ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝืนลิขิตฟ้า ท้าสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #272 : ความตายของหมูป่าขนเหล็ก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.69K
      527
      25 ก.พ. 63

    อู๊ดดดดดดดดดดดดด!!

     

    เสียงร้องโหยหวนของหมูป่าขนเหล็กที่โดนค่ายกลผนึกวิญญาณจนไร้เรี่ยวแรงดังกึกก้องราวกับเสียงของฟ้าคำราม ความเจ็บปวดที่มาจากบาดแผลตรงช่องทวารของมันนั้นสาหัสยิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิตที่มันเคยประสบมา

     

    หลังจากมันสามารถขัดเกลาสายเลือดและเปลี่ยนร่างกลายมาเป็นสัตว์อสูรขั้น3ได้อย่างเต็มตัว มันก็ไม่เคยเกรงกลัวอาการบาดเจ็บใดๆอีกเลย จนกระทั้งวันนี้...

     

    หยดเลือดสาดทอที่ออกจากช่องทวารด้านหลังของหมูป่าขนเหล็กกระเด็นไปทั่ว ถึงแม้ผิวหนังภายนอกของมันจะแข็งแกร่งประหนึ่งเหล็กกล้าในตำนานที่ไม่มีทางถูกทำลายได้ แต่อวัยวะภายในของมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งตามไปด้วย

     

    เซี่ยรั่วหรูมองดูชายหนุ่มเบียดร่างเข้าไปในช่องทวารของเจ้าหมูยักษ์ด้วยความหวาดกลัวจับใจ ต้องอาศัยความกล้าเท่าใดกันถึงสามารถบุกฝ่าเข้าไปในช่องทวารของสัตว์อสูรเยี่ยงเขา การกระทำของฉินหลิงประหนึ่งฟ้าผ่ากลางใจหญิงสาวในชุดบุรุษ นางสาบานกับตัวเองแล้วว่าในอนาคตนางจะไม่มีทางยั่วโมโหชายผู้นี้อย่างเด็ดขาด

     

    แทบจะในเวลาเดียวกัน แสงสว่างบนพื้นที่เกิดจากค่ายกลผนึกวิญญาณพลันหายไป

     

    หมูป่าขนเหล็กที่กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดรู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่ค่อยๆกลับคืนมา  ร่างกายใหญ่โตราวกับขุนเขาค่อยๆลุกยืนขึ้น แววตาแดงก่ำด้วยความดุร้ายแทบจะคลุ้มคลั่ง การที่ถูกมนุษย์คนหนึ่งแทรกร่างเข้าไปภายในร่างกายทำให้มันรู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

     

    ทันใดนั้นเอง สัตว์อสูรขั้น3ตัวนี้สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากภายในจนทำให้ร่างของมันสั่นสะท้าน ถึงแม้ร่างกายของมันจะใหญ่โตมโหฬาร แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะให้มนุษย์คนหนึ่งเข้าไปได้

     

    หมูป่าขนเหล็กที่ขึ้นชื่อในด้านการป้องกันวิ่งกระแทกร่างไปยังต้นไม้โดยรอบ มันลากร่างกายซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกทีปะทะกับก้อนหินบ้าง ต้นไม้ใหญ่บ้าง... เพื่อหวังว่าจะขับให้สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายของมันหลุดออกไป

     

    แน่นอนว่าฉินหลิงที่ทะลวงมาถึงภายในร่างของหมูป่ายักษ์ตัวนี้ย่อมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทก แต่เนื่องจากชั้นผิวหนังที่แข็งแกร่งของมันจึงทำให้เขาแทบจะไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะอย่างไรผิวหนังของมันก็ดูดซับแรงกระแทกไว้เป็นส่วนมาก

     

    ขณะเดียวกัน กระบี่ไม้ในมือของฉินหลิงก็ฟันทะลวงผ่านอวัยวะภายในของมันจนโชกไปด้วยเลือด ไม่เพียงแต่เจ้าหมูป่าตัวนี้เท่านั้นที่สามารถฟื้นคืนพลังกลับมาหลังจากค่ายกลผนึกวิญญาณหมดพลังลงไป เขาเองก็สามารถใช้ปราณวิญญาณได้เช่นกัน

     

    และตอนนั้นเองเป็นเวลาที่ฝันร้ายของเจ้าหมูป่าขนเหล็กเริ่มต้นขึ้น...

     

    เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของหมูป่ายักษ์ตัวนี้ดังขึ้นอยู่นานราวหนึ่งก้านธูป ความเจ็บปวดที่ถูกทำลายอวัยวะภายในนั้นทำให้มันต้องทุกข์ทรมานก่อนจะสิ้นใจลงด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม

     

    เซี่ยรั่วหรูวิ่งตามมาเจ้าหมูยักษ์ร่างใหญ่ตัวนี้มาเกือบสามสิบลี้ นางมองร่างไร้วิญญาณของเจ้าอสูรขั้น3ตัวโตด้วยสีหน้าซับซ้อนแฝงไว้ด้วยความรู้สึกสงสาร ถึงแม้สัตว์ร้ายตัวนี้จะนับได้ว่าเป็นศัตรู แต่เสียงกรีดร้องตลอดทางที่ผ่านมาทำให้นางรับรู้ถึงความเจ็บปวดของมัน  ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องทรมานเพียงใดกว่าที่ลมหายใจของมันจะดับลงไป

     

    ในอดีตนางเคยแต่ออกล่าสัตว์อสูรพร้อมกับผู้เป็นพ่อเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่นางได้เห็นการล่าสัตว์อสูรที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก

     

    ทันใดนั้นเอง เซี่ยรั่วหรูนึกขึ้นได้ว่าในร่างของเจ้าอสูรร้ายขั้น3ตัวนี้ยังมีร่างชายหนุ่มอยู่ภายใน..

     

    “เจ้าคนแซ่ฉิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เซี่ยรั่วหรูตะโกนทางซากศพเจ้าหมูป่าขนเหล็กที่พึ่งตายลงไปอย่างกังวล

     

    ผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างของเจ้าหมูยักษ์ตรงหน้ายังคงเงียบสงัดและไร้เสียง สีหน้าของเซี่ยรั่วหรูเปลี่ยนเป็นแตกตื่น หรือว่าชายผู้นั้นจะขาดใจตายตอนอยู่ภายในร่างของเจ้าอสูรร้ายตัวนี้  ถึงแม้ว่าผู้ฝึกตนจะก้าวข้ามขีดกำจัดความเป็นมนุษย์ไปแล้ว แต่พวกเขาก็ต้องหายใจเข้าออก หากว่าต้องอยู่ในพื้นที่ไร้อากาศ แม้แต่ผู้ฝึกตนที่เก่งกาจยังเสี่ยงที่จะสิ้นชีพลงได้เช่นกัน

     

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเซี่ยรั่วหรูถึงเผยอาการวิตกออกมา นอกจากนี้ตลอดระยะทางเกือบสามสิบลี้ เจ้าหมูป่าขนเหล็กตัวนี้ได้วิ่งกระแทกร่างเข้ากับต้นไม้ ก้อนหินมากมาย หากว่าฉินหลิงที่อยู่ภายในจะได้รับบาดเจ็บก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

     

    จู่ๆร่างของหมูป่าขนเหล็กที่เหมือนจะตายแล้วขยับขึ้นอีกครั้ง เซี่ยรั่วหรูที่ยืนอยู่ไม่ห่างตกใจจนกระโดดถอยหลัง มีดในมือชี้ไปทางร่างของเจ้าอสูรร้ายตรงหน้า

     

    คาดไม่ถึงเลยว่าหมูป่าตัวใหญ่ที่สมควรตายไปแล้วจะอ้าปากขึ้นอีกครั้ง เขี้ยวแหลมคมในปากของมันที่เปิดออกมาชวนให้ขนลุก

     

    ทว่าในตอนนั้นเองร่างของฉินหลิงก็คลานออกมาอย่างทุลักทุเล

     

    หลังจากเขาฝืนออกมาจากปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าของเจ้าอสูรร้ายขั้น3ได้ ฉินหลิงก็นอนหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย สีหน้าของเขาอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยแดงที่เกิดจากน้ำย่อยในกระเพาะของเจ้าหมูป่าขนเหล็ก สภาพของเขาเรียกได้ว่าย่ำแย่ถึงขีดสุด

     

    ถึงแม้อวัยวะภายในของหมูป่าขนเหล็กจะนับได้ว่าเป็นจุดอ่อนของมัน แต่ยังไงมันก็นับว่าเป็นอันดับต้นๆของสัตว์อสูรขั้น3ที่ล่าได้ยากลำบาก การที่ทั้งสองคนสามารถรอดชีวิตมาได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์แล้ว...

     

    คงไม่มีใครกล้าคิดว่าผู้ฝึกตนรุ่นใหม่เพียงสองคนที่ไม่มีผู้อาวุโสช่วยเหลือจะร่วมมือกันล่าหมูป่าขนเหล็กได้สำเร็จ

     

    “เจ้าเป็นอะไรมากรึไม่?” เซี่ยรั่วหรูมองดูร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวจากโลหิตด้วยอารมณ์ยุ่งเหยิง หากไม่เพราะนางไปอุ้มลูกหมูน้อยตัวนั้นเข้า เขาคงไม่ต้องมาต่อสู้เสี่ยงตายเช่นนี้

     

    ขณะเดียวกัน ฉินหลิงก็ลืมตามองไปทางหญิงสาวที่ยืนห่างไม่ไกลพร้อมกับลอบถอนหายใจ เขารู้สึกราวกับกำลังใช้หนี้กรรมที่วางแผนร้ายต่อนางที่เมืองไร้อธรรม แต่เมื่อมองไปยังใบหน้างดงามของเซี่ยรั่วหรูที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิด ฉินหลิงก็หมดอารมณ์ที่จะไปตำหนินาง

     

    “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอะไรมาก พักเพียงเล็กน้อยก็กลับเป็นปกติ ว่าแต่เจ้าพอมีน้ำเหลือพอให้ข้าล้างเนื้อล้างตัวบ้างไหม? ” สิ่งที่ฉินหลิงอยากทำมากที่สุดคืออยากชะล้างร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นจากคาวเลือดและเศษเนื้อที่ติดตามตัว หากเขายังเดินทางต่อไปในสภาพเช่นนี้ย่อมต้องดึงดูดนักล่าเข้ามาอีกมากเป็นแน่

     

    “ข้าไม่รู้ว่าท่านอาจารย์จะให้พวกเราเข้ามาในอาณาเขตมู่หลงจึงไม่ได้คิดนำน้ำมามากเท่าไหร่นัก แต่ก็น่าจะพอให้เจ้าชำระล้างกลิ่นโลหิตได้อยู่” เซี่ยรั่วหรูนำถังไม้ที่มีน้ำบรรจุอยู่ออกมาตั้งไว้ข้างหน้าของชายหนุ่ม

     

    เมื่อเห็นถังไม้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำสะอาด ฉินหลิงรู้ได้ทันทีว่ากำไลมิติที่หญิงสาวสวมใส่อยู่มีคุณภาพและพื้นที่จุภายในมากยิ่งกว่าแหวนมิติที่เขาได้มาจากตาเฒ่าหม่า

     

    ฉินหลิงฝืนร่างกายที่อ่อนล้าจากพลังวิญญาณที่แทบจะหมดเกลี้ยงยืนขึ้น เขาถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมชำระล้างร่างกาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาลืมไปแล้วว่าด้านข้างยังมีหญิงสาวอยู่ด้วย

     

    “จะ...เจ้าบ้า  เจ้าจะแก้ผ้าทำไม!” สีหน้าของเซี่ยรั่วหรูแดงกล่ำเพราะความอาย นางคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะถอดเสื้อออกอย่างไม่บอกกล่าว เมื่อชายตามองไปยังกล้ามเนื้อที่รัดแน่นของเขายิ่งทำให้นางเขินอายยิ่งขึ้น

     

    ฉินหลิงคร้านที่จะอธิบาย เขาใช้พลังวิญญาณควบคุมน้ำในถังไม้เพื่อใช้ล้างร่างกายตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำเสื้อผ้าชุดใหม่ในแหวนมิติออกมาสวมใส่

     

    ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในชั่วพริบตา แม้กระทั้งเซี่ยรั่วหรูที่เหลือบมองอยู่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เห็นฉินหลิงสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

     

    “เก็บของแล้วรีบไปกันเถอะ กลิ่นคาวเลือดของหมูป่าขนเหล็กตัวนี้คงดึงดูดสัตว์อสูรเข้ามาอีกมาก พวกเรารีบไปกันก่อนที่ฝูงสัตว์อสูรจะมาถึงดีกว่า” ฉินหลิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยรั่วหรู เขาไม่ได้อับอายกับการต้องแก้ผ้าต่อหน้าหญิงสาวแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับอันตรายอย่างปล่อยให้โลหิตติดอยู่ตามตัวจนดึงดูดสัตว์อสูรเขายอมแก้ผ้าต่อหน้าหญิงสาวตรงหน้าดีกว่า

     

    ท่าทางไม่ยี่หระของฉินหลิงทำให้เซี่ยรั่วหรูรู้สึกขุ่นเคือง ราวกับว่าเขาไม่มองนางเป็นอิสตรีเลยซ้ำ

     

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าองค์หญิงน้อยแห่งสำนักทะยานฟ้าเกิดความไม่พอใจในตัวชายหนุ่ม แต่นางก็ยังรู้สึกเกรงกลัวเขาด้วยเช่นกัน สุดท้ายนางก็เก็บถังไม้ที่เหลือน้ำอยู่ครึ่งหนึ่งเข้าไปในอุปกรณ์มิติและมองไปทางฉินหลิง

     

    “ขนของหมูป่าขนเหล็กสามารถขายได้ราวหินวิญญาณสามหมื่นก้อน ช่างน่าเสียดายจริงๆที่ไม่มีเวลาชำแหละ!” ฉินหลิงมองไปยังร่างไร้วิญญาณของหมูป่าขนเหล็กด้วยสีหน้าเสียดาย แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอที่จะชำแหละสัตว์อสูรขั้น3ได้ แถมยังเสี่ยงต่อถูกสัตว์อสูรลุมล้อมอีกด้วย

     

    “เจ้าหมูตัวใหญ่นี้มีค่าเพียงหินวิญญาณสามหมื่นเท่านั้นรึ?” เซี่ยรั่วหรูพึมพำอย่างสงสัย สำหรับนางที่มีหินวิญญาณนับล้านก้อนในกำไลมิติย่อมไม่ได้ให้ค่าสิ่งของที่มีราคาเพียงไม่กี่หมื่นก้อน

     

    ฉินหลิงส่ายหน้าเบาๆ สำหรับนางที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด หินวิญญาณจำนวนไม่กี่หมื่นก้อนไม่นับว่าเป็นอันใด แต่เหล่าผู้ฝึกตนอิสระหรือกระทั้งศิษย์ของสำนักที่ไม่ได้มีภูมิหลังใหญ่โต พวกเขาต้องต่อสู้เสี่ยงตายเพื่อหินวิญญาณสามหมื่นก้อนที่นางไม่เห็นคุณค่า นี้คงอธิบายคำว่า คุณค่าของเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน ได้เป็นอย่างดี

     

    โฮกกกกกกก!!!

     

    ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของสัตว์อสูรหลายชนิดดังขึ้นจากทั่วทิศทาง

     

    สีหน้าของฉินหลิงเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขารู้ดีว่าอีกไม่นานเหล่าสัตว์อสูรจะมาแย่งชิงซากหมูป่าขนเหล็กตัวนี้อย่างแน่นอน ด้วยสายเลือดขั้น3ของมันคงดึงดูดนักล่าเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก

     

    “รีบไปกันเถอะ หากยังรอช้าอยู่อีกคงถูกฝูงสัตว์อสูรล้อมเข้าอย่างแน่นอน” ฉินหลิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยรั่วหรูก่อนจะวิ่งนำทาง

     

    เสียงคำรามของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนในอาณาเขตมู่หลงนั้นน่าสะเทือนขวัญเกินไป เพียงแค่ต้องเผชิญกับหมูป่าขนเหล็กตัวเดียวพวกเขายังแทบเอาชีวิตไม่รอด หากยังช้าอยู่อีกพวกเขาคงถูกเหล่าสัตว์อสูรกลืนกินเป็นแน่

     

    “เจ้ายังไหวรึไม่?” เซี่ยรั่วหรูสัมผัสได้ถึงความเร็วที่ตกลงไปของฉินหลิง

     

    “อืม...รีบออกจากพื้นที่แถวนี้ก่อนแล้วค่อยหาที่พักฟื้น” ฉินหลิงกัดฟันทน ร่างกายของเขานั้นค่อนข้างบอบช้ำ การถูกแรงกระแทกและน้ำย่อยภายในร่างของหมูป่าขนเหล็กได้สร้างอาการบาดเจ็บเกินกว่าที่เขาคิดไว้  แต่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจากสัตว์อสูรนานาชนิดกำลังใกล้เข้ามา เขาจึงได้แต่ฝืนวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อหวังว่าจะออกให้ห่างจากพื้นที่บริเวณนี้ให้เร็วที่สุด

     

    ผ่านไปสองชั่วยาม

     

    หลังจากฝืนใช้พลังจิตเพื่อสำรวจพื้นที่ด้านหน้าอยู่ตลอด ฉินหลิงจึงพบกับถ้ำที่ปลอดภัย เขาพุ่งไปยังข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดก่อนจะหมดสติและล้มลงหน้าถ้ำ

     

    “ฉินหลิงงง!!” เซี่ยรั่วหรูพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×