คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Hey Boy 04 - ตอนที่ 04 ของขวัญชิ้นแรก (100%)
ตอนที่ 04 ของขวัญชิ้นแรก
หลังจากที่ผมกับไอ้นิคเที่ยวกินกัน (กินข้าวน่ะครับ) จนเต็มอิ่มแล้วเราสองคนก็กลับมาที่หอกัน ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆเกือบจะสามทุ่มแล้วครับจึ่งไม่แปลกที่หอจะเงียบมาก มีบ้างที่บางจุดยังมีคนนั่งอ่านหนังสืออยู่ บ้างก็คุยโทรศัพท์ พอผมเดินเข้าประตูหอไม่นานก็มีเสียงที่คุ้นเคยทักพวกผมจากข้างหลัง.
“ไงสองคน... วันนี้โดดเรียนไปเที่ยวกันสนุกไหม” พี่ภพนั้นเองครับ น้ำเสียงพี่เค้าก็ดูเรียบๆน่ะ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนพี่ภพกำลังต่อว่าพวกเราที่ไม่เข้าเรียนกันน่ะ.
“โถ่ๆๆ พี่... ผมอุตส่าห์ไม่บอกให้ใครรู้แล้วน่ะเนี้ย ไปรู้มาจากใครอีกล่ะคราวนี่ครับคุณพี่ชาย” ไอ้นิคบ่นใส่พี่ภพ ดูเหมือนว่าสองพี่น้องนี้สนิทกันดีแหะ ผมเป็นลูกคนเดียวเลยไม่รู้ว่าการที่มีพี่น้องมันเป็นยังไง.
“ก็ไอ้วิศไง รู้อะไรไหม... กว่ามันจะบอกพี่ได้ ต้องเสียเงินพามันไปกินไอ้ครีมตั้งเยอะ” พี่ภพดูจะหงุดหงิดมากที่ต้องไปเสียหัวให้กับไอ้เพื่อนตัวดีของผม.
“หนอยยยย... ไอ้เพื่อนทรยศ” ไอ้นิคพูดถึงไอ้วิศ แต่ทันทีที่เสียงหยุดลงเพื่อนตัวดีของผมก็เดินทำหน้าระรื่นมาหาพวกเรา.
“ว่าไงไอ้นิค ไอ้เนม เดทแรกท่าจะสนุกน่ะ ไปนานเชียว” ไม่เพียงแต่ทำหน้าระรื่น มันยังกวนตีนพวกผมด้วยคำพูดอีก.
“เดทพอออออออ.... เอ่ออออ... เดทบ้านบุพการีมึงเดะ” ผมกะว่าจะด่ามันไปซะหน่อย แต่ดีที่ยังนึกขึ้นได้ว่ามีพี่ภพยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้อีกคน.
"โห่ๆๆ ไอ้เนม มึงเปลี่ยนไปมากน่ะเนี้ย เมื่อก่อนยังเป็นเด็กขี้แย โดนรังแกทีไรก็วิ่งมาฟ้องกูอยู่เลย ” ไอ้วึศเริ่มบ่นใส่ผม ทำเอาพี่ภพ และไอ้นิคล้อผมเลยทีเดียว.
“เนม นี้เราเป็นขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่าๆๆๆ” พี่ภพน่ะพี่ภพ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ล่ะก็ จะต่อยหน้าหงายเลยคอยดู.
“โถ่ พี่” ผมหันไปทำหน้างอใส่พี่ภพ แล้วหันไปยืดอกพูดกับไอ้วิศ“ตอนนั้นกูก็แค่ส้างภาพให้เป็นคนอ่อนแอเผื่อจะได้เนียนๆอยู่กับสาวๆเท่านั้นล่ะ มึงอย่าพึ่งได้ใจไปเลย” แต่ก็จริงน่ะ พอผมถูกรังแกทีไร สาวๆก็จะเข้ามาดูแลผมทุกที แต่ก็มีไอ้วิศนี้แหละที่คอยไล่สาวๆพวกนั้นออกไป มันให้เหตุผลว่า มันเป็นเพื่อน เหมือนเป็นพี่มีหน้าที่ต้องดูแลผม ดูมันพูด.
“เนมนี้ตอนเด็กท่าจะน่ารักน่ะเรา” พี่ภพพูดกับผม แต่ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรไป เพื่อนสุดรักของผมก็...
“น่ารักมากเลยพี่ ขาว ตาโต ริมฝีปากชมพูนิดๆ” ขายกูเข้าไปไอ้วิศ อย่าให้กูได้ขายมึงบ้าง มึงเงีบแน่ เพื่อนรัก...
“ว้าว พี่ชักจะอยากเห็นซะแล้วสิ แต่เอ๊ะ... จะว่าไป ไอ้นิค เป็นไรเปล่า เห็นเงียบตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว” จะว่าไปก็จริง เกือบลืมไปเลยว่า ณ ที่นี่ มีชายนามว่านิคอยู่ด้วย.
“เปล่าหรอกพี่ ผมแค่แชวไอ้เนมไม่ค่อยขึ้นน่ะ แชวมันทีไร เป็นต้องหน้าหงายทุกที แฮะๆๆๆ” ไอ้นิคเกาท้ายทอยพูดกับพี่ภพ.
“อ้าว เนมได้ต่อยหน้าไอ้นิคด้วยหรอเนี้ย แล้วมันทำอะไรเราหรือเปล่า” พี่ภพหันมาพูดกับผม.
“โถ่วๆๆๆ พี่... ผมเป็นน้องพี่น่ะ ไมไม่หวงผมบ้าง ผมถูกต่อยน่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะสามสี่ครั้งได้แล้วมั้ง และที่สำคัญ ผมไม่ได้ทำอะไรมันเลย แม้แต่นิดดดดดดดดดดดดดดด” ดูมันลากเสียงเข้า หน้าหมั่นไส้ซะจริง.
“พึ่งมาอยู่ได้สองวัน โดนต่อยเกือบสามสี่ครั้ง ที่สำคัญไม่โต้กลับด้วย แปลกน่ะเนี้ย... คิดอะไรอยู่น่ะ ปกติแกไม่เคยยอมใครขนาดนี้เลยนิ” พี่ภพจ้องไอ้นิคด้วยสายตาคาดคั้นสุดๆ อย่างกับกำลังสอบปากคำเลย.
“คิดอะไร... ไม่มีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ดูมันตอบ เสียงสูงจนจะทะลุเพดานเลยน่ะไอ้นิค.
“แหมมม เสียงสูงเชียวน่ะ/แหมมม เสียงสูงเชียวน่ะ” พี่ภพกับไอ้วิศตอบเป็นเสียงเดียว อะไรจะใจตรงกันขนาดนั้น.
“เนม กูว่ากลับห้องกันเถอะ กูงว่งล่ะ ไปล่ะพี่ ฝันดีน่ะ บ๊ายบาย... กูไปล่ะไอ้วิศ” ไอ้นิค พูดรวดเดียวจบไม่หยุดหายใจเลย และผมก็ไม่ทันได้บอกลาอะไรทุกคนเลย มันก็ลากผมเข้ามาในลิฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
กว่าผมกับไอ้นิคจะกลับมาถึงห้องเวลาก็ล่วงเลยมาจนตอนนี้ก็สามทุ่มครึ่งแล้ว พอประตูห้องเปิดออก ผมไม่รีรออะไร เดินไปที่เตียงล้มตัวลงนอนทันที โดยมีเสียงประท้วงของใครบางคนที่เดินตามหลังผมมาติดๆ.
“สบายจังน่ะมึง ไม่คิดจะช่วยกูถือของเลยหรือไง ก็ใช่ว่าจะทีแค่ของกูน่ะ” ก็จริงอย่างที่มันพูด วันนี้ผมก็ชื้อกางเกงไปสองตัว และเสื้ออีกสามตัว แต่เงินในกระเป๋าของผม ยังอยู่ครบเลยครับ ไม่ได้ออกไปไหนเลย แม้แต่บาทเดียว ค่าเสื้อผ้าไอ้นิคมันจ่ายให้หมด แต่ผมก็กะว่าจะคืนมันอยู่แล้ว.
“อึออออออ...”
“เห้ยนี้ไอ้เนม ลุกมาอาบน้ำอาบท่าก่อนสิ” ไอ้นิคทั้งตะโกนทั้งดึงตัวผมให้ลุก แต่ตัวผมคงควายไปหน่อย เลยทำให้ไอ้นิคมันสดุด ล้มลงมานอนทับตัวผม ปกติผมไม่คิดอะไรกับเรื่องแค่นี้หรอกครับ แต่ทำไมกับไอ้นิคผมถึงได้รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ ไอ้นิคเองก็ไม่มีทีท่าว่ามันจะลุกออกไปเลย บรรยากาศในห้องตอนนี้เงียบสนิท แต่ในหูของผมมันไม่เงียบตามเลย ผมไม่แน่ใจว่าเสียงหัวใจที่ผมได้ยินในตอนนี้นั้นเป็นของใคร ผมหรือของไอ้นิค.
เราสองคนยังคงนอนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น แต่ทำไมกัน ทำไมผมถึงได้รู้สึกอย่างนี้น่ะ ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เหมือนมีใครมาสุมไฟบนใบหน้าของผม และผมมั่นใจว่าหน้าผมตอนนี้คงแดงอยู่แน่ๆ ใบหน้าของไอ้นิคค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ผม และก่อนที่ริมฝีปากของเราสองคนจะแตะกัน ผมก็เรียกสติกลับมาได้ ผมหันหน้าหนีผลักไอ้นิคออกไป.
“เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนน่ะ” ผมเดินไปยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป.
**********
หลังจากที่ประตูห้องน้ำปิดลง ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่บนเตียง ณ จุดที่พึ่งเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เค้ารู้ดีว่าเสียงหัวใจที่ดังสนั่นทั่วห้องเมื่อกี้นั้นเป็นเสียงหัวใจของเค้าเอง แต่พายในใจก็แอบหวังอยู่นิดๆว่า ในเสียงนั้น จะมีเสียงหัวใจของคนี่เค้ารักดังบ้าง เค้าอยากที่จะกอด อยากจูบ อยากเก็บเนมเอาไว้ให้เป็นของเค้าแต่เพียงผู้เดียว ไม่อยากให้ใครแย่งเนมไป เวลาเพียงสองสามวันที่ได้อยู่ด้วยกัน เค้ารู้สึกได้ว่าชีวิตของเค้ามีสีสันขึ้นมามาก มีความสุขมาก และเค้าก็ไม่อยากที่จะคิดเลยว่า ชีวิตที่ต้องอยู่โดยไม่มีเนมนนั้นมันจะเป็นยังไง... เพราะเค้าได้ลืมมันไปหมดแล้วตั้งแต่ที่เนมเดินเข้ามาในสายตาของเค้า...
“นี้กูควรทำยังไงมึงถึงจะรักกูชักที กูรักมึงมากน่ะ.... เนม” ชายหนุ่มพูดกลับตัวเอง อย่างน้อยใจ....
**********
ผมไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเมื่อกี้นี้เลย แวบหนื่งในตอนที่จ้องหน้าไอ้นิคอยู่นั้น ผมรู้สึกอยากโน้มตัวไอ้นิคลงมาจูบยังไงไม่รู้ ทั้งใบหน้า สายตา และทุกอย่างของไอ้นิค ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน ความรู้สึกอย่างนี้มันไม่เหมือนกับที่รู้สึกกับไอ้วิศเลย เหมือนกับว่าผมรู้สึกกับไอ้นิคไปมากกว่าที่เพื่อนเค้ารู้สึกกัน...
“มากกว่าเพื่อนงั้นหรอ แล้วมันอะไรล่ะ คนพิเศษงั้นหรอ มึงนี้ชักจะบ้าแหะไอ้เนมเอ้ย... ไอ้นิคเป็นผู้ชายน่ะเว้ย ผู้ชาย” ผมพูดกับตัวเองพร้อมเปิดน้ำในฝักบัวให้แรงขึ้น เผื่อความเย็นของน้ำจะทำให้ความรู้สึกบ้าๆนี้ออกไปจากหัวซะที.
แก๋กๆๆ
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เจอไอ้นิคยืนอยู่หน้าประตูในสภาพที่ไม่ต่างอะไรจากผมนัก... แต่มีบางอย่างที่แปลกไปจากทุกๆวัน ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกร้อนที่ใบหน้ากันน่ะ ทำไมกันน่ะ ทั้งๆที่ผมเองก็เห็นร่างเปือยๆพันผ้าของไอ้นิคทุกวัน และวันล่ะหลายๆรอบด้วยช้ำ แต่ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกเขินที่เห็นแผ่นอก กล้ามตรงหน้าท้องที่มีอยู่นิดหน่อยนั้นน่ะ ผมไล่มองจากหัวจรดเท้าจนเจ้าตัวรู้สึกได้ว่ากำลังโดนผมมองอยู่.
“ถ้ามึงจะมองกูอย่างนี้ ลากไปกินเลยไหม ไอ้เนม” ไอ้นิคเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนให้ผมสํารวจร่างกายตั้งนาน.
“ห่ะ... อะไร... มองอะไร... ไม่ได้มองสักหน่อยยยย มึงก็เข้าไปอาบน้ำเลยไป มันดึกแล้ว” ผมหันหน้าที่คาดว่าตอนนี้มันคงจะแดงมากหนีเดินไปทางตู้เสื้อผ้า.
“ทำไมหน้ามึงแดงๆว่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า” ไอ้นิคพูดพร้อมก้าวเท้าจะเดินเข้ามาหาผม แต่...
“กูไม่เป็นไร มึงไปอาบน้ำเลยไป” ผมตอบมันโดยไม่ยอมหันหน้าหามัน ก็แน่สิ ถ้ามันเข้ามาใกล้ไปกว่านี้มีหวัง ไอ้นิคได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นแน่ ทำไมกันน่ะ ทำไมหัวใจผมถึงได้เต้นแรงแบบนี้ ขนาดกับแคท มันยังไม่เต้นจนผมรู้สึกว่าหัวใจจะทะลุหน้าอกออกมาข้างนอกย่างนี้เลย.
“เอ๊ะ... หรือว่า เขินเค้าหรอตัวเอง” หน่อยไอ้นิค ยังมีหน้ามากวนอีกน่ะมึง เข้าไปดีไม่ชอบใช่ไหม เดี๋ยวปัดเตะเข้าไปเลยนี้.
“เขินพร่องงงง... กูแค่ร้อนเหอะ” จะไปร้อนบ้าอะไร พึ่งอาบน้ำเสร็จ แถๆไปก่อนล่ะกัน.
“หรออออ ไปอาบน้ำล่ะ แล้วอย่าพึ่งนอนน่ะ มีของจะให้ หึๆๆๆ” ไอ้นิคหัวในลำคอทิ้งท้ายแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ และอีกไม่นานก็ยินเสียงน้ำไหล พอมั่นใจว่าไอ้นิคเข้าไปในห้องน้ำจริงๆแล้ว ผมก็จัดการขยี่หัวไล่ความคิดบ้าๆบอๆที่เข้ามาในหัวผมให้ออกไป...
“แค่ร้อน แค่ร้อน... กูไม่ได้เขิน... ใช่แล้ว กูไม่ได้เขินเลย” ผมย้ำกับตัวเองอีกครั้งแล้วกลับมานั่งรอไอ้นิคอยู่บนเตียง “ยังไงก็ต้องคืนเงินค่าเสื้อผ้าอีกด้วย คิดซะว่า รอคืนเงินก็แล้วกัน”
หลังจากที่ผมนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนานสองนาน จนเกือบจะหลับ... เอ๊ะ หรือว่าหลับไปแล้วน่ะ ถึงไม่ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดเลย พอรู้ตัวก็เห็นผู้ชายร่างควายมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว สมกับเป็นไอ้นิค จะนุ่งเสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยก่อนค่อยปลุกก็ได้นิ.
“ขนาดบอกแล้วน่ะว่าอย่าหลับแล้วน่ะ ถ้ากูไม่บอกมึงคงหลับไปถึงเช้าเลยใช่ไหมไอ้เนม” ไอ้นิคบ่นใส่ผม ก่อนยืนถุงอะไรไม่รู้ให้ผม แต่ผมว่าถุงนี้คุ้นๆเนอะ.
“อะไร” ผมถามมันไปหว้นๆ แต่มือก็ยังจับไอ้ถุงที่อยู่ตรงหน้ามาดู ในถุงนั้นเป็นเสื้อยืดสีเทา ชึ่งเป็นโทนสีที่ผมชอบมาก แต่มันติดอยู่ตรงคำที่เขียนบนเสื้อนี้สิ มันอะไรกัน...
“ของขัวญวันแรกที่กูกับมึงไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกไง กูก็มีตัวหนื่ง... นี้ไง” ไอ้นิคพูดพร้อมยกเสื้ออีกตัวที่มันถืออยู่ในมือให้ผมดู เป็นเสื้อสีเทาเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่คำบนเสื้อ ของผม “มีคนจองแล้ว” สว่นของไอ้นิค “คนนี้ผมจอง” พอเห็นเท่านั้นแหละ เงีบเลย... ผมนึกออกแล้วถุงที่ผมว่าคุ้นๆนี้ มันเป็นถุงที่ไอ้นิคถือออกมาจากร้านเสื้อคู่รักนี้เอง...
“เสื้อคู่ว่างั้น” ผมถามมันโดยที่ไม่โวยวายอะไร.
“อึม... วันนี้ผิดคาดแหะ” ดูเหมือนว่าไอ้นิคจะแปลกใจที่วันนี้ผมไม่โวยวายล่ะมั้ง.
“ผิดคาดอะไร”
“ก็ปกติแล้วมึงไม่เคยนิ่งอย่างนี้เลยนิ ที่เห็นกูพูดหรือทำอะไรทำนองนี้น่ะ” ใช่จริงๆด้วย.
“วันนี้กูอารมณ์ดีเหอะ หรือว่ามึงต้องการให้กูโวยวายงั้นหรอ ก็ได้น่ะ” ใช่วันนี้ผมอารมณ์ดี ก็ผมได้คลายความเคลียดออกไปหมดกับตู้เกมแล้วไง.
“เปล่า ถึงกูจะชอบที่มึงเป็นแบบนั้น แต่กูชอบที่มึงเป็นแบบนี้มากกว่าน่ะ” คราวนี้มันอะไรอีกเนี้ย ไอ้น้ำเสียงจริงจังเนี้ย ดูน้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของไอ้นิค ดูจริงจังมากเลย... แต่คำพูดพวกนั้นไม่ใช่คำสารภาพจากไอ้นิคใช่ไหม...
“เออไอ้นิค เงินค่าเสื้อผ้ากูที่มึงออกก่อนน่ะ กูวางไว้บนโต๊ะน่ะ แล้วก็ขอบใจสำหรับของขวัญ ครั้งแรกเลยน่ะ ที่กูได้ของขวัญ รู้สึกดีแบบนี้ๆเอง” ผมไม่อยากให้บรรยากาศมันไปไกลกว่านี้ เปลี่ยนเรื่องคุยกันจะดีกว่าน่ะ ผมว่า...
“ที่จริงมึงไม่ต้องคืนก็ได้ กูอยากชื้อให้มึง อะไรที่มึงต้องการกูหาให้ได้หมดล่ะ และที่สำคัญนี้ก็เป็นครั้งแรกที่กูให้ของขวัญคนอื่นเหมือนกัน” ยิ่งคุยกัน ยิ่งรู้สึกได้ว่าทุกคำพูดของไอ้นิคมีอะไร แอบแฝงอยู่.
“กูง่วงแล้ว กูนอนล่ะ ฝันดี” ยิ่งได้เห็นใบหน้าของไอ้นิคตอนที่มันพูดแล้ว เหมือนมันยิ่งทำให้ผมหวั่นไหวยังไงไม่รู้ ผมไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกนี้เค้าเรียกว่าอะไร และผมก็ไม่รู้ด้วยว่า ที่ไอ้นิคทำอยู่นี้มันหมายความว่ายังไง.
NIK PART
ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของไอ้เนมที่หันมาทางผมอย่างเงียบๆ ผมรู้ดีว่าทีผมทำไปนั้นอาจทำให้ผมเสียไอ้เนมไปตลอดได้ แต่ในทางกลับกันมันอาจทำให้ผมสมหวังกับไอ้เนมก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าไอ้เนมก็เริ่มจะมีใจให้ผมก็ได้ ถึงว่าจะเป็นเพียงการมโนของผมขึ้นมาเองก็เถอะ แต่มันก็ทำให้ผมมีความหวังขึ้นมา ชึ่งมันก็ทำให้ผมมีความสุขมากเลย.
ตอนที่ผมให้เสื้อไปผมก็รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ผมให้ของขวัญกับคนอื่น แต่สำหรับไอ้เนมแล้ว ผมว่าต่อให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม ผมไม่นึกเลยว่าผมจะรักไอ้เนม ได้มากขนาดนี้ ผมรักไอ้เนมมากจริงๆ ทุกครั้งที่ผมเห็นไอ้เนมนุ่งผ้าออกมาจากห้องน้ำ หรือเห็นมันนอน ผมอยากที่จะกอดมัน อยากที่จะจูบ อยากได้เข้าไปอยู่ในใจมันบ้าง แต่ผมก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ทุกครั้ง เพราะถ้าผมทำอะไรลงไปโดยไม่คิด ผมอาจจะเสียไอ้เนมไปเลย และผมคงจะอยู่ไม่ได้จริง...
“นี้มึงรู้ไหม ว่ากูรักมึงมากน่ะ เมื่อไหร่มึงจะรักกูบ้างน่ะ” ผมก้มลงไปกระชิบที่หูคนที่นอนอยู่ตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่ามันจะหลับไปแล้ว ยิ่งตอนที่ไอ้เนมหลับ มันยิ่งน่ารักมาก พอได้นั่งมองไอ้เนมนอนอยู่ตรงหน้าอย่างนี้ ผมก็มีความสุขมากแล้ว ผมก้มลงไปหอมที่แก้มของไอ้เนมไปฟ๋อดใหญ่ กิ่นตัวไอ้เนมหอมมาก ยิ่งได้กิ่น ผมยิ่งต้องการมัน ผมเลื่อนหน้าจากแก้มแล้ว แปะริมฝีปากลงไปกับริมฝีปากไอ้เนมเบาๆ...
“ฝันดีเช่นกันน่ะ”
ผมก็หวังว่าสักวันหนึ่งไอ้เนมจะตอบรับหัวใจของผมบ้าง แม้เพียงน้อยนิดก็ตาม.
END NIK PART
100%
|||||||||||||
ตอนต่อจากนี้ไป เราก็จะได้พบกับกลุ่มเพื่อนๆของนิคแล้วน่ะ และจะเป็นเพื่อนๆของเนมด้วย แล้วที่สำคัญจะมีบุคคนในอดีดของเนมมาปรากฏตัว และเรื่องราวก็จะยิ่งสนุกมาก ฝากติดตามด้วยน่ะ.
พรุ่งนี้กลับเวียดนามแล้ว หลังจากเปิดเทอมคงจะเรียนหนักมาก แต่จะแวะมาอัพให้เป็นประจำน่ะ.
ความคิดเห็น