คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แผนการ
ตอนที่ 4
- ปฐวี -
หลังจากทานข้าวกับดูหนังเรียบร้อยชะเอมก็มาส่งผมที่คอนโด กะว่าจะเข้าห้องแล้วนอนซะหน่อยเพราะวันนี้ใช้พลังงานไปเยอะมากกับการเดินเล่นที่ห้างและการทะเลาะวิวาทกับแบม เออ...ใช่ พอพูดถึงแบมผมก็นึกขึ้นได้ว่ากฤษส่งข้อความมาหาว่าจะมารับไปงานเลี้ยง แต่ไม่อยากไปเลยอ่ะ เอาไว้ค่อยโทรไปปฏิเสธแต่ตอนนี้ขอไปอาบน้ำก่อนดีกว่า
“ตือ ดึ๊ด!!!” เสียงจากเอ็มเอสเอ็นดังขึ้น ตอนที่ผมกำลังนั่งเช็คอีเมลล์อยู่หลังจากอาบน้ำแล้ว
‘คนในมุมมืด’ : สวัสดีครับ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : ครับ ใครอ่าครับ
‘คนในมุมมืด’ : คนในมุมมืดครับ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : อ่า แล้วชื่อไรอ่าครับ
‘คนในมุมมืด’ : ไม่บอกได้ไหม ว่าแต่วีทำไรอยู่
‘วีคุงงั๊ฟ’ : อืม แล้วรู้จักกับวีหรอ ใครอ่า
‘คนในมุมมืด’ : แล้วสักวันวีก็รู้เองครับ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : หรอ เอมใช่แกหรือเปล่า หรือว่ากรีอ่ะ วีไม่ตลกนะกำลังทำงานอยู่
‘คนในมุมมืด’ : ใครหรอครับ แฟนหรือเพื่อน
‘วีคุงงั๊ฟ’ : ไม่ใช่จริงๆหรอ ขอโทษครับ
‘คนในมุมมืด’ : ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่วีทำงานอยู่หรอครับ ผมไม่กวนแล้วนะครับ เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : ครับ
‘คนในมุมมืด’ : ว่าแต่ขอเบอร์ได้ไหมครับ อยากคุยด้วยจริงๆ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : คิดว่าผมจะให้ไหมละครับ
‘คนในมุมมืด’ : อือครับ ไม่เป็นไร แล้วมีแฟนยังครับ
‘วีคุงงั๊ฟ’ : แล้วคิดว่าไงละครับ
‘คนในมุมมืด’ : ไม่รู้สิครับ วีออกจะน่ารัก ไม่มีแฟนก็บ้าแล้วแต่ไม่เป็นไรผมรอได้
‘วีคุงงั๊ฟ’ : ฮ่าๆๆๆ วียังโสดครับ แต่ไหนบอกว่าจะไม่กวนแล้วไงครับ
‘คนในมุมมืด’ : อ๋อ โทษทีครับ ฝันดีนะ บาย
‘วีคุงงั๊ฟ’ : ครับ บาย
หลังจากคุยเสร็จผมก็โทรหาเอมและกรีทันทีว่าสองคนนี้แกล้งผมหรือเปล่า สรุปคือไม่ ผมเลยเอาเมลล์ให้ทั้งสองคนช่วยผมสืบหาให้หน่อยว่าคนในมุมมืดคือใคร ก่อนจะโทรไปหากฤษเพื่อจะปฏิเสธที่จะไปงานเลี้ยงที่คอนโดเพื่อนของกฤษ
เช้าต่อมาผมก็ออกจากห้องในช่วงสายๆเพื่อจะไปมหาวิทยาลัย แต่วันนี้ผมต้องขับรถไปเองเพราะว่ากฤษมีเรียนบ่ายโน้น ส่วนกรีก็ต้องไปส่งกิ่งที่มหาลัย ชะเอมบ้านมันก็อยู่คนละทางกับบ้านผม ระหว่างที่กำลังล็อคประตูอยู่นั้น ห้องของกฤษก็มีคนเดินออกมาพอดี
“อ้าววี ไปเรียนหรอ” เมื่อเขาคนนั้นเห็นผม ก็ทักทายผมตามปกติที่เคยทักกันตามประสาคนรู้จัก
“ครับผม แล้วหนอนจะไปไหนหรอ” หนอนเพื่อนของกฤษนะครับ ผมรู้จักกับหนอนเพราะว่าหนอนจะมาค้างที่ห้องกฤษบ่อยและเคยเจอกันหลายครั้งแล้วด้วย
“กฤษให้หนอนไปส่งวีที่มหา’ลัยนะ”
“ไม่ต้องก็ได้เดี๋ยววีขับรถไปเองได้ หนอนกลับไปนอนเถอะ วีไปละ” ผมยกมือบ๊ายบายหนอนแล้วเดินตรงมาหยุดรอลิฟท์
“เดี่ยววี....แฮ่กๆ หนอนกำลังจะกลับบ้านพอดี ผ่านมหาลัยวีด้วย เดี่ยวหนอนไปส่งได้” หนอนวิ่งตามผมมาหยุดหอบอยู่หน้าลิฟท์ ก่อนจะพูดออกมา
“เอางั้นก็ได้ ตามใจหนอนแล้วกัน”
“อือ”
หนอนขับรถมาส่งผมที่มหาวิทยาลัย ผมจึงชวนหนอนทานข้าวก่อนเพราะอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนที่มาส่งผม หนอนก็ตบปากรับครับ ผมจึงพาหนอนมานั่งที่โรงอาหารคณะ เมื่อได้โต๊ะนั่งแล้วผมจึงให้หนอนนั่งรอที่โต๊ะแล้วผมก็เดินไปสั่งอาหาร
“ผัวใหม่หรอ” มีคนยืนอยู่ด้านหลังของผม แล้วพูดใส่หูผมเบาๆ ให้ผมเดาผมก็เดาถูกว่าเป็นใคร เพราะทั้งมหาวิทยาลัยมีแค่มันคนเดียวเท่านั้นที่พูดแบบนี้กับผม
“ต้องการอะไร” ผมพูดออกไปโดยไม่ได้หันไปมอง
“พูดกับผู้ใหญ่ ช่วยมีมารยาทหน่อย” พูดจบมันก็กระชากแขนผมแล้วบิดข้อมือจนผมต้องหันมามองหน้ามัน
“โอ๊ยยย เจ็บนะ ต้องการอะไร”
“หึหึ เปล่าไม่มีอะไรทำ” ผมละเกลียดเสียงหัวเราะมัน ยิ่งคำพูดมันผมยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ ผมยืนจ้องตามันเขม็งซึ่งมันเองก็จ้องตาผมเหมือนจะกลืนกินผมเช่นกัน
“อ้าววี.....มีอะไร” กรีเดินเข้ามาทักผมก่อนจะหันไปถามไอรุ่นพี่บ้าเลือดด้วยน้ำเสียงกระชาก หึหึ...เพื่อนฉันมาแล้ว แกเสร็จแน่
“เปล่า..เสร็จแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันได้แล้ว แถวนี้กลิ่นคนร่านมันแรง” มันพูดพร้อมกับกระชากแขนกรีเดินออกไป ผมได้งงว่าทำไมกรีถึงยอมมันถึงขนาดนั้น หรือเพราะว่ามันรุ่นพี่ถึงได้ยอม แต่ผมว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
ผมทิ้งเรื่องตรงหน้าเอาไว้ก่อน เพราะผมทิ้งหนอนเอาไว้คนเดียวกลัวจะโดนชะนีแถวนี้จิกไปกินเสียก่อน ยิ่งหล่อ ขาว ตี๋อินเทรนด์อยู่ด้วย อยากเก็บไว้คนเดียวก็บอกมาเหอะ ก็นะขอนี๊ดนึง
“มาแล้ว หนอนหิวป่ะ โทษทีวีไปนานหน่อย” ผมพูดพร้อมกับเลื่อนจานข้าวให้หนอน
“อืม ไม่เป็นไร อ่ะนี้น้ำ” หนอนยื่นน้ำให้ผม เป็นน้ำมะนาวของโปรดของผม ซึ่งผมจะดื่มแทนน้ำปกติเลยก็ว่าได้
“ขอบคุณครับ” ผมกับหนอนเราก็เลยลงมือทานอาหารตรงหน้า เพราะรู้สึกหิวกันมากแล้วด้วย
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ” ผมกับหนอนมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ง่ะ....ไอน้องแอมแปร์นั้นเอง มารคอหอยจริงๆ
“ตามสบายเลยครับ” ไม่ใช่ผมหรอกครับ เป็นหนอนที่ตอบกลับไป ไอน้องแอมแปร์มันก็นั่งลงทันที
“พี่วีเลิกเรียนกี่โมงครับวันนี้” ไอน้องแอมแปร์ยิงคำถามใส่ผม ฉันจะกินข้าว ไม่เห็นหรือไงช้อนจ่อปากอยู่นี้ยังจะถามอยู่ได้ ด้วยความมีมารยาททางสังคมสูงผมจึงกินข้าวต่อไปโดยไม่ตอบคำถามใดๆ
ไอแอมแปร์มันก็ไม่ได้ถามอะไรอีกหลังจากนั้นเพราะผมเอาแต่ก้มหน้างุด แล้วโซ้ยข้าวอย่างไม่ลืมหูลืมตา ตายอดตายอยากมาจากไหนวะฉัน ก็มันไม่อยากตอบไม่อยากคุย ไม่อยากเสวนาด้วยนี่น่า
“วี แล้วเลิกเรียนโทรหาหนอนนะ แล้วหนอนจะมารับ” หนอนพูดขึ้นหลังจากที่ผมเดินมาส่งที่รถ
“เอางั้นหรอ ตามใจแล้วกันแต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรหรอกนะ” ผมบอกกลับไปอย่างเกรงใจ
“ครับ วันนี้หนอนว่าง จะต่อด้วยทานข้าวดูหนังฟังเพลงก็ได้นะ หนอนยินดี” เอะ ชักจะยังไงๆแล้วนะ หรือหนอนจะจีบเราว่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ โอ้ว...สวรรค์
-บุหรี่-
น่าหมั่นไส้ที่สุด ทำบ้าอะไรของมันว่ะ ทำท่าทางเหมือนกับคนบ้าไปแล้ว แมร่งแค่ผัวใหม่กลับไปถึงกับคลั่งเลยหรือไง วันๆมันทำอะไรของมันบ้างว่ะ นอกจากร่านและแรดหาผู้ชาย ตอนนี้ผม ไอเอสและกรีฑา นั่งอยู่ใต้ตึกของคณะ และกำลังมองดูการกระทำของไอวีกับผัวใหม่ของมัน
“เห้ย...เหี้ยเอสเตรียมตัว เดินมาโน่นแล้ว” ผมบอกไอเอสให้ประจำที่แล้วเริ่มทำตามแผนที่ผมกับมันวางกันเอาไว้
“นายจะทำอะไรเพื่อนเรา” ไอกรีมันพูด พร้อมกับจะเดินไปช่วยเพื่อนมัน แต่มีหรอที่ผมจะยอมให้แผนที่ผมวางไว้ ต้องมาพังไม่เป็นท่าตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม
“มึงอย่าสอด ถ้ายังอยากให้พี่สาวและหลานมึงอยู่ดีกินดี” ผมพูดแค่นั้นไอกรีก็ถึงชะงักและเดินกลับมานั่งข้างๆผม
“นายต้องการอะไร”
“มึงไม่ต้องถาม เดี๋ยวมึงก็รู้เอง อีกอย่างอย่าคิดขัดขวางหรือช่วยเหลือมัน ไม่อย่างนั้น หึหึ.....เข้าใจดีนะ” ผมบอกกับไอกรีอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ก่อนจะหันไปดูภาพตรงหน้าที่ได้ตัวละครอย่างไอเอสเป็นคนเดินเรื่อง
เอสมันเดินเข้าไปทำเป็นเดินชนไอวี แล้วมันเข้าไปช่วยไอวีพยุงตัวไว้ ดูท่าทางไอเด็กเวรนั้นจะเจ็บขานิดหน่อย เจอผู้ชายเข้าหน่อยทำสำออยเลยนะมึง ผมจึงเดินตามมันไปเงียบๆว่ามันจะไปไหนกันต่อ
“มึงนั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องตามกูมา” ผมหันไปบอกไอกรีเพราะมันลุกขึ้นยืนและเดินตามผมมา แล้วผมจึงเดินตามไอสองคนนั้นไป และหาที่แอบมองดูแถวๆนั้น
“เจ็บหรือเปล่าครับ พี่ขอโทษนะครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ไอเอสเล่นละครได้สมจริงเกินไปแล้วมึง แต่นั้นละดีแล้ว มึงสุภาพแบบนี้บวกกับหน้าตามึงแล้ว ไม่นานไอเด็กนั้นก็ต้องหลงมึงสักวัน
“ไม่เป็นไร” ไอวีตอบกลับมา แต่เสียงมันฟังดูห้วนๆว่ะ
“อย่าพูดแบบนี้ซิครับ พี่กับไอหรี่มันคนละคนกันนะครับ น้องวีไม่ชอบมันก็ไม่น่ามาลงกับพี่แบบนี้เลย” ไอเอสยังพล่ามต่อไป
“ไม่รู้ เพื่อนกันมันก็ต้องเหมือนกัน มีเพื่อนเลวมันก็เลวด้วยกันทั้งนั้น” อ้าว ไอเด็กเหี้ย ถ้าไม่ติดว่าเป็นแผนนะ กูเข้าไปตบปากแตกแล้ว
“น้องวีครับ เชื่อพี่เถอะครับ ไอหรี่มันเลวก็จริง แต่ใช่พี่จะเลวเหมือนมัน ว่าแต่เท้ายังเจ็บหรือเปล่า เดี่ยวพี่ดูให้นะครับ” อ้าวไอเพื่อนเหี้ย ด่ากูซะงั้น
“โอ๊ย เบาๆซิ เท้าคนนะ ไม่ใช่หน้าเพื่อนพี่” อ้าว ไอนี้สงสัยอยากแดกตีนกูมาก กัดกูได้อีก
“ขอโทษครับ พี่นวดให้นะครับ.......เจ็บไหมครับ” ไอเอสมึงจะลงทุนมากไปเปล่าว่ะ แมร่งแต่ก็ดีไอเด็กเวรนั้นถึงกับอายหน้าแดงเลย เก่งมากเพื่อนกู
“ฮัลโหล ว่าไงกรี.................จริงหรอ...............โอเคๆ เราจะระวัง............อืม แล้วเจอกัน” ไอวีมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุย มองไปที่หน้าไอเอส และคนที่มันคุยด้วยก็คือไอกรี ไอนี้ก็อีกคนห้ามอะไรไม่ฟัง อยากเจ็บตัวใช่ไหม
ผมเดินกลับไปที่โต๊ะที่ไอกรีนั่งอยู่ ก็เห็นมันยังนั่งอยู่ตรงนั้น ผมเดินตรงเข้าไปตบหน้ามัน 1 ทีแรงๆและหน้ามันก็หันตามแรงตบของผม
“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่ง” ผมพูดพร้อมกระชากโทรศัพท์จากมือของมันพร้อมกับเขวี้ยงลงพื้น
“ไอเลว” มันพูดพร้อมกับกำหมัดแน่นจะชกมาที่หน้าผม ผมก็ยื่นหน้าไปให้มันชก
“ทำไม มึงจะทำไม” ผมพูดพร้อมกับตบไปที่หน้ามันอีกครั้ง
“กูจะไม่ทนกับมึงอีกแล้ว” มันพูดพร้อมกับหันหลังเดินไปหยิบของที่โต๊ะ
“แต่มึงก็ต้องทนเพื่อพี่สาวและหลานมึง กูเลิกเรียนบ่าย 2 มารอกูด้วย” พูดจบผมก็เดินขึ้นห้องเรียนโดนไม่สนใจมัน ผมทำถูกไหมที่ทำแบบนี้กับมัน แต่ใครจะไปสน ขอแค่ได้มีมันอยู่ข้างๆผมก็พอใจแล้ว ไม่ได้ครอบครองก็ขอให้ได้เห็นหน้าก็ยังดี
-กรีฑา-
อยากฆ่ามันให้ตายจริงๆ ถ้าไม่ติดกับพี่สาวและหลานที่น่ารักนะ ผมฆ่ามันตายไปนานแล้ว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเกลียดใครเท่ามันมาก่อน แต่.....เฮ้ย !!!! แล้ววีละป่านนี้จะเป็นไงบ้าง ว่าแล้วผมก็วิ่งไปยังหลังตึกก็พบว่าวีมันนั่งคุยอยู่กับพี่เอสอย่างออกรส ผมไม่อยากให้เพื่อนผมติดหลุมพลางที่พวกมันขุดไว้ แต่ผมจะทำอะไรได้มากละในเมื่อชีวิตพี่สาวและหลานผมอยู่ในกำมือมัน
“วี.....ขึ้นเรียนได้แล้ว” ผมเดินเข้าไปหาวีแล้วดึงแขนวีเพื่อจะได้ไปเรียนกัน แต่วีกับสะบัดแขนผม ผมก็งงดิ วีเป็นอะไรแล้วสายตาแบบนั้นที่จ้องมองผมอย่างตัดพ้อมันหมายถึงอะไร หรือพี่เอสเป่าหูวีหรือเปล่า
“ทำไม....” ผมถามออกไปอย่างที่ใจคิด เพราะผมไม่เข้าใจ
“พี่เอสครับ ไปส่งวีหน่อยได้ไหม” วีไม่ตอบคำถามผมกลับหันไปขอความช่วยเหลือพี่เอส
“วีเป็นอะไร เจ็บเท้าหรอ ไหนขอกรีดูหน่อย” ผมพูดพร้อมกับย่อตัวนั่งหน้าวี เพื่อจะได้ดูเท้า แต่วีดันชักเท้าหลบมือผม
“ไม่ต้องมายุ่ง” วีพูดพร้อมกับเดินจากไปโดยมีพี่เอสคอยพยุง ผมเดินตามมาเพื่อช่วยพยุงแขนวีอีกข้าง แต่ก็เหมือนเดิมคือวีสะบัดมือหนีผม ผมเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่าทำไมวีถึงทำแบบนี้กับผม เพราะปกติวีจะเป็นคนที่เข้าหาผมตลอด คอยให้ผมเอาใจ แต่ทำไมวันนี้วีถึงทำตัวเหมือนรังเกียจผม ไม่เข้าใจโว้ยยยยย
ในห้องเรียนวีเลือกที่จะไม่นั่งข้างผมกับชะเอมเช่นเคย เอมมันก็ถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกันหรือเปล่า ผมก็ตอบไปตามตรงว่าไม่รู้เหมือนกัน ผมเองก็งง แต่ยังไงวันนี้ผมก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง ผมจึงยืมโทรศัพท์เอมส่งข้อความไปหาวี และบอกว่าเย็นนี้จะไปหาที่คอนโดฯ มีเรื่องจะคุยด้วย หลังเลิกเรียนผมก็ต้องมานั่งรอไอรุ่นพี่จอมกดขี่ข่มเหงที่ใต้ตึกคณะ
บ่ายสอง สิบห้า.......มันยังไม่ลงมาเลย ไหนบอกว่าเลิกเรียนบ่ายสอง แต่ผมก็ต้องรอ
บ่ายสามโมง..........ผมเริ่มเดินไปเดินมอง มองไปยังบันไดก็หลายรอบแล้วก็ยังไร้วี่แววของัน
สี่โมงเย็น.............. ชักจะเย็นไม่ไหว ทำไมผมต้องรอมันด้วย แต่เมื่อผมจะกลับหน้าพี่สาวกับหลานก็ลอยเข้ามาในมโนภาพ ทำให้ผมต้องรอมัน
ห้าโมงเย็น........... ผมตัดสินใจเดินขึ้นไปหามันบนห้องเรียน ผมเดินทุกชั้น ไล่ทุกห้อง สุดท้ายก็ไม่เจอมัน ผมถอดใจที่จะรอมันแล้วผมจึงเลือกที่จะกลับบ้าน ในเมื่อไม่เจอแปลว่ามันกลับแล้ว และในเมื่อมันกลับแปลว่ามันผิดนัด
แต่เมื่อผมเดินลงมาข้างล่างของตัวตึกก็พบว่ามันนั่งรอผมอยู่ที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ สายตาที่มันมองมาที่ผมนั้นมันน่ากลัวมาก ขนาดผมเป็นผู้ชายเองผมยังกลัวเลย
“กูบอกให้รอกู แล้วมึงไปไหน” อ้าว งงซิครับ
“.............” ไม่รู้จะตอบมันยังไง เพราะยังไงมันก็ไม่เชื่อที่ผมพูดอยู่แล้ว
“กูถาม......ทำไมมึงไม่ตอบ” มันตะคอกใส่ผม จนผมสะดุ้งด้วยความตกใจ นี้ผมกลัวมันหรอ ? ใช่แล้ว ผมกลัวมัน
“.................” ผมก็ยังเลือกที่จะเงียบ เพราะยิ่งพูดอะไรไป เดี่ยวมันจะยิ่งเดือด แต่นั้นเองที่ทำให้ผมรู้ว่าผมคิดผิด
“กูถาม” มันพูดพร้อมกับเอามือมาบีบที่คางผม กูเจ็บนะไอเหี้ยเอ้ย แต่ทำอะไรมันไม่ได้เพราะพี่สาวและหลานที่น่ารัก
“เจ็บ....ปล่อยก่อน..........ผมรอตั้งแต่บ่ายสองแล้ว แต่ผมไม่เห็นคุณมาสักที ผมเลยขึ้นไปหาคุณข้างบนและก็ลงมานี้แหละ” ผมอธิบายให้มันฟัง
“กูเลิกเรียนตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว กูลงมาไม่เห็นมึง เลยไปหามึงที่คอนโดฯ แต่ไม่มีคน ก็เลยกลับมาหามึงที่นี้อีกครั้ง แต่มึงดันไม่อยู่ กูก็โกรธดิว่ะ” ตกลงนี้ผมผิดใช่ไหม มันนัดผมบ่ายสอง แต่มันมาตอนบ่ายโมง
“แต่ผมเลิกเรียนบ่ายสอง และคุณก็นัดบ่ายสอง”
“เออ...ช่างมันเหอะ ไปแดกข้าว...กูหิวแล้ว” มันก็ดึงมือผมให้เดินตามมันไป ผมก็ตามมันไปอย่างว่าง่าย แต่ก็สะบัดแขนเพราะคนเริ่มมองมาแล้ว แต่มันก็หันมามองผมตาขวาง ผมจึงหยุดที่จะสะบัด ก็กลัวนิครับ
“ไปร้านไหน เดี่ยวขับตามไป” ผมบอกกับมัน เพราะวันนี้ผมเอารถมา
“ไม่ต้อง ไปกับกูนี้แหละ”
“แล้วรถผม....” ยังพูดไม่ทันจบ มันก็พูดสวนขึ้นมาก่อน
“อย่าเรื่องมาก” มันหันมาตะคอกผมอีกครั้ง จนผมต้องรีบเข้าไปนั่งในรถ เพราะกลัวโดนมันจับกินตรงนี้ กลัวจริงๆครับ คนบ้าอะไรดุกว่าหมา น่ากลัวกว่าผี
ระหว่างทางผมกับมันก็ไม่ได้พูดหรือคุยอะไรกันหรอกครับ ก็มีแต่มันแหละครับที่เอาแต่คุยโทรศัพท์ ผมก็กะจะห้ามมันว่าอย่าพูดขณะขับ แต่ไม่ดีกว่า...ถ้าโดนจับ มันก็ซวยเองผมไม่เกี่ยว ห่วงก็แต่ชีวิตตัวเองนี้แหละครับ แต่ทำไงได้ในเมื่อพูดไปก็มีแต่เจ็บตัว สู้ไม่พูดดีกว่า
มันพาผมมานั่งร้านอาหารอิตาลี เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งยังไงยังงั้น เพราะผมเป็นคนไม่ชอบอาหารจำพวกนี้ ถามว่ากินได้ไหม กินได้ แต่ก็ได้น้อยเพราะมันไม่ชอบและที่สำคัญ ผมดันเจอวีที่ร้านนี้ด้วยและคนที่มากับวีนั้นก็คือพี่เอส วีมองหน้าผมสองคนสลับไปมา พร้อมกับมีเครื่องหมายคำถามอยู่กลางหน้า
“พี่เอส วีอิ่มแล้วพาวีกลับ” วีวางช้อนก่อนจะหันไปพูดกับพี่เอส
“ทำไม กลัวกูหรือไง” หมาบ้าข้างผมมันหันไปกัดวีหลังจากเรียกพนักงานเสิร์ฟ
“ใครกลัว กลัวที่ไหน” วีพูดแล้วทำลอยหน้าลอยตา ก่อนจะหยิบช้อนส้อมและตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป
“มึงจะกินอะไร” หมาบ้าละสายตาจากเมนูอาหารแล้วหันมาถามผม
“อะไรก็ได้” ผมบอกไปตามตรง เพราะผมไม่ค่อยรู้จักหรอกครับว่าอะไรเป็นอะไร แล้วอะไรอร่อย อะไรไม่อร่อย มันก็หันไปสั่งอาหารกับพนักงานเสิร์ฟ
“กรี ไม่กินกุ้ง” เสียงไอตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมพูดขึ้นมา ผมหันไปมองเพราะเริ่มงงอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะเรื่องที่วีจำได้ว่าผมไม่กินอะไร แต่เรื่องที่วีพูดออกมา เพราะก่อนหน้านี้วีไม่พอใจผมและไม่พูดกับผม แต่ที่พูดออกมานี้มันหมายความว่าอะไร ไอบุหรี่มองหน้าวีอย่างจะกินเลือด แต่วีก็ทำหน้าทะเล้นใส่มัน ประมาณว่ากูชนะ
“ ไม่กินอะไรทำไมไม่บอก” มันหันมาต่อว่าผม แล้วเรียกพนังงานอีกครั้ง
“ก็คุณไม่ได้ถาม”
“กูถามมึงแล้วว่า มึงกินอะไร” มันขึ้นเสียงกับผมอีกแล้ว และทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของวีทั้งหมด
“ขอโทษ” ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมัน จึงเป็นฝ่ายขอโทษจะได้จบๆ
ระหว่างนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร ก็มีเฉพาะพี่เอสกับวีเท่านั้นที่คุยกัน ซึ่งๆนานๆก็คุยกันสักครั้ง คงเกรงใจไอบุหรี่มั้งครับ เพราะตอนนี้มันนั่งทำหน้าเหมือนยักษ์เจ็บขี้ยังไงไม่รู้
“ว่าไงครับหนอน..........ตอนนี้วีอยู่ที่ร้าน.....อ่ะครับ...............อ้าวหรอ โทษทีนะหนอน วีลืมเองแหละ........ครับ เดี๋ยววีก็กลับแล้ว ครับผม............ครับแล้วเจอกัน” วีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยนะครับ ทำเอาทุกคนบนโต๊ะหันไปมองที่วีพร้อมกัน
“หึหึ ผัวคนไหนอีกล่ะ” คุณทายไม่ผิดหรอกครับ คำพูดแบบนี้มีแต่ไอบุหรี่เท่านั้นแหละครับที่พูดออกมา
“เรื่องของเทวดา หมาไม่เกี่ยว” ผมนึกขำออกมาหลังจากวีพูดออกมา
“ไอสัด !!!” ไอบุหรี่ พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนไปกระชากคอเสื้อของวี ผมกับพี่เอสเองก็ลุกขึ้นยืนเพื่อจะดึงมือไอหมาบ้าออก
“มึงอย่ายุ่ง” มันชี้หน้าผม จนผมต้องถอยออกแล้วลงมานั่งกับที่
“กูขอเหอะ มึง.....” พี่เอสพูดออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปกระซิบที่หูไอบุหรี่ มันก็ปล่อยอย่างว่าง่าย
“นึกว่าแน่...” เอาอีกแล้วไอตัวเล็ก เมื่อไหร่จะเลิกปากดีสักที เมื่อตะกี้ละทำหน้าซีด พอเขาปล่อยแล้วทำเก่งอีก
“มึง...” ไอบุหรี่พูด พร้อมกับชี้หน้าวี
“บุหรี่ ผมขอ” ผมจับมือไอบุหรี่ไว้ มันก็สะบัดมือผมก่อนจะหยิบแก้วน้ำแล้วสาดใส่หน้าผม แล้วมันก็เดินออกไป
“เห้ย ไอหรี่!!!” พี่เอสอุทานออกมา ก่อนจะวิ่งตามหมาบ้าออกไป
“สมน้ำหน้า กรีเป็นอะไรไป ทำไมถึงยอมมันขนาดนั้น” ในที่สุดวีก็พูดออกมา แต่ออกไปทางประชดประชันกึ่งเห็นใจกึ่งสงสัย
“แล้วกรีจะเล่าให้ฟังนะ แต่ช่วยพากรีกลับห้องหน่อยได้ไหม กรีไม่ได้เอารถมา” ผมบอกออกไป วีก็เรียกพนักงานเพื่อจะคิดเงิน
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ผมกับวีก็เดินออกมานอกร้านก่อนจะมองหาพี่เอส เพราะวีมาพร้อมกับพี่เอส ระหว่างยืนคอยอยู่นั้นเพื่อนข้างห้องของวีก็เดินมาทักเราสองคน วีแนะนำผมให้รู้จักกับหนอนเพื่อนของกฤษ ผมรู้จักกับกฤษก่อนหน้านี้แล้วละครับ เพราะผมไปเที่ยวที่ห้องของวีบ่อย วีจึงขอให้กฤษไปส่งที่ห้อง ซึ่งกฤษเองก็เต็มใจ
“มึงจะไปไหน” ไอบุหรี่พูดพร้อมกระชากแขนผมทางด้านหลัง
“ปล่อย” ผมหันไปพูดกับมัน
“ไม่ มึงจะไปไหน”
“ขอร้อง อย่ามายุ่งกับผมอีก และถ้าคุณจะขู่ผมอีก ผมก็จะไม่กลัวคุณอีกต่อไป” ผมเลือกที่จะพูดกับมันอย่างสงบ
“มึงไม่กลัวพี่สาวมึงลำบากหรือไง”
“พี่สาวผมคนเดียว ผมเลี้ยงได้ คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ แต่อย่ามายุ่งกับผมและคนในครอบครัวผมอีก ต่อไปผมจะไม่ยอมคุณอีกแล้ว คุณแรงมาผมก็จะแรงไป และกรุณาปล่อยผมด้วย”
“ไม่..มึงต้องไปกับกู” มันพูดพร้อมกับดึงมือผมไป ผมก็รั้งๆไว้ พร้อมกบัเอามืออีกข้างแกะมือมันออก
“เออ.....ผมว่ามีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจาดีกว่านะครับ” กฤษเข้ามาไกล่เกลี้ย แต่วิธีนี้ใช้กับมันไม่ได้หรอก
“อย่าสะเออะ!!!” มันพูดพร้อมกับผลักอกกฤษ
“ปล่อย!!!” ทีนี้ผมรวบแรงเท่าที่มี สะบัดแขนมันตนหลุดและผลักมันเต็มแรง จนมันล้มลงไปนั่งกับพื้น พี่เอสรีบวิ่งเข้าไปพยุงมัน แต่......
“ไม่ต้องยุ่ง....มึงกล้าผลักกูหรอ” มันหันไปตะคอกเพื่อนมัน ก่อนพุ่งตรงมาที่ผมและต่อยเข้าที่หน้าจนผมลงไปกองกับพื้นแทนมัน
“มึงทำเพื่อนกู” คราวนี้วีวิ่งเข้าไปหาไอบุหรี่ แต่โดนมันถีบกระเด็นไปตามระเบียบ ไม่เจียมตัวเลยจริงๆเพื่อนผม
หลังจากนั้นก็เกิดการประทะกันระหว่างกฤษกับไอบุหรี่ คนผ่านไปผ่านมาก็หันมามองพวกผม กลายเป็นจุดสนใจของคนไปซะงั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานเดี๋ยวตำรวจต้องมาแน่ และถ้าเป็นอย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงเข้าไปช่วยหนอนเพื่อหยุดการกระทำของสองคนนั้น
“พวกนายไม่น่าเข้ามาห้ามเลย ยังไม่มันส์มือเลย” กฤษพูดขณะที่นั่งอยู่ในรถโดยมีหนอนเป็นคนขับ
“ไม่ห้ามก็ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ดิ” หนอนพูดแต่ตายังมองทาง
“ก็มันน่าเจ็บใจ ว่าแต่วีเป็นอะไรไหม” กฤษพูดกับหนอน ก่อนจะหันไปถามวี ผมก็หันมามองวีซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังคู่กับกฤษ
“วีจุกอ่ะ เจ็บท้องด้วย” วีพูดพร้อมกับทำหน้าอ้อนๆใส่กฤษแล้วซบลงบนไหล่
“โอ๊ยยยยย” ผม กฤษและวีร้องออกมาพร้อมกัน เพราะหนอนมันเบรคกะทันหัน แล้วหักหลบข้างทาง
“เหี้ยไรเนี๊ย” กฤษหันไปบ่นใส่เพื่อนตัวเอง
“วีเป็นอะไรมากไหมครับ ไหนขอหนอนดูหน่อย” หนอนมันหันไปมองวีทางด้านหลัง ผมมองหน้ามันอย่างงงๆ เพราะตอนนี้มันปลดเข็มขัดแล้วคลานไปทางด้านหลังเพื่อจะดูอาการของวี ผมว่าไอนี้มันต้องชอบวีแน่ๆ เพราะดูจากอาการของมัน
“โอ๊ยยย ผลักไมเนี๊ย” หนอนมันบ่นออกมา เพราะโดนกฤษมันเอามือดันหัวมันให้กลับไปที่เดิม
“ไปขับรถเลยมึง เดี๋ยวกูดูเอง” กฤษบอกกับเพื่อนของมัน ซึ่งวีก็พยักหน้าให้มัน มันจึงได้กลับมาขับรถอีกครั้ง แต่ก็คอยมองกระจกหลังบ่อยๆ เป็นเอามากแฮะ
“แล้ววีเข้าไปให้มันเตะทำไม ตัวก็ออกจะเล็กกว่าเขา” ผมหันไปถามวี
“ก็วีลืมตัวนิ เห็นกรีโดนมันต่อย วีเลยกะจะเอาคืนแทนกรี” วีมันตอบแบบอายๆ ผมก็รู้สึกดีนะครับ ที่อย่างน้อยวีก็ยังเป็นห่วง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซ่าส์เหมือนกันนะวี กฤษนึกว่าวีจะเป็นพวกเงียบๆ ไม่สู้คนซะอีก” กฤษพูดออกมาแบบขำๆ ผมก็ขำตาม มีแต่ไอหนอนเท่านั้นแหละครับที่ไม่ขำกับอาการของวี ดูมันจะห่วงวีมาก
“ไม่ต้องหัวเราะวีเลยนะ ไม่งั้นเดี๋ยววีโกรธจริงๆด้วย” วีพูดแบบงอนๆ
“โอเค โอเค.....ไม่หัวเราะแล้วก็ได้แต่ว่า ......ขออีกครั้งนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า....” กฤษมันหัวเราะอีกแล้ว ผมก็งงว่ามันจะขำอะไร แต่พอกลับไปดูหน้าวีถึงได้รู้ว่าทำไมไอกฤษมันจึงขำ แม้แต่หนอนก็ยังหลุดขำออกมา เพราะวีมันทำหน้าโกรธ เป่าปากจนแก้มป่อง คิ้วขมวดชนกัน แต่แทนที่คนมองจะกลัว ผมกลับมองว่ามันยิ่งน่ารักไปกว่าเดิมอีก
“กฤษอ่ะ หยุดเลยนะ...ไม่งั้นวีไม่รักจริงๆด้วย” วีพูดพร้อมเอาหมอนไปปิดหน้ากฤษ แต่คนที่หยุดขำกลายเป็นไอหนอนแทนที่จะเป็นกฤษ สงสัยเพราะคำพูดของวีแน่ๆเลย
วีกับกฤษสองคนนี้มักจะหยอกล้อกันเหมือนคู่รักแบบนี้เป็นประจำแหละครับ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้คิดอะไรกันหรอกครับ กรีฑาคอนเฟิร์ม ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่คนที่คิดน่าจะเป็นไอหนอนมากกว่า เพราะมันนั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงคอนโดฯเลยทีเดียว สงสัยความหึงทำพิษต้องตามดูกันต่อไป
ความคิดเห็น