ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝืนลิขิตฟ้า ท้าสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #276 : การตื่นขึ้นของสายเลือดพฤกษา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.05K
      567
      3 มี.ค. 63

    เสียงของสายฟ้าดังกึกก้องไปหลายสิบลี้ คลื่นพลังสายฟ้าที่ถูกอัดแน่นระเบิดขึ้นเกิดเป็นพลังทำลายล้างมหาศาล พื้นที่โดยรอบกระทิงสายฟ้าเกิดเป็นหลุมลึก ต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบถูกเผากลายเป็นจุณ นอกจากเตาตะโกสีดำก็ไม่เหลือเศษซากอะไร
     
    ม่อออออออออ!!!
     
    กระทิงสายฟ้าตัวใหญ่คำรามออกด้วยความเจ็บปวด ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ของมันจะสามารถใช้พลังสายฟ้าได้ตามลักษณะของสายเลือด แต่อย่างไรร่างกายของมันก็ใช่ว่าจะทนรับการโจมตีจากสายฟ้าได้โดยตรง เมื่อร่วมกับอาการบาดเจ็บที่ขาก่อนหน้านี้ สภาพกระทิงสายฟ้าในตอนนี้ช่างดูน่าเวทนาอย่างยิ่ง
     
    “เกิดอะไรขึ้น! ทำไมกระทิงสายฟ้าถึงได้ปล่อยพลังทำร้ายตัวเอง” เซี่ยรั่วหรูเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง นางไม่เข้าใจว่าทำไมสัตว์อสูรที่น่าหวาดกลัวตรงหน้าถึงได้ทำร้ายตัวเองเช่นนี้
     
    อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอยู่หนึ่ง นางก็พอเดาได้ว่ามันต้องเกี่ยวกับศิษย์พี่ของนางอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เอ่ยปากบอกว่าจะไปเผชิญหน้าเพียงลำพัง หรือว่าแท้จริงแล้วกระทิงสายฟ้าตัวนี้บาดเจ็บสาหัสจึงไม่สามารถทนต่อการใช้คลื่นพลังสายฟ้าได้อีก?
     
    ตุบ!
     
    กระทิงสายฟ้าที่บาดเจ็บอยู่ที่ขาหลังก่อนหน้าก็ไม่อาจทนรับอาการบาดเจ็บเพิ่มได้อีก ขาหลังที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลของมันทรุดลงไปกับพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรง
     
    ในตอนนั้นเองที่กระทิงสายฟ้าล้มลง ร่างของฉินหลิงก็ไปปรากฏตัวพร้อมกับกระบี่ในมือที่ง้างขึ้นสุดแขน  กระบี่ไม้ระเบิดแสงสว่างจ้า
     
    สายตาของกระทิงสายฟ้าจ้องไปทางมนุษย์ร่างเล็กตรงหน้าด้วยความไม่เป็นมิตร หากก่อนหน้านี้มันเชื่อสัญชาตญาณและหนีไป มันอาจจะไม่ต้องมาเจออะไรเช่นนี้ก็ได้...
     
    ทว่าฉินหลิงไม่ได้มองแววตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจของสัตว์ร่างอสูรตรงหน้าแม้แต่น้อย เขาปล่อยปราณกระบี่ออกมาอย่างสุดกำลัง
     
    ลำแสงสีขาวที่มีต้นกำเนิดจากตัวอ่อนกระบี่พุ่งไปโดยมีจุดมุ่งหมายคือบั่นคอของกระทิงสายฟ้าอย่างรวดเร็ว
     
    เลือดสีแดงเข้มกระฉูดออกมาจากบาดแผลจนเลอะเต็มใบหน้าของฉินหลิง.. รอบร่างของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
     
    อย่างไรก็ตาม ปราณกระบี่ของฉินหลิงสามารถทะลวงผ่านหนังหนาที่เป็นเหมือนปราการด้านนอกเท่านั้น ความแข็งแกร่งของกระทิงสายฟ้าช่างสมคำร่ำลือจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้ปราณกระบี่สังหารสัตว์อสูรขั้น3มาไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงรู้ดีถึงพลังอันน่าตกตะลึงของปราณกระบี่ แต่การที่เขาไม่สามารถใช้ปราณกระบี่กำราบกระทิงสายฟ้าที่บาดเจ็บตัวหนึ่งได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าสัตว์อสูรตัวนี้นับได้ว่าเป็นชั้นยอดในสัตว์อสูรขั้นที่3ด้วยกัน
     
    เมื่อเห็นว่าปราณกระบี่เพียงแค่ทะลวงชั้นหนังภายนอกเท่านั้น เขาก็ขมวดคิ้วแน่น หน้าตาของฉินหลิงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น
     
    แม้ฉินหลิงจะหน้าซีดเซียวจากการใช้ปราณวิญญาณไปจำนวนมาก แต่เขาก็ต้องฝืนปล่อยปราณกระบี่สีขาวโจมตีเข้าไปอีกครั้งยังตำแหน่งเดิม
     
    หลังจากปราณกระบี่อีกสายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้าพุ่งไปอีกครั้ง
     
    ทันใดนั้นคอของกระทิงสายฟ้าก็หลุดออกจากบ่า หยาดโลหิตไหลนองประหนึ่งลำธารโลหิตขนาดย่อม ร่างของกระทิงสายฟ้าถูกแยกเป็นสองส่วน
     
    ฉินหลิงทรุดเข่าลงไปกับพื้น เหงื่อไหลท่วมใบหน้าที่ซีดขาว มือสั่นระริกจนแทบจับกระบี่ไม่อยู่ การใช้ปราณกระบี่ติดต่อกันถึง2ครั้งทำให้ร่างกายของเขารับภาระอย่างหนัก หากไม่เพราะเขามีพลังบำเพ็ญเพียรมากกว่าก่อนหน้า บางทีเขาคงรับผลกระทบไม่ไหวและหมดสติไปแล้ว...
     
    เพื่อแลกกับพลังโจมตีมหาศาล เขาเองก็ต้องจ่ายไปไม่น้อยเช่นกัน
     
    อีกด้านหนึ่ง เซี่ยรั่วหรูยังอยู่ในอาการตกตะลึงจนร่างกายแข็งทื่อ ถึงแม้ว่านางจะเชื่อใจศิษย์พี่ผู้นี้มากเท่าไหร่ แต่การได้มาประจักษ์ตอนที่เขากำราบกระทิงสายฟ้ากับตาจริงๆ ทำให้นางพูดไม่ออก
     
    เมื่อมองร่างที่นอนแน่นิ่งสิ้นชีวิตของสัตว์อสูรอย่างกระทิงสายฟ้า นางก็รู้ได้ทันทีว่าในขั้นบำเพ็ญระดับเดียวกันคงไม่มีใครเทียบศิษย์พี่คนนี้ของนางได้อีกแล้ว หากเขาเริ่มบำเพ็ญเร็วกว่านี้ บางทีบิดาของนางอาจจะไม่ได้รับฉายาไร้พ่ายในขั้นหลอมรวมก็เป็นได้...
     
    “ศิษย์พี่ เจ้าเป็น....”
     
    อย่างไรก็ตามก่อนที่เซี่ยรั่วหรูจะเอ่ยจบ ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ความตกตะลึงของนางยิ่งกว่าตอนที่นางเห็นฉินหลิงสังหารกระทิงสายฟ้าเสียอีก
     
    ตูมมม!!
     
    เพียงชั่วพริบตา ร่างของฉินหลิงที่หอบหายใจอย่างหนักหน่วงถูกลอบโจมตีจากข้างหลังจนลอยไปไกลก่อนจะหยุดลงที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
     
    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป แม้แต่ฉินหลิงยังแทบไม่ทันรู้ตัวเลยว่าตัวเองโดนอะไรเข้าไป แต่อาการบาดเจ็บบังคับให้เขากระอักเลือดออกมา กระดูกในร่างหักหลายซี่ อวัยวะภายในฉีกขาด รอยบาดแผลจากด้านหลังทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ เพียงการโจมตีเดียวกับทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
     
    ฉินหลิงที่แทบไม่มีพลังวิญญาณหลงเหลือและยังบาดเจ็บสาหัสฝืนบังคับร่างกายให้เงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่ลอบโจมตีเขาจนเกือบตาย
     
    สายตาพร่ามัวของเขาเห็นสัตว์อสูรที่กำลังยืนอยู่ข้างร่างของกระทิงสายฟ้าด้วยความยโส
     
    ลำตัวขนาดใหญ่ แผงคอสีดำที่คอพลิ้วไหว ดวงตาคมกริบ ทั่วร่างปกคลุมด้วยขนสีดำ ลวดลายสีแดงราวกับโลหิตที่ตัดกับขนสีดำทำให้มันดูไร้ผู้ใดเปรียบ
     
    คลื่นพลังที่ปล่อยออกมาจากร่างของสัตว์อสูรตัวนี้สะเทือนขวัญเหลือเกิน โดยเฉพาะท่าทางอหังการของมัน ยิ่งทำให้ผู้ที่เฝ้ามองรู้สึกเล็กจ้อย...
     
    “ราชสีห์โลหิตทมิฬ..” คาดไม่ถึงเลยว่าแขกผู้มาเยือนตนใหม่จะเป็นถึงสัตว์อสูรขั้น4ที่สมควรจะอยู่เพียงแค่ชั้นในของอาณาเขตมู่หลง
     
    ฉินหลิงรับรู้ได้ทันทีเลยว่าบาดแผลก่อนหน้าของกระทิงสายฟ้าคงเกิดจากนักล่าตรงหน้าและมันคงตามล่าเหยื่อที่หลบหนีมาถึงชั้นนอกของอาณาเขตมู่หลง
     
    ราชสีห์โลหิตทมิฬนั้นมีชื่อเสียงสะเทือนฟ้าในอาณาเขตมู่หลง สายเลือดขั้น4ที่เทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นหลอมรวม แต่ว่ามันเป็นสัตว์อสูรที่เกิดมาเพื่อเป็นนักล่า จึงทำให้มันเป็นเหมือนฝันร้ายของผู้ฝึกตน
     
    อย่างไรก็ตามราชสีห์โลหิตทมิฬนั้นมีถิ่นอาศัยอยู่ชั้นในของอาณาเขตมู่หลง จึงทำให้น้อยนักที่จะได้พบ.. ดูเหมือนครั้งนี้พวกเขาจะโชคร้ายจริงๆ
     
    “รีบหนีไป..” ฉินหลิงเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะสลบไป
     
    เซี่ยรั่วหรูใจหายวาบเมื่อเห็นฉินหลิงนอนแน่นิ่งไป นางพุ่งไปทางชายหนุ่มโดยไม่สนใจสัตว์อสูรขั้น4ที่มาใหม่แม้แต่น้อย
     
    เมื่อได้เห็นอาการบาดเจ็บของฉินหลิง สีหน้าของเซี่ยรั่วหรูเปลี่ยนไป ด้านหลังของเขามีรอยกรงเล็บขนาดใหญ่จนมองเห็นกระดูกสันหลัง เลือดจากบาดแผลไหลนองเต็มมือของนาง
     
    “ฮือๆๆ.. ฉินหลิง  ศิษย์พี่ฉิน เจ้าจะตายอย่างนี้ไม่ได้  เจ้าต้องพาข้าออกจากอาณาเขตมู่หลงก่อน เจ้าจะทิ้งข้าไว้อย่างนี้ไม่ได้” เซี่ยรั่วหรูร้องครวญครางออกมา เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้นี้แน่นิ่งจนเหมือนร่างไร้วิญญาณยิ่งทำให้นางสิ้นหวัง
     
    โฮกกกกกก!!
     
     ทันใดนั้นเองราชสีห์โลหิตทมิฬตัวใหญ่ที่กำลังลิ้มรสเลือดเนื้อของกระทิงสายฟ้าที่ถูกฉินหลิงสังหารไปพลันหันมาทางมนุษย์สองคน ในสายตาของสุดยอดนักล่าที่อยู่แทบจะบนสุดของห่วงโซ่อาหารในอาณาเขตมู่หลง มันแทบจะไม่เห็นคุณค่าร่างกายเล็กๆของผู้ฝึกตนเผ่าพันธุ์มนุษย์แม้แต่น้อย
     
     
    ในตอนนั้นเอง เซี่ยรั่วหรูก็เงยหน้าจ้องไปทางราชสีห์โลหิตทมิฬ ภายในใจของนางเกิดอารมณ์ต่างๆมากมาย หวาดกลัว ตกใจ บ้าคลั่ง หดหู่ เจ็บปวด....
     
    แทบจะในเวลาเดียวกัน ราชสีห์โลหิตทมิฬกระโดดถอยหลังพร้อมขู่คำรามไปทางเซี่ยรั่วหรูด้วยอาการตกใจสุดขีด ด้วยความที่มันเป็นสัตว์อสูรขั้น4 มันจึงสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลจากมนุษย์ตัวเล็กๆตรงหน้า มีเพียงอย่างเดียวที่มันคิดได้ มนุษย์ที่ดูเหมือนอ่อนแอผู้นั้นอันตรายพอที่จะปลิดชีพมันได้
     

    ทว่าในขณะที่ราชสีห์โลหิตทมิฬกำลังตกตะลึง พื้นดินใต้เท้าของมันปริแตก รากไม้ขนาดใหญ่พุ่งทะลวงไปยังร่างของสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์นักล่า
     
     
    อย่างไรก็ตาม ราชสีห์โลหิตทมิฬก็อาศัยความเร็วของมันหลบการลอบโจมตีของที่ไม่คาดคิด
     
    ฉึก  ฉึก  ฉึก!!!
     
    ในขณะนั้นเองรากไม้ที่ม้วนเข้ากันเป็นเกลียวราวกับคมหอกอีกนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นดินเข้าโจมตีสัตว์ร้ายตรงหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
     
    ราชสีห์โลหิตทมิฬพยายามเคลื่อนที่หนีการโจมตีที่กระหน่ำเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล รากไม้ที่ทะลุออกจากพื้นดินราวกับไร้ที่สิ้นสุด ในตอนนี้มันเริ่มเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในจิตใจ...
     
    เพียงพริบตา สัตว์อสูรที่ราวกับเป็นฝันร้ายของเหล่าผู้ฝึกตนอย่างราชสีห์โลหิตทมิฬเต็มไปด้วยรอยบาดแผลเหวอะหวะที่ย้อมไปด้วยโลหิต เมื่อมองไปยังใบหน้าของมันจะเห็นได้ชัดเลยว่าความโหดเหี้ยมก่อนหน้าได้เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวไปแล้ว มันไม่คิดเลยว่ามนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่งจะน่ากลัวถึงเพียงนี้
     
    เซี่ยรั่วหรูมองไปยังสัตว์อสูรตรงหน้าด้วยดวงตาสีเขียวสดใส พลังที่ระเบิดออกมาจากร่างของนางนั้นเหนือความคาดหมาย พลังปราณวิญญาณธาตุไม้ที่พวยพุ่งออกมาจากร่างราวกับไร้ที่สิ้นสุด ยากจะจินตนาการเลยว่าผู้ฝึกตนคนหนึ่งจะมีพลังได้มหาศาลถึงเพียงนี้
     
    แสงสีเขียวระยิบระยับที่เปล่งประกายอยู่รอบเซี่ยรั่วหรูทำให้นางดูงดงามบริสุทธิ์ประหนึ่งเซียนสวรรค์ผู้ไร้ซึ่งมลทิน
     
    ทว่าอีกทางหนึ่งช่างเป็นภาพที่แตกต่างกันเหลือเกิน สัตว์อสูรที่ใช้ชีวิตด้วยการเข่นฆ่าอย่างราชสีห์โลหิตทมิฬที่สมควรเต็มไปจิตสังหารกับนอนสั่นด้วยความหวาดกลัว ร่างของมันถูกรากไม้แทงจนเป็นรูนับสิบ หยาดโลหิตที่ไหลนองออกมาราวกับน้ำตก บาดแผลที่เกิดขึ้นช่างน่าสะพรึงเหลือเกิน
     
    ต้องรู้ว่าราชสีห์โลหิตทมิฬนั้นคือสุดยอดสัตว์อสูรขั้น4ที่แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสในสำนักใหญ่ยังเกรงกลัว แต่มันกลับถูกเซี่ยรั่วหรูจัดการได้เพียงลำพัง หากเรื่องที่นางกำราบสัตว์อสูรตัวนี้แพร่ออกไปชื่อเสียงของนางคงโด่งดังยิ่งกว่าบิดาของนางเสียอีก
     
    อย่างไรก็การที่นางสามารถกำราบสัตว์อสูรอย่างราชสีห์โลหิตทมิฬได้นั้นย่อมเป็นเพราะพลังจากสายเลือดพฤกษาและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผืนป่าอย่างอาณาเขตมู่หลง
     
    “ในมุมมองของสัตว์อสูร พืชอาจจะเป็นเพียงแค่ตัวตนที่มีไว้ถูกกลืนกิน ไม่มีสติปัญญาและขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่ถ้ามองในมุมของพืชแล้วล่ะก็สัตว์มันก็แค่สิ่งมีชีวิตที่มีไว้เพื่อช่วยขยายพันธุ์ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ตายอย่างทุกข์ทรมาน” น้ำเสียงของเซี่ยรั่วหรูนั้นเย็นเยือกอย่างยิ่ง แม้กระทั้งราชสีห์โลหิตทมิฬที่ใกล้ตายเต็มทียังมองมาทางนางด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งในอนนี้ของนางนั้นได้เกินขอบเขตไปแล้ว
     
    หลังจากเดินมาถึงร่างที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลของสัตว์อสูร เซี่ยรั่วหรูโบกมือขึ้น
     
    แทบจะในเวลาเดียวกัน ราชสีห์โลหิตทมิฬกู่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เสียงคำรามของสุดยอดสัตว์อสูรเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง..
     
    “จงกลายเป็นปุ๋ยให้พฤกษาได้เติบโตซ่ะ..”
     
    คาดไม่ถึงเลยว่าเลือดเนื้อของราชสีห์โลหิตทมิฬมีต้นอ่อนของต้นไม้งอกเงยขึ้นมาจำนวนมาก รากสีขาวเคลื่อนไหวในร่างกายของสัตว์อสูรราวกับกำลังดูดกลืนพลังชีวิตมาเพื่อใช้ในการเติบโต
     
    เพียงพริบตาสัตว์อสูรที่ขึ้นชื่อว่าไร้เทียมทานพลันกลายเป็นกองกระดูกที่ปกคลุมไปด้วยพืช...
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×