คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้าขาว
ตอนที่หร่วนซิงหว่านฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าของวันถัดมาแล้ว เธออยู่ในห้องที่แปลกตา แถมข้างกายยังมีชายแปลกหน้านอนอยู่
ดูจากเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
หร่วนซิงหว่านตกตะลึง รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นที่กลางหลัง ลำคอแห้งผาก
หลังจากอาลัยอาวรณ์กับการเสียครั้งแรกให้คนแปลกหน้าเสร็จ เธอก็เริ่มปลอบตัวเอง อย่างน้อยเขาก็ดูเป็นผู้เป็นคน ยังดีกว่าหมูตัวเมื่อคืนเป็นร้อยเป็นพันเท่า
พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน หร่วนซิงหว่านก็กลัวว่าพวกนั้นจะย้อนกลับไปหาหร่วนเฉินที่บ้านจึงรีบสวมเสื้อผ้าเตรียมจะกลับไป แต่ตอนที่เธอจะลุกออกมาคงจะไปรบกวนชายแปลกหน้าบนเตียงเข้า เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ลืมตาเธอก็รีบเอาผ้าห่มมาคลุมหัวเขาแล้วตบเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร นอนต่อเถอะ”
อย่างกับกล่อมเด็ก
รอจนการเคลื่อนไหวใต้ผ้าห่มนิ่งไป หร่วนซิงหว่านก็รีบเผ่นแน่บออกมา
อย่างที่คิด
เจ้าหนี้ของหร่วนจุนกลับมาหาพวกเธออีกครั้ง โชคดีที่หร่วนเฉินออกไปตามหาเธอข้างนอกทั้งคืนจึงไม่มีใครอยู่บ้าน
หร่วนซิงหว่านโทรบอกหร่วนเฉินว่าเธอปลอดภัยดี และกำชับเขาว่าช่วงนี้ยังไม่ต้องกลับบ้าน ให้ไปอยู่บ้านเพื่อนสักระยะ เธอเองก็จะไปอยู่กับเพ้ยซานซาน
เรื่องวุ่นวายดูเหมือนกำลังจะจบลง...
แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
หลังจากหนีไปกบดานได้เพียงสองเดือนหร่วนซิงหว่านก็พบว่า เธอท้องแล้ว
……
หร่วนซิงหว่านตื่นขึ้นมาตอนตีสี่พอดี เธอลุกไปดื่มน้ำแล้วย้ายไปนั่งในห้องรับแขก เริ่มดูหนังเกี่ยวกับรักแรกในช่วงสองปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะรื้อฟื้นความหวานชื่นบริสุทธิ์ของรักในวัยเยาว์
……
หร่วนซิงหว่านขังตัวเองไว้ในบ้านเป็นเวลาสามวันสามคืน จนในที่สุดก็ปิ๊งไอเดียดีๆขึ้นมาได้ พอกำลังจะขยับปากการ่างแบบก็ได้รับสายจากเบอร์ที่แปลกตาซะก่อน
เธอวางปากกาลง พูดกับปลายสายอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ ใครคะ?”
“......สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผม หลินหนาน เลขาของประธานโจวนะครับ คือว่า พรุ่งนี้ท่านประธานจะไปทำธุระที่มัลดีฟส์ เลยอยากทราบว่า …คุณผู้หญิงพอจะทราบไหมครับว่าเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้าขาวอยู่ที่ไหน?”
หร่วนซิงหว่านหงุดหงิดมากเวลาที่กำลังใช้ความคิดแล้วถูกขัดจังหวะ แล้วยิ่งเป็นเพราะไอ้เรื่องขี้ปะติ๋วแบบนี้ เธอเริ่มสงสัยแล้วว่าโจวฉือเซินกำลังจงใจหาเรื่องเธออยู่หรือเปล่า เธอจึงด่ากลับไปอย่างไม่เกรงใจทันที “นายจะบ้าเหรอ?! ฉันหย่ากับเขาแล้ว! เสื้อเขาวางไว้ตรงไหนมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ไปถามแม่บ้านสิ!!!”
พูดจบก็วางสายไปอย่างไร้เยื่อใย
สองนาทีต่อมา มือถือของหร่วนซิงหว่านก็ดังขึ้นอีกครั้ง บนหน้าจอปรากฏชื่อ ‘โจวฉือเซิน’ สามคำตัวใหญ่ๆ
เธอนิ่งไปพักหนึ่งแล้วจึงกดรับสาย
“หร่วนซิงหว่าน กลับมาที่นี่ภายในครึ่งชั่วโมง”
“ฉัน......”
ครั้งนี้ไม่รอให้เธอตอบ โจวฉือเซินพูดจบก็วางสายทันที
หร่วนซิงหว่านกำมือถือไว้แน่น อยากจะทุบไอ้บ้านี่ให้กบาลแยก
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงลุกออกจากห้องไป
เพ้ยซานซานเห็นเธอทำท่าจะออกไปข้างนอกก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ทูนหัว ดึกขนาดนี้แล้วเธอจะไปไหน?”
“ไปตายด้วยกันกับไอ้ชั่วนั่น!!!”
“……”
แน่นอนว่าหร่วนซิงหว่านก็แค่พูดระบายอารมณ์ไปอย่างนั้นแหละ เธอมีความสามารถที่จะไปสู้กับโจวฉือเซินซะที่ไหน
มาถึงคฤหาสน์ซิงหูที่คุ้นเคย คนรับใช้ต่างก็ไปพักผ่อนกันหมดแล้วทำให้รอบข้างดูเงียบเหงาอย่างน่าประหลาด
หร่วนซิงหว่านขึ้นไปที่ชั้นสอง เมื่อผลักประตูห้องนอนออกก็เห็นโจวฉือเซินนั่งอยู่บนโซฟา แต่งกายด้วยชุดลำลองง่ายๆ นิ้วเรียวยาวกำลังพลิกอ่านแฟ้มข้อมูลตรงหน้า
แม้ว่าจะได้ยินเสียงคนเข้ามาในห้องแต่เขาก็ไม่ได้หันมาสนใจ
หร่วนซิงหว่านเดินตรงไปที่ห้องแต่งตัว เรียกได้ว่าถึงขั้นต้องเปิดตู้พลิกชั้น เพื่อหาเสื้อเชิ้ตเจ้าปัญหาอย่างยากลำบาก จนในที่สุดก็เจอเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้าขาวของโจวฉือเซิน
พอเห็นเสื้อตัวนั้นเธอก็ชะงักไป
ในปีที่เพิ่งแต่งงาน เธอรู้ว่าโจวฉือเซินจะไปทำธุระที่ฮาวายจึงตั้งใจซื้อเสื้อตัวนี้ให้เขาเป็นพิเศษ
มันเป็นเสื้อที่เหมาะกับการไปทะเลมาก
แต่พอเธอมอบเสื้อให้ เขากลับมองมาที่เธออย่างเย็นชาแล้วบอกกับเธอว่า “อย่าพยายามใช้วิธีการถูกๆ แบบนี้มาเอาใจฉัน แล้วก็ช่วยเลิกใช้พวกแผนการกระจอกๆ พรรค์นั้นด้วย”
หร่วนซิงหว่านเองก็ไม่รู้ว่าในสายตาของเขา แท้ที่จริงแล้ว เธอมีแผนการอะไรกันแน่ แต่นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่เคยซื้อของอะไรให้โจวฉือเซินอีกเลยถ้าไม่ใช่วันสำคัญอย่างวันครบรอบแต่งงาน
แต่ของที่ปีนั้นเขาทิ้งขว้างเหมือนรองเท้าเก่า ทำไมตอนนี้ถึงจงใจเรียกเธอกลับมาเพื่อมัน
ถ้าไม่ใช่เพื่อแก้แค้นเธอ แล้วจะเพื่ออะไร?
หร่วนซิงหว่านหยิบเสื้อเชิ้ตออกมาจากห้องแต่งตัว แล้ววางลงบนเตียงอย่างเงียบๆ พอคิดที่จะพูดอะไรบางอย่าง กลับพบว่าโจวฉือเซินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่เขาก็ใช้เสียงที่เบามาก และไม่ได้มองมาที่เธอเลยราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน
ทีแรกหร่วนซิงหว่านคิดจะคุยกับเขาเรื่องหย่า แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีโอกาสที่เหมาะสมจึงหมุนตัวเดินจากไป
มาอย่างเร่งรีบ และกลับอย่างเร่งรีบ
ตอนที่เธอเดินออกไปจากห้องนอน ในที่สุดโจวฉือเซินก็เงยหน้าขึ้น มองดูแผ่นหลังของเธอที่กำลังเดินจากไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าเธอจะกลับไปเลยแบบนี้ เขาเม้มริมฝีปากบางแล้วพูดเสียงนิ่งกับปลายสาย “อืม เท่านี้ก่อน ฉันมีธุระ”
หร่วนซิงหว่านเพิ่งจะเดินมาถึงโถงรับแขกด้านล่างก็ถูกเขาเรียกไว้
โจวฉือเซินยืนอยู่บนบันได มองลงมาที่เธอจากมุมสูง สายตาเย็นชาเช่นเคย “หาเสื้อเจอแล้วเหรอ?”
“วางอยู่บนเตียงไง”
“อย่างอื่นล่ะ?”
หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจ “อย่างอื่นอะไร?”
โจวฉือเซินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “ฉันต้องไปทำธุระทั้งสัปดาห์ เธอคิดว่าฉันจะใส่แค่เสื้อตัวนี้เหรอ?”
“……”
เมื่อก่อน เวลาเขาจะไปทำธุระที่ต่างประเทศหร่วนซิงหว่านมักจะจัดกระเป๋าเดินทางไว้ให้เขาล่วงหน้าหนึ่งวันเสมอ
คิดไม่ถึงว่าการที่เธอตั้งใจทำหน้าที่เป็นคุณนายโจวอย่างดีมาตลอดสามปี นอกจากจะไม่ได้รับอะไรเป็นการตอบแทนแล้ว ยังทำให้เขาติดนิสัยรักสบายทั้งยังเอาแต่ใจแบบนี้
หร่วนซิงหว่านพูดอย่างใจเย็น “ประธานโจว ฉันต้องขอเตือนคุณอีกครั้ง พวกเราหย่ากันแล้ว ดังนั้นเรื่องจิปาถะอย่างการหาเสื้อเชิ้ตหรือจัดกระเป๋าเดินทางพวกนี้ ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของฉันแล้ว รบกวนคุณไปบอกแม่บ้าน หรือไม่ก็คุณนายคนต่อไปของคุณให้มาทำให้ อย่ามาเรียกใช้ฉันด้วยเรื่องแบบนี้อีก ขอบคุณ”
หน้าของโจวฉือเซินไม่เปลี่ยนสี ลงบันไดมาอย่างเนิบๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “งั้นฉันก็จะขอเตือนความจำเธอสักหน่อย พวกเรายังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ และเธอก็ยังคงเป็นภรรยาตามกฎหมายของฉัน เรื่องพวกนี้มีแค่เธอที่ทำได้”
“......จะเอาแบบนี้ใช่ไหม?”
“ฉันจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
หร่วนซิงหว่านยิ้มมุมปาก หยิบมือถือออกมาเลื่อนหาเบอร์โทรจากบัญชีรายชื่อ “ดี! ในเมื่อนายชอบบงการคนอื่นขนาดนี้ งั้นฉันเรียกให้ซูซือเวยมาจัดกระเป๋าให้นายแล้วกัน เธอจะต้องวิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายแน่”
แต่เธอยังหาไม่ทันจะเจอ มือถือก็ถูกคนแย่งไปซะก่อน
โจวฉือเซินมองเธอด้วยใบหน้าเย็นชา “หร่วนซิงหว่าน ช่วงนี้ฉันตามใจเธอมากเกินไปแล้วใช่ไหม”
หร่วนซิงหว่านมองมือที่ว่างเปล่า ครู่ใหญ่ถึงยิ้มออกมา “ประธานโจว จะพูดอะไรก็ระวังหน่อยนะคะ ‘ตามใจ’ คำคำนี้ ฉันแบกรับไม่ไหวหรอกค่ะ!”
ความเย็นเยือกในแววตาของโจวฉือเซินหยั่งลึกลง “เมื่อไหร่เกมบ้าๆนี่ของเธอจะจบลงสักที?! หร่วนซิงหว่าน ฉันจะไม่ทนกับเธอแล้วนะ พูดมาตรงๆเลยดีกว่าว่าเธอต้องการอะไรกันแน่”
หร่วนซิงหว่านชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้น “…ครั้งที่แล้วประธานโจวก็บอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่ฉันต้องการก็คือทั้งโจวซื่อกรุ๊ป คุณให้ไหมล่ะ?”
“เฮอะ! ฝันลมๆแล้งๆ”
“งั้นก็หย่าเถอะ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”
โจวฉือเซินขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิด มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง “นอกจาก‘หย่า’คำนี้ เธอพูดอย่างอื่นเป็นไหม?”
หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจเลย ไม่ใช่ว่าเขาอยากที่จะกำจัดเธออยู่ตลอดหรอกเหรอ ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอแทบจะมาขอร้องให้เขาหย่าแทนล่ะ?
❀ ❀ ❀
ไอ้หนุ่มนี่มันจะเอายังไงกันแน่วะ???
ทิวลินิน
ความคิดเห็น