คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #274 : การต่อสู้อย่างต่อเนื่อง(2)
ผ่านไปอีกหลายวันนับตั้งแต่ทั้งสองได้ล่าสัตว์อสูรขั้น3
หนูปีศาจ..
“ศิษย์พี่
คราวนี้พวกเราจะล่าอะไรกันดี?” เซี่ยรั่วหรูเอ่ยถามชายหนุ่มที่เดินนำอยู่ข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชุดของบุรุษ
แต่ทรวดทรงองค์เอวของคุณหนูจากสำนักทะยานฟ้าผู้นี้นับได้ว่าเป็นหญิงงามล้มเมืองที่ยากจะหาที่เปรียบคนหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามความงดงามที่สามารถสะกดชายหนุ่มให้หลงใหลกลับไม่เป็นผลต่อชายหนุ่มแซ่ฉินผู้นี้เลย
“ยังไม่รู้
ต้องดูไปก่อน” เสียงเรียบเฉยตอบกลับอย่างเฉยชา
ท่าทางไร้อารมณ์ของเขาทำให้เซี่ยรั่วหรูอดรู้สึกสงสัยว่าจริงๆแล้วเขานั้นยังมีอารมณ์ต่อสตรีเพศอยู่รึไม่? แน่นอนว่านางไม่มีทางถามอะไรเช่นนี้ออกไปเป็นแน่
เมื่อนึกภาพที่เขาทะลวงดอกเบศจมาศ(ประตูหลัง)ของหมูป่าขนเหล็กเมื่อตอนนั้น
ความกล้าหาญในใจที่มีต่อเขาพลันหายวับไปทันที
หลังจากผ่านไปไม่นาน
ฉินหลิงจึงหยุดเคลื่อนไหวและหันไปทางหญิงสาวที่ตามหลังมา “เจ้ารออยู่ที่นี้ก่อน”
เซี่ยรั่วหรูพยักหน้ารับเหมือนทุกที
ก่อนที่พวกเขาจะทำการล่าสัตว์อสูร
ศิษย์พี่รูปหล่อคนนี้ของนางมักจะออกไปสำรวจพื้นที่ด้านหน้าโดยรอบก่อนเป็นประจำจนนางรู้สึกชินชาไปแล้ว
ผ่านไปราวครึ่งก้านธูป..
ฉินหลิงกลับมาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น
“ศิษย์พี่
ข้างหน้ามีสัตว์อสูรที่อันตรายอยู่รึ?”
เซี่ยรั่วหรูเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นท่าทางตึงเครียดของเขา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ในการล่าสัตว์อสูรขั้น3อยู่เป็นประจำ
แต่ก็ยังมีสัตว์อสูรอีกไม่น้อยที่เกินกำลังของพวกเขา เพราะอย่างไรพวกเขาก็เคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายจากการล่าสัตว์อสูรที่เกินกำลังตัวเองอยู่หลายครั้ง
ฉินหลิงมองไปทางหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“ข้างหน้าประมาณห้าลี้มีกระทิงสายฟ้าอยู่ตัวหนึ่ง”
“กระทิงสายฟ้า!” เซี่ยรั่วหรูเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่านางรู้จัดสัตว์อสูรชนิดนี้ดี
ถึงแม้ว่ากระทิงสายฟ้าจะนับว่าเป็นอสูรขั้น3
แต่ความแข็งแกร่งของมันเกือบจะเทียบเท่าอสูรขั้น4ที่สามารถโค่นได้กระทั้งชนชั้นหลอมรวม
นอกจากผิวหนังที่หนาจนยากจะทำลายแล้ว ความเร็วของมันยังเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา
แถมมันยังมีพลังแฝงอย่างธาตุสายฟ้าที่น่ากลัวไว้อีกด้วย กระทั้งนักล่าที่เชี่ยวชาญในความแข็งแกร่งยังต้องคิดให้ดีก่อนจะลงมือกับสัตว์อสูรชนิดนี้
เมื่อเห็นท่าทางแตกตื่นที่ไม่ได้เห็นมานานของหญิงสาว
ฉินหลิงแสยะยิ้มอออกมาพร้อมกับอธิบายต่อ “ถึงแม้ว่ากระทิงสายฟ้าจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะล่า
แต่ตัวข้างหน้าที่ข้าพบนั้นมันบาดเจ็บหนัก
ขาหลังของมันมีรอยบาดแผลจากคมเขี้ยวจนโชกไปด้วยเลือด
ปกติกระทิงสายฟ้าจะอาศัยอยู่ภายในอาณาเขตมู่หลง
ดูท่ามันคงถูกไล่ล่าจนหนีมาถึงอาณาเขตภายนอก”
“โอ้..เป็นเช่นนั้นน่ะเอง
แต่ข้าคิดว่าพวกเราไม่ควรไปเสี่ยงกับสัตว์อสูรที่น่ากลัวอย่างกระทิงสายฟ้า”
เซี่ยรั่วหรูหรี่ตาลงมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้า
ปกติแล้วเขาจะคิดอ่านรอบคอบและพยายามลดความเสี่ยงทุกอย่าง
การที่เขาเอ่ยอธิบายราวกับต้องการล่ากระทิงสายฟ้าทำให้นางรู้สึกแปลกใจ “หรือว่าที่จริงแล้วเจ้าปิดบังอะไรข้าไว้!”
ฉินหลิงมองสายตาที่จ้องมาก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ปิดเจ้าไม่ได้จริงๆ เอาล่ะข้าบอกตรงๆเลยล่ะกัน ข้าต้องการโลหิตของกระทิงสายฟ้า”
“แล้วเจ้าจะเอาโลหิตของกระทิงสายฟ้าไปทำอะไร?”
“สร้างยันต์สายฟ้าฟาด”
“ห๊ะ...
นี้เจ้ายังเป็นผู้จารึกอักขระด้วยรึ?”
เซี่ยรั่วหรูรู้สึกตกตะลึง
ก่อนหน้านางเคยเห็นเพียงเขาใช้พลังอักขระในร่างเพื่อต่อสู้ จึงรับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาเป็นผู้ใช้อักขระ
แต่ความสามารถในการจารึกอักขระที่เขาเพิ่งเอ่ยปากออกมาเมื่อครู่นี้ช่างเกินจินตนาการของนางไปไกล
“อืม
ข้าเป็นผู้จารึกอักขระขั้น2” ฉินหลิงเอ่ยตอบตามตรง อีกไม่นานนางก็จะกลายมาเป็นศิษย์ของถางอีเหวิน
ซักวันนางก็คงรู้เข้าอยู่ดี แถมนางก็ผ่านประสบการณ์เป็นตายกับเขามาไม่น้อย
ดังนั้นฉินหลิงจึงรู้ดีว่าหญิงสาวคนนี้เชื่อถือได้
“เดี๋ยวก่อน..
ยันต์สายฟ้าฟาดเป็นยันต์ขั้น3ไม่ใช่รึ? แต่เจ้ายังไม่บรรลุขั้นแก่นทองคำเลย
แล้วเจ้าจะสร้างยันต์ขั้น3ได้อย่างไร” นัยน์ตาสงสัยของหญิงสาวจ้องไปทางฉินหลิง
ถึงนางจะไม่รู้เกี่ยวกับผู้ฝึกตนสายอักขระวิถีมากนัก แต่นางก็พอรู้มาว่าการจะสร้างยันต์ของผู้จารึกอักขระนั้นจำเป็นต้องมีพลังฝึกตนที่สอดคล้องกัน
หากเขาที่มีพลังฝึกตนขั้นสร้างฐานและสร้างยันต์ขั้น2ได้ แม้ว่ายากจะเชื่อแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้
แต่การที่เขาจะก้าวข้ามขอบเขตไปสร้างยันต์ขั้น3เลยนั้นทำให้นางรู้สึกแทบบ้า
ฉินหลิงเผยรอยยิ้มออกมาแต่ไม่ได้เอ่ยอธิบายอะไรออกไป
ต้องรู้ว่าความมั่นใจในการสร้างยันต์3นั้นเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ถึงความก้าวหน้าของพลังอีกชนิดหนึ่งที่เขามี พลังจิต!
หลังจากฝืนทนใช้พลังจิตเพื่อสำรวจพื้นที่ในอาณาเขตมู่หลงอยู่เป็นประจำ
ดูเหมือนความเหน็ดเหนื่อยที่เขาสูญเสียไปจะได้รับผลตอบแทน
ถึงแม้พลังฝึกตนของเขาจะไม่ถึงขั้นแก่นทองคำ
แต่เขาก็มั่นใจว่าพลังจิตที่แข็งแกร่งของเขาจะทดแทนกันได้
“เมื่อเทียบกับเจ้าแล้ว
ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนตัวไร้ค่าเลยล่ะ” เซี่ยรั่วหรูบ่นออกมาเสียงเบา ใครใช้ให้ศิษย์พี่ของนางผู้นี้เก่งกาจเกินไปล่ะ
ฉินหลิงได้แต่หัวเราะแห้งๆและเอ่ยปลอบ
“เอาเถอะน่า.. คนเราย่อมถนัดไม่เหมือนกัน อย่างกระบวนท่าคมหอกไร้จำกัดที่เจ้าสามารถใช้ได้ถึง8คมหอกก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าเป็นหนึ่งในยอดฝีมือวิถีหอกคนหนึ่ง
หากเจ้าสำนักเซี่ยรู้เข้าคงดีใจอย่างยิ่ง”
เมื่อได้ยินชายหนุ่มเอ่ยถึงผู้เป็นพ่อ
สีหน้าของเซี่ยรั่วหรูเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง นางเกิดความรู้สึกกังวลเหลือเกินว่าท่านพ่อจะสามารถทะลวงด่านได้สำเร็จรึไม่? หากว่าเขาทะลวงผ่านขั้นประสานวิญญาณไม่สำเร็จ
เช่นนั้นบิดาของนางคงต้องตาย
“อย่าคิดมากไปเลย
บิดาของเจ้าขึ้นชื่อว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในขั้นหลอมรวม
หากเขายังไม่สามารถทะลวงผ่านขั้นประสานวิญญาณได้ ในโลกนี้ก็คงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว”
ฉินหลิงปลอบหญิงสาวที่กำลังอยู่ในอารมณ์หดหู่
เซี่ยรั่วหรูเหลือบมองไปทางฉินหลิงเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคำพูดปลอบประโลมจากเขา
“ฮิฮิ...
ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว ท่านไม่ต้องมากังวลข้าหรอก ไปกันเถอะ กระทิงสายฟ้ารอพวกเราอยู่”
เซี่ยรั่วหรูเปลี่ยนกลับมาเป็นหญิงสาวร่าเริงเช่นเคย ถึงแม้ว่านางจะรู้สึกเศร้าใจแต่นางก็รู้ดีว่าตนเองไม่อาจช่วยอะไรบิดาได้
ตอนนี้นางได้เพียงแต่พยายามให้ตัวเองแข็งแกร่งที่สุดเพื่อที่จะไม่ได้เป็นภาระของผู้เป็นบิดาอีก
ฉินหลิงพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับความสงสัยในการเปลี่ยนแปลงอารมณ์อย่างฉับพลัน คงยากจะเชื่อว่าหญิงสาวที่แสนเย็นชาและเอาแต่ใจอย่างคุณหนูเพียงคนเดียวของสำนักทะยานฟ้าจะนิสัยเปลี่ยนไปเช่นนี้ได้..
แน่นอนว่าเขาคงไม่รู้ว่าความเปลี่ยนแปลงของนางเกิดขึ้นเพราะตัวเขา
ต่อมาทั้งสองก็เดินทางมาถึงจุดฉินหลิงพบกระทิงสายฟ้าก่อนหน้า
อย่างไรก็ตามพวกเขากลับคาดไม่ถึงเลยว่าตรงหน้าของพวกเขาไม่ได้มีกระทิงสายฟ้าอยู่เพียงลำพัง
ด้านหน้ายังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่อีกหนึ่งตัว
หมูป่าขนเหล็กที่ยังไม่โตเต็มวัยยืนที่สูงเพียงครึ่งตัวของกระทิงสายฟ้ากำลังยืนอยู่จ้องหน้าอสูรที่ฉินหลิงตั้งไว้เป็นเป้าหมาย
ในตอนนั้นเองหมูป่าสีน้ำตาลตัวเล็กได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
มันพุ่งร่างสีน้ำตาลอ่อนเข้าชนร่างของกระทิงสายฟ้าที่มีรอยบาดแผลเหวอะหวะอยู่ที่ขาด้านหลัง
ทว่าก่อนที่หมูป่าขนเหล็กวัยเยาว์จะเข้าไปถึงร่างกระทิงสีดำที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ
ประกายสายฟ้าที่ออกมาจากเขาสีเงินของกระทิงสายฟ้าพุ่งตรงไปยังร่างของหมูป่าสีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!!
หลังจากโดนคลื่นสายฟ้าที่น่าหวาดกลัวเข้าใส่
ร่างของหมูป่าขนเหล็กตัวนั้นล้มลงและกระตุกอยู่หลายครั้ง
สายตาของกระทิงสายฟ้ามองไปทางหมูป่าวัยเยาว์ที่กล้ามาท้าทายมันอย่างดูแคลนก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจไยดี
อย่างไรก็ตาม
หมูป่าที่สมควรตายจากสายฟ้าของกระทิงสายฟ้ากลับลุกขึ้นได้อีกครั้ง
ขนตามตัวของมันถูกเผาจนเป็นสีดำและมีกลิ่นไหม้ลอยฟุ้งกระจาย
โฮกกก!
หมูป่าขนเหล็กตัวเล็กคำรามออกมาพร้อมกับท่าทางบ้าคลั่ง
สายตาแดงกล่ำของมันดูดุร้าย
มันพุ่งร่างที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลและอาการบาดเจ็บเข้าปะทะกับกระทิงสายฟ้า
กระทิงสายฟ้าที่เดินอย่างเชื่องช้าจากอาการบาดเจ็บที่ขาด้านหลังสัมผัสได้ถึงหมูป่าขนเหล็กที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเกิดความรู้สึกไม่ค่อยพอใจที่ถูกหมูป่าขนเหล็กวัยเด็กตัวนี้ตามราวี
ตอนนั้นเอง
กระทิงสายฟ้าใช้เขาสีเงินที่ยื่นออกมาอย่างแหลมคมแทงเข้าใส่ร่างของหมูป่าขนเหล็กที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน
ฉึกกก!
“อู๊ดดดด...”
หมูป่าขนเหล็กตัวเล็กที่เพิ่งขัดเกลาจนมีพลังสายเลือดขั้น2ได้ไม่นานกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับรอยทะลุที่เกิดจากช่องว่างในลำตัว
ตุบ..
กระทิงสายฟ้าสะบัดร่างหมูป่าที่ติดอยู่บนเขาของมันออกและเดินจากไปอีกครั้ง
ทิ้งไว้เพียงร่างหมูป่าขนเหล็กที่จมอยู่ในกองเลือด สำหรับเจ้าอสูรขั้น3แล้ว
หมูป่าขนเหล็กวัยเด็กที่พึ่งขัดเกลาสายเลือดมาถึงขั้น2ไม่ใช่สิ่งที่มันควรค่าจะใส่ใจ
ถึงแม้ว่ามันจะบาดเจ็บแต่ช่องว่างของพลังนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเติมเต็มกันง่ายๆ
“จะ..เจ้าหมูป่าขนเหล็กตัวนั้น”
เซี่ยรั่วหรูที่ซ่อนตัวอยู่กับฉินหลิงชี้ไปทางร่างของหมูป่าที่เต็มบาดแผลด้วยท่าทางตื่นตะลึง
“มีอะไรรึ?” ฉินหลิงเอ่ยถามอย่างสงสัย ถึงแม้ว่าเขาจะแปลกใจในการกระทำของหมูป่าขนเหล็กที่ยังไม่โตเต็มวัยที่ดูไม่ค่อยสมเหตุผล
แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าให้ต้องใส่ใจมากนัก
เพราะอย่างไรมันก็เป็นเพียงสัตว์อสูรขั้น2ที่เขาสามารถสังหารได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
“เจ้าจำลูกหมูตัวน้อยที่ข้าเคยอุ้มตอนที่พวกเราพึ่งเข้ามาในอาณาเขตมู่หลงได้รึไม่?.. มันคือเจ้าหมูน้อยตัวนั้น” เซี่ยรั่วหรูเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ
“เจ้ามั่นใจรึว่ามันคือลูกหมูที่เจ้าเคยอุ้มตอนนั้น”
“ใช่...
ข้าจำได้ กลิ่นอายของมันเหมือนกับเจ้าตัวน้อยนั้นเลย พวกเราต้องช่วยมัน” บางทีนี้อาจจะเกิดจากความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจของเซี่ยรั่วหรู
หากตอนนั้นนางไม่ไปจับลูกหมูที่ใสซื่อตัวนั้นเข้า แม่ของมันก็คงไม่ถูกศิษย์พี่ของนางฆ่าตาย
และมันก็ไม่ต้องมาตกระกำลำบากจนเกือบตายต่อหน้านางเช่นนี้
ความคิดเห็น