดียวกันเลยก็ว่าได้ พ่อฉันตรงไปจัดการกับกระเป๋าและเรื่องอื่นๆที่ไม่

    ต้องการให้ฉันช่วยอ่ะนะ ฉันกับแม่และน้องชายเลยได้แต่ยืนรอแต่ระหว่างที่รอก็มีคนเดินเข้ามาหาแต่งตัว

    คล้ายฉันเพราะต่างกันตรงที่ว่าคนที่เดินมาเป็นเดรสแขนตุ๊กตาและเนื้อผ้าเป็นผ้าชีฟองสีสดฉันจึงพยายาม

    เพ่งมอง

                “ไอ้เปรี้ยว!!!!!”ฉันตะโกนออกไปทันทีที่จำหน้าเพื่อนสมัยเรียนได้บอกตรงๆนะว่าเพื่อนของฉันมัน

    สวยมากอ่ะเล่นซะฉันจำไม่ได้เลยอ่ะ กว่าคนสายตาสั้น 200 อย่างฉันจะจำได้ก็เล่นเอาปวดตาไปเลยทีเดียว

    จะว่าไปแล้วไอ้เปรี้ยวมันก็สวยกว่าฉันอีกนะเนี่ยและดูๆแล้วมันจะดูสบายตัวมากเลยกับการแต่งสวยแบบนี้

    สงสัยถูกอบรมแบบจัดหนักแน่ๆเลย

                “ไงทุม?...ไม่เจอกันนานสวยเชียวนะ”ที่ยังเหมือนเดิมคงจะน้ำเสียงกับการพูดจาของมันเนี่ยแหละที่

    ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

          ‘เที่ยวบินที่xxxกรุงเทพฯ-โซลเชิญที่ช่องผู้โดยสารขาออกที่....เสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นพอดีกับที่พ่อฉัน

    เดินเข้ามาหลังจากทำเรื่องต่างๆเสร็จเรียบร้อยและตอนนี้การเดินทางของพวกเราทั้งห้าคนกำลังเป็นไป

    อย่างเรียบง่ายและจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเวลาข้างหน้านี้มีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รู้อะไรกับใครเขา

    เลย

         ตอนนี้ฉันมานั่งอยู่บนเครื่องบินแล้วอย่าคิดมากเวลาเครื่องขึ้นมันอาจสั่นนิดๆและอย่าลืมปิดมือถือสื่อ

    พกพาทุกชนิดด้วยนะ ตั้งแต่ฉันขึ้นมายังไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่นิด ปกติฉันหลับง่ายแค่เจออะไรนุ่มๆก็สลบคา

    ที่ไปนานแล้ว เพราะฉันไม่รู้สึกง่วงจึงชวนไอ้เปรี้ยวคุยเล่นกันไปตามประสาคุยไปคุยมาจนฉันรู้ว่าตอนนี้ไอ้

    เปรี้ยวไม่ได้อยู่กับแม่มันแล้วเพราะถูกไล่ออกจากบ้านหลังจากเดบิวต์เพลงแรกของวงปริ๊นซ์เซส บังเอิญแม่

    มันเกิดมีอารมณ์อยากฟังเพลงป็อปเข้า เลยเปิดช่องเพลงดูแต่ไอ้คนเป็นวีเจดันบ้าอะไรไม่รู้เปิดเพลงของเรา

    เข้า แม่มันก็อคติกับฉันมาตั้งแต่เข้าม.1เลยเกิดเรื่องบานปลายหนักเข้าไปอีก เจอแบบนี้ไม่ไหวนะเนี่ยฉัน

    ชื่อวงของพวกเราก็ดูท่าว่าจะแหววแต่ขอโทษนะเราฮิพฮอพค่ะ ท่าเต้นแบบวงเคป็อปอะไรแบบนั้นเลย

         ในที่สุดฉันก็ได้มาเหยียบเกาหลีที่ใฝ่ฝัน ใช้เวลาไม่นานจริงๆฉันและคนอื่นๆยืนรอพ่ออีกตามเคยส่วน

    พ่อก็เหมือนเดิม กระเป๋าเดินทางมันหน้าที่ของผู้ชาย แต่น้องฉันยังเด็กย่ะไม่เกี่ยว พอพ่อเดินกลับมาก็เดิน

    นำพวกเราไปที่ทางออกของสนามบิน แล้วระหว่างที่เดินอยู่จู่ๆก็มีลีมูซีนคันหรูมาจอดขวางทางและมีพนัก

    งานคนหนึ่งเปิดประตูออกมาแล้วก็มาลากเอากระเป๋าของพวกเราไปใส่ไว้หลังรถแล้วก็เปิดประตูให้พวกเรา

    เข้าไป พ่อเงียบไม่พูดไม่จาอะไรจนฉันอดที่จะถามไม่ได้ว่า

                “พ่อ!!!ทำไมมีลีมูซีนมารับอ่ะ?”พ่อไม่ตอบแต่จู่ๆก็ยื่นอะไรไม่รู้มาให้ฉันอันนึงก่อนจะยื่นให้ไอ้เปรี้ยว

    อีกอัน พอฉันเปิดดูมันคือคอนแทคเลนส์แบบสียี่ห้อระดับแพงหูฉี่ทั้งของฉันและไอ้เปรี้ยวเลย แม่เห็นฉันมัวแต่

    อึ้งเลยบอกให้ฉันรีบใส่ สีที่ฉันได้คือสีฟ้าส่วนของไอ้เปรี้ยวสีเฮเซล แต่ของฉันเป็นแบบสายตาสั้นเฉพาะคงจะ

    แพงน่าดูแต่ของเปรี้ยวคงถูกกว่านิดหน่อย

                “แม่ไปเอาของพวกนี้มาจากไหนอ่ะ?”ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยอย่างคนอยากรู้อยากเห็น เอา

    จริงๆฉันถามตั้งแต่มาก็เยอะแล้วแหละ

                “มีคนส่งมาให้จากเกาหลีและมีโน้ตเขียนไว้ว่าชุดสำหรับโซล่า”เพียงแค่คำตอบนี้ออกมาจากปาก

    แม่ฉันเท่านั้นไอ้เปรี้ยวถึงกับต้องหันมามองแต่กลับไม่พูดอะไรฉันสงสัยจึงถามออกไปว่า

                “เปรี้ยวเป็นอะไรเห็นจะพูดอะไร บอกหน่อยได้มั้ย?”ฉันพูดตามประสาเพื่อนตามความเคยชิน

                “ก็ที่แม่แกบอก...เค้าก็ได้แบบนั้นเหมือนกัน”เพียงไอ้เปรี้ยวตอบมาเท่านั้นฉันก็พูดอะไรไม่ออก

    เลยทีเดียว เรื่องนี้ฉันไม่รู้อยู่แค่คนเดียวเองอย่างงั้นเหรอเนี่ย

         ฉันนั่งเงียบอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ยอมพูดจาอะไรกับใคร ฉันอึ้งจนพูดไม่ออกที่อึ้งไม่ใช่อะไรหรอกแค่ฉัน

    ไม่คิดว่าคนเกาหลีจะต้องการนักร้องแบบพวกฉันต่างหากเพราะว่ามีนักร้องอีกมากมายที่มีความสามารถ

    มากกว่าฉันทั้งสองคน ไม่นานรถก็มาจอดอยู่หน้าตึกที่ฉันรู้จักมันเป็นอย่างดี ฉันแทบเป็นลมเมื่อรู้ว่าที่นี่คือ

    ตึกทีเอสที่ฉันใฝ่ฝันอยากจะมาสักครั้ง ฉันลงมาจากรถได้ก็ยืนมองตึกตาค้างอยู่นานพอสมควรจนแม่ต้อง

    เรียกให้เดินตามเข้าไป แต่เพราะฉันใส่ส้นเข็มประกอบกับใส่คอนแทคเลนส์ฉันจึงเดินไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่

    ฉันเซไปชนผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนออกไป ฉันรีบกล่าวขอโทษทันทีแต่เธอคนนั้นกลับมองตอบกลับ

    มาด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลยเนี่ยน่ะซิที่น่ากลัว แต่นึกๆไปแล้วเธอคนนี้ก็หน้าตาคุ้นๆเหมือนเคย

    เจอที่ไหนแต่นึกให้ตายยังไงก็นึกไม่ออกและที่สำคัญเธอคนนั้นคงไม่อยากผูกมิตรกับฉันสักเท่าไหร่ ฉันจึง

    ตัดสินใจที่จะไม่คิดและเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วจู่ๆก็มีคนเดินเข้ามาแล้วถามเราว่า

                “พวกคุณคือคนที่เราส่งรถไปรับมาใช่มั้ยครับ?”เขาคนนั้นดูยังไงก็ไม่ใช่คนไทยแต่ดูเขาพูดไทยได้

    และชัดมากๆพอเขาถามมาฉันจึงพยักหน้ารับเพราะไม่ทันตั้งตัวและยังไม่พร้อมกับสถานการณ์ใดๆด้วย

        เขาพาพวกเราเดินไปที่ห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่สุดทางเดินเลยทีเดียว แต่ฉันดันเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ยิ่งเดิน

    เข้าไปใกล้ห้องๆนั้นฉันยิ่งรู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออกและที่หนักกว่านั้นคือฉันมีเหงื่อไหล

    ออกมาตามไรผมและฝ่ามือแม้ที่นี่จะหนาวจับขั้วหัวใจก็ตามที เพราะฉันตื่นเต้นมากไปเลยเกิดอาการแบบนี้

    มั้ง ฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอกับอะไรที่อยู่ภายในห้องนั้น แต่ฉันรู้ว่าตอนนี้ภายในห้องนั้นมีใครหลายคนรอพวกเรา

    อยู่และไม่ได้มีแค่สามถึงสี่คนด้วยแต่มีมากกว่านั้นแต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีเท่าไหร่กันกันแน่และพอพวกเราเดิน

    เข้าไปภายในห้องทุกคนก็ลุกขึ้นต้อนรับ ห้องนี้ถูกจัดไว้สวยมากจนฉันยืนมองอยู่นานเลยทีเดียวแต่สิ่งที่เรียก

    สติฉันกลับมาก็ไม่ใช่อะไรนอกจาก....ต๊าย!!!!ไม่อยากพูดหล่ออ่ะ...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอ...เอ่อ...เพ้อพอ

    แล้วเนาะ ฉันได้สติกลับมาแต่ก็ดันเตลิดไปอีกจนได้ เพราะพวกเขากระต่ายเถื่อนจากดาวมาโทผู้ต้องการยึด

    ครองโลกใบนี้ในนามว่า B.A.P

        อย่าให้ฉันต้องอธิบายอะไรมากเลยนะว่าหนุ่มๆทั้งหกคนนี้เป็นเช่นไรและพวกเขามีชื่อว่าอะไรเพราะเดี๋ยว

    มันจะยาวยืดและเดินเรื่องไปอีกไกล งั้นเดี๋ยวฉันจะบอกให้ว่าใครชื่ออะไร

        คนแรกเขาคือลีดเดอร์ของวงและเป็นนักรบที่รักปืนใหญ่มาก เขาชื่อ บัง ยงกุก , ชิชิมาโท

        คนที่สองเขาคือร้องเสริมของวงและเป็นผู้บัญชาการที่น่ารัก เขาชื่อ คิม ฮิมชาน , ทาทสึมาโท

        คนที่สามเขาคือร้องนำของวงและเป็นนักคิดที่ไม่ค่อยพูด เขาชื่อ จอง แดฮยอน , คิคิมาโท

        คนที่สี่เขาคือเสียงหลักของวงและเป็นนักรบเจ้าวางแผน เขาชื่อ ยู ยองแจ , โจโกมาโท

        คนที่ห้าเขาคือเต้นหลักของวงและเป็นนักรบที่เชื่อฟังคำสั่ง เขาชื่อ มุน จงออบ , ดาด้ามาโท

        คนสุดท้ายเขาคือแร็ปเปอร์และเป็นหุ่นยนต์ที่แฮงค์บ่อย เขาชื่อ ชเว จุนฮง , โทโทมาโท

    ในความคิดฉันพวกเขาน่ารักมากและสามารถครองโลกได้ทั้งใบด้วยความน่ารักนั้น ถ้าเขาคิดจะใช้มันบ้าง

    อะนะแต่ถึงไม่ใช้พวกเขาก็ทำได้เพราะความเท่ของพวกเขาอยู่ดี
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×