ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝืนลิขิตฟ้า ท้าสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #283 : ความวุ่นวายภายในสำนักขจีไพรสัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.38K
      571
      21 มี.ค. 63

    หลังจากก้าวออกมาจากตำหนักภายในซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของผู้เป็นอาจารย์ ฉินหลิงก็เอ่ยคำร่ำลากับเซี่ยรั่วหรูอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นไปบนยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของตำหนักเจ้าสำนักที่เขาพึ่งจากมา
     
    เหล่าทหารยามที่เฝ้าระวังด้านหน้าต่างเผยท่าทางสงสัยออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฉินหลิงกลับมาอีกครั้งทั้งที่เขาพึ่งออกไปได้ไม่นาน ต้องรู้ว่าส่วนมากผู้ที่สามารถเข้าไปในตำหนักด้านในได้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสหลักที่ก้าวเข้าสู่ขั้นหลอมรวมจนสามารถเหาะเหินบนอากาศได้ ดังนั้นพวกเขาจึงจำชายหนุ่มที่มีพลังขั้นสร้างฐานตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
     
    “ท่านหัวหน้า เจ้าเด็กน้อยไม่รู้ความเมื่อครู่คือใครรึ! ทำไมมันถึงเดินเข้าออกได้อย่างสบายใจเช่นนี้กัน?” ทหารยามวัยหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่ไหนแต่ไรมาตำหนักของเจ้าสำนักเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ มีเฉพาะเหล่าชนชั้นสูงของสำนักเท่านั้นที่จะเดินเข้าออกได้ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะสับสนเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่มีพลังฝึกตนเพียงระดับศิษย์คนหนึ่งเดินเข้าออกได้อย่างสะดวก
     
    หัวหน้าทหารยามร่างใหญ่ถลึงตาใส่ทหารยามวัยหนุ่มที่เอ่ยถามออกมา “เจ้าเด็กบ้า อยากตายก็ตายคนเดียวอย่าลากพวกข้าไปตายกับเจ้า”
     
    “หืม.. ท่านหมายความว่ายังไง? มันมีเบื้องหลังใหญ่โตมากรึ?”
     
    “เห็นแก่ที่เจ้าเป็นเด็กใหม่ ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้ เด็กหนุ่มที่เจ้าพูดถึงคือศิษย์ส่วนตัวของท่านบรรพชนถางและยังเป็นศิษย์น้องของท่านเจ้าสำนัก ฐานะของเขาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะวิจารณ์ได้ หากเจ้ายังกล้าพูดไร้สาระอยู่อีก ข้าจะสั่งลงโทษเจ้าด้วยตัวเอง” ทหารยามที่เป็นหัวหน้าเอ่ยด้วยท่าทางเคร่งครึม เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอบรมสั่งสอนทหารวัยหนุ่มตรงหน้า โชคดีที่ททหารหน้าใหม่ผู้นี้ไม่ได้เสียมารยาทต่อศิษย์ของท่านบรรพชน มิฉะนั้นอนาคตของกลุ่มทหารยามของเขาคงล่มจมอย่างแน่นอน
     
    ทหารยามหน้าใหม่สีหน้าซีดขาว หลั่งเหงื่อเย็นเยียบ แขนขาสั่นระริก ต่อให้ตระกูลที่หนุนหลังเขายิ่งใหญ่เพียงใด หากกล้าไปหาเรื่องชายหนุ่มเมื่อครู่เข้า เขามั่นใจเลยว่าทางตระกูลจะยอมสละมันทิ้งเพื่อลดโทสะศิษย์ของท่านบรรพชนถางเป็นแน่
     
    ถึงแม้ว่าฉินหลิงจะเดินเข้ามาภายในตำหนักของชิงชิงแล้วก็ตาม แต่จิตสัมผัสของเขายังทำงานอยู่ ดังนั้นคำพูดของทหารยามหน้าใหม่ที่เอ่ยถึงตัวเขานั้นย่อมชัดเจน
     
    อย่างไรก็ตามฉินหลิงไม่ได้ปฏิเสธว่าสิ่งที่ทหารยามหนุ่มผู้นั้นกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ในโลกที่อาศัยความแข็งแกร่งเป็นตัวกำหนดชะตากรรม เห็นได้ชัดว่าตัวเขาที่มีพลังเพียงสร้างฐานขั้นกลางย่อมเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆที่ไม่สำคัญต่อโลกใบนี้ หากไม่เพราะเขามีอาจารย์หนุนหลัง เขาก็เหมือนกับสิ่งที่ทหารยามหน้าใหม่ผู้นั้นกล่าวไม่มีผิด.. เป็นเพียงเด็กน้อยไม่รู้ความคนหนึ่ง!
     
    ฉินหลิงกำหมัดแน่นจนแขนสั่นในขณะที่เดินเข้าไปด้านในตำหนักหรูหราด้านหน้า ถึงแม้ภายในใจของเขาจะปั่นป่วนเพียงใด แต่สีหน้าของเขายังคงท่าทางสงบนิ่งเอาไว้ได้
     
    “เอ๊ะ... เจ้ากลับมา” หลานชิงชิงเผยรอยยิ้มเบิกบานออกมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ในห้วงดวงใจกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้นางจะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวนางไม่อาจแทรกเข้าไปในหัวใจของเขาได้ แต่การที่ได้มองดูเขาจากด้านข้างก็ทำให้นางพึงพอใจมากแล้ว
     
    สีหน้าของฉินหลิงเปลี่ยนมาเป็นซับซ้อนอีกครั้ง “ท่านอาจารย์มีคำสั่งฝากข้ามา”
     
    “หืม.. ท่านอาจารย์เก็บตัวอยู่มิใช่รึ?” ทันใดนั้นเองสายตาชิงชิงเปลี่ยนเป็นจริงจัง โดยทั่วไปถางอีเหวินจะไม่มีทางมายุ่งวุ่นวายเรื่องความเป็นไปในสำนัก สิ่งที่ทำให้ท่านอาจารย์สนใจจนถึงขนาดต้องออกคำสั่งมาโดยตรงย่อมเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของสำนักขจีไพรสัน หลังจากเห็นสีหน้าของชิงชิง ฉินหลิงก็พยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ยบอกถึงสิ่งที่ถางอีเหวินฝากบอกมา
     
    “เจ้าบอกว่าท่านอาจารย์ต้องการให้เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดที่อยู่ภายนอกกลับมาเก็บตัวในสำนักให้หมดและห้ามมิให้ใครออกไปภายนอกโดยเด็ดขาดอย่างนั้นรึ?” คำสั่งของผู้เป็นอาจารย์ทำให้หลานชิงชิงรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย ถึงแม้ว่าอาณาเขตสำนักขจีไพรสันจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้สำนักใหญ่อื่นๆ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะรองรับเหล่าศิษย์สาวกทั้งหมดได้ และยังมีสวนพืชสมุนไพรจำนวนมากที่กระจายอยู่โดยยรอบอีกด้วย
     
    ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากเรียกเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหมดกลับคืนสำนักในคราเดียวทำให้เจ้าสำนักรูปงามรู้สึกหนักอึ้ง
     
    อย่างไรก็ตามนางเข้าใจดีว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นร้ายแรงกว่าที่จินตนาการไว้ การปรากฏของโลกลี้ลับสามารถทำให้อาจารย์ของนางว้าวุ่นใจจนต้องออกคำสั่งที่ทำลายรากฐานของสำนักนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าความโกลาหลกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!
     
    “ข้าเข้าใจแล้ว” หลานชิงชิงถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าอ่อนล้าก่อนจะเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้าอย่างลังเล “แล้ว... แล้วเจ้าจะพักอยู่ในตำหนักข้าก่อนรึไม่?”
     
    ฉินหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เขารับคำสั่งให้คอยช่วยเหลือชิงชิง หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเขาจะได้ให้คำปรึกษาได้อย่างทันท่วงที
     
    “อืม... เช่นนั้นข้าจะให้คนไปเตรียมห้องพักให้”
     
    “รบกวนเจ้าด้วย”
     
    หลังจากฉินหลิงจากไป สีหน้าของหลานชิงชิงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม นางนั่งลงและครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่นานก่อนจะออกคำสั่งเรียกตัวผู้อาวุโสในสำนักทั้งหลายมาอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำสั่งของผู้เป็นอาจารย์ย่อมทำให้เหล่าผู้อาวุโสคัดค้านอย่างแน่นอน
     
     “ท่านเจ้าสำนัก ท่านไม่สามารถออกคำสั่งเช่นนี้ได้”
     
    “ท่านรู้รึไม่ว่าพืชสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นมีค่าเท่าไหร่กัน หากไม่มีคนดูแล มิใช่ว่าเราจะต้องขาดทุนย่อยยับรึ?”
     
    “ข้าขอคัดค้าน ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะวุ่นวาย แต่พวกเราจำเป็นต้องเลี้ยงปากท้องของศิษย์ในสำนักอีกจำนวนมาก หากไม่มีทรัพยากรเหล่านี้ สำนักขจีไพรสันของเราย่อมไม่หลงเหลืออะไร”
     
    “ขอให้ท่านเจ้าสำนักโปรดทบทวนคำสั่งอีกครั้งด้วย”
     
    และก็เป็นไปตามที่นางคาดไว้ เหล่าผู้อาวุโสหลักต่างพากันคัดค้านคำสั่งของนางอย่างเอาเป็นเอาตาย  แม้แต่นางเองก็ยังไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของท่านอาจารย์เลย
     
    “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่พอใจ แต่นี่เป็นคำสั่งของท่านอาจารย์” เมื่อเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล นางจึงใช้ชื่อเสียงของผู้เป็นอาจารย์ออกมาอย่างไม่ลังเล
     
     “ห๊ะ.. เป็นคำสั่งของท่านบรรพชนจริงรึ?” เห็นได้ชัดว่าท่าทีของเหล่าผู้อาวุโสหลักเปลี่ยนไป พวกเขาสามารถกดดันหรือคัดค้านเจ้าสำนักได้ด้วยหลักเหตุผลที่สมควร แต่สำหรับบรรพชนหญิงร่างเล็กผู้นั้น พวกเขาไม่กล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับนาง
     
    เพียงพริบตาบรรยากาศอึดอัดก็แผ่ปกคลุมทั่วห้อง ทุกคนได้แต่หยุดชะงัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเกรงกลัวถางอีเหวินมากเพียงใด
     
    “พวกท่านก็น่าจะรู้ว่าท่านอาจารย์เคยเดินทางไปยังทวีปหลักมาแล้ว สิ่งที่นางได้เผชิญมานั้นมากยิ่งกว่าพวกเราทุกคน การที่ท่านอาจารย์ออกคำสั่งด้วยตัวเองย่อมเป็นเพราะนางรับรู้มากกว่าพวกเราทุกคน” หลานชิงชิงพยายามไกล่เกลี้ยผู้อาวุโสทั้งหลาย
     
    ถึงแม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะรู้สึกไม่พอใจแต่พวกเขาก็ไม่อาจหักหน้าขัดคำสั่งของท่านบรรพชนได้ หลังจากได้ข้อสรุปซึ่งไม่ต่างจากที่คิดไว้ นางจึงปล่อยคำสั่งให้เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่ภายนอกกลับสำนักทันที
     
    ทันทีที่คำสั่งเรียกตัวกลับสำนักปรากฏขึ้น สถานการณ์สงบสุขในสำนักขจีไพรสันก็เปลี่ยนเป็นวุ่นวาย ต้องรู้ว่าตลอดหลายร้อยปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักขจีไพรสันมา ไม่เคยมีเหตุการณ์เรียกเหล่าผู้ที่ทำภารกิจอยู่ภายนอกกลับมารวมตัวแม้แต่ครั้งเดียว ผู้คนทั้งหลายต่างรู้สึกไม่ชอบมาพากลราวกับว่าอันตรายที่ยิ่งยวดกำลังใกล้เข้ามา..
     
    “ผู้อาวุโส4 ท่านมีอะไรจะพูดรึ?” หลังจากทุกคนกลับไป ภายในห้องก็เหลือเพียงเจ้าสำนักสาวและผู้อาวุโส4ซึ่งเชี่ยวชาญในการแฝงตัวที่รั้งรอเพื่อต้องการสนทนากับนางเพียงลำพัง
     
    “ท่านเจ้าสำนัก ในสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้ หากพวกเราไม่ทราบข่าวสารใดๆจากภายนอก ข้าเกรงว่ากว่าพวกเราจะเตรียมตัวได้ทันก็คงสายเกินไป ดังนั้นข้าและศิษย์ของข้าจะคอยสังเกตการณ์ความเป็นไปของโลกภายนอกให้เอง ขอให้ท่านโปรดพิจารณาด้วย” ผู้อาวุโส4จ้องไปทางเจ้าสำนักผู้เลอโฉมอย่างจริงจัง
     
    หลานชิงชิงขมวดคิ้วแน่น นางเผยท่าทางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอนุญาต สิ่งที่เกิดขึ้นในทวีปหนานหวู่ยามนี้ทำให้นางลำบากใจ หากว่านางยังไม่ได้รับข่าวสารใดๆเลยคงจะทำให้นางหนักใจยิ่งกว่าตอนนี้ หลังจากขบคิดแล้วนางจึงยกเว้นคำสั่งและปล่อยให้ผู้อาวุโส4ทำหน้าที่ตามเดิม
     
    “ขอบคุณท่านเจ้าสำนักอย่างยิ่ง”
     
    หลังจากได้รับความเห็นชอบจากหลานชิงชิงให้ตัวเขาและศิษย์สามารถอยู่ภายนอกสำนักได้ ดวงตาของผู้อาวุโสเผยความโหดเหี้ยมออกมา
     
    อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทะยานออกจากตำหนักเจ้าสำนักก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งดักทางเขาไว้ ราวกับกำลังรอเขาอยู่
     
    ผมสีดำโบกสะบัดไปมา ดวงตาคมกริบที่จ้องมาทางเขาประหนึ่งสามารถล้วงความลับของเขาได้ทั้งหมด ท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้าดูสูงส่งอย่างยิ่ง
     
    “ท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้รึ?” ผู้อาวุโส4รีบสงบใจและเอ่ยถามอย่างสุภาพ ถึงแม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะมีฐานะเป็นศิษย์ของท่านบรรพชนที่มีสถานะเทียบเท่ากับเหล่าผู้อาวุโส แต่สำหรับเขาแล้วชายหนุ่มตรงหน้าเป็นยิ่งกว่านั้น ภาพการต่อสู้จนทำให้ฟ้าดินแปรปรวนในอดีตยังทำให้เขาตกใจสุดขีด อำนาจที่อยู่เบื้องหลังของฉินหลิงทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็กน้อยที่มีพลังฝึกตนขั้นสร้างฐานก็ตาม
     
    “ผู้อาวุโส4 ข้ารู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุดที่ลูกศิษย์ของท่านต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมเพราะสำนักคุนเผิง แต่สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่เป็นใจที่ท่านจะลงมือแก้แค้น ต่อให้ท่านแก้แค้นสำเร็จท่านก็ควรคิดถึงผลลัพธ์ถึงสิ่งที่ท่านก่อด้วย” แม้ว่าฉินหลิงจะไม่ได้เข้าร่วมหารือเมื่อครู่ แต่จิตสัมผัสของยังคงได้ยินทุกอย่าง ด้วยความสามารถพิเศษของพลังจิตทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตของผู้อาวุโส4  เมื่อรวมกับการที่เขาเสนอตัวไปสืบข่าวภายนอก เห็นได้ชัดเลยว่าเขามีเจตนาแก้แค้นสำนักคุนเผิงที่สังหารลูกศิษย์ของเขา
     
    “เจ้าจะไปรู้เรื่องอะไร!” ผู้อาวุโส4ที่ปกติมักสุขุมเยือกเย็นกัดฟันแน่น สีหน้าของเขาเกรี้ยวกราดอย่างยิ่ง แรงกดดันที่กระจายออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ธรรมดาเทียบได้กับชนชั้นหลอมรวมขั้นปลายเลยทีเดียว
     
    อย่างไรก็ตามแรงกดดันที่น่าหวาดกลัวของผู้อาวุโส4ที่เกิดจากการสูญเสียลูกศิษย์เพราะสำนักคุนเผิงไม่ส่งผลใดๆต่อฉินหลิงแม้แต่น้อย คลื่นพลังจิตไร้รูปร่างของฉินหลิงสามารถสกัดแรงดันวิญญาณของชายตรงหน้าอย่างเบ็ดเสร็จ
     
    ในตอนนั้นเอง ฉินหลิงก้าวเดินไปด้านหน้าและหยุดห่างจากผู้อาวุโส4ที่กำลังเลือดขึ้นหน้าเพียงครึ่งก้าว สายตาทั้งสองจ้องมองกัน
     
    “ท่านคิดว่าตัวเองเป็นใคร แม้แต่ท่านอาจารย์ยังไม่กล้าบุกสำนักคุนเผิงตรงๆ แล้วท่านคิดว่าตัวเองเลิศล้ำปานนั้นเชียวหรือ? ท่านคิดว่าตัวเองจะแก้แค้นศิษย์ของท่านที่ตายไปได้จริงๆ? ไม่คิดว่ามันไร้เดียงสาไปหน่อยรึ?” คำพูดของฉินหลิงประหนึ่งฟ้าผ่ากลางใจ
     
    สีหน้าของผู้อาวุโส4เปลี่ยนเป็นขมขื่น วาจาของฉินหลิงทำให้เขาได้สติขึ้นมา
     
    “แล้วข้าควรทำอย่างไร? ศิษย์ข้ายี่สิบแปดคน พวกมันเป็นเหมือนลูกของข้า หรือข้าต้องปล่อยให้มันตายโดยไม่อาจแก้แค้นให้แก่พวกเด็กน้อยของข้าได้เลย” ผู้อาวุโส4พึมพำออกมาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง แม้แต่การแก้แค้นเขายังทำไม่ได้
     
    “ขอให้ท่านเชื่อมั่นในตัวข้า ข้าจะทำให้พวกสำนักคุนเผิงต้องชดใช้หนี้เลือดในครั้งนี้!!”
     
    คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ผู้อาวุโส4เบิกตากว้าง เลือดลมในร่างเดือดพร่าน เขาเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นต่อสิ่งที่ฉินหลิงพูดออกมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้ “ได้.. ข้าจะเชื่อเจ้า”
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×