คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : การเดินทางที่คาดไม่ถึง
บทที่ 1
การเดินทางที่คาดไม่ถึง
“บี้ตื่น!!!ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”เสียงของคุณแม่สุดที่รักของฉันดังขึ้น ฉันเลยต้องลุกขึ้นมานั่งบิด
ขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ แต่เพราะฉันยังงัวเงียตื่นไม่เต็มตา
เลยไม่ทันได้ดูอะไร ประตูห้องน้ำเจ้ากรรมก็ดันเปิดมากระแทกหน้าฉันเต็มๆแบบพอดิบพอดีเอามากๆด้วย
นะเลือดกำเดาฉันไหลด้วยอ่ะ ฉันตื่นเต็มตาเลยทีเดียวนะเนี่ย!!
“อ้าวพ่อ!!เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ?”ฉันถามทันทีเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ก็เออน่ะสิ!!แล้วแกไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะจะเข้าไปอาบก็ไปเร็วๆ”พ่อพูดแล้วก็พูดโดยที่ไม่สัง
เกตเลยว่าเลือดกำเดาฉันไหลออกมาไม่หยุดแต่ฉันก็ต้องรีบลุกไปอาบน้ำเพราะพ่อกับแม่ต่างบอกว่าเดี๋ยวจะ
ไปไม่ทัน ไม่ถึง 10 นาทีฉันก็ออกมาจากห้องน้ำฉันรีบไปแต่งตัวโดยใส่ชุดประจำของฉันซึ่งก็คือเสื้อยืดกาง
เกงยีนสุดเท่ของฉัน ^-^
“เฮ้ย!!แกแต่งตัวอะไรของแกเนี่ย? มานี่เลย”แม่ฉันเห็นเลยโวยใหญ่แล้วลากฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ใหม่โดยเสื้อที่ใส่เป็นชุดเดรสเกาะอกผ้าพลิ้ว ผมฉันถูกดัดลอนจนเด้งดึ๋งเลยมั้ง รองเท้าส้นเข็มสูงประมาณ
สามนิ้วมั้งนะ แต่งหน้าจนฉันดูเป็นสาวสะพรั่งไปเลยอ่ะทั้งๆที่ฉันอายุแค่ 17 เองนะไม่ถึงห้านาทีแม่ฉันก็
จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพเลยอ่ะบอกตรงๆนะแม่ฉันเก่งเว่อร์
“ไปเร็วเดี๋ยวไปไม่ทัน”พ่อพูดแล้วจัดการขึ้นรถเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่องฉันรีบเดินด้วยความเร็ว
แต่มันก็ไม่ได้เร็วให้ดั่งใจคิดเพราะฉันยังไม่ค่อยชินกับรองเท้าส้นเข็มถึงแม้จะใส่มาแล้วหลายครั้งก็ตามพอ
ฉันขึ้นรถเรียบร้อยแล้วพ่อก็ออกตัวไปด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติจนมาถึงสนามบิน
“พ่อมาทำอะไรที่สนามบินเนี่ย?”ฉันถามไปด้วยความสงสัยแล้วก็เหมือนเคยได้ค้อนกลับมาทุกที
เลย พ่อฉันหันไปเอากระเป๋าลงจากหลังรถแต่ เอ๊ะ!!!กระเป๋าพวกนั้นมันของแบรนด์เนมเลยนี่นามีสี่ใบเอ่อ...
ลืมบอกไปว่าลากน้องชายมาด้วยตอนนี้อายุเจ็ดขวบกว่าๆแล้วหล่อเหมือนพ่อสวยเหมือนแม่และที่สำคัญ
กวนประสาทเหมือนพี่มันแบบพิมพ์เดียวกันเลยก็ว่าได้ พ่อฉันตรงไปจัดการกับกระเป๋าและเรื่องอื่นๆที่ไม่
ต้องการให้ฉันช่วยอ่ะนะ ฉันกับแม่และน้องชายเลยได้แต่ยืนรอแต่ระหว่างที่รอก็มีคนเดินเข้ามาหาแต่งตัว
คล้ายฉันเพราะต่างกันตรงที่ว่าคนที่เดินมาเป็นเดรสแขนตุ๊กตาและเนื้อผ้าเป็นผ้าชีฟองสีสดฉันจึงพยายาม
เพ่งมอง
“ไอ้เปรี้ยว!!!!!”ฉันตะโกนออกไปทันทีที่จำหน้าเพื่อนสมัยเรียนได้บอกตรงๆนะว่าเพื่อนของฉันมัน
สวยมากอ่ะเล่นซะฉันจำไม่ได้เลยอ่ะ กว่าคนสายตาสั้น 200 อย่างฉันจะจำได้ก็เล่นเอาปวดตาไปเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้วไอ้เปรี้ยวมันก็สวยกว่าฉันอีกนะเนี่ยและดูๆแล้วมันจะดูสบายตัวมากเลยกับการแต่งสวยแบบนี้
สงสัยถูกอบรมแบบจัดหนักแน่ๆเลย
“ไงทุม?...ไม่เจอกันนานสวยเชียวนะ”ที่ยังเหมือนเดิมคงจะน้ำเสียงกับการพูดจาของมันเนี่ยแหละที่
ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
‘เที่ยวบินที่xxxกรุงเทพฯ-โซลเชิญที่ช่องผู้โดยสารขาออกที่....’เสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นพอดีกับที่พ่อฉัน
เดินเข้ามาหลังจากทำเรื่องต่างๆเสร็จเรียบร้อยและตอนนี้การเดินทางของพวกเราทั้งห้าคนกำลังเป็นไป
อย่างเรียบง่ายและจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเวลาข้างหน้านี้มีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รู้อะไรกับใครเขา
เลย
ตอนนี้ฉันมานั่งอยู่บนเครื่องบินแล้วอย่าคิดมากเวลาเครื่องขึ้นมันอาจสั่นนิดๆและอย่าลืมปิดมือถือสื่อ
พกพาทุกชนิดด้วยนะ ตั้งแต่ฉันขึ้นมายังไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่นิด ปกติฉันหลับง่ายแค่เจออะไรนุ่มๆก็สลบคา
ที่ไปนานแล้ว เพราะฉันไม่รู้สึกง่วงจึงชวนไอ้เปรี้ยวคุยเล่นกันไปตามประสาคุยไปคุยมาจนฉันรู้ว่าตอนนี้ไอ้
เปรี้ยวไม่ได้อยู่กับแม่มันแล้วเพราะถูกไล่ออกจากบ้านหลังจากเดบิวต์เพลงแรกของวงปริ๊นซ์เซส บังเอิญแม่
มันเกิดมีอารมณ์อยากฟังเพลงป็อปเข้า เลยเปิดช่องเพลงดูแต่ไอ้คนเป็นวีเจดันบ้าอะไรไม่รู้เปิดเพลงของเรา
เข้า แม่มันก็อคติกับฉันมาตั้งแต่เข้าม.1เลยเกิดเรื่องบานปลายหนักเข้าไปอีก เจอแบบนี้ไม่ไหวนะเนี่ยฉัน
ชื่อวงของพวกเราก็ดูท่าว่าจะแหววแต่ขอโทษนะเราฮิพฮอพค่ะ ท่าเต้นแบบวงเคป็อปอะไรแบบนั้นเลย
ในที่สุดฉันก็ได้มาเหยียบเกาหลีที่ใฝ่ฝัน ใช้เวลาไม่นานจริงๆฉันและคนอื่นๆยืนรอพ่ออีกตามเคยส่วน
พ่อก็เหมือนเดิม กระเป๋าเดินทางมันหน้าที่ของผู้ชาย แต่น้องฉันยังเด็กย่ะไม่เกี่ยว พอพ่อเดินกลับมาก็เดิน
นำพวกเราไปที่ทางออกของสนามบิน แล้วระหว่างที่เดินอยู่จู่ๆก็มีลีมูซีนคันหรูมาจอดขวางทางและมีพนัก
งานคนหนึ่งเปิดประตูออกมาแล้วก็มาลากเอากระเป๋าของพวกเราไปใส่ไว้หลังรถแล้วก็เปิดประตูให้พวกเรา
เข้าไป พ่อเงียบไม่พูดไม่จาอะไรจนฉันอดที่จะถามไม่ได้ว่า
“พ่อ!!!ทำไมมีลีมูซีนมารับอ่ะ?”พ่อไม่ตอบแต่จู่ๆก็ยื่นอะไรไม่รู้มาให้ฉันอันนึงก่อนจะยื่นให้ไอ้เปรี้ยว
อีกอัน พอฉันเปิดดูมันคือคอนแทคเลนส์แบบสียี่ห้อระดับแพงหูฉี่ทั้งของฉันและไอ้เปรี้ยวเลย แม่เห็นฉันมัวแต่
อึ้งเลยบอกให้ฉันรีบใส่ สีที่ฉันได้คือสีฟ้าส่วนของไอ้เปรี้ยวสีเฮเซล แต่ของฉันเป็นแบบสายตาสั้นเฉพาะคงจะ
แพงน่าดูแต่ของเปรี้ยวคงถูกกว่านิดหน่อย
“แม่ไปเอาของพวกนี้มาจากไหนอ่ะ?”ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยอย่างคนอยากรู้อยากเห็น เอา
จริงๆฉันถามตั้งแต่มาก็เยอะแล้วแหละ
“มีคนส่งมาให้จากเกาหลีและมีโน้ตเขียนไว้ว่าชุดสำหรับโซล่า”เพียงแค่คำตอบนี้ออกมาจากปาก
แม่ฉันเท่านั้นไอ้เปรี้ยวถึงกับต้องหันมามองแต่กลับไม่พูดอะไรฉันสงสัยจึงถามออกไปว่า
“เปรี้ยวเป็นอะไรเห็นจะพูดอะไร บอกหน่อยได้มั้ย?”ฉันพูดตามประสาเพื่อนตามความเคยชิน
“ก็ที่แม่แกบอก...เค้าก็ได้แบบนั้นเหมือนกัน”เพียงไอ้เปรี้ยวตอบมาเท่านั้นฉันก็พูดอะไรไม่ออก
เลยทีเดียว เรื่องนี้ฉันไม่รู้อยู่แค่คนเดียวเองอย่างงั้นเหรอเนี่ย
ฉันนั่งเงียบอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ยอมพูดจาอะไรกับใคร ฉันอึ้งจนพูดไม่ออกที่อึ้งไม่ใช่อะไรหรอกแค่ฉัน
ไม่คิดว่าคนเกาหลีจะต้องการนักร้องแบบพวกฉันต่างหากเพราะว่ามีนักร้องอีกมากมายที่มีความสามารถ
มากกว่าฉันทั้งสองคน ไม่นานรถก็มาจอดอยู่หน้าตึกที่ฉันรู้จักมันเป็นอย่างดี ฉันแทบเป็นลมเมื่อรู้ว่าที่นี่คือ
ตึกทีเอสที่ฉันใฝ่ฝันอยากจะมาสักครั้ง ฉันลงมาจากรถได้ก็ยืนมองตึกตาค้างอยู่นานพอสมควรจนแม่ต้อง
เรียกให้เดินตามเข้าไป แต่เพราะฉันใส่ส้นเข็มประกอบกับใส่คอนแทคเลนส์ฉันจึงเดินไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
ฉันเซไปชนผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนออกไป ฉันรีบกล่าวขอโทษทันทีแต่เธอคนนั้นกลับมองตอบกลับ
มาด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลยเนี่ยน่ะซิที่น่ากลัว แต่นึกๆไปแล้วเธอคนนี้ก็หน้าตาคุ้นๆเหมือนเคย
เจอที่ไหนแต่นึกให้ตายยังไงก็นึกไม่ออกและที่สำคัญเธอคนนั้นคงไม่อยากผูกมิตรกับฉันสักเท่าไหร่ ฉันจึง
ตัดสินใจที่จะไม่คิดและเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วจู่ๆก็มีคนเดินเข้ามาแล้วถามเราว่า
“พวกคุณคือคนที่เราส่งรถไปรับมาใช่มั้ยครับ?”เขาคนนั้นดูยังไงก็ไม่ใช่คนไทยแต่ดูเขาพูดไทยได้
และชัดมากๆพอเขาถามมาฉันจึงพยักหน้ารับเพราะไม่ทันตั้งตัวและยังไม่พร้อมกับสถานการณ์ใดๆด้วย
เขาพาพวกเราเดินไปที่ห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่สุดทางเดินเลยทีเดียว แต่ฉันดันเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ยิ่งเดิน
เข้าไปใกล้ห้องๆนั้นฉันยิ่งรู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออกและที่หนักกว่านั้นคือฉันมีเหงื่อไหล
ออกมาตามไรผมและฝ่ามือแม้ที่นี่จะหนาวจับขั้วหัวใจก็ตามที เพราะฉันตื่นเต้นมากไปเลยเกิดอาการแบบนี้
มั้ง ฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอกับอะไรที่อยู่ภายในห้องนั้น แต่ฉันรู้ว่าตอนนี้ภายในห้องนั้นมีใครหลายคนรอพวกเรา
อยู่และไม่ได้มีแค่สามถึงสี่คนด้วยแต่มีมากกว่านั้นแต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีเท่าไหร่กันกันแน่และพอพวกเราเดิน
เข้าไปภายในห้องทุกคนก็ลุกขึ้นต้อนรับ ห้องนี้ถูกจัดไว้สวยมากจนฉันยืนมองอยู่นานเลยทีเดียวแต่สิ่งที่เรียก
สติฉันกลับมาก็ไม่ใช่อะไรนอกจาก....ต๊าย!!!!ไม่อยากพูดหล่ออ่ะ...เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอ...เอ่อ...เพ้อพอ
แล้วเนาะ ฉันได้สติกลับมาแต่ก็ดันเตลิดไปอีกจนได้ เพราะพวกเขากระต่ายเถื่อนจากดาวมาโทผู้ต้องการยึด
ครองโลกใบนี้ในนามว่า B.A.P
อย่าให้ฉันต้องอธิบายอะไรมากเลยนะว่าหนุ่มๆทั้งหกคนนี้เป็นเช่นไรและพวกเขามีชื่อว่าอะไรเพราะเดี๋ยว
มันจะยาวยืดและเดินเรื่องไปอีกไกล งั้นเดี๋ยวฉันจะบอกให้ว่าใครชื่ออะไร
คนแรกเขาคือลีดเดอร์ของวงและเป็นนักรบที่รักปืนใหญ่มาก เขาชื่อ บัง ยงกุก , ชิชิมาโท
คนที่สองเขาคือร้องเสริมของวงและเป็นผู้บัญชาการที่น่ารัก เขาชื่อ คิม ฮิมชาน , ทาทสึมาโท
คนที่สามเขาคือร้องนำของวงและเป็นนักคิดที่ไม่ค่อยพูด เขาชื่อ จอง แดฮยอน , คิคิมาโท
คนที่สี่เขาคือเสียงหลักของวงและเป็นนักรบเจ้าวางแผน เขาชื่อ ยู ยองแจ , โจโกมาโท
คนที่ห้าเขาคือเต้นหลักของวงและเป็นนักรบที่เชื่อฟังคำสั่ง เขาชื่อ มุน จงออบ , ดาด้ามาโท
คนสุดท้ายเขาคือแร็ปเปอร์และเป็นหุ่นยนต์ที่แฮงค์บ่อย เขาชื่อ ชเว จุนฮง , โทโทมาโท
ในความคิดฉันพวกเขาน่ารักมากและสามารถครองโลกได้ทั้งใบด้วยความน่ารักนั้น ถ้าเขาคิดจะใช้มันบ้าง
อะนะแต่ถึงไม่ใช้พวกเขาก็ทำได้เพราะความเท่ของพวกเขาอยู่ดี
ความคิดเห็น